หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 918 ผู้เฒ่าหมิงฮั้ว

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 918 ผู้เฒ่าหมิงฮั้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทือกเขากู่ไห

หลังจากการเผชิญหน้าระหว่างมู่เฉินและหลินหมิงทั่วบริเวณก็วินาศสันตะโรไปหมด รอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏบนเทือกเขา ภูเขาหลายลูกพังทลายลงภายใต้การต่อสู้ ทั้งหมดนี้พิสูจน์ได้ว่าศึกที่เกิดขึ้นรุนแรงเพียงใด

แต่โชคดีที่ศึกสะเทือนแผ่นดินสิ้นสุดลง

ทว่าทุกคนรู้ว่าเมื่อการเผชิญหน้าจบลง เรื่องราวในวันนี้ก็จะรุนแรงยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากการเดิมพันที่น่าสะพรึงกลัว

ยาหยุ่นลั้วสี่แสนเม็ด!

แม้แต่ขั้วอำนาจสูงสุดก็แบกรับไม่ไหวกับจำนวนที่น่าตกใจนี้

ในการทำงานหนักมาหลายเดือน นั่นคือจำนวนที่อาณาเขตกงเวทสวรรค์ได้รับทั้งหมด ถ้าพวกเขาต้องมอบสิ่งนี้ให้ก็ลืมเกี่ยวกับเร่องการเปิดขุมทรัพย์ตี้จื้อจุนไปได้เลย การกลับไปที่ฐานคงยังเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดกว่า

ก็เช่นเดียวกับพวกเขา ในฐานะขั้วอำนาจสูงสุดจวนยมโลกก็ไม่ต่างกัน

ดังนั้นเมื่อจอมยุทธ์จวนยมโลก เห็นหลินหมิงถูกมู่เฉินจับไปและยิ่งเมื่อเห็นกองทัพต่างๆ เลื่อนสายตามาจับจ้อง ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นซีดเซียวอย่างไม่สามารถควบคุมได้

ตอนแรกพวกเขาวางแผนจะขุดกับดักอาณาเขตกงเวทสวรรค์ แต่ใครจะคิดว่าตอนท้ายกลับเป็นพวกเขาที่ตกลงไปเอง ส่วนอีกฝ่ายก็กระโดดเหยียบบนหัวพวกเขาก้าวข้ามกับดักไป…

“ทั้งหมดเป็นความผิดของไอ้บ้านั่น!” จอมยุทธ์จวนยมโลกกัดฟันกรอด ขณะที่จ้องมองไปที่มู่เฉิน มู่เฉินเป็นคนทำให้สถานการณ์ทั้งหมดพลิกตาลปัตร ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ฝ่ายที่ตกลงไปในจุดที่ยากลำบากก็ต้องเป็นอาณาเขตกงเวทสวรรค์

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเกลียดชังมู่เฉินขนาดไหน สถานการณ์ก็พุ่งมาทางนี้แล้ว พวกเขาต้องถมหลุมพรางนี่ซะ

“ในฐานะขั้วอำนาจสูงสุด ข้าเชื่อว่าจวนยมโลกคงจะไม่ทำผิดสัญญาใช่ไหม?” ขณะที่สายตาของเทียนเสียเปลี่ยนแปลง มู่เฉินก็ยิ้มบางพร้อมกับพูด

“หุบปาก!”

เทียนเสียจ้องมองอย่างโหดเหี้ยมไปที่มู่เฉิน ความโกรธพล่านอยู่เต็มหัวใจ ตอนนี้เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่ามู่เฉินพยายามที่จะพูดสรรเสริญจนกลายเป็นเสียเปรียบ

“เทียนเสีย เจ้าเป็นจอมยุทธ์ที่มีชื่อเสียงของทวีปเทียนหลัว ในเมื่อสูญเสียการเดิมพัน ก็ควรแสดงวิสัยทัศน์หน่อยนะ แต่แน่นอนว่าถ้าพวกเจ้าต้องการกลืนน้ำลายตัวเอง อาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็จะตามจองล้างจองผลาญไปจนจบเลย” ซิวหลัวกล่าวเสียงเย็น

เทียนเสียขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไฟการต่อสู้ปรากฏขึ้นในดวงตา ที่ด้านหลังจอมยุทธ์จวนยมโลกก็ไม่มีใครกล้าพูด ยามนี้ทุกสายตาจ้องมองมายังที่นี่เป็นตาเดียว คนเหล่านี้ต้องการเห็นว่าพวกเขาจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร

ความเงียบที่ทำให้หายใจไม่ออกยังคงดำเนินต่อไปนาน ก่อนที่เทียนเสียจะถอนหายใจยาวเหยียด เมื่อเห็นการแสดงออกของเขา ทุกคนก็ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ตัดสินจากท่าทีแล้วจวนยมโลกคิดจะส่งมอบยาหยุ่นลั้วไปเหรอ?

ทว่าขณะที่ทุกสายตาจ้องมองไป แล้วเทียนเสียกำลังจะเปิดปากพูด เสียงแค่นสูงวัยเยือกเย็นก็เปล่งออกมาราวกับฟ้าร้องกึกก้องโดยไม่มีที่มา สะท้อนออกไปในมิตินี้

แม้แต่ฟ้าดินยังสั่นไหวจากเสียงเยือกเย็นนั่น

ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปรุนแรง นั่นเพราะพวกเขาตระหนักว่ามีแรงกดขี่ทรงพลังห้อมล้อมรอบพื้นที่นี้ไว้

ขณะที่สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป มิติด้านบนของจวนยมโลกก็บิดเบี้ยว ร่างสูงวัยเยื้องย่างออกมา

ชายชราคนนี้หลังค่อม สวมเสื้อคลุมสีดำ ผมสีเทาดอกเลา ดวงตาที่ดูขุ่นมัวกลับกะพริบด้วยประกายแสงที่สามารถฉีกผ่านมิติได้ เขาถือไม้เท้าหัวกะโหลก ยืนอยู่บนท้องฟ้า แรงกดดันที่ทำเอาทุกคนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากบนสีหน้าแผ่ออกมาจากตัวเขา

“ผู้อาวุโสหมิง?!!!” เมื่อเทียนเสียและจอมยุทธ์ของจวนยมโลกเห็นชายชราสวมชุดดำ ความสุขก็กระจายบนใบหน้าทันควัน

“นั่นมันหนึ่งในสามผู้อาวุโสของจวนยมโลก ผู้เฒ่าหมิงฮั้ว!” ใบหน้าซิวหลัวเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด เขาไม่คิดว่าหมิงฮั้วจะมาปรากฏตัวที่นี่

“ผู้เฒ่าหมิงฮั้ว?” มู่เฉินอึ้งไปก่อนที่คิ้วจะขมวดแน่น สามผู้อาวุโสของจวนยมโลกเทียบเท่ากับสามจอมพลของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของพวกเขา ทว่าจอมยุทธ์ชั้นสูงแบบนี้ควรอยู่ในส่วนลึกของสมรภูมิหยุ่นลั้วไม่ใช่หรือ? ทำไมจู่ๆ ถึงมาที่นี่?!

“ระวังตัว ตาเฒ่าหมิงฮั้วเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นแปด เขาทรงพลังมาก” ซิวหลัวร่างตึงเครียด ขณะจ้องมองไปทางชายชราสวมชุดสีดำด้วยความระมัดระวัง ในเวลาเดียวกันเขาก็ก้าวออกไปบังมู่เฉินไว้ที่ด้านหลัง ป้องกันตาเฒ่าหมิงฮั้วที่อาจซัดโจมตีใส่มู่เฉิน

“ระดับจื้อจุนขั้นแปดเรอะ?” หัวใจของมู่เฉินตื่นตะลึง จอมยุทธ์ดังกล่าวอยู่เกือบก้าวสุดท้ายของระดับจื้อจุน ด้วยพลังในปัจจุบันของเขา แม้จะบวกพลังรัศมีจั้นยี่เข้ามาด้วย ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ระดับนี้

ทุกคนมองไปที่หมิงฮั้วด้วยสายตาประหลาดใจ โดยทั่วไปคนระดับนี้ไม่ควรปรากฏที่นี่ แต่ทำไมคนจากจวนยมโลกถึงมาที่นี่ล่ะ?

“คารวะท่านผู้อาวุโส!”

เหล่าจอมยุทธ์จวนยมโลกคารวะทักทาย

“หึ ไอ้พวกไร้ประโยชน์ ถ้าพวกเจ้ามอบยาหยุ่นลั้วไป ตาแก่คนนี้จะดูสิว่าพวกเจ้าจะอธิบายให้ท่านประมุขฟังยังไง!” หมิงฮั้วกวาดสายตาเย็นชาไปยังเทียนเสีย ความกดดันที่สาดออกมาจากดวงตาทำให้คนเห็นตัวสั่น

“ผู้อาวุโสหมิงฮั้ว เรื่องนี้…” เทียนเสียยิ้มขมขื่น ตอนแรกพวกเขามั่นใจอย่างที่สุดกับหลินหมิง แต่ใครจะคิดว่ามีตัวโหดอย่างมู่เฉินปรากฏตัวในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ กระทั่งหลินหมิงยังสู้ไม่ได้ ดังนั้นสถานการณ์จึงกลับตาลปัตรจากศึกที่มาดหมายไว้อย่างมั่นใจ

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า” หมิงฮั้วพูดอย่างเย็นชา เมื่อเทียนเสียได้ยินก็รู้สึกโล่งใจมาก เพราะเขาไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้มานานแล้ว

เมื่อหมิงฮั้วพูดเสร็จ เขาก็กวาดสายตาไปที่มู่เฉิน ซิวหลัวและคนอื่นๆ ขณะที่แค่นเสียงขึ้นจมูก “อาณาเขตกงเวทสวรรค์ช่างกล้าหาญจริงๆ ที่คิดวางแผนปล้นจวนยมโลกของข้า”

ซิวหลัวตอบเสียงเบาว่า “ผู้เฒ่าหมิงฮั้วพูดเรื่องอะไร? การเผชิญหน้ากันครั้งนี้ทุกคนเป็นประจักษ์พยาน การเดิมพันระบุไว้อย่างชัดเจน หากท่านไม่ใส่ใจเกี่ยวกับชื่อเสียงของจวนยมโลกที่จะถูกทำลายก็ตามสบาย”

“จุ๊ๆ ชื่อเสียงเสียหาย?” หมิงฮั้วเค้นเสียงเย็น “การเดิมพันครั้งนี้เกิดจากไอ้โง่หลินหมิงคนเดียว จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่ตัวเล็กๆ จะสามารถเป็นตัวแทนจวนยมโลกได้ยังไง?”

“ดังนั้นแม้ว่ามันจะแพ้ก็เป็นความผิดของมัน หากพวกเจ้าต้องการยาหยุ่นลั้วก็ไปเอาที่มันล่ะกัน”

เมื่อหมิงฮั้วพูดจบ ใบหน้าของเหล่าผู้บัญชาการอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็น่าเกลียดไป ชายชราคนนี้ไร้ยางอายจริงๆ คิดจะผลักความผิดทั้งหมดไปให้หลินหมิง

“โอ้? ถ้างั้นลองปลุกหลินหมิงขึ้นและถามว่าเขาได้รับการยอมรับจากพวกตำแหน่งสูงจากจวนยมโลกหรือไม่?” มู่เฉินยิ้มขณะที่ยกหลินหมิงที่หมดสติ

“ถ้าเจ้าคิดว่าหลินหมิงไม่มีคุณสมบัติพอจะเป็นตัวแทนของจวนยมโลก งั้นพวกตำแหน่งสูงของจวนยมโลกก็ไม่มีคุณสมบัติเหมือนกันถูกไหม?”

ใบหน้าของเทียนเสียและคนที่เหลือเปลี่ยนไป

หมิงฮั้วมองไปที่มู่เฉินอย่างเย็นชา “ไอ้เด็กเหลือขออย่างแกมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับข้า? ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริงๆ!”

เมื่อหมิงฮั้วพูดจบ ร่างก็หายไปจากขอบฟ้าอย่างลึกลับ

ใบหน้าของซิวหลัวเปลี่ยนไป ก่อนที่จะผลักฝ่ามือไปที่หน้าอกมู่เฉิน คลื่นหลิงพวยพุ่งส่งร่างมู่เฉินกระเด็นออกไป

จังหวะที่ร่างมู่เฉินพัดหายไป พื้นที่ที่เขายืนอยู่ตอนแรกก็ถูกบดขยี้ด้วยมือที่ไม่มีรูปร่างขนาดใหญ่ ทำให้กระทั่งมิติยังถึงกับแตกสลาย

ตรงจุดที่พื้นที่ถูกทำลายร่างของหมิงฮั้วก็ปรากฏขึ้น เมื่อเห็นว่าการโจมตีของตนพลาดเป้าไป แสงเย็นเยือกในดวงตาก็ยิ่งเข้มข้น นิ้วสองนิ้วเสือกแทงออกไป ทำให้มิติกระเพื่อมไหวแสงสีดำพุ่งกวาดออกมา

เมื่อแสงสีดำปรากฏก็ทำเอามู่เฉินขนลุกชัน เขาดึงร่างหลินหมิงมาที่เบื้องหน้าราวกับเป็นเกราะป้องกันโดยไม่ลังเล

บึ้ม!

แสงสีดำกวาดผ่านมิติ สมองของหลินหมิงก็ระเบิดตูม เลือดสดสาดกระเซ็นทุกทิศทาง

มู่เฉินสะบัดมือกำจัดเลือดที่ลอยมาในทิศทางของตน จากนั้นก็มองศพไร้หัวในมือด้วยท่าทางน่าเกลียด ตอนนี้หลินหมิงตายเรียบร้อยแล้ว

ฟิ้ว!

ที่ด้านหลังจิ่วโยวและเหล่าผู้บัญชาการคนอื่นก็ทะยานออกมาปกป้องมู่เฉิน สายตามองผู้เฒ่าหมิงฮั้วด้วยความระมัดระวัง

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันทำให้กองทัพอื่นๆ ตื่นตกใจ เมื่อพวกเขาฟื้นจากอาการ หลินหมิงก็ถูกฆ่าตายเรียบร้อย นี่ทำให้เปลือกตาพวกเขากระตุกอย่างรุนแรง

เพราะทุกคนบอกได้เลยว่ามู่เฉินไม่ใช่คนที่หมิงฮั้วต้องการฆ่า แต่เป็นหมินหมิงที่ถูกจับตัวไว้ต่างหาก

“ผู้เฒ่าหมิงฮั้วเหี้ยมจริงๆ” ซิวหลัวที่มองฉากนี้พูดด้วยเสียงเคร่งขรึม ด้วยวิธีนี้อีกฝ่ายก็สามารถผลักความผิดทั้งหมดไปยังหลินหมิงได้

หมิงฮั้วมองศพไร้หัวพูดว่า “มันก็แค่คนโง่ที่คิดว่าสามารถทำได้ เพียงเพราะตัวเองบรรลุการเป็นจั้นเจิ้นซือ สงครามล่าครั้งนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของจวนยมโลก ดังนั้นแม้ว่าพวกข้าจะสูญเสียวั่นเหวินจั้นเจิ้นซือก็ช่างเถอะ…”

แม้ว่าจั้นเจิ้นซือจะได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีในจวนยมโลก แต่ราคาก็ไม่คุ้มกับยาหยุ่นลั้วสี่แสนเม็ดในสายตาของหมิงฮั้ว

เมื่อทุกคนเห็นฉากนี้ หัวใจก็ดิ่งลง วิธีการของหมิงฮั้วไร้ปรานีแท้จริง

“การเดิมพันนี้เริ่มต้นจากหลินหมิง ดังนั้นหากพวกแกต้องการยาหยุ่นลั้วก็ไปเอาที่มันล่ะกัน”

หมิงฮั้วหยุดชั่วครู่แล้วมองไปที่มู่เฉินและเหล่าผู้บัญชาการคนอื่นๆ ของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ “ตอนนี้ถึงตาข้าในการคิดดอกที่พวกแกทำให้จั้นเจิ้นซือของจวนยมโลกตาย!”

เมื่อพูดจบเขาก็ยกมือขึ้น เสียงเย็นดังก้อง “ฆ่าผู้บัญชาการปิงเหอซะ ฝังมันไว้เป็นเพื่อนหลินหมิง!”

เมื่อเทียนเสียและคนอื่นๆ ได้ยินคำสั่ง จิตสังหารก็พวยพุ่งในดวงตา ก่อนที่ร่างจะขยับเข้าหาปิงเหอ เขากดมือลงบนหน้าผากอีกฝ่าย เร้าคลื่นพลังเพิ่มขึ้นเพื่อบดขยี้

เมื่อพวกมู่เฉินเห็นภาพนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็เขียวคล้ำ

“ฆ่ามัน!” หมิงฮั้วพูดเสียงเยือกเย็น

“รับทราบ!” เทียนเสียรับคำสั่ง ก่อนที่จะตบออกไปพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย

ทว่าขณะที่ฝ่ามือเทียนเสียกำลังจะตบลงที่หน้าผากของปิงเหอ ร่างเขาก็แข็งทื่อ เสียงหัวเราะมากวัยดังก้อง

“ไอ้เฒ่าหมิงฮั้ว ไอ้แก่หนังเหนียว คิดกลั่นแกล้งเด็กๆ เรอะ แต่เมื่อข้ามาที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกแกจะฆ่าใครจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของข้า”

เมื่อเสียงมากวัยดังก้อง ทุกคนก็มองเห็นมิติผันผวนเล็กน้อยที่ด้านหลังเทียนเสีย ร่างชายชราคนหนึ่งปรากฏขึ้น ขณะที่มือเขาคว้าห้วงมิติ คลื่นหลิงน่าสะพรึงกลัวห่อหุ้มรอบตัว ทำให้พื้นที่รอบด้านแข็งค้าง เทียนเสียไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ฝ่ามือที่กำลังจะกระแทกหน้าผากปิงเหอก็ชะงักค้าง

เมื่อมู่เฉิน จิ่วโยว เหล่าผู้บัญชาการเห็นร่างเงาชายชรา ความสุขก็เผยขึ้นในดวงตา นั่นเป็นเพราะคนที่ปรากฏก็คือหนึ่งในสามของจอมพลแห่งอาณาเขตกงเวทสวรรค์

จอมพลเทียนจิ้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 918 ผู้เฒ่าหมิงฮั้ว

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 918 ผู้เฒ่าหมิงฮั้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 918 ผู้เฒ่าหมิงฮั้ว

เทือกเขากู่ไห

หลังจากการเผชิญหน้าระหว่างมู่เฉินและหลินหมิงทั่วบริเวณก็วินาศสันตะโรไปหมด รอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏบนเทือกเขา ภูเขาหลายลูกพังทลายลงภายใต้การต่อสู้ ทั้งหมดนี้พิสูจน์ได้ว่าศึกที่เกิดขึ้นรุนแรงเพียงใด

แต่โชคดีที่ศึกสะเทือนแผ่นดินสิ้นสุดลง

ทว่าทุกคนรู้ว่าเมื่อการเผชิญหน้าจบลง เรื่องราวในวันนี้ก็จะรุนแรงยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากการเดิมพันที่น่าสะพรึงกลัว

ยาหยุ่นลั้วสี่แสนเม็ด!

แม้แต่ขั้วอำนาจสูงสุดก็แบกรับไม่ไหวกับจำนวนที่น่าตกใจนี้

ในการทำงานหนักมาหลายเดือน นั่นคือจำนวนที่อาณาเขตกงเวทสวรรค์ได้รับทั้งหมด ถ้าพวกเขาต้องมอบสิ่งนี้ให้ก็ลืมเกี่ยวกับเร่องการเปิดขุมทรัพย์ตี้จื้อจุนไปได้เลย การกลับไปที่ฐานคงยังเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดกว่า

ก็เช่นเดียวกับพวกเขา ในฐานะขั้วอำนาจสูงสุดจวนยมโลกก็ไม่ต่างกัน

ดังนั้นเมื่อจอมยุทธ์จวนยมโลก เห็นหลินหมิงถูกมู่เฉินจับไปและยิ่งเมื่อเห็นกองทัพต่างๆ เลื่อนสายตามาจับจ้อง ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นซีดเซียวอย่างไม่สามารถควบคุมได้

ตอนแรกพวกเขาวางแผนจะขุดกับดักอาณาเขตกงเวทสวรรค์ แต่ใครจะคิดว่าตอนท้ายกลับเป็นพวกเขาที่ตกลงไปเอง ส่วนอีกฝ่ายก็กระโดดเหยียบบนหัวพวกเขาก้าวข้ามกับดักไป…

“ทั้งหมดเป็นความผิดของไอ้บ้านั่น!” จอมยุทธ์จวนยมโลกกัดฟันกรอด ขณะที่จ้องมองไปที่มู่เฉิน มู่เฉินเป็นคนทำให้สถานการณ์ทั้งหมดพลิกตาลปัตร ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ฝ่ายที่ตกลงไปในจุดที่ยากลำบากก็ต้องเป็นอาณาเขตกงเวทสวรรค์

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเกลียดชังมู่เฉินขนาดไหน สถานการณ์ก็พุ่งมาทางนี้แล้ว พวกเขาต้องถมหลุมพรางนี่ซะ

“ในฐานะขั้วอำนาจสูงสุด ข้าเชื่อว่าจวนยมโลกคงจะไม่ทำผิดสัญญาใช่ไหม?” ขณะที่สายตาของเทียนเสียเปลี่ยนแปลง มู่เฉินก็ยิ้มบางพร้อมกับพูด

“หุบปาก!”

เทียนเสียจ้องมองอย่างโหดเหี้ยมไปที่มู่เฉิน ความโกรธพล่านอยู่เต็มหัวใจ ตอนนี้เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่ามู่เฉินพยายามที่จะพูดสรรเสริญจนกลายเป็นเสียเปรียบ

“เทียนเสีย เจ้าเป็นจอมยุทธ์ที่มีชื่อเสียงของทวีปเทียนหลัว ในเมื่อสูญเสียการเดิมพัน ก็ควรแสดงวิสัยทัศน์หน่อยนะ แต่แน่นอนว่าถ้าพวกเจ้าต้องการกลืนน้ำลายตัวเอง อาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็จะตามจองล้างจองผลาญไปจนจบเลย” ซิวหลัวกล่าวเสียงเย็น

เทียนเสียขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไฟการต่อสู้ปรากฏขึ้นในดวงตา ที่ด้านหลังจอมยุทธ์จวนยมโลกก็ไม่มีใครกล้าพูด ยามนี้ทุกสายตาจ้องมองมายังที่นี่เป็นตาเดียว คนเหล่านี้ต้องการเห็นว่าพวกเขาจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร

ความเงียบที่ทำให้หายใจไม่ออกยังคงดำเนินต่อไปนาน ก่อนที่เทียนเสียจะถอนหายใจยาวเหยียด เมื่อเห็นการแสดงออกของเขา ทุกคนก็ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ตัดสินจากท่าทีแล้วจวนยมโลกคิดจะส่งมอบยาหยุ่นลั้วไปเหรอ?

ทว่าขณะที่ทุกสายตาจ้องมองไป แล้วเทียนเสียกำลังจะเปิดปากพูด เสียงแค่นสูงวัยเยือกเย็นก็เปล่งออกมาราวกับฟ้าร้องกึกก้องโดยไม่มีที่มา สะท้อนออกไปในมิตินี้

แม้แต่ฟ้าดินยังสั่นไหวจากเสียงเยือกเย็นนั่น

ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปรุนแรง นั่นเพราะพวกเขาตระหนักว่ามีแรงกดขี่ทรงพลังห้อมล้อมรอบพื้นที่นี้ไว้

ขณะที่สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป มิติด้านบนของจวนยมโลกก็บิดเบี้ยว ร่างสูงวัยเยื้องย่างออกมา

ชายชราคนนี้หลังค่อม สวมเสื้อคลุมสีดำ ผมสีเทาดอกเลา ดวงตาที่ดูขุ่นมัวกลับกะพริบด้วยประกายแสงที่สามารถฉีกผ่านมิติได้ เขาถือไม้เท้าหัวกะโหลก ยืนอยู่บนท้องฟ้า แรงกดดันที่ทำเอาทุกคนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากบนสีหน้าแผ่ออกมาจากตัวเขา

“ผู้อาวุโสหมิง?!!!” เมื่อเทียนเสียและจอมยุทธ์ของจวนยมโลกเห็นชายชราสวมชุดดำ ความสุขก็กระจายบนใบหน้าทันควัน

“นั่นมันหนึ่งในสามผู้อาวุโสของจวนยมโลก ผู้เฒ่าหมิงฮั้ว!” ใบหน้าซิวหลัวเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด เขาไม่คิดว่าหมิงฮั้วจะมาปรากฏตัวที่นี่

“ผู้เฒ่าหมิงฮั้ว?” มู่เฉินอึ้งไปก่อนที่คิ้วจะขมวดแน่น สามผู้อาวุโสของจวนยมโลกเทียบเท่ากับสามจอมพลของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของพวกเขา ทว่าจอมยุทธ์ชั้นสูงแบบนี้ควรอยู่ในส่วนลึกของสมรภูมิหยุ่นลั้วไม่ใช่หรือ? ทำไมจู่ๆ ถึงมาที่นี่?!

“ระวังตัว ตาเฒ่าหมิงฮั้วเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นแปด เขาทรงพลังมาก” ซิวหลัวร่างตึงเครียด ขณะจ้องมองไปทางชายชราสวมชุดสีดำด้วยความระมัดระวัง ในเวลาเดียวกันเขาก็ก้าวออกไปบังมู่เฉินไว้ที่ด้านหลัง ป้องกันตาเฒ่าหมิงฮั้วที่อาจซัดโจมตีใส่มู่เฉิน

“ระดับจื้อจุนขั้นแปดเรอะ?” หัวใจของมู่เฉินตื่นตะลึง จอมยุทธ์ดังกล่าวอยู่เกือบก้าวสุดท้ายของระดับจื้อจุน ด้วยพลังในปัจจุบันของเขา แม้จะบวกพลังรัศมีจั้นยี่เข้ามาด้วย ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ระดับนี้

ทุกคนมองไปที่หมิงฮั้วด้วยสายตาประหลาดใจ โดยทั่วไปคนระดับนี้ไม่ควรปรากฏที่นี่ แต่ทำไมคนจากจวนยมโลกถึงมาที่นี่ล่ะ?

“คารวะท่านผู้อาวุโส!”

เหล่าจอมยุทธ์จวนยมโลกคารวะทักทาย

“หึ ไอ้พวกไร้ประโยชน์ ถ้าพวกเจ้ามอบยาหยุ่นลั้วไป ตาแก่คนนี้จะดูสิว่าพวกเจ้าจะอธิบายให้ท่านประมุขฟังยังไง!” หมิงฮั้วกวาดสายตาเย็นชาไปยังเทียนเสีย ความกดดันที่สาดออกมาจากดวงตาทำให้คนเห็นตัวสั่น

“ผู้อาวุโสหมิงฮั้ว เรื่องนี้…” เทียนเสียยิ้มขมขื่น ตอนแรกพวกเขามั่นใจอย่างที่สุดกับหลินหมิง แต่ใครจะคิดว่ามีตัวโหดอย่างมู่เฉินปรากฏตัวในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ กระทั่งหลินหมิงยังสู้ไม่ได้ ดังนั้นสถานการณ์จึงกลับตาลปัตรจากศึกที่มาดหมายไว้อย่างมั่นใจ

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า” หมิงฮั้วพูดอย่างเย็นชา เมื่อเทียนเสียได้ยินก็รู้สึกโล่งใจมาก เพราะเขาไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้มานานแล้ว

เมื่อหมิงฮั้วพูดเสร็จ เขาก็กวาดสายตาไปที่มู่เฉิน ซิวหลัวและคนอื่นๆ ขณะที่แค่นเสียงขึ้นจมูก “อาณาเขตกงเวทสวรรค์ช่างกล้าหาญจริงๆ ที่คิดวางแผนปล้นจวนยมโลกของข้า”

ซิวหลัวตอบเสียงเบาว่า “ผู้เฒ่าหมิงฮั้วพูดเรื่องอะไร? การเผชิญหน้ากันครั้งนี้ทุกคนเป็นประจักษ์พยาน การเดิมพันระบุไว้อย่างชัดเจน หากท่านไม่ใส่ใจเกี่ยวกับชื่อเสียงของจวนยมโลกที่จะถูกทำลายก็ตามสบาย”

“จุ๊ๆ ชื่อเสียงเสียหาย?” หมิงฮั้วเค้นเสียงเย็น “การเดิมพันครั้งนี้เกิดจากไอ้โง่หลินหมิงคนเดียว จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่ตัวเล็กๆ จะสามารถเป็นตัวแทนจวนยมโลกได้ยังไง?”

“ดังนั้นแม้ว่ามันจะแพ้ก็เป็นความผิดของมัน หากพวกเจ้าต้องการยาหยุ่นลั้วก็ไปเอาที่มันล่ะกัน”

เมื่อหมิงฮั้วพูดจบ ใบหน้าของเหล่าผู้บัญชาการอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็น่าเกลียดไป ชายชราคนนี้ไร้ยางอายจริงๆ คิดจะผลักความผิดทั้งหมดไปให้หลินหมิง

“โอ้? ถ้างั้นลองปลุกหลินหมิงขึ้นและถามว่าเขาได้รับการยอมรับจากพวกตำแหน่งสูงจากจวนยมโลกหรือไม่?” มู่เฉินยิ้มขณะที่ยกหลินหมิงที่หมดสติ

“ถ้าเจ้าคิดว่าหลินหมิงไม่มีคุณสมบัติพอจะเป็นตัวแทนของจวนยมโลก งั้นพวกตำแหน่งสูงของจวนยมโลกก็ไม่มีคุณสมบัติเหมือนกันถูกไหม?”

ใบหน้าของเทียนเสียและคนที่เหลือเปลี่ยนไป

หมิงฮั้วมองไปที่มู่เฉินอย่างเย็นชา “ไอ้เด็กเหลือขออย่างแกมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับข้า? ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริงๆ!”

เมื่อหมิงฮั้วพูดจบ ร่างก็หายไปจากขอบฟ้าอย่างลึกลับ

ใบหน้าของซิวหลัวเปลี่ยนไป ก่อนที่จะผลักฝ่ามือไปที่หน้าอกมู่เฉิน คลื่นหลิงพวยพุ่งส่งร่างมู่เฉินกระเด็นออกไป

จังหวะที่ร่างมู่เฉินพัดหายไป พื้นที่ที่เขายืนอยู่ตอนแรกก็ถูกบดขยี้ด้วยมือที่ไม่มีรูปร่างขนาดใหญ่ ทำให้กระทั่งมิติยังถึงกับแตกสลาย

ตรงจุดที่พื้นที่ถูกทำลายร่างของหมิงฮั้วก็ปรากฏขึ้น เมื่อเห็นว่าการโจมตีของตนพลาดเป้าไป แสงเย็นเยือกในดวงตาก็ยิ่งเข้มข้น นิ้วสองนิ้วเสือกแทงออกไป ทำให้มิติกระเพื่อมไหวแสงสีดำพุ่งกวาดออกมา

เมื่อแสงสีดำปรากฏก็ทำเอามู่เฉินขนลุกชัน เขาดึงร่างหลินหมิงมาที่เบื้องหน้าราวกับเป็นเกราะป้องกันโดยไม่ลังเล

บึ้ม!

แสงสีดำกวาดผ่านมิติ สมองของหลินหมิงก็ระเบิดตูม เลือดสดสาดกระเซ็นทุกทิศทาง

มู่เฉินสะบัดมือกำจัดเลือดที่ลอยมาในทิศทางของตน จากนั้นก็มองศพไร้หัวในมือด้วยท่าทางน่าเกลียด ตอนนี้หลินหมิงตายเรียบร้อยแล้ว

ฟิ้ว!

ที่ด้านหลังจิ่วโยวและเหล่าผู้บัญชาการคนอื่นก็ทะยานออกมาปกป้องมู่เฉิน สายตามองผู้เฒ่าหมิงฮั้วด้วยความระมัดระวัง

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันทำให้กองทัพอื่นๆ ตื่นตกใจ เมื่อพวกเขาฟื้นจากอาการ หลินหมิงก็ถูกฆ่าตายเรียบร้อย นี่ทำให้เปลือกตาพวกเขากระตุกอย่างรุนแรง

เพราะทุกคนบอกได้เลยว่ามู่เฉินไม่ใช่คนที่หมิงฮั้วต้องการฆ่า แต่เป็นหมินหมิงที่ถูกจับตัวไว้ต่างหาก

“ผู้เฒ่าหมิงฮั้วเหี้ยมจริงๆ” ซิวหลัวที่มองฉากนี้พูดด้วยเสียงเคร่งขรึม ด้วยวิธีนี้อีกฝ่ายก็สามารถผลักความผิดทั้งหมดไปยังหลินหมิงได้

หมิงฮั้วมองศพไร้หัวพูดว่า “มันก็แค่คนโง่ที่คิดว่าสามารถทำได้ เพียงเพราะตัวเองบรรลุการเป็นจั้นเจิ้นซือ สงครามล่าครั้งนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของจวนยมโลก ดังนั้นแม้ว่าพวกข้าจะสูญเสียวั่นเหวินจั้นเจิ้นซือก็ช่างเถอะ…”

แม้ว่าจั้นเจิ้นซือจะได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีในจวนยมโลก แต่ราคาก็ไม่คุ้มกับยาหยุ่นลั้วสี่แสนเม็ดในสายตาของหมิงฮั้ว

เมื่อทุกคนเห็นฉากนี้ หัวใจก็ดิ่งลง วิธีการของหมิงฮั้วไร้ปรานีแท้จริง

“การเดิมพันนี้เริ่มต้นจากหลินหมิง ดังนั้นหากพวกแกต้องการยาหยุ่นลั้วก็ไปเอาที่มันล่ะกัน”

หมิงฮั้วหยุดชั่วครู่แล้วมองไปที่มู่เฉินและเหล่าผู้บัญชาการคนอื่นๆ ของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ “ตอนนี้ถึงตาข้าในการคิดดอกที่พวกแกทำให้จั้นเจิ้นซือของจวนยมโลกตาย!”

เมื่อพูดจบเขาก็ยกมือขึ้น เสียงเย็นดังก้อง “ฆ่าผู้บัญชาการปิงเหอซะ ฝังมันไว้เป็นเพื่อนหลินหมิง!”

เมื่อเทียนเสียและคนอื่นๆ ได้ยินคำสั่ง จิตสังหารก็พวยพุ่งในดวงตา ก่อนที่ร่างจะขยับเข้าหาปิงเหอ เขากดมือลงบนหน้าผากอีกฝ่าย เร้าคลื่นพลังเพิ่มขึ้นเพื่อบดขยี้

เมื่อพวกมู่เฉินเห็นภาพนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็เขียวคล้ำ

“ฆ่ามัน!” หมิงฮั้วพูดเสียงเยือกเย็น

“รับทราบ!” เทียนเสียรับคำสั่ง ก่อนที่จะตบออกไปพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย

ทว่าขณะที่ฝ่ามือเทียนเสียกำลังจะตบลงที่หน้าผากของปิงเหอ ร่างเขาก็แข็งทื่อ เสียงหัวเราะมากวัยดังก้อง

“ไอ้เฒ่าหมิงฮั้ว ไอ้แก่หนังเหนียว คิดกลั่นแกล้งเด็กๆ เรอะ แต่เมื่อข้ามาที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกแกจะฆ่าใครจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของข้า”

เมื่อเสียงมากวัยดังก้อง ทุกคนก็มองเห็นมิติผันผวนเล็กน้อยที่ด้านหลังเทียนเสีย ร่างชายชราคนหนึ่งปรากฏขึ้น ขณะที่มือเขาคว้าห้วงมิติ คลื่นหลิงน่าสะพรึงกลัวห่อหุ้มรอบตัว ทำให้พื้นที่รอบด้านแข็งค้าง เทียนเสียไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ฝ่ามือที่กำลังจะกระแทกหน้าผากปิงเหอก็ชะงักค้าง

เมื่อมู่เฉิน จิ่วโยว เหล่าผู้บัญชาการเห็นร่างเงาชายชรา ความสุขก็เผยขึ้นในดวงตา นั่นเป็นเพราะคนที่ปรากฏก็คือหนึ่งในสามของจอมพลแห่งอาณาเขตกงเวทสวรรค์

จอมพลเทียนจิ้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+