หมอดูยอดอัจฉริยะ 370 ค่าตอบแทน (2)

Now you are reading หมอดูยอดอัจฉริยะ Chapter 370 ค่าตอบแทน (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 370 ค่าตอบแทน (2)

กลุ่มบริษัทหวาเม่าเป็นกลุ่มบริษัทที่มีขนาดใหญ่ จัดอยู่ในอันดับที่สี่ของฮ่องกง ที่ครอบคลุมเครือข่ายธุรกิจหลายอย่างรวมกัน นอกจากอสังหาริมทรัพย์แล้วยังมี การเงิน การจัดการทรัพย์สิน ความบันเทิง อาหารและเครื่องดื่ม

จากการสำรวจการตลาดในฮ่องกงเมื่อปีที่แล้วประมาณการคร่าว ๆ ตอนนี้มูลค่าการตลาดของกลุ่มหวาเม่าอยู่ที่ประมาณแปดหมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนและผู้คุมหางเสือของกลุ่มหวาเม่า กงเสียวเสี่ยวถือหุ้นของตัวเองสี่สิบเปอร์เซ็นต์

หุ้นเพียงสี่สิบเปอร์เซ็นต์นี้ ยังแสดงถึงความมั่งคั่งถึงสามหมื่นล้าน ดังนั้นที่กงเสียวเสี่ยวมอบหุ้นร้อยละหนึ่งเปอร์เซ็นต์ให้เยี่ยเทียน ถ้าเกิดว่าตลาดหุ้นไม่มีการหดตัว นั่นก็เท่ากับว่าได้แปดร้อยล้านดอลลาร์ฮ่องกงเต็ม ๆ

และอีกอย่างกลุ่มหวาเม่ามีแนวโน้มในการพัฒนาไปในทางที่ดีและน่าพอใจ มูลค่าการตลาดมีแนวโนมเพิ่มขึ้นทุกปี ตอนนี้ร้อยละหนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่ากับแปดร้อยล้าน บางทีเมื่อถึงปีหน้าก็อาจจะกลายเป็นพันล้านก็ได้

ถังเหวินหย่วนและพวกมหาเศรษฐีในฮ่องกง มีนิสัยชอบที่จะเข้าไปถือหุ้นในกลุ่มบริษัทฯที่ดี ๆ ถังเหวินหย่วนก็เป็นคนหนึ่งที่อยากจะถือหุ้นของหวาเม่าด้วย แต่กลับถูกกงเสียวเสี่ยวปฏิเสธมาตลอด

เหตุผลก็คือกงเสียวเสี่ยวไม่ได้มีอำนาจควบคุมการครอบครองหุ้นของบริษัททั้งหมด กลัวว่าหากคนที่ซื้อจะมีเจตนาร้าย จะทำให้หุ้นที่อยู่ในมือเธอราคาตกง ในส่วนนี้ ถังเหวินหย่วนก็พอเข้าใจได้

ด้วยเหตุนี้ เมื่อเห็นกงเสียวเสี่ยวหยิบเอาหุ้นร้อยละหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของกลุ่มหวาเม่ามาตอบแทนและขอบคุณเยี่ยเทียน ถังเหวินหย่วนก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัยและแปลกใจ การกระทำที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ถ้าให้เขาถามตัวเองก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน

“ใช่ ฉันจะเอาหุ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์มอบมันให้กับเยี่ยเทียน” กงเสียวเสี่ยวพูดซ้ำประโยคเดิมของตัวเอง แต่น้ำเสียงที่มีความตั้งใจแนวแน่มาก

สำหรับกงเสียวเสี่ยวที่มีอายุประมาณหกสิบกว่าปีและสามีก็เสียชีวิตจากไปแล้ว ถ้าให้พูดถึงเรื่องเงินมันก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขสำหรับเธอ

หลังจากที่หาซากกระดูกของสามีเจอ สภาพจิตใจของกงเสียวเสี่ยวก็มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างเล็กน้อย แต่เดิมมุ่งมั่นต้องการที่จะพัฒนาให้กลุ่มหวาเม่ายิ่งใหญ่และแข็งแรง ตอนนี้ความมุ่งนั้นได้ลดลงแล้ว ดังนั้นจึงมีความคิดที่อยากจะแบ่งหุ้นให้กับเยี่ยเทียน

“เดี๋ยวก่อน คุณนายกง บ้านหลังนี้ผมสามารถรับไว้ได้ แต่ว่าจะให้หุ้นกับผมแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ผมไม่เข้าใจพวกเรื่องการจัดการ แถมเกี่ยวกับพวกธุรกิจ ผมก็ไม่มีความสนใจ ผมว่าเรื่องหุ้นไม่จำเป็นหรอก”

เยี่ยเทียนไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับท่าทางแปลกใจของถังเหวินหย่วน เขาก็ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของกลุ่มหวาเม่า           ในมุมมองของเยี่ยเทียน หุ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่

และหลังจากได้รับหุ้นแล้วเขาจะต้องปฏิบัติตามข้อผูกพันที่เกี่ยวข้อง เยี่ยเทียนเกลียดที่สุดเลยก็คือภายในวงการนี้มักเจอพวกที่ชอบวางกลอุบาย เพื่อผลประโยชน์ ดังนั้นเลยบอกปฏิเสธไป

เพียงแต่ว่าเยี่ยเทียนไม่รู้อะไรเลย ภายในบริษัทขนาดใหญ่ขนาดนี้ หุ้นเพียง 1 เปอร์เซ็นต์หรือการมีหุ้นเพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์ ก็สามารถใช้ชีวิตทั้งหมดไปกับการกินดื่มโดยไม่ต้องกังวลอะไรใด ๆ ทั้งสิ้นเลย

ในฮ่องกงมีมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากมายที่คนไม่รู้จัก จริง ๆแล้วไม่ได้มีความสามารถอะไร แต่ว่าเกิดมามีบุญ ตะกูลที่ทรัพย์สินทุกอย่างพร้อม พอเกิดออกมาก็สามารถครอบครองทรัพย์สมบัติหุ้นทุกอย่างของตระกูล

ถึงแม้ว่าหุ้นเหล่านี้จะเป็นเพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์ แต่มันเป็นมูลค่าทางตัวเลขที่คนธรรมดาไม่สามารถจินตนาการได้ ลูกหลานของพวกพ่อค้าที่ร่ำรวย ถึงแม้ว่าในชีวิตนี้จะไม่ต้องดิ้นรนทำงานให้เปลืองแรง ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขแล้ว

“ลืม เรื่องนี้ไปเลยเถอะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยเทียน สีหน้าของถังเหวินหย่วนก็เกิดความแปลกใจเล็กน้อย ยกนิ้วโป้งไปที่ด้านหน้าของเยี่ยเทียน พูดว่า “เยี่ยเทียน วันนี้ฉันขอนับถือเธอจริง ๆ”

“หุ้นแปดร้อยล้านกว่าคาดไม่ถึงว่าเธอจะไม่รับมันไว้ ถ้าให้พูด เธอสามารถรับมันไว้แล้วมาขายต่อให้ฉันเหล่าถัง ฉันก็จะรีบแลกเงินสดเก้าร้อยล้านให้เธอเลย”

“แปดร้อยล้านกว่า”

เยี่ยเทียนที่กำลังดื่มน้ำชาอยู่ เก็บความรู้สึกตกใจกับคำพูดของถังเหวินหย่วนไว้ไม่ได้ แม้ว่าเขาจะสามารถควบคุมร่างกายของเขาในบางส่วนที่ละเอียดอ่อนได้ แต่ว่าภายในใจก็ยังคงรู้สึกตกใจ ถ้วยน้ำชาที่อยู่ในมือไม่มีอาการสั่นแม้แต่น้อย

โก่วซินเจียที่กำลังดูทอมแอนเจอร์รี่อยู่ พอได้ยินตัวเลขนี้ ก็เหลือบตามองไปที่เยี่ยเทียน เห็นท่าทางเยี่ยเทียนที่สงบนิ่งปกติ ทันใดนั้นโก่วซินเจียก็พยักหน้าเล็กน้อย

“ใช่ เยี่ยเทียน ที่ถังเหวินหย่วนพูดไม่ผิด หุ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของหวาเม่าอาจจะดูไม่มากเท่าไหร””

จั่วเจียจวิ้นที่อยู่ข้าง ๆ เขารู้ว่าศิษย์น้องไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับหุ้นเหล่านี้สักเท่าไหร่ อธิบายว่า “เยี่ยเทียน หุ้นที่เธอจะได้ครอบครอง สามารถบอกได้ว่าคือผู้ถือหุ้นของบริษัท เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ยังสามารถให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะ อย่างไรก็ตามการดำเนินงานที่เฉพาะเจาะจงของบริษัทไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่บริษัทจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในแต่ละปีขึ้นอยู่กับกำไรของพวกเขา หนึ่งปีได้ประมาณสิบล้านก็ถือว่าไม่น้อยแล้วนะ”

เมื่อฟังคำอธิบายของจั่วเจียนจวิ้นจบแล้ว เยี่ยเทียนก็รู้สึกเสียดาย ทำไมตัวเองไม่เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับการเงิน ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะผลักเงินมากมายขนาดนี้ออกไป

แต่ว่าคำพูดที่พูดออกไปแล้ว เยี่ยเทียนก็ไม่ได้คิดจะกลับคำ อีกอย่างเยี่ยเทียนไม่รู้ว่ามันคือโชคดีหรือโชคร้ายที่ได้รับลาภก้อนใหญ่ขนาดนี้  คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดออกไปว่า “คุณนายกง ผมได้บ้านหลังนั้นแล้ว ส่วนหุ้นนี้ก็ช่างมันเถอะ”

กงเสียวเสี่ยวเห็นความแน่วแน่ของเยี่ยเทียน ก็ไม่ได้พูดโน้มน้าวอีก พูดขึ้นว่า “งั้น เอาอย่างนี้ ปรมาจารย์เยี่ย ท่านช่วยเซ็นหนังสือสัญญาการโอนกรรมสิทธิ์ของบ้านหลังนี้ให้หน่อย ฉันจะให้คนมาจัดการรับรองความถูกต้องของเอกสารก็เรียบร้อยแล้ว”

เมื่อเห็นเยี่ยเทียนสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้รับหุ้นไว้ โก่วซินเจียที่กำลังดูทีวีอยู่ก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “ศิษย์น้องเล็ก ทำถูกต้องแล้ว เราอาจจะสูญเสียเมื่อจันทร์เต็มดวง และเราอาจจะได้มาเมื่อน้ำล้นแล้ว คนที่รู้ว่าควรเลือกที่จะก้าวไปข้างหน้าหรือถอยหลัง แกยังแกร่งกว่าศิษย์พี่เยอะเลย”

เมื่อสมัยที่โก่วซินเจียยังเป็นวัยรุ่น ถือว่าเป็นคนที่มีความปรารถนาอำนาจและเงินทองอย่างมาก ถ้าไม่อย่างนั้นเขาที่อายุยังไม่ถึงสามสิบฝ่ายราชการก็คงไม่แต่งตั้งให้เป็นพลตรี แล้วก็ตามเหล่าเจียงมาที่ไต้หวัน

เพียงแต่ว่าหลังจากนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด การเกิดการตายทำให้โก่วซินเจียรู้จักความหมายที่แท้จริงของชีวิต ถึงแม้จะถูกแต่งตั้งให้เป็นวีรบุรุษ มีความสามารถล้ำเลิศอันดับหนึ่งบนโลก ในตอนสุดท้ายก็กลายเป็นชามที่ว่างเปล่าไม่มีอะไร

“ขอบคุณคำสอนของ ศิษย์พี่ใหญ่ ครับ”

เยี่ยเทียนตอบกลับด้วยใบหน้าที่แสดงความเคารพนับถือ แม้ว่าภายในใจกลับมีเลือดหยด แปดร้อยล้านที่พึ่งถูกพวกเราโยนทิ้งไป บนโลกนี้จะมีใครโง่กว่าฉันอีกไหม

“เฮเฮ ศิษย์น้องเล็ก เธอไม่จำเป็นต้องเสียดาย สำนักเสื้อป่านของพวกเราไม่ได้ขาดหรือเดือนร้อนเรื่องเงิน”

โก่วซินเจียอ่านความคิดชองเยี่ยเทียนออก หัวเราะแล้วพูดว่า “วันหน้าเธอมีความสนใจ ลองไปแถวพม่าดูสิ ยังไงของพวกนั้นก็ไม่มีเจ้าของอยู่แล้ว จะไม่ต้องเจอกับความทุกข์ความอิจฉาริษยา”

คำพูดที่คลุมเครือของโก่วซินเจีย ถังเหวินหย่วนกับกงเสียวเสี่ยวฟังแล้วก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพยายามจะพูด แต่ว่าสายตาของเยี่ยเทียนกับจั่วเจียจวิ้นกลับประกายขึ้นมา ที่ศิษย์พี่ใหญ่พูดหมายถึงทองคำหนักยี่สิบตัน มันมีราคามากกว่าแปดร้อยล้านดอลลาร์ฮ่องกง

ก่อนหน้านั้นจั่วเจียจวิ้นกับเยี่ยเทียนหลีกเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงเรื่องทองอีก

แต่ตอนนี้โก่วซินเจียพูดออกมาเอง เห็นได้เลยว่าภายในใจของเขาได้ยอมรับศิษย์น้องทั้งสองคนเหมือนกับคนกันเองแล้ว อย่างนี้ก็ทำให้เยี่ยเทียนและจั่วเจียจวิ้นดีใจมากกว่าได้รับทองคำอันนั้นเสียอีก

ถังเหวินหย่วนเตือนว่าได้เวลาที่จะต้องเดินทางออกจากไต้หวันแล้ว เยี่ยเทียนก็ยืนขึ้นมาแล้วพูดว่า “เรียบร้อยแล้ว คุณนายกง คุณต้องจัดการกับเรื่องการเสียชีวิตของคุณฝูอี้ คูณก็ไม่ต้องไปกับพวกเรา ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสเราต้องเจอกันอีกที่ฮ่องกงนะ”

หลังจากที่อำลากงเสียวเสี่ยวแล้ว เยี่ยเทียนก็เดินทางมุ่งตรงไปยังสนามบิน นั่งเครื่องบินส่วนตัวของถังเหวินหย่วน

แม้ว่าโก่วซินเจียจะไม่มีบัตรประชาชน แต่ว่าเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ถังเหวินหย่วนแค่ออกปาก ทุกอย่างก็ง่ายไปหมด ไม่มีใครตรวจสอบตลอดทางที่เขาขับรถมาจอดที่สนามบิน ลองคิดดูว่าบนโลกนี้จะมีคนกี่หมื่นล้านคนที่สามารถลักลอบเข้าเมืองได้

หลังจากหนึ่งชั่วโมงกว่า เครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินฮ่องกง มีขบวนรถเบนซ์สุดหรูที่เหมือนกันทุกคันเข้าไปรับแขกผู้มีเกียรติทั้งหมดออกมาจากสนามบิน แล้วก็ขับไปส่งถึงภายในคฤหาสน์ของถังเหวินหย่วน

หลังจากที่รับประทานมื้อเย็นกับเยี่ยเทียนและศิษย์พี่ทั้งสองคน ถังเหวินหย่วนก็กล่าวคำอำลาจากไป หลิวติงติงก็กลับบ้านกับจั่วเจียจวิ้น เหลือเพียงสามพี่น้องในคฤหาสน์หลังใหญ่

“ฮวงจุ้ยที่นี้ถือว่าไม่เลวเลย ลักษณะพื้นภูมิเป็นชัยภูมิที่ดีเยี่ยม สามารถจัดวางค่ายกลรวบรวมพลังชี่ ฉันใช้เวลาถึงครึ่งชีวิตในการ ศึกษา ค้นคว้าและฝึกผนเรื่องนี้ “ โก่วซินเจียเชี่ยวชาญเกี่ยวกับค่ายกล หลังจากที่เดินรอบ ๆบ้านพักนี้แล้วนั้น ก็ได้ข้อสรุปเช่นเดียวกันกับเยี่ยเทียน

“วางค่ายกล เฮเฮ ศิษย์พี่ วันหลังพี่กับศิษย์พี่รองไปที่บ้านของฉันสิ แล้วจะไม่อยากจากไปไหนเลย” หลังจากที่ได้ยินคำพูดของโก่วซินเจีย เยี่ยเทียนก็หัวเราะออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข

“บ้านหลังนั้นของเธอมันทำไมหรอ วางค่ายกลไว้แล้วใช่ไหม”

โก่วซินเจียกับจั่วเจียจวิ้นมองไปที่เยี่ยเทียน ครั้งนี้เยี่ยเทียนเผลอตัวพูดโอ้อวดออกไป เพียงแต่ว่าศิษย์พี่ทั้งสองเป็นคนที่มีจิตใจดีไม่ถือสา ยิ้มให้กันและกันไม่ถามอะไรอีก แต่กลับทำให้เยี่ยเทียนอึดอัดไม่สบายใจอยู่พักหนึ่ง

“ใช่แล้ว เยี่ยเทียน การฟื้นฟูและขยายคำสอนลัทธิเต๋าของพวกเราที่จะขาดไม่ได้เลยคือ ต้องให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลัทธิอื่น ๆ มีเงินทองและสถานที่  ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีสถานที่ประกอบพิธีอย่างพระอาจารย์ซิงหยุน”

หลังจากทั้งสามพี่น้องคุยกัน โก่วซินเจียก็พูดขึ้นมาเกี่ยวกับทองคำนั้น “ฉันว่า ทองคำยี่สิบตันนั้น ถ้าเธอมีเวลาก็เอามันมาออกมาสิ เธอคือเจ้าสำนักคนปัจจุบันของสำนักเสื้อป่าน พวกทองคำเหล่านั้นจำเป็นต้องให้เธอควบคุม”

“บริเวณประกอบพิธี ศิษย์พี่คงไม่รู้ว่าสถานการณ์ภายในประเทศของเรา การดำเนินการทางศาสนามีการควบคุมที่เข้มงวดมาก ทั้ง ๆ ที่โดยพื้นฐานแล้วไม่มีอะไรเลย”

เยี่ยเทียนสั่นหัว พูดว่า “เหมือนกับผมที่อยากจะบอกว่า ทองคำนั้นให้ศิษย์พี่รองจัดการดีกว่า แล้วคัดเลือกลูกศิษย์ที่เหมาะสม เพื่อสืบทอดสำนักเสื้อป่านเรา”

“อย่า ศิษย์พี่ใหญ่บอกอะไรเธอ เธอก็รับมันไว้ ปัญหาอะไรฉันจัดการได้ แต่เรื่องเงินเธอต้องคอยดูแล”

จั่วเจียจวิ้นหยุดคำพูดเอาไว้ เขาคือคนที่อายุราว ๆหกสิบกว่าแล้ว และมีบ้านราคาร้อยล้านขึ้น ทองคำนั้นไม่ได้มีอยู่ในความคิดของเขา

เยี่ยเทียนไม่อยากที่จะต่อบทสนทนานี้ พยักหน้าพูดว่า “เรื่องนี้วันหลังค่อยว่ากันใหม่ เกือบจะห้าสิบปีแล้ว ใครจะไปรู้ว่าทองคำนั้นจะยังอยู่หรือเปล่า”

“มันต้องยังอยู่แน่นอน ศิษย์น้อง ฉันเป็นคนซ่อนมันเอง เกรงว่าในโลกนี้จะไม่มีใครหาเจอ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยเทียน โก่วซินเจียก็หัวเราะขึ้นมา ความคิดของเขาในตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาทองคำของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ดังนั้นทองคำเหล่านั้นก็ถูกเก็บซ่อนไว้ไม่ให้ใครพบแม้แต่ผีหรือเทวดา

อีกทั้งในตอนนั้นคนที่ที่ติดตามเขาประมาณยี่สิบกว่าคน ก็ได้ตายจากกันไปทั้งหมด เพราะฉะนั้นบนโลกนี้ก็จะมีเพียงแค่โก่วซินเจียเท่านั้นที่รู้ว่าทองคำถูกซ่อนไว้ที่ไหน

“มีคนมาแล้ว ฉันไปเปิดประตูก่อน”

ตอนที่พี่น้องทั้งสามคนกำลังพุดคุยกันอย่างคึกครื้น ทันใดนั้นภายในห้องรับแขกก็มีเสียงกริ่งดังขึ้นมา เยี่ยเทียนยืนขึ้นแล้วเดินออกไป

 ……….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด