หมอดูยอดอัจฉริยะ 558 เริ่มร่ายค่ายกลคาถา (1)

Now you are reading หมอดูยอดอัจฉริยะ Chapter 558 เริ่มร่ายค่ายกลคาถา (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากที่วางน้ำเต้าฮวงจุ้ยทองคำนี้แล้ว โจวเซี่ยวเทียนขับรถบรรทุกคอนกรีตเข้ามา เทคอนกรีตที่ผสมเสร็จแล้วลงเข้าไป เพื่อปิดน้ำเต้าฮวงจุ้ยทองคำนั้น

จากตรงนี้ นอกจากคนสนิทอย่างศิษย์พี่ศิษย์น้องของเยี่ยเทียนแล้ว คนอื่นบนในโลกนี้ก็ไม่มีใครรู้เรื่องฐานของเสาฮวงจุ้ย ที่มีน้ำเต้าฮวงจุ้ยทองคำสามตันอยู่หนึ่งอัน

สายตาของหมอดูฮวงจุ้ยมักจะลึกลับผิดแผกจากคนทั่วไปมาแต่ไหนแต่ไร พฤติกรรมของเยี่ยเทียนและคนอื่นๆ ไม่ได้ดึงดูดความคิดของผู้คน หลังจากที่ทำฐานเสร็จสิ้น วิศวกรที่เหลือก็รีบเข้ามา

เหตุผลที่ค่ายกลซานฉายเปลี่ยนสุริยันนี้ทำยาก เพราะหนึ่งคือวัสดุหายาก สองทุกขั้นตอนของค่ายกล จะผิดพลาดไม่ได้เลย มิเช่นนั้นค่ายกลจะไม่สามารถดำเนินได้

ในสมัยโบราณ อาจารย์ฮวงจุ้ยที่ต้องการสร้างค่ายกล จะต้องทำมันด้วยตัวเองอย่างตั้งใจครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในสมัยนี้ มีเครื่องมีที่แม่นยำในการช่วยเหลือ ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

ภายใต้คำขอร้องของเยี่ยเทียน ไม่ว่าจะเป็นการแกะสลักรูปปั้นคนสามคน หรือการบรรจงวาดค่ายกลลงบนพื้น ทุกอย่างตรงตามความต้องการของเขา ทำให้เยี่ยเทียนรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้าง

แต่สิ่งที่คนพวกนี้ไม่รู้ก็คือ พื้นด้านล่างค่ายกลทั้งสามของเยี่ยเทียน ได้ปูหยกแดงไว้เป็นจำนวนมาก

เครื่องหยกพวกนี้เยี่ยเทียนเป็นคนเจียระไนเองสำหรับทำค่ายกล และตอนที่เขาสร้างมันก็ท่องคัมภีร์เต๋าไปด้วย และขั้นตอนนี้จึงทำให้เครื่องหยกวาวขึ้น

ถึงแม้ว่าเครื่องหยกพวกนี้ไม่ถึงขั้นเป็นของขลัง แต่ผลจากการปลุกเสกก็ช่วยปกป้องคนทั่วไปได้ มีความแข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องพระที่พระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงที่ทำการปลุกเสกเบิกเนตร ถ้าหยิบไปออกไปขาย มูลค่าของชิ้นหนึ่งควรมีราคาอย่างน้อยหนึ่งล้านขึ้นไป

ตอนที่เยี่ยเทียนจัดวางเครื่องหยกพวกนี้ เห็นจั่วเจียจวิ้นเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก ต้องรู้ว่า หากนำเครื่องหยกสีแดงหลายสิบชิ้นนี้ไปขายในร้านของเขา เกรงว่าความต้องการหยกในฮ่องกงต้องได้รับกระแสนิยมเป็นอย่างมาก

นอกจากเครื่องหยกสีแดงพวกนี้แล้ว ดวงตาค่ายกลของทั้งสามค่ายกลนี้ ยังจัดวางของขลังไว้ชิ้นหนึ่ง ด้วยเพราะเหตุนี้เยี่ยเทียนจึงขอของขลังชิ้นนั้นกลับมาจากมือของศิษย์พี่ก่อน

โก่วซินเจียไม่สนใจเงินทองเท่าไร แต่ของขลังสามชิ้นที่เยี่ยเทียนหยิบออกมา กลับทำให้สายตาของเขาจ้องเขม็ง ถ้าไม่ใช่ว่าค่ายกลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง เกรงว่าโก่วซินเจียเองก็มีความคิดที่จะเป็นโจรไปขโมยตอนกลางคืน

แต่หลังจากที่หยิบของขลังทั้งสามชิ้นออกมา นอกจากกลองสัมฤทธิ์ที่เยี่ยเทียนได้มาจากภูเขาฉางไป๋ซานและเครื่องประกอบพิธีทางศาสนาที่สืบต่อจากหัวหน้าสำนักแล้ว ก็ยังมีดาบเหยี่ยนเยว่เตาและมีดสั้นอู๋เหินอีกสองชิ้น

และเวลาหนึ่งเดือนกว่าก็ผ่านไปอีกแล้ว เวลานี้ก็เข้าสู่เดือนพฤษภาคม สภาพอากาศในฮ่องกงเริ่มร้อนอบอ้าวขึ้น นี่จึงเป็นอีกครั้งที่เยี่ยเทียนอยู่ที่ฮ่องกงนานที่สุด ทั้งหมดเป็นเวลาสามเดือนเต็ม

ในสามเดือนนี้ เยี่ยเทียนไม่เพียงแต่สร้างลูกบอลฮวงจุ้ยและเสาฮวงจุ้ยเสร็จ คฤหาสน์หลังนั้นที่กงเสี่ยวเสี่ยวได้มอบให้เขา ก็ได้ตกแต่งเสร็จเช่นกัน และได้ย้ายเข้าไปอยู่เมื่อครึ่งเดือนก่อนหน้านี้แล้ว

ตัวหลักของคฤหาสน์ทั้งหมดเป็นอาคารสี่ชั้น ชั้นหนึ่งเป็นห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องครัวและห้องคนใช้ และยังมีห้องว่างทั้งหมดสามห้อง

ชั้นสองชั้นสามเป็นห้องนอน รวมกันมีทั้งหมดสิบสองห้องที่คนอยู่ได้ และแต่ละห้องมีห้ออาบน้ำส่วนตัว โดยห้องพักในเจ็ดห้องนี้ได้หันหน้าเข้าหาทะเล ซึ่งเป็นฮวงจุ้ยที่ยอดเยี่ยมมาก

ส่วนชั้นสี่ เยี่ยเทียนได้สร้างเป็นห้องโฮมเธียเตอร์และห้องเก็บสะสม ถึงแม้เขาจะไม่ได้สนใจภาพยนตร์ แต่ในอนาคตเมื่อมีเวลาว่าง สามารถใช้เวลากับภรรยาหรือแม่ได้

และสำหรับห้องนอนที่อยู่ตรงกลาง เยี่ยเทียนได้สร้างค่ายกลเป็นพิเศษ ใช้กั้นพลังวิญญาณทั้งตัวอาคาร เพื่อสะดวกให้พ่อแม่และญาติพี่น้องเข้ามาพักได้สะดวก

เพราะหลังจากที่เปิดค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณแล้ว บ้านหลังนี้ก็เต็มไปด้วยพลังแห่งฟ้าดิน เกรงว่าอาจจะมากกว่าพลังที่อยู่ในบ้านที่ปักกิ่งสิบกว่าเท่า ซึ่งคนธรรมดายากที่จะรับได้

ก็เหมือนกับการทานอาหารเสริม ทานอาหารเสริมน้อยก็ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายได้ แต่ถ้าบำรุงมากเกินไป ก็มีผลเสียทำร้ายร่างกายได้ ดังนั้นเยี่ยเทียนจึงจัดค่ายกลสองสามห้องเป็นพิเศษ เผื่อไว้วันหน้าพ่อกับแม่ยังจะพักที่โรงแรมในฮ่องกง

นอกจากอาคารหลักแล้ว เยี่ยเทียนยังมีการสร้างสระว่ายน้ำเพิ่ม นี่คือการตอบสนองรูปแบบฮวงจุ้ยแบบเปิดประตูแล้วเห็นน้ำที่รวบรวมทรัพย์สมบัติ นอกจากนี้ยังมีฮวงจุ้ยแม่น้ำล้อมรอบทั้งบ้าน ด้านบนยังมีศาลาพักไว้เก้าหลัง

ศาลาพักผ่อนทั้งเก้าหลังนี้พิถีพิถันอย่างมาก เยี่ยเทียนใช้เครื่องหยกสีแดงที่เหลือพวกนั้น นำมาใช้ที่ด้านบนนี้เกือบทั้งหมด และยังเป็นกุญแจสำคัญในการรวบรวมพลังวิญญาณที่เขาจัดไว้

การรวบรวมพลังวิญญาณนี้มีชื่อว่าค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณดาวเก้าดวง คนบนโลกจะรู้แต่ดาวไถดาวเจ็ดดวง กลับไม่รู้ว่า ในสายตาของอาจารย์ฮวงจุ้ย นอกจากดาวไถแล้วยังมีดาวอีกสองดวงที่ซ่อนอยู่

ดาวที่ซ่อนสองดวงนี้คือดาวเสริมและดาวช่วย กลายเป็น“ดาวเจ็ดดวงซ่อนสองดวง” ในวงการฮวงจุ้ยจึงมีหลักการพูดดาวเก้าดวง ตามตำนานเล่าขานว่า หากคนธรรมดามองเห็นดาวสองดวงที่ซ่อนอยู่จะมีอายุยืนยาว

เหตุผลในการรวบรวมดาวพลังวิญญาณดาวเก้าดวงนี้ เพราะเก้าเป็นจำนวนมากที่สุดของพลังขั้วบวก ในสมัยโบราณจำนวนเก้าถูกนำมาใช้เพื่อแนบกับจักรพรรดิ และจักรพรรดิส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเก้า

เครื่องทองสัมฤทธิ์มี “หม้อขาตั้งเก้า” รอบๆ จักรพรรดิก็จะแต่งตั้ง“เสนาบดีเก้าคน” ราชสำนักต้องมี“ความยุติธรรมเก้าประการ”เมืองหลวงมีประตูเก้าบาน และในพระราชวังต้องห้ามมีห้องเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าห้อง

หนังสือ “อี้ กาน เหวินเหยียน” ท่อนกลางพูดไว้ว่า พลังเฉียนทั้งเก้า สามารถควบคุมโลกได้

ต้องรู้ว่า เยี่ยเทียนใช้การดูดซึมทั้งหมด แต่พลังทะเลที่ไร้ขอบเขต ก็มีเพียงดาวเก้าดวงนี้ที่ใช้ในค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณเท่านั้น ถึงจะสามารถรองรับการรวมตัวและการเปลี่ยนแปลงของพลังวิเศษของเสาฮวงจุ้ย โดยต้องใช้ถึงระดับเก้าไม่อย่างนั้นไม่ได้

ทิศของทะเลที่อยู่ตรงข้ามคฤหาสน์ เยี่ยเทียนได้สร้างจุดชมวิวไว้ที่หนึ่ง จุดชมวิวนี้ค่อนข้างที่จะมีเอกลักษณ์ รูปร่างทั้งหมดเป็นเหมือนหัวมังกร และมังกรอ้าปากออก ราวกับกำลังกลืนพลังของทะเลอันห่างไกล

ไม่มีใครรู้ ว่าไข่มุกมังกรเม็ดนั้นที่ปากมังกรที่ยื่นออกไปที่จุดชมวิว ทำจากทองคำทั้งหมด ด้านบนมีการวาดคาถาวิชาแบบรางๆที่ซับซ้อนสิบกว่าชนิด และเยี่ยเทียนเป็นคนที่แกะสลักด้วยตัวเอง

ทองคำที่หามาจากพม่าพวกนั้น นอกจากขายให้ประเทศแล้ว ที่เหลืออีกห้าตันก็ถูกเยี่ยเทียนใช้จนหมดเกลี้ยง

สำหรับการก่อสร้างเสาฮวงจุ้ย เดิมทีต้องใช้เงินสองร้อยล้านหยวนขึ้นไป และเพิ่มมาอีกสี่ร้อยล้านหยวน การลงทุนทั้งหมดสูงถึง หกร้อยล้านหยวน

หากนับทองคำของเยี่ยเทียนกับมูลค่าของเครื่องหยกและของขลัง ฮวงจุ้ยขนาดใหญ่แห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่หลายสิบกิโลเมตร และมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดหนึ่งพันห้าร้อยล้านหยวน

ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบันนี้ เหตุผลที่น้อยคนใช้การจัดค่ายกลแบบนี้ ก็ด้วยเหตุผลนี้เอง ต้องรู้ว่า แม้ว่าจักรพรรดิเหล่านั้นจะมีความมั่งคั่ง แต่พวกเขาไม่มีของขลังทั้งสามชนิดแน่นอน

เพราะตามที่พวกอาจารย์ฮวงจุ้ยพูดกัน ของขลังทุกชิ้นต่างก็พิเศษและล้ำค่า และไม่พูดต้องถึงว่าคนเหล่านั้นจะมีของสามอย่างนั้นอยู่ในมือของพวกเขาหรือไม่ ต่อให้มีก็เกรงว่าคงไม่ยอมทิ้งให้จักรพรรดิไปสร้างค่ายกลพวกนี้แน่

ดังนั้นหลังจากที่ซ่งเวยหลันรู้ราคาการก่อสร้างค่ายกลฮวงจุ้ยนอกคฤหาสน์แล้ว แม้แต่เธอที่มีฐานะร่ำรวยยังต้องตกใจ ลูกคนนี้ของตัวเอง อาจจะเป็นคนที่ล้างผลาญครอบครัวก็เป็นได้

………………

“เยี่ยเทียน ดาบเหยี่ยนเยว่เตาด้ามนั้นวางไว้ที่นี่ ค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณที่อยู่ที่ปักกิ่งของนายก็จะไม่มีสิ่งของที่ยับยั้งความชั่วร้ายแล้วสิ?”

ครึ่งเดือนก่อน โก่วซินเจียและคนอื่นๆ ก็ย้ายไปอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหม่นี้พร้อมกับเยี่ยเทียน จึงให้คำแนะนำกับเยี่ยเทียนไม่น้อยเกี่ยวกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของการจัดฮวงจุ้ยในบ้าน

พรุ่งนี้ตอนกลางคืน พวกเขาศิษย์พี่ศิษย์น้องสามคนจะเริ่มร่ายสร้างค่ายกล เวลานี้ทั้งสามคนกำลังยืนอยู่ที่จุดชวิวทอดมองเสาฮวงจุ้ยที่อยู่ใต้ภูเขาที่ไกลออกไป

ถึงแม้ค่ายกลทั้งสองฝั่งจะยังไม่เปิดออก แต่เมื่อยืนอยู่ตรงจุดชมวิว ก็สามารถรู้สึกถึงพลังจักรวาลที่มีอยู่มากมาย ในช่วงเวลาสั้นๆ สองสามเดือนนี้ คนร่ำรวยที่อาศัยอยู่กลางภูเขาพวกนั้นต่างก็ได้รับประโยชน์มากมาย

ดาบเหยี่ยนเยว่เตาที่เขียวที่โก่วเจียซินพูดนั้น คือมีดที่เยี่ยเทียนให้โจวเซี่ยวเทียนเอามาจากปักกิ่ง ด้วยเหตุนี้เยี่ยเทียนจึงสร้างศาลามีดขึ้นเป็นพิเศษบนแม่น้ำฮวงจุ้ยที่อยู่ด้านหลังจุดชมวิว เพื่อวางดาบเหยี่ยนเยว่เตาโดยเฉพาะ

ต้องรู้ว่า พลังพิฆาตเป็นพลังชีวิตชนิดหนึ่ง ต่อให้เสาฮวงจุ้ยจะกลั่นกรองเปลี่ยนมาเป็นพลังมงคลแล้ว ก็ยังมีพลังพิฆาตอยู่ในนั้นบ้าง

หลังจากที่ใช้ความพยายามทั้งหมดในการวางดาบเหยี่ยนเยว่เตาอยู่ตรงนี้ ซึ่งสามารถโจมตีสิ่งชั่วร้ายทุกอย่างได้ เพื่อรับประกันระดับความบริสุทธิ์พลังชี่แท้ในเสาฮวงจุ้ยนี้

เมื่อเห็นโก่วซินเจียหันกลับมาพิจารณาดาบเหยี่ยนเยว่เตาของตัวเอง เยี่ยเทียนจึงยิ้มพูด “ศิษย์พี่ มีเหมาโถวอยู่ บ้านหลังนั้นที่ปักกิ่งของผมไม่มีพลังพิฆาตมารุกรานแน่นอน…”

สองสามเดือนมานี้เยี่ยเทียนก็หาเวลาว่างกลับไปที่ปักกิ่งสองสามครั้ง พบว่าเจ้าเหมาโถวไม่เพียงแต่สามารถดูดซับพลังของท้องฟ้าและดินได้ แม้แต่พลังพิฆาตเล็กๆ น้อยๆ ที่อยู่ตามมุมของบ้าน ก็ถูกมันกลืนไปจนหมด

แต่ฮ่องกงที่หนึ่งปีมีสี่ฤดูมีอุณหภูมิสูงขึ้นตลอดทั้งปี ก่อนที่มีการสร้างค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณขึ้น เยี่ยเทียนไม่ได้นำเหมาโถวมาด้วย

เมื่อหันกลับไปมองที่วิลล่าหลังใหม่ เยี่ยเทียนปริปากพูดว่า “ศิษย์พี่ วันหลังพวกคุณก็มาฝึกวยุทธที่นี่เถอะ ถ้าพลังที่บ้านในปักกิ่งหลังนั้นเบาบางลง ก็ให้พวกป้าน้าอาของผมเข้าไปอยู่ และยังสามารถปรับร่างกายของพวกเธอให้ดีขึ้นด้วย…”

ถ้าค่ายกลรวบรวมดาวเก้าดวงทำสำเร็จ บ้านของเยี่ยเทียนก็ไม่ต่างจากสวรรค์ที่อยู่ในตำนานเหล่านั้น และเต็มไปด้วยปราณวิเศษ เกรงว่าจะมีความพิเศษมากกว่าอีกด้วย

โก่วซินเจียและจั่วเจียจวิ้นก็พักอยู่ที่นี่ ถึงแม้ว่าการบำเพ็ญเพียรจะไม่สามารถเข้าขั้นหลอมปราณสู่จิต แต่เมื่อเข้าสู่โลกของการหลอมรวมลมปราณกลับสู่ความว่างเปล่า แม้แต่คนที่อายุยืนเป็นร้อยปีก็สามารถมีอายุยืนมากกว่าอาจารย์ได้ จึงไม่ใช่ปัญหาอะไร

“ศิษย์น้องเล็ก อย่างนั้นฉันกับศิษย์พี่รอง ต้องอาศัยบารมีนายแล้วแหละ…”

โก่วเจียซินยิ้มขึ้นมา ในใจรอคอยการเปิดค่ายกลนี้เป็นอย่างมาก เขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองในวัยชรา จะสามารถมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่แบบนี้

“ศิษย์พี่ ถ้าไม่ใช่ว่าทองก้อนนั้นของพี่ ต่อให้ตีผมให้ตายผมก็ไม่กล้าที่จะสร้างค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณเก้าดวงนี้หรอก…”

เยี่ยเทียนยิ้มแล้วพูดว่า “และพี่ก็อย่าคิดว่าจะนั่งดูอยู่เฉยๆ พรุ่งนี้ตอนที่เริ่มเปิดค่ายกล พี่กับศิษย์พี่รองเปลือยร่างส่วนบนขึ้นบนเวที ไม่อย่างนั้นผมคนเดียวไม่สามารถเริ่มเปิดค่ายกลนี้ได้!

ตอนนั้นต่อให้เป็นการเปิดค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณฟ้าดิน ก็ทำเอาเยี่ยเทียนเหนื่อยจนกระอักเลือด เกือบจะถูกลมปราณเข้าแทรก

ถึงแม้ตอนนั้นเยี่ยเทียนจะมีสาเหตุจากวรยุทธไม่เพียงพอก็จริง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงระดับความยากของการเปิดค่ายกลแล้ว

 ……………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด