หมอดูยอดอัจฉริยะ 705 ต่อสู้

Now you are reading หมอดูยอดอัจฉริยะ Chapter 705 ต่อสู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 705 ต่อสู้
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเจ้ามังกรดำถึงโกรธขนาดนี้?”

เยี่ยเทียนฟังออกว่าเป็นเสียงคำรามที่เกิดจากความเจ็บปวดและความโกรธ ราวกับกำลังถูกบางสิ่งทำร้าย ทำให้เยี่ยเทียนทั้งร้อนใจทั้งหวั่นใจ

เยี่ยเทียนฝึกวิชาจนถึงขั้นหลอมปราณสู่เป็นจิตได้ ยังดูไม่ออกว่ามังกรดำมีเขาที่งอกขึ้นมาบนหัวมีฤทธ์มากแค่ไหน แต่มีความรู้สึกว่าถ้าเจ้ามังกรดำอยากจะฆ่าเขาคงไม่ต้องใช้แรงอะไรเยอะ

ต่อมาเมื่อได้พบกับวานรขาวที่เสินหนงเจี้ย แม้วานรขาวจะมีอิทธิฤทธิ์มากกว่ามังกรดำ แต่เยี่ยเทียนคิดว่าถ้าทั้งสองฝ่ายมาปะทะกัน ผู้แพ้น่าจะเป็นวานรขาวแน่นอน

แต่ตอนนี้มังกรดำกำลังเผชิญภัย เยี่ยเทียนไม่รู้ว่าภัยนี้เกิดจากสัตว์ประเภทเดียวกันกับเจ้ามังกรดำหรือเกิดจากมนุษย์ผู้กำลังฝึกบำเพ็ญเต๋า?

ในใจเยี่ยเทียนร้อนรนมาก แต่หิมะที่ตกติดต่อกันหลายวันทำให้แต่ละก้าวเป็นไปอย่างยากลำบาก หิมะท่วมสูงระดับเอว ระยะห่างเพียงไม่กี่ลี้ต้องใช้เวลาเดินถึงครึ่งชั่วโมง

เสียงร้องคำรามของมังกรดำยิ่งดังขึ้น ในน้ำเสียงมีความเศร้าสร้อยและทำอะไรไม่ถูก

“เยี่ยเทียน มีเรื่องอะไร? เกิดอะไรขึ้น?”

หูหงเต๋อแบกปืนวิ่งตามเยี่ยเทียนมาติดๆ เสียงคำรามดังกึกก้องจนหูแทบดับได้ยินแล้วหนาวเหน็บเข้าไปถึงก้นบึ้งหัวใจ มองดูหมอกพิษที่ปกคลุมไปทั่วหุบเขาแล้วหูหงเต๋อมีสีหน้าประหวั่นพรั่นพรึง

“เหล่าหู เบาๆหน่อย” เยี่ยเทียนกดเสียงให้เบา ดึงหูหงเต๋อไปซ่อนที่หลังต้นไป๋ฮว่า

เจ้ามังกรดำเป็นสัตว์ในตำนานที่มนุษย์ไม่เคยรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของมัน ตอนนี้ด้านในกำลังมีการต่อสู้อย่างดุเดือด ท่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกัน เยี่ยเทียนรู้ว่าตนกับหูหงเต๋อไม่อาจสู้ฝ่ายตรงข้ามได้

“ดูเหมือนเจ้ามังกรจะเสียท่าอยู่นะ?” หูหงเต๋อได้ยินมังกรดำร้องเสียงแหลมอย่างเจ็บปวดทุรนทุราย กระซิบถามเบาๆว่า “เยี่ยเทียน พวกเราจะทำยังไงดี?”

เยี่ยเทียนคิดเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ผมจะเข้าไปดูข้างใน!”

เมื่อก่อนเคยผูกสัมพันธ์กับมังกรดำหรือจะเป็นตอนที่มังกรดำมอบหยกอ่อนสีดำให้ เยี่ยเทียนต้องเข้าไปดูให้รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ส่วนเรื่องจะลงมือช่วยหรือไม่ เขายังไม่มีความคิดนั้น คู่ต่อสู้ไม่ใช้ผู้ที่เขาจะต้านทานได้

หูหงเต๋อตะลึง รีบดึงแขนเยี่ยเทียนไว้ “อย่าล้อเล่นน่า นี่…ในหุบเขามีแต่หมอกพิษ เธอเข้าไปอาจจะถูกพิษจนตายได้!”

บึงน้ำมังกรดำอยู่หลังปากทางเข้าหุบเขา มีซากศพของสารพัดสัตว์กองทับถมอยู่ ถ้ามีใครเผลอหลงเข้าไปในนั้น สูดเอาไอพิษเข้าไป ยังไม่ทันจะวิ่งหนีออกมาก็ถูกไอพิษรมจนตายก่อน

เยี่ยเทียนกัดฟัน “เหล่าหู คุณป้องกันให้ผมที ไม่ว่าจะเป็นคนหรือวัตถุอะไรเข้าใกล้ ยิงทิ้งให้หมด อย่าได้ใจอ่อน!”

“ป้องกัน? เธอจะทำอะไร?” หูหงเต๋อส่ายหัว มองดูเยี่ยเทียนปลดกระเป๋าเป้ลงวางที่พื้น นั่งลงไปเต็มก้น เดาไม่ถูกว่าเขาจะทำอะไร

“ไป!” เยี่ยเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พ่นลมหายใจออกทางปาก มีเงาสีขาวที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าลอยออกมาจากกลางหว่างคิ้วของเยี่ยเทียน ลอยสูงเหนือศีรษะประมาณสามศอก

นี่คือจิตดั้งเดิมของเยี่ยเทียน ที่เมื่อเปรียบเทียบกับหลายวันก่อน จิตดั้งเดิมก่อตัวเป็นรูปร่างมั่นคงดี มีแขนขาเล็กๆมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ที่สำคัญกว่านั้น จิตดั้งเดิมที่ไม่เป็นรูปร่าง ตอนนี้กลับรู้สึกราวกับจับต้องได้ ปรากฏเป็นเงากลมๆลอยอยู่กลางอากาศ หูหงเต๋อที่นั่งอยู่ข้างๆมองเห็นเต็มตา

“โอ้โห นี่มันอะไรกัน?”

เห็นภาพแบบนี้แล้วหูหงเต๋อมองตาค้าง บ่นพึมพำออกมาไม่รู้ตัว ยังดีที่เขารู้ตัวเร็วทันเอามืออุดปากตัวเองไว้

เสียงร้องของมังกรดำฟังดูทุรนทุรายมากขึ้น เยี่ยเทียนไม่ทันได้อธิบายอะไรมาก จิตดั้งเดิมกุมเอากระดิ่งทั้งสามสะบัดเบาๆ ลอยเข้าไปในม่านหมอกพิษ

เป็นไปตามที่เยี่ยเทียนคาดไว้ หมอกพิษนี้มีผลแต่กับร่างกายที่มีเลือดเนื้อ ไม่ทำอันตรายดวงจิตที่ไม่มีตัวตน ภายในชั่วระยะเวลาหนึ่งลมหายใจ เยี่ยเทียนก็ลอยเข้าไปสู่ใจกลางหุบเขา

เยี่ยเทียนรู้วิชาของตนยังไม่เก่งกล้า เข้าไปถึงระยะห่างสามสิบกว่าเมตร ดวงจิตของเขาหยุดลงแอบไปหลบอยู่หลังแท่นหินมองไปทางบึงน้ำมังกรดำ

เมื่อมองออกไปภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เยี่ยเทียนเกือบควบคุมดวงจิตไม่ได้ กระดิ่งสามอันใกล้หล่นตกพื้น

ร่างของมังกรดำยาวขนาดเจ็ดแปดเมตรขึ้นมาอยู่บนพื้นดินข้างสระน้ำ

เกล็ดสีดำวาววับทั้งตัวของมันถูกเชือกเส้นใหญ่สีทองเรืองแสงมัดไว้ มัดแน่นจนมันแทบขยับตัวไม่ได้ ทำได้เพียงเปล่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนา อ้าปากคราวหนึ่งก็พ่นควันพิษออกมาครั้งหนึ่ง

ห่างจากสระน้ำไปยี่สิบเมตรมีนักพรตสวมชุดคลุมสีเขียวตัวยาวคนหนึ่งยืนอยู่ รูปร่างผอมเพรียว รอบกายเขาปกคลุมด้วยเกราะสีขาวป้องกันควันพิษของมังกรดำไม่ให้เข้าใกล้ตัว

ปลายเชือกด้านหนึ่งอยู่ในมือซ้ายของนักพรต แต่ดูท่าทางนักพรตไม่ได้ควบคุมมันง่ายดายนัก ใบหน้ามีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นทั่ว มือขวาข้างที่ว่างอยู่วาดยันต์กลางอากาศแล้วส่งไปที่ตัวเชือก

“เป็นคนของลัทธิเต๋าจริงๆด้วย?” เห็นแบบนี้แล้วเยี่ยเทียนคิดลังเลขึ้นมา เขาไม่นึกไม่ฝันว่าในเหตุการณ์แบบนี้จะได้พบกับนักพรตผู้ฝึกวิชา?”

ถ้าอยู่ในสถานการณ์อื่น เยี่ยเทียนอาจจะออกไปแสดงตัวทำความเคารพ แต่เจ้ามังกรดำได้เคยมอบหยกอ่อนสีดำให้เขา จนกลายเป็นสหายกัน เยี่ยเทียนไม่รู้ว่าควรจะเลือกทำอย่างไรดี

“แกมันสารเลว ฉันหวังดีให้แกเป็นสัตว์วิเศษปกปักษ์คุ้มครองหุบเขา สอนวิชาบำเพ็ญเพียรให้แก แกก็ฝึกได้ดี แต่นี่แกไม่รู้ผิดชอบชั่วดี…..”

ตอนที่เยี่ยเทียนกำลังไตร่ตรองอยู่นั้น นักพรตจู่ๆก็ตะโกนด่าว่ามังกรดำยกใหญ่ “ในเมื่อแกไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ฉันจะใช้แส้ฟาดมังกรนี้เฆี่ยนแกให้หนัก!”

“โฮก!”

มังกรดำได้ยินที่นักพรตต่อว่ายิ่งดิ้นแรงขึ้น พร้อมกับอ้าปากพ่นลำแสงพุ่งเข้าใส่ตัวของนักพรต ในช่วงฉุกเฉินนั้นกลับกลายเป็นเม็ดพลัง เน่ยตัน ที่ยังไม่สมบูรณ์ดีถูกพ่นออกมา แสดงว่ามันต้องการสู้สุดชีวิต

ถ้าเป็นเรื่องของการฝึกฝนบำเพ็ญเพียร มันอยู่ห่างจากขั้นที่จะตกผลึกแตกหน่อเพียงแค่ก้าวเดียว หลังจากแตกหน่อแล้วมันจะกลายเป็นมังกร เหมือนกับการฝึกวิชาจินตันของมนุษย์

ส่วนวิชาของนักพรตคนนี้สูงแค่ขั้นกลางของระดับเซียน ยังห่างจากขั้นตกผลึกจินตันอีกไกล แต่ต่างจากมังกรดำที่ฝึกวิชาด้วยตัวเอง นักพรตได้รับการสืบทอดเคล็ดลับวิชาที่สมบูรณ์มาจากอาจารย์ วิชาที่ว่านี้เจ้ามังกรดำไม่อาจสู้ได้

อีกทั้งเชือกที่ผูกมัดมังกรดำอยู่เป็นของล้ำค่าของสำนักวิชา มีอิทธิฤทธิ์มากล้น ไม่ว่าจะคนหรือปีศาจ ถ้าได้ลองถูกเชือกเส้นนี้ผูกไว้ไม่มีทางหนีรอดไปได้ง่ายๆ

แต่เชือกนี้ต้องใช้พลังจิตดั้งเดิมคอยควบคุม นักพรตใช้พลังจิตทั้งหมดควบคุมเชือกให้ผูกมัดมังกรดำอย่างแน่นหนา ตอนนี้ไม่มีทางแบ่งพลังออกไปเพื่อสังหารมังกรดำได้

จู่ๆมังกรดำก็คายเม็ดพลัง เน่ยตัน ออกมาเพื่อต่อสู้ ทำให้นักพรตคาดไม่ถึง ในระยะเวลาชั่วพริบตา นักพรตป้องกันเบื้องหน้าได้ทันก่อนที่เม็ดพลัง เน่ยตัน จะพุ่งเข้าใส่ร่าง

เสียงดัง “ปัง” สนั่นหวั่นไหว

เกราะกำบังเบื้องหน้านักพรตเปราะบางเหมือนกระดาษ เม็ดพลังเน่ยตันเปลี่ยนเป็นลำแสงพุ่งตัดผ่านเกราะกำบังเข้าใส่ตัวนักพรต นักพรตถูกพลังกระทบอย่างจังจนตัวปลิวไปด้านหลังเจ็ดแปดเมตร

“แค่ก….แค่กแค่ก!”

นักพรตกระอักเลือดสดๆออกมาระหว่างที่ยังลอยอยู่กลางอากาศ เมื่อตกถึงพื้นร่างถลาไปด้านหลังอีกหลายก้าวถึงจะหยุดยืนได้มั่นคง แต่เม็ดพลังเน่ยตันของมังกรดำสีอ่อนลงมาก ส่องแสงวูบวาบลอยกลับไปหาเจ้าของ

“ปล่อยออกมาแล้ว ก็อย่าได้เก็บกลับไปอีกเลย!”

นักพรตหน้าเหลืองช้ำ มุมปากมีเลือดไหล ยิ้มเยาะด้วยความสะใจ มือซ้ายโบกกลางอากาศเกิดเป็นลำแสงสีขาวพุ่งออกไปกลายเป็นรูปมือใหญ่ลอยเข้าหาเม็ดพลังเน่ยตันนั้น

“จิตออกจากร่าง?”

เยี่ยเทียนที่แอบดูอยู่ห่างๆหวั่นใจแทน แสงรูปมือของนักพรตคนนั้นดูราวกลับมีเลือดเนื้อเหมือนของจริง แข็งแกร่งกว่าจิตดั้งเดิมของเยี่ยเทียนหลายเท่า?

จิตดั้งเดิมเคลื่อนไหวรวดเร็ว ไม่ทันรอให้เม็ดพลังเน่ยตันลอยคืนสู่เจ้าของ ก็ถูกมือใหญ่ของนักพรตรวบเอาไป เจ้ามังกรดำส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนา สำรอกเอาพลังปราณแท้ที่พากเพียรฝึกมาหลายร้อยปีออกมา ส่งเข้าไปที่เม็ดพลังเน่ยตันนั้น

ครู่เดียวเม็ดพลังเน่ยตันก็เรืองแสงขึ้น มีกำลังขัดขืนมือใหญ่มากขึ้น นักพรตแม้จะจับเม็ดพลังเน่ยตันไว้ได้ แต่ไม่อาจควบคุมดึงเม็ดพลังเน่ยตันกลับไปได้

“สารเลว ฉันอุตส่าห์ใช้การฝึกวิชาของฉันเข้าแลกเพื่อจัดการกับแก พอถึงเวลาฉันจะเอาเม็ดพลังเน่ยตันของแกกลับไปฝึกวิชาต่อ!”

นักพรตยิ้มอย่างโหดเหี้ยม แล้วอ้าปากปล่อยเอาพลังที่แท้จริงของตัวเองออกมาพร้อมกับใช้มือขวาวาดยันต์เพื่อสั่งให้เชือกที่ผูดมัดเจ้ามังกรดำอยู่นั้นรัดแน่นยิ่งขึ้น

เกล็ดของมังกรดำแข็งแกร่งฟันแทงไม่เข้า เชือกที่รัดอยู่ไม่ทราบว่าทำจากวัสดุอันใดจึงสามารถบาดลึกลงไปบนเกล็ดของมันได้ เลือดสดสีม่วงดำไหลซึมหยดลงสู่น้ำในสระ

เจ้ามังกรดำรู้ตัวว่าไม่น่ารอดแน่ จึงออกแรงสุดกำลังโดยไม่เกรงกลัวความเจ็บปวดทางเนื้อหนัง ใช้พลังที่หลงเหลืออยู่อัดเข้าใส่เม็ดพลังเน่ยตันเพื่อยืนหยัดต่อสู้กับนักพรตร้าย ในชั่วระยะเวลาหนึ่งทั้งคนทั้งมังกรยังทำอะไรกันไม่ได้

ร่างกายและเม็ดพลังเน่ยตันของมังกรดำบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะเลือดสดที่ไหลรินไม่หยุด ทำให้มันสูญเสียพลังมาก ตอนนี้นักพรตเป็นต่อมากกว่า

นักพรตแสดงสีหน้ายินดี ร่างทั้งร่างของมังกรดำล้วนมีคุณค่า อีกทั้งสิ่งของในสระน้ำ ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่ออาการบาดเจ็บของตน

“ให้ตายเถอะ ขโมยเม็ดพลังของคนอื่นมาเพื่อฝึกวิชา ใช้อวัยวะของคนอื่นมาทำเป็นของวิเศษ คนแบบนี้หรือที่จะฝึกวิชาของลัทธิเต๋า?” เยี่ยเทียนได้ยินที่นักพรตพูด เขาเข้าใจถึงที่มาที่ไปของเหตุกาณ์นี้ทันที บังเกิดโทสะขึ้นในใจ

เจ้ามังกรดำอาศัยอยู่กลางป่าลึก ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับโลกภายนอก ด้วยความโลภโมโทสันของคนบางคนถึงกับต้องฆ่าแกงกัน เจ้านักพรตนี่จิตใจหยาบช้าไร้ความปรานี

แต่เยี่ยเทียนหยุดยั้งความคิดที่จะลงมือ ด้วยวิชาอาคมของนักพรตนั้นเหนือกว่าตนหลายเท่า หากเกิดพลาดพลั้งจะได้รับอันตรายถึงชีวิต

“มังกรดำ ฉันคือเยี่ยเทียน เมื่อปีก่อนเราได้รู้จักกัน ยังจำฉันได้ไหม?”

เยี่ยเทียนเปล่งเสียงออกมาในความคิด จิตดั้งเดิมเกิดเป็นคลื่นสั่นไหวเข้าไปสู่สมองของเจ้ามังกรดำ นี่เป็นวิธีการสื่อสารที่เจ้าวานรขาวสอนให้กับเยี่ยเทียน

เยี่ยเทียนสื่อสารออกไปแล้ว มังกรดำที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดสงบลงทันที หันหัวมองทั้งสี่ทิศเพื่อมองหาเยี่ยเทียน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด