หมอดูยอดอัจฉริยะ 775 สิ่งที่เหลืออยู่

Now you are reading หมอดูยอดอัจฉริยะ Chapter 775 สิ่งที่เหลืออยู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 775 สิ่งที่เหลืออยู่
แม้จิตดั้งเดิมของติงหงจะสูญสิ้นไปในเมฆดำกลุ่มนั้นแล้ว แต่เยี่ยเทียนก็ยังไม่กล้าเข้าไปใกล้ จนได้ยินเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์หมุนลอยมาเข้าหู ถึงได้เรียกสติให้ฟื้นคืนอีกครั้ง

“ติงหงฝึกวิชาเต๋ามาหลายปี น่าจะมีของดีเหลือทิ้งไว้อยู่?”

เยี่ยเทียนคิดได้ก็ขยับตัวเข้าไปทางเงาลางๆของกระเป๋าท่ามกลางหมอกควัน รอบบริเวณนี้ถูกกระสุนปืนใหญ่ทำลายไม่เหลือชิ้นดี ในรัศมีหลายกิโลเมตรยังมีไอควันดินระเบิดลอยคละคลุ้ง การเคลื่อนที่ของเยี่ยเทียนจึงมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ไม่ชัดนัก

“น่าสงสาร น่าสงสารจริงๆ!”

ไม่กี่นาทีต่อมา เยี่ยเทียนเข้ามาใกล้ร่างติงหงที่ถูกสายฟ้าฟาด เขามองร่างนั้นแล้วส่ายหัวอย่างเวทนา แม้ติงหงจะเป็นศัตรู แต่ภาพตรงหน้าทำให้เขารู้สึกทนดูไม่ได้

ครั้งแรกที่เยี่ยเทียนพบกับติงหงที่งานประมูลในนครหลวง ตอนนั้นท่าทางของติงหงดูเป็นนักพรตผู้แก่วิชา เป็นที่เคารพยำเกรงของผู้ที่ได้พบเห็น

ร่างของติงหงตอนนี้ไหม้เกรียมเป็นตอตะโก ส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบกว่านั้นถูกแรงสายฟ้าฟาดจนหดเล็กลง จนดูคล้ายกับรูปลักษณ์ของเด็กน้อยที่ยังเติบโตไม่เต็มที่

“คนตายเพราะความโลภ นกกาตายเพราะอาหาร หากไม่หวังในแร่ทองนั้นก็คงไม่ต้องมีจุดจบแบบนี้!”

สภาพจิตใจของเยี่ยเทียนตอนนี้รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะตนที่ชักนำให้ทหารรัสเซียมาที่นี่ ติงหงก็คงไม่ตาย

แน่นอนว่าอาจารย์เยี่ยเองไม่ได้คิดว่าตนเป็นคนดีหรอก เรื่องฆ่าคนเพื่อหวังผลเช่นนี้ เขาทำลงไปโดยไม่ได้รู้สึกผิด หลังจากที่เขาสวดบทส่งวิญญาณแล้ว ใช้สายตาสำรวจไปรอบๆร่างของนักพรตอีกครั้ง

“บ้าเอ๊ย เป็นถึงเจ้าสำนักหนึ่งแห่งหอประดิษฐ์วิเศษ ไม่มีของดีอะไรหลงเหลือเลยหรือ?”

มองทั่วดีแล้วเยี่ยเทียนรู้สึกหมดหวัง เขาผ่านเคราะห์อัสนีสวรรค์ครั้งนี้มาได้ ร่างกายของติงหงแหลกเหลวไปแล้วอาจจะไม่หลงเหลือวัตถุใดๆอีก

“เอ๋? ทำไมมีดบินถึงไม่หักนะ?”

ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ใกล้เข้ามาทุกที เยี่ยเทียนอยากจะรีบออกไปจากที่นี่ ขณะนั้นเองได้เหยียบถูกวัตถุแข็งอย่างหนึ่ง ก้มลงมองดูพบว่าเป็นมีดสั้นเล่มที่นักพรตคายออกมาจากปาก

เขายื่นมือลงไปเก็บขึ้นมา มีดสั้นที่แกะสลักลายเกล็ดปลาทั้งตัวอยู่ในมือของเยี่ยเทียน แม้สีสันของตัวมีดจะดูหมองคล้ำราวกับว่าพร้อมที่จะแตกสลายไปได้ทุกเมื่อ แต่ความคมกริบของมันยังรู้สึกถึงไอเย็นประหลาด

“มีดเล่มนี้ใช้ได้นี่ ดีกว่าของศิษย์น้องท่านอีก!”

เยี่ยเทียนได้เก็บชิ้นส่วนตำราเคล็ดวิชาการสร้างของวิเศษจากเก๋อข่ายศิษย์น้องของติงหง แค่อาศัยความรู้ที่จารึกอยู่บนนั้นทำให้เยี่ยเทียนรู้จักวิธีการแยกแยะของวิเศษ

มีดบินเล่มนี้สีแดงอัคนีทั้งด้าม แต่เมื่ออยู่ในมือกลับรู้สึกเย็นเยือก แสดงว่าทำจากวัสดุชนิดพิเศษ ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถต้านแรงสายฟ้าได้

เยี่ยเทียนเดาไม่ผิด ติงหงฝึกวิชาธาตุน้ำ เพื่อขัดเกลามีดสั้นที่เป็นของวิเศษแห่งชีวิตชิ้นนี้ ติงหงยังเคยหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของวิญญาณเร่ร่อน และได้รับน้ำแข็งดำหมื่นปีกลับมาด้วย

ติงหงใช้พลังลมปราณธาตุไฟฝึกฝนดัดแปลงน้ำแข็งดำก้อนนี้ถึงสามสิบกว่าปี ของสิ่งนี้เดิมทีเป็นของฤทธิ์เย็นที่สุด เมื่อได้พลังธาตุไฟเข้าไปจึงกลายมาเป็นวัสดุวิเศษที่ประเมินค่าไม่ได้ เมื่อมีดสั้นได้ออกเผชิญโลก คุณค่าของมันจึงเทียบเท่ากับของวิเศษชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว

หอประดิษฐ์วิเศษทุกวันนี้เสื่อมโทรมถดถอยลงมาก ไม่แน่ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับมีดบินเล่มนี้ก็ได้ เพราะของวิเศษหลายชิ้นในสำนักอาจจะถูกติงหงนำไปใช้กับมีดบินหมดแล้ว

ติงหงไม่เคยคิดเลยว่าที่เขาหล่อหลอมมีดบินมาด้วยความยากลำบากกลับเหมือนให้ประโยชน์เปล่าๆแก่เยี่ยเทียน ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ติงหงคงใช้มีดบินสังหารเยี่ยเทียนไปตั้งแต่ที่ปักกิ่งแล้ว

“อืม? มีตัวตายตัวแทนด้วย ฉันไม่ต้องสู้เป็นสู้ตายกับพวกแกอีกแล้วใช่ไหม?”

เก็บเอามีดใส่ลงในอกเสื้อ เยี่ยเทียนเงยหน้ามองดูเฮลิคอปเตอร์ที่บินเข้ามาใกล้ ใช้แค่เพียงความคิด ร่างทั้งร่างของเขาหายวับไปกับตา

…………

“รายงาน ในเขตพื้นที่หมายเลขหนึ่งมีศพอยู่ศพหนึ่งครับ!”

เห็นจากประสบการณ์ครั้งก่อนว่ากองทัพเฮลิคอปเตอร์ที่มาก่อนถูกจัดการกวาดล้างอย่างไรแล้ว กลุ่มเฮลิคอปเตอร์กลุ่มนี้เมื่อมาถึงสนามรบยังไม่เข้าไปในพื้นที่ทันที เพียงแต่รอสังเกตการณ์อยู่รอบนอกก่อน

ร่างอันไหม้เกรียมของติงหง ถูกพบเข้าโดยเจ้าหน้าที่สอดแนมบนเฮลิคอปเตอร์ แล้วรีบรายงานทางสัญญาณสื่อสารไร้สายกลับไปที่ศูนย์บัญชาการ

ได้ยินข่าวสารจากหน่วยเฮลิคอปเตอร์แล้ว กินเนสส์มีสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ เขาออกจะแน่ใจว่าคนที่มาในรัสเซียคนนี้ต้องเป็นมัจจุราชมาจุติแน่นอน แต่ทำไมถึงถูกคนธรรมดาจัดการเสียอยู่หมัดได้?

ข่าวที่ได้ยินทำให้กินเนสส์มีความหวังขึ้น รีบคว้าเอาวิทยุสื่อสารมาแล้วตะโกนกรอกเสียงลงไปว่า “ทุกหน่วยรายงานความคืบหน้าด้วย ให้แน่ใจว่าไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนได้เข้าไปในเขตพื้นที่หมายเลขหนึ่ง!”

“กองพลปืนใหญ่ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่หมายเลขหนึ่งเลยครับ!”

“กองกำลังที่สองก็ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เขตหมายเลขหนึ่งเช่นกันครับ!”

“พลร่มไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เขตหมายเลขหนึ่งครับ!”

ด้วยคำสั่งของกินเนสส์ทุกหน่วยส่งข้อความตอบกลับอย่างเคร่งครัด นอกจากหน่วยเฮลิคอปเตอร์ที่ตกไปแล้วหน่วยนั้น ก็ไม่มีหน่วยไหนได้เข้าไปในพื้นที่อีกเลย

“คำสั่งของฉัน แต่ละหน่วยเตรียมการต่อสู้พร้อมรบระดับหนึ่ง….”

กินเนสส์สั่งต่อด้วยเสียงสั่นเครือ เมื่อเป็นอย่างนี้ ร่างๆนั้นน่าจะเป็นผู้ที่เข้ามาก่อความไม่สงบในรัสเซียจนทำให้ทุกฝ่ายวุ่นวายไปหมดคนนั้นแน่

“หน่วยเฮลิคอปเตอร์ที่สอง พวกนายจงนำศพกลับมาอย่างระวังตัวด้วย!”

เมื่อออกคำสั่งแก่หน่วยเฮลิคอปเตอร์เรียบร้อย กินเนสส์รู้สึกเหมือนพลังงานในร่างกายถูกสูบออกไปหมดเกลี้ยง ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง

ในสายตาของคนอื่น ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ผมดำที่จอนทั้งสองข้างของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว ดูแก่และทรุดโทรมลงมาหลายสิบปี แสดงให้เห็นถึงความกดดันมหาศาลในช่วงนี้

กับสามวันเต็มๆที่สูญเสียพลทหารไปเกินพันคน ทั้งยังใช้ขีปนาวุธ Kh-555 ทั้งหน่วยเฮลิคอปเตอร์ทั้งยี่สิบกว่าลำถูกสอยร่วงทั้งหมด

ความเสียหายครั้งนี้เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรัสเซียนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง นี่ถือเป็นการข่มขวัญกองทัพรัสเซีย ความน่ากลัวไม่ต่างจากเหตุเครื่องบินพุ่งชนตึกสูงที่นิวยอร์คเท่าไหร่!

ถ้าศพนั้นไม่ใช่หัวหน้าคนร้ายแล้ว กินเนสส์ไม่รู้จะไปรายงานต่อผู้บังคับบัญชาและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเซอร์เกเยฟอย่างไรดี

ขณะที่ทหารกองเฮลิคอปเตอร์กำลังเก็บศพอยู่นั้น กองเครื่องบินรบจากไซบีเรียที่ออกบินจากฐานลับแห่งหนึ่ง บินวนอยู่รอบบริเวณที่ว่างเปล่าผืนนั้น เพื่อเป็นการคุ้มกันภัยให้แก่หน่วยเฮลิคอปเตอร์อีกที

นอกจากนี้ยังมีกองกำลังเสริมรออยู่ด้านนอกห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรกำลังออกเดินทางมาที่พื้นที่นี้ เพื่อทำการปูพรมค้นหาตามคำสั่งของวิคเตอร์ แม้แต่เศษผ้าของผู้ก่อการร้ายเพียงชิ้นเดียวก็ต้องหาจนพบ

ตอนนี้เมฆดำสลายไปหมดแล้ว ประเทศมหาอำนาจอื่นบนโลกต่างมองเห็นสภาพของรัสเซียผ่านทางดาวเทียม มันช่างน่าตกใจมาก หลายๆประเทศได้เริ่มวางแผลกลยุทธด้วยเหมือนกัน

“ท่านแม่ทัพ เราเก็บตัวอย่างยีนของเขาได้ไหมครับ?”

ประธานแห่งทำเนียบขาวมองภาพบนจอโทรทัศน์ด้วยความคาดหวัง เมื่อเมฆดำสลายไปหมด กล้องบนดาวเทียมได้จับจ้องไปที่ร่างไหม้เกรียมนั้น

“โครงการซุปเปอร์แมน” สมัยก่อนเกิดจากประธานทำเนียบขาวคนพ่อ เมื่อคนลูกขึ้นรับตำแหน่ง แผนการนี้จึงได้รับการใส่ใจเป็นพิเศษเพื่อหวังให้บรรลุจุดมุ่งหมายของผู้เป็นบิดา

ถ้าศพนั้นเป็นของคนๆนั้นจริง ไม่แน่ว่า “โครงการซุปเปอร์แมน” ที่ถูกหยุดเอาไว้จะได้พัฒนาให้ก้าวหน้าต่อก็เป็นได้

แม่ทัพสวมเครื่องแบบทหารเต็มยศ ส่ายหัวแล้วเอ่ยว่า “ท่านผู้บัญชาการ หมีขั้วโลกที่บาดเจ็บน่ะ เราไม่ควรจะไปยุ่งกับมัน?”

ใครต่างก็ดูออกว่าความเสียหายของกองทัพรัสเซียในครั้งนี้หนักหนาสาหัสแค่ไหน ความมั่นคงทางใจของกองทัพก็เปราะบางลงถึงที่สุด ในตอนนี้กองทัพอเมริกาอันเข้มแข็งยังไม่กล้าเข้ามาเสี่ยงด้วย

ไม่เพียงแต่กองทัพอเมริกา แม้แต่อังกฤษ ฝรั่งเศสหรือเยอรมัน เมื่อเห็นความเสียหายของรัสเซียในครั้งนี้ ต่างพากันละทิ้งความคิดที่จะเข้ามาช่วงชิงผลประโยชน์เพื่อรับช่วงต่อกองทัพของสหภาพโซเวียตแห่งรัสเซีย ซึ่งยังมีเขี้ยวเล็บแหลมคมหลงเหลืออยู่

“น่าเสียดาย คนมีพรสวรรค์แบบนี้ สุดท้ายต้องมาตายลง!”

ผู้บัญชาการอยู่ในฐานลับที่อยู่ใต้ดินลึกลงไปจากพื้นแผ่นดิน และสวมชุดแบบลำลอง แสดงท่าทางเสียดายเมื่อเห็นภาพบนจอ คนๆนี้ถ้าถูกเขาควบคุมไว้ได้ จะต้องเป็นกำลังรบสำคัญเพื่อต่อกรกับต่างชาติ

“อย่าคิดมากเลย เขาตายไปน่ะดีแล้ว คนแบบนี้เอามาเป็นพวกยาก ถ้าเกิดกลายเป็นศัตรูขึ้นมา จะไม่มีใครจัดการเขาได้”

ชายชราผู้สวมชุดทหารลายพรางส่ายหน้าช้าๆ ไม่ว่ายุคสมัยไหน เมื่อไหร่ก็ตามที่ “จอมยุทธใช้กำลังเข้าประหัตประหาร” เมื่อนั้นมักจะเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

ได้ยินดังนั้นแล้ว ชายอีกคนก็ครุ่นคิดอย่างหนัก

ด้วยกำลังรบของรัสเซีย ทั้งยังสถานที่อย่างไซบีเรียอันรกร้างโดดเดี่ยว จะต้องใช้กำลังอาวุธแล้วทรัพยากรมาแค่ไหนถึงหักล้างคนๆนั้นได้ลง ถ้าเป็นในอเมริกาคงจะเป็นเหมือนที่ชายชราว่า คือไม่มีทางทำอะไรคนๆนั้นได้เลย?

นอกจากเยี่ยเทียนแล้ว ไม่มีใครรู้เลยว่าติงหงไม่ได้ตายเพราะกองทัพรัสเซีย แต่เป็นเพราะถูกสายฟ้าแปลกประหลาดผ่าใส่จนตาย เยี่ยเทียนเองก็ไม่รู้ว่านั่นคือการรับเคราะห์อัสนีสวรรค์!

นอกจากร่างไหม้เกรียมนั่น ทางรัสเซียไม่ได้พบเบาะแสใดจากบริเวณที่ติงหงตายเลย หลังจากนั้นสองวัน ทางรัสเซียก็ประกาศแก่สาธารณชนว่า การซ้อมรบทางทหารในไซบีเรียได้จบลงแล้ว

ประเทศอื่นๆต่างยอมรับคำอธิบายนี้อย่างรู้ดี แต่ภายในคืนเดียวการเคลื่อนไหวของสายสืบในรัสเซียกลับเพิ่มมากขึ้นหลายสิบเท่า จนทำให้รัสเซียต้องต้องหันไปทำการชันสูตรศพของติงหงในค่ายทหารแทน

บนโลกนี้ไม่มีผนังไหนที่ไม่มีรอยรั่ว หลังจากนั้นสามวัน ศาสตราจารย์ที่ทำการชันสูตรศพนั้นหลุดปากบอกข่าวออกมา

เซลล์ในร่างที่ถูกฟ้าผ่าจนเสียชีวิตนั้น กลับยังมีเซลล์ที่ยังมีชีวิตอยู่รอด เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยพบมาก่อน หรือนี่อาจจะเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาวิจัยศาสตร์แห่งการชะลอวัยก็เป็นได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด