หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 30 : เทพกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจว

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 30 : เทพกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 30 : เทพกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจว

ดวงจันทร์สีขาวนวลล่องลอยอยู่บนฟากฟ้า ท่ามกลางค่ำคืนที่มืดสลัว

เหนือป้อมปราการเงาภูผา จางหรูหยูและหัวหน้าทั้งสาม กำลังฟาดฟันกันอย่างดุเดือด

ประกายดาบเปล่งประกายปลดปล่อยคลื่นลมกรรโชกแรง เหล่ากองโจรที่อยู่รอบ ๆ ดูจะกังวลมากและไม่กล้าที่จะเข้าใกล้

ไม่มีใครสักคนที่สังเกตเห็นโจวฉวนจีที่กำลังทำตามแผนของเขาเลยสักนิด

เขาเดินตรงไปยังเกวียนคุกของน้องสองก่อน และตัดแผ่นไม้ออกราวกับตัดเต้าหู้ ไม่นานนัก เขาก็ปล่อยตัวน้องสองออกมาได้

เด็กน้อยและเจ้าอินทรีไปซ่อนตัวอยู่หลังเจียงฉือน้อย

นักโทษทั้งหมดที่อยู่ในเกวียนคุกเมื่อเห็นรูปลักษณ์ของโจวฉวนจี พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงใด ๆ ออกมา

มันเป็นช่วงเวลาระหว่างความเป็นและความตาย ไม่มีใครในหมู่พวกเขาโง่พอจะส่งเสียงออกมาได้หรอกนะ

เขาเหวี่ยงดาบเบา ๆ และเปิดช่องทางออก จากนั้น เขาก็ยื่นมือออกไปเพื่ออุ้มเจียงฉือน้อยออกมา ส่วนคนอื่น ๆ ก็ตามออกมาด้วยเช่นกัน

“พวกเจ้าทั้งหมดต้องไปซ่อนตัวก่อน เจ้าห้ามประมาทเด็ดขาดถ้าจะหนีออกไปจากภูเขาลูกนี้” เขาออกคำสั่ง และไม่มีใครคัดค้านแต่อย่างใด

เขานำดาบหินกลายทองออกมา และส่งมันให้เจียงฉือน้อย ก่อนจะพูดว่า “ใช้นี่ในการป้องกันตัวเองนะ”

เธอรู้สึกตกใจก่อนจะถาม “เจ้าตั้งใจจะทำอะไรน่ะ?”

แค่มีเขาอยู่ข้าง ๆ ก็พอแล้ว ทำไมจะต้องมีของป้องกันตัวเองด้วยล่ะ?

จู่ ๆ เธอก็นึกอะไรบางอย่างออก และรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที

เขาพูดเบา ๆ ว่า “ไอเดรัจฉานพวกนี้มันต้องถูกกำจัดให้สิ้นซาก!”

แววตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เธอเลยเลิกคิดที่จะพยายามเกลี้ยกล่อมเขา

ในขณะเดียวกัน การต่อสู้ระหว่างจางหรูหยูและหัวหน้าทั้งสามก็เริ่มเข้าสู่ไคลแม็กซ์ ทั้งหัวหน้าที่สองและหัวหน้าที่สามต่างได้รับบาดเจ็บ

ในฐานะที่เป็นลูกชายของจางเถียนเจียน จางหรูหยูก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ด้วยดาบที่อยู่ในมือเขานี้ เขามีชัยเหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามมาก แม้ว่ามันจะยากลำบากก็ตาม

อย่างไรก็ตาม โจวฉวนจีก็มองออกว่า มันยากสำหรับจางหรูหยูที่จะล้มหัวหน้าทั้งสามลงได้

ดาบมังกรสีชาดและดาบคลื่นเหมันต์ปรากฎออกมา

วูบบบบบ! วูบบบบบ!

ดาบในตำนานสองเล่มบินไปในทิศทางตรงข้ามกับการต่อสู้ ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน เหล่าดาบต่างส่องแสงที่เย็นยะเยือก และตัดหัวเหล่ากองโจรทีละคน ๆ ให้ตายตรงนั้นทันที

ภายใน 3 ลมหายใจ กองโจรกว่าร้อยคนที่อยู่บนยอดเขาก็ถูกสังหารทั้งหมด

ภาพที่เกิดขึ้นทำให้เหล่านักโทษที่อยู่ข้างหลังโจวฉวนจีต่างเบิกตากว้างและอ้าปากค้างออกมา

“ใครกัน?”

หัวหน้าใหญ่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวระหว่างที่อยู่ในการต่อสู้ เขาได้เป็นพยานถึงการตายอย่างน่าอนาถของเหล่ากองโจรของเขา และนั่นทำให้เขาถูกครอบงำด้วยความโกรธ มากเสียจนเขาแทบจะเป็นลม

พวกเขาต่างเป็นเสาหลักของป้อมปราการเงาภูผา

โดยมีหัวหน้าใหญ่เป็นดั่งหัวใจหลักที่สูบฉีดเลือด

ดาบมังกรสีชาดและดาบคลื่นเหมันต์บินลงมาจากภูเขา และเริ่มสังหารโจรคนอื่น ๆ

หลังจากที่ขึ้นมาถึงระดับสร้างรากฐานมาได้ ประสาทสัมผัสของโจวฉวนจีก็แข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า เขาสามารถสัมผัสถึงปราณเฉพาะของโจรแต่ละคนได้ นอกจากนี้ระหว่างทางที่มาเขายังรับรู้สถานการณ์ภายในป้อมปราการเงาภูผาได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน

เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นภายในภูเขา และนั่นทำให้ป้อมปราการเงาภูผาราวกับกลายเป็นนรกเลยทีเดียว

หัวหน้าที่สามกระโดดขึ้นมาดูด้วยความกังวลใจ มีศัตรูมากกว่าหนึ่งงั้นหรอ?

หัวหน้าที่สองโกรธและคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราดใส่จางหรูหยูว่า “ไอสารเลว! เจ้าหลอกพวกข้า! นี่เจ้าพากำลังเสริมมาล้มพวกข้างั้นหรอ!”

จางเถียนเจียนนั่นเป็นถึงแม้ทัพแห่งอาณาจักรเหมันต์แดนใต้ เขามีทหารชั้นยอดอยู่ภายใต้บัญชาหลายแสนคน  ดังนั้นการถล่มป้อมปราการเงาภูผาถึงเป็นอะไรที่ง่ายมาก ๆ

จางหรูหยูเริ่มสับสน

ทหารพวกนี้เป็นของพ่อข้าจริง ๆ งั้นหรอ?

โจวฉวนจียังคงลอบเปิดทางให้เกวียนคุกคันอื่นอยู่ และนักโทษก็เริ่มหนีออกมามากขึ้นและมากยิ่งขึ้น เสียงเริ่มดังมากขึ้น และมากกว่าเดิมเมื่อพวกเขาหนีออกมาได้

ถึงหัวหน้าทั้งสามจะอยู่ระหว่างต่อสู้ แต่พวกเขาก็ยังสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ

หัวหน้าที่สองเหลือไปเห็นอะไรบางอย่างที่เด็กคนนึงกำลังทำ และดวงตาของเขาก้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันที ก่อนที่เขาจะใช้ดาบคู่พุ่งตรงไปยังเขา

ยามค่ำคืน เขารวดเร็วมากราวกับผี

โจวฉวนจีไม่ได้กลัวเขาแต่อย่างใจ ด้วยดาบผ่าวายุที่อยู่ในมือ เขาก้าวไปข้างหน้าด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่ และภาพเงาของเขาก็เริ่มเบลอ

ฟึดดดด —

หัวหน้าที่สามหยุดชะงักทันที เลือดพุ่งกระจายออกมาจากลำคอของเขาราวกับลูกศร

โจวฉวนจีปรากฎตัวอยู่หลังหัวหน้าที่สาม

“เป็นไป… ได้ยังไง…?”

ดวงตาของหัวหน้าที่สามเบิกโพล่ง และเขาถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเคลื่อน แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบประโยค เส้นเอ็นและกระดูกทั่วทั้งร่างของเขาก็ถูกตัดออก สายเลือดจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งกระจายออกมาจากร่างของเขา

จิตดาบสะบั้นสามชีพจร!

เชือดเฉือนทุกช่องทวารที่สำคัญของอีกฝ่ายในดาบเดียว!

วรยุทธของโจวฉวนจีนั้นไม่ได้สูงไปกว่าหัวหน้าที่สามนัก แต่ด้วยการรวมกันระหว่าง 8 ก้าวทะลวงกระบี่ และวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรแล้ว เขาก็สามารถฆ่าหัวหน้าที่สามได้ด้วยดาบเดียวเท่านั้น

เหล่านักโทษต่างตกอยู่ในความมึนงง

เด็กคนนี้ช่างทรงพลังยิ่งนัก!

เจียงฉือน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เธอรู้สึกตื่นเต้นมากจนปรบมือไม่หยุด

ฉวนจีของเธอช่างแข็งแกร่งจริง ๆ!

หัวหน้าที่สามอาจจะดูดุร้ายและไร้พ่าย แต่ก็ยังไม่เหมาะกับโจวฉวนจีอยู่ดี

จางหรูหยูที่อยู่กับหัวหน้าใหญ่และหัวหน้าที่สอง ก็สังเกตเห็นการตายที่น่าสยดสยองของหัวหน้าที่สาม ทั้งสามเริ่มหยุดสู้ก่อนจะถอยห่างออกจากกัน

“เจ้าจะเอายังไง?”

หัวหน้าใหญ่ถามพลางกัดฟัน แม้แต่เขาก็ยังไม่สามารถที่จะฆ่าหัวหน้าที่สามได้เพียงดาบเดียวได้ เขาทั้งรู้สึกโกรธและตกใจ

มันอาจจะเป็นใครสักคนที่อยู่ระดับบรรลุญาณก็ได้?

หรือพวกมันอาจจะอยู่ถึงระดับบัวภายในซะด้วยซ้ำ…

โจวฉวนจีเดินตรงไปยังพวกเขาพร้อมกับดาบของตนเอง และแอบรู้สึกโล่งอกอยู่ภายในใจ

เขาอาจจะไม่สามารถล้ม 3 หัวหน้าได้ถ้าพวกเขาสู้กันแบบตัวต่อตัว แต่ด้วยการที่เขาสามารถฆ่าหน้าที่สามด้วยดาบเดียวได้ เลยทำให้หัวหน้าอีกสองคนตกอยู่ในอาการตกใจสุด ๆ

และนั่น เลยทำให้หัวหน้าทั้งสองประเมินพลังของโจวฉวนจีไว้สูงสุด ๆ

“ข้า เทพกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจว มาที่นี่เพื่อความยุติธรรมในนามแห่งตัวแทนของสรวงสวรรค์!”

เขาคำรามออกมาด้วยความเยือกเย็น น้ำเสียงที่แสนอ่อนโยนของเขาดังก้องไปทั่วทั้งภูเขา

เขาพุ่งตรงไปยังหัวหน้าที่สองด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่

หัวหน้าใหญ่อยากที่จะช่วย แต่ก็ถูกจางหรูหยูขวางเอาไว้เสียก่อน

ขณะที่โจวฉวนจีพุ่งเข้าใส่เขาอย่างเกรี้ยวกราด หัวหน้าที่สองก็เหงื่อแตกด้วยความกลัว เขาเหวี่ยงง้าวจีนออกมาและกระแทกลงพื้นทันที

บู้ม!

พื้นผิวดินแตกระแหง ปราณที่ออกมาจากง้าวจีนของเขากระเพื่อมออกไปในรูปลักษณ์ของใยแมงมุม

เมื่อโจวฉวนจีร่อนลงสู่พื้น เขาก็รู้สึกได้ถึงปราณเข็มมีดนับไม่ถ้วนกวาดเข้าหาตัวเขา ซึ่งมันมากพอที่จะทำให้เขาแหลกเป็นชิ้น ๆ ได้ โจวฉวนจีจึงใช้งาน 8 ก้าวทะลวงกระบี่อีกครั้งด้วยความกลัว และพุ่งตรงไปยังด้านข้างของหัวหน้าที่สอง

ถึงแม้หัวหน้าที่สองจะมองไม่เห็นเขาในตอนกลางคืน แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานมา

เขาเลยฟันไปทางด้านข้างของเขาพลางร้องออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

อย่างไรก็ตาม ดาบผ่าวายุของโจวฉวนจีนั้นก็เร็วเอามาก ๆ!

ดาบของเขาประกายแสงก่อนจะมีเลือดพุ่งออกมา ทุกช่องทวารที่สำคัญทั่วร่างของหัวหน้าที่สองถูกสะบั้นออก และสัญญาณชีวิตของเขาก็หายไปในทันที

ตุบ

เขาล้มลงกับพื้น และตายโดยสมบูรณ์

เมื่อเห็นแบบนั้น หัวหน้าใหญ่ก็เริ่มสั้นด้วยความกลัว

เขาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “เทพกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจว… พวกข้าไม่เคยมีความขุ่นเคืองหรือเป็นศัตรูใด ๆ กับท่านมาก่อนเลยนะ…”

จางหรูหยูก็รู้สึกประหลาดใจอยู่ข้างใน เทพกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจวนี่มันใครกัน?

คนที่ทรงพลังขนาดนี้ ทำไมเขาถึงไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเขามาก่อนเลยนะ?

แต่ที่สำคัญที่สุดคือ…

คน ๆ นี้ดูจะยังเป็นแค่เด็กเท่านั้นเอง…

โจวฉวนจีเดินตรงไปยังหัวหน้าใหญ่ก่อนจะถอนหายใจด้วยความรำคาญออกมา “ข้า เทพกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจว ใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อกำจัดพวกชั่วช้า ตราบเท่าที่เจ้ายังทำชั่วอยู่ นั่นก็มากพอจะนับว่าเจ้าและข้าเป็นศัตรูกันแล้ว!”

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็พุ่งตรงไปยังหัวหน้าใหญ่

เขาไม่มีปัญหากับการฆ่าพวกชั่วแบบนี้เลยสักนิด

หัวหน้าใหญ่รีบหันหนีทันที เขาวิ่งไปยังริมผาก่อนจะกระโดดลงไป พัดเหล็กปรากฎขึ้นใต้เท้าของเขาก่อนจะบินหนีไป

ชายคนนี้หนีเร็วมากเสียจนโจวฉวนจีก็ยังตามไม่ทัน

โจวฉวนจีถอนหายใจ เขาหัวไปรอบ ๆ ก่อนจะพูดขึ้น “ทุกคน ถึงเวลาหนีแล้ว!”

หัวหน้าทั้งสามและเหล่าโจรชั้นยอดของพวกป้อมปราการเงาภูผาก็ตายหมดแล้ว พวกที่เหลือรอดและพวกหัวหลักหัวตอจึงต้านทานความโกรธเกรี้ยวของเหล่านักโทษไม่ได้อีกต่อไป

เหล่านักโทษต่างรู้สึกตกใจกับสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ตั้งสติกลับมาได้

“พวกเรารอดแล้ว!”

“ท่านเทพกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจวสุดยอด!”

“เขาช่างสมกับเป็นเทพกระบี่จริง ๆ! พวกชั่วทั้ง 3 นั่นถูกเขาล้มได้ด้วยการโจมตีเดียวเท่านั้น!”

“เร็วเข้า วิ่งกันเถอะ!”

“จะวิ่งหนีจากอะไรล่ะ? ยังไงพวกป้อมปราการเงาภูผาก็ไม่มีอีกแล้วตั้งแต่นี้ไปหนิ!”

เหล่านักโทษต่างโห่ร้อง พวกเขารู้สึกประทับใจมากเสียจนร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ

โจวฉวนจีรีบหยิบเอากระเป๋าเก็บของและแหวนของหัวหน้าที่สองและหัวหน้าที่สามไปทันที

ส่วนเจียงฉือน้อยและน้องสองก็ตามหลังเขาอยู่ใกล้ๆ

เขาไม่ได้รีบออกไปทันที และเริ่มปล้นของภายในป้อมปราการเงาภูผา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด