หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 32 : 8 ปี กับดาบเสียงสวรรค์

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 32 : 8 ปี กับดาบเสียงสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อ่านโดจิน doujinza.com

ตอนที่ 32 : 8 ปี กับดาบเสียงสวรรค์

“ติ๊ง! ยินดีด้วย ท่านเจ้าของดาบได้รับ [ระดับเงิน] ดาบเสียงสวรรค์ และบัวเขียวแก่นทมิฬ”

เมื่อโจวฉวนจีอายุครบ 8 ปี เขาก็ได้รับดาบในตำนานเพิ่มขึ้นอีกเล่มหนึ่ง

แถมยังเป็นดาบในตำนานระดับเงินอีก!

และข้อความสามบรรทัดก็ปรากฎขึ้นต่อหน้าเขา

ชื่อดาบ : ดาบเสียงสวรรค์

ระดับ : เงิน

คำอธิบาย : เป็นดาบที่ถูกตีขึ้นมาจากแร่เสียงสวรรค์ การสั่นสะเทือนของใบดาบจะสร้างเสียงสวรรค์ขึ้นมา และส่งผลลวงจิตใจของอีกฝ่ายได้

ดาบเสียงสวรรค์ปรากฎขึ้นบนมือเขา ตัวดาบนั้นมีสีเงินและดูงดงามมาก งูสีเงิน 2 ตัวพันรอบด้ามดาบโดยส่วนหัวของมันหันลงด้านล่าง

เขาลองกวัดแกว่งดาบดู และมันก็สร้างคลื่นเสียงต่ำออกมา ช่างวิเศษจริง ๆ

หลังจากนั้นเขาก็ตรวจสอบข้อมูลคุณสมบัติของตัวเขา

เจ้าของดาบ : โจวฉวนจี

เชื้อสาย : สายเลือดราชวงศ์แห่งมหาจักรวรรดิโจว

อายุ : 8 ปี

วรยุทธ : ระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 4

วิชาปราณ : อาคมกายทองคำ

วิชาดาบ : วิชาดาบกระเรียนขาว, วิชากระบี่เพลิงกัลป์, วิชา 8 ก้าวทะลวงกระบี่, วิชาดาบสะบั้นสามชีพจร

ทักษะพิเศษ : ไม่มี

พรสวรรค์ : ทักษะการทำหลายอย่างพร้อมกัน

ดาบ : [ระดับเงิน] ดาบมังกรสีชาด, [ระดับสัมฤทธิ์] ดาบคลื่นเหมันต์, [ระดับเงิน] ดาบชโลมโลหิต, [ระดับสัมฤทธิ์] ดาบพยัคฆ์คำราม, [ระดับสัมฤทธิ์] ดาบผ่าวายุ, [ระดับเหล็ก] ดาบเด็ดสุกร, [ระดับเงิน] ดาบหินกลายทอง, [ระดับเงิน] ดาบเสียงสวรรค์

ในครึ่งปี เขาก็ขึ้นไปถึงระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 4 ได้สำเร็จ ขณะที่เจียงฉือน้อยก็ขึ้นระดับรักษาปราณขั้นที่ 8 ได้เช่นกัน พวกเขาต่างฝึกกันหนักมากทั้งกลางวันและกลางคืน แล้วยังมีหินวิญญาณคอยช่วยอีก เลยทำให้พัฒนาการของพวกเขาเลยไปเร็วกันมาก

ตอนนี้เขาก็อายุ 8 ปีแล้ว และมีอีกรายการที่เพิ่มขึ้นมาในข้อมูลคุณสมบัติของตัวเขา นั่นก็คือ อายุ

ดูเหมือนว่า ยิ่งเขาแข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไหร่ ข้อมูลคุณสมบัติของตัวเขาก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

“น่าเสียดาย เมื่อไหร่ข้าจะได้ดาบในตำนานระดับทองหรือระดับอเมทิสต์บ้างนะ?”

โจวฉวนจีเบ้ปากพลางรู้สึกเซ็ง

ดาบในตำนานระดับเงินนั้นล้วนมีคุณสมบัติเฉพาะตัว นั่นเลยทำให้มันทรงพลังพอที่จะใช้ได้สำหรับเขา

แต่อย่างไรก็ตาม จิตใจมนุษย์นั้นมีความโลภเสมอ

“จิตวิญญาณแห่งดาบ แล้วบัวเขียวแก่นทมิฬนี่ใช้งานยังไงหรอ?”

เขาถามด้วยความสงสัย ยังไงดาบในตำนานที่ได้ในแต่ละปีก็เป็นของขั้นต่ำที่ต้องได้อยู่แล้ว ถ้าไม่มีของพิเศษอย่างอื่นด้วยล่ะก็ มันก็คงเป็นวันเกิดที่น่าเบื่อแย่เลยล่ะ

“มันคือสมบัติที่ใช้เพื่อทำให้ร่างกายสงบและชำระล้างจิตใจให้บริสุทธ์ โดยจะได้ผลดีที่สุดเมื่อนำเข้าผ่านปาก”

จิตวิญญาณแห่งดาบตอบทันที และบัวเขียวแก่นทมิฬก็ปรากฎขึ้นบนมือเขา

มันเป็นพืชสีเขียวไร้ใบ ที่มีเมล็ดขนาดเท่านิ้วโป้ง และสีเขียวจำนวน 6 เมล็ด

จู่ ๆ โจวฉวนจีก็ตะโกนเรียนขึ้นมา “ท่านพี่! มานี่เร็ว!”

เขานั่งลงข้างทะเลสาป ขณะที่เจียงฉือน้อยยุ่งอยู่กับการซ่อมชิงช้า

เมื่อวานตอนกลางคืน น้องสองทำชิงช้าพังในตอนที่มันพยายามจะนั่งลงบนชิงช้า การนั่งชิงช้ากับโจวฉวนจีนั้นเป็นกิจกรรมโปรดของเจียงฉือน้อยเลย และในบางคืนเธอก็ทำกับเขาเหมือนของเล่น ด้วยการเล่นเป็นคนผลักชิงช้าและให้เขานั่งแกว่งนานเป็นชั่วโมง เธอรู้สึกเศร้าที่ชิงช้าพังสุด ๆ

ส่วนโจวฉวนจีเองก็ไม่อยากจะ ‘ทดสอบ’ ว่ามันยังใช้งานได้อยู่รึเปล่า เขาเลยไม่คิดจะช่วย

“ทำไมหรอ?”

เจียงฉือน้อยตะโกนพร้อมทั้งเดินมาทางเขาด้วยท่าทางที่โกรธ เธอยืนเท้าสะเอวพลางทำแก้มป่อง ความไม่พอใจแสดงอยู่บนใบหน้าเธออย่างชัดเจน

โจวฉวนจีเมินสีหน้าของเธอก่อนจะพูดว่า “นี่คือบัวเขียวแก่นทมิฬ ลองกินดูสิ มันดีต่อร่างกายนะ มากินกันคนละ 3 เมล็ดนะ”

เจียงฉือน้อยย่อตัวลง และถามด้วยความสงสัย “เจ้าไปเอามันมาจากไหนน่ะ?”

โจวฉวนจีหยิบออกมาเมล็ดนึง ก่อนจะยัดใส่ปากตัวเองและเคี้ยวทันที

ในเวลาถัดมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปสุด ๆ

เหี้ยไรเนี่ย!

มีขี้อยู่ข้างในรึไง?

หยะแหยงอ่ะ!

โจวฉวนจีแทบจะพ่นมันออกมา เจียงฉือน้อยที่เห็นเขาทำสีหน้าแบบนั้นก็หันกลับวิ่งหนีทันที

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

โจวฉวนจีลุกขึ้นทันที ก่อนจะเริ่มวิ่งไล่ตามเจียงฉือน้อยด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่ เขาอุ้มเจียงฉือน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะยัดเมล็ดบัวเขียวแก่นทมิฬเข้าปากเธออย่างรวดเร็ว

เจียงฉือน้อยเผลอเคี้ยวมันไปตามสัญชาตญาณ และสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปในทันทีเหมือนโจวฉวนจี

เธออยากจะคายมันออกมา แต่โจวฉวนจีก็ปิดปากเธอเอาไว้

“มันคือยาอายุวัฒนะ อย่าทำให้มันเสียเปล่าสิ ดูข้านี่” เขาพูด ก่อนจะกลืนบัวเขียวแก่นทมิฬลงไป

จากนั้นเขาก็เอาบัวเขียวแก่นทมิฬอีก 2 เมล็ดยัดเข้าปากก่อนจะเคี้ยวมัน

เจียงฉือน้อยดูจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก่อนที่เธอจะได้ถาม เธอก็รู้สึกได้ว่าบัวเขียวแก่นทมิฬเริ่มให้ความรู้สึกที่เย็นสบายและไหลเข้าสู่ช่องทวารทั่วร่างของเธอ

โจวฉวนจีก็รู้สึกเช่นกัน

เขานั่งลงขัดสมาธิทันที และเริ่มใช้วิชาปราณ

เมื่อเห็นแบบนั้น เจียงฉือน้อยก็นั่งลงตาม

ถึงเมล็ดมันจะเล็ก แต่ข้างในกลับแฝงไปด้วยพลังอันมหาศาล

เขาตื่นเต้นสุด ๆ และยังรู้สึกได้เลย ว่าเขาสามารถบรรลุขั้นที่ 2 ของอาคมกายทองคำ กายาโลหะ ได้!

ปราณวิญญาณรวมตัวกันก่อนจะไหลไปทั่วร่างของพวกเขา

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

โจวฉวนจีก็ขึ้นสู่ระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 5 ได้สำเร็จ และในเวลาเดียวกัน เขาก็บรรลุกายาโลหะได้เหมือนกัน บนผิวหนังของเขาปรากฎให้เห็นถึงเงาสีทองจาง ๆ ที่ฉาบบนผิวไว้

เจียงฉือน้อยก็กินเมล็ดบัวไป 3 เมล็ดเช่นกัน และวรยุทธของเธอก็เลื่อนไปยังระดับรักษาปราณขั้นที่ 10 ทันที

หลังจากที่เลื่อนระดับขึ้นมาได้ เด็กน้อยวัย 8 ขวบก็รู้สึกเหมือนกับว่า ทั่วทั้งตัวของเขาเคลือบไปด้วยโคลน เขาเลยลุกไปอาบน้ำที่ทะเลสาบ

เด็กสาวก็ลุกขึ้นเช่นเดียวกัน ก่อนจะวิ่งตรงไปหาเขา เธอกอดรอบคอของเขาเอาไว้พลางหัวเราะคิกคัก “ฉวนจี เจ้าช่างดีต่อข้าจริง ๆ”

“ตัวเจ้าทั้งเหนียวทั้งเหม็นสุด ๆ ออกไปห่าง ๆ ข้าเลยนะ!” เขาพูดอย่างรังเกียจ

“ไม่มีทางซะหรอก ข้าจะถูโคลนให้ทั่วตัวเจ้าเลย!”

“พระเจ้า… เจ้าเป็นเด็กผู้หญิงนะ เจ้าไม่ควรทำอะไรแบบนี้สิ!”

“มาตอนนี้เจ้ากลัวแล้วหรอ เจ้าน้องชาย? มานี่มา ข้าจะถูโคลนให้ทั่วตัวเจ้ามากกว่านี้อีก!”

“ไปไกล ๆ เลยไป!”

พวกเขาทั้งสองเล่นกันขณะที่เดินลงไปในทะเลสาบ มันทำให้เขาปวดหัวมากทีเดียว

นี่เธอเริ่มจะเข้าสู่วัยแรกรุ่นละรึไง?

เธอนี่ชอบแหย่กับแกล้งเขาเล่นมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ!

ณ คฤหาสน์ตระกูลจาง ในเมืองหลวงอาณาจักรเหมันต์แดนใต้

ที่ลานหน้าบ้าน จางหรูหยูกำลังฝึกวิชาดาบ ในขณะที่พ่อของเขานั่งอยู่ในศาลา เขาดื่นไวน์พลางเฝ้าสังเกตลูกชายของเขา

เขาพยักหน้าให้อยู่หลายครั้ง และส่ายหัวให้คนอื่น

ในตอนนั้นเอง ทหารสวมชุดเกราะเหล็กเดินเข้าไปยังศาลา เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “ท่านแม่ทัพ มีข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับเทพกระบี่โจวครับ”

“บอกข้ามา” จางเถียนเจียนพูดพลางวางแก้วไวน์ลง

ลูกชายของเขาหยุดฝึก และเริ่มเข้ามาฟังใกล้ ๆ

“เมื่อ 3 วันก่อน บนยอดเขาเนินโลหิต เฉิงเฟิงหลงที่อยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 10 ถูกเทพกระบี่โจวตัดหัว ส่วนเหล่าโจรเกินครึ่งของคนกว่า 1200 ไม่ตายก็บาดเจ็บครับ”

นายทหารพึมพำออกมา น้ำเสียงของเขาแสดงถึงความประหลายใจมาก

ถึงแม้เฉิงเฟิงหลงจะอยู่แค่ระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 10 แต่เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงได้เพราะสังหารจอมยุทธ์ทรงพลังที่อยู่ระดับบรรลุญาณได้

จางเถียนเจียนหรี่ตาลงพลางถาม “แล้วเทพกระบี่โจวใช้กี่กระบวนท่ากัน?”

“ตามรายงานของผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ เทพกระบี่โจวใช้เพียง 2 กระบวนท่า หนึ่งสำหรับการฆ่า และอีกหนึ่งสำหรับการตัดหัวครับ”

ทหารนายนั้นตอบ และใบหน้าของจางเถียนเจียนก็เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เขาถาม “แล้วเทพกระบี่โจวได้ปล้นสมบัติที่อยู่บนยอดเขาเนินโลหิตเหมือนปกติมั้ย?”

“ครับ ไม่เหลือแม้แต่หินวิญญาณสักก้อนเดียวเลย” ทหารนายนั้นพยักหน้า

จางเถียนเจียนเริ่มหัวเราะขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ก่อนจะพูดอย่างขุ่นเคืองว่า “แหม เทพกระบี่โจวผู้มีเมตตาและเที่ยงธรรมงั้นหรอ เขาดูไม่สมกับฉายาแบบนั้นเลยสักนิด ที่เขาทำก็แค่ไปที่นั่นเพื่อสมบัติเท่านั้นเอง”

เทพกระบี่โจวผู้มีเมตตาและเที่ยงธรรม!

คนที่ถูกช่วยมาเรียกโจวฉวนจีแบบนั้น

หลังจากที่โจวฉวนจีเอาชนะศัตรูได้ เขาจะช่วยเหลือเหยื่อก่อนจะทำการปล้น นั่นเลยทำให้เหยื่อที่ถูกช่วยเอาไว้รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจดี

“ท่านพ่อ เทพกระบี่โจวเขาเป็นคนที่มีเมตตาและเที่ยงธรรมจริง ๆ นะ!”

จางหรูหยูพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ เทพกระบี่โจวนั้นเป็นถึงไอดอลของเขา เขาเลยทนไม่ได้ที่ท่านพ่อเกิดความสงสัยในตัวไอดอลของเขา

พ่อของเขาจ้องกลับไปยังเขาและพูดว่า “จงอย่าถูกภายนอกหลอกเอาได้ ปรมาจารย์แห่งวิถีดาบที่แท้จริงนั้นจะไม่ทำตัวไม่เหมาะสมเช่นนั้น”

“ท่านพ่อ แต่เทพกระบี่โจวเขาสมควรกับฉายาเทพกระบี่จริง ๆ นะ แม้แต่ท่านก็อาจจะล้มเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ!” เขาตอบอย่างฉุนเฉียว

เมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของจางเถียนเจียนก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชาในทันที

เขาเป็นถึงจอมกระบี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งอาณาจักเหมันต์แดนใต้เชียวนะ!

เขาจะมาแพ้ให้กับคนอย่างเทพกระบี่โจว ที่รู้เพียงวิธีสู้กับจอมยุทธ์ระดับสร้างรากฐานได้ยังไงกัน?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด