หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 38 : เมื่อมนุษย์และดาบรวมเป็นหนึ่ง ทั้งโลกาก็มิอาจมีผู้ใดเทียม

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 38 : เมื่อมนุษย์และดาบรวมเป็นหนึ่ง ทั้งโลกาก็มิอาจมีผู้ใดเทียม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 38 : เมื่อมนุษย์และดาบรวมเป็นหนึ่ง ทั้งโลกาก็มิอาจมีผู้ใดเทียม

 

ผู้คนนับพันต่างตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าคนแรกที่ได้รับ บาดแผลจะกลายเป็นจอมกระบีแดนเหนือผู้องอาจ 

 

หรือเทพกระบี่โจวจะแข็งแกร่งจริง ๆ กัน?

 

“ไอลูกกะ*** เจ้ากล้าแทงข้าจากด้านหลังงั้นหรอ?! เดี๋ยวเจ้าไม่ได้ตายดีแน่!”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเริ่มเกรี้ยวกราดและตะโกนออกมาด้วยน้ําเสียงที่ทุ่มต่ํา เขาเตือนเหล่าผู้ที่ได้ชมการต่อสู้ถึงสิ่งที่พวกเขาอาจจะยังไม่รู้

 

ใช่แล้ว!

 

มันก็แค่การแทงจากข้างหลังเท่านั้นแหละ!

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจยกดาบขึ้นและพุ่งเข้าใส่โจวฉวนจีในคราวนี้เขาจะเอาจริงแล้ว

 

โจวฉวนจีถือดาบราชาโลกันตร์ไว้ในมือข้างหนึ่ง และอีกข้างถือดาบผ่าวายุเอาไว้ การพุ่งเข้าใส่ของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจไม่ได้ทําให้เขาถอยร่นแต่อย่างใด แต่กลับพุ่งเข้าใส่สวนแทน

โจวฉวนจไม่คิดจะประมาทแม้แต่น้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับจอมยุทธทรงพลังที่อยู่ระดับบรรลุญาณ

 

เขาเริ่มใช้จิตดาบกระเรียนขาวในมือขวาและใช้จิตกระบี่เพ ลิงกัลป์ในมือซ้าย

 

ด้วยสองจิตดาบที่ห่อหุ้มไปทั่วกายของเขา ปราณทั่วร่างของเขาก็เริ่มพุ่งพล่าน

 

ในเวลาเดียวกัน ที่หน้าต่างของโรงเตี้ยมที่อยู่ไกลออกไปชายในชุดสีม่วงก็เบิกตากว้างอ้าปากค้าง

 

เสี่ยวเฉิงเฟิงและคุณนายจือฉุยก็ตกใจไม่แพ้กัน

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจที่รู้สึกตกใจกับการใช้จิตดาบคู่ของฝ่ายตรงข้าม ก็เผลอถอยหลังออกมาตามสัญชาตญาณ

 

เขาเองก็มีจิตดาบเหมือนกัน และภูมิใจในจิตดาบของตัวเองมากด้วย

 

“ใช้สองจิตดาบพร้อมกันเนี่ยนะ?”

 

“เป็นไปได้ยังไง? แม้แต่จักรพรรดิกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจวหรือจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์ยังทําไม่ได้เลยนะ!”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจตกอยู่ในความสับสน เขาเริ่มใช้จิตดาบทันที รูปลักษณ์ภายนอกของเขาเปลี่ยนไปโดยพลันจนเกิดลมกรรโชกแรงล้อมรอบทั่วร่างของเขา

 

โจวฉวนจีพุ่งเข้าใส่ด้านหลังของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่ และฟันเขาด้วยดาบทั้งสอง

 

ความเร็วในการโจมตีของเขานั้นเหนือยิ่งกว่าระดับสร้างรากฐานเสียอีก สายตาของผู้ชมการต่อสู้ส่วนใหญ่ก็ไม่อาจจะมองตามความเร็วของเขาทันได้

 

แกรั้ง! แกรั้ง! อึ้ง! แกรง

 

ดาบของโจวฉวนจีนั้นราวกับสายลม แต่ดาบของคู่ต่อสู้ก็รวดเร็วไม่ต่างกัน ดาบทั้ง 3 ปะทะกันด้วยความเร็วสูง จนเงาดาบที่กําลังร่ายรําอยู่นั้นราวกับแสงอันเย็นยะเยือกที่สะท้อนออกมาจากดาบ

 

ทั้งคู่ต่างฟาดฟันใส่กันครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่มีใครได้เปรี ยบ

ครึ่งร่างของโจวฉวนจีนั้นลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง ตัวของเขานั้นราวกับกระเรียนขาวที่ทั้งรวดเร็วและว่องไว

 

การกวัดแกว่งดาบของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจนั้นทั้ง แข็งแกร่งและหนักหน่วง ดาบที่อยู่ในมือของเขานั้นดูราวกับถูกห่อหุ้มไว้ด้วยแสงไฟสีแดง ลมกรรโชกรุนแรงเกิดขึ้นในรัศมี100 หลารอบตัวทั้ง 2 ฝ่าย

 

ผู้ชมนับพันต่างอ้าปากค้าง และเบิกตากว้างตกใจ

 

เทพกระบโจวสุดยอดพอ ๆ กับจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเลย!

 

ทั่วพื้นที่ต่างตกอยู่ในความเงียบ จนได้ยินแม้แต่เสียงเข็มหมุดหล่น!

 

เจียงฉือน้อยที่อยู่ตรงหน้าต่างในห้องพัก ก็คอยเฝ้าดูการต่อสู้ด้วยความกังวลใจ เธอกุมมือไว้ที่หน้าอกหน้าอกพลางขยับปากสวดมนต์ “ฉวนจี. เจ้าต้องชนะเจ้าต้องชนะ…”

 

ณ อีกโรงเตี้ยม

 

.

ชายในชุดสีม่วงลูบคางพลางบ่นพึมพํา “เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ที่หาตัวจับได้ยากในวิถีแห่งกระบี่จริง ๆ ข้าคิดว่าข้าใช้เขาได้นะ”

 

ตาแก่ชิงจ้องมองไปยังจอมกระบี่ตัวน้อยและพยักหน้าให้ “ใช้สองจิตดาบพร้อมกันงั้นหรอ เจ้าเด็กนี่มันมีของเหมือนกัน นะ”

 

อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวเฉิงเฟิงกําหมัดแน่น สายตาของเขาจับจ้องไปยังเด็กที่ถือดาบคู่ พลางคิดว่าเขากําลังเห็นบางสิ่งที่ไม่อาจจะหยั่งถึงได้

 

ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นถึงกับอ้าปากค้าง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสน

 

มีเพียงเสียงดาบกระทบกระทั่งกันที่ดังไปทั่ว

 

จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งตะโกนดังลั่นขึ้นมา “ท่านเทพกระบี่โจวแข็งแกร่งที่สุด! กระทับมันให้ยับเลย!”

 

และเจ้าของเสียงนั้นก็คือ จางหรูหยู นั่นเอง!

 

เสียงของเขาแตกพล่านไปด้วยความตื่นเต้น

 

โจวฉวนจีรู้สึกได้ว่า จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจกําลังค่อยๆชินกับจิตดาบคู่ของเขา และรู้สึกได้ว่ามันกําลังจะแย่ลงเรื่อย

 

มันต่างกับตอนที่เขาประลองดาบกับเสี่ยวจิงหง เพราะจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจใช้วรยุทธของเขาด้วย มันเลยช่วยให้ใช้จิตดาบที่มีเพียงจิตเดียวได้อย่างเต็มที่

 

“ดูเหมือนว่าข้าต้องรีบจบการต่อสู้นี้ให้ไวแล้วสินะ!” เขาเริ่มตัดสินใจภายในใจ เขาเคลื่อนตัวไปยังด้านหลังของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจอีกครั้งด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่ 

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจหัวเราะอย่างดูถูก และฟันไปยังด้านหน้าของเขา แต่ก็พลาด

 

โจวฉวนจีถอยห่างออกจากเขาไปไกล 10 หลา และไม่โจมที่สวน

“ทําไมล่ะ? หรือเจ้ากลัวแล้วอย่างงั้นน่ะหรอ?”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจถามอย่างเย้ยหยัน ขณะที่เขาพูด เขาก็สะบัดมือขวาและดาบของเขาก็ฟาดเข้าที่พื้นข้างๆเท้าของเขาจนเป็นหลุมเล็ก ๆ

 

โจวฉวนจีเก็บดาบผ่าวายุเข้าสุดยอดช่องเก็บของและหยุดใช้จิตดาบ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ข้าเล่นมามากพอแล้ว ต่อจากนี้ข้าจะล้มเจ้าด้วยดาบเดียวเอง”

 

ด้วยคําพูดที่อาจหาญสุด ๆ นั่น สร้างความโกลาหลใหญ่ขึ้น

มา

 

ด้วยดาบเดียวเนี่ยนะ?

 

มันทําให้ผู้คนนึกถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเทพกระบี่โจว เรื่องที่เขามักจะสังหารศัตรูด้วยดาบเดียวเสมอ

 

หากเป็นก่อนที่จะเริ่มสู้ พวกเขาก็คงจะคิดว่าเทพกระบี่โจวก็คงโกหกไปเท่านั้น แต่มาตอนนี้ เหล่าผู้คนต่างได้เป็นสักขีพยานถึงการต่อสู้ระหว่างทั้งสอง จึงเริ่มเชื่อจริง ๆ แล้วว่าเทพกระบีโจวนั้นทรงพลังอย่างแท้จริง

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังราวกับเขากําลังได้ยินเรื่องที่น่าตลกที่สุดในโลก

เขายกดาบที่อยู่ในมือเขาขึ้นมา และชี้ตรงไปยังโจวฉวนจีก่อนจะพูดว่า “เจ้าคิดจะล้มข้าด้วยดาบเดียวอย่างงั้นน่ะหรอ?เจ้าไม่…”

 

ฉีกกก!

 

มือขวาของโจวฉวนจีก็ยื่นตรงไปยังข้างหน้าของเขาด้วยการก้าวเพียงครั้งเดียว และแทงดาบออกไปนับครั้งไม่ถ้วนด้วยดาบราชาโลกันตร์ ตอนนั้นเองที่เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกดอันมหาศาลที่กดตัวเขาเอาไว้ เมื่อรวมเข้ากับการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมากของอีกฝ่าย มันก็ทําให้ตอบสนองกลับไม่ทัน 

 

จิตดาบสะบั้นสามชีพจร!

 

จิตดาบสั้นหรอ!

 

ดาบในตํานานระดับทองกับพลังทําลายล้างมหาศาลที่น่าพรั่นพรึง!

 

ฟื้ดดดด

 

เลือดพุ่งออกมาจากทั่วร่างของเขา ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความสับสน

 

เขาจ้องมองไปยังจอมกระบี่ตัวน้อยที่อยู่เบื้องหน้า ราวกับว่าเขากําลังเห็นปีศาจ

 

“เป็นไปได้ยังไงกัน…”

 

“ไม่ใช่ว่านี่เป็นวิชาดาบของจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์หรอ…. แถมยังเป็นจิตดาบอีก…”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจเส้นชีพจรสําคัญทั่วร่างของเขาถูกสะบั้นออก พลังวิญญาณของเขาแตกซ่าน และแขนขาของเขาก็เริ่มอ่อนแรง

 

ตุบ!

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจที่โด่งดังคนนั้นกําลังคุกเข่าลงต่อหน้าโจวฉวนจี

 

เสียงใบมีดที่สั่นสะเทือนด้วยคลื่นต่ําดังก้องอยู่ข้างหูของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ

 

ดาบราชาโลกันตร์จออยู่ที่คอของเขา

 

โจวฉวนจีเชิดปลายคางของอีกฝ่ายขึ้นพลางมองลงไปยังจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ และพูดว่า “เจ้าแพ้แล้ว”

 

เขารู้สึกพอใจอยู่ในภายใจ

 

ดาบในตํานานระดับทองนี่มันเยี่ยมสุด ๆ ไปเลย!

เมื่อเขาใช้วิชาดาบสะบั้นสามชีพจร เขารู้สึกได้เลยว่าปราณกระบี่ของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า เขารู้สึกราวกับไร้ผู้ใดเทียมในโลกนี้ทุกครั้งที่ฟาดฟัน

 

เงียบสงัด!

 

ทั่วพื้นที่ต่างตกอยู่ในความเงียบ จนได้ยินแม้แต่เสียงเข็มหมุดหล่น!

 

ผู้คนทั้งหมดจ้องมองไปยังโจวฉวนจี และไร้ซึ่งคําพูดใด ๆ

 

เขาชนะได้ด้วยดาบเดียว

 

เขาทําให้จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจที่ทั้งแข็งแกร่งและทรงพลังยังต้องคุกเข่าลงด้วยดาบเดียวเท่านั้น

 

พ.พลังอะไรกันเนี่ย..

 

จางหรูหยุรู้สึกตื่นเต้นสุด ๆ จนใบหน้ากลายเป็นสีแดงเขาร้องตะโกนด้วยน้ําเสียงที่ดังก้องว่า “ท่านเทพกระบี่ โจวแข็งแกร่งที่สุด!นี่แหละเทพกระบี่!”

 

ถึงจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจจะเป็นจอมกระบี่ที่ ทรงพลัง และบรรลุจิตดาบแล้วก็ตาม

 

แต่เขากลับพ่ายแพ้อย่างไว ก่อนที่เขาจะได้แสดงพลังของตัวเองออกมาเสียอีก

 

ในตอนนี้จางหรูหยูแทบจะอยากออกไปคุกเข่าเพื่อเคารพสรรเสริญโจวฉวนจี ถ้าไม่ติดที่ฝูงชนจํานวนมากที่รายล้อมรอบเขาอยู่ เขาก็คงจะออกไปคุกเข่าแล้ว

 

ทั่วทั้งพื้นที่ตกอยู่ในความโกลาหล ผู้คนนับพันต่างตะโกนชื่อเทพกระบี่โจวออกมา

 

“ท่านเทพกระบี่โจว! ท่านเทพกระบโจว!”

 

“ท่านช่างทรงพลัง! สมกับที่เป็นเทพกระบี่จริง ๆ !”

 

“เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น? เจ้าเห็นรึเปล่า?”

 

“ช่างเป็นท่วงท่าดาบที่สง่างามซะเหลือเกิน ต่อให้เป็นจางเถียนเขียนของอาณาจักรเราก็คงทําไม่ได้หรอกมั้ง?”

 

“ในตอนที่เขากวัดแกว่งดาบนะ ข้ารู้สึกได้ถึงออร่าแห่งความตายกระจายมาถึงตรงนี้เลย…”

 

ความสงสัยและคําถากถางที่มีแต่ก่อนก็หายไป

 

คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้ครองทุกอย่าง!

 

“การเคลื่อนไหวเมื่อกี้นี้มัน…”

 

เสี่ยวเฉิงเฟิงหรี่ตาลง พลางพึมพํากับตนเอง

 

เขาลองจินตนาการว่าเขาจะหลบมันได้ไหม

 

แม้วรยุทธของเขาจะสูงกว่าจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจแต่แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกตกใจกับสิ่งที่โจวฉวนจีพึ่งได้ทําลงไป 

 

ถึงความสามารถในการสังเกตสิ่งต่าง ๆ ของเขาจะดีกว่าแต่เขาก็รู้สึกได้แค่ว่า ดาบราชาโลกันตร์ของเทพกระบี่โจวนั้นไม่ใช่อะไรที่รับมือด้วยได้ง่ายเลย

 

เพียงแค่ระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 6 ของเทพกระบี่ ยังปลดปล่อยปราณกระบี่ที่ทรงพลังได้ขนาดนี้เชียว?

“เป็นดาบที่เยี่ยมจริง ๆ”

 

ชายในชุดสีม่วงจ้องมองดาบราชาโลกันตร์ที่อยู่ในมือของจอมกระบี่ตัวน้อย ก่อนจะตกลงไปอยู่ในภวังค์

 

อีกด้านหนึ่ง เจียงฉือน้อยก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเธอรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ

 

โจวฉวนจีเก็บดาบลงช้า ๆ และเตรียมตัวจากไป

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจกัดฟันและถามออกมาอย่างยากลําบาก “เจ้าเป็นใครกันแน่ วิชาดาบของเจ้าเมื่อกี้นี้ มันเป็นไปได้ยังไงกัน…”

 

โจวฉวนจีหันไปหาเขาและพูดพลางยิ้มให้ “ดาบนั้นสร้างได้ 1 สิ่ง หรือดาบนั้นสร้าง 3 สิ่ง แต่จริง ๆ แล้วดาบนั้นสร้างได้ทุกสิ่ง มนุษย์นั้นคือดาบ และดาบนั้นคือมนุษย์ เมื่อมนุษย์และดาบรวมเป็นหนึ่ง ทั้งโลกาก็มิอาจมีผู้ใดเทียม”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจตัวสันพลางเบิกตากว้าง เขาค่อย ๆ อ้าปากออกมา แต่ก็ไร้ซึ่งคําพูดใด ๆ ราวกับว่าเขาถูกสายฟ้าฟาดก็มิปาน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 38 : เมื่อมนุษย์และดาบรวมเป็นหนึ่ง ทั้งโลกาก็มิอาจมีผู้ใดเทียม

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 38 : เมื่อมนุษย์และดาบรวมเป็นหนึ่ง ทั้งโลกาก็มิอาจมีผู้ใดเทียม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 38 : เมื่อมนุษย์และดาบรวมเป็นหนึ่ง ทั้งโลกาก็มิอาจมีผู้ใดเทียม

 

ผู้คนนับพันต่างตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าคนแรกที่ได้รับ บาดแผลจะกลายเป็นจอมกระบีแดนเหนือผู้องอาจ 

 

หรือเทพกระบี่โจวจะแข็งแกร่งจริง ๆ กัน?

 

“ไอลูกกะ*** เจ้ากล้าแทงข้าจากด้านหลังงั้นหรอ?! เดี๋ยวเจ้าไม่ได้ตายดีแน่!”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเริ่มเกรี้ยวกราดและตะโกนออกมาด้วยน้ําเสียงที่ทุ่มต่ํา เขาเตือนเหล่าผู้ที่ได้ชมการต่อสู้ถึงสิ่งที่พวกเขาอาจจะยังไม่รู้

 

ใช่แล้ว!

 

มันก็แค่การแทงจากข้างหลังเท่านั้นแหละ!

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจยกดาบขึ้นและพุ่งเข้าใส่โจวฉวนจีในคราวนี้เขาจะเอาจริงแล้ว

 

โจวฉวนจีถือดาบราชาโลกันตร์ไว้ในมือข้างหนึ่ง และอีกข้างถือดาบผ่าวายุเอาไว้ การพุ่งเข้าใส่ของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจไม่ได้ทําให้เขาถอยร่นแต่อย่างใด แต่กลับพุ่งเข้าใส่สวนแทน

โจวฉวนจไม่คิดจะประมาทแม้แต่น้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับจอมยุทธทรงพลังที่อยู่ระดับบรรลุญาณ

 

เขาเริ่มใช้จิตดาบกระเรียนขาวในมือขวาและใช้จิตกระบี่เพ ลิงกัลป์ในมือซ้าย

 

ด้วยสองจิตดาบที่ห่อหุ้มไปทั่วกายของเขา ปราณทั่วร่างของเขาก็เริ่มพุ่งพล่าน

 

ในเวลาเดียวกัน ที่หน้าต่างของโรงเตี้ยมที่อยู่ไกลออกไปชายในชุดสีม่วงก็เบิกตากว้างอ้าปากค้าง

 

เสี่ยวเฉิงเฟิงและคุณนายจือฉุยก็ตกใจไม่แพ้กัน

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจที่รู้สึกตกใจกับการใช้จิตดาบคู่ของฝ่ายตรงข้าม ก็เผลอถอยหลังออกมาตามสัญชาตญาณ

 

เขาเองก็มีจิตดาบเหมือนกัน และภูมิใจในจิตดาบของตัวเองมากด้วย

 

“ใช้สองจิตดาบพร้อมกันเนี่ยนะ?”

 

“เป็นไปได้ยังไง? แม้แต่จักรพรรดิกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจวหรือจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์ยังทําไม่ได้เลยนะ!”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจตกอยู่ในความสับสน เขาเริ่มใช้จิตดาบทันที รูปลักษณ์ภายนอกของเขาเปลี่ยนไปโดยพลันจนเกิดลมกรรโชกแรงล้อมรอบทั่วร่างของเขา

 

โจวฉวนจีพุ่งเข้าใส่ด้านหลังของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่ และฟันเขาด้วยดาบทั้งสอง

 

ความเร็วในการโจมตีของเขานั้นเหนือยิ่งกว่าระดับสร้างรากฐานเสียอีก สายตาของผู้ชมการต่อสู้ส่วนใหญ่ก็ไม่อาจจะมองตามความเร็วของเขาทันได้

 

แกรั้ง! แกรั้ง! อึ้ง! แกรง

 

ดาบของโจวฉวนจีนั้นราวกับสายลม แต่ดาบของคู่ต่อสู้ก็รวดเร็วไม่ต่างกัน ดาบทั้ง 3 ปะทะกันด้วยความเร็วสูง จนเงาดาบที่กําลังร่ายรําอยู่นั้นราวกับแสงอันเย็นยะเยือกที่สะท้อนออกมาจากดาบ

 

ทั้งคู่ต่างฟาดฟันใส่กันครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่มีใครได้เปรี ยบ

ครึ่งร่างของโจวฉวนจีนั้นลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง ตัวของเขานั้นราวกับกระเรียนขาวที่ทั้งรวดเร็วและว่องไว

 

การกวัดแกว่งดาบของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจนั้นทั้ง แข็งแกร่งและหนักหน่วง ดาบที่อยู่ในมือของเขานั้นดูราวกับถูกห่อหุ้มไว้ด้วยแสงไฟสีแดง ลมกรรโชกรุนแรงเกิดขึ้นในรัศมี100 หลารอบตัวทั้ง 2 ฝ่าย

 

ผู้ชมนับพันต่างอ้าปากค้าง และเบิกตากว้างตกใจ

 

เทพกระบโจวสุดยอดพอ ๆ กับจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเลย!

 

ทั่วพื้นที่ต่างตกอยู่ในความเงียบ จนได้ยินแม้แต่เสียงเข็มหมุดหล่น!

 

เจียงฉือน้อยที่อยู่ตรงหน้าต่างในห้องพัก ก็คอยเฝ้าดูการต่อสู้ด้วยความกังวลใจ เธอกุมมือไว้ที่หน้าอกหน้าอกพลางขยับปากสวดมนต์ “ฉวนจี. เจ้าต้องชนะเจ้าต้องชนะ…”

 

ณ อีกโรงเตี้ยม

 

.

ชายในชุดสีม่วงลูบคางพลางบ่นพึมพํา “เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ที่หาตัวจับได้ยากในวิถีแห่งกระบี่จริง ๆ ข้าคิดว่าข้าใช้เขาได้นะ”

 

ตาแก่ชิงจ้องมองไปยังจอมกระบี่ตัวน้อยและพยักหน้าให้ “ใช้สองจิตดาบพร้อมกันงั้นหรอ เจ้าเด็กนี่มันมีของเหมือนกัน นะ”

 

อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวเฉิงเฟิงกําหมัดแน่น สายตาของเขาจับจ้องไปยังเด็กที่ถือดาบคู่ พลางคิดว่าเขากําลังเห็นบางสิ่งที่ไม่อาจจะหยั่งถึงได้

 

ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นถึงกับอ้าปากค้าง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสน

 

มีเพียงเสียงดาบกระทบกระทั่งกันที่ดังไปทั่ว

 

จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งตะโกนดังลั่นขึ้นมา “ท่านเทพกระบี่โจวแข็งแกร่งที่สุด! กระทับมันให้ยับเลย!”

 

และเจ้าของเสียงนั้นก็คือ จางหรูหยู นั่นเอง!

 

เสียงของเขาแตกพล่านไปด้วยความตื่นเต้น

 

โจวฉวนจีรู้สึกได้ว่า จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจกําลังค่อยๆชินกับจิตดาบคู่ของเขา และรู้สึกได้ว่ามันกําลังจะแย่ลงเรื่อย

 

มันต่างกับตอนที่เขาประลองดาบกับเสี่ยวจิงหง เพราะจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจใช้วรยุทธของเขาด้วย มันเลยช่วยให้ใช้จิตดาบที่มีเพียงจิตเดียวได้อย่างเต็มที่

 

“ดูเหมือนว่าข้าต้องรีบจบการต่อสู้นี้ให้ไวแล้วสินะ!” เขาเริ่มตัดสินใจภายในใจ เขาเคลื่อนตัวไปยังด้านหลังของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจอีกครั้งด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่ 

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจหัวเราะอย่างดูถูก และฟันไปยังด้านหน้าของเขา แต่ก็พลาด

 

โจวฉวนจีถอยห่างออกจากเขาไปไกล 10 หลา และไม่โจมที่สวน

“ทําไมล่ะ? หรือเจ้ากลัวแล้วอย่างงั้นน่ะหรอ?”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจถามอย่างเย้ยหยัน ขณะที่เขาพูด เขาก็สะบัดมือขวาและดาบของเขาก็ฟาดเข้าที่พื้นข้างๆเท้าของเขาจนเป็นหลุมเล็ก ๆ

 

โจวฉวนจีเก็บดาบผ่าวายุเข้าสุดยอดช่องเก็บของและหยุดใช้จิตดาบ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ข้าเล่นมามากพอแล้ว ต่อจากนี้ข้าจะล้มเจ้าด้วยดาบเดียวเอง”

 

ด้วยคําพูดที่อาจหาญสุด ๆ นั่น สร้างความโกลาหลใหญ่ขึ้น

มา

 

ด้วยดาบเดียวเนี่ยนะ?

 

มันทําให้ผู้คนนึกถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเทพกระบี่โจว เรื่องที่เขามักจะสังหารศัตรูด้วยดาบเดียวเสมอ

 

หากเป็นก่อนที่จะเริ่มสู้ พวกเขาก็คงจะคิดว่าเทพกระบี่โจวก็คงโกหกไปเท่านั้น แต่มาตอนนี้ เหล่าผู้คนต่างได้เป็นสักขีพยานถึงการต่อสู้ระหว่างทั้งสอง จึงเริ่มเชื่อจริง ๆ แล้วว่าเทพกระบีโจวนั้นทรงพลังอย่างแท้จริง

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังราวกับเขากําลังได้ยินเรื่องที่น่าตลกที่สุดในโลก

เขายกดาบที่อยู่ในมือเขาขึ้นมา และชี้ตรงไปยังโจวฉวนจีก่อนจะพูดว่า “เจ้าคิดจะล้มข้าด้วยดาบเดียวอย่างงั้นน่ะหรอ?เจ้าไม่…”

 

ฉีกกก!

 

มือขวาของโจวฉวนจีก็ยื่นตรงไปยังข้างหน้าของเขาด้วยการก้าวเพียงครั้งเดียว และแทงดาบออกไปนับครั้งไม่ถ้วนด้วยดาบราชาโลกันตร์ ตอนนั้นเองที่เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกดอันมหาศาลที่กดตัวเขาเอาไว้ เมื่อรวมเข้ากับการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมากของอีกฝ่าย มันก็ทําให้ตอบสนองกลับไม่ทัน 

 

จิตดาบสะบั้นสามชีพจร!

 

จิตดาบสั้นหรอ!

 

ดาบในตํานานระดับทองกับพลังทําลายล้างมหาศาลที่น่าพรั่นพรึง!

 

ฟื้ดดดด

 

เลือดพุ่งออกมาจากทั่วร่างของเขา ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความสับสน

 

เขาจ้องมองไปยังจอมกระบี่ตัวน้อยที่อยู่เบื้องหน้า ราวกับว่าเขากําลังเห็นปีศาจ

 

“เป็นไปได้ยังไงกัน…”

 

“ไม่ใช่ว่านี่เป็นวิชาดาบของจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์หรอ…. แถมยังเป็นจิตดาบอีก…”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจเส้นชีพจรสําคัญทั่วร่างของเขาถูกสะบั้นออก พลังวิญญาณของเขาแตกซ่าน และแขนขาของเขาก็เริ่มอ่อนแรง

 

ตุบ!

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจที่โด่งดังคนนั้นกําลังคุกเข่าลงต่อหน้าโจวฉวนจี

 

เสียงใบมีดที่สั่นสะเทือนด้วยคลื่นต่ําดังก้องอยู่ข้างหูของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ

 

ดาบราชาโลกันตร์จออยู่ที่คอของเขา

 

โจวฉวนจีเชิดปลายคางของอีกฝ่ายขึ้นพลางมองลงไปยังจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ และพูดว่า “เจ้าแพ้แล้ว”

 

เขารู้สึกพอใจอยู่ในภายใจ

 

ดาบในตํานานระดับทองนี่มันเยี่ยมสุด ๆ ไปเลย!

เมื่อเขาใช้วิชาดาบสะบั้นสามชีพจร เขารู้สึกได้เลยว่าปราณกระบี่ของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า เขารู้สึกราวกับไร้ผู้ใดเทียมในโลกนี้ทุกครั้งที่ฟาดฟัน

 

เงียบสงัด!

 

ทั่วพื้นที่ต่างตกอยู่ในความเงียบ จนได้ยินแม้แต่เสียงเข็มหมุดหล่น!

 

ผู้คนทั้งหมดจ้องมองไปยังโจวฉวนจี และไร้ซึ่งคําพูดใด ๆ

 

เขาชนะได้ด้วยดาบเดียว

 

เขาทําให้จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจที่ทั้งแข็งแกร่งและทรงพลังยังต้องคุกเข่าลงด้วยดาบเดียวเท่านั้น

 

พ.พลังอะไรกันเนี่ย..

 

จางหรูหยุรู้สึกตื่นเต้นสุด ๆ จนใบหน้ากลายเป็นสีแดงเขาร้องตะโกนด้วยน้ําเสียงที่ดังก้องว่า “ท่านเทพกระบี่ โจวแข็งแกร่งที่สุด!นี่แหละเทพกระบี่!”

 

ถึงจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจจะเป็นจอมกระบี่ที่ ทรงพลัง และบรรลุจิตดาบแล้วก็ตาม

 

แต่เขากลับพ่ายแพ้อย่างไว ก่อนที่เขาจะได้แสดงพลังของตัวเองออกมาเสียอีก

 

ในตอนนี้จางหรูหยูแทบจะอยากออกไปคุกเข่าเพื่อเคารพสรรเสริญโจวฉวนจี ถ้าไม่ติดที่ฝูงชนจํานวนมากที่รายล้อมรอบเขาอยู่ เขาก็คงจะออกไปคุกเข่าแล้ว

 

ทั่วทั้งพื้นที่ตกอยู่ในความโกลาหล ผู้คนนับพันต่างตะโกนชื่อเทพกระบี่โจวออกมา

 

“ท่านเทพกระบี่โจว! ท่านเทพกระบโจว!”

 

“ท่านช่างทรงพลัง! สมกับที่เป็นเทพกระบี่จริง ๆ !”

 

“เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น? เจ้าเห็นรึเปล่า?”

 

“ช่างเป็นท่วงท่าดาบที่สง่างามซะเหลือเกิน ต่อให้เป็นจางเถียนเขียนของอาณาจักรเราก็คงทําไม่ได้หรอกมั้ง?”

 

“ในตอนที่เขากวัดแกว่งดาบนะ ข้ารู้สึกได้ถึงออร่าแห่งความตายกระจายมาถึงตรงนี้เลย…”

 

ความสงสัยและคําถากถางที่มีแต่ก่อนก็หายไป

 

คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้ครองทุกอย่าง!

 

“การเคลื่อนไหวเมื่อกี้นี้มัน…”

 

เสี่ยวเฉิงเฟิงหรี่ตาลง พลางพึมพํากับตนเอง

 

เขาลองจินตนาการว่าเขาจะหลบมันได้ไหม

 

แม้วรยุทธของเขาจะสูงกว่าจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจแต่แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกตกใจกับสิ่งที่โจวฉวนจีพึ่งได้ทําลงไป 

 

ถึงความสามารถในการสังเกตสิ่งต่าง ๆ ของเขาจะดีกว่าแต่เขาก็รู้สึกได้แค่ว่า ดาบราชาโลกันตร์ของเทพกระบี่โจวนั้นไม่ใช่อะไรที่รับมือด้วยได้ง่ายเลย

 

เพียงแค่ระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 6 ของเทพกระบี่ ยังปลดปล่อยปราณกระบี่ที่ทรงพลังได้ขนาดนี้เชียว?

“เป็นดาบที่เยี่ยมจริง ๆ”

 

ชายในชุดสีม่วงจ้องมองดาบราชาโลกันตร์ที่อยู่ในมือของจอมกระบี่ตัวน้อย ก่อนจะตกลงไปอยู่ในภวังค์

 

อีกด้านหนึ่ง เจียงฉือน้อยก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเธอรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ

 

โจวฉวนจีเก็บดาบลงช้า ๆ และเตรียมตัวจากไป

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจกัดฟันและถามออกมาอย่างยากลําบาก “เจ้าเป็นใครกันแน่ วิชาดาบของเจ้าเมื่อกี้นี้ มันเป็นไปได้ยังไงกัน…”

 

โจวฉวนจีหันไปหาเขาและพูดพลางยิ้มให้ “ดาบนั้นสร้างได้ 1 สิ่ง หรือดาบนั้นสร้าง 3 สิ่ง แต่จริง ๆ แล้วดาบนั้นสร้างได้ทุกสิ่ง มนุษย์นั้นคือดาบ และดาบนั้นคือมนุษย์ เมื่อมนุษย์และดาบรวมเป็นหนึ่ง ทั้งโลกาก็มิอาจมีผู้ใดเทียม”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจตัวสันพลางเบิกตากว้าง เขาค่อย ๆ อ้าปากออกมา แต่ก็ไร้ซึ่งคําพูดใด ๆ ราวกับว่าเขาถูกสายฟ้าฟาดก็มิปาน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+