หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 41 : ดาบปีศาจแผลงฤทธิ์เดช

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 41 : ดาบปีศาจแผลงฤทธิ์เดช at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ | Have Countless Lege…

 

ตอนที่ 41 : ดาบปีศาจแผลงฤทธิ์เดช

 

ถึงแม้เงาของราชาโลกันตร์จะค่อนข้างพร่ามัว แต่มันก็ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความร้ายกาจที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

 

จู่ ๆ ตาแก่ซิงก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเพราะราชาโลกันตร์ เขาเลยถามขึ้นมาว่า “ไอหนู นั่นมันอะไรน่ะ?”

 

ฉวงฮุ้ยเฉิงมองไปยังโจวฉวนจีด้วยความประหลาดใจ ตอนนี้ แม้แต่เขาก็ยังไม่สามารถมองเห็นพลังที่แท้จริงของโจวฉวนจีได้

 

หนุ่มหน้าตาดีคนนั้นเบิกตากว้าง และตกอยู่ในความงุนงง

 

จางหรูหยูและเสี่ยวเฉิงเฟิงที่แอบซ่อนตัวอยู่ก็รู้สึกตกใจด้วยเหมือนกัน

 

เหล่าผู้คนที่บาดเจ็บอยู่ต่างจ้องมองไปยังโจวฉวนจี เมื่อพวกเขาเห็นถึงท่าทางที่ผ่าเผยของโจวฉวนจีในตอนนี้ ก็แอบคิดกันว่าบางทีเขาอาจจะเอาชนะวิกฤตในครั้งนี้ได้ก็ได้

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจียงฉือน้อยเห็นโจวฉวนจีสวมวิญญาณราชาโลกันตร์ แต่เธอก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่า เขาที่ตอนนี้สวมวิญญาณราชาโลกันตร์อยู่ จะเอาชนะฉวงฮัยเฉิงและตาแก่ชิงได้หรือเปล่า

 

เธอไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง และพยายามอดทนรักษาบาดแผลของตนเอง

 

หลังจากที่ราชาโลกันตร์เข้าครอบงําแล้ว โจวฉวนจีก็ เริ่มมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม

 

เขายิ้มอย่างพึงพอใจ ภายใต้หน้ากากสีเงินนั้น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและหยิ่งผยอง

 

ตาแก่ชิงเริ่มรู้สึกใจสั่นเมื่อได้เห็นแววตาของเขา

 

ไอเด็กนี่มันใช้คาถาลับอะไรกัน?

 

เขาอยากที่จะถามต่อ แต่โจวฉวนจีก็พุ่งตรงไปข้างหน้าทันทีด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่

 

ประกายแสงสว่างวาบออกมาจากดาบของเขา!

 

รูม่านตาของตาแก่ชิงขยายกว้างทันที ก่อนที่เขาจะเห็นปราณกระบี่สีดําจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งตรงมาทางเขา

 

ฟึบบบบ!

 

โจวฉวนจีหยุดลงที่ด้านหลังของตาแก่ชิง ปราณกระบี่ของเขาตัดผ่านลงมาในแนวนอน และกวาดเศษซากบ้านที่อยู่รอบตัวพวกเขาและฝุ่นจํานวนนับไม่ถ้วน

 

เลือดพุ่งกระจายออกมาจากร่างของตาแก่ชิงและ ไหลท่วมนองพื้น

 

ทุกคนถึงกับอ้าปากตาค้างเมื่อได้เห็น

 

แม้แต่ฉวงซุ้ยเฉิงก็ยังพูดขึ้นอย่างตกใจพลางเบิกตากว้าง “เป็นไปได้ยังไง…”

 

โจวฉวนจีอยู่แค่ระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 6 เท่านั้น แล้วเขาทําให้ตาแก่ชิงที่อยู่ถึงระดับ 4 ขั้นที่ 9 บาดเจ็บได้ยังไงกัน?

 

ระดับวรยุทธของเผ่าปีศาจนั้นไม่หลากหลายเท่าของมนุษย์ โดยจะแบ่งแค่ระดับที่ 1 – 9 เท่านั้น

 

ในแต่ละระดับนั้นเทียบเท่ากับระดับวรยุทธของมนุษย์ในแต่ละขั้น

 

ฉะนั้นระดับ 4 ขั้นที่ 9 จึงเทียบเท่ากับระดับบัวภายในขั้นที่ 9 นั่นเอง

 

สังหารศัตรูที่ระดับสูงกว่าถึง 2 ระดับเนี่ยนะ?

 

เดี๋ยวก่อนนะ!

 

ดาบนั้น!

 

มันต้องเป็นดาบปีศาจแน่ ๆ

 

สายตาของฉวงฮัยเฉิงจ้องมองไปยังดาบราชาโลกันตร์ที่อยู่ในมือของโจวฉวนจี

 

มีอาวุธมากมายนับไม่ถ้วนอยู่บนโลกใบนี้ แต่ก็มีบางอาวุธที่มีวิญญาณสิงสู่อยู่ โดยวิญญาณเหล่านั้นอาจจะเป็นวิญญาณเทพ วิญญาณเซียน หรือแม้แต่วิญญาณปีศาจก็ได้

 

และวิญญาณปีศาจนั่นกระตุ้นพลังวรยุทธของ โจวฉวนจีออกมาอย่างมหาศาลชั่วคราว เพื่อให้เขากวัดแกว่งพลังขนาดนั้นได้

 

ตาแก่ชิงค่อย ๆ คุกเข่าลงอย่างช้า ๆ พลางตัวสั่นเทา เขากลับคืนสู่ร่างกระรอกตัวใหญ่และตัวท่วมไปด้วยเลือด แขนขาของเขากระตุกขณะที่วางยันพื้น

 

“เป็นไปไม่ได้…นั่นมันดาบแบบไหนกัน…เป็นไปไม่ได้…”

 

ตาแก่ชิงพูดซ้ําแล้วซ้ําเล่าด้วยน้ําเสียงอันสั่นเครือ และค่อย ๆ เบาลง และเบาลง จนในที่สุดเสียงของเขาก็หายไปก่อนจะหยุดหายใจ เขานอนแน่นิ่งไปแล้ว…

 

ณ บนสนามฝึก

 

ดวงตาของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเบิกกว้าง เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว ราวกับว่าเขาได้เห็นวิชาดาบในตํานาน

 

“วิชาดาบนั่น… นั่นเป็นวิชาดาบที่ข้าแสวงหามาตลอด…ดาบนั้นสร้างได้ทุกสิ่ง…ทั้งโลกามิอาจมีผู้ใดเทียม”

 

เขาลืมความเจ็บปวดไปจนหมดสิ้น และสัมผัสได้ถึงความสุขที่เขาไม่เคยมีมาก่อน

 

เขาจะไม่มีวันลืมท่วงท่าดาบที่เขาพึ่งได้เห็นไปอย่างแน่นอน

 

โจวฉวนจีเดินตรงไปยังฉวงฮัยเฉิงพร้อมกับดาบในมือของเขา ปลายดาบนั้นสร้างเสียงแหลมที่เสียดแทงหูขณะที่ถูกลากไปกับพื้น

 

เขาจ้องมองไปยังฉวงฮัยเฉิง และพูดด้วยน้ําเสียงที่เย็นชาว่า “ในเมื่อเจ้ากล้าทําร้ายเธอ ข้าจะทําให้เจ้าต้องชดใช้!”

 

เจ้าชายปีศาจไม่ได้เสียศูนย์เพราะการตายของตาแก่ชิงแต่อย่างใด แต่กลับตะโกนกลับพลางขมวดคิ้วแทน “การที่เจ้ากล้าใช้ดาบปีศาจแบบนั้น เจ้าไม่กลัวที่จะสูญเสียจิตใจ และตกลงไปอยู่ในวิถีแห่งปีศาจเลยรึไงกัน?”

 

“ต่อให้ข้าจะกลายเป็นปีศาจ แต่ข้าก็จะฆ่าเจ้าให้ได้!” โจวฉวนจีพูด

 

น้ําเสียงของเขานั้นฟังดูแล้วช่างอ่อนโยน แม้จะเต็มไปด้วยจิตสังหารก็ตาม

 

ตู้มมมมม!

 

เขากระทืบเท้าขวาและทิ้งรอยเท้าลึกไว้บนพื้น ด้วยดาบราชาโลกันตร์ในมือเขานี้ เขากระโดดขึ้นไป และพุ่งแทงตรงมายังฉวงฮัยเฉิง

 

จิตดาบสะบั้นสามชีพจร!

 

ในตอนนี้ ในสายตาของเขา ช่องโหว่ในการป้องกันของฉวงฮุ้ยเฉิงได้เผย ออกมาให้เห็นแล้ว

 

การเผชิญหน้ากับจอมกระบี่ตัวน้อยที่กําลังพุ่งเข้าใส่เขาอย่างบ้าดีเดือดนั้น ไม่ได้ทําให้ฉวงฮัยเฉิงสูญเสียความเยือกเย็น แต่อย่างใด ก่อนจะโต้การโจมตีด้วยฝ่ามือกลับ

 

พลังปีศาจกลับกลายเป็นพยัคฆ์ขาวยักษ์ที่กู่คํารามขณะพุ่งออกมาจากมือของเขา พลังของมันสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเมือง

 

โจวฉวนจีแทงทะลุพยัคฆ์ขาวนั้นด้วยดาบของเขา และปลายดาบของเขาก็จ่อไปที่หน้าผากของฉวงฮัยเฉิง

 

เจ้าชายปีศาจเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา

 

แต่การโจมตีนั้นก็ไม่อาจถึงตัวเจ้าชายปีศาจได้ เขากระโดดถอยกลับมาพร้อมกับหนุ่มหน้าตาดีที่อยู่ในมือ และหลบการโจมตีได้

 

โบ้มมม!

 

พื้นที่อยู่ด้านล่างนั้นแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ จากการระเบิดของปราณกระบี และปัดกวาดเศษหินมากมาย

 

ดวงตาของโจวฉวนจีเปล่งประกาย ราวกับแสงที่สะท้อนมาจากใบดาบ เขากระโดดขึ้นอีกครั้งทันทีที่ลงถึงพื้น และพุ่งไล่ตามตรงไปยังเจ้าชายปีศาจ

 

ฉวงฮุ้ยเฉิงรู้สึกโกรธมาก ไอเด็กนี่มันตั้งใจจะฆ่าเขาจริง ๆ!

 

มือซ้ายของเขากลายเป็นกรงเล็บเสือในทันที และฟาดไปทางจอมกระบี่ตัวน้อยจากระยะไกล คลื่นพลังปราณที่รุนแรงจํานวนหลายเส้นฟาดตรงไปยังโจวฉวนจี

 

โจวฉวนจีเหวี่ยงดาบราชาโลกันตร์เพื่อปัดป้องปราณปีศาจอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ดาบเด็ดสุกรก็ปรากฏขึ้นใต้เท้าของเขาทันที

 

เขาเหยียบลงบนดาบเด็ดสุกร ก่อนจะใช้แรงส่งจากดาบใช้ 8 ก้าวทะลวงกระบี่พุ่งไปอย่างรวดเร็ว และโถมเข้าใส่เบื้องหน้าของเจ้าชายปีศาจ

 

แกร๊ง!!

 

ดาบราชาโลกันตร์ปะทะเข้ากับกรงเล็บของฉวงซุ้ยเฉิง ประกายแสงสว่างวาบจากการปะทะ แต่ด้วยแรงส่งที่พุ่งมา ทําให้ดาบฟันเข้าไปในเนื้อของเขาจนเลือดทะลักออกมา ฉวงฮุ้ยเฉิง รู้สึกเจ็บแสบไปหมดจนแสดงสีที่บิดเบี้ยว

 

หนุ่มหน้าตาดีคนนั้นเบิกตากว้างและมองไปทางจอมกระบี่ตัวน้อยที่เข้ามาใกล้เขามาก

 

แววตานั่นเต็มเปี่ยมไปด้วยความน่ากลัวและเย็นชา แต่ความมุ่นมั่นอย่างแท้จริงปรากฏออกมาให้เห็นผ่านสายตานั่น ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่เขาไม่อาจตัดมันได้

 

และยังความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะฆ่าฉวงซุ้ยเฉิงให้แหลกเป็นชิ้น ๆ อีก

 

ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นรู้สึกเหมือนถูกต้องมนต์สะกด

 

โจวฉวนจียกมือซ้ายขึ้น และดาบมังกรสีชาดก็ปรากฏขึ้นในมือ เขาฟันตรงไปข้างหน้าพร้อมกับเสียงมังกรคําราม ฉวงซุ้ยเฉิงรู้สึกตกใจมากจนต้องกระโดดถอยหลังออกมาในทันที

 

ถึงแม้ดาบมังกรสีชาดจะฟันพลาดเป้า แต่วิญญาณมังกรสีชาดก็ปรากฏออกมาพร้อมเสียงคํารามกู่ก้อง มันขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เจ้าชายปีศาจเพื่อหวังจะกลืนกินเขา

 

ฉวงซุ้ยเฉิงกลายร่างเป็นพยัคฆ์ขาวทันทีและคํารามกลับ คลื่นเสียงที่เกิดขึ้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และทําให้วิญญาณมังกรสีชาดลดความเร็วลงอย่างมาก

 

ในขณะนั้น โจวฉวนจีก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าปีศาจพยัคฆ์ทันที ร่างกายของเขาบิดควงไปพร้อมกับดาบราชาโลกันตร์และดาบมังกรสีชาด สร้างลมกรรโชกแรง และฟาดฟันไปยังฉวงฮัยเฉิงราวกับพายุทอร์นาโด

 

แม่งเอ้ย!

 

นี่จะพ่ายง่าย ๆ งี้เลยหรอ?

 

ฉวงฮัยเฉิงรู้สึกโกรธสุด ๆ ดวงตาของเขากลายเป็นสีน้ำตาลและลําแสงสีขาว 2 เส้นก็ยิ่งออกมาจากตาของเขา ผลักโจวฉวนจีให้ถอยออกไป

 

แต่ก่อนที่โจวฉวนจีจะร่วงกระแทกพื้น ดาบเด็กสุกรกลอยมาและรับเขาไว้ได้ จากนั้น เขาก็ใช้แรงส่งจากดาบพุ่งตรงไปยังฉวงซุ้ยเฉิง

 

เมื่อจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเห็นว่า โจวฉวนจีและฉวงฮุ้ยเฉิงกําลังต่อสู้กันอย่างสูสี ทั่วร่างของเขาก็สั่นสะท้านไปด้วยความตื่นเต้น

 

เหล่าผู้คนที่บาดเจ็บบนพื้นต่างก็เห็นความหวัง

 

“สู้ให้ถึงที่สุดเลย เทพกระบี่โจว…”

 

“ฆ่าเจ้าปีศาจนั่นให้ได้นะ! ขอร้องล่ะ…”

 

“ช่างทรงพลังยิ่งนัก…เขานี่แหละเทพกระบี่ที่แท้จริง…”

 

“ท่านต้องชนะนะ…”

 

“ทําไมกองทัพถึงยังไม่มาอีกนะ?”

 

พวกเขาต่างพยายามเชียร์โจวฉวนจีอย่างเต็มที่ แต่เขากลับไม่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย เพราะความสนใจทั้งหมดของเขาอยู่ที่เจ้าชายปีศาจคนเดียว

 

ยิ่งมองไปที่เจ้าชายปีศาจมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น

 

ความโหดเหี้ยมสุดแสนจะพรรณนาได้ท่วมท้นภาย ในจิตใจของเขา เขาต้องฉีกฉวงฮัยเฉิงเป็นชิ้นๆ ให้ได้

 

จากที่ไกล ๆ ขณะที่เจียงฉือน้อยกําลังเชื่อมกระดูกที่หักของตัวเองด้วยพลังวิญญาณ เธอก็มองไปยังโจวฉวนจี

 

การสวมวิญญาณราชาโลกันตร์มันทําให้โจวฉวนจีดูราวกับ เป็นปีศาจ แต่ในสายตาของเธอ เขาก็ยังคงเป็นเสาหลักทางใจของเธอเสมอ

 

“แข็งแกร่งสุดๆ …ฉวงฮัยเฉิงเป็นถึงปีศาจระดับ 4 ขั้นที่ 10 แถมยังมีพรสวรรค์ทางสายเลือดอีกนะ เขาแทบจะไร้คู่ต่อสู้ในระดับ 4 เลยด้วยซ้ําไป…”

 

เสี่ยวเฉิงเฟิงบ่นพึมพํากับตัวเอง ในตอนนี้ เขารูลึกลังเลเล็กน้อย

 

อย่างเทพกระบี่โจวเนี่ย เขาจะชวนมาเข้าพวกด้วยได้จริง ๆ หรอ?

 

แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง…

 

ท่วงท่าดาบคู่ของโจวฉวนจีนั้นเร็วขึ้นและเร็วยิ่งขึ้น ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ราวกับปีศาจคลั่ง เขาฟันเขาไปยังฉวงฮัยเฉิง

 

ถึงการโจมตีของเขาจะดูมั่วไปหมด แต่เขาก็ยังไม่ได้ปลดจิตดาบสะบันสามชีพจร

 

ดังนั้นถ้าเขาฟันโดนฉวงฮัยเฉิงได้ล่ะก็ มันจะทําลายเส้นชีพจรสําคัญทั่วร้างของเจ้าชายปีศาจอย่างแน่นอน

 

“เป็นไปได้ยังไงกัน…นี่มันคาถาปีศาจแบบไหนกันแน่…”

 

ฉวงฮัยเฉิงคิดอย่างหวาดกลัวขณะที่ป้องกันการโจมตีที่กําลังจะมาถึง ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาต้องแย่แน่ ๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 41 : ดาบปีศาจแผลงฤทธิ์เดช

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 41 : ดาบปีศาจแผลงฤทธิ์เดช at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ | Have Countless Lege…

 

ตอนที่ 41 : ดาบปีศาจแผลงฤทธิ์เดช

 

ถึงแม้เงาของราชาโลกันตร์จะค่อนข้างพร่ามัว แต่มันก็ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความร้ายกาจที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

 

จู่ ๆ ตาแก่ซิงก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเพราะราชาโลกันตร์ เขาเลยถามขึ้นมาว่า “ไอหนู นั่นมันอะไรน่ะ?”

 

ฉวงฮุ้ยเฉิงมองไปยังโจวฉวนจีด้วยความประหลาดใจ ตอนนี้ แม้แต่เขาก็ยังไม่สามารถมองเห็นพลังที่แท้จริงของโจวฉวนจีได้

 

หนุ่มหน้าตาดีคนนั้นเบิกตากว้าง และตกอยู่ในความงุนงง

 

จางหรูหยูและเสี่ยวเฉิงเฟิงที่แอบซ่อนตัวอยู่ก็รู้สึกตกใจด้วยเหมือนกัน

 

เหล่าผู้คนที่บาดเจ็บอยู่ต่างจ้องมองไปยังโจวฉวนจี เมื่อพวกเขาเห็นถึงท่าทางที่ผ่าเผยของโจวฉวนจีในตอนนี้ ก็แอบคิดกันว่าบางทีเขาอาจจะเอาชนะวิกฤตในครั้งนี้ได้ก็ได้

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจียงฉือน้อยเห็นโจวฉวนจีสวมวิญญาณราชาโลกันตร์ แต่เธอก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่า เขาที่ตอนนี้สวมวิญญาณราชาโลกันตร์อยู่ จะเอาชนะฉวงฮัยเฉิงและตาแก่ชิงได้หรือเปล่า

 

เธอไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง และพยายามอดทนรักษาบาดแผลของตนเอง

 

หลังจากที่ราชาโลกันตร์เข้าครอบงําแล้ว โจวฉวนจีก็ เริ่มมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม

 

เขายิ้มอย่างพึงพอใจ ภายใต้หน้ากากสีเงินนั้น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและหยิ่งผยอง

 

ตาแก่ชิงเริ่มรู้สึกใจสั่นเมื่อได้เห็นแววตาของเขา

 

ไอเด็กนี่มันใช้คาถาลับอะไรกัน?

 

เขาอยากที่จะถามต่อ แต่โจวฉวนจีก็พุ่งตรงไปข้างหน้าทันทีด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่

 

ประกายแสงสว่างวาบออกมาจากดาบของเขา!

 

รูม่านตาของตาแก่ชิงขยายกว้างทันที ก่อนที่เขาจะเห็นปราณกระบี่สีดําจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งตรงมาทางเขา

 

ฟึบบบบ!

 

โจวฉวนจีหยุดลงที่ด้านหลังของตาแก่ชิง ปราณกระบี่ของเขาตัดผ่านลงมาในแนวนอน และกวาดเศษซากบ้านที่อยู่รอบตัวพวกเขาและฝุ่นจํานวนนับไม่ถ้วน

 

เลือดพุ่งกระจายออกมาจากร่างของตาแก่ชิงและ ไหลท่วมนองพื้น

 

ทุกคนถึงกับอ้าปากตาค้างเมื่อได้เห็น

 

แม้แต่ฉวงซุ้ยเฉิงก็ยังพูดขึ้นอย่างตกใจพลางเบิกตากว้าง “เป็นไปได้ยังไง…”

 

โจวฉวนจีอยู่แค่ระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 6 เท่านั้น แล้วเขาทําให้ตาแก่ชิงที่อยู่ถึงระดับ 4 ขั้นที่ 9 บาดเจ็บได้ยังไงกัน?

 

ระดับวรยุทธของเผ่าปีศาจนั้นไม่หลากหลายเท่าของมนุษย์ โดยจะแบ่งแค่ระดับที่ 1 – 9 เท่านั้น

 

ในแต่ละระดับนั้นเทียบเท่ากับระดับวรยุทธของมนุษย์ในแต่ละขั้น

 

ฉะนั้นระดับ 4 ขั้นที่ 9 จึงเทียบเท่ากับระดับบัวภายในขั้นที่ 9 นั่นเอง

 

สังหารศัตรูที่ระดับสูงกว่าถึง 2 ระดับเนี่ยนะ?

 

เดี๋ยวก่อนนะ!

 

ดาบนั้น!

 

มันต้องเป็นดาบปีศาจแน่ ๆ

 

สายตาของฉวงฮัยเฉิงจ้องมองไปยังดาบราชาโลกันตร์ที่อยู่ในมือของโจวฉวนจี

 

มีอาวุธมากมายนับไม่ถ้วนอยู่บนโลกใบนี้ แต่ก็มีบางอาวุธที่มีวิญญาณสิงสู่อยู่ โดยวิญญาณเหล่านั้นอาจจะเป็นวิญญาณเทพ วิญญาณเซียน หรือแม้แต่วิญญาณปีศาจก็ได้

 

และวิญญาณปีศาจนั่นกระตุ้นพลังวรยุทธของ โจวฉวนจีออกมาอย่างมหาศาลชั่วคราว เพื่อให้เขากวัดแกว่งพลังขนาดนั้นได้

 

ตาแก่ชิงค่อย ๆ คุกเข่าลงอย่างช้า ๆ พลางตัวสั่นเทา เขากลับคืนสู่ร่างกระรอกตัวใหญ่และตัวท่วมไปด้วยเลือด แขนขาของเขากระตุกขณะที่วางยันพื้น

 

“เป็นไปไม่ได้…นั่นมันดาบแบบไหนกัน…เป็นไปไม่ได้…”

 

ตาแก่ชิงพูดซ้ําแล้วซ้ําเล่าด้วยน้ําเสียงอันสั่นเครือ และค่อย ๆ เบาลง และเบาลง จนในที่สุดเสียงของเขาก็หายไปก่อนจะหยุดหายใจ เขานอนแน่นิ่งไปแล้ว…

 

ณ บนสนามฝึก

 

ดวงตาของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเบิกกว้าง เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว ราวกับว่าเขาได้เห็นวิชาดาบในตํานาน

 

“วิชาดาบนั่น… นั่นเป็นวิชาดาบที่ข้าแสวงหามาตลอด…ดาบนั้นสร้างได้ทุกสิ่ง…ทั้งโลกามิอาจมีผู้ใดเทียม”

 

เขาลืมความเจ็บปวดไปจนหมดสิ้น และสัมผัสได้ถึงความสุขที่เขาไม่เคยมีมาก่อน

 

เขาจะไม่มีวันลืมท่วงท่าดาบที่เขาพึ่งได้เห็นไปอย่างแน่นอน

 

โจวฉวนจีเดินตรงไปยังฉวงฮัยเฉิงพร้อมกับดาบในมือของเขา ปลายดาบนั้นสร้างเสียงแหลมที่เสียดแทงหูขณะที่ถูกลากไปกับพื้น

 

เขาจ้องมองไปยังฉวงฮัยเฉิง และพูดด้วยน้ําเสียงที่เย็นชาว่า “ในเมื่อเจ้ากล้าทําร้ายเธอ ข้าจะทําให้เจ้าต้องชดใช้!”

 

เจ้าชายปีศาจไม่ได้เสียศูนย์เพราะการตายของตาแก่ชิงแต่อย่างใด แต่กลับตะโกนกลับพลางขมวดคิ้วแทน “การที่เจ้ากล้าใช้ดาบปีศาจแบบนั้น เจ้าไม่กลัวที่จะสูญเสียจิตใจ และตกลงไปอยู่ในวิถีแห่งปีศาจเลยรึไงกัน?”

 

“ต่อให้ข้าจะกลายเป็นปีศาจ แต่ข้าก็จะฆ่าเจ้าให้ได้!” โจวฉวนจีพูด

 

น้ําเสียงของเขานั้นฟังดูแล้วช่างอ่อนโยน แม้จะเต็มไปด้วยจิตสังหารก็ตาม

 

ตู้มมมมม!

 

เขากระทืบเท้าขวาและทิ้งรอยเท้าลึกไว้บนพื้น ด้วยดาบราชาโลกันตร์ในมือเขานี้ เขากระโดดขึ้นไป และพุ่งแทงตรงมายังฉวงฮัยเฉิง

 

จิตดาบสะบั้นสามชีพจร!

 

ในตอนนี้ ในสายตาของเขา ช่องโหว่ในการป้องกันของฉวงฮุ้ยเฉิงได้เผย ออกมาให้เห็นแล้ว

 

การเผชิญหน้ากับจอมกระบี่ตัวน้อยที่กําลังพุ่งเข้าใส่เขาอย่างบ้าดีเดือดนั้น ไม่ได้ทําให้ฉวงฮัยเฉิงสูญเสียความเยือกเย็น แต่อย่างใด ก่อนจะโต้การโจมตีด้วยฝ่ามือกลับ

 

พลังปีศาจกลับกลายเป็นพยัคฆ์ขาวยักษ์ที่กู่คํารามขณะพุ่งออกมาจากมือของเขา พลังของมันสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเมือง

 

โจวฉวนจีแทงทะลุพยัคฆ์ขาวนั้นด้วยดาบของเขา และปลายดาบของเขาก็จ่อไปที่หน้าผากของฉวงฮัยเฉิง

 

เจ้าชายปีศาจเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา

 

แต่การโจมตีนั้นก็ไม่อาจถึงตัวเจ้าชายปีศาจได้ เขากระโดดถอยกลับมาพร้อมกับหนุ่มหน้าตาดีที่อยู่ในมือ และหลบการโจมตีได้

 

โบ้มมม!

 

พื้นที่อยู่ด้านล่างนั้นแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ จากการระเบิดของปราณกระบี และปัดกวาดเศษหินมากมาย

 

ดวงตาของโจวฉวนจีเปล่งประกาย ราวกับแสงที่สะท้อนมาจากใบดาบ เขากระโดดขึ้นอีกครั้งทันทีที่ลงถึงพื้น และพุ่งไล่ตามตรงไปยังเจ้าชายปีศาจ

 

ฉวงฮุ้ยเฉิงรู้สึกโกรธมาก ไอเด็กนี่มันตั้งใจจะฆ่าเขาจริง ๆ!

 

มือซ้ายของเขากลายเป็นกรงเล็บเสือในทันที และฟาดไปทางจอมกระบี่ตัวน้อยจากระยะไกล คลื่นพลังปราณที่รุนแรงจํานวนหลายเส้นฟาดตรงไปยังโจวฉวนจี

 

โจวฉวนจีเหวี่ยงดาบราชาโลกันตร์เพื่อปัดป้องปราณปีศาจอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ดาบเด็ดสุกรก็ปรากฏขึ้นใต้เท้าของเขาทันที

 

เขาเหยียบลงบนดาบเด็ดสุกร ก่อนจะใช้แรงส่งจากดาบใช้ 8 ก้าวทะลวงกระบี่พุ่งไปอย่างรวดเร็ว และโถมเข้าใส่เบื้องหน้าของเจ้าชายปีศาจ

 

แกร๊ง!!

 

ดาบราชาโลกันตร์ปะทะเข้ากับกรงเล็บของฉวงซุ้ยเฉิง ประกายแสงสว่างวาบจากการปะทะ แต่ด้วยแรงส่งที่พุ่งมา ทําให้ดาบฟันเข้าไปในเนื้อของเขาจนเลือดทะลักออกมา ฉวงฮุ้ยเฉิง รู้สึกเจ็บแสบไปหมดจนแสดงสีที่บิดเบี้ยว

 

หนุ่มหน้าตาดีคนนั้นเบิกตากว้างและมองไปทางจอมกระบี่ตัวน้อยที่เข้ามาใกล้เขามาก

 

แววตานั่นเต็มเปี่ยมไปด้วยความน่ากลัวและเย็นชา แต่ความมุ่นมั่นอย่างแท้จริงปรากฏออกมาให้เห็นผ่านสายตานั่น ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่เขาไม่อาจตัดมันได้

 

และยังความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะฆ่าฉวงซุ้ยเฉิงให้แหลกเป็นชิ้น ๆ อีก

 

ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นรู้สึกเหมือนถูกต้องมนต์สะกด

 

โจวฉวนจียกมือซ้ายขึ้น และดาบมังกรสีชาดก็ปรากฏขึ้นในมือ เขาฟันตรงไปข้างหน้าพร้อมกับเสียงมังกรคําราม ฉวงซุ้ยเฉิงรู้สึกตกใจมากจนต้องกระโดดถอยหลังออกมาในทันที

 

ถึงแม้ดาบมังกรสีชาดจะฟันพลาดเป้า แต่วิญญาณมังกรสีชาดก็ปรากฏออกมาพร้อมเสียงคํารามกู่ก้อง มันขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เจ้าชายปีศาจเพื่อหวังจะกลืนกินเขา

 

ฉวงซุ้ยเฉิงกลายร่างเป็นพยัคฆ์ขาวทันทีและคํารามกลับ คลื่นเสียงที่เกิดขึ้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และทําให้วิญญาณมังกรสีชาดลดความเร็วลงอย่างมาก

 

ในขณะนั้น โจวฉวนจีก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าปีศาจพยัคฆ์ทันที ร่างกายของเขาบิดควงไปพร้อมกับดาบราชาโลกันตร์และดาบมังกรสีชาด สร้างลมกรรโชกแรง และฟาดฟันไปยังฉวงฮัยเฉิงราวกับพายุทอร์นาโด

 

แม่งเอ้ย!

 

นี่จะพ่ายง่าย ๆ งี้เลยหรอ?

 

ฉวงฮัยเฉิงรู้สึกโกรธสุด ๆ ดวงตาของเขากลายเป็นสีน้ำตาลและลําแสงสีขาว 2 เส้นก็ยิ่งออกมาจากตาของเขา ผลักโจวฉวนจีให้ถอยออกไป

 

แต่ก่อนที่โจวฉวนจีจะร่วงกระแทกพื้น ดาบเด็กสุกรกลอยมาและรับเขาไว้ได้ จากนั้น เขาก็ใช้แรงส่งจากดาบพุ่งตรงไปยังฉวงซุ้ยเฉิง

 

เมื่อจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเห็นว่า โจวฉวนจีและฉวงฮุ้ยเฉิงกําลังต่อสู้กันอย่างสูสี ทั่วร่างของเขาก็สั่นสะท้านไปด้วยความตื่นเต้น

 

เหล่าผู้คนที่บาดเจ็บบนพื้นต่างก็เห็นความหวัง

 

“สู้ให้ถึงที่สุดเลย เทพกระบี่โจว…”

 

“ฆ่าเจ้าปีศาจนั่นให้ได้นะ! ขอร้องล่ะ…”

 

“ช่างทรงพลังยิ่งนัก…เขานี่แหละเทพกระบี่ที่แท้จริง…”

 

“ท่านต้องชนะนะ…”

 

“ทําไมกองทัพถึงยังไม่มาอีกนะ?”

 

พวกเขาต่างพยายามเชียร์โจวฉวนจีอย่างเต็มที่ แต่เขากลับไม่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย เพราะความสนใจทั้งหมดของเขาอยู่ที่เจ้าชายปีศาจคนเดียว

 

ยิ่งมองไปที่เจ้าชายปีศาจมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น

 

ความโหดเหี้ยมสุดแสนจะพรรณนาได้ท่วมท้นภาย ในจิตใจของเขา เขาต้องฉีกฉวงฮัยเฉิงเป็นชิ้นๆ ให้ได้

 

จากที่ไกล ๆ ขณะที่เจียงฉือน้อยกําลังเชื่อมกระดูกที่หักของตัวเองด้วยพลังวิญญาณ เธอก็มองไปยังโจวฉวนจี

 

การสวมวิญญาณราชาโลกันตร์มันทําให้โจวฉวนจีดูราวกับ เป็นปีศาจ แต่ในสายตาของเธอ เขาก็ยังคงเป็นเสาหลักทางใจของเธอเสมอ

 

“แข็งแกร่งสุดๆ …ฉวงฮัยเฉิงเป็นถึงปีศาจระดับ 4 ขั้นที่ 10 แถมยังมีพรสวรรค์ทางสายเลือดอีกนะ เขาแทบจะไร้คู่ต่อสู้ในระดับ 4 เลยด้วยซ้ําไป…”

 

เสี่ยวเฉิงเฟิงบ่นพึมพํากับตัวเอง ในตอนนี้ เขารูลึกลังเลเล็กน้อย

 

อย่างเทพกระบี่โจวเนี่ย เขาจะชวนมาเข้าพวกด้วยได้จริง ๆ หรอ?

 

แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง…

 

ท่วงท่าดาบคู่ของโจวฉวนจีนั้นเร็วขึ้นและเร็วยิ่งขึ้น ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ราวกับปีศาจคลั่ง เขาฟันเขาไปยังฉวงฮัยเฉิง

 

ถึงการโจมตีของเขาจะดูมั่วไปหมด แต่เขาก็ยังไม่ได้ปลดจิตดาบสะบันสามชีพจร

 

ดังนั้นถ้าเขาฟันโดนฉวงฮัยเฉิงได้ล่ะก็ มันจะทําลายเส้นชีพจรสําคัญทั่วร้างของเจ้าชายปีศาจอย่างแน่นอน

 

“เป็นไปได้ยังไงกัน…นี่มันคาถาปีศาจแบบไหนกันแน่…”

 

ฉวงฮัยเฉิงคิดอย่างหวาดกลัวขณะที่ป้องกันการโจมตีที่กําลังจะมาถึง ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาต้องแย่แน่ ๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+