หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 44 : เทพกระบี่โจวทลายรังโจร ร่วมกับผู้ติดตามจอมกระบี่แดนเหนือผู้ องอาจ!

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 44 : เทพกระบี่โจวทลายรังโจร ร่วมกับผู้ติดตามจอมกระบี่แดนเหนือผู้ องอาจ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 44 : เทพกระบี่โจวทลายรังโจร ร่วมกับผู้ติดตามจอมกระบี่แดนเหนือผู้ องอาจ!

 

“ตารางจัดอันดับผู้มีชื่อเสียงคืออะไรหรอ?”

 

เจียงฉือน้อยถามด้วยความสงสัย เธอเคยได้ยินแค่ตารางจัดอันดับยอดฝีมือแห่งมหาจักรวรรดิโจวเท่านั้น เพราะเยี่ยเฟยฟาน อัจฉริยะที่ติดอันดับยอดฝีมือถูกโจวฉวนจีสังหารเมื่อ 7 ปีก่อน

 

ฮวงเหลี่ยนชินตอบกลับ “มันเป็นการจัดอันดับโดยมหาจักรวรรดิโจวเจ้าค่ะ จะมีการบันทึกชื่อเหล่าผู้ที่มีชื่อเสียงในแต่ละปีจํานวน 100 คน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าตอนนี้ท่านคือบุคคลที่มีชื่อเสียงมากเจ้าค่ะ”

 

เมื่อโจวฉวนจีได้ยินที่นางพูดก็คิดขึ้นมา นี่ตอนนี้ข้าดังขนาดนั้นเลยหรอ?

 

เขายังประมาทชื่อเสียงของฉวงฮุ้ยเฉิงเกินไป

 

เจ้าชายปีศาจที่ทําลายเมืองจนย่อยยับได้ แต่กลับพ่ายให้กับจอมกระบี่ไร้ชื่อ เรื่องแบบนี้นี่หยั่งกับละครจริง ๆ

 

ในตอนที่โจวฉวนจีกําลังเดินผ่านจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ

 

เขาก็พูดขึ้นด้วยเสียงค่อยว่า “ตามพวกข้ามา”

 

จแทบจะปิดอาการประหลาด ใจไม่อยู่ ก่อนจะรีบตามหลังเขาไป

 

ยามเฝ้าประตูต่างเบิกตากว้าง และเริ่มหายใจถี่ขึ้น

 

เด็กคนนี้คือเทพกระบี่โจวอย่างงั้นน่ะหรอ!

 

ฮวงเหลี่ยนชินทิ้งรถม้าไว้ที่นั่น ใครจะเป็นคนเอามันไป ก็ให้มันขึ้นอยู่กับชะตาฟ้าลิขิต

 

ขณะที่เหล่ายามเฝ้ามองทั้ง 4 เดินจากไป พวกเขาทั้งหมดต่างก็แทบจะสติหลุด

 

“ท่านเทพกระบี่โจว!”

 

“งั้นนั่นก็เขานี่เอง ข้าเคยเจอเขามาแล้วครั้งนึงด้วย เมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว ตอนที่เขาผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ข้าก็เป็นเวรกะนั้นพอดีด้วย!”

 

“เขายังดูเด็กกว่าลูกชายข้าอีก”

 

“จุ๊ ๆ อย่าคิดแบบนั้นสิ บางทีเขาอาจจะแก่กว่าปูเจ้าก็ได้ นะ”

 

“เจ้าเห็นรึเปล่า? จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจชื่อดังคนนั้นที่ตามหลังเทพกระบี่โจวไป ติดตามเขาหยั่งกับทาสจริง ๆ แหน่ะเนี่ยแหละความสุดยอดของเทพกระบีโจวล่ะ”

 

เหล่าผู้เฝ้าประตูต่างพูดคุยความเห็นกันและดูตื่นเต้นสุด

 

การที่ได้เจอพวกเขาในวันนี้ก็มากพอที่จะให้พวกยามเอาไปเม้าท์มอยกันบนโต๊ะอาหารได้อีกยาวเลยล่ะ

 

หลังจากที่พวกเขาออกจากเขตชายแดนอาณาจักรเหมันต์แดนใต้มาแล้ว ก็ยังคงมุ่งหน้าเดินทางต่อไป

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเริ่มดูจะกระวนกระวายมากขึ้น แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

 

อีกด้านหนึ่ง เจียงฉือน้อยและฮวงเหลี่ยนชินก็ดูจะคุยกันอย่างมีความสุข

 

“อ่อใช่ จะว่าไปเจ้าชอบดาบมั้ย?”

 

จู่ๆ โจวฉวนจีก็ถามฮวงเหลี่ยนชินขึ้นมา ถึงมันจะดูไม่ใช่คําถามที่จริงจังมากนัก แต่นางก็กลัวจนเสียวสันหลังไปหมด

 

นางตอบทันทีว่า “ข้าชอบเจ้าค่ะ และข้าก็ยังรู้วิชาดาบอีกด้วย แต่มันก็เป็นระดับที่ต่ำเอามาก ๆ นะเจ้าค่ะ แทบจะเทียบกับขั้นที่ต่ำที่สุดของระดับอําไพยังไม่ได้เลย”

 

วิชาปราณ คาถา และศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่มีการจัดระดับและขันของมันเอง

 

โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ระดับนภาระดับปฐพี ระดับทมิฬ และระดับอําไพ นอกจากนี้ ในแต่ละระดับยังแบ่งออกเป็นขั้นสูงสุด ขั้นสูง ขั้นกลาง และขั้นต่ำ

 

วิชาดาบกระเรียนขาวและวิชากระบี่เพลิงกัลป์ของโจวฉวนจีนั้นล้วนแต่อยู่ในระดับอําไพ มีเพียงวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรเท่านั้นที่อยู่ขั้นสูงสุดของระดับทมิฬ

 

ฮวงเหลี่ยนชินมองไปยังโจวฉวนจีด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยม หรือว่าเทพกระบี่โจวกําลังจะช่วยสอนวิชาดาบให้กับนางนะ?

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจมองไปยังฮวงเหลี่ยนชินอย่างแทบไม่เชื่อสายตาพลางชื่นชมนาง

 

ในขณะนั้นเอง โจวฉวนจีก็หันกลับมาและพูดกับจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจว่า “เจ้าจงสอนวิชาดาบระดับทมิฬให้แก่นาง และจงช่วยให้นางบรรลุวิชาให้สําเร็จให้ได้ซะ”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเบิกตากว้างด้วยความสับสนงุนงง

 

อีกด้านหนึ่ง ฮวงเหลี่ยนชินก็รู้สึกตกใจ วิชาดาบระดับทมิฬนั้นไม่ใช่วิชาคุณภาพต่ำเลยสักนิด ในจักรวรรดิแล้ว วิชาเหล่านี้จะถูกส่งต่อผ่านภายในตระกูลเท่านั้น และถึงแม้จะมีวิชาพวกนี้ขายในหอการค้าของมหาจักรวรรดิโจว แต่ก็ยังแพงเกินกว่าที่นางจะจ่ายไหวอยู่ดี

 

โจวฉวนจี

เชื่อว่าจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจจะต้องมีวิชาดาบระดับทมิฬอยู่อย่างแน่นอน

 

เพราะถ้าจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจไม่มีแล้วล่ะก็ โจวฉวนจีคงจะดูถูกเขาเอาสุด ๆ

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ได้ครับ นายท่าน!” เขาพูดตอบ

 

ตั้งแต่ที่เขากลายเป็นทาสของเทพกระบี่โจว เขาก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธอะไร

 

โจวฉวนจีพยักหน้าอย่างพึงพอใจ และพูดว่า “เจ้ารู้จักวิชาดาบที่ข้าเคยใช้ล้มเจ้ารึเปล่า?”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจส่ายหัว แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างออก ก่อนจะพูดพึมพําออกมา “นายท่านจะว่าไปวิชาดาบของท่านคล้ายกับวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรของจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์เลยครับ”

 

โจวฉวนจีพูด “เจ้าคิดถูกแล้ว มันคือวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรนั้นแหละ”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเบิกตากว้าง และฮวงเหลี่ยนชินก็รู้สึกตกใจด้วยเช่นกัน

 

ชื่อของจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์นั้นดังไปไกลยิ่งกว่าจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเสียอีก เขาอยู่ถึงอันดับที่ 3 ของตารางจัดอันดับยอดฝีมือแห่งมหาจักรวรรดิโจว และยังมีชื่ออยู่บนตารางจัดอันดับผู้มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานอีกด้วย เขานั้นเป็นจอมกระบี่ผู้ทรงพลังพอที่จะสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลกได้อย่างแท้จริง

 

“ถึงวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรจะไม่ได้เป็นแค่ของจอมกระผู้สูงศักดิ์แต่เพียงผู้เดียว แต่วิชาดาบนี้ก็เป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดและเขาใช้บ่อยที่สุดแล้ว แล้วท่านไปเอาวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรมาได้ยังไงกันครับ?” จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจถามด้วยความสงสัย

 

จอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์ท้าทายจอมกระบี่ไปทั่วโลก และเขาไม่เคยแพ้ให้กับใครเลย เว้นเสียแต่จักรพรรดิกระบี่

 

และเขาก็คือหนึ่งในคนที่พ่ายแพ้ให้กับจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์นั่นเอง

 

ความหวังผุดขึ้นภายในใจของเขา เป็นไปได้มั้ยว่าเทพกระบี่โจวจะมีศักยภาพมากพอจะล้มจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์ได้นะ?

 

“อุ๊บส์–”

 

เจียงฉือน้อยกลั้นขําไม่ไหวอีกต่อไป

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจและฮวงเหลี่ยนชินมองไปที่เธอด้วยความแปลกใจ มีอะไรน่าขํางั้นหรอ?

 

เธอมองไปทางโจวฉวนจีและขําขณะที่เธอกําลังจะพูด หลังจากนั้นเมื่อโจวฉวนจีพยักหน้าให้เธอก็พูดออกมา “ศิษย์ของเขาน่ะคือจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์นั่นแหละ ในตอนนั้น เขาพนันกับเสี่ยวจิงหงเอาไว้…”

 

และเธอก็เริ่มร่ายยาว

 

ทั้งจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจและฮวงเหลี่ยนชินต่างก็รู้สึกตะลึงเมื่อได้ฟัง

 

โดยใช้แค่วิชาดาบอย่างเดียว เสี่ยวจิงหงก็พ่ายแพ้ให้กับเทพกระบี่โจวเนี่ยนะ?

 

ที่สําคัญที่สุดคือ โจวฉวนจีใช้เวลาแค่ครึ่งวันเท่านั้นในการบรรลุจิตดาบสะบั้นสามชีพจร

 

วิถีกระบี่ของเขามันไปถึงขั้นไหนกันแล้วเนี่ย?

 

ในตอนนั้น ทั้งสองก็แทบจะอยากคุกเข่าลงต่อหน้าโจวฉวนจีเลยทีเดียว

 

“ฟิ้ดด–”

 

จู่ ๆ โจวฉวนจีก็ผิวปากออกมา ด้วยพลังวิญญาณของเขา เสียงผิวปากก็ดังไปได้ไกลมากสุด ๆ

 

อารมณ์ของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจในตอนนี้ราวกับคลื่นทะเลที่ซัดสาดเข้ามา ต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะสงบสติอารมณ์ลงได้

 

คู่ต่อสู้คนสําคัญที่สุดในชีวิตของเขาคือลูกศิษย์ของเทพกระบี่โจวงั้นหรอ

 

ตอนนี้เขารู้สึกดีใจสุด ๆ

 

ฮวงเหลี่ยนชินก็เช่นกัน

 

ด้วยพรสวรรค์ของเสี่ยวจิงหงแล้ว เขาสามารถที่จะเหนือกว่าโจวหยาหลงได้แน่นอน และถ้ารวมกับเทพกระบี่โจวที่เป็นสุดยอดของสุดยอดยิ่งกว่าแล้วเนี่ย ความหวังในการแก้แค้นของนางก็ดูจะไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว!

 

ไม่นานนัก วิหคมังกร 2 ตัวก็บินมา

 

ทั้งคู่ต่างรู้อยู่แล้วว่าเทพกระบี่โจวเลี้ยงวิหคมังกรเอาไว้เลยไม่ได้ตกใจอะไรกัน

 

โจวฉวนจีและจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจขอาใหญ่ ส่วนเจียงฉือน้อยและฮวงเหลี่ยนชินขี่น้องสอง และทั้งหมดก็บินตรงไปยังหุบเขาที่โจวฉวนจีอาศัยอยู่

 

พอพวกเขากลับมาถึงหุบเขา มันก็เป็นเวลาเที่ยงคืนเสียแล้ว

 

ที่ทางเข้าหุบเขานั้น โจวฉวนจีได้ขอให้จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจสร้างบ้านของตัวเองอาศัยอยู่ข้างนอกแทน

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจไม่ได้ปฏิเสธอะไร และหันกลับไปก่อนจะเริ่มตัดไม้เพื่อสร้างบ้าน

 

ฮวงเหลี่ยนชินก็เริ่มสนิทกับเจียงฉือน้อยแล้ว และด้วยคําอ้อนขอของเด็กสาวตัวน้อย โจวฉวนจีเลยยอมให้นางเข้าไปในหุบเขาได้

 

ตอนนี้ก็มีผู้ร่วมอาศัยอยู่ด้วยกับโจวฉวนจีเพิ่มขึ้นมาอีก 2 คนแล้ว

 

ยามเช้าของวันที่ 2 โจวฉวนจีและอีกสองคนก็ออกมาจากหุบเขา

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจนั้นมีทักษะที่ดีเลยทีเดียว และเขาก็สร้างบ้านไม้ที่ใช้เป็นที่พักของตัวเองเสร็จแล้ว

 

เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้า เขาก็ตื่นขึ้นมาจากการฝึกวรยุทธ

 

“งั้นเรามาเริ่มกันเถอะ วันนี้เจ้าจะต้องสอนวิชาดาบของเจ้ากับฮวงเหลี่ยนชิน ส่วนข้าจะคอยเฝ้าดูเอง”

 

โจวฉวนจีเล่นกับเจ้าหนูทรายสามตาที่อยู่บนมือพลางพูดอย่างลวก ๆ

 

ฮวงเหลี่ยนชินยืนอยู่ข้างหลังเขา ท่าทางนางอาจจะดูนิ่ง ๆ แต่ความตื่นเต้นมันประกายออกมาทางสายตาของนางเลย

 

อีกด้านหนึ่ง เจียงฉือน้อยก็นั่งอยู่บนก้อนหินไกล ๆ อาใหญ่และน้องสองก็นอนอยู่ข้างหลังเธอ วิหคมังกรทั้งสองดูจะง่วงนอน พวกมันผงกหัวครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับพร้อมจะหลับได้ทุกเมื่อ

 

“ได้ครับ!”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจพยักหน้า เขาค่อนข้างจะตื่นเต้นที่เดียวเพราะรู้ว่าตัวเองกําลังถูกเทพกระบีโจวทดสอบอ

 

ดังนั้นเขาจึงเริ่มสอนวิชาดาบให้ฮวงเหลี่ยนชินทุกวัน ขณะที่โจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยก็คอยฝึกปราณภายในอยู่ข้าง ๆ พวกเขา

 

พอมีโจวฉวนจีอยู่รอบ ๆ ด้วยแล้ว จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจก็ไม่กล้าขี้เกียจเลยแม้แต่นิดเดียว

 

เขาต้องยอมรับเลยว่า ฮวงเหลี่ยนชินนั้นค่อนข้างจะมีพรสวรรค์ในวิถีแห่งกระบี่ อย่างน้อย มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสําหรับจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจนักที่จะสอนนาง

 

ในทุก ๆ เดือน โจวฉวนจีจะพาพวกเขาไปทําลายรังโจรด้วยกัน แม้แต่เจียงฉือน้อยและวิหคมังกรทั้งสองเองก็ร่วมต่อสู้และขัดเกลาวิชาการต่อสู้ไปด้วยเหมือนกัน

 

เป้าหมายของโจวฉวนจีนั้นไม่ใช่การทําลายรังโจรที่อยู่ระดับสร้างรากฐานอีกต่อไป แต่เปลี่ยนไปทําลายพวกโจรแข็งแกร่งที่อยู่ระดับบรรลุญาณแทน

 

ในขณะที่พวกเขาช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้นและมากยิ่งขึ้นชื่อเสียงของเขาก็กระจายไปไกลราวกับไฟป่า

 

หนึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

ชื่อของเทพกระบี่โจวก็แพร่กระจายไปไกลทั่วทั้งอาณาจักรที่อยู่ภายในมหาจักรวรรดิโจวแล้ว

 

“ผ่านฟากฟ้าที่กว้างใหญ่ วิหคมังกรต่างคํารามก้องไกลเทพกระบี่โจวทลายรังโจร ร่วมกับผู้ติดตามจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 44 : เทพกระบี่โจวทลายรังโจร ร่วมกับผู้ติดตามจอมกระบี่แดนเหนือผู้ องอาจ!

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 44 : เทพกระบี่โจวทลายรังโจร ร่วมกับผู้ติดตามจอมกระบี่แดนเหนือผู้ องอาจ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 44 : เทพกระบี่โจวทลายรังโจร ร่วมกับผู้ติดตามจอมกระบี่แดนเหนือผู้ องอาจ!

 

“ตารางจัดอันดับผู้มีชื่อเสียงคืออะไรหรอ?”

 

เจียงฉือน้อยถามด้วยความสงสัย เธอเคยได้ยินแค่ตารางจัดอันดับยอดฝีมือแห่งมหาจักรวรรดิโจวเท่านั้น เพราะเยี่ยเฟยฟาน อัจฉริยะที่ติดอันดับยอดฝีมือถูกโจวฉวนจีสังหารเมื่อ 7 ปีก่อน

 

ฮวงเหลี่ยนชินตอบกลับ “มันเป็นการจัดอันดับโดยมหาจักรวรรดิโจวเจ้าค่ะ จะมีการบันทึกชื่อเหล่าผู้ที่มีชื่อเสียงในแต่ละปีจํานวน 100 คน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าตอนนี้ท่านคือบุคคลที่มีชื่อเสียงมากเจ้าค่ะ”

 

เมื่อโจวฉวนจีได้ยินที่นางพูดก็คิดขึ้นมา นี่ตอนนี้ข้าดังขนาดนั้นเลยหรอ?

 

เขายังประมาทชื่อเสียงของฉวงฮุ้ยเฉิงเกินไป

 

เจ้าชายปีศาจที่ทําลายเมืองจนย่อยยับได้ แต่กลับพ่ายให้กับจอมกระบี่ไร้ชื่อ เรื่องแบบนี้นี่หยั่งกับละครจริง ๆ

 

ในตอนที่โจวฉวนจีกําลังเดินผ่านจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ

 

เขาก็พูดขึ้นด้วยเสียงค่อยว่า “ตามพวกข้ามา”

 

จแทบจะปิดอาการประหลาด ใจไม่อยู่ ก่อนจะรีบตามหลังเขาไป

 

ยามเฝ้าประตูต่างเบิกตากว้าง และเริ่มหายใจถี่ขึ้น

 

เด็กคนนี้คือเทพกระบี่โจวอย่างงั้นน่ะหรอ!

 

ฮวงเหลี่ยนชินทิ้งรถม้าไว้ที่นั่น ใครจะเป็นคนเอามันไป ก็ให้มันขึ้นอยู่กับชะตาฟ้าลิขิต

 

ขณะที่เหล่ายามเฝ้ามองทั้ง 4 เดินจากไป พวกเขาทั้งหมดต่างก็แทบจะสติหลุด

 

“ท่านเทพกระบี่โจว!”

 

“งั้นนั่นก็เขานี่เอง ข้าเคยเจอเขามาแล้วครั้งนึงด้วย เมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว ตอนที่เขาผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ข้าก็เป็นเวรกะนั้นพอดีด้วย!”

 

“เขายังดูเด็กกว่าลูกชายข้าอีก”

 

“จุ๊ ๆ อย่าคิดแบบนั้นสิ บางทีเขาอาจจะแก่กว่าปูเจ้าก็ได้ นะ”

 

“เจ้าเห็นรึเปล่า? จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจชื่อดังคนนั้นที่ตามหลังเทพกระบี่โจวไป ติดตามเขาหยั่งกับทาสจริง ๆ แหน่ะเนี่ยแหละความสุดยอดของเทพกระบีโจวล่ะ”

 

เหล่าผู้เฝ้าประตูต่างพูดคุยความเห็นกันและดูตื่นเต้นสุด

 

การที่ได้เจอพวกเขาในวันนี้ก็มากพอที่จะให้พวกยามเอาไปเม้าท์มอยกันบนโต๊ะอาหารได้อีกยาวเลยล่ะ

 

หลังจากที่พวกเขาออกจากเขตชายแดนอาณาจักรเหมันต์แดนใต้มาแล้ว ก็ยังคงมุ่งหน้าเดินทางต่อไป

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเริ่มดูจะกระวนกระวายมากขึ้น แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

 

อีกด้านหนึ่ง เจียงฉือน้อยและฮวงเหลี่ยนชินก็ดูจะคุยกันอย่างมีความสุข

 

“อ่อใช่ จะว่าไปเจ้าชอบดาบมั้ย?”

 

จู่ๆ โจวฉวนจีก็ถามฮวงเหลี่ยนชินขึ้นมา ถึงมันจะดูไม่ใช่คําถามที่จริงจังมากนัก แต่นางก็กลัวจนเสียวสันหลังไปหมด

 

นางตอบทันทีว่า “ข้าชอบเจ้าค่ะ และข้าก็ยังรู้วิชาดาบอีกด้วย แต่มันก็เป็นระดับที่ต่ำเอามาก ๆ นะเจ้าค่ะ แทบจะเทียบกับขั้นที่ต่ำที่สุดของระดับอําไพยังไม่ได้เลย”

 

วิชาปราณ คาถา และศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่มีการจัดระดับและขันของมันเอง

 

โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ระดับนภาระดับปฐพี ระดับทมิฬ และระดับอําไพ นอกจากนี้ ในแต่ละระดับยังแบ่งออกเป็นขั้นสูงสุด ขั้นสูง ขั้นกลาง และขั้นต่ำ

 

วิชาดาบกระเรียนขาวและวิชากระบี่เพลิงกัลป์ของโจวฉวนจีนั้นล้วนแต่อยู่ในระดับอําไพ มีเพียงวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรเท่านั้นที่อยู่ขั้นสูงสุดของระดับทมิฬ

 

ฮวงเหลี่ยนชินมองไปยังโจวฉวนจีด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยม หรือว่าเทพกระบี่โจวกําลังจะช่วยสอนวิชาดาบให้กับนางนะ?

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจมองไปยังฮวงเหลี่ยนชินอย่างแทบไม่เชื่อสายตาพลางชื่นชมนาง

 

ในขณะนั้นเอง โจวฉวนจีก็หันกลับมาและพูดกับจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจว่า “เจ้าจงสอนวิชาดาบระดับทมิฬให้แก่นาง และจงช่วยให้นางบรรลุวิชาให้สําเร็จให้ได้ซะ”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเบิกตากว้างด้วยความสับสนงุนงง

 

อีกด้านหนึ่ง ฮวงเหลี่ยนชินก็รู้สึกตกใจ วิชาดาบระดับทมิฬนั้นไม่ใช่วิชาคุณภาพต่ำเลยสักนิด ในจักรวรรดิแล้ว วิชาเหล่านี้จะถูกส่งต่อผ่านภายในตระกูลเท่านั้น และถึงแม้จะมีวิชาพวกนี้ขายในหอการค้าของมหาจักรวรรดิโจว แต่ก็ยังแพงเกินกว่าที่นางจะจ่ายไหวอยู่ดี

 

โจวฉวนจี

เชื่อว่าจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจจะต้องมีวิชาดาบระดับทมิฬอยู่อย่างแน่นอน

 

เพราะถ้าจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจไม่มีแล้วล่ะก็ โจวฉวนจีคงจะดูถูกเขาเอาสุด ๆ

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ได้ครับ นายท่าน!” เขาพูดตอบ

 

ตั้งแต่ที่เขากลายเป็นทาสของเทพกระบี่โจว เขาก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธอะไร

 

โจวฉวนจีพยักหน้าอย่างพึงพอใจ และพูดว่า “เจ้ารู้จักวิชาดาบที่ข้าเคยใช้ล้มเจ้ารึเปล่า?”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจส่ายหัว แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างออก ก่อนจะพูดพึมพําออกมา “นายท่านจะว่าไปวิชาดาบของท่านคล้ายกับวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรของจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์เลยครับ”

 

โจวฉวนจีพูด “เจ้าคิดถูกแล้ว มันคือวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรนั้นแหละ”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเบิกตากว้าง และฮวงเหลี่ยนชินก็รู้สึกตกใจด้วยเช่นกัน

 

ชื่อของจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์นั้นดังไปไกลยิ่งกว่าจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเสียอีก เขาอยู่ถึงอันดับที่ 3 ของตารางจัดอันดับยอดฝีมือแห่งมหาจักรวรรดิโจว และยังมีชื่ออยู่บนตารางจัดอันดับผู้มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานอีกด้วย เขานั้นเป็นจอมกระบี่ผู้ทรงพลังพอที่จะสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลกได้อย่างแท้จริง

 

“ถึงวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรจะไม่ได้เป็นแค่ของจอมกระผู้สูงศักดิ์แต่เพียงผู้เดียว แต่วิชาดาบนี้ก็เป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดและเขาใช้บ่อยที่สุดแล้ว แล้วท่านไปเอาวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรมาได้ยังไงกันครับ?” จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจถามด้วยความสงสัย

 

จอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์ท้าทายจอมกระบี่ไปทั่วโลก และเขาไม่เคยแพ้ให้กับใครเลย เว้นเสียแต่จักรพรรดิกระบี่

 

และเขาก็คือหนึ่งในคนที่พ่ายแพ้ให้กับจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์นั่นเอง

 

ความหวังผุดขึ้นภายในใจของเขา เป็นไปได้มั้ยว่าเทพกระบี่โจวจะมีศักยภาพมากพอจะล้มจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์ได้นะ?

 

“อุ๊บส์–”

 

เจียงฉือน้อยกลั้นขําไม่ไหวอีกต่อไป

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจและฮวงเหลี่ยนชินมองไปที่เธอด้วยความแปลกใจ มีอะไรน่าขํางั้นหรอ?

 

เธอมองไปทางโจวฉวนจีและขําขณะที่เธอกําลังจะพูด หลังจากนั้นเมื่อโจวฉวนจีพยักหน้าให้เธอก็พูดออกมา “ศิษย์ของเขาน่ะคือจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์นั่นแหละ ในตอนนั้น เขาพนันกับเสี่ยวจิงหงเอาไว้…”

 

และเธอก็เริ่มร่ายยาว

 

ทั้งจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจและฮวงเหลี่ยนชินต่างก็รู้สึกตะลึงเมื่อได้ฟัง

 

โดยใช้แค่วิชาดาบอย่างเดียว เสี่ยวจิงหงก็พ่ายแพ้ให้กับเทพกระบี่โจวเนี่ยนะ?

 

ที่สําคัญที่สุดคือ โจวฉวนจีใช้เวลาแค่ครึ่งวันเท่านั้นในการบรรลุจิตดาบสะบั้นสามชีพจร

 

วิถีกระบี่ของเขามันไปถึงขั้นไหนกันแล้วเนี่ย?

 

ในตอนนั้น ทั้งสองก็แทบจะอยากคุกเข่าลงต่อหน้าโจวฉวนจีเลยทีเดียว

 

“ฟิ้ดด–”

 

จู่ ๆ โจวฉวนจีก็ผิวปากออกมา ด้วยพลังวิญญาณของเขา เสียงผิวปากก็ดังไปได้ไกลมากสุด ๆ

 

อารมณ์ของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจในตอนนี้ราวกับคลื่นทะเลที่ซัดสาดเข้ามา ต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะสงบสติอารมณ์ลงได้

 

คู่ต่อสู้คนสําคัญที่สุดในชีวิตของเขาคือลูกศิษย์ของเทพกระบี่โจวงั้นหรอ

 

ตอนนี้เขารู้สึกดีใจสุด ๆ

 

ฮวงเหลี่ยนชินก็เช่นกัน

 

ด้วยพรสวรรค์ของเสี่ยวจิงหงแล้ว เขาสามารถที่จะเหนือกว่าโจวหยาหลงได้แน่นอน และถ้ารวมกับเทพกระบี่โจวที่เป็นสุดยอดของสุดยอดยิ่งกว่าแล้วเนี่ย ความหวังในการแก้แค้นของนางก็ดูจะไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว!

 

ไม่นานนัก วิหคมังกร 2 ตัวก็บินมา

 

ทั้งคู่ต่างรู้อยู่แล้วว่าเทพกระบี่โจวเลี้ยงวิหคมังกรเอาไว้เลยไม่ได้ตกใจอะไรกัน

 

โจวฉวนจีและจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจขอาใหญ่ ส่วนเจียงฉือน้อยและฮวงเหลี่ยนชินขี่น้องสอง และทั้งหมดก็บินตรงไปยังหุบเขาที่โจวฉวนจีอาศัยอยู่

 

พอพวกเขากลับมาถึงหุบเขา มันก็เป็นเวลาเที่ยงคืนเสียแล้ว

 

ที่ทางเข้าหุบเขานั้น โจวฉวนจีได้ขอให้จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจสร้างบ้านของตัวเองอาศัยอยู่ข้างนอกแทน

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจไม่ได้ปฏิเสธอะไร และหันกลับไปก่อนจะเริ่มตัดไม้เพื่อสร้างบ้าน

 

ฮวงเหลี่ยนชินก็เริ่มสนิทกับเจียงฉือน้อยแล้ว และด้วยคําอ้อนขอของเด็กสาวตัวน้อย โจวฉวนจีเลยยอมให้นางเข้าไปในหุบเขาได้

 

ตอนนี้ก็มีผู้ร่วมอาศัยอยู่ด้วยกับโจวฉวนจีเพิ่มขึ้นมาอีก 2 คนแล้ว

 

ยามเช้าของวันที่ 2 โจวฉวนจีและอีกสองคนก็ออกมาจากหุบเขา

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจนั้นมีทักษะที่ดีเลยทีเดียว และเขาก็สร้างบ้านไม้ที่ใช้เป็นที่พักของตัวเองเสร็จแล้ว

 

เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้า เขาก็ตื่นขึ้นมาจากการฝึกวรยุทธ

 

“งั้นเรามาเริ่มกันเถอะ วันนี้เจ้าจะต้องสอนวิชาดาบของเจ้ากับฮวงเหลี่ยนชิน ส่วนข้าจะคอยเฝ้าดูเอง”

 

โจวฉวนจีเล่นกับเจ้าหนูทรายสามตาที่อยู่บนมือพลางพูดอย่างลวก ๆ

 

ฮวงเหลี่ยนชินยืนอยู่ข้างหลังเขา ท่าทางนางอาจจะดูนิ่ง ๆ แต่ความตื่นเต้นมันประกายออกมาทางสายตาของนางเลย

 

อีกด้านหนึ่ง เจียงฉือน้อยก็นั่งอยู่บนก้อนหินไกล ๆ อาใหญ่และน้องสองก็นอนอยู่ข้างหลังเธอ วิหคมังกรทั้งสองดูจะง่วงนอน พวกมันผงกหัวครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับพร้อมจะหลับได้ทุกเมื่อ

 

“ได้ครับ!”

 

จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจพยักหน้า เขาค่อนข้างจะตื่นเต้นที่เดียวเพราะรู้ว่าตัวเองกําลังถูกเทพกระบีโจวทดสอบอ

 

ดังนั้นเขาจึงเริ่มสอนวิชาดาบให้ฮวงเหลี่ยนชินทุกวัน ขณะที่โจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยก็คอยฝึกปราณภายในอยู่ข้าง ๆ พวกเขา

 

พอมีโจวฉวนจีอยู่รอบ ๆ ด้วยแล้ว จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจก็ไม่กล้าขี้เกียจเลยแม้แต่นิดเดียว

 

เขาต้องยอมรับเลยว่า ฮวงเหลี่ยนชินนั้นค่อนข้างจะมีพรสวรรค์ในวิถีแห่งกระบี่ อย่างน้อย มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสําหรับจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจนักที่จะสอนนาง

 

ในทุก ๆ เดือน โจวฉวนจีจะพาพวกเขาไปทําลายรังโจรด้วยกัน แม้แต่เจียงฉือน้อยและวิหคมังกรทั้งสองเองก็ร่วมต่อสู้และขัดเกลาวิชาการต่อสู้ไปด้วยเหมือนกัน

 

เป้าหมายของโจวฉวนจีนั้นไม่ใช่การทําลายรังโจรที่อยู่ระดับสร้างรากฐานอีกต่อไป แต่เปลี่ยนไปทําลายพวกโจรแข็งแกร่งที่อยู่ระดับบรรลุญาณแทน

 

ในขณะที่พวกเขาช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้นและมากยิ่งขึ้นชื่อเสียงของเขาก็กระจายไปไกลราวกับไฟป่า

 

หนึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

ชื่อของเทพกระบี่โจวก็แพร่กระจายไปไกลทั่วทั้งอาณาจักรที่อยู่ภายในมหาจักรวรรดิโจวแล้ว

 

“ผ่านฟากฟ้าที่กว้างใหญ่ วิหคมังกรต่างคํารามก้องไกลเทพกระบี่โจวทลายรังโจร ร่วมกับผู้ติดตามจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+