หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 55 : มือปราบมารเทพกระบี่โจว

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 55 : มือปราบมารเทพกระบี่โจว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย หมุนกระบีทะลวงสวรรค์ | Have Countless…

ตอนที่ 55 : มือปราบมารเทพกระบี่ โจว

จอมยุทธทั้ง 6 ที่ถูกช่วยเอาไว้ก็มา รวมตัวกันรอบโจวฉวนจีและแสดงความขอบคุณ

โจวฉวนจีโบกมือให้พลางพูดตอบ “เจ้าแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปได้เลยนะว่าไอเจ้าปีศาจนี่ได้ตายไปแล้ว ให้เหล่า ผู้ที่ต้องการล้างแค้นได้สบายอกสบายใจกันซะที

ทั้ง 6 คนพยักหน้าตอบรับทันที พร้อม ด้วยสีหน้าที่ทั้งดูตื่นเต้นและเร้าใจ

ในเมื่อพวกเขาเห็นกับตาตัวเองเลยว่า เทพกระบี่โจวสังหารเยี่ยเอ้อกวาน ดังนั้นพวกเขาเลยมีหลักฐานมากพอว่าพวก เขาไม่ได้พูดโม้เกินจริง

หลังจากนั้น ด้วยการนําของจอมกระบี่ ผู้องอาจ ทั้ง 6 คนจึงได้จากไปพร้อมกับความตื่นเต้น

เจียงฉือน้อยเริ่มทายากับโจวฉวนจี เธอรู้สึกปวดใจมากเมื่อเห็นใบหน้าที่เปื้อนเลือดของเขาก่อนจะบ่นพึมพํา ออกมา “โถ ไม่นะ… เจ้ากําลังจะกลาย เป็นคนอัปลักษณ์ซะแล้วหรอเนี่ย…”

ริมฝีปากของโจวฉวนจีกระตุก เขา อยากจะโต้กลับสุด ๆ แต่ก็กลัวเหมือนกัน

เขารู้ดีว่าทักษะที่ดีที่สุดของเขานั้นไม่ ใช่วิชาดาบแต่อย่างใด แต่มันคือหน้าตาอันหล่อเหลาของเขานั่นเองเขาอาจจะ หล่อมากขนาดที่ 1000 ปีจะมีสักคนเลยทีเดียวด้วยซ้ําแล้วหน้าตาที่ดูดีของเขา จะมาพังเอาแบบนี้ได้ยังไงกัน?

ฮวงเหลี่ยนชิ้นย่อตัวลงก่อนจะเริ่มทา ยาให้โจวฉวนจีเบา ๆ เธอไม่อาจทนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้เล ยถามออกมา “จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าพวกเราสามารถอ้อมไปได้หรอเจ้าคะทําไมถึงอยากจะสู้ขนาดนั้นล่ะเจ้าคะ?”

เยี่ยเอ้อกวานนั้นไม่ใช่พวกที่จะหยอก เล่นด้วยได้ นั่นเพราะเขามีพวกหนุนหลังอย่างสํานักอสูรโลกันตร์อยู่

ยิ่งกว่านั้น โจวฉวนจียังได้ขอให้จอม ยุทธทั้ง 6 คนนั้นช่วยแพร่กระจายข่าวออกไปด้วยอีก ถึงมันจะเพื่อชื่อเสียงก็ เถอะ แต่เขาไม่กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับสํานักอสูรโลกันตร์เลยรึไงกัน?

โจวฉวนจีตอบ “ที่จริงแล้วมีอยู่ 2 เห ตุผลน่ะ อย่างแรกคือดาบ ดาบเล่มนี้มัน ถูกย้อมไปด้วยพลังมารมากพอแล้ว เพ ราะงั้นเราถึงต้องกําจัดมันอย่างที่สองคือเยี่ยเอ้อกวานที่นับวันยิ่งแข็งแกร่งมา กกว่าเดิม เพราะงั้นแล้วจะไม่ให้ข้าช่วยเหล่าเหยื่อที่ถูกทําร้ายทั้ง ๆ ที่ข้าช่วยได้ได้ยังไงกันล่ะ?”

เหตุผลที่ว่ามานั้นฟังขึ้นสุด ๆ จนโน มน้าวฮวงเหลี่ยนชินและจอมกระบี่ผู้องอาจให้เชื่ออย่างสุดใจได้

แต่เจียงฉือน้อยกับกลอกตาใส่แทน พูดซะสวยหรู แต่จริง ๆ เขาก็แค่อยากได้ดาบเท่านั้นแหละ

เธออยู่ด้วยกันกับโจวฉวนจีมาตลอด ทั้งวันทั้งคืนตั้ง 9 ปี เพราะงั้นเธอจะไม่รู้จักเขาได้ไงกัน?

เธอไม่ได้บอกความจริงกับคนอื่น แต่ก ลับรู้สึกยินดีแทน

เพราะมีแค่เธอเท่านั้นที่รู้เรื่องเขามาก ที่สุดยังไงล่ะ!

โจวฉวนจีจะเปิดเผยความจริงแค่กับ เธอเท่านั้นยังไงล่ะ!

“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”

เขาถามจอมกระบี่ต้องอาจที่รับสั่งเขา ให้ไปสู่โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยซึ่งนั่นทําให้เขาพอใจมาก

พวกเขาได้ใช้เวลาด้วยกันมามากพอที่ โจวฉวนจีจะยอมรับในตัวเขาแล้ว

ในแง่ของตําแหน่ง แม้จอมกระบี่ผู้อง อาจจะเป็นทาสกระบี่ แต่จริง ๆ แล้วโจวฉวนจีนั้นมองว่าเขาคือลูกศิษย์ซะ มากกว่า

จอมกระบี่ฆ้องอาจตอบด้วยความละ อายใจ “ข้ายังอ่อนด้อยนัก ท่านได้รับบาดเจ็บก็เป็นเพราะข้าเอง”

การต่อสู้ในวันนี้ทําให้เขาได้รู้ซึ้งว่า โจวฉวนจีนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด

และอีกอย่างที่ต้องรู้ก็คือ โจวฉวนจียัง ไม่ได้ใช้ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเลยดาบราชาโลกันตร์ยังไงล่ะ!

“จากนี้ไป จงอย่าใช้เวลาทั้งหมดไป กับการฝึกวิชาดาบเพียงอย่างเดียววรยุทธ์ก็สําคัญด้วยเช่นกัน”

โจวฉวนจีเตือนเขาด้วยความจริงใจ และจอมกระบี่น้องอาจก็พยักหน้ารับอย่างจริงจัง

ขณะที่เขากําลังรักษาตัวอยู่ โจวฉวนจี ก็ใช้โอกาสนี้ถามขึ้นข้างในใจว่า “แล้วข้าจะรวมดาบเล่มนั้นได้ยังไงกันนะ?”

“จิตวิญญาณแห่งดาบจะช่วยท่านเจ้า ของดาบในการรวมดาบเองแต่มันต้องใช้เวลาดังนั้นโปรดอดทนรอด้วยครับ”

จิตวิญญาณแห่งดาบตอบกลับทันที ซึ่งมันทําให้เขานึกอะไรได้ขึ้นมา

ก่อนที่เขาจะถามต่อ “แล้วมันเป็นเรื่อง จริงรึเปล่าที่ว่าตราบใดที่มีคุณสมบัติเหมือนกันก็เอาอาวุธอะไรก็ได้ 2 ชิ้นมารว มกันได้น่ะ?”

“ไม่ใช่อาวุธทุกอย่าง มีเพียงแค่หยิบ มือเท่านั้นที่ทําได้ แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถเผยรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงได้ แต่ถ้าหากท่านเจอสมบัติที่สามารถรวมกันได้เมื่อไหร่จิตวิญญาณแห่งดาบจะ เตือนท่านเองครับ”

จิตวิญญาณแห่งดาบตอบ และมัน ทําให้เขารู้สึกผิดหวัง

เขาวางแผนเอาไว้ว่าจะรวบรวมอาวุธ และวัตถุวิเศษมาเยอะ ๆ เพื่อจะทําให้ดาบในตํานานของเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

แต่ความคิดของเขาก็ถูกจัดขึ้นมาทัน ที่ด้วยเสียงของจอมกระบี่ต้องอาจ “นายท่าน แล้วทําไมท่านถึงต้องเข้าร่วมการ คัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวด้วยล่ะครับ?”

จอมกระบี่ผู้องอาจที่มักเชื่อฟังคําสั่ง และแผนการของนายท่านเสมอและน้อยครั้งนักที่เขาจะถามนายน้อยของตัว เองในเรื่องอื่นนอกเสียจากเรื่องวิชาดาบ

โจวฉวนจีจ้องมองไปทางเขาและพูด ว่า “เจ้าน่ะเชื่อฟังคําสั่งของข้ามาตลอดโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมันก็ช่วย แสดงให้ข้าได้เห็นแล้วว่าเจ้าน่ะเคารพข้าจริง ๆ ความจริงแล้วข้าอยากจะเข้าร่วมการคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวไม่ใช่เพื่อเสาะหาชื่อเสียงหรือตําแหน่งในวังอะไรหรอกนะแต่เพื่อที่จะได้ฆ่าใครบางคนต่างหากล่ะ!”

แววตาของฮวงเหลี่ยนชิ้นเปล่งประ กายด้วยความตื่นเต้น

และจอมกระบี่ต้องอาจก็รู้สึกตื่นเต้นมา กด้วยเช่นกัน

ทําไมการเข้าร่วมการคัดเลือกแห่ง สวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวถึงจําเป็นมากสําหรับการจะได้ฆ่าใครสักคนกัน นะ?

เขาไม่ได้รู้สึกกังวลเลยสักนิด แต่กลับ รู้สึกขนลุกซู่
ชายคนนี้คงต้องการจะทําการใหญ่อะ ไรสักอย่างแน่เลย!

โจวฉวนจีหรี่ตาลงและพูดขึ้นมา “นั่นก็ คือ ราชินีแห่งมหาจักรวรรดิโจวและโจวหยาหลงยังไงล่ะ”

คนแรกน่ะเพื่อแก้แค้นให้กับท่านแม่ ของเขา ส่วนอีกคนน่ะเพื่อนฮวงเหลี่ยนชินยังไงล่ะ!

จอมกระบี่ผู้องอาจพูดพึมพําออกมา “ข้า จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ จะติดตามท่านไปด้วยอย่างแน่นอน”

เขาไม่คิดจะถามเหตุผลอะไรกับ โจวฉวนจีมากกว่านี้ แต่กลับรู้สึกว่าเขากําลังจะได้ทําบางสิ่งที่ทรงพลังมากซะ มากกว่า!

ถ้าหากพวกเขาทําสําเร็จล่ะก็ ทั่วทั้งม หาจักรวรดิโจวจะต้องสั่นคลอนเป็นแน่

หลังจากนั้น ถ้าเขายังรอดอยู่ล่ะก็ เขา ก็จะกลายเป็นนักเพนจรไปจนตายแน่!

ถ้าให้พูดกันตรง ๆ ล่ะก็ เขาก็เริ่มชิน กับการติดตามโจวฉวนจีและแม่นางทั้งสองคนแล้ว ตลอดการเดินทางนั้นสนุก มากจริง ๆ มันดียิ่งกว่าการเดินทางคนเดียวซะอีก

แม้แต่เจ้างูสีดําตัวจ้อย อาใหญ่ และ น้องสองก็ทําให้เขารู้สึกสนุกด้วย

แถมโจวฉวนจียังคอยเล่าเกี่ยวกับตํา นานและเรื่องเล่าจากอารยธรรมจีนให้กับพวกเขาฟังอีก ซึ่งบางครั้งมันก็ทําให้ เขารู้สึกสนใจมาก

เจ้างูสีดําตัวจ้อยตะโกนออกมา “เจ้า บ้าไปแล้วเรอะ! เจ้าอยากจะสังหารองค์ราชินีแห่งมหาจักรวรรดิโจวและโจวหยา หลงเนี่ยนะ? นี่เจ้ารู้รึเปล่าว่าพวกเขาน่ะแข็งแกร่งแค่ไหน?แม้แต่ราชาปีศาจญ่ หลานยังสู้ไม่ได้เลยด้วยซ้ํา!”

ปีศาจระดับ 5 กลัวอย่างงั้นน่ะหรอ

โจวฉวนจีพูดตอบอย่างดูถูกว่า “มหา จักรวรรดิโจวอะไร? ท้องฟ้าที่ข้าเห็นน่ะยังยิ่งใหญ่มากกว่ามหาจักรวรรดิโจวซะอีก”

“ข้าล่ะไม่เคยเจอใครที่อวดดีเท่าเจ้า เลยจริง ๆ !”

เจ้างูสีดําตัวเล็กจ้องไปที่เขาด้วย ดวงตาที่เล็กเท่าเมล็ดถั่วขณะที่ร้องตะโกนด้วยน้ําเสียงแปลก ๆ

ทันทีที่เจ้างูสีดําตัวเล็กพูดจบ จู่ๆ เจ้า หนูทรายสามตาก็วิ่งไปทั่วด้วยความตื่นเต้นอย่างไม่มีเหตุผล เจ้างูสีดําตัวกระ จ้อยร่อยแทบจะเป็นลมจากการที่ต้องมาถูกลากไปมาและถูกกระแทกลงพื้น มัน ถูกลากมากเสียจนบางทีก็เริ่มสงสัยเกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่ของตัวเองแล้ว

ทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะระเบิด หัวเราะออกมา
หลังจากที่พักกันได้ครึ่งชั่วโมง ทั้งก ลุ่มก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ

พวกเขาต่างถูกรายล้อมไปด้วย ซากศพ มันน่าขยะแขยงเกินกว่าจะอยู่ที่นี่ได้นานกว่านี้

ภายในครึ่งเดือน ข่าวก็แพร่กระจายไป ทั่วเขตชายแดนของมหาจักรวรดิโจวราวกับไฟป่า

เทพกระบโจวได้สังหารดาบกระหาย โลหิต เยี่ยเอ้อกวาน แล้ว!

ข่าวนั้นเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก ใน อาณาจักร ผู้คนส่วนมากที่อยู่ในโรงเตี้ยมมักคุยกันถึงเรื่องนี้

จอมกระบี่ผู้ทรงพลังคนหนึ่งได้ปรากฎ ตัวออกมาและทําการโค้นล้มปีศาจระดับ 4 ที่ทรงพลังผู้ซึ่งเป็นถึงองค์ชายแห่ง ราชวงศ์ปีศาจ
อีกหนึ่งคือจอมยุทธผู้ทรงพลังจาก สํานักอสูรโลกันตร์ผู้แสนจะชั่วร้าย

คําพูดเกี่ยวกับเทพกระบี่โจวที่ดูจะเกิน จริงมากไปก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วบางคนก็ถึงกับคิดว่า เทพกระบี่โจวสามารถ ต่อกรกับจอมกระบี่ผู้สูงเสี่ยวจึงหงและศิษย์ของจักรพรรดิกระบี่เสี่ยหรูโหยว ได้เลย

ที่อาณาจักรเหมันต์แดนใต้…

ณ บ้านพักของท่านแม่ทัพ ข้างในศา ลาหิน…

“ท่านพ่อเห็นมั้ย? เทพกระบี่โจวน่ะฆ่า ได้แม้แต่ดาบกระหายโลหิต เยี่ยเอ้อกวานเลยนะทั้งที่ท่านเคยแพ้ให้กับเยี่ย

เอ้อกวานมาก่อนน่ะ!”

จางเถียนเจียนจ้องเขม็งตาโต ก่อนจะ ทุบโต๊ะและพูดขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด“มารยาทเจ้าหายไปไหนหมดหัะ!”

ทหารที่อยู่ด้านข้างแอบขําอยู่น้อย ๆ จนต้องหันหน้าหนีออกข้าง

สีหน้าของจางหรูหยูเต็มไปด้วยความ ภาคภูมิใจ ราวกับว่าตัวเองเป็นเทพกระบี่โจวเอง

จางเถียนลูบคางพลางบ่นพึมพํากับตัว เองออกมา “ดูเหมือนว่าข้าคงจะประเมินเขาต่ําไปสินะ”

เขาคิดอยู่ภายในใจว่า โชคดีที่เขาไม่ ได้มีว่างขนาดนั้น
ถ้าข้าเจอเขาเข้าล่ะก็…

มันคงได้เป็นจุดจบของข้าแหง ๆ!

ณ มหาจักรวรรดิโจว ที่ค่ายทหาร…

เหมิงเทียนหลางนั่งอยู่บนที่นั่งสําหรับ แม่ทัพด้วยท่าทางที่ผ่าเผย พลางแอบฟังบทสนทนาของพวกทหาร

“ตอนนี้ในการจัดอันดับผู้มีชื่อเสียง แห่งมหาจักรวรรดิโจวเขาได้ตั้งฉายาให้กับเทพกระบี่โจวโดยเฉพาะด้วยนะ เป็น มือปราบมารเทพกระบี่โจวยังไงละ!”

หลังจากที่คิดขึ้นมาได้ ทหารนายน นก็ยื่นม้วนตําราส่งให้เหมิงเทียนหลาง

แม่ทัพเหมิงมองม้วนตํารานั้นหลังจาก ที่ได้มา

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ปิดม้วนตํารา ลงก่อนจะถอนหายใจออกมา “ช่างเป็นคนสําคัญซะจริงนะ!”

หลังจากนั้นเขาพูดขึ้นมาด้วยน้ําเสียง เยาะเย้ย “ดูเหมือนเสี่ยวจึงหงจะมีคู่แข่งซะแล้วนะตอนนี้”

ทหารนายนั้นเงยหน้าขึ้นก่อนจะถาม ด้วยความสงสัย “มีข่าวลือมากมายในหมู่ประชาชนว่าชายคนนี้จะกลายเป็นภัย คุกคามต่อตําแหน่งจักรพรรดิกระบี่เพราะเขาสามารถใช้สองจิตดาบพร้อมกัน ได้นะครับ แล้วท่านแม่ทัพท่านคิดยังไงบ้างครับ?”

เหมิงเทียนหลางจ้องเขม็งไปทางนาย ทหารก่อนจะตะโกนออกมา “เจ้ายังโชคดีนะที่อยู่ในค่ายของข้าน่ะ เจ้าคิดว่า เจ้าเป็นใครกันถึงกล้ามาดูถูกจักรพรรดิกระบี่ได้น่ะ? เจ้าน่ะรู้รึเปล่าว่ามีแม่ทัพใน กองทัพมหาจักรวรรดิโจวมากมายแค่ไหนที่เคารพนับถือจักรพรรดิกระบี่น่ะห้ะ?”

ทันใดนั้น จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาพร้อมทั้ง รอยยิ้ม “ใช้สองจิตดาบพร้อมกันแถมยังควบคุมดาบได้ 9 เล่มอีกงั้นหรอนี่ไม่ใช่ อะไรที่จักรพรรดิกระบี่จะทําได้เลยนะ”

“สักวันนึงอาจจะมีคนที่เป็นเทพกระ บี่ในมหาจักรวรรดิโจวจริง ๆ ก็ได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 55 : มือปราบมารเทพกระบี่โจว

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 55 : มือปราบมารเทพกระบี่โจว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย หมุนกระบีทะลวงสวรรค์ | Have Countless…

ตอนที่ 55 : มือปราบมารเทพกระบี่ โจว

จอมยุทธทั้ง 6 ที่ถูกช่วยเอาไว้ก็มา รวมตัวกันรอบโจวฉวนจีและแสดงความขอบคุณ

โจวฉวนจีโบกมือให้พลางพูดตอบ “เจ้าแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปได้เลยนะว่าไอเจ้าปีศาจนี่ได้ตายไปแล้ว ให้เหล่า ผู้ที่ต้องการล้างแค้นได้สบายอกสบายใจกันซะที

ทั้ง 6 คนพยักหน้าตอบรับทันที พร้อม ด้วยสีหน้าที่ทั้งดูตื่นเต้นและเร้าใจ

ในเมื่อพวกเขาเห็นกับตาตัวเองเลยว่า เทพกระบี่โจวสังหารเยี่ยเอ้อกวาน ดังนั้นพวกเขาเลยมีหลักฐานมากพอว่าพวก เขาไม่ได้พูดโม้เกินจริง

หลังจากนั้น ด้วยการนําของจอมกระบี่ ผู้องอาจ ทั้ง 6 คนจึงได้จากไปพร้อมกับความตื่นเต้น

เจียงฉือน้อยเริ่มทายากับโจวฉวนจี เธอรู้สึกปวดใจมากเมื่อเห็นใบหน้าที่เปื้อนเลือดของเขาก่อนจะบ่นพึมพํา ออกมา “โถ ไม่นะ… เจ้ากําลังจะกลาย เป็นคนอัปลักษณ์ซะแล้วหรอเนี่ย…”

ริมฝีปากของโจวฉวนจีกระตุก เขา อยากจะโต้กลับสุด ๆ แต่ก็กลัวเหมือนกัน

เขารู้ดีว่าทักษะที่ดีที่สุดของเขานั้นไม่ ใช่วิชาดาบแต่อย่างใด แต่มันคือหน้าตาอันหล่อเหลาของเขานั่นเองเขาอาจจะ หล่อมากขนาดที่ 1000 ปีจะมีสักคนเลยทีเดียวด้วยซ้ําแล้วหน้าตาที่ดูดีของเขา จะมาพังเอาแบบนี้ได้ยังไงกัน?

ฮวงเหลี่ยนชิ้นย่อตัวลงก่อนจะเริ่มทา ยาให้โจวฉวนจีเบา ๆ เธอไม่อาจทนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้เล ยถามออกมา “จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าพวกเราสามารถอ้อมไปได้หรอเจ้าคะทําไมถึงอยากจะสู้ขนาดนั้นล่ะเจ้าคะ?”

เยี่ยเอ้อกวานนั้นไม่ใช่พวกที่จะหยอก เล่นด้วยได้ นั่นเพราะเขามีพวกหนุนหลังอย่างสํานักอสูรโลกันตร์อยู่

ยิ่งกว่านั้น โจวฉวนจียังได้ขอให้จอม ยุทธทั้ง 6 คนนั้นช่วยแพร่กระจายข่าวออกไปด้วยอีก ถึงมันจะเพื่อชื่อเสียงก็ เถอะ แต่เขาไม่กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับสํานักอสูรโลกันตร์เลยรึไงกัน?

โจวฉวนจีตอบ “ที่จริงแล้วมีอยู่ 2 เห ตุผลน่ะ อย่างแรกคือดาบ ดาบเล่มนี้มัน ถูกย้อมไปด้วยพลังมารมากพอแล้ว เพ ราะงั้นเราถึงต้องกําจัดมันอย่างที่สองคือเยี่ยเอ้อกวานที่นับวันยิ่งแข็งแกร่งมา กกว่าเดิม เพราะงั้นแล้วจะไม่ให้ข้าช่วยเหล่าเหยื่อที่ถูกทําร้ายทั้ง ๆ ที่ข้าช่วยได้ได้ยังไงกันล่ะ?”

เหตุผลที่ว่ามานั้นฟังขึ้นสุด ๆ จนโน มน้าวฮวงเหลี่ยนชินและจอมกระบี่ผู้องอาจให้เชื่ออย่างสุดใจได้

แต่เจียงฉือน้อยกับกลอกตาใส่แทน พูดซะสวยหรู แต่จริง ๆ เขาก็แค่อยากได้ดาบเท่านั้นแหละ

เธออยู่ด้วยกันกับโจวฉวนจีมาตลอด ทั้งวันทั้งคืนตั้ง 9 ปี เพราะงั้นเธอจะไม่รู้จักเขาได้ไงกัน?

เธอไม่ได้บอกความจริงกับคนอื่น แต่ก ลับรู้สึกยินดีแทน

เพราะมีแค่เธอเท่านั้นที่รู้เรื่องเขามาก ที่สุดยังไงล่ะ!

โจวฉวนจีจะเปิดเผยความจริงแค่กับ เธอเท่านั้นยังไงล่ะ!

“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”

เขาถามจอมกระบี่ต้องอาจที่รับสั่งเขา ให้ไปสู่โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยซึ่งนั่นทําให้เขาพอใจมาก

พวกเขาได้ใช้เวลาด้วยกันมามากพอที่ โจวฉวนจีจะยอมรับในตัวเขาแล้ว

ในแง่ของตําแหน่ง แม้จอมกระบี่ผู้อง อาจจะเป็นทาสกระบี่ แต่จริง ๆ แล้วโจวฉวนจีนั้นมองว่าเขาคือลูกศิษย์ซะ มากกว่า

จอมกระบี่ฆ้องอาจตอบด้วยความละ อายใจ “ข้ายังอ่อนด้อยนัก ท่านได้รับบาดเจ็บก็เป็นเพราะข้าเอง”

การต่อสู้ในวันนี้ทําให้เขาได้รู้ซึ้งว่า โจวฉวนจีนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด

และอีกอย่างที่ต้องรู้ก็คือ โจวฉวนจียัง ไม่ได้ใช้ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเลยดาบราชาโลกันตร์ยังไงล่ะ!

“จากนี้ไป จงอย่าใช้เวลาทั้งหมดไป กับการฝึกวิชาดาบเพียงอย่างเดียววรยุทธ์ก็สําคัญด้วยเช่นกัน”

โจวฉวนจีเตือนเขาด้วยความจริงใจ และจอมกระบี่น้องอาจก็พยักหน้ารับอย่างจริงจัง

ขณะที่เขากําลังรักษาตัวอยู่ โจวฉวนจี ก็ใช้โอกาสนี้ถามขึ้นข้างในใจว่า “แล้วข้าจะรวมดาบเล่มนั้นได้ยังไงกันนะ?”

“จิตวิญญาณแห่งดาบจะช่วยท่านเจ้า ของดาบในการรวมดาบเองแต่มันต้องใช้เวลาดังนั้นโปรดอดทนรอด้วยครับ”

จิตวิญญาณแห่งดาบตอบกลับทันที ซึ่งมันทําให้เขานึกอะไรได้ขึ้นมา

ก่อนที่เขาจะถามต่อ “แล้วมันเป็นเรื่อง จริงรึเปล่าที่ว่าตราบใดที่มีคุณสมบัติเหมือนกันก็เอาอาวุธอะไรก็ได้ 2 ชิ้นมารว มกันได้น่ะ?”

“ไม่ใช่อาวุธทุกอย่าง มีเพียงแค่หยิบ มือเท่านั้นที่ทําได้ แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถเผยรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงได้ แต่ถ้าหากท่านเจอสมบัติที่สามารถรวมกันได้เมื่อไหร่จิตวิญญาณแห่งดาบจะ เตือนท่านเองครับ”

จิตวิญญาณแห่งดาบตอบ และมัน ทําให้เขารู้สึกผิดหวัง

เขาวางแผนเอาไว้ว่าจะรวบรวมอาวุธ และวัตถุวิเศษมาเยอะ ๆ เพื่อจะทําให้ดาบในตํานานของเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

แต่ความคิดของเขาก็ถูกจัดขึ้นมาทัน ที่ด้วยเสียงของจอมกระบี่ต้องอาจ “นายท่าน แล้วทําไมท่านถึงต้องเข้าร่วมการ คัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวด้วยล่ะครับ?”

จอมกระบี่ผู้องอาจที่มักเชื่อฟังคําสั่ง และแผนการของนายท่านเสมอและน้อยครั้งนักที่เขาจะถามนายน้อยของตัว เองในเรื่องอื่นนอกเสียจากเรื่องวิชาดาบ

โจวฉวนจีจ้องมองไปทางเขาและพูด ว่า “เจ้าน่ะเชื่อฟังคําสั่งของข้ามาตลอดโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมันก็ช่วย แสดงให้ข้าได้เห็นแล้วว่าเจ้าน่ะเคารพข้าจริง ๆ ความจริงแล้วข้าอยากจะเข้าร่วมการคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวไม่ใช่เพื่อเสาะหาชื่อเสียงหรือตําแหน่งในวังอะไรหรอกนะแต่เพื่อที่จะได้ฆ่าใครบางคนต่างหากล่ะ!”

แววตาของฮวงเหลี่ยนชิ้นเปล่งประ กายด้วยความตื่นเต้น

และจอมกระบี่ต้องอาจก็รู้สึกตื่นเต้นมา กด้วยเช่นกัน

ทําไมการเข้าร่วมการคัดเลือกแห่ง สวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวถึงจําเป็นมากสําหรับการจะได้ฆ่าใครสักคนกัน นะ?

เขาไม่ได้รู้สึกกังวลเลยสักนิด แต่กลับ รู้สึกขนลุกซู่
ชายคนนี้คงต้องการจะทําการใหญ่อะ ไรสักอย่างแน่เลย!

โจวฉวนจีหรี่ตาลงและพูดขึ้นมา “นั่นก็ คือ ราชินีแห่งมหาจักรวรรดิโจวและโจวหยาหลงยังไงล่ะ”

คนแรกน่ะเพื่อแก้แค้นให้กับท่านแม่ ของเขา ส่วนอีกคนน่ะเพื่อนฮวงเหลี่ยนชินยังไงล่ะ!

จอมกระบี่ผู้องอาจพูดพึมพําออกมา “ข้า จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ จะติดตามท่านไปด้วยอย่างแน่นอน”

เขาไม่คิดจะถามเหตุผลอะไรกับ โจวฉวนจีมากกว่านี้ แต่กลับรู้สึกว่าเขากําลังจะได้ทําบางสิ่งที่ทรงพลังมากซะ มากกว่า!

ถ้าหากพวกเขาทําสําเร็จล่ะก็ ทั่วทั้งม หาจักรวรดิโจวจะต้องสั่นคลอนเป็นแน่

หลังจากนั้น ถ้าเขายังรอดอยู่ล่ะก็ เขา ก็จะกลายเป็นนักเพนจรไปจนตายแน่!

ถ้าให้พูดกันตรง ๆ ล่ะก็ เขาก็เริ่มชิน กับการติดตามโจวฉวนจีและแม่นางทั้งสองคนแล้ว ตลอดการเดินทางนั้นสนุก มากจริง ๆ มันดียิ่งกว่าการเดินทางคนเดียวซะอีก

แม้แต่เจ้างูสีดําตัวจ้อย อาใหญ่ และ น้องสองก็ทําให้เขารู้สึกสนุกด้วย

แถมโจวฉวนจียังคอยเล่าเกี่ยวกับตํา นานและเรื่องเล่าจากอารยธรรมจีนให้กับพวกเขาฟังอีก ซึ่งบางครั้งมันก็ทําให้ เขารู้สึกสนใจมาก

เจ้างูสีดําตัวจ้อยตะโกนออกมา “เจ้า บ้าไปแล้วเรอะ! เจ้าอยากจะสังหารองค์ราชินีแห่งมหาจักรวรรดิโจวและโจวหยา หลงเนี่ยนะ? นี่เจ้ารู้รึเปล่าว่าพวกเขาน่ะแข็งแกร่งแค่ไหน?แม้แต่ราชาปีศาจญ่ หลานยังสู้ไม่ได้เลยด้วยซ้ํา!”

ปีศาจระดับ 5 กลัวอย่างงั้นน่ะหรอ

โจวฉวนจีพูดตอบอย่างดูถูกว่า “มหา จักรวรรดิโจวอะไร? ท้องฟ้าที่ข้าเห็นน่ะยังยิ่งใหญ่มากกว่ามหาจักรวรรดิโจวซะอีก”

“ข้าล่ะไม่เคยเจอใครที่อวดดีเท่าเจ้า เลยจริง ๆ !”

เจ้างูสีดําตัวเล็กจ้องไปที่เขาด้วย ดวงตาที่เล็กเท่าเมล็ดถั่วขณะที่ร้องตะโกนด้วยน้ําเสียงแปลก ๆ

ทันทีที่เจ้างูสีดําตัวเล็กพูดจบ จู่ๆ เจ้า หนูทรายสามตาก็วิ่งไปทั่วด้วยความตื่นเต้นอย่างไม่มีเหตุผล เจ้างูสีดําตัวกระ จ้อยร่อยแทบจะเป็นลมจากการที่ต้องมาถูกลากไปมาและถูกกระแทกลงพื้น มัน ถูกลากมากเสียจนบางทีก็เริ่มสงสัยเกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่ของตัวเองแล้ว

ทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะระเบิด หัวเราะออกมา
หลังจากที่พักกันได้ครึ่งชั่วโมง ทั้งก ลุ่มก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ

พวกเขาต่างถูกรายล้อมไปด้วย ซากศพ มันน่าขยะแขยงเกินกว่าจะอยู่ที่นี่ได้นานกว่านี้

ภายในครึ่งเดือน ข่าวก็แพร่กระจายไป ทั่วเขตชายแดนของมหาจักรวรดิโจวราวกับไฟป่า

เทพกระบโจวได้สังหารดาบกระหาย โลหิต เยี่ยเอ้อกวาน แล้ว!

ข่าวนั้นเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก ใน อาณาจักร ผู้คนส่วนมากที่อยู่ในโรงเตี้ยมมักคุยกันถึงเรื่องนี้

จอมกระบี่ผู้ทรงพลังคนหนึ่งได้ปรากฎ ตัวออกมาและทําการโค้นล้มปีศาจระดับ 4 ที่ทรงพลังผู้ซึ่งเป็นถึงองค์ชายแห่ง ราชวงศ์ปีศาจ
อีกหนึ่งคือจอมยุทธผู้ทรงพลังจาก สํานักอสูรโลกันตร์ผู้แสนจะชั่วร้าย

คําพูดเกี่ยวกับเทพกระบี่โจวที่ดูจะเกิน จริงมากไปก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วบางคนก็ถึงกับคิดว่า เทพกระบี่โจวสามารถ ต่อกรกับจอมกระบี่ผู้สูงเสี่ยวจึงหงและศิษย์ของจักรพรรดิกระบี่เสี่ยหรูโหยว ได้เลย

ที่อาณาจักรเหมันต์แดนใต้…

ณ บ้านพักของท่านแม่ทัพ ข้างในศา ลาหิน…

“ท่านพ่อเห็นมั้ย? เทพกระบี่โจวน่ะฆ่า ได้แม้แต่ดาบกระหายโลหิต เยี่ยเอ้อกวานเลยนะทั้งที่ท่านเคยแพ้ให้กับเยี่ย

เอ้อกวานมาก่อนน่ะ!”

จางเถียนเจียนจ้องเขม็งตาโต ก่อนจะ ทุบโต๊ะและพูดขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด“มารยาทเจ้าหายไปไหนหมดหัะ!”

ทหารที่อยู่ด้านข้างแอบขําอยู่น้อย ๆ จนต้องหันหน้าหนีออกข้าง

สีหน้าของจางหรูหยูเต็มไปด้วยความ ภาคภูมิใจ ราวกับว่าตัวเองเป็นเทพกระบี่โจวเอง

จางเถียนลูบคางพลางบ่นพึมพํากับตัว เองออกมา “ดูเหมือนว่าข้าคงจะประเมินเขาต่ําไปสินะ”

เขาคิดอยู่ภายในใจว่า โชคดีที่เขาไม่ ได้มีว่างขนาดนั้น
ถ้าข้าเจอเขาเข้าล่ะก็…

มันคงได้เป็นจุดจบของข้าแหง ๆ!

ณ มหาจักรวรรดิโจว ที่ค่ายทหาร…

เหมิงเทียนหลางนั่งอยู่บนที่นั่งสําหรับ แม่ทัพด้วยท่าทางที่ผ่าเผย พลางแอบฟังบทสนทนาของพวกทหาร

“ตอนนี้ในการจัดอันดับผู้มีชื่อเสียง แห่งมหาจักรวรรดิโจวเขาได้ตั้งฉายาให้กับเทพกระบี่โจวโดยเฉพาะด้วยนะ เป็น มือปราบมารเทพกระบี่โจวยังไงละ!”

หลังจากที่คิดขึ้นมาได้ ทหารนายน นก็ยื่นม้วนตําราส่งให้เหมิงเทียนหลาง

แม่ทัพเหมิงมองม้วนตํารานั้นหลังจาก ที่ได้มา

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ปิดม้วนตํารา ลงก่อนจะถอนหายใจออกมา “ช่างเป็นคนสําคัญซะจริงนะ!”

หลังจากนั้นเขาพูดขึ้นมาด้วยน้ําเสียง เยาะเย้ย “ดูเหมือนเสี่ยวจึงหงจะมีคู่แข่งซะแล้วนะตอนนี้”

ทหารนายนั้นเงยหน้าขึ้นก่อนจะถาม ด้วยความสงสัย “มีข่าวลือมากมายในหมู่ประชาชนว่าชายคนนี้จะกลายเป็นภัย คุกคามต่อตําแหน่งจักรพรรดิกระบี่เพราะเขาสามารถใช้สองจิตดาบพร้อมกัน ได้นะครับ แล้วท่านแม่ทัพท่านคิดยังไงบ้างครับ?”

เหมิงเทียนหลางจ้องเขม็งไปทางนาย ทหารก่อนจะตะโกนออกมา “เจ้ายังโชคดีนะที่อยู่ในค่ายของข้าน่ะ เจ้าคิดว่า เจ้าเป็นใครกันถึงกล้ามาดูถูกจักรพรรดิกระบี่ได้น่ะ? เจ้าน่ะรู้รึเปล่าว่ามีแม่ทัพใน กองทัพมหาจักรวรรดิโจวมากมายแค่ไหนที่เคารพนับถือจักรพรรดิกระบี่น่ะห้ะ?”

ทันใดนั้น จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาพร้อมทั้ง รอยยิ้ม “ใช้สองจิตดาบพร้อมกันแถมยังควบคุมดาบได้ 9 เล่มอีกงั้นหรอนี่ไม่ใช่ อะไรที่จักรพรรดิกระบี่จะทําได้เลยนะ”

“สักวันนึงอาจจะมีคนที่เป็นเทพกระ บี่ในมหาจักรวรรดิโจวจริง ๆ ก็ได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+