หัตถ์เทวะธิดาพญายม 156 ไม่ขอกวนประสาท

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 156 ไม่ขอกวนประสาท at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ครั้นเมื่อเกอซีหวนนึกถึงสิ่งที่หนานกงยวี่เคยทุ่มเทเพื่อนาง เขาช่วยเหลือนางครั้งแล้วครั้งเล่า หญิงสาวกลับอดมิได้ที่จะรู้สึกละอายแก่ใจทั้งยังให้รู้สึกเขินอายจนใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ นางรีบผลักร่างของเขาให้ห่างออกไปด้วยอาการละล้าละลัง ฝ่ามือน้อย ๆ ยังวางนาบอยู่บนแผ่นอกที่เปลือยเปล่าของอีกฝ่าย โดยไม่ยินยอมให้เขาเข้าใกล้มากไปกว่านี้ ขวางมิให้เขาเขยิบกายเข้าประชิดนางได้อีก

 

ใบหน้าที่แดงฉานของอีกฝ่ายกลับทำให้หนานกงยวี่ชอบอกชอบใจยิ่งนัก ชายหนุ่มก้มลงกระซิบข้างหูนางอย่างแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ซีเอ๋อเจ้ายอมรับเสียเถิด นับแต่นี้ไป เจ้าคือคนของข้า พระชายาแห่งตำหนักราชันมัจจุราช ภรรยาแห่งข้า หนานกงยวี่ นอกไปเสียจากข้าแล้ว เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้คิดถึงบุรุษอื่นใดอีก ทั้งยังไม่ได้รับอนุญาตให้ไปจากข้า”

 

“พูดบ้า ๆ !” หญิงสาวสวนกลับพร้อมชักฝ่าเท้าถอยด้วยอาการประหม่า ยิ่งเมื่อนึกถึงผู้คนในพระตำหนักแห่งนี้ล้วนพากันเรียกขานนางว่าพระชายา ใบหน้าของนางกลับยิ่งแดงก่ำขึ้นมากอีกครา ทว่าครานี้น้ำเสียงของนางแฝงไว้ด้วยความรำคาญใจ “หากเจ้าบอกว่าข้าคือพระชายาของเจ้า ข้าก็ต้องเป็นพระชายากระนั้นหรือ ? ข้าไปตอบรับเจ้าตั้งแต่เมื่อไรกัน ?”

 

ในโลกยุคใหม่ หากชายหนุ่มต้องการขอใครสักคนแต่งงาน เขายังต้องก้มลงคุกเข่ามอบแหวนให้สตรีผู้นั้น กลับมิคิดเลยว่าบุรุษผู้นี้จะคิดเหมาเอาเองไปได้เรื่อย ทั้งยังกล้าประกาศว่านางคือภรรยาของเขาอีก ! นี่มันด้วยเหตุใดกัน ? นางไปรับคำแต่งงานกับเขาตั้งแต่เมื่อไรกัน ? !

 

ทว่าที่สุดเกอซีกลับอดรู้สึกห่วงกังวลในอาการของเขามิได้จึงเพียงพร่ำบ่นกับตนเอง “ข้าจะต้องไม่กวนประสาทเจ้าคนบ้าระห่ำผู้นี้แล้ว” หญิงสาวตรงเข้ามาฉวยข้อมือหนานกงยวี่ และเริ่มลงมือตรวจจับการเต้นของชีพจรอีกครา

 

ครานี้อีกฝ่ายไม่ขัดขืนสร้างความวุ่นวายให้แก่นาง สายตาที่จับจ้องเกอซีนั้นทั้งอ่อนโยนทั้งนุ่มนวลกระทั่งสามารถทำให้โลหิตที่ไหลเวียนทั่วทั้งร่างแข็งตัวได้ในทันที

 

เกอซีลดมือลงจ้องหน้าเขาด้วยความไม่สบอารมณ์

 

อาการแย้มยิ้มเผยผ่านดวงตาของชายหนุ่มวาบหนึ่งก่อนคิ้วคมเข้มจะเลิกขึ้นสูงพร้อมเสียงเย้า “ซีเอ๋อยังจดจำได้หรือไม่ว่าเจ้ายังติดค้างเปิ่นหวางอยู่มากมายเพียงไร ? กล่าวกันว่าการตอบแทนบุญคุณใครสักคนที่ช่วยชีวิตเราไว้ ย่อมสมควรมอบชีวิตของเจ้าให้แก่คนผู้นั้น ซีเอ๋อลองตรองดูสิว่าเจ้าติดค้างหนี้ชีวิตที่สมควรตอบแทนข้าด้วยการมอบชีวิตของเจ้าให้ข้ามากี่คราแล้ว ?”

 

สีหน้าของเกอซีค่อย ๆ เปลี่ยนไปเล็กน้อย หญิงสาวพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชาพลางหยิบเอาขวดกระเบื้องเคลือบที่บรรจุทิพย์ธาราจากในมิติเวทของตนออกมาส่งให้แก่หนานกงยวี่ น้ำเสียงเยาะหยันดังขึ้น “ยังมิรู้ว่าผู้ใดต้องให้ตอบแทนแก่ผู้ใดกันแน่ ! ทว่าเท่าที่เห็นยามนี้ ข้าก็คือผู้ช่วยชีวิตเจ้า”

 

มุมปากของหนานกงยวี่ขยักโค้งขึ้นเล็กน้อยพร้อมน้ำเสียงที่นุ่มนวลชวนฟัง “หากซีเอ๋อพอใจ เปิ่นหวางยินดีให้คำมั่นจะมอบชีวิตนี้ให้แก่ซีเอ๋อ”

 

เกอซีถลึงตาใส่ด้วยรู้สึกประหลาดใจ ในหัวประมวลผลอย่างรวดเร็วทันที ‘องค์ชายราชันมัจจุราชผู้เป็นตำนานเล่าขานแห่งเทพเจ้าจากขุมนรกย่อมสมควรวางตนให้ทรงอำนาจยิ่งใหญ่ดั่งสมญานามมิใช่หรือ ! เหตุใดเขาจึงเป็นคนหน้าหนาได้ถึงเพียงนี้ ? !

 

ชายหนุ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่รับทิพย์ธารายกดื่มหมดเกลี้ยงด้วยเพียงอึกเดียว ทันทีที่ขวดกระเบื้องเคลือบนั้นว่างเปล่า ความแปลกประหลาดใจพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้า “นี่…. คือทิพย์ธาราแห่งความสันโดษชั้นเก้าหรือ ?”

 

สีหน้าของเกอซีแปรเปลี่ยนในทันที ความระแวดระวังผุดเผยผ่านดวงตายามเมื่อข้อไถ่ถามของนางดังขึ้นอย่างแผ่วเบา “เจ้ารู้ได้อย่างไร ?”

 

นางนำทิพย์ธาราออกมาจากมิติของตนเอง ทั้งยังพบว่าเรื่องราวเกี่ยวกับทิพย์ธารานั้นมิได้มีบันทึกไว้ในตำราบรรพกาลเล่มใดในยุคนี้ ทว่าหนานกงยวี่รู้ได้อย่างไร ? เช่นนั้นมิติวังซูมี่ ยังอีกต้านต้าน จะไม่ถูกเขาเปิดเผยออกมาล่ะหรือ ?

 

แววตาที่เปี่ยมไปด้วยความอัศจรรย์ใจจับจ้องอยู่กับเกอซี “นี่คือทิพย์ธาราแห่งความสันโดษชั้นที่เก้าของจริง ทิพย์ธารานี้นับเป็นสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่งในทวีปหมีหลัว ตามตำนานบันทึกไว้ว่า นอกไปเสียจากความสามารถในการช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อเสริมความแข็งแกร่งให้สภาพร่างกายแล้ว มันยังสามารถช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการกลั่นโอสถ ทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยเสริมประสิทธิภาพให้อาวุธมีพลานุภาพอย่างเหลือล้น นี่คือสมบัติล้ำค่าที่บรรดาหมอผู้มีทักษะการแพทย์ขั้นสูงทั้งหลายต่างหมายปองต้องการมีไว้ในครอบครอง”

 

หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยท่าทางครุ่นคิด “เมื่อทั่วทั้งทวีปหมีหลัวแทบไม่ปรากฏทิพย์ธาราแห่งความสันโดษชั้นเก้า เช่นนั้นเจ้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันคือทิพย์ธาราแห่งความสันโดษชั้นเก้า ?”

 

หนานกงยวี่หัวเราะโดยไม่ตอบทว่ากลับเสริมต่อ ตำนานเล่ากล่าวไว้ว่าทิพย์ธาราที่คงเหลือในใต้หล้าหลังยุคมหาสงครามครั้งโบราณกาลนั้นคงเหลือถึงเก้าชนิด โดยบัญญัตินามตามระดับขั้นคุณสมบัติ ซึ่งทิพย์ธาราแห่งความสันโดษชั้นเก้านับเป็นทิพย์ธาราซึ่งมีคุณสมบัติขั้นสูงสุดซึ่งแม้กระทั่งบรรดาตระกูลใหญ่ผู้เป็นชนชั้นระดับบนทั่วทั้งอาณาจักรยังมีไว้ในครอบครองแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าซีเอ๋อกลับนำมาให้ข้าดื่มกินราวกับมันเป็นเพียงน้ำแร่ธรรมดาเท่านั้น หากผู้ใดล่วงรู้เข้า ….เจ้าคงรู้ใช่ไหมว่าจะเป็นเช่นไร ?”

 

ยามนี้เกอซีกำลังตั้งอกตั้งใจฟังอีกฝ่ายเล่าขานด้วยอาการสงบเสงี่ยม ครั้นเมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเหล่านั้นแล้ว นางเพียงยิ้มเยาะบาง ๆ ทว่าแทนที่จะโต้ตอบคำใด หญิงสาวกลับคว้าแท่งเข็มเงินขึ้นมา และเริ่มฝังลงบนร่างของอีกฝ่ายอย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว

 

 

***จบตอน ไม่ขอกวนประสาท***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด