หัตถ์เทวะธิดาพญายม 166 สัตว์ป่าบรรพกาล

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 166 สัตว์ป่าบรรพกาล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หางของปีศาจจิ้งจอกแต่ละหางล้วนทรงค่ายิ่งกว่าทรัพย์สมบัติใด เมื่อใดที่มันสามารถสร้างสมพลังได้ถึงหกหาง มันนับเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่เหล่าผู้ฝึกยุทธทั้งหลายต่างพากันช่วงชิงด้วยปรารถนาครอบครอง แม้ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางจะเป็นเพียงสัตว์ตนหนึ่ง ทว่ามันมีความสามารถในการแปรร่างลักษณ์ของตนได้อย่างสมบูรณ์แบบ พวกมันนับเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อหมู่มวลมนุษย์เช่นนั้นพวกมันจึงค่อย ๆ สูญสิ้นลง…..กระทั่งยามนี้ย่อมนับได้ว่ามันได้สูญพันธุ์ไปจากทวีปหมีหลัวหมดสิ้นแล้ว

 

ต้านต้านกล่าวว่าเขาได้กลิ่นปีศาจจิ้งจอก ในห้องนี้นอกไปเสียจากเกอซี ก็เห็นจะมีแค่เพียงเซี่ยวหลีเท่านั้น เช่นนั้นย่อมหมายความว่าเซี่ยวหลี……คือปีศาจจิ้งจอกเก้าหางกระนั้นหรือ ? ! !

 

เกอซีอัศจรรย์ใจยิ่งนัก เมื่อได้ยินต้านต้านโวยวายร้องขอกินเนื้อปีศาจจิ้งจอกเก้าหางขึ้นมาอีก หญิงสาวจึงสวนกลับอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก “นี่คือเซี่ยวหลีพี่สาวของเจ้า หากเจ้ากล้ากล่าวว่าต้องการกินเนื้อปีศาจจิ้งจอกอีกก็อย่าหวังจะได้กินสิ่งใดจากข้าอีก !”

 

ฟังแล้วอีกฝ่ายถึงกับสะอึกไม่กล้าอิดออดร้องขอ สุดท้ายจึงได้เพียงบ่นเพ้อด้วยน้ำเสียงสลด “ท่านแม่ ท่านแม่อย่าเคืองต้านต้านเลยนะ ! ต้านต้านไม่กินเนื้อปีศาจจิ้งจอกก็ได้ ! เช่นนั้นท่านแม่ก็รีบหาอะไรให้ต้านต้านกินแทนได้ไหม——”

 

เกอซีเบนสายตากลับมาหาเซี่ยวหลีที่ยังคงนั่งเนื้อตัวสั่นเทาอยู่เบื้องหน้าพลางเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “เซี่ยวหลี เจ้าเป็นปีศาจจิ้งจอกเก้าหางกระนั้นหรือ ?”

 

 

ทันทีที่สิ้นเสียง เซี่ยวหลีพลิกผ้านวมขึ้นจ้องมองอีกฝ่ายด้วยอาการแตกตื่นในใจ “คุณหนู คุณหนูทราบ ! !”

 

ครั้นเมื่อเกอซีทอดสายตาเหลือบลงมองเซี่ยวหลีจึงเห็นขนหางเป็นพวงสีขาวประกายเงินบริสุทธิ์ทางด้านหลัง ภายใต้แสงรำไรปลายหางนั้นช่างแลดูลึกลับน่าอัศจรรย์ ให้ความรู้สึกที่ทั้งงดงาม และสูงสง่า

 

เซี่ยวหลีชะงักค้างไป นัยน์ตาคู่นั้นเผยถึงความรู้สึกที่สิ้นหวังระคนหวาดกลัว “เมื่อคุณหนูทราบเช่นนี้ ได้โปรดสังหารข้า และนำหางของข้าไปเถิด……ยังดีกว่าที่ข้าจะต้องถูกผู้อื่นสังหาร และตายตกอย่างทรมาน  ข้าอยากจบชีวิตลงในมือของคุณหนูยังดีกว่าต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของผู้อื่น ! คุณหนูโปรดนำหางของข้าไปเถิด สิ่งนี้ย่อมถือเป็นการทดแทนบุญคุณที่คุณหนูช่วยชีวิตพี่ชายข้า !”

 

“ข้าจะนำหางของเจ้าไปทำอะไรเล่า ?” เกอซีชำเลืองมองอีกฝ่ายด้วยท่าทีเอือมระอา “ทำเสื้อคลุมขนสัตว์หรือ ?”

 

 

เซี่ยวหลีเบิกตาโพลง ใบหน้าที่โศกสลดพลันแปรเปลี่ยนเป็นงุนงง “คุณหนู คุณหนูไม่รู้หรอกหรือ ? หางของปีศาจจิ้งจอกนับเป็นสมบัติอันล้ำค่า หากคุณหนูนำออกขาย…..”

 

 

“เจ้ากล่าวเพ้อเจ้ออะไร ?” เกอซียิ้มหยัน “เจ้าคือคนของข้า ข้าเป็นเจ้าชีวิตของเจ้า หากเจ้าถูกนำออกเร่ขายมิเท่ากับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของข้ากระนั้นหรือ ? เจ้าคิดว่าข้าจะยอมทำการค้าที่กลับสร้างความสูญเสียเช่นนี้หรือ ?”

 

แม้ปากของนางจะเอ่ยกล่าวออกไปด้วยท่าทีเหยียดหยันดูแคลน ทว่าภายในใจกลับลิงโลดด้วยความยินดี นี่มันวาสนาฟ้าหนุนอะไรกันนี่ ? นางเพียงบังเอิญช่วยรักษาผู้ป่วยกลางตลาดกลับไม่คาดฝันเลยว่าที่สุดแล้วผู้ที่นางช่วยเหลือกลับกลายเป็นสัตว์ป่าบรรพกาล ฮ่าฮ่าฮ่า….ยังไม่รู้ว่าพี่ชายของเซี่ยวหลีจะเป็นสัตว์เวทใด หรืออาจเป็นได้ว่าเขาคือปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตัวผู้ ?

 

 

ได้ยินเช่นนั้นเซี่ยวหลีทำได้เพียงจ้องหน้าเกอซีอย่างงุนงงด้วยอาการตกตะลึง นางยังคงเห็นสีหน้าท่าทางของนายหญิงของตนนิ่งสงบเรียบเฉยดังเช่นที่เคย ไร้ความละโมบ ไร้ความโลภ ไร้ความรังเกียจชิงชัง…….. คุณหนูไม่รู้สึกว่านางคือสิ่งที่แปลกแยกเลยแม้เพียงน้อย ในสายตาของคุณหนู นางยังคงเป็นเซี่ยวหลี ยังคงเป็นบ่าวรับใช้ตัวน้อยของนายหญิงเช่นเดิม

 

 

ที่สุดแล้วความโศกเศร้าหวาดกลัวที่รังควานจิตใจของนางมาตลอดหนึ่งวันกลับสามารถเลือนลางจางคลายลงไป เซี่ยวหลีโผเข้าหาอ้อมกอดของเกอซีร่ำไห้สะอึกสะอื้นอย่างมากมาย

 

นางหวาดกลัวอย่างแท้จริง ก่อนจะมาเยือนแดนดินโลกมนุษย์ พี่ชายของนางกล่าวย้ำเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่านับเป็นพันครั้งว่าห้ามไม่ให้เปิดเผยร่างที่แท้จริงของตนแก่พวกมนุษย์ หาไม่แล้วนางจะถูกถลกหนังตัดอวัยวะทุกส่วนที่สามารถเอื้อประโยชน์แก่พวกมนุษย์ไป

 

ทั้งยังเคยได้ยินหมู่วิหคบอกเล่าเรื่องราวของสายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่ถูกพวกมนุษย์จับต้มทั้งเป็น กระทั่งเมื่อสิ้นใจไปแล้วกลับยังถูกถลกหนังตัดหางออกไม่มีเหลือ

 

 

*** จบตอน สัตว์ป่าบรรพกาล***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด