หัตถ์เทวะธิดาพญายม 245 โขกศรีษะขอขมา

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 245 โขกศรีษะขอขมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 245 โขกศรีษะขอขมา

 

ครั้นเมื่อโจวเหยียนอันไม่เห็นอีกฝ่ายขยับเคลื่อนกาย เขากลับเป็นฝ่ายร้อนรนใจ “คุณชายซี พลังปราณในร่างข้าถูกเผาผลาญใช้สิ้นไม่เหลือ ชีพจรูปราณในกายเสียหาย ข้าย่อมไม่อาจหลบหนี ได้อย่างแน่แท้ เช่นนั้น ท่านจงรีบหนีเอาตัวรอด…หาไม่แล้ว ทุกอย่างย่อมสายเกินการณ์” 

 

เกอซีหาได้ใส่ใจวาจาของเขาไม่ หญิงสาวควักแบ่งเข็มเงินขึ้นปักสกัดจุดสําคัญในร่างอีกฝ่ายไว้ทั้งสิ้น

 

เมื่อจุดชีพจรสําคัญถูกสกัด พลังปราณภายในกายที่กําลังไหลถ่ายเทออกจากจุดตันเถียนของ โจวเหยียนอันจึงค่อย ๆ ชะงักหยุด ใบหน้าสีกระดาษเริ่มกลับกลายคืนสู่สภาพสามัญ

 

ยังไม่ทันที่โจวเหยียนอันจะเอ่ยกล่าวสิ่งใด อีกฝ่ายก็ควักโอสถเสริมพลังวิญญาณใส่ปากก่อน จะเอ่ยกล่าวด้วยน้ําเสียงไม่ยี่หระ “เพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ไยเอ่ยกล่าวประดุจกําลังใกล้ตาย เล่า ? คลายใจเถิด ทั้งท่าน และข้าจะยังไม่สินชื่อ !”

 

หนุ่มใหญ่รับรู้ได้ถึงขุมพลังที่เริ่มไหลถ่ายเทรวมรวมลงสู่จุดตันเถียน เส้นชีพจรปราณที่ แสบร้อนเผาไหม้ค่อย ๆ คลายเย็นตัวลงเรื่อย ๆ

 

โจวเหยียนอันมองหน้าเกอซีด้วยความประหลาดใจ หากทว่าภายใต้สายตานั้นกลับอัดแน่น ไปด้วยความนับถืออย่างสุดซึ้ง ครั้นเมื่อเขาเหลือบเห็นสีหน้าหม่นมัวของเพิ่งเหลียนอิงผู้กุมกระบี่ ย่างสามขุมเข้ามาหาจึงอดร้อนใจขึ้นอีกไม่ได้ “คุณชายซี แม้ท่านจะช่วยชีวิตของผู้น้อยไว้ได้ หากแต่ด้วยพลังฝีมือของพวกเราย่อมไม่อาจรับมือเทพธิดาบัวเยือกแข็งได้ ข้าเป็นเพียงตัวถ่วง….”

 

ยังไม่ทันกล่าวจบ ในลําคอกลับจุกตันไม่อาจเอ่ยกล่าวถ้อยคําใดได้อีก

 

เกอซีค่อย ๆ ถอนปลายนิ้วที่กดสกัดจุดกล่องเสียงของอีกฝ่ายออกมาอย่างเชื่องช้า ก่อนจะตอบคําด้วยน้ําเสียงเฉยชา “ไม่ต้องกล่าวให้มากความ ท่านอยู่ตรงนี้เฝ้าดูอย่างเดียวก็พอ ผู้ใดกล่าวว่าพวกเราหาใช่คู่ต่อสู้ของหญิงชั่วผู้นั้นเล่า ? ผู้ใดกล่าวว่าพวกเราต้องตายกันเล่า ? แม้นหากต้องสิ้นใจจริงข้าก็จะถลกหนังขาวประดุจดอกบัวของสตรีที่ร้ายกาจผู้นี้ออกมาให้จงได้ ! ใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดที่ทําร้ายคนของข้า ซีเย่ว แล้วลอยนวลไปโดยไม่ได้รับการตอบแทน ! 

 

สองตาของเพิ่งเหลียนยิ่งมืดมัวประดุจภายใต้แววตาคู่นั้นอัดแน่นไว้ด้วยพิษร้าย หากทว่าเมื่อ ได้ยินคํากล่าวนั้น ท่าที่อันสงบนิ่งของนางกลับกลายระเบิดเปล่งเป็นเสียงหัวเราะลั่น “เจ้าคิดว่า ตนคือผู้ใด ? เจ้ามันก็แค่พวกสวะปราณชั้นปฐมภูมิโลกันตร์ ! คิดหรือว่าเพียงได้รับตําแหน่งสืบทอดวังจือจินแล้ว คนเยี่ยงเจ้าจะสามารถต่อกรกับข้าได้ ? ฝันไปเถิด !”

 

เมื่อเอ่ยกล่าวเช่นนั้นออกไป ใบหน้าของเพิ่งเหลียนยิ่งกลับยิ่งหม่นมัวน่ากลัว “หากเจ้ายอม มอบต้นโพธิ์ทองคํา และวังจือจินมาให้ข้า เทพธิดาผู้นี้อาจเมตตารักษาสภาพศพของเจ้าไว้ให้สมบูรณ์ หาไม่แล้ว ก็จงอย่าได้ตําหนิที่ข้าไร้ความปรานี้ สํานักหลิวหลีของข้ามีวิธีทรมานผู้คนมากมาย เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสของการมีชีวิตที่ทุกข์ทนทรมานเสียยิ่งกว่าความตาย ! และเมื่อนั้น แม้หากเจ้าจะร่ําร้องขอให้ข้าอภัย ทุกอย่างล้วนสายเกินไป !”

 

เกอซียกยิ้มเยาะก่อนสืบฝ่าเท้าตรงเข้าหาพร้อมน้ําเสียงไร้ความรู้สึก “หากเจ้าต้องการให้ข้าม อบต้นโพธิ์ทองคํา และวังจือจินได้ ล้วนย่อมได้ ! หากเจ้า เพิ่งเหลียนอิง ก้มลงคุกเข่าโขกศีรษะ ขอขมาต่อข้า ต่อท่านผู้ดูแลโจว ตลอดถึงเหล่าสัตว์เวทของข้า ยังมี เจ้าต้องเปิดเผยตัวตนต่อ คนทั้งใต้หล้าว่าเจ้า เทพธิดาบัวเยือกแข็งมีเพียงชื่อเสียงอันจอมปลอม แท้จริงแล้วเจ้าล้วนเป็นสต รีที่จิตใจเหี้ยมโหดอํามหิต เมื่อนั้น ข้าจะยินยอมมอบช่วงการสืบทอดให้แก่เจ้า เช่นนี้เป็นอย่างไรเล่า ?”

 

“เจ้า !!! สารเลว! สมควรตาย !”

 

เพียงได้ฟัง เพิ่งเหลียนยิ่งก็เกรี้ยวกราดเดือดดาลอย่างถึงที่สุด เปลวเพลิงพลุ่งพล่านแผดเผาต ลอดทั่วทั้งร่าง กระบี่ยาวในมือปลดปล่อยลําแสงแปรเปลี่ยนเป็นกระบี่น้อยจํานวนมหาศาล พุ่งออกจากปลายกระบี่ตรงเข้าหาเกอซีในทันที

 

“การปลดปล่อยลําแสงกระบออกทางปลายดาบนั้นย่อมต้องอาศัยพื้นฐานพลังฝีมือขั้นสูง ทั้งยังเป็นเคล็ดวิชาชั้นสูงของผู้ฝึกกระบี่อีกด้วย

 

เกอซีรีบโยนต้านต้าน และมังกรทองตัวจิ๋วกลับเข้าไปในมิติเวท สายตาของนางจับจ้องอยู่กับ ลําแสงกระบี่ที่ประดังเข้าหา แส้กระดูกขาวในมือถูกตวัดกวัดแกว่งขึ้น

 

แส้กระดูกปรับแปรสภาพสะบัดอย่างรวดเร็วกระทั่งเห็นเพียงเงาที่ปรากฏผ่านเป็นลายเส้น เรียงเป็นชั้นประสานเข้ากับอายรัศมีการเข่นฆ่าที่เย็นยะเยือกประดุจน้ําแข็งที่ตรงเข้าโอบล้อมลํา แสงกระบี่เข้าหมดให้รวมกันเป็นกลุ่มก้อน

 

ฝ่าเท้าของเกอซีเคลื่อนอย่างคล่องแคล่วรวดเร็วเหลือทิ้งไว้เพียงเส้นเงาเป็นทาง ก่อนที่ร่างนั้นจะเคลื่อนหายไปเพียงชั่วพริบตา

 

ปราณน้ําแข็งของเกอชีย่อมไม่อาจทานทนต่อพลังเพลิงของผู้ฝึกยุทธขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือน ได้ เช่นนั้น พลังปราณน้ําแข็งอันเย็นเยียบจึงถูกเปลวเพลิงหลอมละลายกลายเป็นไอหมอกอย่างรวดเร็วก่อนจะเลื่อนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

หากทว่าเพียงชั่วจังหวะเสี้ยวนาทีนั้นร่างของเกอซีกลับหายไปเช่นกัน กระบี่ด้ามยาวจึงแทงทะลุผ่านโดยไม่อาจทําอันตรายต่อผู้ใดก่อนจะกลับคืนสู่อุ้งมือของเพิ่งเหลียนอิงอย่างล้มเหลวอีกครา

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 245 โขกศรีษะขอขมา

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 245 โขกศรีษะขอขมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 245 โขกศรีษะขอขมา

 

ครั้นเมื่อโจวเหยียนอันไม่เห็นอีกฝ่ายขยับเคลื่อนกาย เขากลับเป็นฝ่ายร้อนรนใจ “คุณชายซี พลังปราณในร่างข้าถูกเผาผลาญใช้สิ้นไม่เหลือ ชีพจรูปราณในกายเสียหาย ข้าย่อมไม่อาจหลบหนี ได้อย่างแน่แท้ เช่นนั้น ท่านจงรีบหนีเอาตัวรอด…หาไม่แล้ว ทุกอย่างย่อมสายเกินการณ์” 

 

เกอซีหาได้ใส่ใจวาจาของเขาไม่ หญิงสาวควักแบ่งเข็มเงินขึ้นปักสกัดจุดสําคัญในร่างอีกฝ่ายไว้ทั้งสิ้น

 

เมื่อจุดชีพจรสําคัญถูกสกัด พลังปราณภายในกายที่กําลังไหลถ่ายเทออกจากจุดตันเถียนของ โจวเหยียนอันจึงค่อย ๆ ชะงักหยุด ใบหน้าสีกระดาษเริ่มกลับกลายคืนสู่สภาพสามัญ

 

ยังไม่ทันที่โจวเหยียนอันจะเอ่ยกล่าวสิ่งใด อีกฝ่ายก็ควักโอสถเสริมพลังวิญญาณใส่ปากก่อน จะเอ่ยกล่าวด้วยน้ําเสียงไม่ยี่หระ “เพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ไยเอ่ยกล่าวประดุจกําลังใกล้ตาย เล่า ? คลายใจเถิด ทั้งท่าน และข้าจะยังไม่สินชื่อ !”

 

หนุ่มใหญ่รับรู้ได้ถึงขุมพลังที่เริ่มไหลถ่ายเทรวมรวมลงสู่จุดตันเถียน เส้นชีพจรปราณที่ แสบร้อนเผาไหม้ค่อย ๆ คลายเย็นตัวลงเรื่อย ๆ

 

โจวเหยียนอันมองหน้าเกอซีด้วยความประหลาดใจ หากทว่าภายใต้สายตานั้นกลับอัดแน่น ไปด้วยความนับถืออย่างสุดซึ้ง ครั้นเมื่อเขาเหลือบเห็นสีหน้าหม่นมัวของเพิ่งเหลียนอิงผู้กุมกระบี่ ย่างสามขุมเข้ามาหาจึงอดร้อนใจขึ้นอีกไม่ได้ “คุณชายซี แม้ท่านจะช่วยชีวิตของผู้น้อยไว้ได้ หากแต่ด้วยพลังฝีมือของพวกเราย่อมไม่อาจรับมือเทพธิดาบัวเยือกแข็งได้ ข้าเป็นเพียงตัวถ่วง….”

 

ยังไม่ทันกล่าวจบ ในลําคอกลับจุกตันไม่อาจเอ่ยกล่าวถ้อยคําใดได้อีก

 

เกอซีค่อย ๆ ถอนปลายนิ้วที่กดสกัดจุดกล่องเสียงของอีกฝ่ายออกมาอย่างเชื่องช้า ก่อนจะตอบคําด้วยน้ําเสียงเฉยชา “ไม่ต้องกล่าวให้มากความ ท่านอยู่ตรงนี้เฝ้าดูอย่างเดียวก็พอ ผู้ใดกล่าวว่าพวกเราหาใช่คู่ต่อสู้ของหญิงชั่วผู้นั้นเล่า ? ผู้ใดกล่าวว่าพวกเราต้องตายกันเล่า ? แม้นหากต้องสิ้นใจจริงข้าก็จะถลกหนังขาวประดุจดอกบัวของสตรีที่ร้ายกาจผู้นี้ออกมาให้จงได้ ! ใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดที่ทําร้ายคนของข้า ซีเย่ว แล้วลอยนวลไปโดยไม่ได้รับการตอบแทน ! 

 

สองตาของเพิ่งเหลียนยิ่งมืดมัวประดุจภายใต้แววตาคู่นั้นอัดแน่นไว้ด้วยพิษร้าย หากทว่าเมื่อ ได้ยินคํากล่าวนั้น ท่าที่อันสงบนิ่งของนางกลับกลายระเบิดเปล่งเป็นเสียงหัวเราะลั่น “เจ้าคิดว่า ตนคือผู้ใด ? เจ้ามันก็แค่พวกสวะปราณชั้นปฐมภูมิโลกันตร์ ! คิดหรือว่าเพียงได้รับตําแหน่งสืบทอดวังจือจินแล้ว คนเยี่ยงเจ้าจะสามารถต่อกรกับข้าได้ ? ฝันไปเถิด !”

 

เมื่อเอ่ยกล่าวเช่นนั้นออกไป ใบหน้าของเพิ่งเหลียนยิ่งกลับยิ่งหม่นมัวน่ากลัว “หากเจ้ายอม มอบต้นโพธิ์ทองคํา และวังจือจินมาให้ข้า เทพธิดาผู้นี้อาจเมตตารักษาสภาพศพของเจ้าไว้ให้สมบูรณ์ หาไม่แล้ว ก็จงอย่าได้ตําหนิที่ข้าไร้ความปรานี้ สํานักหลิวหลีของข้ามีวิธีทรมานผู้คนมากมาย เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสของการมีชีวิตที่ทุกข์ทนทรมานเสียยิ่งกว่าความตาย ! และเมื่อนั้น แม้หากเจ้าจะร่ําร้องขอให้ข้าอภัย ทุกอย่างล้วนสายเกินไป !”

 

เกอซียกยิ้มเยาะก่อนสืบฝ่าเท้าตรงเข้าหาพร้อมน้ําเสียงไร้ความรู้สึก “หากเจ้าต้องการให้ข้าม อบต้นโพธิ์ทองคํา และวังจือจินได้ ล้วนย่อมได้ ! หากเจ้า เพิ่งเหลียนอิง ก้มลงคุกเข่าโขกศีรษะ ขอขมาต่อข้า ต่อท่านผู้ดูแลโจว ตลอดถึงเหล่าสัตว์เวทของข้า ยังมี เจ้าต้องเปิดเผยตัวตนต่อ คนทั้งใต้หล้าว่าเจ้า เทพธิดาบัวเยือกแข็งมีเพียงชื่อเสียงอันจอมปลอม แท้จริงแล้วเจ้าล้วนเป็นสต รีที่จิตใจเหี้ยมโหดอํามหิต เมื่อนั้น ข้าจะยินยอมมอบช่วงการสืบทอดให้แก่เจ้า เช่นนี้เป็นอย่างไรเล่า ?”

 

“เจ้า !!! สารเลว! สมควรตาย !”

 

เพียงได้ฟัง เพิ่งเหลียนยิ่งก็เกรี้ยวกราดเดือดดาลอย่างถึงที่สุด เปลวเพลิงพลุ่งพล่านแผดเผาต ลอดทั่วทั้งร่าง กระบี่ยาวในมือปลดปล่อยลําแสงแปรเปลี่ยนเป็นกระบี่น้อยจํานวนมหาศาล พุ่งออกจากปลายกระบี่ตรงเข้าหาเกอซีในทันที

 

“การปลดปล่อยลําแสงกระบออกทางปลายดาบนั้นย่อมต้องอาศัยพื้นฐานพลังฝีมือขั้นสูง ทั้งยังเป็นเคล็ดวิชาชั้นสูงของผู้ฝึกกระบี่อีกด้วย

 

เกอซีรีบโยนต้านต้าน และมังกรทองตัวจิ๋วกลับเข้าไปในมิติเวท สายตาของนางจับจ้องอยู่กับ ลําแสงกระบี่ที่ประดังเข้าหา แส้กระดูกขาวในมือถูกตวัดกวัดแกว่งขึ้น

 

แส้กระดูกปรับแปรสภาพสะบัดอย่างรวดเร็วกระทั่งเห็นเพียงเงาที่ปรากฏผ่านเป็นลายเส้น เรียงเป็นชั้นประสานเข้ากับอายรัศมีการเข่นฆ่าที่เย็นยะเยือกประดุจน้ําแข็งที่ตรงเข้าโอบล้อมลํา แสงกระบี่เข้าหมดให้รวมกันเป็นกลุ่มก้อน

 

ฝ่าเท้าของเกอซีเคลื่อนอย่างคล่องแคล่วรวดเร็วเหลือทิ้งไว้เพียงเส้นเงาเป็นทาง ก่อนที่ร่างนั้นจะเคลื่อนหายไปเพียงชั่วพริบตา

 

ปราณน้ําแข็งของเกอชีย่อมไม่อาจทานทนต่อพลังเพลิงของผู้ฝึกยุทธขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือน ได้ เช่นนั้น พลังปราณน้ําแข็งอันเย็นเยียบจึงถูกเปลวเพลิงหลอมละลายกลายเป็นไอหมอกอย่างรวดเร็วก่อนจะเลื่อนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

หากทว่าเพียงชั่วจังหวะเสี้ยวนาทีนั้นร่างของเกอซีกลับหายไปเช่นกัน กระบี่ด้ามยาวจึงแทงทะลุผ่านโดยไม่อาจทําอันตรายต่อผู้ใดก่อนจะกลับคืนสู่อุ้งมือของเพิ่งเหลียนอิงอย่างล้มเหลวอีกครา

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+