หัตถ์เทวะธิดาพญายม 289 ที่ใดมีเจ้า ที่นั่นมีข้า

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 289 ที่ใดมีเจ้า ที่นั่นมีข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 289 ที่ใดมีเจ้า ที่นั่นมีข้า

 

ชิงหลงรีบก้าวออกมาทันที “คุณชายซี ข้าผู้น้อยต้องการทดลอง

 

หญิงสาวผงกศีรษะพร้อมปักแบ่งเข็มสกัดจุดในร่างอย่างต่อเนื่องโดยไม่ลังเล

 

ผ่านไปครู่ใหญ่ เมื่อชิงหลงหายไปนานกว่า 2 เค่อ* ก่อนจะกลับเข้ามารวมกลุ่มกับทุกคนอีกครา

 

* 2 เค่อ คือ 30 นาที

 

เมื่อร่างของเขาผ่านพ้นหมอกขาว ชิงหลงผู้มีปกตินิ่งเฉยกลับมีใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้มเมื่อเขาเดินตรงมาหาเกอซีพลางเอ่ยกล่าวด้วยความนับถือ “คุณชายซี ทักษะทางการแพทย์ของท่านนับได้ว่าถึงความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง”

 

สามารถสกัดกั้นการถ่ายเทขุมพลังด้วยเพียงทักษะฝังเข็มสกัดจุด ย่อมหมายความว่า คนผู้นั้นจําต้องเป็นผู้มีความเข้าใจในสรีระมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ทั้งย่อมต้องกระจ่างแจ้งในโครงสร้างความโยงใยแห่งเส้นชีพจรปราณทั่วร่างอย่างยิ่งยวด !

 

ยามนี้ ชิงหลงถึงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม หากใต้หล้านี้จะมีผู้สามารถค้นหาหนทางการเยียวยารักษาพิษเหมันต์ในร่างของนายท่าน คนผู้นั้นย่อมต้องเป็นพระชายาของพวกเขานั้นเอง

 

คิ้วทั้งสองของเกอชีจิกเข้าหากัน “แม้กลวิธีนี้ย่อมอาจช่วยคลายปมปัญหาได้บางส่วน ทว่าข้ายังรู้สึกว่าสวนสมุนไพรแห่งนี้ยังมีอันตรายซึ่งหนักหนายิ่งไปกว่านั้นรอคอยอยู่ ยังมี ข้าไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าม่านหมอกขาวนี้กระจายห่อหุ้มอาณาเขตกว้างไกลถึงเพียงไร หากพวกเราอยู่ในหมอกขาวแห่งนี้หลายชั่วยามย่อมไม่อาจกลับออกมาได้ด้วย เมื่อเนิ่นนานถึงเพียงนั้น การฝังเข็มสกัดจุดย่อมไม่อาจปิดกั้นการผ่องถ่ายของพลังปราณ ทั้งไม่อาจป้องกันความแห้งเหือดแห่งขุมพลังในจุดตันเถียนได้ เช่นนั้นพวกเจ้าต้องไตร่ตรองให้รอบคอบว่าเจ้าต้องการจะร่วมสุ่มเสี่ยงเข้าสู่ด้านในกับข้าหรือไม่”

 

ผู้คนเหล่านี้ทั้งหมดล้วนเป็นยอดฝีมือผู้เกรียงไกรเป็นที่ลือนามไปทั่วหล้า สําหรับพวกเขาแล้ว การต้องอยู่ในสภาพอันสูญสิ้นพลังปราณย่อมมิต่างใดกับการถูกหักแขนขาย่อมนับว่าเป็นอันตรายอย่างเหลือแสน สําหรับตัวนางเองมิได้อาศัยเพียงพลังปราณในการปกป้องตนเอง เช่นนั้นในภาวะวิกฤตซึ่งขุมพลังปราณถูกผ่องถ่ายไปสิ้นแทบไม่เหลือนางจึงมิได้ใส่ใจ

 

หากทว่ายังไม่ทันกล่าวจบ หนานกงยวี่กลับยกมือขึ้นเคาะจมูกนางเบา ๆ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงติดไม่พอใจ “แม่สาวน้อยไร้สํานึก ข้าเคยบอกเจ้าตั้งหลายครั้งหลายคราทว่าเจ้ากลับยังทิ้งข้าไว้เบื้องหลังอยู่เสมอ ข้าเคยบอกแล้วว่า เจ้าอยู่ที่ใด ข้าจะขออยู่ที่นั้น เช่นนั้นจงอย่าคิดจะทิ้งข้าไว้อีก”

 

เมื่อหนานกงยวี่แสดงเจตจํานงในการเข้าสู่ด้านใน แน่นอนว่าทั้งหวอ และชิงหลงย่อมต้องติดตามเข้าไปด้วย เมื่อการเข้าสู่สวนสมุนไพรย่อมอันตรายอย่างยิ่งยวดมากไปกว่าเจ้าพวกสวะที่ลอยหน้ารอฉกชิงสมบัติผู้อื่นกลุ่มนี้

 

ขณะที่กู้หลิวเพิ่งกลับตรงข้าม เมื่อสีหน้าท่าทางของเขายังคงภาคภูมิในตนเอง “ข้าเคยกล่าวแล้วว่าข้าพร้อมร่วมฝ่าภัยอันตรายทั้งปวงร่วมกับเยว่เอ๋อน้อย” เขากล่าวกลัวเสียงหัวเราะ ทั้งก็ไม่มีความใส่ใจในสายตาขถึงตึงของหนานกงยวี่ที่ทิ่มแทงใส่เขาอย่างไม่หยุดหย่อน

 

กระทั่งที่สุด จึงเหลือแค่เพียง โจวเหยียนอัน และกลุ่มอารักขาอีกจํานวนมากจากตําหนักราชันมัจจุราชที่ยังคงรั้งรออยู่ด้านนอกม่านหมอกขาว กลุ่มคนเหล่านี้ล้วนมีพลังฝีมือไม่สูงส่งเท่าใดนัก เช่นนั้นชิงหลงจึงสั่งให้ทุกคนหลบหลีกซ่อนกายเพื่อรั้งรอคําสั่งในทันทีที่พวกเขาออกมาจากหมอกขาวนี้ได้

 

เมื่อเกอซีเห็นจํานวนกลุ่มคนที่ยืนยันจะเข้าสู่สวนสมุนไพรร่วมกับนาง หญิงสาวจึงเลิกพูดจาเกลี้ยกล่อมทุกคนและควักขวดบรรจุเม็ดโอสถเสริมพลังปราณส่งมอบให้พวกเขาเหล่านั้น

 

“โอสถชนิดนี้สามารถเพิ่มพูนพลังความเข็งแกร่งรวมถึงความคล่องตัวให้แก่พวกเจ้าได้ในทันที โอสถชุดนี้ไม่แรงจนเกินไป ผลกระทบที่อาจเกิดนับว่าไม่เกินความอดทนจนเกินไปเช่นกัน หากผู้ฝึกยุทธระดับธรรมดาทั่วไปได้กลืนเม็ดโอสถนี้ย่อมสามารถต่อกรกับยอดฝีมือระดับพลังปราณขั้นเมล็ดพันธุ์เพราะบ่มผู้อยู่ในขั้นสามหรือสี่ได้ เช่นนั้นข้อได้เปรียบนั้นคือเพิ่มพูนความสามารถทางพลังปราณได้ภายในช่วงระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งยังไม่ส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายในภายหลัง”

 

เดิมที่โอสถเหล่านี้ล้วนคือสิ่งที่ถูกตระเตรียมไว้เพื่อเสริมส่งการฝึกฝนให้แก่พวกซีเจีย ครั้งที่นางลงมือกลั่นโอสถชุดนี้ เกอซีได้เก็บบางส่วนไว้ในมิติเวท มิคิดเลยว่าสิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์ในยามนี้

 

ทุกคนผู้รายล้อมรอบเกอซีต่างยืนถือเม็ดโอสถในมือด้วยสีหน้าอัศจรรย์ใจ พวกเขาทั้งสิ้นล้วนหมดความเคลือบแคลงสงสัยในทุกถ้อยคํากล่าวของนาง เกอซีทําให้พวกเขาทั้งหมดยอมสิโรราบให้แก่ทักษะทางการแพทย์อันเหลือเชื่อของนางอย่างหมดหัวใจ

 

กระทั่งกู้หลิวเพิ่งยังส่งโอสถเข้าปากอย่างไม่ลังเล เมื่อโอสถออกฤทธิ์ส่งผลรับรู้ภายในกาย ดวงหน้าภายใต้หน้ากากของเขากลับต้องเอิบอาบไปด้วยความประหลาดใจ ชายหนุ่มหันไปจ้องเกอซีด้วยดวงตาที่สุกใสทอประกายวาว 

 

ด้านนอกหมอกขาว ยังมีผู้ฝึกยุทธอีกจํานวนมากแอบซุกซ่อนกายจับจ้องความเคลื่อนไหวของพวกหนานกงยวจากที่ไกล เมื่อทุกคนเห็นกลุ่มของหนานกงยวพากันเข้า ๆ ออก ๆ ม่านหมอกขาวอยู่หลายครา กระทั่งที่สุดจึงหายลับเข้าสู่หมอกขาวกระทั่งลับหายจากคลองสายตา พวกเขาต่างอดมิได้ที่จะรู้สึกตกตะลึงพรึงเพริด

 

“นี่พวกมันยังคิดฝ่าหมอกนั้นเข้าไปจริงหรือนี่ ? พวกมันไม่กลัวหรือว่าจะไม่อาจหลุดรอดออกมา ทั้งจะต้องหลงอยู่ในหมอกขาวแห่งนั้นตลอดกาล ?”

 

***จบตอน ที่ใดมีเจ้า ที่นั่นมีข้า***

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 289 ที่ใดมีเจ้า ที่นั่นมีข้า

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 289 ที่ใดมีเจ้า ที่นั่นมีข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 289 ที่ใดมีเจ้า ที่นั่นมีข้า

 

ชิงหลงรีบก้าวออกมาทันที “คุณชายซี ข้าผู้น้อยต้องการทดลอง

 

หญิงสาวผงกศีรษะพร้อมปักแบ่งเข็มสกัดจุดในร่างอย่างต่อเนื่องโดยไม่ลังเล

 

ผ่านไปครู่ใหญ่ เมื่อชิงหลงหายไปนานกว่า 2 เค่อ* ก่อนจะกลับเข้ามารวมกลุ่มกับทุกคนอีกครา

 

* 2 เค่อ คือ 30 นาที

 

เมื่อร่างของเขาผ่านพ้นหมอกขาว ชิงหลงผู้มีปกตินิ่งเฉยกลับมีใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้มเมื่อเขาเดินตรงมาหาเกอซีพลางเอ่ยกล่าวด้วยความนับถือ “คุณชายซี ทักษะทางการแพทย์ของท่านนับได้ว่าถึงความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง”

 

สามารถสกัดกั้นการถ่ายเทขุมพลังด้วยเพียงทักษะฝังเข็มสกัดจุด ย่อมหมายความว่า คนผู้นั้นจําต้องเป็นผู้มีความเข้าใจในสรีระมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ทั้งย่อมต้องกระจ่างแจ้งในโครงสร้างความโยงใยแห่งเส้นชีพจรปราณทั่วร่างอย่างยิ่งยวด !

 

ยามนี้ ชิงหลงถึงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม หากใต้หล้านี้จะมีผู้สามารถค้นหาหนทางการเยียวยารักษาพิษเหมันต์ในร่างของนายท่าน คนผู้นั้นย่อมต้องเป็นพระชายาของพวกเขานั้นเอง

 

คิ้วทั้งสองของเกอชีจิกเข้าหากัน “แม้กลวิธีนี้ย่อมอาจช่วยคลายปมปัญหาได้บางส่วน ทว่าข้ายังรู้สึกว่าสวนสมุนไพรแห่งนี้ยังมีอันตรายซึ่งหนักหนายิ่งไปกว่านั้นรอคอยอยู่ ยังมี ข้าไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าม่านหมอกขาวนี้กระจายห่อหุ้มอาณาเขตกว้างไกลถึงเพียงไร หากพวกเราอยู่ในหมอกขาวแห่งนี้หลายชั่วยามย่อมไม่อาจกลับออกมาได้ด้วย เมื่อเนิ่นนานถึงเพียงนั้น การฝังเข็มสกัดจุดย่อมไม่อาจปิดกั้นการผ่องถ่ายของพลังปราณ ทั้งไม่อาจป้องกันความแห้งเหือดแห่งขุมพลังในจุดตันเถียนได้ เช่นนั้นพวกเจ้าต้องไตร่ตรองให้รอบคอบว่าเจ้าต้องการจะร่วมสุ่มเสี่ยงเข้าสู่ด้านในกับข้าหรือไม่”

 

ผู้คนเหล่านี้ทั้งหมดล้วนเป็นยอดฝีมือผู้เกรียงไกรเป็นที่ลือนามไปทั่วหล้า สําหรับพวกเขาแล้ว การต้องอยู่ในสภาพอันสูญสิ้นพลังปราณย่อมมิต่างใดกับการถูกหักแขนขาย่อมนับว่าเป็นอันตรายอย่างเหลือแสน สําหรับตัวนางเองมิได้อาศัยเพียงพลังปราณในการปกป้องตนเอง เช่นนั้นในภาวะวิกฤตซึ่งขุมพลังปราณถูกผ่องถ่ายไปสิ้นแทบไม่เหลือนางจึงมิได้ใส่ใจ

 

หากทว่ายังไม่ทันกล่าวจบ หนานกงยวี่กลับยกมือขึ้นเคาะจมูกนางเบา ๆ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงติดไม่พอใจ “แม่สาวน้อยไร้สํานึก ข้าเคยบอกเจ้าตั้งหลายครั้งหลายคราทว่าเจ้ากลับยังทิ้งข้าไว้เบื้องหลังอยู่เสมอ ข้าเคยบอกแล้วว่า เจ้าอยู่ที่ใด ข้าจะขออยู่ที่นั้น เช่นนั้นจงอย่าคิดจะทิ้งข้าไว้อีก”

 

เมื่อหนานกงยวี่แสดงเจตจํานงในการเข้าสู่ด้านใน แน่นอนว่าทั้งหวอ และชิงหลงย่อมต้องติดตามเข้าไปด้วย เมื่อการเข้าสู่สวนสมุนไพรย่อมอันตรายอย่างยิ่งยวดมากไปกว่าเจ้าพวกสวะที่ลอยหน้ารอฉกชิงสมบัติผู้อื่นกลุ่มนี้

 

ขณะที่กู้หลิวเพิ่งกลับตรงข้าม เมื่อสีหน้าท่าทางของเขายังคงภาคภูมิในตนเอง “ข้าเคยกล่าวแล้วว่าข้าพร้อมร่วมฝ่าภัยอันตรายทั้งปวงร่วมกับเยว่เอ๋อน้อย” เขากล่าวกลัวเสียงหัวเราะ ทั้งก็ไม่มีความใส่ใจในสายตาขถึงตึงของหนานกงยวี่ที่ทิ่มแทงใส่เขาอย่างไม่หยุดหย่อน

 

กระทั่งที่สุด จึงเหลือแค่เพียง โจวเหยียนอัน และกลุ่มอารักขาอีกจํานวนมากจากตําหนักราชันมัจจุราชที่ยังคงรั้งรออยู่ด้านนอกม่านหมอกขาว กลุ่มคนเหล่านี้ล้วนมีพลังฝีมือไม่สูงส่งเท่าใดนัก เช่นนั้นชิงหลงจึงสั่งให้ทุกคนหลบหลีกซ่อนกายเพื่อรั้งรอคําสั่งในทันทีที่พวกเขาออกมาจากหมอกขาวนี้ได้

 

เมื่อเกอซีเห็นจํานวนกลุ่มคนที่ยืนยันจะเข้าสู่สวนสมุนไพรร่วมกับนาง หญิงสาวจึงเลิกพูดจาเกลี้ยกล่อมทุกคนและควักขวดบรรจุเม็ดโอสถเสริมพลังปราณส่งมอบให้พวกเขาเหล่านั้น

 

“โอสถชนิดนี้สามารถเพิ่มพูนพลังความเข็งแกร่งรวมถึงความคล่องตัวให้แก่พวกเจ้าได้ในทันที โอสถชุดนี้ไม่แรงจนเกินไป ผลกระทบที่อาจเกิดนับว่าไม่เกินความอดทนจนเกินไปเช่นกัน หากผู้ฝึกยุทธระดับธรรมดาทั่วไปได้กลืนเม็ดโอสถนี้ย่อมสามารถต่อกรกับยอดฝีมือระดับพลังปราณขั้นเมล็ดพันธุ์เพราะบ่มผู้อยู่ในขั้นสามหรือสี่ได้ เช่นนั้นข้อได้เปรียบนั้นคือเพิ่มพูนความสามารถทางพลังปราณได้ภายในช่วงระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งยังไม่ส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายในภายหลัง”

 

เดิมที่โอสถเหล่านี้ล้วนคือสิ่งที่ถูกตระเตรียมไว้เพื่อเสริมส่งการฝึกฝนให้แก่พวกซีเจีย ครั้งที่นางลงมือกลั่นโอสถชุดนี้ เกอซีได้เก็บบางส่วนไว้ในมิติเวท มิคิดเลยว่าสิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์ในยามนี้

 

ทุกคนผู้รายล้อมรอบเกอซีต่างยืนถือเม็ดโอสถในมือด้วยสีหน้าอัศจรรย์ใจ พวกเขาทั้งสิ้นล้วนหมดความเคลือบแคลงสงสัยในทุกถ้อยคํากล่าวของนาง เกอซีทําให้พวกเขาทั้งหมดยอมสิโรราบให้แก่ทักษะทางการแพทย์อันเหลือเชื่อของนางอย่างหมดหัวใจ

 

กระทั่งกู้หลิวเพิ่งยังส่งโอสถเข้าปากอย่างไม่ลังเล เมื่อโอสถออกฤทธิ์ส่งผลรับรู้ภายในกาย ดวงหน้าภายใต้หน้ากากของเขากลับต้องเอิบอาบไปด้วยความประหลาดใจ ชายหนุ่มหันไปจ้องเกอซีด้วยดวงตาที่สุกใสทอประกายวาว 

 

ด้านนอกหมอกขาว ยังมีผู้ฝึกยุทธอีกจํานวนมากแอบซุกซ่อนกายจับจ้องความเคลื่อนไหวของพวกหนานกงยวจากที่ไกล เมื่อทุกคนเห็นกลุ่มของหนานกงยวพากันเข้า ๆ ออก ๆ ม่านหมอกขาวอยู่หลายครา กระทั่งที่สุดจึงหายลับเข้าสู่หมอกขาวกระทั่งลับหายจากคลองสายตา พวกเขาต่างอดมิได้ที่จะรู้สึกตกตะลึงพรึงเพริด

 

“นี่พวกมันยังคิดฝ่าหมอกนั้นเข้าไปจริงหรือนี่ ? พวกมันไม่กลัวหรือว่าจะไม่อาจหลุดรอดออกมา ทั้งจะต้องหลงอยู่ในหมอกขาวแห่งนั้นตลอดกาล ?”

 

***จบตอน ที่ใดมีเจ้า ที่นั่นมีข้า***

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+