หัตถ์เทวะธิดาพญายม 309 ละโมบแลคลุ้มคลั่งอย่างมิอาจ หยุดยัง

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 309 ละโมบแลคลุ้มคลั่งอย่างมิอาจ หยุดยัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 309 ละโมบแลคลุ้มคลั่งอย่างมิอาจ หยุดยัง

 

ด้านข้างของสวนสมุนไพร ไม่ไกลจากตําแหน่งที่ทุกคนหยุดยืน คือสมุนไพรเวทขั้นสี่ และขั้นห้าที่พบเห็นได้ยากยิ่ง

 

สมุนไพรทุกต้นที่แลเห็น หากเพียงเด็ดกิ่งก้านออกขายแม้เพียงกิ่งเดียว ผลกําไรที่ได้รับล้วนเพียงพอจะหล่อเลี้ยงสํานักเล็ก ๆ ทั้งสํานักได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้น สมุนไพรเวทที่ปรากฏในม่านหมอกร้อยพฤกษ์สมุนไพรแห่งนี้ล้วนมิใช่สมุนไพรธรรมดาที่พบเห็นโดยทั่วไป

 

เกอซีทอดสายตายาวไกลออกไปจึงสังเกตเห็นว่า ห่างไปอีกประมาณประมาณ 4 ลี้* คือตําแหน่งซึ่งอาจประมาณได้ว่า คือใจกลางสวนสมุนไพร ซึ่งประกอบด้วยเนินน้อยที่ปกคลุมไปด้วยพฤกษาเขียวขจี

 

*1 ลี้คือ 500 เมตร 4 ลี้คือ 2000 เมตร

 

เนินแห่งนี้มีความสูงหนึ่งผิงกว่า โดยประมาณ ทั้งมิได้แลดูโดดเด่นตระหง่านแตกต่างกว่าทั่วไป หากทว่าเหนือยอดเนินแห่งนี้ จะมีผู้ใดเล่าล่วงรู้ว่าพฤกษาล้ำค่าใดจะถูกปลูกเพาะบ่มไว้ ณ ที่นั้น ทว่าแน่แท้อย่างยิ่งนั้นคือ รัศมีแสงเรืองรองหลากสี คือสิ่งที่แผ่เจิดจ้าตระการตาเหนือยอดเนินเบื้องหน้า

 

*หนึ่งผิงกว่า ในที่นี้หมายถึง 4-5 เมตร

 

ขณะเกอซีกําลังพิเคราะห์รัศมีแสงเรืองรองสายนั้น หญิงสาวย่อมสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายสมุนไพรที่หอมคลุ้งลอยล่องแทรกซึมผ่านชั้นบรรยากาศ เพียงครู่ที่โลหิตในกายเริ่มพลุ่งพล่านกระสันหมายไขว่คว้าสมบัติทั้งมวลที่เก็บซ่อนภายในสวนสมุนไพรยัดเยียดเข้าสู่กระเป๋าตน

 

หากทว่าแรงละโมบสายนั้นปรากฏแค่เพียงชั่วครู่ ก่อนในหัวจะกระจ่างใสดังเช่นเคย สองคิ้วเรียวงามของหญิงสาวกลับต้องกดจิกเข้าหากันเล็กน้อย

 

สวนสมุนไพรแห่งนี้ เห็นจะแปลกประหลาดมิน้อย..

 

จะด้วยเหตุแห่งพฤกษาเวทราคาสูงเสียดฟ้าที่ถูกเก็บรักษาไว้ภายในสวนสมุนไพรแห่งนี้ หรือกรุ่นกลิ่นสมุนไพรมอมเมาความรู้สึกที่แทรกซึมผ่านอากาศ ล้วนสามารถกล่อมเกลาจิตวิญญาณแห่งยอดฝีมือทั้งหลายทั่วอาณาบริเวณให้ดูคล้ายจิตใจกระเจิดกระเจิงยากเกินจะควบคุม

 

ชั่วขณะนั้นเอง เสียงสูดดมอย่างล้ำลึกจากทุกคนในที่นั้นเริ่มดังขึ้นทางด้านข้าง ก่อนน้ำเสียงแห่งความตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่งยวดจะติดตามเข้าสู่สองหูของเกอซี

 

“สวรรค์ ! ที่นี่คือม่านหมอกร้อยพฤกษ์สมุนไพร ! นี่ข้ามได้ฝันไปใช่หรือไม่ ?!”

 

“ข้าคิดว่าจะต้องติดอยู่ในค่ายกลหมอกขาวแห่งนั้นตลอดกาล ต้องสินใจลงภายใต้อายหมอกแห่งนั้นเสียแล้ว ไม่คาดคิดเลย…ไม่คิดเลยว่าข้าจะได้มาถึงที่นี่ ! ข้าสุขใจเหลือเกินสุขใจเจียนตายอยู่แล้ว !”

 

“เร็ว รีบไปเก็บมาเสียให้สิ้นทุกสิ่ง ! สมุนไพรเหล่านี้ล้วนตกเป็นของพวกเราสํานักเซียนเหอ หากพวกเรานํากลับไป ย่อมนับเป็นลาภก้อนใหญ่ของพวกเราแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”

 

เมื่อเกอซีบ่ายศีรษะกลับมาจึงเห็นคนกลุ่มหนึ่งผู้มีนัยน์ตาดั่งสีโลหิต ดุจคล้ายพวกเขาทั้งหมดล้วนสูญสิ้นความคิดเหตุผล

 

ทั้งหมดจดจ่อสายตาเพียงสวนสมุนไพร ขณะนัยน์ตาค่อย ๆ กลับกลายยิ่งแดงเดือด ประกายตายิ่งละโมบแลคลุ้มคลั่งอย่างมิอาจหยุดยั้ง

 

ครู่เดียว บุคคลผู้มิอาจล่วงรู้ว่าผู้ใดพลันพากันส่งเสียงโหวกเหวกร้องตะโกนขึ้น “รีบไปฉกชิงทุกสิ่งมาเร็ว !” พวกเขาล้วนสูญสิ้นความคิดจิตใจ ทั้งหมดต่างวิ่งกรูตรงไปยังสวนสมุนไพรประหนึ่งถูกแปรเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่ง

 

ท่ามกลางกลุ่มฝูงชนหมู่ใหญ่นั้นได้รวมเอาองค์ชายสามฉางกวนรุ่ย และราชองค์รักษ์ประจํากายเข้าไว้ด้วย

 

พลังฝีมือของฉางกวนรุ่ยนับว่ามิได้สูงส่งแต่อย่างใด ทั้งยามนี้พลังปราณในกายล้วนถูกค่ายกลหมอกขาวสูบกลืนกินกระทั่งแทบหมดสิ้น

 

หากทว่าเพียงเสี้ยวชั่วขณะนี้ เขากลับดูคล้ายถูกบางสิ่งกระตุ้นเร้าอย่างหนักหน่วงรุนแรง เมื่อเขาคือผู้รุดหน้าก้าวมุ่งสู่สวนสมุนไพรก่อนผู้อื่นใด

 

สองฝ่ามือที่ถอดถอนต้นสมุนไพรล้วนสันระริกมิอาจหยุดยั้ง ริมฝีปากที่บ่นเพ้อยังสั่นเครือมหยุดหย่อน “เมล็ดจินหลิง ผลเทียนหยวน ! หากข้าได้ครอบครองสิ่งเหล่านี้ ข้าย่อมสามารถก้าวขึ้นสู่พลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน ! ราชบัลลังก์แห่งอาณาจักรจินหลิงย่อมตกอยู่ในมือข้า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า !”

 

ขณะเหตุการณ์ทั้งหมดกําลังดําเนินไป ราชองครักษ์ทั้งสองของฉางกวนรุ่ยผู้เป็นยอดฝีมือขั้นปฐพีสะท้านสะเทือนต่างพากันเร่งไขว่คว้ากระชากเก็บสมุนไพรอย่างบ้าคลั่ง

 

ภาพเหตุการณ์เบื้องหน้าแปรเปลี่ยนเป็นความโกลาหล เมื่อเหล่ายอดยุทธทั้งหลายต่างยื้อแย่งถอนดึงพฤกษาสมุนไพรกระทั่งเกิดการต่อสู้ช่วงชิงอย่างไร้สิ้นสามัญสํานึก

 

คนผู้หนึ่งส่งเสียงหัวเราะลั่นเมื่อในมือของเขาคว้าผลเทียนหยวนมาได้ “ครานี้ ข้าจะโกยตําลึงเงินก้อนโตได้แล้ว…นี่คือผลเทียนหยวน ! ผลเทียนหยวนซึ่งมีอายุบ่มเพาะยาวนานถึงหนึ่งพันปี ! เพียงได้กัดกินผลของมัน ช่วงอายุขัยย่อมถูกยึดให้ยาวนานนับร้อยปี ฮ่าฮ่าฮ่า…”

 

หากทว่าเสียงหัวเราะพลันชะงักด้วยเหตุน่าประหวั่น

 

โลหิตสีแดงขั้นพ่นกระจายจากลําคอ ร่างที่สิ้นไร้เรี่ยวแรงของคนผู้นั้นร่วงผล็อยลงสู่แผ่นพื้น ขณะผลเทียนหยวนถูกฉกชิงออกจากฝ่ามืออย่างรวดเร็ว

 

สวนสมุนไพรแห่งนี้แออัดด้วยฝูงชน ทั้งล้วนปรากฏเป็นยอดฝีมือระดับสูง หากทว่าชั่วขณะนี้กลับดูคล้ายการยื้อแย่งแข่งขันช่วงชิงของพวกพ่อค้ากลางตลาด ภาพลักษณ์อันสูงส่งแห่งผู้เยี่ยมยุทธล้วนถูกละเลย

 

บางคนเริ่มยัดพฤกษาสมุนไพรใส่ปาก เพื่อเก็บรักษาสมุนไพรที่ตนถอนขึ้นมาได้

 

ยามนี้พืชสมุนไพรขั้นสูงล้วนถูกละเลงด้วยกองโคลนคราบโลหิต ยิ่งเมื่อสมุนไพรทั้งหลายเหล่านั้นถูกกัดกลืนกลับดูคล้ายยิ่งส่งผลให้ผู้กินมันล่วงลงลําคอกลับยิ่งคลุ้มคลั่งตื่นกระหาย

 

***จบตอน ละโมบแลคลุ้มคลั่งอย่างมิอาจหยุดยั้ง***

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 309 ละโมบแลคลุ้มคลั่งอย่างมิอาจ หยุดยัง

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 309 ละโมบแลคลุ้มคลั่งอย่างมิอาจ หยุดยัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 309 ละโมบแลคลุ้มคลั่งอย่างมิอาจ หยุดยัง

 

ด้านข้างของสวนสมุนไพร ไม่ไกลจากตําแหน่งที่ทุกคนหยุดยืน คือสมุนไพรเวทขั้นสี่ และขั้นห้าที่พบเห็นได้ยากยิ่ง

 

สมุนไพรทุกต้นที่แลเห็น หากเพียงเด็ดกิ่งก้านออกขายแม้เพียงกิ่งเดียว ผลกําไรที่ได้รับล้วนเพียงพอจะหล่อเลี้ยงสํานักเล็ก ๆ ทั้งสํานักได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้น สมุนไพรเวทที่ปรากฏในม่านหมอกร้อยพฤกษ์สมุนไพรแห่งนี้ล้วนมิใช่สมุนไพรธรรมดาที่พบเห็นโดยทั่วไป

 

เกอซีทอดสายตายาวไกลออกไปจึงสังเกตเห็นว่า ห่างไปอีกประมาณประมาณ 4 ลี้* คือตําแหน่งซึ่งอาจประมาณได้ว่า คือใจกลางสวนสมุนไพร ซึ่งประกอบด้วยเนินน้อยที่ปกคลุมไปด้วยพฤกษาเขียวขจี

 

*1 ลี้คือ 500 เมตร 4 ลี้คือ 2000 เมตร

 

เนินแห่งนี้มีความสูงหนึ่งผิงกว่า โดยประมาณ ทั้งมิได้แลดูโดดเด่นตระหง่านแตกต่างกว่าทั่วไป หากทว่าเหนือยอดเนินแห่งนี้ จะมีผู้ใดเล่าล่วงรู้ว่าพฤกษาล้ำค่าใดจะถูกปลูกเพาะบ่มไว้ ณ ที่นั้น ทว่าแน่แท้อย่างยิ่งนั้นคือ รัศมีแสงเรืองรองหลากสี คือสิ่งที่แผ่เจิดจ้าตระการตาเหนือยอดเนินเบื้องหน้า

 

*หนึ่งผิงกว่า ในที่นี้หมายถึง 4-5 เมตร

 

ขณะเกอซีกําลังพิเคราะห์รัศมีแสงเรืองรองสายนั้น หญิงสาวย่อมสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายสมุนไพรที่หอมคลุ้งลอยล่องแทรกซึมผ่านชั้นบรรยากาศ เพียงครู่ที่โลหิตในกายเริ่มพลุ่งพล่านกระสันหมายไขว่คว้าสมบัติทั้งมวลที่เก็บซ่อนภายในสวนสมุนไพรยัดเยียดเข้าสู่กระเป๋าตน

 

หากทว่าแรงละโมบสายนั้นปรากฏแค่เพียงชั่วครู่ ก่อนในหัวจะกระจ่างใสดังเช่นเคย สองคิ้วเรียวงามของหญิงสาวกลับต้องกดจิกเข้าหากันเล็กน้อย

 

สวนสมุนไพรแห่งนี้ เห็นจะแปลกประหลาดมิน้อย..

 

จะด้วยเหตุแห่งพฤกษาเวทราคาสูงเสียดฟ้าที่ถูกเก็บรักษาไว้ภายในสวนสมุนไพรแห่งนี้ หรือกรุ่นกลิ่นสมุนไพรมอมเมาความรู้สึกที่แทรกซึมผ่านอากาศ ล้วนสามารถกล่อมเกลาจิตวิญญาณแห่งยอดฝีมือทั้งหลายทั่วอาณาบริเวณให้ดูคล้ายจิตใจกระเจิดกระเจิงยากเกินจะควบคุม

 

ชั่วขณะนั้นเอง เสียงสูดดมอย่างล้ำลึกจากทุกคนในที่นั้นเริ่มดังขึ้นทางด้านข้าง ก่อนน้ำเสียงแห่งความตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่งยวดจะติดตามเข้าสู่สองหูของเกอซี

 

“สวรรค์ ! ที่นี่คือม่านหมอกร้อยพฤกษ์สมุนไพร ! นี่ข้ามได้ฝันไปใช่หรือไม่ ?!”

 

“ข้าคิดว่าจะต้องติดอยู่ในค่ายกลหมอกขาวแห่งนั้นตลอดกาล ต้องสินใจลงภายใต้อายหมอกแห่งนั้นเสียแล้ว ไม่คาดคิดเลย…ไม่คิดเลยว่าข้าจะได้มาถึงที่นี่ ! ข้าสุขใจเหลือเกินสุขใจเจียนตายอยู่แล้ว !”

 

“เร็ว รีบไปเก็บมาเสียให้สิ้นทุกสิ่ง ! สมุนไพรเหล่านี้ล้วนตกเป็นของพวกเราสํานักเซียนเหอ หากพวกเรานํากลับไป ย่อมนับเป็นลาภก้อนใหญ่ของพวกเราแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”

 

เมื่อเกอซีบ่ายศีรษะกลับมาจึงเห็นคนกลุ่มหนึ่งผู้มีนัยน์ตาดั่งสีโลหิต ดุจคล้ายพวกเขาทั้งหมดล้วนสูญสิ้นความคิดเหตุผล

 

ทั้งหมดจดจ่อสายตาเพียงสวนสมุนไพร ขณะนัยน์ตาค่อย ๆ กลับกลายยิ่งแดงเดือด ประกายตายิ่งละโมบแลคลุ้มคลั่งอย่างมิอาจหยุดยั้ง

 

ครู่เดียว บุคคลผู้มิอาจล่วงรู้ว่าผู้ใดพลันพากันส่งเสียงโหวกเหวกร้องตะโกนขึ้น “รีบไปฉกชิงทุกสิ่งมาเร็ว !” พวกเขาล้วนสูญสิ้นความคิดจิตใจ ทั้งหมดต่างวิ่งกรูตรงไปยังสวนสมุนไพรประหนึ่งถูกแปรเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่ง

 

ท่ามกลางกลุ่มฝูงชนหมู่ใหญ่นั้นได้รวมเอาองค์ชายสามฉางกวนรุ่ย และราชองค์รักษ์ประจํากายเข้าไว้ด้วย

 

พลังฝีมือของฉางกวนรุ่ยนับว่ามิได้สูงส่งแต่อย่างใด ทั้งยามนี้พลังปราณในกายล้วนถูกค่ายกลหมอกขาวสูบกลืนกินกระทั่งแทบหมดสิ้น

 

หากทว่าเพียงเสี้ยวชั่วขณะนี้ เขากลับดูคล้ายถูกบางสิ่งกระตุ้นเร้าอย่างหนักหน่วงรุนแรง เมื่อเขาคือผู้รุดหน้าก้าวมุ่งสู่สวนสมุนไพรก่อนผู้อื่นใด

 

สองฝ่ามือที่ถอดถอนต้นสมุนไพรล้วนสันระริกมิอาจหยุดยั้ง ริมฝีปากที่บ่นเพ้อยังสั่นเครือมหยุดหย่อน “เมล็ดจินหลิง ผลเทียนหยวน ! หากข้าได้ครอบครองสิ่งเหล่านี้ ข้าย่อมสามารถก้าวขึ้นสู่พลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน ! ราชบัลลังก์แห่งอาณาจักรจินหลิงย่อมตกอยู่ในมือข้า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า !”

 

ขณะเหตุการณ์ทั้งหมดกําลังดําเนินไป ราชองครักษ์ทั้งสองของฉางกวนรุ่ยผู้เป็นยอดฝีมือขั้นปฐพีสะท้านสะเทือนต่างพากันเร่งไขว่คว้ากระชากเก็บสมุนไพรอย่างบ้าคลั่ง

 

ภาพเหตุการณ์เบื้องหน้าแปรเปลี่ยนเป็นความโกลาหล เมื่อเหล่ายอดยุทธทั้งหลายต่างยื้อแย่งถอนดึงพฤกษาสมุนไพรกระทั่งเกิดการต่อสู้ช่วงชิงอย่างไร้สิ้นสามัญสํานึก

 

คนผู้หนึ่งส่งเสียงหัวเราะลั่นเมื่อในมือของเขาคว้าผลเทียนหยวนมาได้ “ครานี้ ข้าจะโกยตําลึงเงินก้อนโตได้แล้ว…นี่คือผลเทียนหยวน ! ผลเทียนหยวนซึ่งมีอายุบ่มเพาะยาวนานถึงหนึ่งพันปี ! เพียงได้กัดกินผลของมัน ช่วงอายุขัยย่อมถูกยึดให้ยาวนานนับร้อยปี ฮ่าฮ่าฮ่า…”

 

หากทว่าเสียงหัวเราะพลันชะงักด้วยเหตุน่าประหวั่น

 

โลหิตสีแดงขั้นพ่นกระจายจากลําคอ ร่างที่สิ้นไร้เรี่ยวแรงของคนผู้นั้นร่วงผล็อยลงสู่แผ่นพื้น ขณะผลเทียนหยวนถูกฉกชิงออกจากฝ่ามืออย่างรวดเร็ว

 

สวนสมุนไพรแห่งนี้แออัดด้วยฝูงชน ทั้งล้วนปรากฏเป็นยอดฝีมือระดับสูง หากทว่าชั่วขณะนี้กลับดูคล้ายการยื้อแย่งแข่งขันช่วงชิงของพวกพ่อค้ากลางตลาด ภาพลักษณ์อันสูงส่งแห่งผู้เยี่ยมยุทธล้วนถูกละเลย

 

บางคนเริ่มยัดพฤกษาสมุนไพรใส่ปาก เพื่อเก็บรักษาสมุนไพรที่ตนถอนขึ้นมาได้

 

ยามนี้พืชสมุนไพรขั้นสูงล้วนถูกละเลงด้วยกองโคลนคราบโลหิต ยิ่งเมื่อสมุนไพรทั้งหลายเหล่านั้นถูกกัดกลืนกลับดูคล้ายยิ่งส่งผลให้ผู้กินมันล่วงลงลําคอกลับยิ่งคลุ้มคลั่งตื่นกระหาย

 

***จบตอน ละโมบแลคลุ้มคลั่งอย่างมิอาจหยุดยั้ง***

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+