หัตถ์เทวะธิดาพญายม 336 ความคิดชั่วช้า

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 336 ความคิดชั่วช้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 336 ความคิดชั่วช้า

หวูอวี้รับโอสถแก่นจิตนั้นมาเพ่งสํารวจ นัยน์ตาทั้งคู่ของเขาพลันเปล่งประกายด้วยความยินดี ชายหนุ่มหยิบยื่นขวดโอสถน้ําของเกอ ซีให้อีกฝ่าย “อย่าลืมสลายพลังปราณทั่วร่างของเจ้าก่อนกลืนกิน โอสถนี้”

เด็กหนุ่มผู้นั้นมีหรือจะกล้ารอช้า เขารีบขจัดขุมพลังปราณทั่วร่า งของตน เพียงไม่ช้านาน คนผู้นั้นก็เร่งดื่มกลืนน้ําโอสถลงลําคอไป

 

ทันทีที่ตัวยาขจัดพิษผ่านเข้าสู่ร่าง ความเจ็บปวดทรมานอย่างเหลือแสนพันแพร่กระจายไปทั่วทุกอณู ความเจ็บปวดที่ทําให้เขาต้องร้องโอดครวญโหยหวนนอนล้มกลิ้งเกลือกไปตามพื้นดิน

 

หากทว่าชั่วเวลาแค่เพียงสองเค่อ” ความทรมานทั้งหมดพลันเริ่มทุเลา ตุ่มต่อมโลหิตทั่วร่างเริ่มเลือนสลาย กระทั่งบาดแผลทั่วเรือนกายล้วนได้รับการเยียวยารักษาอย่างรวดเร็ว

*1เค่อคือ 15 นาที่ 2 เค่อคือ 30 นาที

เขาสามารถรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังที่เริ่มโคจรลงสู่จุดตันเถียน* ความร้อนรุ่มทรมานตลอดทั่วทั้งอวัยวะภายในล้วนเดือดหาย เด็กหนุ่มผู้นั้นอดมิได้ที่จะส่งเสียงหัวร่อออกมา เขาหันมาหาเกอซี ทรุดเข่าทั้งสองข้างลงกับพื้น สองมือตบประสานเข้าหากัน หากทว่าสีหน้ายังคงหลงเหลือเศษเสี้ยวแห่งความไม่เต็มใจ “ขอบคุณที่ท่านหมอยอดอัจฉริยะช่วยชีวิตข้า”

 

*จุดตันเถียนคือจุดรวมพลังซึ่งมีตําแหน่งอยู่ใต้สะดือลงไปสอง

เม็ดโอสถใด ๆ ในโลกหล้าล้วนไร้ค่าความสําคัญ หากผู้ได้ครอบครองมันไม่เหลือลมหายใจต่อชีวิต

ในช่วงขณะเดียวกันนั้นเอง เหล่ายอดฝีมือที่เข้าไปเก็บรวบรวมสมุนไพรเพื่อต้มสกัดหลอมโอสถตามกระบวนการของเกอซีล้วนต้องอัศจรรย์ใจ เมื่อพวกมันล้วนค้นพบว่าเพียงพลังปราณของพวกมันสัมผัสสมุนไพรที่เขียวสด ตัวยาทั้งหมดเหล่านั้นพลันกลับกลายเป็นถ่านเถ้าในทันที กระบวนการต้มโอสถล้วนยากเย็นเกินกว่าถ้อย คําชี้แนะที่เกอซีได้เอ่ยกล่าวไว้ก่อนหน้ามากมายหลายเท่า

ยามนี้พวกมันทุกคนล้วนไม่เหลือหนทางรอดอื่นใด เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายจึงนําสมบัติล้ําค่าของตนออกแลกเปลี่ยนโอสถขจัดพิษ ยังจะมีผู้ใดกล้ามีใจคิดลังเลได้อีกกระนั้นหรือ?

ไกลห่างออกไป เฟิ่งเหลียนอิ่งกําลังยืนกําหมัดแน่น สองตาของนางจ้องเขม็งอยู่ที่เกอซี ผู้ยามนี้เปรียบประหนึ่งดวงเดือนที่แวดล้อมไปด้วยหมู่ดวงดารา กรามทั้งสองของนางขบเขี้ยวเคี้ยวกันแน่น กระทั่งเกิดเสียงดัง กรอด กรอด เล็ดลอดออกมา

 

ฉับพลัน นางได้ยินเสียงดัง กรอบ นิ้วก้อยน้อยๆที่นางเฝ้าทะนุถนอมมาเป็นอย่างดีพลันหักครึ่ง ความเจ็บปวดถาโถมเข้าใส่ในทันที

 

“เหตุใด ? เพราะเหตุใด ? เพราะเหตุใดข้าจึงพ่ายแพ้ให้แก่คนต่ําช้าไร้ค่าเช่นนั้น ?”

“ข้าเฝ้าฝึกฝนพลังฝีมือมายาวนานกี่ปีแล้ว? ท่านอาจารย์ของข้าคือปรมาจารย์แห่งขุนเขาพันพิษ ชื่อเสียงที่ข้าเฝ้าสั่งสมมาด้วยความยากลําบากกลับถูกทําลายลงด้วยเรื่องเช่นนี้กระนั้นหรือ”

“ข้ายอมรับมิได้ ข้าไม่ขอยอมรับ สวรรค์ไม่เป็นธรรม เจ้าสารเลวนั่นจะต้องเป็นผู้ชดใช้”

 

สุ่มเสียงวาจาของนางกระด้างระคายหู ช่างแตกต่างจากน้ําเสียงที่เคยอ่อนหวานไพเราะเสนาะโสตอันเป็นปกติของนางอย่างสิ้นเชิง เมื่อยามนี้ดวงหน้านั้นพลันแปรเปลี่ยนเป็นน่ากลัวสยดสยองพองขนยิ่งนัก

 

เนียจินเฉินเข้ามาช่วยปลอบใจนางด้วยน้ําเสียงอ่อนโยนที่แฝงความห่วงใย “น้องหญิงเหลียนอิ่ง อย่าได้โกรธเกรี้ยวไปเลย ความโกรธจะกระทบกระเทือนสุขภาพของเจ้าได้ อย่าได้ใส่ใจเจ้าสวะผู้นั้นเลย”

ยังไม่ทันที่เนียนจินเฉินจะกล่าวจบ หญิงสาวพลันสะบัดมือตวัดกลับมาตบใบหน้าอีกฝ่ายอย่างไร้ความปรานี เสียงนางตวาดใส่ “ไสหัวไป เจ้าคิดว่าตนคือผู้ใด กล้าดีอย่างไรมาแตะต้องกายข้า?”

“อย่าได้คิดว่าข้ามิรู้ความคิดต่ําช้าที่เจ้ามีต่อข้า เจ้าก็แค่ใฝ่สูงหมายอยากครอบครองข้า เพราะฐานะกับทั้งรูปร่างหน้าตาของข้า ชิ! กระทั่งสถานะของเจ้าข้ายังไม่อยากจะแล เจ้ามันก็แค่คนจากสกุลไร้ฐานะ แค่เพียงศิษย์ผู้หนึ่งแห่งสํานักหลิวหลี คนอย่างเจ้าควรค่าพอสําหรับข้ากระนั้นหรือ? เจ้าสามารถเทียบกับท่านพี่ยวี่ได้กระนั้นหรือ ?”

“ไสหัวไป ไปให้ไกลๆ ”

เนียจินเฉินยกมือขึ้นกุมใบหน้าที่ถูกปลายเล็บของเฟิ่งเหลียนอิ่งข่วนเป็นรอยเลือดซิบด้วยความเหลือเชื่อ

ขณะที่อีกด้านศิษย์สํานักหลิวหลีต่างยืนจับจองพวกเขาทั้งคู่ด้วยความเวทนาระคนสะใจบนความรันทดของผู้อื่น มิตรภาพของคนทั้งคู่ที่พวกเขาเคยชื่นชมพลันถูกแปรเปลี่ยนเป็นความสมเพชเวทนา

เนียจินเฉินก้มหน้ากําหมัดแน่นโดยไม่ปริปากเอ่ยถ้อยคําใด ประกายในม่านตานั้นกลับหม่นมัวลงอย่างเห็นได้ชัด

 

หากทว่าเฟิ่งอวิ๋นจิ่งกลับเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เมื่อได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเฟิ่งเหลียนอิ่งและเนียจินเฉิน

 

สตรีผู้โง่เขลา การทุ่มเทให้นางได้ฝึกฝนพลังยุทธตลอดช่วงสองสามปีที่ผ่านมาของตระกูลเฟิ่งนับเป็นความสูญเปล่าโดยแท้

***จบตอน ความคิดชั่วช้า***

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 336 ความคิดชั่วช้า

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 336 ความคิดชั่วช้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 336 ความคิดชั่วช้า

หวูอวี้รับโอสถแก่นจิตนั้นมาเพ่งสํารวจ นัยน์ตาทั้งคู่ของเขาพลันเปล่งประกายด้วยความยินดี ชายหนุ่มหยิบยื่นขวดโอสถน้ําของเกอ ซีให้อีกฝ่าย “อย่าลืมสลายพลังปราณทั่วร่างของเจ้าก่อนกลืนกิน โอสถนี้”

เด็กหนุ่มผู้นั้นมีหรือจะกล้ารอช้า เขารีบขจัดขุมพลังปราณทั่วร่า งของตน เพียงไม่ช้านาน คนผู้นั้นก็เร่งดื่มกลืนน้ําโอสถลงลําคอไป

 

ทันทีที่ตัวยาขจัดพิษผ่านเข้าสู่ร่าง ความเจ็บปวดทรมานอย่างเหลือแสนพันแพร่กระจายไปทั่วทุกอณู ความเจ็บปวดที่ทําให้เขาต้องร้องโอดครวญโหยหวนนอนล้มกลิ้งเกลือกไปตามพื้นดิน

 

หากทว่าชั่วเวลาแค่เพียงสองเค่อ” ความทรมานทั้งหมดพลันเริ่มทุเลา ตุ่มต่อมโลหิตทั่วร่างเริ่มเลือนสลาย กระทั่งบาดแผลทั่วเรือนกายล้วนได้รับการเยียวยารักษาอย่างรวดเร็ว

*1เค่อคือ 15 นาที่ 2 เค่อคือ 30 นาที

เขาสามารถรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังที่เริ่มโคจรลงสู่จุดตันเถียน* ความร้อนรุ่มทรมานตลอดทั่วทั้งอวัยวะภายในล้วนเดือดหาย เด็กหนุ่มผู้นั้นอดมิได้ที่จะส่งเสียงหัวร่อออกมา เขาหันมาหาเกอซี ทรุดเข่าทั้งสองข้างลงกับพื้น สองมือตบประสานเข้าหากัน หากทว่าสีหน้ายังคงหลงเหลือเศษเสี้ยวแห่งความไม่เต็มใจ “ขอบคุณที่ท่านหมอยอดอัจฉริยะช่วยชีวิตข้า”

 

*จุดตันเถียนคือจุดรวมพลังซึ่งมีตําแหน่งอยู่ใต้สะดือลงไปสอง

เม็ดโอสถใด ๆ ในโลกหล้าล้วนไร้ค่าความสําคัญ หากผู้ได้ครอบครองมันไม่เหลือลมหายใจต่อชีวิต

ในช่วงขณะเดียวกันนั้นเอง เหล่ายอดฝีมือที่เข้าไปเก็บรวบรวมสมุนไพรเพื่อต้มสกัดหลอมโอสถตามกระบวนการของเกอซีล้วนต้องอัศจรรย์ใจ เมื่อพวกมันล้วนค้นพบว่าเพียงพลังปราณของพวกมันสัมผัสสมุนไพรที่เขียวสด ตัวยาทั้งหมดเหล่านั้นพลันกลับกลายเป็นถ่านเถ้าในทันที กระบวนการต้มโอสถล้วนยากเย็นเกินกว่าถ้อย คําชี้แนะที่เกอซีได้เอ่ยกล่าวไว้ก่อนหน้ามากมายหลายเท่า

ยามนี้พวกมันทุกคนล้วนไม่เหลือหนทางรอดอื่นใด เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายจึงนําสมบัติล้ําค่าของตนออกแลกเปลี่ยนโอสถขจัดพิษ ยังจะมีผู้ใดกล้ามีใจคิดลังเลได้อีกกระนั้นหรือ?

ไกลห่างออกไป เฟิ่งเหลียนอิ่งกําลังยืนกําหมัดแน่น สองตาของนางจ้องเขม็งอยู่ที่เกอซี ผู้ยามนี้เปรียบประหนึ่งดวงเดือนที่แวดล้อมไปด้วยหมู่ดวงดารา กรามทั้งสองของนางขบเขี้ยวเคี้ยวกันแน่น กระทั่งเกิดเสียงดัง กรอด กรอด เล็ดลอดออกมา

 

ฉับพลัน นางได้ยินเสียงดัง กรอบ นิ้วก้อยน้อยๆที่นางเฝ้าทะนุถนอมมาเป็นอย่างดีพลันหักครึ่ง ความเจ็บปวดถาโถมเข้าใส่ในทันที

 

“เหตุใด ? เพราะเหตุใด ? เพราะเหตุใดข้าจึงพ่ายแพ้ให้แก่คนต่ําช้าไร้ค่าเช่นนั้น ?”

“ข้าเฝ้าฝึกฝนพลังฝีมือมายาวนานกี่ปีแล้ว? ท่านอาจารย์ของข้าคือปรมาจารย์แห่งขุนเขาพันพิษ ชื่อเสียงที่ข้าเฝ้าสั่งสมมาด้วยความยากลําบากกลับถูกทําลายลงด้วยเรื่องเช่นนี้กระนั้นหรือ”

“ข้ายอมรับมิได้ ข้าไม่ขอยอมรับ สวรรค์ไม่เป็นธรรม เจ้าสารเลวนั่นจะต้องเป็นผู้ชดใช้”

 

สุ่มเสียงวาจาของนางกระด้างระคายหู ช่างแตกต่างจากน้ําเสียงที่เคยอ่อนหวานไพเราะเสนาะโสตอันเป็นปกติของนางอย่างสิ้นเชิง เมื่อยามนี้ดวงหน้านั้นพลันแปรเปลี่ยนเป็นน่ากลัวสยดสยองพองขนยิ่งนัก

 

เนียจินเฉินเข้ามาช่วยปลอบใจนางด้วยน้ําเสียงอ่อนโยนที่แฝงความห่วงใย “น้องหญิงเหลียนอิ่ง อย่าได้โกรธเกรี้ยวไปเลย ความโกรธจะกระทบกระเทือนสุขภาพของเจ้าได้ อย่าได้ใส่ใจเจ้าสวะผู้นั้นเลย”

ยังไม่ทันที่เนียนจินเฉินจะกล่าวจบ หญิงสาวพลันสะบัดมือตวัดกลับมาตบใบหน้าอีกฝ่ายอย่างไร้ความปรานี เสียงนางตวาดใส่ “ไสหัวไป เจ้าคิดว่าตนคือผู้ใด กล้าดีอย่างไรมาแตะต้องกายข้า?”

“อย่าได้คิดว่าข้ามิรู้ความคิดต่ําช้าที่เจ้ามีต่อข้า เจ้าก็แค่ใฝ่สูงหมายอยากครอบครองข้า เพราะฐานะกับทั้งรูปร่างหน้าตาของข้า ชิ! กระทั่งสถานะของเจ้าข้ายังไม่อยากจะแล เจ้ามันก็แค่คนจากสกุลไร้ฐานะ แค่เพียงศิษย์ผู้หนึ่งแห่งสํานักหลิวหลี คนอย่างเจ้าควรค่าพอสําหรับข้ากระนั้นหรือ? เจ้าสามารถเทียบกับท่านพี่ยวี่ได้กระนั้นหรือ ?”

“ไสหัวไป ไปให้ไกลๆ ”

เนียจินเฉินยกมือขึ้นกุมใบหน้าที่ถูกปลายเล็บของเฟิ่งเหลียนอิ่งข่วนเป็นรอยเลือดซิบด้วยความเหลือเชื่อ

ขณะที่อีกด้านศิษย์สํานักหลิวหลีต่างยืนจับจองพวกเขาทั้งคู่ด้วยความเวทนาระคนสะใจบนความรันทดของผู้อื่น มิตรภาพของคนทั้งคู่ที่พวกเขาเคยชื่นชมพลันถูกแปรเปลี่ยนเป็นความสมเพชเวทนา

เนียจินเฉินก้มหน้ากําหมัดแน่นโดยไม่ปริปากเอ่ยถ้อยคําใด ประกายในม่านตานั้นกลับหม่นมัวลงอย่างเห็นได้ชัด

 

หากทว่าเฟิ่งอวิ๋นจิ่งกลับเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เมื่อได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเฟิ่งเหลียนอิ่งและเนียจินเฉิน

 

สตรีผู้โง่เขลา การทุ่มเทให้นางได้ฝึกฝนพลังยุทธตลอดช่วงสองสามปีที่ผ่านมาของตระกูลเฟิ่งนับเป็นความสูญเปล่าโดยแท้

***จบตอน ความคิดชั่วช้า***

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+