หัตถ์เทวะธิดาพญายม 337 กลับไปกับข้ามิดีกว่าหรือ ?

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 337 กลับไปกับข้ามิดีกว่าหรือ ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 337 กลับไปกับข้ามิดีกว่าหรือ ?

หากนางมิใช่ศิษย์คนโปรดของท่านปรมาจารย์แห่งขุนเขาพันพิษ เขาคงถีบหัวส่งสตรีผู้ทําให้ตระกูลเฟิ่งต้องเสียหน้าผู้นี้ไปนานแล้ว! เป็นดังที่คาดบุตรแห่งอนุย่อมไม่อาจพาออกหน้าออกตาสู่สาธารณะชน!

 

เฟงอวิ๋นจิ่งสะบัดปลายแขนเล็กน้อย ก่อนจะหันมากระซิบสั่งผู้ ติดตามคนสนิทที่ยืนอยู่ด้านข้าง “คล้ายในที่นี้ไม่มีสิ่งที่พวกเราต้องการ เตรียมไปกันได้แล้ว”

 

“ขอรับ นายน้อย” ผู้ติดตามคนสนิทโค้งศีรษะตอบรับ หากทว่า เมื่อเขาปรายตามองเหล่าศิษย์ที่ยังคงหลับใหลไม่ได้สติ เนื่องเพราะต้องพิษโลหิตหลั่งสําราญเมื่อครู่ จึงอดไม่ได้ที่จะออกปากถาม “นายน้อย เราควรทําเช่นไรกับเจ้าสองคนนั่นขอรับ”

 

เดิมที่ศิษย์สํานักหลิวหลีทั้งหมดล้วนอยู่ในตําแหน่งที่แยกห่างจากผู้คนทั้งหลาย เช่นนั้นจึงไม่มีผู้ใดติดพิษร้าย ทว่ากลับโชคร้าย เมื่อเฟิ่งเหลียนอิ่งมอบเม็ดโอสถห้าธาตุสกัดโลหิตให้แก่ฉางกวนรุ่ย เป็นเหตุให้องค์ชายหนุ่มร่างระเบิดแหลกต่อหน้าทุกคน ศิษย์สํานักสองนายผู้ไม่ทันระวังตัวจึงถูกสะเก็ดโลหิต เช่นนั้นพวกมันล้วนต้องพิษอย่างมิต้องสงสัย

 

นัยน์ตาทั้งคู่ของเฟิ่งอวิ๋นจิ่งเผยถึงความเย็นชา ในน้ําเสียงไร้สิ้นอารมณ์ความรู้สึก “ปล่อยให้พวกมันตายไปเอง” ทว่าฉับพลัน ความรู้สึกบางอย่างกลับผุดขึ้น เขาใคร่ครวญทบทวนอีกคราพลางหันไปหาเกอซีผู้เป็นที่รักของตน

 

หนุ่มน้อยผู้นั้นงดงามประหนึ่งภาพเขียน ผิวพรรณตลอด ทั่วเรือนกายขาวสล้างราวเกล็ดหิมะ นัยน์ตากระจ่างใสดั่งดวงดาราริมฝีปากแดงระเรื่อที่ยกโค้งขึ้นเล็กน้อย ความยั่วยวนเย้าจิตใจใฝ่ ถวิลหาที่มิมีผู้ใดสามารถฝ่าฝืนต้านทาน

เมื่อดวงตาทั้งคู่ของชายหนุ่มจับจ้องอยู่เช่นนั้น สองขาของเขาพลันขยับก้าวตรงเข้าหาเด็กหนุ่มเบื้องหน้าในทันทีเช่นกัน

 

ยามนี้เกอซีกําลังตรวจดูสมบัติล้ําค่าที่หวอ และกู้หลิวเฟิ่งส่งทอดมาให้ ตําหนิรวมถึงคุณสมบัติของพวกมันทั้งหมดล้วนถูกต้อง เมื่อพวกมันคือสมบัติอันล้ําค่าอย่างแท้จริงย่อมทําให้จิตใจของนางพองฟูด้วยความชื่นบาน

นี่คือแก่นจิตสัตว์เวทอสูรขั้นห้าอย่างแท้จริง นางต้องเหนื่อยยาก ลําบากอย่างหนักกว่าจะได้แก่นจิตขั้นห้ามาถึงสอง ยามนี้นางสามารถฟื้นฟูพลังให้แก่ต้านต้าน และมังกรทองตัวน้อยได้พร้อมกันในคราเดียว

 

ยิ่งไปกว่านั้นนี่คือตําราแพทย์ขั้นที่สี่จํานวนสิบสองเล่ม ซึ่งล้วนสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้ครั้งละจํานวนมาก จะมีสิ่งใดยอดเยี่ยมยิ่งไปกว่านี้อีก!

 

เหลือเชื่อ! ยังมีตําราวิชาเหาะเหินขั้นสูง ซึ่งสามารถเพิ่มความรวดเร็วในการเหาะแหวกอากาศของผู้ฝึกยุทธอีกด้วย หญิงสาวเดาะลิ้น ทั้งหมดทั้งมวลที่อยู่ในมือนางล้วนคือสิ่งหามูลค่ามิได้ในท้องตลาด

 

ภายนอกใบหน้าของหญิงสาวยังคงสงบนิ่งสุขุม หากทว่า ภายในกลับตื่นเต้นลิงโลดด้วยความยินดี ยามนี้ในหัวนางมีเพียงความคิดจะกอบโกยตําลึงเงินกองโตจากทั่วสารทิศ

ครั้นเมื่อเกอซีกําลังจะคว้ากล่องอีกใบขึ้นเปิดดู สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าพลันอับแสง ร่างของนางถูกบดบังด้วยเงาร่างที่สูงใหญ่

น้ําเสียงเย็นเยียบดุจน้ําแข็งของเฟิ่งอวิ๋นจิ่งดังขึ้นในทันที “เกอซี ศิษย์สํานักหลิวหลีสองคนของข้าต้องพิษโลหิตหลั่งสําราญ”

 

“เช่นนั้นรึ ?” ผู้ถูกกล่าวถึงช้อนสายตาขึ้นจ้องอีกฝ่ายพร้อมคําตอบที่เย็นชา

เฟิ่งอวิ๋นจิ่งเข้ามาหยุดยืนอยู่ในตําแหน่งที่ชิดใกล้หนุ่มน้อยผู้นั้น กระทั่งเขาสามารถเหยียดมือคว้าตัวหนุ่มน้อยด้วยความเสน่หา อาจสมควรกล่าวได้ว่า ดวงหน้าเนียนใสละเอียดนวลของหนุ่มน้อยเบื้องหน้าต้องตาต้องใจเขาอย่างยิ่ง ช่ายหนุ่มจึงอดมิได้ที่จะคลี่รอยยิ้มแห่งความจริงใจออกไปพร้อมคํากล่าว “เจ้าสมควรกลับไปกับข้า หากเจ้ามาเป็นคนของข้า ตระกูลเฟิ่งของข้าย่อมประจักษ์ในความสามารถของเจ้า”

ขณะกล่าวคําบุรุษหนุ่มในอาภรณ์สีดําพลันค่อยๆโน้มกายต่ําลงมา กระทั่งลมหายใจอุ่นร้อนที่พยายามกดข่มเพลิงตัณหาภายในใจของเขารดรินใส่ใบหน้าของเกอซี “วางใจเถิด ข้าจะไม่ปฏิบัติกับเจ้าอย่างอยุติธรรม สิ่งใดที่หนานกงยี่สามารถมอบให้เจ้าได้ ข้าล้วนสามารถมอบให้เจ้าได้เช่นกัน ทั้งข้ายังพร้อมจะปรนเปรอเจ้าให้ยิ่งกว่า เจ้าคิดเห็นเช่นไรเล่า ?”

 

เกอซีนิ่ง งงงันไปกว่าค่อนวัน” ครั้นเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาได้ หญิงสาวกลับต้องยกมือขึ้นเกาหูด้วยเข้าใจว่าตนกําลังได้ยินเรื่องน่าขําขันที่สุดในใต้หล้า

 

*ค่อนวัน หมายถึงนานมาก

 

อภัยเถิด! เมื่อครู่เฟิ่งอวิ๋นจิ่งผู้นี้กับเฟิ่งเหลียนอิ่งเพิ่งรวมหัวกันเข่นฆ่าสังหารนาง ทว่ามาบัดนี้เขากลับมาบอกให้นางกลับตระกูลเฟิ่งพร้อมกับเขา หนําซ้ํายังกล้ามีหน้ามาถามว่านางคิดเห็นเช่นไรกระนั้นรึ?

 

คนผู้นี้เสียสติ หรือระบบประสาทบกพร่องกันแน่?

ทว่ายังมิทันที่เกอซีจะเอ่ยกล่าวคําใด เงากระบี่ที่ดําหม่นสองสาย พลันตวัดกวัดแกว่งข้ามมาจากนภากว้าง มันเสียบพุ่งเข้าหาร่างของเฟิ่งอวิ๋นจิ่งหมายปลิดชีพคนผู้นั้นอย่างไร้ความปรานี

นายน้อยตระกูลเฟิ่งขยับล่าถอยอย่างรวดเร็ว เขาต้องสละอาวุธเวทของตนออกรับแรงกระบี่ทั้งสองสายที่กระหน่ําลงมาอย่างรุนแรง ดั่งหมายจะทลายผืนปฐพี

ตูม! พื้นพสุธาสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นประหนึ่งสายฟ้าฟาดถล่มธรณี

***จบตอน กลับไปกับข้ามิดีกว่าหรือ ?***

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 337 กลับไปกับข้ามิดีกว่าหรือ ?

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 337 กลับไปกับข้ามิดีกว่าหรือ ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 337 กลับไปกับข้ามิดีกว่าหรือ ?

หากนางมิใช่ศิษย์คนโปรดของท่านปรมาจารย์แห่งขุนเขาพันพิษ เขาคงถีบหัวส่งสตรีผู้ทําให้ตระกูลเฟิ่งต้องเสียหน้าผู้นี้ไปนานแล้ว! เป็นดังที่คาดบุตรแห่งอนุย่อมไม่อาจพาออกหน้าออกตาสู่สาธารณะชน!

 

เฟงอวิ๋นจิ่งสะบัดปลายแขนเล็กน้อย ก่อนจะหันมากระซิบสั่งผู้ ติดตามคนสนิทที่ยืนอยู่ด้านข้าง “คล้ายในที่นี้ไม่มีสิ่งที่พวกเราต้องการ เตรียมไปกันได้แล้ว”

 

“ขอรับ นายน้อย” ผู้ติดตามคนสนิทโค้งศีรษะตอบรับ หากทว่า เมื่อเขาปรายตามองเหล่าศิษย์ที่ยังคงหลับใหลไม่ได้สติ เนื่องเพราะต้องพิษโลหิตหลั่งสําราญเมื่อครู่ จึงอดไม่ได้ที่จะออกปากถาม “นายน้อย เราควรทําเช่นไรกับเจ้าสองคนนั่นขอรับ”

 

เดิมที่ศิษย์สํานักหลิวหลีทั้งหมดล้วนอยู่ในตําแหน่งที่แยกห่างจากผู้คนทั้งหลาย เช่นนั้นจึงไม่มีผู้ใดติดพิษร้าย ทว่ากลับโชคร้าย เมื่อเฟิ่งเหลียนอิ่งมอบเม็ดโอสถห้าธาตุสกัดโลหิตให้แก่ฉางกวนรุ่ย เป็นเหตุให้องค์ชายหนุ่มร่างระเบิดแหลกต่อหน้าทุกคน ศิษย์สํานักสองนายผู้ไม่ทันระวังตัวจึงถูกสะเก็ดโลหิต เช่นนั้นพวกมันล้วนต้องพิษอย่างมิต้องสงสัย

 

นัยน์ตาทั้งคู่ของเฟิ่งอวิ๋นจิ่งเผยถึงความเย็นชา ในน้ําเสียงไร้สิ้นอารมณ์ความรู้สึก “ปล่อยให้พวกมันตายไปเอง” ทว่าฉับพลัน ความรู้สึกบางอย่างกลับผุดขึ้น เขาใคร่ครวญทบทวนอีกคราพลางหันไปหาเกอซีผู้เป็นที่รักของตน

 

หนุ่มน้อยผู้นั้นงดงามประหนึ่งภาพเขียน ผิวพรรณตลอด ทั่วเรือนกายขาวสล้างราวเกล็ดหิมะ นัยน์ตากระจ่างใสดั่งดวงดาราริมฝีปากแดงระเรื่อที่ยกโค้งขึ้นเล็กน้อย ความยั่วยวนเย้าจิตใจใฝ่ ถวิลหาที่มิมีผู้ใดสามารถฝ่าฝืนต้านทาน

เมื่อดวงตาทั้งคู่ของชายหนุ่มจับจ้องอยู่เช่นนั้น สองขาของเขาพลันขยับก้าวตรงเข้าหาเด็กหนุ่มเบื้องหน้าในทันทีเช่นกัน

 

ยามนี้เกอซีกําลังตรวจดูสมบัติล้ําค่าที่หวอ และกู้หลิวเฟิ่งส่งทอดมาให้ ตําหนิรวมถึงคุณสมบัติของพวกมันทั้งหมดล้วนถูกต้อง เมื่อพวกมันคือสมบัติอันล้ําค่าอย่างแท้จริงย่อมทําให้จิตใจของนางพองฟูด้วยความชื่นบาน

นี่คือแก่นจิตสัตว์เวทอสูรขั้นห้าอย่างแท้จริง นางต้องเหนื่อยยาก ลําบากอย่างหนักกว่าจะได้แก่นจิตขั้นห้ามาถึงสอง ยามนี้นางสามารถฟื้นฟูพลังให้แก่ต้านต้าน และมังกรทองตัวน้อยได้พร้อมกันในคราเดียว

 

ยิ่งไปกว่านั้นนี่คือตําราแพทย์ขั้นที่สี่จํานวนสิบสองเล่ม ซึ่งล้วนสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้ครั้งละจํานวนมาก จะมีสิ่งใดยอดเยี่ยมยิ่งไปกว่านี้อีก!

 

เหลือเชื่อ! ยังมีตําราวิชาเหาะเหินขั้นสูง ซึ่งสามารถเพิ่มความรวดเร็วในการเหาะแหวกอากาศของผู้ฝึกยุทธอีกด้วย หญิงสาวเดาะลิ้น ทั้งหมดทั้งมวลที่อยู่ในมือนางล้วนคือสิ่งหามูลค่ามิได้ในท้องตลาด

 

ภายนอกใบหน้าของหญิงสาวยังคงสงบนิ่งสุขุม หากทว่า ภายในกลับตื่นเต้นลิงโลดด้วยความยินดี ยามนี้ในหัวนางมีเพียงความคิดจะกอบโกยตําลึงเงินกองโตจากทั่วสารทิศ

ครั้นเมื่อเกอซีกําลังจะคว้ากล่องอีกใบขึ้นเปิดดู สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าพลันอับแสง ร่างของนางถูกบดบังด้วยเงาร่างที่สูงใหญ่

น้ําเสียงเย็นเยียบดุจน้ําแข็งของเฟิ่งอวิ๋นจิ่งดังขึ้นในทันที “เกอซี ศิษย์สํานักหลิวหลีสองคนของข้าต้องพิษโลหิตหลั่งสําราญ”

 

“เช่นนั้นรึ ?” ผู้ถูกกล่าวถึงช้อนสายตาขึ้นจ้องอีกฝ่ายพร้อมคําตอบที่เย็นชา

เฟิ่งอวิ๋นจิ่งเข้ามาหยุดยืนอยู่ในตําแหน่งที่ชิดใกล้หนุ่มน้อยผู้นั้น กระทั่งเขาสามารถเหยียดมือคว้าตัวหนุ่มน้อยด้วยความเสน่หา อาจสมควรกล่าวได้ว่า ดวงหน้าเนียนใสละเอียดนวลของหนุ่มน้อยเบื้องหน้าต้องตาต้องใจเขาอย่างยิ่ง ช่ายหนุ่มจึงอดมิได้ที่จะคลี่รอยยิ้มแห่งความจริงใจออกไปพร้อมคํากล่าว “เจ้าสมควรกลับไปกับข้า หากเจ้ามาเป็นคนของข้า ตระกูลเฟิ่งของข้าย่อมประจักษ์ในความสามารถของเจ้า”

ขณะกล่าวคําบุรุษหนุ่มในอาภรณ์สีดําพลันค่อยๆโน้มกายต่ําลงมา กระทั่งลมหายใจอุ่นร้อนที่พยายามกดข่มเพลิงตัณหาภายในใจของเขารดรินใส่ใบหน้าของเกอซี “วางใจเถิด ข้าจะไม่ปฏิบัติกับเจ้าอย่างอยุติธรรม สิ่งใดที่หนานกงยี่สามารถมอบให้เจ้าได้ ข้าล้วนสามารถมอบให้เจ้าได้เช่นกัน ทั้งข้ายังพร้อมจะปรนเปรอเจ้าให้ยิ่งกว่า เจ้าคิดเห็นเช่นไรเล่า ?”

 

เกอซีนิ่ง งงงันไปกว่าค่อนวัน” ครั้นเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาได้ หญิงสาวกลับต้องยกมือขึ้นเกาหูด้วยเข้าใจว่าตนกําลังได้ยินเรื่องน่าขําขันที่สุดในใต้หล้า

 

*ค่อนวัน หมายถึงนานมาก

 

อภัยเถิด! เมื่อครู่เฟิ่งอวิ๋นจิ่งผู้นี้กับเฟิ่งเหลียนอิ่งเพิ่งรวมหัวกันเข่นฆ่าสังหารนาง ทว่ามาบัดนี้เขากลับมาบอกให้นางกลับตระกูลเฟิ่งพร้อมกับเขา หนําซ้ํายังกล้ามีหน้ามาถามว่านางคิดเห็นเช่นไรกระนั้นรึ?

 

คนผู้นี้เสียสติ หรือระบบประสาทบกพร่องกันแน่?

ทว่ายังมิทันที่เกอซีจะเอ่ยกล่าวคําใด เงากระบี่ที่ดําหม่นสองสาย พลันตวัดกวัดแกว่งข้ามมาจากนภากว้าง มันเสียบพุ่งเข้าหาร่างของเฟิ่งอวิ๋นจิ่งหมายปลิดชีพคนผู้นั้นอย่างไร้ความปรานี

นายน้อยตระกูลเฟิ่งขยับล่าถอยอย่างรวดเร็ว เขาต้องสละอาวุธเวทของตนออกรับแรงกระบี่ทั้งสองสายที่กระหน่ําลงมาอย่างรุนแรง ดั่งหมายจะทลายผืนปฐพี

ตูม! พื้นพสุธาสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นประหนึ่งสายฟ้าฟาดถล่มธรณี

***จบตอน กลับไปกับข้ามิดีกว่าหรือ ?***

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+