หัตถ์เทวะธิดาพญายม 348 โชควาสนาท้าทายสวรรค์

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 348 โชควาสนาท้าทายสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 348 โชควาสนาท้าทายสวรรค์

วาจาของมังกรทองตัวน้อยทําให้เกอซีตื่นตระหนก “ควบคุมอาณาจักรกําบัง ?”

 

จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? เมื่อนางได้เป็นผู้สืบทอดวังจือจิน เขตแดนผนึกมังกรย่อมล้วนตกอยู่ภายใต้อํานาจของนางเช่นกัน

หากทว่าสิ่งที่ท่านเจ้าวังจือจินคนก่อนกล่าวไว้คือ การจะควบคุมอาณาจักรกําบังมิใช่สิ่งที่จะถึงความสําเร็จโดยง่าย และหากอาณาจักรกําบังแห่งนี้ถูกบดบังไปอีกครา นางย่อมไม่อาจหาทางเข้ามาควบคุมมันได้อีก

 

เดิมที่เกอซีไม่วาดความหวังไว้เท่าใดนัก ยิ่งเมื่อนางได้ย่างกรายเข้ามาถึงม่านหมอกร้อยพฤกษ์สมุนไพร นางก็ประจักษ์ชัดว่าตนไม่อาจทําสิ่งใดได้มากนัก เช่นนี้แล้ว นางหรือจะมีความสามารถควบคุมความเป็นไปภายใต้อาณาจักรกําบังแห่งนี้?

 

มังกรทองตัวน้อยเชิดหน้าส่งเสียงพึมพํา “แม้ข้าจะไม่ยอมรับเจ้า ทว่า เจ้า แม่สาวน้อย เจ้าพอมีความสามารถ แม้เจ้าไม่อาจเทียบได้ กับนายคนเดิมของข้า ทว่าการที่ข้าจะพอกล้อมแกล้มยอมรับเจ้าไปก่อนย่อมมิใช้สิ่งเป็นไปไม่ได้”

วิน

ครั้นกล่าวจบ มังกรทองตัวน้อยก็ชี้นิ้วมือไปที่พื้น เขากล่าวด้วยน้ําเสียงบางเบา “หากเจ้าหมายจะควบคุม เขตแดนผนึกมังกรแห่งอาณาจักรกําบัง เช่นนั้นประการแรก เจ้าต้องประกอบด้วยพรสวรรค์ และอํานาจกระแสจิตที่โดดเด่นเหนือผู้ใด ซึ่งนั่นเจ้าก็ได้ พิสูจน์ตนแล้วด้วยการเป็นผู้รับช่วงสืบทอดตําแหน่งเจ้าวังจือจิน”

 

“ประการที่สอง เจ้าจําต้องฝ่าปราการต่างๆ เพื่อรวบรวมสมบัติวิเศษแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าจากอาณาจักรไม้ขจี อาณาจักรผลาญสวรรค์ อาณาจักรจันทราวารี อาณาจักรหิมะน้ําแข็ง และอาณาจักรทะเลทรายแห่งความอ้างว้าง เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าเจ้าเป็นผู้มีพลัง และมีความแข็งแกร่งเพียงพอจะเป็นผู้ควบคุมอาณาจักรกําบัง เดิมทีทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าว ล้วนสําเร็จได้โดยยากอย่างเหลือกําลัง หากทว่าผู้ใดจะคาดคิดว่าการที่เจ้ามอบความช่วยเหลือผู้คนเป็นจํานวนมาก ล้วนกลับกลายเป็นเหตุบังเอิญให้เจ้าสามารถรวบรวมสมบัติวิเศษแดนสวรรค์ทั้งห้าในอาณาจักรกําบังแห่งนี้ได้อย่างไม่คาดฝัน”

เพียงแต่การได้ครอบครองสมบัติวิเศษเหล่านั้นล้วนไม่เพียงพอ เจ้าจําต้องมีพลังปราณที่กล้าแกร่งเพียงพอจะสัมผัสม่านปราการกันอาณาจักรกําบังแห่งนี้ แท้จริงสิ่งนี้ล้วนจําต้องอาศัยพลังวัตรขั้นสูงส่งระดับสี่ ปฐพีสะท้านสะเทือน หรือสูงส่งยิ่งไปกว่า นั้น หากทว่าเมื่อครู่ต้านต้าน และเถาวัลย์ม่วงอเวจีของเจ้าได้กลืนกินพฤกษามนตราเข้าไปเป็นจํานวนมาก เช่นนั้นจึงกลับกลายเป็นเหตุให้เจ้าสามารถล่วงผ่านม่านปราการคุ้มกันแห่งอาณาจักรกําบังเข้ามาได้

แม้ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา มังกรทองตัวน้อยจะยังคงอยู่ ในสภาพงุนงงภายหลังการฟื้นตัว ทว่าด้วยเหตุที่เขากับเกอซีมีพันธสัญญาทางจิตร่วมกัน เขาจึงรู้เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนอกมิติเวทได้อย่างชัดแจ้ง

แม้เขาต้องทอดถอนใจคราแล้วคราเล่า ทว่าสาวน้อยผู้นี้ คือผู้ที่มีพลังความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึง ทั้งยังมีศักยภาพอันยอดเยี่ยมในตน นอกจากนี้นางยังคือผู้มีโชคที่ท้าทายสวรรค์จนเกินไป

เงื่อนไขที่ล้วนยากลําบากเกินกว่าจะบรรลุพลันกลับกลายเป็นง่ายดายอย่างไม่คาดฝันด้วยวาสนาของนาง

เมื่อคิดได้เช่นนั้นมังกรทองตัวน้อยจึงทําได้เพียงพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชาก่อนจะเหาะลอยสูงขึ้น เพื่อรักษาท่วงท่าอันหยิ่งผยองงามสง่า น้ําเสียงเย็นยะเยือกของเขากล่าวออกมา “และแน่นอน สิ่งที่สําคัญเหนืออื่นใดนั้นคือเจ้าจําต้องเป็นนายของอาวุโสผู้นี้ และผู้อาวุโสผู้นี้ต้องยอมรับด้วยหัวใจ”

“เช่นนั้นย่อมหมายความว่า ข้าจําต้องสร้างพันธสัญญาโลหิตแห่งความเป็นตายร่วมกับเจ้า สิ่งนี้ล้วนมิอาจย้อนกลับ ไม่เหมือนพันธสัญญาที่พวกเราเคยมีมาก่อนหน้า”

“เมื่อเจ้าได้เป็นนายของอาวุโสผู้นี้ ได้รับการยอมรับจากหัวใจของข้าเท่านั้น เจ้าจึงจะสามารถเป็นนายที่แท้จริงของอาณาจักรกําบังแห่งนี้ได้”

ทันทีที่เขาบอกกล่าวสิ่งนี้ มังกรทองตัวน้อยพลันโฉบร่างของตนลงมาใกล้ลําคอของเกอซี ก่อนจะขบกัดลงไปอย่างตั้งใจ

 

เกอซีไม่ทันเห็นสิ่งใด ทั้งก็ไม่ทันเหลือเวลาให้เบี่ยงหลบ หญิงสาวเพียงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บแปลบที่ลําคอ เพียงไม่นานหลังจากนั้น ลําแสงสีทองพลันโอบล้อมร่างของนางเข้ากับมังกรทองตัวน้อย

และแค่เพียงครู่ ลําแสงสีทองสายนั้นพลันแตกกระจัดกระจายออกจากกัน รอยแผลบนลําคอของเกอซีพลันเลือนหายอย่างไร้ร่องรอย หากแต่กลับปรากฏรอยสัญลักษณ์รูปมังกรสีทองขึ้นใจกลางฝ่ามือ

 

เครื่องหมายอันมีรูปลักษณะมังกรสีทองนี้ล้วนแตกต่างจากเส้นสายสีทองที่นางเคยได้รับจากมังกรทองตัวน้อย เมื่อครั้งที่ทั้งคู่ทําพันธสัญญาต่อกันในคราก่อน เนื่องเพราะสัญลักษณ์นี้คมชัดสุด เปรียบปานคล้ายมันฝังลึกลงในเลือดเนื้อของนาง ทั้งยังปรากฏความรู้สึกถึงขุมพลังอันแกร่งกล้าที่แฝงเร้น

แม้สัญลักษณ์มังกรทองในฝ่ามือของนางจะเลื่อนสลายอย่างรวดเร็ว หากทว่าเกอซีกลับสามารถรับรู้ถึงมันได้อย่างชัดเจนประหนึ่งมันคือห้วงแห่งความทรงจําที่แปลกประหลาดอัศจรรย์ ซึ่งล้วนมิใช่ของนาง หากแต่มันกําลังพลุ่งพล่านอยู่ในจิตวิญญาณของนาง

 

เกอซีตระหนักได้ในทันทีว่าความทรงจําทั้งหมดทั้งมวลล้วนคือเรื่องราวแห่งเผ่าพันธุ์มังกร เพียงทว่ายามนี้ภาพแห่งความทรงจําเหล่านั้นยังคงเลือนลาง หากแต่เพียงสิ่งเดียวที่ปรากฏชัดขึ้นมานั้นคือ ถ้อยคําหนึ่งประโยค

 

***จบตอน โชควาสนาท้าทายสวรรค์* * *

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 348 โชควาสนาท้าทายสวรรค์

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 348 โชควาสนาท้าทายสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 348 โชควาสนาท้าทายสวรรค์

วาจาของมังกรทองตัวน้อยทําให้เกอซีตื่นตระหนก “ควบคุมอาณาจักรกําบัง ?”

 

จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? เมื่อนางได้เป็นผู้สืบทอดวังจือจิน เขตแดนผนึกมังกรย่อมล้วนตกอยู่ภายใต้อํานาจของนางเช่นกัน

หากทว่าสิ่งที่ท่านเจ้าวังจือจินคนก่อนกล่าวไว้คือ การจะควบคุมอาณาจักรกําบังมิใช่สิ่งที่จะถึงความสําเร็จโดยง่าย และหากอาณาจักรกําบังแห่งนี้ถูกบดบังไปอีกครา นางย่อมไม่อาจหาทางเข้ามาควบคุมมันได้อีก

 

เดิมที่เกอซีไม่วาดความหวังไว้เท่าใดนัก ยิ่งเมื่อนางได้ย่างกรายเข้ามาถึงม่านหมอกร้อยพฤกษ์สมุนไพร นางก็ประจักษ์ชัดว่าตนไม่อาจทําสิ่งใดได้มากนัก เช่นนี้แล้ว นางหรือจะมีความสามารถควบคุมความเป็นไปภายใต้อาณาจักรกําบังแห่งนี้?

 

มังกรทองตัวน้อยเชิดหน้าส่งเสียงพึมพํา “แม้ข้าจะไม่ยอมรับเจ้า ทว่า เจ้า แม่สาวน้อย เจ้าพอมีความสามารถ แม้เจ้าไม่อาจเทียบได้ กับนายคนเดิมของข้า ทว่าการที่ข้าจะพอกล้อมแกล้มยอมรับเจ้าไปก่อนย่อมมิใช้สิ่งเป็นไปไม่ได้”

วิน

ครั้นกล่าวจบ มังกรทองตัวน้อยก็ชี้นิ้วมือไปที่พื้น เขากล่าวด้วยน้ําเสียงบางเบา “หากเจ้าหมายจะควบคุม เขตแดนผนึกมังกรแห่งอาณาจักรกําบัง เช่นนั้นประการแรก เจ้าต้องประกอบด้วยพรสวรรค์ และอํานาจกระแสจิตที่โดดเด่นเหนือผู้ใด ซึ่งนั่นเจ้าก็ได้ พิสูจน์ตนแล้วด้วยการเป็นผู้รับช่วงสืบทอดตําแหน่งเจ้าวังจือจิน”

 

“ประการที่สอง เจ้าจําต้องฝ่าปราการต่างๆ เพื่อรวบรวมสมบัติวิเศษแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าจากอาณาจักรไม้ขจี อาณาจักรผลาญสวรรค์ อาณาจักรจันทราวารี อาณาจักรหิมะน้ําแข็ง และอาณาจักรทะเลทรายแห่งความอ้างว้าง เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าเจ้าเป็นผู้มีพลัง และมีความแข็งแกร่งเพียงพอจะเป็นผู้ควบคุมอาณาจักรกําบัง เดิมทีทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าว ล้วนสําเร็จได้โดยยากอย่างเหลือกําลัง หากทว่าผู้ใดจะคาดคิดว่าการที่เจ้ามอบความช่วยเหลือผู้คนเป็นจํานวนมาก ล้วนกลับกลายเป็นเหตุบังเอิญให้เจ้าสามารถรวบรวมสมบัติวิเศษแดนสวรรค์ทั้งห้าในอาณาจักรกําบังแห่งนี้ได้อย่างไม่คาดฝัน”

เพียงแต่การได้ครอบครองสมบัติวิเศษเหล่านั้นล้วนไม่เพียงพอ เจ้าจําต้องมีพลังปราณที่กล้าแกร่งเพียงพอจะสัมผัสม่านปราการกันอาณาจักรกําบังแห่งนี้ แท้จริงสิ่งนี้ล้วนจําต้องอาศัยพลังวัตรขั้นสูงส่งระดับสี่ ปฐพีสะท้านสะเทือน หรือสูงส่งยิ่งไปกว่า นั้น หากทว่าเมื่อครู่ต้านต้าน และเถาวัลย์ม่วงอเวจีของเจ้าได้กลืนกินพฤกษามนตราเข้าไปเป็นจํานวนมาก เช่นนั้นจึงกลับกลายเป็นเหตุให้เจ้าสามารถล่วงผ่านม่านปราการคุ้มกันแห่งอาณาจักรกําบังเข้ามาได้

แม้ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา มังกรทองตัวน้อยจะยังคงอยู่ ในสภาพงุนงงภายหลังการฟื้นตัว ทว่าด้วยเหตุที่เขากับเกอซีมีพันธสัญญาทางจิตร่วมกัน เขาจึงรู้เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนอกมิติเวทได้อย่างชัดแจ้ง

แม้เขาต้องทอดถอนใจคราแล้วคราเล่า ทว่าสาวน้อยผู้นี้ คือผู้ที่มีพลังความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึง ทั้งยังมีศักยภาพอันยอดเยี่ยมในตน นอกจากนี้นางยังคือผู้มีโชคที่ท้าทายสวรรค์จนเกินไป

เงื่อนไขที่ล้วนยากลําบากเกินกว่าจะบรรลุพลันกลับกลายเป็นง่ายดายอย่างไม่คาดฝันด้วยวาสนาของนาง

เมื่อคิดได้เช่นนั้นมังกรทองตัวน้อยจึงทําได้เพียงพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชาก่อนจะเหาะลอยสูงขึ้น เพื่อรักษาท่วงท่าอันหยิ่งผยองงามสง่า น้ําเสียงเย็นยะเยือกของเขากล่าวออกมา “และแน่นอน สิ่งที่สําคัญเหนืออื่นใดนั้นคือเจ้าจําต้องเป็นนายของอาวุโสผู้นี้ และผู้อาวุโสผู้นี้ต้องยอมรับด้วยหัวใจ”

“เช่นนั้นย่อมหมายความว่า ข้าจําต้องสร้างพันธสัญญาโลหิตแห่งความเป็นตายร่วมกับเจ้า สิ่งนี้ล้วนมิอาจย้อนกลับ ไม่เหมือนพันธสัญญาที่พวกเราเคยมีมาก่อนหน้า”

“เมื่อเจ้าได้เป็นนายของอาวุโสผู้นี้ ได้รับการยอมรับจากหัวใจของข้าเท่านั้น เจ้าจึงจะสามารถเป็นนายที่แท้จริงของอาณาจักรกําบังแห่งนี้ได้”

ทันทีที่เขาบอกกล่าวสิ่งนี้ มังกรทองตัวน้อยพลันโฉบร่างของตนลงมาใกล้ลําคอของเกอซี ก่อนจะขบกัดลงไปอย่างตั้งใจ

 

เกอซีไม่ทันเห็นสิ่งใด ทั้งก็ไม่ทันเหลือเวลาให้เบี่ยงหลบ หญิงสาวเพียงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บแปลบที่ลําคอ เพียงไม่นานหลังจากนั้น ลําแสงสีทองพลันโอบล้อมร่างของนางเข้ากับมังกรทองตัวน้อย

และแค่เพียงครู่ ลําแสงสีทองสายนั้นพลันแตกกระจัดกระจายออกจากกัน รอยแผลบนลําคอของเกอซีพลันเลือนหายอย่างไร้ร่องรอย หากแต่กลับปรากฏรอยสัญลักษณ์รูปมังกรสีทองขึ้นใจกลางฝ่ามือ

 

เครื่องหมายอันมีรูปลักษณะมังกรสีทองนี้ล้วนแตกต่างจากเส้นสายสีทองที่นางเคยได้รับจากมังกรทองตัวน้อย เมื่อครั้งที่ทั้งคู่ทําพันธสัญญาต่อกันในคราก่อน เนื่องเพราะสัญลักษณ์นี้คมชัดสุด เปรียบปานคล้ายมันฝังลึกลงในเลือดเนื้อของนาง ทั้งยังปรากฏความรู้สึกถึงขุมพลังอันแกร่งกล้าที่แฝงเร้น

แม้สัญลักษณ์มังกรทองในฝ่ามือของนางจะเลื่อนสลายอย่างรวดเร็ว หากทว่าเกอซีกลับสามารถรับรู้ถึงมันได้อย่างชัดเจนประหนึ่งมันคือห้วงแห่งความทรงจําที่แปลกประหลาดอัศจรรย์ ซึ่งล้วนมิใช่ของนาง หากแต่มันกําลังพลุ่งพล่านอยู่ในจิตวิญญาณของนาง

 

เกอซีตระหนักได้ในทันทีว่าความทรงจําทั้งหมดทั้งมวลล้วนคือเรื่องราวแห่งเผ่าพันธุ์มังกร เพียงทว่ายามนี้ภาพแห่งความทรงจําเหล่านั้นยังคงเลือนลาง หากแต่เพียงสิ่งเดียวที่ปรากฏชัดขึ้นมานั้นคือ ถ้อยคําหนึ่งประโยค

 

***จบตอน โชควาสนาท้าทายสวรรค์* * *

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+