เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 19.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 19.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 19

 

 

‘นั่นไง’

 

เธอยิ้มบาง จงใจสะบัดผ้า

 

“ว้าว! สวยจัง! สวย…..อ๊ะ!”

 

ฟีเรนเทียใช้จังหวะที่สายตาของท่านพ่อกับท่านปู่ต่างก็กำลังมองอยู่ที่ผ้าที่กำลังสะบัดอยู่กลางอากาศ

 

มือของเธอที่จับผ้าสะบัดแสร้งทำเป็นทำพลาด ปัดเอาแก้วชาที่วางอยู่หน้าท่านพ่อหล่น

 

น้ำชาหกพรวดกระจายไปทั่วโต๊ะในพริบตา ท่านปู่กับท่านพ่อตกใจจนลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งเธอก็ฉวยจังหวะนั้นทำผ้าฝ้ายโคโรอีที่กำลังถือเล่นอยู่ตกลงบนน้ำที่ไหลเลอะไปทั่ว

 

“นี่มัน!”

 

ท่านพ่อตกใจ อุ้มเธอขึ้น ก่อนจะวางเธอลงห่างออกมาเล็กน้อย

 

“เทีย เป็นอะไรหรือเปล่า โดนน้ำร้อนลวกมั้ย”

 

ท่านพ่อมัวแต่ยุ่งอยู่กับการเป็นห่วงว่าเธอจะมีแผลโดนลวก แต่เธอเห็น

 

สีหน้าของท่านปู่ที่เปลี่ยนแปลงไปในทันทีที่เห็นว่าผ้าฝ้ายโคโรอีดูดซับน้ำชาได้อย่างรวดเร็วในพริบตา

 

“ขอโทษค่ะ พ่อ ข้าพลาดไปหน่อย”

 

“ไม่บาดเจ็บก็พอแล้วละ”

 

“แคลอฮัน”

 

ท่านปู่เอ่ยเรียกท่านพ่อที่กำลังช่วยปัดชุดของเธอที่เลอะเศษน้ำชาเล็กน้อย

 

เพียงไม่นานนัยน์ตาของท่านพ่อก็เบิกกว้าง เมื่อมองตามสายตาของท่านปู่ไปแล้วพบว่าผ้าฝ้ายโคโรอีดูดซับน้ำได้อย่างน่าตกใจทีเดียว

 

“โฮ่ว ดูดซับน้ำได้ดีจริงๆ นะครับ”

 

ท่านพ่อจับมุมผ้ายกขึ้นมาดู อาจจะยังเหลือน้ำซึมเลอะอยู่มาก แต่เนื้อผ้ากำลังดูดซับน้ำชาส่วนใหญ่ไปจนเกือบหมดแล้วอย่างเห็นได้ชัด

 

“ถ้าเอามาปรับใช้ให้ดี คงจะนำไปใช้ได้อย่างหลากหลายทีเดียวนะครับ ตอนส่งสินค้าไปยังห้องเสื้อ คงจะต้องแนบคู่มือการใช้งานสั้นๆ ไปด้วยแล้วละครับ”

 

นั่นเป็นวิธีการที่ดีอย่างแน่นอน แต่มันยังไม่พอ

 

ตอนนี้จำเป็นต้องหาวิธีการที่จะลงมือได้ในทันทีต่างหากล่ะ

 

เธอรีบแทรกตัวเข้าไปข้างหน้าท่านพ่อ ลูบผ้าที่หนักชุ่มไปด้วยน้ำชา พลางเอ่ยพูด

 

“ว้าว ที่ท่านพ่อทำนี่มันน่าทึ่งมากเลยนะคะ! คนคงจะซื้อกันเยอะน่าดูเลยใช่มั้ยคะ ถ้าทะเลาะแย่งชิงกันขึ้นมาจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย”

 

พอเห็นเธอพูดราวกับเป็นกังวล ท่านพ่อก็ยิ้มขมขื่น แล้วเอ่ยพูดกับเธอ

 

“ฮ่าฮ่า ไม่รู้สิ กระแสตอบรับของผู้คนยังไม่เท่าไหร่นัก แต่ถ้าเป็นอย่างที่เทียของเราบอกก็คงจะดีนะ”

 

“กระแสตอบรับไม่ดีเหรอคะ ทำไมล่ะคะ”

 

“ก็เพราะ อืมดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่จะยังไม่รู้จักผ้าแบบนี้น่ะ”

 

ใช่แล้วค่ะ ท่านพ่อ! นั่นแหละคือประเด็นสำคัญไง!

 

เธอพยักหน้าเศร้าหมองให้กับคำพูดของท่านพ่อพลางเอ่ยพูด

 

“งื้อแบบนี้ถ้าคนอื่นๆ ได้ทดลองใช้ก่อนก็คงจะดีแท้ๆ”

 

“ว่ายังไงนะ เทีย?”

 

“ก็พ่อบอกเองไม่ใช่เหรอคะ ว่าคนอื่นๆ เขายังไม่รู้จักผ้าชนิดนี้กัน เพราะฉะนั้น…”

 

“นั่นสิ ใช่แล้วทำไมก่อนหน้านี้ข้าถึงคิดไม่ได้กันนะ”

 

ดูเหมือนท่านพ่อจะตระหนักได้จากคำใบ้ที่เธอให้ ถึงได้พึมพำตกอยู่ในภวังค์ความคิด

 

หากเป็นไปตามบนสนทนาที่ท่านพ่อกับท่านปู่พูดคุยกัน หมายความว่าปริมาณการผลิตเตรียมพร้อมมากพอที่จะวางจำหน่ายได้แล้ว

 

อีกอย่างเป็นเพราะโรงงานทอผ้าเองก็ต้องทอผ้าผลิตออกมาเพิ่มเรื่อยๆ ทำให้มันจะกลายเป็นสต๊อกสินค้าที่ได้แต่วางกองสะสมเพิ่มพูนขึ้นมาเท่านั้นเอง เทียบกับการต้องจ่ายค่าจัดการดูแลโกดังเก็บสินค้าแล้ว สู้เอาผ้าที่ผลิตทิ้งไว้แล้วมาใช้ในการโฆษณายังจะได้ประโยชน์มากกว่า

 

“คุณภาพของผ้าดีมาก ถ้าหากผู้คนได้ลองใช้มันก่อนละก็…”

 

“นั่นเป็นวิธีที่ใช้ได้เหมือนกันนะ หากใช้ผ้าพวกนี้ทำสินค้าตัวอย่างส่งไปให้เป็นของขวัญพวกชนชั้นสูงที่เป็นเป้าหมายทางการค้าล่ะ”

 

ว่าแล้วเชียว นี่ละท่านปู่

 

ชนชั้นสูงของอาณาจักรแลมบลู ปกติแล้วจะแวะเวียนมาที่ห้องเสื้อ เพื่อเลือกสรรดีไซน์กับผ้าตามความต้องการเฉพาะส่วนบุคคล แล้วค่อยให้ทางร้านตัดเย็บขึ้นมาให้

 

ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่ทุกสิ่งที่ใช้ผ้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องนอนหรือผ้าม่านเองก็เช่นเดียวกัน

 

ดังนั้นไม่ใช่แค่การเสนอเนื้อผ้าให้พวกเขาได้ดูกันก่อนเฉยๆ แต่จำเป็นต้องใช้ผ้าผลิตสินค้าตัวอย่างขึ้นมา เพื่อกระตุ้นความอยากซื้อของพวกเขาให้เพิ่มมากขึ้นให้ได้

 

“แต่กว่าจะเริ่มขายก็เหลือเวลาไม่มากแล้วนะครับ หากจะผลิตให้เข้ากับเวลาที่เหลือ ก็จะต้องใช้เป็นสินค้าที่เรียบง่าย…”

 

ตอนนี้แหละ

 

เธอหยิบผ้าส่วนที่ไม่เปียกน้ำที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมา ส่งมันให้ท่านพ่อพลางเอ่ยพูด

 

“ของข้าช่วยทำผ้าเช็ดหน้าให้หน่อยนะคะ!”

 

“ผ้าเช็ดหน้า?”

 

“มันนุ่มมากเลยน่าจะดีค่ะ! ตัดเป็นผืนเล็กๆ ปักลายดอกไม้เล็กๆ บนมุมตรงนี้คงจะสวยน่าดูเลยค่ะ! จะเอาไปอวดคิลลีวูกับเมโลนด้วย! ”

 

“ท่านพ่อ!”

 

ท่านพ่อฟังคำพูดของเธอแล้วก็หันไปมองท่านปู่ด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย

 

ท่านปู่ที่กำลังลูบเคราเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

 

“ผ้าเช็ดหน้าอย่างนั้นหรือ น่าจะเป็นสินค้าตัวอย่างให้ทดลองใช้ที่ดีทีเดียว”

 

“วิธีการเช่นนี้ทำไมก่อนหน้านี้ข้าถึงคิดไม่ได้นะครับ! ทั้งๆ ที่เคยเห็นหัวหน้ากลุ่มการค้าดิวรักตัดผ้าไปเพราะจำเป็นต้องเอาไปใช้เช็ดเหงื่อ ทั้งยังบอกว่ามันดีมากจนพกไปไหนมาไหนอยู่ตลอดแท้ๆ! ”

 

ท่านพ่อยิ้มอ่อนด้วยความท้อแท้ใจพลางเอ่ยพูด

 

“ไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนการผลิตพิเศษด้วยครับ แค่ตัดเย็บขนาดให้เหมาะสม แล้วรีดมันให้เรียบก็พอแล้ว อ๊ะ! เพิ่มการตกแต่งแบบเรียบง่ายเข้าไปหน่อยก็น่าจะดีนะครับ! ”

 

ไม่มีอะไรให้เธอต้องช่วยเหลือเพิ่ม

 

ท่านพ่อเริ่มร่ายไอเดียที่นึกได้ออกมาไม่หยุด ไม่ใช่แค่ผ้าเช็ดหน้าเท่านั้น

 

รายชื่อสินค้าตัวอย่างที่สามารถให้คนงานตัดเย็บขึ้นมาได้ในทันทีหลั่งไหลออกมาจากปากของท่านพ่ออย่างไม่ขาดสาย

 

“มะ…ไม่ใช่เวลามามัวอยู่เฉยๆ แบบนี้แล้วละครับ! ท่านพ่อ คือว่าเทีย..”

 

“ไม่ต้องห่วงเทียหรอก ไปเถอะ”

 

เดิมทีวันนี้ท่านพ่อแค่แวะมารายงานท่านปู่ครู่หนึ่ง แล้วจะไปทานมื้อเย็นด้วยกันกับเธอเพราะนานๆ ทีจะได้เลิกงานเร็วแบบนี้กับเขาบ้าง

 

ท่านพ่อเก็บผ้าทอที่พกมาด้วยอย่างเร่งรีบ เอ่ยพูดกับเธอ

 

“เทีย ขอโทษนะ พ่อคงจะต้องกลับไปทำงานแล้วละ มื้อเย็นของพวกเราคงจะต้องเลื่อนไปครั้งหน้า ทำไงดีล่ะ”

 

“ไม่เป็นไรค่ะ! เดินทางปลอดภัยนะคะ พ่อ!”

 

เธอยิ้มสดใส โบกมือลา

 

หลังจากเหลียวหลังกลับมามองอยู่หลายรอบด้วยความรู้สึกผิด สุดท้ายท่านพ่อก็วิ่งออกไปจากห้องทำงาน

 

มือข้างหนึ่งจับไหล่ของเธอที่มองภาพนั้นอยู่ด้วยความพึงพอใจ

 

“วันนี้อยู่ทานมื้อเย็นกับปู่คนนี้แทนดีมั้ย”

 

โอ๊ะ! ได้ผลลัพธ์ดีผิดคาด

 

เธอรีบพยักหน้าตอบ

 

“ค่ะ ท่านปู่! ข้าอยากทานเนื้อค่ะ!”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 19.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 19.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 19

 

 

‘นั่นไง’

 

เธอยิ้มบาง จงใจสะบัดผ้า

 

“ว้าว! สวยจัง! สวย…..อ๊ะ!”

 

ฟีเรนเทียใช้จังหวะที่สายตาของท่านพ่อกับท่านปู่ต่างก็กำลังมองอยู่ที่ผ้าที่กำลังสะบัดอยู่กลางอากาศ

 

มือของเธอที่จับผ้าสะบัดแสร้งทำเป็นทำพลาด ปัดเอาแก้วชาที่วางอยู่หน้าท่านพ่อหล่น

 

น้ำชาหกพรวดกระจายไปทั่วโต๊ะในพริบตา ท่านปู่กับท่านพ่อตกใจจนลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งเธอก็ฉวยจังหวะนั้นทำผ้าฝ้ายโคโรอีที่กำลังถือเล่นอยู่ตกลงบนน้ำที่ไหลเลอะไปทั่ว

 

“นี่มัน!”

 

ท่านพ่อตกใจ อุ้มเธอขึ้น ก่อนจะวางเธอลงห่างออกมาเล็กน้อย

 

“เทีย เป็นอะไรหรือเปล่า โดนน้ำร้อนลวกมั้ย”

 

ท่านพ่อมัวแต่ยุ่งอยู่กับการเป็นห่วงว่าเธอจะมีแผลโดนลวก แต่เธอเห็น

 

สีหน้าของท่านปู่ที่เปลี่ยนแปลงไปในทันทีที่เห็นว่าผ้าฝ้ายโคโรอีดูดซับน้ำชาได้อย่างรวดเร็วในพริบตา

 

“ขอโทษค่ะ พ่อ ข้าพลาดไปหน่อย”

 

“ไม่บาดเจ็บก็พอแล้วละ”

 

“แคลอฮัน”

 

ท่านปู่เอ่ยเรียกท่านพ่อที่กำลังช่วยปัดชุดของเธอที่เลอะเศษน้ำชาเล็กน้อย

 

เพียงไม่นานนัยน์ตาของท่านพ่อก็เบิกกว้าง เมื่อมองตามสายตาของท่านปู่ไปแล้วพบว่าผ้าฝ้ายโคโรอีดูดซับน้ำได้อย่างน่าตกใจทีเดียว

 

“โฮ่ว ดูดซับน้ำได้ดีจริงๆ นะครับ”

 

ท่านพ่อจับมุมผ้ายกขึ้นมาดู อาจจะยังเหลือน้ำซึมเลอะอยู่มาก แต่เนื้อผ้ากำลังดูดซับน้ำชาส่วนใหญ่ไปจนเกือบหมดแล้วอย่างเห็นได้ชัด

 

“ถ้าเอามาปรับใช้ให้ดี คงจะนำไปใช้ได้อย่างหลากหลายทีเดียวนะครับ ตอนส่งสินค้าไปยังห้องเสื้อ คงจะต้องแนบคู่มือการใช้งานสั้นๆ ไปด้วยแล้วละครับ”

 

นั่นเป็นวิธีการที่ดีอย่างแน่นอน แต่มันยังไม่พอ

 

ตอนนี้จำเป็นต้องหาวิธีการที่จะลงมือได้ในทันทีต่างหากล่ะ

 

เธอรีบแทรกตัวเข้าไปข้างหน้าท่านพ่อ ลูบผ้าที่หนักชุ่มไปด้วยน้ำชา พลางเอ่ยพูด

 

“ว้าว ที่ท่านพ่อทำนี่มันน่าทึ่งมากเลยนะคะ! คนคงจะซื้อกันเยอะน่าดูเลยใช่มั้ยคะ ถ้าทะเลาะแย่งชิงกันขึ้นมาจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย”

 

พอเห็นเธอพูดราวกับเป็นกังวล ท่านพ่อก็ยิ้มขมขื่น แล้วเอ่ยพูดกับเธอ

 

“ฮ่าฮ่า ไม่รู้สิ กระแสตอบรับของผู้คนยังไม่เท่าไหร่นัก แต่ถ้าเป็นอย่างที่เทียของเราบอกก็คงจะดีนะ”

 

“กระแสตอบรับไม่ดีเหรอคะ ทำไมล่ะคะ”

 

“ก็เพราะ อืมดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่จะยังไม่รู้จักผ้าแบบนี้น่ะ”

 

ใช่แล้วค่ะ ท่านพ่อ! นั่นแหละคือประเด็นสำคัญไง!

 

เธอพยักหน้าเศร้าหมองให้กับคำพูดของท่านพ่อพลางเอ่ยพูด

 

“งื้อแบบนี้ถ้าคนอื่นๆ ได้ทดลองใช้ก่อนก็คงจะดีแท้ๆ”

 

“ว่ายังไงนะ เทีย?”

 

“ก็พ่อบอกเองไม่ใช่เหรอคะ ว่าคนอื่นๆ เขายังไม่รู้จักผ้าชนิดนี้กัน เพราะฉะนั้น…”

 

“นั่นสิ ใช่แล้วทำไมก่อนหน้านี้ข้าถึงคิดไม่ได้กันนะ”

 

ดูเหมือนท่านพ่อจะตระหนักได้จากคำใบ้ที่เธอให้ ถึงได้พึมพำตกอยู่ในภวังค์ความคิด

 

หากเป็นไปตามบนสนทนาที่ท่านพ่อกับท่านปู่พูดคุยกัน หมายความว่าปริมาณการผลิตเตรียมพร้อมมากพอที่จะวางจำหน่ายได้แล้ว

 

อีกอย่างเป็นเพราะโรงงานทอผ้าเองก็ต้องทอผ้าผลิตออกมาเพิ่มเรื่อยๆ ทำให้มันจะกลายเป็นสต๊อกสินค้าที่ได้แต่วางกองสะสมเพิ่มพูนขึ้นมาเท่านั้นเอง เทียบกับการต้องจ่ายค่าจัดการดูแลโกดังเก็บสินค้าแล้ว สู้เอาผ้าที่ผลิตทิ้งไว้แล้วมาใช้ในการโฆษณายังจะได้ประโยชน์มากกว่า

 

“คุณภาพของผ้าดีมาก ถ้าหากผู้คนได้ลองใช้มันก่อนละก็…”

 

“นั่นเป็นวิธีที่ใช้ได้เหมือนกันนะ หากใช้ผ้าพวกนี้ทำสินค้าตัวอย่างส่งไปให้เป็นของขวัญพวกชนชั้นสูงที่เป็นเป้าหมายทางการค้าล่ะ”

 

ว่าแล้วเชียว นี่ละท่านปู่

 

ชนชั้นสูงของอาณาจักรแลมบลู ปกติแล้วจะแวะเวียนมาที่ห้องเสื้อ เพื่อเลือกสรรดีไซน์กับผ้าตามความต้องการเฉพาะส่วนบุคคล แล้วค่อยให้ทางร้านตัดเย็บขึ้นมาให้

 

ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่ทุกสิ่งที่ใช้ผ้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องนอนหรือผ้าม่านเองก็เช่นเดียวกัน

 

ดังนั้นไม่ใช่แค่การเสนอเนื้อผ้าให้พวกเขาได้ดูกันก่อนเฉยๆ แต่จำเป็นต้องใช้ผ้าผลิตสินค้าตัวอย่างขึ้นมา เพื่อกระตุ้นความอยากซื้อของพวกเขาให้เพิ่มมากขึ้นให้ได้

 

“แต่กว่าจะเริ่มขายก็เหลือเวลาไม่มากแล้วนะครับ หากจะผลิตให้เข้ากับเวลาที่เหลือ ก็จะต้องใช้เป็นสินค้าที่เรียบง่าย…”

 

ตอนนี้แหละ

 

เธอหยิบผ้าส่วนที่ไม่เปียกน้ำที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมา ส่งมันให้ท่านพ่อพลางเอ่ยพูด

 

“ของข้าช่วยทำผ้าเช็ดหน้าให้หน่อยนะคะ!”

 

“ผ้าเช็ดหน้า?”

 

“มันนุ่มมากเลยน่าจะดีค่ะ! ตัดเป็นผืนเล็กๆ ปักลายดอกไม้เล็กๆ บนมุมตรงนี้คงจะสวยน่าดูเลยค่ะ! จะเอาไปอวดคิลลีวูกับเมโลนด้วย! ”

 

“ท่านพ่อ!”

 

ท่านพ่อฟังคำพูดของเธอแล้วก็หันไปมองท่านปู่ด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย

 

ท่านปู่ที่กำลังลูบเคราเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

 

“ผ้าเช็ดหน้าอย่างนั้นหรือ น่าจะเป็นสินค้าตัวอย่างให้ทดลองใช้ที่ดีทีเดียว”

 

“วิธีการเช่นนี้ทำไมก่อนหน้านี้ข้าถึงคิดไม่ได้นะครับ! ทั้งๆ ที่เคยเห็นหัวหน้ากลุ่มการค้าดิวรักตัดผ้าไปเพราะจำเป็นต้องเอาไปใช้เช็ดเหงื่อ ทั้งยังบอกว่ามันดีมากจนพกไปไหนมาไหนอยู่ตลอดแท้ๆ! ”

 

ท่านพ่อยิ้มอ่อนด้วยความท้อแท้ใจพลางเอ่ยพูด

 

“ไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนการผลิตพิเศษด้วยครับ แค่ตัดเย็บขนาดให้เหมาะสม แล้วรีดมันให้เรียบก็พอแล้ว อ๊ะ! เพิ่มการตกแต่งแบบเรียบง่ายเข้าไปหน่อยก็น่าจะดีนะครับ! ”

 

ไม่มีอะไรให้เธอต้องช่วยเหลือเพิ่ม

 

ท่านพ่อเริ่มร่ายไอเดียที่นึกได้ออกมาไม่หยุด ไม่ใช่แค่ผ้าเช็ดหน้าเท่านั้น

 

รายชื่อสินค้าตัวอย่างที่สามารถให้คนงานตัดเย็บขึ้นมาได้ในทันทีหลั่งไหลออกมาจากปากของท่านพ่ออย่างไม่ขาดสาย

 

“มะ…ไม่ใช่เวลามามัวอยู่เฉยๆ แบบนี้แล้วละครับ! ท่านพ่อ คือว่าเทีย..”

 

“ไม่ต้องห่วงเทียหรอก ไปเถอะ”

 

เดิมทีวันนี้ท่านพ่อแค่แวะมารายงานท่านปู่ครู่หนึ่ง แล้วจะไปทานมื้อเย็นด้วยกันกับเธอเพราะนานๆ ทีจะได้เลิกงานเร็วแบบนี้กับเขาบ้าง

 

ท่านพ่อเก็บผ้าทอที่พกมาด้วยอย่างเร่งรีบ เอ่ยพูดกับเธอ

 

“เทีย ขอโทษนะ พ่อคงจะต้องกลับไปทำงานแล้วละ มื้อเย็นของพวกเราคงจะต้องเลื่อนไปครั้งหน้า ทำไงดีล่ะ”

 

“ไม่เป็นไรค่ะ! เดินทางปลอดภัยนะคะ พ่อ!”

 

เธอยิ้มสดใส โบกมือลา

 

หลังจากเหลียวหลังกลับมามองอยู่หลายรอบด้วยความรู้สึกผิด สุดท้ายท่านพ่อก็วิ่งออกไปจากห้องทำงาน

 

มือข้างหนึ่งจับไหล่ของเธอที่มองภาพนั้นอยู่ด้วยความพึงพอใจ

 

“วันนี้อยู่ทานมื้อเย็นกับปู่คนนี้แทนดีมั้ย”

 

โอ๊ะ! ได้ผลลัพธ์ดีผิดคาด

 

เธอรีบพยักหน้าตอบ

 

“ค่ะ ท่านปู่! ข้าอยากทานเนื้อค่ะ!”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+