เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 33.2

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 33.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

จู่ๆ รูลลักก็ระเบิดหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง

 

แต่แล้วในตอนที่ทุกคนต่างก็ลอบถอนหายใจ คิดว่าคงจะแค่ล้อกันเล่นนี่เอง

 

“ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ฟีเรนเทียหลานสาวของข้าเป็นคนผลิตมันขึ้นมาจริงๆ เป็นผลงานที่ร่วมมือกันกับนักศึกษานามว่าเอสทีร่า ซึ่งถือใบแนะนำของข้าไปเข้าร่วมอะคาเดมีในฐานะนักวิจัยยังไงล่ะ”

 

“ฮ่าฮ่า ร่วมมือ!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! เป็นผลงานที่ร่วมมือกันนี่เองครับ!”

 

ตอนนั้นเองทุกคนถึงได้ระเบิดหัวเราะเสียงดัง

 

ใช่ มันต้องแบบนั้นสิ

 

ก็คิดอยู่ว่ามันเรื่องอะไรกันแน่ที่บอกว่าเด็กตัวเล็กๆ เป็นคนทำขึ้นมา แต่นี่มันเป็นผลงานที่ร่วมมือกันกับบัณฑิตมากความสามารถไม่ใช่หรือ

 

ก็คงจะช่วยแค่เรื่องอย่างเลือกสีริบบิ้นนี่เท่านั้นแหละนะ

 

นั่นคือความคิดของเหล่าลูกน้องทั้งหลาย

 

“มันเป็นสินค้าที่จะวางจำหน่ายอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไปหากถึงเวลาคงจะขายดิบขายดีจนหาซื้อไม่ได้ ต้องขอบใจแล้วละ”

 

“ท่านเจ้าตระกูลดูจะภูมิใจในตัวหลานสาวมากเลยนะครับ! ”

 

ผู้นำตระกูลเฮลิ่งหัวเราะตอบรับ

 

“ไม่รู้หรอกว่าพวกเจ้าจะเชื่อที่ข้าพูดแค่ไหน แต่พวกเจ้าต้องได้เห็นภาพหลานสาวข้าถือยาขี้ผึ้งนี่มาต่อรองอย่างหนักแน่นกับข้า! ”

 

“ต่อรองหรือครับ กับท่านเจ้าตระกูลเนี่ยนะครับ”

 

เหล่าลูกน้องใต้บังคับบัญชาต่างก็ตื่นตกใจ

 

เพราะกว่าที่พวกเขาจะสามารถนั่งหัวเราะพูดคุยกันแบบนี้กับรูลลักได้ ยังต้องใช้เวลานานมากเหลือเกิน

 

เด็กทั่วไปแค่ถูกรูลลักอุ้มก็ร้องไห้เสียงดังแล้วด้วยซ้ำ

 

แต่กลับต่อรองกับเจ้าตระกูลคนนั้นเนี่ยนะ แถมคนคนนั้นยังเป็นเพียงแค่เด็กตัวเล็กๆ อีก

 

“ฟีเรนเทียไม่หวาดกลัวข้า นางเป็นเด็กที่มั่นใจในตัวเองมากทีเดียว”

 

“โอ้เรื่องนั้นช่างน่าตกใจจริงๆ ครับ”

 

บรรยากาศดูเหมือนทุกคนจะไม่เชื่อว่าฟีเรนเทียเป็นคนผลิตยาขี้ผึ้งขึ้นมาจริงๆ

 

แต่คำพูดที่ว่าเป็นเด็กมั่นใจในตัวเอง ไม่กลัวเจ้าตระกูลนั้น พวกเขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

 

“จะว่าไป ไม่นึกเลยนะครับว่าท่านเจ้าตระกูลจะเป็นคนชอบอวดหลานสาวขนาดนี้”

 

ผู้นำตระกูลแวร์ซึ่งสนิทสนมกับรูลลัก และอายุมากที่สุดในที่แห่งนี้หัวเราะเสียงดังฮ่าฮ่า พลางเอ่ยพูด

 

“เพราะเด็กคนนั้นเป็นคนที่ฉลาดมากยังไงล่ะ”

 

ภาพลักษณ์ของตัวเขาเองในตอนนี้อาจจะดูโง่เขลามากพอตัว แต่รูลลักก็ยังเอาแต่หัวเราะร่าไม่คิดใส่ใจ

 

นึกว่ามีเรื่องใหญ่อะไรถึงได้รีบร้อนวิ่งมาเพราะถูกเรียกตัวตั้งแต่เช้าแต่พวกเขากลับต้องมานั่งฟังเจ้าตระกูลเยินยอโอ้อวดหลานสาว ถึงจะได้ยาขี้ผึ้งติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของแถมก็เถอะ

 

ทว่าท่ามกลางบรรยากาศบทสนทนาพูดคุยต่างๆ นานา เครย์ลีบันกลับเอาแต่นิ่งเงียบ

 

นัยน์ตาเย็นชาเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังไม่อาจรู้ได้ว่าข้างในคิดอะไรอยู่คู่นั้น กำลังก้มมองกระปุกที่วางอยู่ตรงหน้าและใช้ปลายนิ้วลูบไล้ริบบิ้นสีแดง

 

มันเป็นสีเดียวกันกับสีโบผูกผมที่ฟีเรนเทียใช้บ่อยที่สุด

 

“เครย์ลีบัน ทำไมหรือ”

 

โรมาเชียซึ่งเฝ้ามองดูภาพนั้นอยู่ข้างๆ เอ่ยถามบุตรชายด้วยความสงสัย

 

“บางทีอาจจะเป็นความคิดเดียวกันกับที่ท่านพ่อและทุกๆ ท่านกำลังคิดอยู่ก็ได้ครับ”

 

นัยน์ตาของเครย์ลีบันจับจ้องไปยังเหล่าลูกน้องใต้บังคับบัญชาของลอมบาร์เดียที่กำลังหัวเราะพูดคุยกันด้วยท่าทีสบายๆ

 

แต่ระหว่างนั้น สายตาของพวกเขากลับหยุดอยู่ที่กระปุกยาเป็นระยะ

 

“ทุกคนก็คงจะกำลังคาดเดาสาเหตุที่ท่านเจ้าตระกูลเรียกตัวทุกคนมารวมกัน และเอายาขี้ผึ้งนี่ให้ดูใช่มั้ยล่ะครับ”

 

ในเมืองลอมบาร์เดียแห่งนี้ งานของลูกน้องใต้บังคับบัญชาก็คือ การอ่านจุดประสงค์ในใจของเจ้าตระกูลให้ออก และดำเนินการตามที่ท่านต้องการ

 

ถึงแม้พวกเขากำลังพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น

 

“ท่านพ่อเองก็กำลังคิดแบบเดียวกันอยู่ไม่ใช่หรือครับ ว่าจะต้องวางขายยาขี้ผึ้งตัวนี้ในกลุ่มการค้าของลอมบาร์เดียที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง”

 

โรมาเซียยักไหล่ไม่ยี่หระ พยักหน้ายอมรับเมื่อถูกล่วงรู้ความในใจ

 

“และอีกเรื่องหนึ่ง…”

 

เครย์ลีบันเหลือบมองริบบิ้นสีแดงอีกครั้ง

 

จะเรียกว่าสัญชาตญาณหรือลางสังหรณ์อะไรก็ดีทั้งสิ้น สิ่งนั้นกำลังส่งเสียงร้องบอกเครย์ลีบันว่าให้จับตามองเจ้าของริบบิ้นสีแดงนี่ให้ดี

 

เครย์ลีบันถือกระปุกเล็กทรงกลมเอาไว้ในมือด้วยความหวงแหน

 

 

คลาสเรียนเลิกแล้ว

 

“ฟีเรนเทียเหมาะกับสีแดงมากจริงๆ นะ”

 

ลาลาเน่ช่วยผูกโบผูกผมสีแดงบนผมเธอพลางเอ่ยพูด

 

“ลาลาเน่เองก็เหมาะกับสีขาวเหมือนกัน”

 

ไม่ได้พูดออกไปเฉยๆ โดยไม่คิดอะไร

 

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผิวขาวเนียนของลาลาเน่หรือนัยน์ตาสีฟ้าที่สืบทอดต่อกันมาทางฝั่งตระกูลอังเกนัส ลาลาเน่เป็นผู้หญิงที่เหมาะกับสีขาวมากจริงๆ

 

“…ขอบใจนะ”

 

ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายชมเธอก่อนแท้ๆ แต่พอได้รับคำชมกลับไปบ้าง กลับเขินอายเสียได้

 

ลาลาเน่เป็นคนใสซื่อบริสุทธิ์ อ่อนโยน และนิสัยดีมากจนสงสัยว่าเกิดจากท้องเดียวกันกับเบเลซักจริงหรือเปล่า

 

อีกฝ่ายเป็นดั่งดอกไม้งามล้ำค่ำเกินว่าจะปล่อยให้ร่วงโรยไปเพราะต้องจากไปอยู่ห่างไกลตามลำพังและไม่อาจได้รับความรัก

 

ฟีเรนเทียคิดแบบนั้นในขณะที่เอ่ยพูดกับลาลาเน่

 

“ชอบตุ๊กตาใช่มั้ย ก่อนหน้านี้มีได้มาเป็นของขวัญวันเกิดข้าน่ะ แต่ข้าไม่ชอบตุ๊กตา ลาลาเน่เอาไปมั้ยล่ะ”

 

“จริงเหรอ ว้าว ดีจัง!”

 

ลาลาเน่ฉีกยิ้มมีความสุขราวกับเธอได้รับทองคำแท่งจากใคร

 

“ข้าล่ะ ข้าล่ะ!”

 

“ให้ของขวัญข้าบ้างสิ เทีย! ”

 

สองแฝดช่วยจัดเรียงหนังสือกับเบาะรองนั่งที่เธอตั้งใจจะเป็นคนจัดเก็บเองแทนเธอ ในขณะที่ส่งเสียงร้องงอแง

 

“รู้แล้วๆ”

 

เหตุผลที่เธอมัวแต่มานั่งพูดคุยไร้สาระกับพวกเด็กๆ แบบนี้ในตอนนี้ มีเพียงสาเหตุเดียวเท่านั้น

 

“หาว”

 

ฟีเรนเทียแสร้งหาววอดพลางเหลือบตาแอบมองเล็กน้อย

 

ยังมองอยู่อีกแฮะ ยังมองอยู่อีก

 

เครย์ลีบันกำลังมองเธอด้วยนัยน์ตาราวกับมีแสงเลเซอร์พุ่งออกมา

 

ก่อนเริ่มคลาสเรียนก็ทำแบบนั้น ตลอดคลาสเองพอมีจังหวะทีไรก็ถามคำถามเธออยู่เรื่อยและหลังคลาสเรียนจบลง ก็เอาแต่จ้องกันแบบนั้นอย่างเปิดเผย

 

แถมยังเอาแต่มองมาจนเธอจะบ้าตายอยู่แล้ว

 

แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฟีเรนเทียก็ไม่อาจพูดออกไปว่า ‘ตาคงจะปวดแย่แล้วช่วยหันมองไปทางอื่นบ้างเถอะ!’ ได้อยู่ดี

 

ตอนนี้เธอเป็นแค่เด็กใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ เป็นแค่เด็กใสซื่อบริสุทธิ์คนหนึ่ง

 

แต่แล้วก็มีใครบางคนสะกิดไหล่ของเธอที่กำลังร่ายมนตร์ใส่ตัวเองอยู่แบบนั้น

 

“อ๊าก ตกใจหมด!”

 

“ทำไมถึงได้ตกใจขนาดนั้นล่ะครับ”

 

เป็นเครย์ลีบันนั่นเอง

 

“เรื่องนั้น ก็จนถึงเมื่อครู่นี้ยังอยู่ตรงนั้นอยู่เลยนี่…ทะ…ทำไมเหรอคะ อาจารย์”

 

เธอฉีกยิ้มแหยดูน่าเกลียดที่สุดพลางเอ่ยถาม

 

“ไปด้วยกันกับข้าหน่อยสิครับ”

 

“คะ?”

 

ลาลาเน่ที่อยู่ข้างๆ กับสองแฝดต่างก็เอียงคอมองด้วยความงุนงง

 

เธอไม่ได้ฟังผิดไปเอง

 

“ข้าบอกว่าให้ไปด้วยกันกับข้าหน่อยครับ ท่านฟีเรนเทีย”

 

นี่เธอทำอะไรผิดอย่างนั้นเหรอ

 

Related

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 33.2

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 33.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

จู่ๆ รูลลักก็ระเบิดหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง

 

แต่แล้วในตอนที่ทุกคนต่างก็ลอบถอนหายใจ คิดว่าคงจะแค่ล้อกันเล่นนี่เอง

 

“ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ฟีเรนเทียหลานสาวของข้าเป็นคนผลิตมันขึ้นมาจริงๆ เป็นผลงานที่ร่วมมือกันกับนักศึกษานามว่าเอสทีร่า ซึ่งถือใบแนะนำของข้าไปเข้าร่วมอะคาเดมีในฐานะนักวิจัยยังไงล่ะ”

 

“ฮ่าฮ่า ร่วมมือ!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! เป็นผลงานที่ร่วมมือกันนี่เองครับ!”

 

ตอนนั้นเองทุกคนถึงได้ระเบิดหัวเราะเสียงดัง

 

ใช่ มันต้องแบบนั้นสิ

 

ก็คิดอยู่ว่ามันเรื่องอะไรกันแน่ที่บอกว่าเด็กตัวเล็กๆ เป็นคนทำขึ้นมา แต่นี่มันเป็นผลงานที่ร่วมมือกันกับบัณฑิตมากความสามารถไม่ใช่หรือ

 

ก็คงจะช่วยแค่เรื่องอย่างเลือกสีริบบิ้นนี่เท่านั้นแหละนะ

 

นั่นคือความคิดของเหล่าลูกน้องทั้งหลาย

 

“มันเป็นสินค้าที่จะวางจำหน่ายอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไปหากถึงเวลาคงจะขายดิบขายดีจนหาซื้อไม่ได้ ต้องขอบใจแล้วละ”

 

“ท่านเจ้าตระกูลดูจะภูมิใจในตัวหลานสาวมากเลยนะครับ! ”

 

ผู้นำตระกูลเฮลิ่งหัวเราะตอบรับ

 

“ไม่รู้หรอกว่าพวกเจ้าจะเชื่อที่ข้าพูดแค่ไหน แต่พวกเจ้าต้องได้เห็นภาพหลานสาวข้าถือยาขี้ผึ้งนี่มาต่อรองอย่างหนักแน่นกับข้า! ”

 

“ต่อรองหรือครับ กับท่านเจ้าตระกูลเนี่ยนะครับ”

 

เหล่าลูกน้องใต้บังคับบัญชาต่างก็ตื่นตกใจ

 

เพราะกว่าที่พวกเขาจะสามารถนั่งหัวเราะพูดคุยกันแบบนี้กับรูลลักได้ ยังต้องใช้เวลานานมากเหลือเกิน

 

เด็กทั่วไปแค่ถูกรูลลักอุ้มก็ร้องไห้เสียงดังแล้วด้วยซ้ำ

 

แต่กลับต่อรองกับเจ้าตระกูลคนนั้นเนี่ยนะ แถมคนคนนั้นยังเป็นเพียงแค่เด็กตัวเล็กๆ อีก

 

“ฟีเรนเทียไม่หวาดกลัวข้า นางเป็นเด็กที่มั่นใจในตัวเองมากทีเดียว”

 

“โอ้เรื่องนั้นช่างน่าตกใจจริงๆ ครับ”

 

บรรยากาศดูเหมือนทุกคนจะไม่เชื่อว่าฟีเรนเทียเป็นคนผลิตยาขี้ผึ้งขึ้นมาจริงๆ

 

แต่คำพูดที่ว่าเป็นเด็กมั่นใจในตัวเอง ไม่กลัวเจ้าตระกูลนั้น พวกเขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

 

“จะว่าไป ไม่นึกเลยนะครับว่าท่านเจ้าตระกูลจะเป็นคนชอบอวดหลานสาวขนาดนี้”

 

ผู้นำตระกูลแวร์ซึ่งสนิทสนมกับรูลลัก และอายุมากที่สุดในที่แห่งนี้หัวเราะเสียงดังฮ่าฮ่า พลางเอ่ยพูด

 

“เพราะเด็กคนนั้นเป็นคนที่ฉลาดมากยังไงล่ะ”

 

ภาพลักษณ์ของตัวเขาเองในตอนนี้อาจจะดูโง่เขลามากพอตัว แต่รูลลักก็ยังเอาแต่หัวเราะร่าไม่คิดใส่ใจ

 

นึกว่ามีเรื่องใหญ่อะไรถึงได้รีบร้อนวิ่งมาเพราะถูกเรียกตัวตั้งแต่เช้าแต่พวกเขากลับต้องมานั่งฟังเจ้าตระกูลเยินยอโอ้อวดหลานสาว ถึงจะได้ยาขี้ผึ้งติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของแถมก็เถอะ

 

ทว่าท่ามกลางบรรยากาศบทสนทนาพูดคุยต่างๆ นานา เครย์ลีบันกลับเอาแต่นิ่งเงียบ

 

นัยน์ตาเย็นชาเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังไม่อาจรู้ได้ว่าข้างในคิดอะไรอยู่คู่นั้น กำลังก้มมองกระปุกที่วางอยู่ตรงหน้าและใช้ปลายนิ้วลูบไล้ริบบิ้นสีแดง

 

มันเป็นสีเดียวกันกับสีโบผูกผมที่ฟีเรนเทียใช้บ่อยที่สุด

 

“เครย์ลีบัน ทำไมหรือ”

 

โรมาเชียซึ่งเฝ้ามองดูภาพนั้นอยู่ข้างๆ เอ่ยถามบุตรชายด้วยความสงสัย

 

“บางทีอาจจะเป็นความคิดเดียวกันกับที่ท่านพ่อและทุกๆ ท่านกำลังคิดอยู่ก็ได้ครับ”

 

นัยน์ตาของเครย์ลีบันจับจ้องไปยังเหล่าลูกน้องใต้บังคับบัญชาของลอมบาร์เดียที่กำลังหัวเราะพูดคุยกันด้วยท่าทีสบายๆ

 

แต่ระหว่างนั้น สายตาของพวกเขากลับหยุดอยู่ที่กระปุกยาเป็นระยะ

 

“ทุกคนก็คงจะกำลังคาดเดาสาเหตุที่ท่านเจ้าตระกูลเรียกตัวทุกคนมารวมกัน และเอายาขี้ผึ้งนี่ให้ดูใช่มั้ยล่ะครับ”

 

ในเมืองลอมบาร์เดียแห่งนี้ งานของลูกน้องใต้บังคับบัญชาก็คือ การอ่านจุดประสงค์ในใจของเจ้าตระกูลให้ออก และดำเนินการตามที่ท่านต้องการ

 

ถึงแม้พวกเขากำลังพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น

 

“ท่านพ่อเองก็กำลังคิดแบบเดียวกันอยู่ไม่ใช่หรือครับ ว่าจะต้องวางขายยาขี้ผึ้งตัวนี้ในกลุ่มการค้าของลอมบาร์เดียที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง”

 

โรมาเซียยักไหล่ไม่ยี่หระ พยักหน้ายอมรับเมื่อถูกล่วงรู้ความในใจ

 

“และอีกเรื่องหนึ่ง…”

 

เครย์ลีบันเหลือบมองริบบิ้นสีแดงอีกครั้ง

 

จะเรียกว่าสัญชาตญาณหรือลางสังหรณ์อะไรก็ดีทั้งสิ้น สิ่งนั้นกำลังส่งเสียงร้องบอกเครย์ลีบันว่าให้จับตามองเจ้าของริบบิ้นสีแดงนี่ให้ดี

 

เครย์ลีบันถือกระปุกเล็กทรงกลมเอาไว้ในมือด้วยความหวงแหน

 

 

คลาสเรียนเลิกแล้ว

 

“ฟีเรนเทียเหมาะกับสีแดงมากจริงๆ นะ”

 

ลาลาเน่ช่วยผูกโบผูกผมสีแดงบนผมเธอพลางเอ่ยพูด

 

“ลาลาเน่เองก็เหมาะกับสีขาวเหมือนกัน”

 

ไม่ได้พูดออกไปเฉยๆ โดยไม่คิดอะไร

 

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผิวขาวเนียนของลาลาเน่หรือนัยน์ตาสีฟ้าที่สืบทอดต่อกันมาทางฝั่งตระกูลอังเกนัส ลาลาเน่เป็นผู้หญิงที่เหมาะกับสีขาวมากจริงๆ

 

“…ขอบใจนะ”

 

ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายชมเธอก่อนแท้ๆ แต่พอได้รับคำชมกลับไปบ้าง กลับเขินอายเสียได้

 

ลาลาเน่เป็นคนใสซื่อบริสุทธิ์ อ่อนโยน และนิสัยดีมากจนสงสัยว่าเกิดจากท้องเดียวกันกับเบเลซักจริงหรือเปล่า

 

อีกฝ่ายเป็นดั่งดอกไม้งามล้ำค่ำเกินว่าจะปล่อยให้ร่วงโรยไปเพราะต้องจากไปอยู่ห่างไกลตามลำพังและไม่อาจได้รับความรัก

 

ฟีเรนเทียคิดแบบนั้นในขณะที่เอ่ยพูดกับลาลาเน่

 

“ชอบตุ๊กตาใช่มั้ย ก่อนหน้านี้มีได้มาเป็นของขวัญวันเกิดข้าน่ะ แต่ข้าไม่ชอบตุ๊กตา ลาลาเน่เอาไปมั้ยล่ะ”

 

“จริงเหรอ ว้าว ดีจัง!”

 

ลาลาเน่ฉีกยิ้มมีความสุขราวกับเธอได้รับทองคำแท่งจากใคร

 

“ข้าล่ะ ข้าล่ะ!”

 

“ให้ของขวัญข้าบ้างสิ เทีย! ”

 

สองแฝดช่วยจัดเรียงหนังสือกับเบาะรองนั่งที่เธอตั้งใจจะเป็นคนจัดเก็บเองแทนเธอ ในขณะที่ส่งเสียงร้องงอแง

 

“รู้แล้วๆ”

 

เหตุผลที่เธอมัวแต่มานั่งพูดคุยไร้สาระกับพวกเด็กๆ แบบนี้ในตอนนี้ มีเพียงสาเหตุเดียวเท่านั้น

 

“หาว”

 

ฟีเรนเทียแสร้งหาววอดพลางเหลือบตาแอบมองเล็กน้อย

 

ยังมองอยู่อีกแฮะ ยังมองอยู่อีก

 

เครย์ลีบันกำลังมองเธอด้วยนัยน์ตาราวกับมีแสงเลเซอร์พุ่งออกมา

 

ก่อนเริ่มคลาสเรียนก็ทำแบบนั้น ตลอดคลาสเองพอมีจังหวะทีไรก็ถามคำถามเธออยู่เรื่อยและหลังคลาสเรียนจบลง ก็เอาแต่จ้องกันแบบนั้นอย่างเปิดเผย

 

แถมยังเอาแต่มองมาจนเธอจะบ้าตายอยู่แล้ว

 

แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฟีเรนเทียก็ไม่อาจพูดออกไปว่า ‘ตาคงจะปวดแย่แล้วช่วยหันมองไปทางอื่นบ้างเถอะ!’ ได้อยู่ดี

 

ตอนนี้เธอเป็นแค่เด็กใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ เป็นแค่เด็กใสซื่อบริสุทธิ์คนหนึ่ง

 

แต่แล้วก็มีใครบางคนสะกิดไหล่ของเธอที่กำลังร่ายมนตร์ใส่ตัวเองอยู่แบบนั้น

 

“อ๊าก ตกใจหมด!”

 

“ทำไมถึงได้ตกใจขนาดนั้นล่ะครับ”

 

เป็นเครย์ลีบันนั่นเอง

 

“เรื่องนั้น ก็จนถึงเมื่อครู่นี้ยังอยู่ตรงนั้นอยู่เลยนี่…ทะ…ทำไมเหรอคะ อาจารย์”

 

เธอฉีกยิ้มแหยดูน่าเกลียดที่สุดพลางเอ่ยถาม

 

“ไปด้วยกันกับข้าหน่อยสิครับ”

 

“คะ?”

 

ลาลาเน่ที่อยู่ข้างๆ กับสองแฝดต่างก็เอียงคอมองด้วยความงุนงง

 

เธอไม่ได้ฟังผิดไปเอง

 

“ข้าบอกว่าให้ไปด้วยกันกับข้าหน่อยครับ ท่านฟีเรนเทีย”

 

นี่เธอทำอะไรผิดอย่างนั้นเหรอ

 

Related

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+