เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 116 บทเพลงส่งคนตาย

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 116 บทเพลงส่งคนตาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 116 บทเพลงส่งคนตาย

 

เมืองฉางอัน

 

ภายในวังหลวง

 

องค์ชายเฉินที่คิดว่ากุมชัยชนะเอาไว้ได้แล้ว ในเวลานี้กลับทำหน้าราวกับเห็นภูตผี

 

เมื่อตอนที่อินจิ่วฝูยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้เอาชนะยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งของวังหลวงนับสิบคน เขาก็ไปปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหน้าองค์รัชทายาทหลี่เชิงที่อยู่บนกำแพง องค์ชายเฉินมององค์รัชทายาทหลี่เชิงราวกับร่างไร้วิญญาณไปแล้ว

 

อินจิ่วฝูเป็นยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุด หากเขาเข้าประชิดตัวได้ ต่อให้เป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งทั่วๆ ไป อย่างไรก็ต้องตายอย่างแน่นอน แล้วนับประสาอะไรกับคนธรรมดาเช่นองค์รัชทายาทหลี่เชิงที่ไม่ได้ฝึกวิทยายุทธเลยแบบนี้?

 

แต่เพียงครู่ต่อมา

 

อินจิ่วฝูที่แสนจะน่ากลัวพลันร่างระเบิดกระจายออกเป็นละอองโลหิตเสียอย่างนั้น

 

“นี่มัน…”

 

องค์ชายเฉินตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น เขาคิดว่าตนกำลังเห็นภาพหลอน

 

นี่คือปรมาจารย์ชั้นยอดระดับโลก แม้แต่จ้าวกงกงเอง หากต้องการจะเอาชนะอินจิ่วฝูก็ต้องใช้กลอุบายนับร้อย แต่ตอนนี้คนผู้นั้นกลับระเบิดออกเป็นละอองโลหิต นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อ

 

เมื่อเทียบกับความตกใจขององค์ชายเฉินแล้ว องค์รัชทายาทหลี่เชิงที่ใกล้ชิดกับอินจิ่วฝูมากที่สุดก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน

 

เกิดอะไรขึ้น?

 

ทำไมตัวเขาถึงยังไม่ตาย

 

องค์รัชทายาทหลี่เชิงที่หลับตารอความตายไปแล้ว แต่มิเพียงตนเองจะไม่ตาย กลับเป็นอินจิ่วฝูผู้ดุร้ายผู้นั้นที่ตายอย่างมิเหลือชิ้นดี

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

ราชาหวู่หยางรู้สึกขนลุกชัน เกิดคลื่นลมขนาดใหญ่ภายในใจของเขา

 

แม้เขาจะค่อนข้างดูหมิ่นอินจิ่วฝูที่ต้องคอยดื่มเลือดมนุษย์เป็นระยะๆ แต่อินจิ่วฝูก็เป็นยอดปรมาจารย์ขั้นจุดสูงสุดจริงๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเช่นนี้ ความรู้สึกในจิตใจของเขาตอนนี้คือความกลัวที่ไม่อาจจินตนาการได้

 

“เรื่องใหญ่แล้ว”

 

“ทุกคนถอย”

 

ราชาหวู่หยางเหลือบมองไปที่ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งทั้งแปดคนจากหนานหมิง ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจ

 

องค์จักรพรรดิหมิงเพียงขอให้เขาช่วยองค์ชายเฉินขึ้นครองบัลลังก์ ไม่ใช่ส่งเขามาตาย

 

การที่อินจิ่วฝูร่างระเบิดเช่นนั้น ทำให้เกิดเงาดำทาบทับมาที่หัวใจของราชาหวู่หยางอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

 

ถ้าเขายังไม่หยุด จะมิเป็นการตามรอยเท้าของอินจิ่วฝูไปอย่างนั้นหรือ?

 

ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งจากหนานหมิงเหลือบมองหน้ากันแล้วค่อยๆ ถอยตัวกลับไปอย่างช้าๆ

 

อย่างไรก็ตาม

 

ในตอนนั้นเอง

 

ติ๊ง!!!

 

เสียงอันเงียบเหงาและไร้ตัวตนของกู่ฉินก็ดังก้องท่ามกลางบรรยากาศที่สงบเงียบ ความรู้สึกแห่งการเกิดใหม่ การพลัดพรากจากจรซัดเข้ามา

 

อดีตที่ผ่านพ้น ราวกับหมอกควันที่ไม่นานก็จางหาย

 

การเกิดใหม่ ชีวิตหลังความตาย ก็แค่การเปลี่ยนผ่านผันไป

 

ปัง!

 

ปัง!

 

ปัง!

 

ปัง!

 

 

ด้วยเสียงของกู่ฉินที่แผ่ออกมา ยอดปรมาจารย์ทั้งแปดก็ร่างระเบิดกลายเป็นละอองเลือด

 

“ไม่ดีแล้ว!”

 

ราชาหวู่หยางตกใจ

 

“นี่มันเสียงกู่ฉิน!!!”

 

ราชาหวู่หยางตอบสนองต่อเสียงและมองไปรอบๆ ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

 

ในขณะนี้ราชาหวู่หยางตระหนักได้แล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นอินจิ่วฝูหรือยอดปรมาจารย์ทั้งแปดที่ร่างระเบิดอย่างกะทันหันอาจเป็นเพราะเสียงกู่ฉินที่ดังขึ้นมานั่น

 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ราชาหวู่หยางค้นพบสิ่งนี้แล้ว ก็กลายเป็นยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นไปอีก

 

หากเป็นการโจมตีจากคมดาบหรือหมัดมวย เขายังพอรู้ได้บ้างว่าจะต้านทานอย่างไร

 

แต่เสียงดนตรี…

 

ติ๊ง!

 

เสียงกู่ฉินดังกึกก้องขึ้นต่อเนื่อง ไร้ตัวตนและแสนโดดเดี่ยว

 

“พระเจ้าช่วย…”

 

ราชาหวู่หยางหยุดลงกะทันหันและหันไปมองภายในส่วนลึกของพระราชวัง

 

ในเวลาต่อมา

 

ปัง!!!

 

ร่างของราชาหวู่หยางก็ระเบิดออกเช่นกัน

 

ติ๊ง!!

 

เสียงกู่ฉินนั้นเงียบเหงา เป็นความเหงาที่แปรเปลี่ยนมาจากความเศร้า ทั้งสองความรู้สึกแผ่กระจายและแทรกซึมไปทั่วทั้งฉางอัน

 

ช่วงเวลานี้

 

ทุกผู้ทุกคนภายในเมืองฉางอัน ตั้งแต่ชายชราที่แก่จนแทบจะลงโลงไปจนถึงเด็กทารกต่างก็ได้ยินเสียงกู่ฉินอันแสนโดดเดี่ยวอ้างว้างนี้ภายในหูของตน

 

ที่ด้านบนกำแพงเมือง องค์รัชทายาทหลี่เชิงยังคงจมอยู่กับเสียงกู่ฉินเหมือนๆ กับเหล่ายอดปรมาจารย์ของราชวงศ์ถัง ซึ่งแตกต่างจากราชาหวู่หยางหรืออินจิ่วฝูที่สำหรับพวกเขาแล้วเสียงกู่ฉินนี้ช่างร้ายแรงและน่ากลัว แต่เมื่อมาถึงหูขององค์รัชทายาทหลี่เชิงและคนอื่นๆ มันกลับกลายเป็นว่าบทเพลงชีวิตหลังความตายบทนี้ช่างซาบซึ้งตรึงตราอยู่ในหัวใจ

 

จากนั้นไม่นาน

 

เสียงกู่ฉินก็ค่อยๆ คลายหายไป

 

“นี่คือ…….”

 

องค์รัชทายาทหลี่เชิงสงบใจลงได้ก็มองไปนอกเขตพระราชฐาน

 

ด้วยเสียงของกู่ฉินอันนั้นยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดทั้งสองอย่างราชาหวู่หยางและอินจิ่วฝู ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งทั้งแปดคน รวมถึงองค์ชายเฉิน ทั้งหมดล้วนร่างระเบิดไม่เหลือแม้แต่เศษกระดูก

 

“ตายหมดแล้ว…”

 

องค์รัชทายาทหลี่เชิงแลดูว่างเปล่า

 

“ฝ่าบาท”

 

“ฝ่าบาทท่านเป็นอะไรหรือไม่?”

 

เวลานั้นขุนนางกลุ่มหนึ่งก็รีบเข้ามาถามไถ่องค์รัชทายาทหลี่เชิง

 

ขันทีชุดแดงนับสิบและปรมาจารย์ในวังหลวงต่างก็เข้ามาหาเช่นกัน

 

“หลิวกงกง ท่านรู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?”

 

องค์รัชทายาทหลี่เชิงที่ใจเย็นลงมากแล้วก็มองไปทางขันทีชุดแดง

 

ขันทีชุดแดงผู้นี้ก็คือหลิวกงกงผู้ซึ่งคอยปกป้ององค์รัชทายาทหลี่เชิงในมุมมืดมาตลอดตั้งแต่ยังไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ เป็นบุคคลผู้น่าไว้วางใจ

 

“รายงานฝ่าบาท ผู้ชราก็มิรู้เช่นกัน…”

 

หลิวกงกงเงียบไปชั่วขณะก่อนจะกล่าวตอบด้วยความเคารพ

 

สิ่งที่เขากล่าวออกคือสิ่งที่อยู่ก้นบึ้งภายในใจจริงๆ ก่อนหน้านี้เขาก็จมอยู่กับเสียงของกู่ฉินเหมือนกัน เมื่อเสียงบรรเลงหายไป รู้ตัวอีกทีราชาหวู่หยางและคนอื่นๆ จากหนานหมิงก็ตายหมดแล้ว

 

“ฝ่าบาท”

 

“ข้าเดาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะเสียงของกู่ฉินเมื่อครู่นี้…”

 

ในขณะนั้นเองแม่ทัพประจำวังหลวงก็เอ่ยออกมา

 

คำพูดกล่าวออก

 

ปรมาจารย์ท่านอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย

 

พวกเขาเองก็มีข้อสงสัยเช่นกัน เสียงของกู่ฉินเมื่อครู่มันแปลกเกินไป

 

“เสียงกู่ฉิน…”

 

องค์รัชทายาทหลี่เชิงจมอยู่ภายในความคิด

 

 

 

ศาลบรรพชนภายในวังหลวง

 

ตัวของผู้ดูแลศาลบรรพชนก็ตั้งตรงขึ้นเตรียมพร้อมมาแต่แรก กลิ่นอายของยอดปรมาจารย์เต็มเปี่ยมอยู่ภายในกายของเขา

 

“เสียงกู่ฉิน….”

 

ผู้ดูแลศาลบรรพชนดูเคร่งเครียด

 

สายตาของเขาจับจ้องไปที่เขตพระราชฐานเขม็ง โดยอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นองค์ชายเฉินสมรู้ร่วมคิดกับอาณาจักรหนานหมิง ชักศึกเข้าบ้าน เมื่อนั้นเองเขาก็พร้อมที่จะลงมือแล้ว

 

แม้ว่าผู้ดูแลศาลบรรพชนจะเป็นยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุด แต่ผู้ที่เขาภักดีด้วยหาใช่องค์รัชทายาทไม่ แต่มันคือทั้งราชวงศ์ถัง

 

หากองค์ชายเฉินไม่สมรู้ร่วมคิดกับหนานหมิง แม้ว่าองค์รัชทายาทหลี่เชิงจะถูกสังหารและองค์ชายเฉินได้ขึ้นครองบัลลังก์จริงๆ สิ่งที่ผู้ดูแลศาลบรรพชนจะทำก็คือมองดูเฉยๆ เพียงเท่านั้น

 

เขาสนใจเพียงแค่ว่าคนที่ขึ้นครองราชย์ต้องมีชื่อสกุลว่าหลี่เท่านั้น ส่วนจะเป็นใครนั้นไม่สำคัญเลย

 

แต่เรื่องที่องค์ชายเฉินสมรู้ร่วมคิดกับต่างอาณาจักรนั้นต่างออกไป

 

เมื่อยามที่เขากำลังจะลงมือ เสียงกู่ฉินก็ดังขึ้น

 

จากนั้นยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดทั้งสองคน ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งอีกแปดคน รวมถึงคนอื่นๆ ก็สิ้นชีพลง

 

“สังหารยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดสองคนและยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งอีกแปดคนด้วยเสียงกู่ฉิน เกรงว่าคงเป็นวิชายุทธแขนงหนึ่ง…”

 

ผู้ดูแลศาลบรรพชนนิ่งเงียบครุ่นคิดอยู่ในใจ

 

บางทียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งทั้งหมดที่อยู่ภายในวังอาจจะไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น…

 

อย่างไรก็ตาม ในฐานะของยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาศาลบรรพชนย่อมเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นดี

 

“คนผู้นั้นคือใครกัน?”

 

ความคิดของผู้ดูแลศาลบรรพชนพลันแล่นเร็วจี๋

 

“หรืออาจจะเป็นคนที่เข้ามาในศาลบรรพชนเมื่อครั้งก่อน?”

 

ราวกับมีประกายไฟปรากฏขึ้นในความคิด ตอนนี้ผู้ดูแลศาลบรรพชนก็นึกบางอย่างออก

 

ในช่วงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ยามนั้นผู้ดูแลศาลบรรพชนเฝ้าอยู่ด้านนอก แต่เมื่อกลับเข้ามาก็พบว่ามีคนลอบเข้าไปภายในศาลบรรพชนเพื่อจุดไม้จันทน์โดยที่เขาไม่รู้ตัว

 

 

ในเวลาเดียวกัน

 

ภายในห้องโถงชีวิตนิรันดร์

ซูฉินที่ดูสงบล้ำลึกค่อยๆ เอามือออกจากกู่ฉินสีน้ำเงินอันนั้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 116 บทเพลงส่งคนตาย

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 116 บทเพลงส่งคนตาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 116 บทเพลงส่งคนตาย

 

เมืองฉางอัน

 

ภายในวังหลวง

 

องค์ชายเฉินที่คิดว่ากุมชัยชนะเอาไว้ได้แล้ว ในเวลานี้กลับทำหน้าราวกับเห็นภูตผี

 

เมื่อตอนที่อินจิ่วฝูยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้เอาชนะยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งของวังหลวงนับสิบคน เขาก็ไปปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหน้าองค์รัชทายาทหลี่เชิงที่อยู่บนกำแพง องค์ชายเฉินมององค์รัชทายาทหลี่เชิงราวกับร่างไร้วิญญาณไปแล้ว

 

อินจิ่วฝูเป็นยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุด หากเขาเข้าประชิดตัวได้ ต่อให้เป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งทั่วๆ ไป อย่างไรก็ต้องตายอย่างแน่นอน แล้วนับประสาอะไรกับคนธรรมดาเช่นองค์รัชทายาทหลี่เชิงที่ไม่ได้ฝึกวิทยายุทธเลยแบบนี้?

 

แต่เพียงครู่ต่อมา

 

อินจิ่วฝูที่แสนจะน่ากลัวพลันร่างระเบิดกระจายออกเป็นละอองโลหิตเสียอย่างนั้น

 

“นี่มัน…”

 

องค์ชายเฉินตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น เขาคิดว่าตนกำลังเห็นภาพหลอน

 

นี่คือปรมาจารย์ชั้นยอดระดับโลก แม้แต่จ้าวกงกงเอง หากต้องการจะเอาชนะอินจิ่วฝูก็ต้องใช้กลอุบายนับร้อย แต่ตอนนี้คนผู้นั้นกลับระเบิดออกเป็นละอองโลหิต นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อ

 

เมื่อเทียบกับความตกใจขององค์ชายเฉินแล้ว องค์รัชทายาทหลี่เชิงที่ใกล้ชิดกับอินจิ่วฝูมากที่สุดก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน

 

เกิดอะไรขึ้น?

 

ทำไมตัวเขาถึงยังไม่ตาย

 

องค์รัชทายาทหลี่เชิงที่หลับตารอความตายไปแล้ว แต่มิเพียงตนเองจะไม่ตาย กลับเป็นอินจิ่วฝูผู้ดุร้ายผู้นั้นที่ตายอย่างมิเหลือชิ้นดี

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

ราชาหวู่หยางรู้สึกขนลุกชัน เกิดคลื่นลมขนาดใหญ่ภายในใจของเขา

 

แม้เขาจะค่อนข้างดูหมิ่นอินจิ่วฝูที่ต้องคอยดื่มเลือดมนุษย์เป็นระยะๆ แต่อินจิ่วฝูก็เป็นยอดปรมาจารย์ขั้นจุดสูงสุดจริงๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเช่นนี้ ความรู้สึกในจิตใจของเขาตอนนี้คือความกลัวที่ไม่อาจจินตนาการได้

 

“เรื่องใหญ่แล้ว”

 

“ทุกคนถอย”

 

ราชาหวู่หยางเหลือบมองไปที่ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งทั้งแปดคนจากหนานหมิง ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจ

 

องค์จักรพรรดิหมิงเพียงขอให้เขาช่วยองค์ชายเฉินขึ้นครองบัลลังก์ ไม่ใช่ส่งเขามาตาย

 

การที่อินจิ่วฝูร่างระเบิดเช่นนั้น ทำให้เกิดเงาดำทาบทับมาที่หัวใจของราชาหวู่หยางอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

 

ถ้าเขายังไม่หยุด จะมิเป็นการตามรอยเท้าของอินจิ่วฝูไปอย่างนั้นหรือ?

 

ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งจากหนานหมิงเหลือบมองหน้ากันแล้วค่อยๆ ถอยตัวกลับไปอย่างช้าๆ

 

อย่างไรก็ตาม

 

ในตอนนั้นเอง

 

ติ๊ง!!!

 

เสียงอันเงียบเหงาและไร้ตัวตนของกู่ฉินก็ดังก้องท่ามกลางบรรยากาศที่สงบเงียบ ความรู้สึกแห่งการเกิดใหม่ การพลัดพรากจากจรซัดเข้ามา

 

อดีตที่ผ่านพ้น ราวกับหมอกควันที่ไม่นานก็จางหาย

 

การเกิดใหม่ ชีวิตหลังความตาย ก็แค่การเปลี่ยนผ่านผันไป

 

ปัง!

 

ปัง!

 

ปัง!

 

ปัง!

 

 

ด้วยเสียงของกู่ฉินที่แผ่ออกมา ยอดปรมาจารย์ทั้งแปดก็ร่างระเบิดกลายเป็นละอองเลือด

 

“ไม่ดีแล้ว!”

 

ราชาหวู่หยางตกใจ

 

“นี่มันเสียงกู่ฉิน!!!”

 

ราชาหวู่หยางตอบสนองต่อเสียงและมองไปรอบๆ ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

 

ในขณะนี้ราชาหวู่หยางตระหนักได้แล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นอินจิ่วฝูหรือยอดปรมาจารย์ทั้งแปดที่ร่างระเบิดอย่างกะทันหันอาจเป็นเพราะเสียงกู่ฉินที่ดังขึ้นมานั่น

 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ราชาหวู่หยางค้นพบสิ่งนี้แล้ว ก็กลายเป็นยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นไปอีก

 

หากเป็นการโจมตีจากคมดาบหรือหมัดมวย เขายังพอรู้ได้บ้างว่าจะต้านทานอย่างไร

 

แต่เสียงดนตรี…

 

ติ๊ง!

 

เสียงกู่ฉินดังกึกก้องขึ้นต่อเนื่อง ไร้ตัวตนและแสนโดดเดี่ยว

 

“พระเจ้าช่วย…”

 

ราชาหวู่หยางหยุดลงกะทันหันและหันไปมองภายในส่วนลึกของพระราชวัง

 

ในเวลาต่อมา

 

ปัง!!!

 

ร่างของราชาหวู่หยางก็ระเบิดออกเช่นกัน

 

ติ๊ง!!

 

เสียงกู่ฉินนั้นเงียบเหงา เป็นความเหงาที่แปรเปลี่ยนมาจากความเศร้า ทั้งสองความรู้สึกแผ่กระจายและแทรกซึมไปทั่วทั้งฉางอัน

 

ช่วงเวลานี้

 

ทุกผู้ทุกคนภายในเมืองฉางอัน ตั้งแต่ชายชราที่แก่จนแทบจะลงโลงไปจนถึงเด็กทารกต่างก็ได้ยินเสียงกู่ฉินอันแสนโดดเดี่ยวอ้างว้างนี้ภายในหูของตน

 

ที่ด้านบนกำแพงเมือง องค์รัชทายาทหลี่เชิงยังคงจมอยู่กับเสียงกู่ฉินเหมือนๆ กับเหล่ายอดปรมาจารย์ของราชวงศ์ถัง ซึ่งแตกต่างจากราชาหวู่หยางหรืออินจิ่วฝูที่สำหรับพวกเขาแล้วเสียงกู่ฉินนี้ช่างร้ายแรงและน่ากลัว แต่เมื่อมาถึงหูขององค์รัชทายาทหลี่เชิงและคนอื่นๆ มันกลับกลายเป็นว่าบทเพลงชีวิตหลังความตายบทนี้ช่างซาบซึ้งตรึงตราอยู่ในหัวใจ

 

จากนั้นไม่นาน

 

เสียงกู่ฉินก็ค่อยๆ คลายหายไป

 

“นี่คือ…….”

 

องค์รัชทายาทหลี่เชิงสงบใจลงได้ก็มองไปนอกเขตพระราชฐาน

 

ด้วยเสียงของกู่ฉินอันนั้นยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดทั้งสองอย่างราชาหวู่หยางและอินจิ่วฝู ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งทั้งแปดคน รวมถึงองค์ชายเฉิน ทั้งหมดล้วนร่างระเบิดไม่เหลือแม้แต่เศษกระดูก

 

“ตายหมดแล้ว…”

 

องค์รัชทายาทหลี่เชิงแลดูว่างเปล่า

 

“ฝ่าบาท”

 

“ฝ่าบาทท่านเป็นอะไรหรือไม่?”

 

เวลานั้นขุนนางกลุ่มหนึ่งก็รีบเข้ามาถามไถ่องค์รัชทายาทหลี่เชิง

 

ขันทีชุดแดงนับสิบและปรมาจารย์ในวังหลวงต่างก็เข้ามาหาเช่นกัน

 

“หลิวกงกง ท่านรู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?”

 

องค์รัชทายาทหลี่เชิงที่ใจเย็นลงมากแล้วก็มองไปทางขันทีชุดแดง

 

ขันทีชุดแดงผู้นี้ก็คือหลิวกงกงผู้ซึ่งคอยปกป้ององค์รัชทายาทหลี่เชิงในมุมมืดมาตลอดตั้งแต่ยังไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ เป็นบุคคลผู้น่าไว้วางใจ

 

“รายงานฝ่าบาท ผู้ชราก็มิรู้เช่นกัน…”

 

หลิวกงกงเงียบไปชั่วขณะก่อนจะกล่าวตอบด้วยความเคารพ

 

สิ่งที่เขากล่าวออกคือสิ่งที่อยู่ก้นบึ้งภายในใจจริงๆ ก่อนหน้านี้เขาก็จมอยู่กับเสียงของกู่ฉินเหมือนกัน เมื่อเสียงบรรเลงหายไป รู้ตัวอีกทีราชาหวู่หยางและคนอื่นๆ จากหนานหมิงก็ตายหมดแล้ว

 

“ฝ่าบาท”

 

“ข้าเดาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะเสียงของกู่ฉินเมื่อครู่นี้…”

 

ในขณะนั้นเองแม่ทัพประจำวังหลวงก็เอ่ยออกมา

 

คำพูดกล่าวออก

 

ปรมาจารย์ท่านอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย

 

พวกเขาเองก็มีข้อสงสัยเช่นกัน เสียงของกู่ฉินเมื่อครู่มันแปลกเกินไป

 

“เสียงกู่ฉิน…”

 

องค์รัชทายาทหลี่เชิงจมอยู่ภายในความคิด

 

 

 

ศาลบรรพชนภายในวังหลวง

 

ตัวของผู้ดูแลศาลบรรพชนก็ตั้งตรงขึ้นเตรียมพร้อมมาแต่แรก กลิ่นอายของยอดปรมาจารย์เต็มเปี่ยมอยู่ภายในกายของเขา

 

“เสียงกู่ฉิน….”

 

ผู้ดูแลศาลบรรพชนดูเคร่งเครียด

 

สายตาของเขาจับจ้องไปที่เขตพระราชฐานเขม็ง โดยอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นองค์ชายเฉินสมรู้ร่วมคิดกับอาณาจักรหนานหมิง ชักศึกเข้าบ้าน เมื่อนั้นเองเขาก็พร้อมที่จะลงมือแล้ว

 

แม้ว่าผู้ดูแลศาลบรรพชนจะเป็นยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุด แต่ผู้ที่เขาภักดีด้วยหาใช่องค์รัชทายาทไม่ แต่มันคือทั้งราชวงศ์ถัง

 

หากองค์ชายเฉินไม่สมรู้ร่วมคิดกับหนานหมิง แม้ว่าองค์รัชทายาทหลี่เชิงจะถูกสังหารและองค์ชายเฉินได้ขึ้นครองบัลลังก์จริงๆ สิ่งที่ผู้ดูแลศาลบรรพชนจะทำก็คือมองดูเฉยๆ เพียงเท่านั้น

 

เขาสนใจเพียงแค่ว่าคนที่ขึ้นครองราชย์ต้องมีชื่อสกุลว่าหลี่เท่านั้น ส่วนจะเป็นใครนั้นไม่สำคัญเลย

 

แต่เรื่องที่องค์ชายเฉินสมรู้ร่วมคิดกับต่างอาณาจักรนั้นต่างออกไป

 

เมื่อยามที่เขากำลังจะลงมือ เสียงกู่ฉินก็ดังขึ้น

 

จากนั้นยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดทั้งสองคน ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งอีกแปดคน รวมถึงคนอื่นๆ ก็สิ้นชีพลง

 

“สังหารยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดสองคนและยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งอีกแปดคนด้วยเสียงกู่ฉิน เกรงว่าคงเป็นวิชายุทธแขนงหนึ่ง…”

 

ผู้ดูแลศาลบรรพชนนิ่งเงียบครุ่นคิดอยู่ในใจ

 

บางทียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งทั้งหมดที่อยู่ภายในวังอาจจะไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น…

 

อย่างไรก็ตาม ในฐานะของยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาศาลบรรพชนย่อมเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นดี

 

“คนผู้นั้นคือใครกัน?”

 

ความคิดของผู้ดูแลศาลบรรพชนพลันแล่นเร็วจี๋

 

“หรืออาจจะเป็นคนที่เข้ามาในศาลบรรพชนเมื่อครั้งก่อน?”

 

ราวกับมีประกายไฟปรากฏขึ้นในความคิด ตอนนี้ผู้ดูแลศาลบรรพชนก็นึกบางอย่างออก

 

ในช่วงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ยามนั้นผู้ดูแลศาลบรรพชนเฝ้าอยู่ด้านนอก แต่เมื่อกลับเข้ามาก็พบว่ามีคนลอบเข้าไปภายในศาลบรรพชนเพื่อจุดไม้จันทน์โดยที่เขาไม่รู้ตัว

 

 

ในเวลาเดียวกัน

 

ภายในห้องโถงชีวิตนิรันดร์

ซูฉินที่ดูสงบล้ำลึกค่อยๆ เอามือออกจากกู่ฉินสีน้ำเงินอันนั้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+