เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 126 ทิพยอํานาจ! กายเนื้อกําเนิดใหม่!

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 126 ทิพยอํานาจ! กายเนื้อกําเนิดใหม่! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 126 ทิพยอํานาจ! กายเนื้อกําเนิดใหม่!

 

ในขณะที่แก่นแท้แห่งพลังหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของนาง ซูเยว่หยุนก็รู้สึกง่วงงุน และผล็อยหลับไปภายในไม่นาน

 

“หยุนเหนียงคงทรมานไม่น้อยเลย”

 

หลังจากที่จักรพรรดิถังหลี่เชิงเฝ้ามองซูฉินอยู่สักพัก เขาก็เบนความสนใจไปที่บุตรและบุตรีฝาแฝดที่อยู่ข้างๆ

 

ซูฉินเองก็ชําเลืองมองดูเช่นกัน

 

“เอ๋?”

 

ซูฉันรู้สึกประหลาดใจ

 

เด็กทั้งสองคนเป็นทารกแรกเกิด แต่เมื่อซูฉินมองไปก็พบว่าเด็กผู้ชายนั้นปกติดี แต่เด็กผู้หญิงนั้นมีร่างกายที่ปลอดโปร่งอย่างยิ่ง

 

“อัจฉริยะด้านการฝึกยุทธ?”

 

ซูฉินแตะปลายคาง ดวงตามีแววครุ่นคิด

 

โดยทั่วไปของคนปกติ เส้นลมปราณทั้งหมดจะถูกปิดกั้นตั้งแต่กําเนิด และมีเพียงการฝึกฝนวิทยายุทธต่อไปเรื่อยๆ ถึงจะค่อยๆ เปิดเส้นลมปราณเหล่านั้นได้

 

แน่นอนว่าจะมีบางคนที่เกิดมาโดยมีร่างกายที่ไม่ถูกปิดกั้นเส้นลมปราณเลย คนเหล่านี้เมื่อเดินในเส้นทาง การฝึกยุทธจะสามารถเติบโตก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็จะไปถึงขอบเขตสามระดับบนโดยไม่มีปัญหาใด

 

ซูฉินไม่คิดว่าบุตรีของซูเยว่หยุนจะเป็นอัจฉริยะด้านการฝึกยุทธเช่นนี้

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าซูฉินจะประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดแปลกแต่อย่างใด

 

ในระดับของซูฉินนั้น เขามีความสามารถเหนือกว่าเหล่าอัจฉริยะมาตั้งนานแล้ว แม้ว่าจะมีดวงใจพุทธะ เช่น เฉียนขู่ ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของซูฉิน

 

สําหรับผู้ฝึกยุทธ พรสวรรค์ที่เหนือกว่าก็แค่ช่วยให้ใช้เวลาน้อยกว่าในการฝึกฝนวิทยายุทธ แต่ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝน ไปจนถึงขีดสุดหรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงพลังจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะพึ่งพาเพียงแค่พรสวรรค์ได้

 

ซูฉินรอคอยอยู่พักหนึ่งและหลังจากแน่ใจแล้วว่าซูเยว่หยุนสบายดีเขาก็จะกลับไปยังตําหนักชุนฝั่งขวา

 

ส่วนองค์จักรพรรดิถังหลี่เชิง เขากําลังมองไปที่ทารกฝาแฝดด้วยหัวใจอันเปี่ยมไปด้วยความสุขล้น

 

ซูฉินเดินออกจากพระราชวังคุนหนึ่งไปอย่างช้าๆ และแวะหยุดพักเมื่อผ่านไปถึงจัตุรัสหยกขาว

 

“วันนี้ข้ายังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้เลยนี่นา…”

 

ซูฉินเหลือบมองไปที่จัตุรัสหยกขาว และพูดขึ้นภายในใจเงียบๆ “ระบบลงชื่อเข้าใช้”

 

[ขอแสดงความยินดี โฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สําเร็จ ได้รับทิพยอํานาจ ‘กายเนื้อกําเนิดใหม่’]

 

“ทิพยอํานาจ?”

 

จิตวิญญาณภายในของซูฉินถึงขั้นตกตะลึง

 

หลังจากลงชื่อเข้าใช้มามากกว่าสามสิบปี ซูฉินได้รับเคล็ดวิชามหัศจรรย์ โอสถ สมบัติฟ้าดินและสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย

 

แต่เคยได้รับทิพยอํานาจเพียงแค่ครั้งเดียว

 

นั่นคือดวงตาแห่งสัจจะที่ลงชื่อได้มาจากวิหารพระสหัสพุทธ

 

การที่ได้รับมาเพียงครั้งเดียวภายในเวลาสามสิบปี จะเห็นได้ว่าทิพยอํานาจนั้นหายากเพียงไร

 

แต่ตอนนี้ที่จัตุรัสหยกขาว ซูฉินได้รับทิพยอํานาจมาอีกครั้ง

 

“ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้ทิพยอํานาจมา!”

 

ดวงตาของซูฉินสว่างขึ้น ความคิดสับสนวกวน

 

“กายเนื้อกําเนิดใหม่?”

 

จิตใจของซูฉินกะพริบวูบไหวรับเอาพลังวิเศษอันนี้มา

 

กายเนื้อกําเนิดใหม่นั้นตรงตามชื่อ เป็นพลังที่เกี่ยวข้องกับกายเนื้อ

 

แม้ว่าร่างกายจะแหลกสลายแต่ตราบใดที่ส่วนสําคัญของร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บ พลังวิเศษนี้ก็จะสามารถใช้ในการฟื้นฟูร่างกายใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

 

สิ่งนี้หมายความว่าอะไร?

 

นี่คือร่างกึ่งอมตะ!

 

แม้ว่าอรหันต์หรือตํานานยุทธจะสามารถฟื้นฟูร่างกายได้เช่นกัน แต่การกระทําอย่างเช่น งอกแขนใหม่ งอกขาใหม่ สําหรับตํานานยุทธและอรหันต์ก็นับว่าเป็นการใช้พลังไปอย่างมหาศาล

 

อาจจะต้องใช้พลังที่สั่งสมมา อาจจะแค่ไม่กี่เดือนไปจนถึงหลักหลายปี หลักสิบปี

 

และสุดท้าย แม้แต่แก่นแท้แห่งพลังก็ต้องถูกนำออกมาใช้

 

แต่กายเนื้อกําเนิดใหม่นั้นต่างออกไป

 

ไม่เพียงแต่จะดีกว่าในด้านการฟื้นฟูร่างกายหรืองอกอวัยวะขึ้นมาใหม่ ในแง่ความเร็วจะยังรวดเร็วกว่าจนทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น

 

การที่ซูฉินมีทิพยอํานาจอันนี้ควบคู่ไปกับการมีร่างกายที่ทรงพลังจนน่ากลัวนั้น ความสามารถในการต่อสู้ของเข้าย่อมพุ่งสูงขึ้นไปอีกอย่างน้อยหนึ่งระดับ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

 

“ด้วยทิพยอํานาจอันนี้ ข้าก็มีไพ่ลับเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งใบ”

 

ซูฉินพอใจมากกับกายเนื้อกําเนิดใหม่ ไม่เพียงแต่จะช่วยเหลือในการพิชิตศัตรูเท่านั้น แต่ยังใช้ในการบ่มเพาะได้ด้วย

 

ก่อนที่จะได้ทิพยอํานาจกายเนื้อกําเนิดใหม่อันนี้มา ซูฉิน ฝึกฝนอย่างระมัดระวัง กลัวว่ามันจะเป็นการทําให้ร่างกาย บาดเจ็บจนเกิดเป็นบาดแผลแฝงเร้นไปแต่ตอนนี้ด้วยกายเนื้อกําเนิดใหม่ หากมีอาการบาดเจ็บใดเกิดขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ร่างกายจะถูกฟื้นฟูขึ้นมาใหม่

 

“ว่ากันว่านอกจากทิพยอํานาจอย่างกายเนื้อกําเนิดใหม่แล้ว ยังมีทิพยอํานาจหยดเลือดกําเนิดใหม่” อยู่อีกด้วย…”

 

ท่าทางของซูฉินดูหลงใหลไปกับมัน

 

หากการมีกายเนื้อกําเนิดใหม่เทียบเคียงได้กับเป็นกิ่งอมตะ ฉะนั้นหยดเลือดกําเนิดใหม่ก็แทบจะเป็นอมตะเลยทีเดียว

 

ตราบใดที่ยังคงมีเลือดอยู่ มันก็สามารถฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วราวกับเทพปีศาจผู้เป็นอมตะ

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

สามปีผ่านไปภายในพริบตา

 

ในช่วงสามปีที่ผ่านมาจักรพรรดิหลี่เชิงแห่งราชวงศ์ถังได้ครองราชบัลลังก์อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังนาราชวงศ์ถังไปสู่ความรุ่งโรจน์ผ่านการออกราชโองการอย่างต่อเนื่อง

 

“พี่สาม”

 

ในวันนี้จักรพรรดิถังอย่างหลี่เชิงก็มายืนรออยู่ที่ด้านนอกตําหนักชุนฝั่งขวา และโบกมือให้กับซูฉิน

 

ถัดมาจากจักรพรรดิหลี่เชิงก็เห็นเป็นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงอายุประมาณสามสี่ขวบ ดวงตาสีดํากลมโต ช่างดูน่ารักยิ่ง

 

เด็กชายและเด็กหญิงทั้งคู่ต่างเป็นบุตรและธิดาของจักรพรรดิหลี่เชิงกับซูเยว่หยุน

 

สามปีผ่านพ้น ทั้งคู่โตขึ้นมาก เด็กผู้ชายชื่อว่าหลี่หยวน เด็กผู้หญิงชื่อว่าหลีหว่าน”

 

ซูฉันเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ

 

“ลุงสาม……”

 

หลี่หยวนและหลีหว่านส่งเสียงร้องอย่างพร้อมเพรียง มองไปที่ซูฉินด้วยตาดวงโตๆ ดูอยากรู้อยากเห็น

 

“พี่สาม วันนี้หยวนเอ่อทําให้อาจารย์โกรธหนักอีกแล้ว…” จักรพรรดิถังหลี่เชิงเหลือบมองไปที่หลี่หยวนอย่างไม่รู้จะทําอย่างไรดี

 

“เสด็จพ่อ…” หลี่หยวนรู้ตัวดีว่าตนผิดจึงลดศีรษะลงไม่ กล้าพูดอะไร

 

“มันก็เป็นเรื่องปกติของเด็กๆ ที่จะซุกซน” ซูฉินไม่ได้ สนใจอะไรแล้วพูดขึ้นเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ

 

“อา…”

 

“เป็นเรื่องปกติที่เด็กทั่วไปจะซุกซน”

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงถอนหายใจและลูบศีรษะของหลี่หยวน “แต่หยวนเอ่อทําไม่ได้นะสิ เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของข้า ถูกกําหนดมาให้สืบทอดราชบัลลังก์แทนข้าในอนาคต ความประมาทเพียงน้อยนิดที่มีจะทําให้ประชาชนเดือดร้อนได้”

 

จักรพรรดิหลี่เชิงส่ายหัวเล็กน้อย

 

เขาให้ความสําคัญกับหลี่หยวนมาก และไม่ต้องการให้หลี่หยวนทําผิดพลาดครั้งใหญ่ในอนาคต

 

“สิ่งต่างๆ ในอนาคตนั้นย่อมเป็นผู้คนในอนาคตที่กําหนดมัน ฉะนั้นเราก็แค่ต้องใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดี”

 

ซูฉินมองไปที่หลี่หยวนและพูดขึ้นเบาๆ

 

“ก็จริง”

 

จักรพรรดิหลี่เชิงคิดสักพักและพบว่ามันสมเหตุสมผลดี

 

ตัวเขาไม่ใช่เทพเจ้า จะหยั่งรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างไร?

 

“พี่สาม ทําไมท่านถึงไม่มาเป็นอาจารย์ของหยวนเอ๋อเล่า ด้วยการสั่งสอนของท่าน หยวนเอ๋อจะต้องเก่งขึ้นมากแน่ๆ”

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ และพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

 

เขาค้นพบมานานแล้วว่าเด็กอย่างหลี่หยวนผู้ไม่เกรงฟ้ากลัวดิน กลับกลัวซูฉินมาก

 

ตราบใดที่ซูฉินอยู่ หลี่หยวนก็ไม่กล้าจะเล่นซนมากจนเกินงาม รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวเช่นไร

 

จักรพรรดิถังรู้สึกดีมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรแปลก

 

“ลืมมันไปเถอะ”

 

“ข้าชินกับการอยู่อย่างอิสรเสรีน่ะ”

 

ซุฉินปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดเลย

 

เขามาที่วังหลวงก็เพื่อลงชื่อเข้าใช้และฝึกฝนบ่มเพาะ ไม่ได้มาเพื่อสอนสั่งเด็กว่าควรจะประพฤติปฏิบัติตัวอย่างไร

 

นอกจากนี้ซูฉินมักจะชอบความเงียบสงบ ถ้าต้องมีเด็กอยู่ใกล้ๆ เขาก็รู้สึกว่าไม่ชินเท่าไรนัก

 

“ก็ได้”

 

สีหน้าของจักรพรรดิหลี่เชิงผิดหวังเล็กน้อย แล้วก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่ออีก

 

แม้ว่าเขาจะต้องการให้ซูฉินสอนสั่งหลี่หยวนมากๆ แต่ เขาก็อยากจะให้ซูฉินเต็มใจทํามันเอง ไม่เช่นนั้นตัวจักรพรรดิหลี่เชิงเองก็ไม่สามารถบังคับอะไรได้

 

หลังจากคุยกันต่ออีกหน่อย จักรพรรดิถังหลี่เชิงก็เตรียมพร้อมกลับไปจัดการเรื่องราวภายในราชสํานัก

 

ยิ่งเขาครองบัลลังก์มายาวนานเท่าไหร่ จักรพรรดิหลี่เชิงก็รู้สึกว่าตนเองยิ่งมีภาระหนักขึ้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 126 ทิพยอํานาจ! กายเนื้อกําเนิดใหม่!

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 126 ทิพยอํานาจ! กายเนื้อกําเนิดใหม่! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 126 ทิพยอํานาจ! กายเนื้อกําเนิดใหม่!

 

ในขณะที่แก่นแท้แห่งพลังหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของนาง ซูเยว่หยุนก็รู้สึกง่วงงุน และผล็อยหลับไปภายในไม่นาน

 

“หยุนเหนียงคงทรมานไม่น้อยเลย”

 

หลังจากที่จักรพรรดิถังหลี่เชิงเฝ้ามองซูฉินอยู่สักพัก เขาก็เบนความสนใจไปที่บุตรและบุตรีฝาแฝดที่อยู่ข้างๆ

 

ซูฉินเองก็ชําเลืองมองดูเช่นกัน

 

“เอ๋?”

 

ซูฉันรู้สึกประหลาดใจ

 

เด็กทั้งสองคนเป็นทารกแรกเกิด แต่เมื่อซูฉินมองไปก็พบว่าเด็กผู้ชายนั้นปกติดี แต่เด็กผู้หญิงนั้นมีร่างกายที่ปลอดโปร่งอย่างยิ่ง

 

“อัจฉริยะด้านการฝึกยุทธ?”

 

ซูฉินแตะปลายคาง ดวงตามีแววครุ่นคิด

 

โดยทั่วไปของคนปกติ เส้นลมปราณทั้งหมดจะถูกปิดกั้นตั้งแต่กําเนิด และมีเพียงการฝึกฝนวิทยายุทธต่อไปเรื่อยๆ ถึงจะค่อยๆ เปิดเส้นลมปราณเหล่านั้นได้

 

แน่นอนว่าจะมีบางคนที่เกิดมาโดยมีร่างกายที่ไม่ถูกปิดกั้นเส้นลมปราณเลย คนเหล่านี้เมื่อเดินในเส้นทาง การฝึกยุทธจะสามารถเติบโตก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็จะไปถึงขอบเขตสามระดับบนโดยไม่มีปัญหาใด

 

ซูฉินไม่คิดว่าบุตรีของซูเยว่หยุนจะเป็นอัจฉริยะด้านการฝึกยุทธเช่นนี้

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าซูฉินจะประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดแปลกแต่อย่างใด

 

ในระดับของซูฉินนั้น เขามีความสามารถเหนือกว่าเหล่าอัจฉริยะมาตั้งนานแล้ว แม้ว่าจะมีดวงใจพุทธะ เช่น เฉียนขู่ ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของซูฉิน

 

สําหรับผู้ฝึกยุทธ พรสวรรค์ที่เหนือกว่าก็แค่ช่วยให้ใช้เวลาน้อยกว่าในการฝึกฝนวิทยายุทธ แต่ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝน ไปจนถึงขีดสุดหรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงพลังจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะพึ่งพาเพียงแค่พรสวรรค์ได้

 

ซูฉินรอคอยอยู่พักหนึ่งและหลังจากแน่ใจแล้วว่าซูเยว่หยุนสบายดีเขาก็จะกลับไปยังตําหนักชุนฝั่งขวา

 

ส่วนองค์จักรพรรดิถังหลี่เชิง เขากําลังมองไปที่ทารกฝาแฝดด้วยหัวใจอันเปี่ยมไปด้วยความสุขล้น

 

ซูฉินเดินออกจากพระราชวังคุนหนึ่งไปอย่างช้าๆ และแวะหยุดพักเมื่อผ่านไปถึงจัตุรัสหยกขาว

 

“วันนี้ข้ายังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้เลยนี่นา…”

 

ซูฉินเหลือบมองไปที่จัตุรัสหยกขาว และพูดขึ้นภายในใจเงียบๆ “ระบบลงชื่อเข้าใช้”

 

[ขอแสดงความยินดี โฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สําเร็จ ได้รับทิพยอํานาจ ‘กายเนื้อกําเนิดใหม่’]

 

“ทิพยอํานาจ?”

 

จิตวิญญาณภายในของซูฉินถึงขั้นตกตะลึง

 

หลังจากลงชื่อเข้าใช้มามากกว่าสามสิบปี ซูฉินได้รับเคล็ดวิชามหัศจรรย์ โอสถ สมบัติฟ้าดินและสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย

 

แต่เคยได้รับทิพยอํานาจเพียงแค่ครั้งเดียว

 

นั่นคือดวงตาแห่งสัจจะที่ลงชื่อได้มาจากวิหารพระสหัสพุทธ

 

การที่ได้รับมาเพียงครั้งเดียวภายในเวลาสามสิบปี จะเห็นได้ว่าทิพยอํานาจนั้นหายากเพียงไร

 

แต่ตอนนี้ที่จัตุรัสหยกขาว ซูฉินได้รับทิพยอํานาจมาอีกครั้ง

 

“ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้ทิพยอํานาจมา!”

 

ดวงตาของซูฉินสว่างขึ้น ความคิดสับสนวกวน

 

“กายเนื้อกําเนิดใหม่?”

 

จิตใจของซูฉินกะพริบวูบไหวรับเอาพลังวิเศษอันนี้มา

 

กายเนื้อกําเนิดใหม่นั้นตรงตามชื่อ เป็นพลังที่เกี่ยวข้องกับกายเนื้อ

 

แม้ว่าร่างกายจะแหลกสลายแต่ตราบใดที่ส่วนสําคัญของร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บ พลังวิเศษนี้ก็จะสามารถใช้ในการฟื้นฟูร่างกายใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

 

สิ่งนี้หมายความว่าอะไร?

 

นี่คือร่างกึ่งอมตะ!

 

แม้ว่าอรหันต์หรือตํานานยุทธจะสามารถฟื้นฟูร่างกายได้เช่นกัน แต่การกระทําอย่างเช่น งอกแขนใหม่ งอกขาใหม่ สําหรับตํานานยุทธและอรหันต์ก็นับว่าเป็นการใช้พลังไปอย่างมหาศาล

 

อาจจะต้องใช้พลังที่สั่งสมมา อาจจะแค่ไม่กี่เดือนไปจนถึงหลักหลายปี หลักสิบปี

 

และสุดท้าย แม้แต่แก่นแท้แห่งพลังก็ต้องถูกนำออกมาใช้

 

แต่กายเนื้อกําเนิดใหม่นั้นต่างออกไป

 

ไม่เพียงแต่จะดีกว่าในด้านการฟื้นฟูร่างกายหรืองอกอวัยวะขึ้นมาใหม่ ในแง่ความเร็วจะยังรวดเร็วกว่าจนทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น

 

การที่ซูฉินมีทิพยอํานาจอันนี้ควบคู่ไปกับการมีร่างกายที่ทรงพลังจนน่ากลัวนั้น ความสามารถในการต่อสู้ของเข้าย่อมพุ่งสูงขึ้นไปอีกอย่างน้อยหนึ่งระดับ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

 

“ด้วยทิพยอํานาจอันนี้ ข้าก็มีไพ่ลับเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งใบ”

 

ซูฉินพอใจมากกับกายเนื้อกําเนิดใหม่ ไม่เพียงแต่จะช่วยเหลือในการพิชิตศัตรูเท่านั้น แต่ยังใช้ในการบ่มเพาะได้ด้วย

 

ก่อนที่จะได้ทิพยอํานาจกายเนื้อกําเนิดใหม่อันนี้มา ซูฉิน ฝึกฝนอย่างระมัดระวัง กลัวว่ามันจะเป็นการทําให้ร่างกาย บาดเจ็บจนเกิดเป็นบาดแผลแฝงเร้นไปแต่ตอนนี้ด้วยกายเนื้อกําเนิดใหม่ หากมีอาการบาดเจ็บใดเกิดขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ร่างกายจะถูกฟื้นฟูขึ้นมาใหม่

 

“ว่ากันว่านอกจากทิพยอํานาจอย่างกายเนื้อกําเนิดใหม่แล้ว ยังมีทิพยอํานาจหยดเลือดกําเนิดใหม่” อยู่อีกด้วย…”

 

ท่าทางของซูฉินดูหลงใหลไปกับมัน

 

หากการมีกายเนื้อกําเนิดใหม่เทียบเคียงได้กับเป็นกิ่งอมตะ ฉะนั้นหยดเลือดกําเนิดใหม่ก็แทบจะเป็นอมตะเลยทีเดียว

 

ตราบใดที่ยังคงมีเลือดอยู่ มันก็สามารถฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วราวกับเทพปีศาจผู้เป็นอมตะ

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

สามปีผ่านไปภายในพริบตา

 

ในช่วงสามปีที่ผ่านมาจักรพรรดิหลี่เชิงแห่งราชวงศ์ถังได้ครองราชบัลลังก์อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังนาราชวงศ์ถังไปสู่ความรุ่งโรจน์ผ่านการออกราชโองการอย่างต่อเนื่อง

 

“พี่สาม”

 

ในวันนี้จักรพรรดิถังอย่างหลี่เชิงก็มายืนรออยู่ที่ด้านนอกตําหนักชุนฝั่งขวา และโบกมือให้กับซูฉิน

 

ถัดมาจากจักรพรรดิหลี่เชิงก็เห็นเป็นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงอายุประมาณสามสี่ขวบ ดวงตาสีดํากลมโต ช่างดูน่ารักยิ่ง

 

เด็กชายและเด็กหญิงทั้งคู่ต่างเป็นบุตรและธิดาของจักรพรรดิหลี่เชิงกับซูเยว่หยุน

 

สามปีผ่านพ้น ทั้งคู่โตขึ้นมาก เด็กผู้ชายชื่อว่าหลี่หยวน เด็กผู้หญิงชื่อว่าหลีหว่าน”

 

ซูฉันเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ

 

“ลุงสาม……”

 

หลี่หยวนและหลีหว่านส่งเสียงร้องอย่างพร้อมเพรียง มองไปที่ซูฉินด้วยตาดวงโตๆ ดูอยากรู้อยากเห็น

 

“พี่สาม วันนี้หยวนเอ่อทําให้อาจารย์โกรธหนักอีกแล้ว…” จักรพรรดิถังหลี่เชิงเหลือบมองไปที่หลี่หยวนอย่างไม่รู้จะทําอย่างไรดี

 

“เสด็จพ่อ…” หลี่หยวนรู้ตัวดีว่าตนผิดจึงลดศีรษะลงไม่ กล้าพูดอะไร

 

“มันก็เป็นเรื่องปกติของเด็กๆ ที่จะซุกซน” ซูฉินไม่ได้ สนใจอะไรแล้วพูดขึ้นเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ

 

“อา…”

 

“เป็นเรื่องปกติที่เด็กทั่วไปจะซุกซน”

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงถอนหายใจและลูบศีรษะของหลี่หยวน “แต่หยวนเอ่อทําไม่ได้นะสิ เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของข้า ถูกกําหนดมาให้สืบทอดราชบัลลังก์แทนข้าในอนาคต ความประมาทเพียงน้อยนิดที่มีจะทําให้ประชาชนเดือดร้อนได้”

 

จักรพรรดิหลี่เชิงส่ายหัวเล็กน้อย

 

เขาให้ความสําคัญกับหลี่หยวนมาก และไม่ต้องการให้หลี่หยวนทําผิดพลาดครั้งใหญ่ในอนาคต

 

“สิ่งต่างๆ ในอนาคตนั้นย่อมเป็นผู้คนในอนาคตที่กําหนดมัน ฉะนั้นเราก็แค่ต้องใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดี”

 

ซูฉินมองไปที่หลี่หยวนและพูดขึ้นเบาๆ

 

“ก็จริง”

 

จักรพรรดิหลี่เชิงคิดสักพักและพบว่ามันสมเหตุสมผลดี

 

ตัวเขาไม่ใช่เทพเจ้า จะหยั่งรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างไร?

 

“พี่สาม ทําไมท่านถึงไม่มาเป็นอาจารย์ของหยวนเอ๋อเล่า ด้วยการสั่งสอนของท่าน หยวนเอ๋อจะต้องเก่งขึ้นมากแน่ๆ”

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ และพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

 

เขาค้นพบมานานแล้วว่าเด็กอย่างหลี่หยวนผู้ไม่เกรงฟ้ากลัวดิน กลับกลัวซูฉินมาก

 

ตราบใดที่ซูฉินอยู่ หลี่หยวนก็ไม่กล้าจะเล่นซนมากจนเกินงาม รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวเช่นไร

 

จักรพรรดิถังรู้สึกดีมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรแปลก

 

“ลืมมันไปเถอะ”

 

“ข้าชินกับการอยู่อย่างอิสรเสรีน่ะ”

 

ซุฉินปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดเลย

 

เขามาที่วังหลวงก็เพื่อลงชื่อเข้าใช้และฝึกฝนบ่มเพาะ ไม่ได้มาเพื่อสอนสั่งเด็กว่าควรจะประพฤติปฏิบัติตัวอย่างไร

 

นอกจากนี้ซูฉินมักจะชอบความเงียบสงบ ถ้าต้องมีเด็กอยู่ใกล้ๆ เขาก็รู้สึกว่าไม่ชินเท่าไรนัก

 

“ก็ได้”

 

สีหน้าของจักรพรรดิหลี่เชิงผิดหวังเล็กน้อย แล้วก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่ออีก

 

แม้ว่าเขาจะต้องการให้ซูฉินสอนสั่งหลี่หยวนมากๆ แต่ เขาก็อยากจะให้ซูฉินเต็มใจทํามันเอง ไม่เช่นนั้นตัวจักรพรรดิหลี่เชิงเองก็ไม่สามารถบังคับอะไรได้

 

หลังจากคุยกันต่ออีกหน่อย จักรพรรดิถังหลี่เชิงก็เตรียมพร้อมกลับไปจัดการเรื่องราวภายในราชสํานัก

 

ยิ่งเขาครองบัลลังก์มายาวนานเท่าไหร่ จักรพรรดิหลี่เชิงก็รู้สึกว่าตนเองยิ่งมีภาระหนักขึ้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+