เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 137 การร่วมมือกันของเหล่าองค์ชาย

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 137 การร่วมมือกันของเหล่าองค์ชาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

Sign in Buddha’s palm 137 การร่วมมือกันของเหล่าองค์ชาย

 

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปโดยไม่ทันรู้ตัว

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงลุกขึ้นและเตรียมกลับไปยังโถงชีวิตนิรันดร์เพื่อจัดการเรื่องการบ้านการเมือง

 

“ได้มาคุยกับพี่สามในวันนี้ ข้ารู้สึกทุกข์ใจน้อยลงจริงๆ” จักรพรรดิหลี่เชิงกล่าวด้วยรอยยิ้มและมองไปยังซูฉิน

 

ซูฉินส่ายหัวแต่ไม่ตอบอะไร

 

วันต่อมา

 

ที่ตําหนักไท่จี๋ บริเวณท้องพระโรง

 

จักรพรรดิหลี่เชิงแห่งราชวงศ์ถังนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร มองลงมาที่เหล่าขุนนางฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร

 

“ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนักสําหรับการปกครองดินแดนของ เหล่าราชาหัวเมืองแห่งอาณาจักรถังทั้งหลาย…” จักรพรรดิถังกล่าวออกโดยมิอ้อมค้อม

 

ในช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมา แม้ว่าจักรพรรดิหลี่เชิงจะไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการตัดทอนอํานาจศักดินา แต่ไม่รู้ว่าภายในใจของเขาคิดวนไปเวียนมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

 

จนท้ายที่สุดจักรพรรดิถังหลี่เชิงก็ตระหนักว่าไม่สมควรที่จะตัดทอนอํานาจศักดินาตรงๆ มันอาจจะเกิดความวุ่นวายในอาณาจักรถังและการก่อกบฏจากกลุ่มขุนนางได้ง่าย

 

การตัดทอนอํานาจศักดินาโดยตรงอาจกระทํามิได้ แต่เรื่องวิธีการตัดทอนอํานาจศักดินาโดยอ้อมผุดขึ้นในหัวของจักรพรรดิหลี่เชิงอย่างต่อเนื่อง

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงใช้เวลามาสามปีแล้วในการคิดหาวิธีตัดทอนอํานาจของเหล่าองค์ชายโดยอ้อม

 

ตําหนักไท้จี๋

 

เมื่อเหล่าขุนนางภายในท้องพระโรงได้ฟังคํากล่าวของจักรพรรดิหลี่เชิง พวกเขาก็มองหน้ากันเองโดยไม่รู้จะทําหน้าอย่างไร

 

ไม่กี่ปีมานี้พวกเขาก็เห็นๆ อยู่ว่าจักรพรรดิหลี่เชิงโกรธแค่ไหน และถึงขั้นคิดจะตัดทอนอํานาจศักดินา

 

แต่ตอนนี้จักรพรรดิหลี่เชิงกลับ ”ประทับใจมาก” กับพฤติกรรมของเหล่าองค์ชาย?

 

ในยามที่เหล่าข้าราชบริพารยังคงสับสน คําพูดของจักรพรรดิหลี่เชิงก็ดังก้อง

 

“เหล่าราชาหัวเมืองต่างทํางานกันอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทํางานให้สําเร็จลุล่วงด้วยดีได้หากปราศจากความร่วมมือของเหล่าบุตรหลานทุกคนในตระกูล ข้าจึงตัดสินใจจะส่งผ่านคําสั่งออกไป ต่อแต่นี้อนุญาตให้ราชาหัวเมืองสามารถแจกจ่ายอํานาจศักดินาให้แก่ลูกหลานทุกคนได้”

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงกล่าวคําออกมาช้าๆ

 

ด้วยคําที่กล่าวออกมา

 

เหล่าขุนนางในท้องพระโรงต่างเงียบ

 

ความคิดของข้าราชบริพารบางคนวิ่งแล่นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาก็พลันเข้าใจจุดประสงค์ขององค์จักรพรรดิถังในการออกคําสั่งเช่นนั้น มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการแบ่งอํานาจของเหล่าขุนนางหัวเมือง ด้วยวิธีนี้อาจจะไม่เห็นผลในช่วงสั้นๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิบปีหรือร้อยปี ปัญหาเรื่องของราชาหัวเมืองจะต้องคลี่คลายอย่างแน่นอน

 

“ฝ่าบาท สิ่งนี้ไม่สมควร…”

 

ขุนนางบางคนลุกยืนขึ้นมาในทันที โค้งคํานับต่อหน้าองค์จักรพรรดิหลี่เชิงก่อนจะกล่าวว่า “บุตรชายคนโตขององค์ชายกับพระชายาคนแรกเท่านั้นที่จะได้รับอํานาจศักดินา หากฝ่าบาททรงยกเลิกกฎหมายนี้ไป อาจสร้างความไม่พอใจให้เหล่าองค์ชายได้…”

 

ขุนนางผู้นี้เข้าใจความเป็นไปของอาณาจักรถัง และควา หมายอันลึกซึ้งภายในคําสั่งขององค์จักรพรรดิหลี่เชิง แต่เหล่าองค์ชายเองมีหรือจะไม่เข้าใจ

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงไป ข้าเพียงแต่อนุญาตเท่านั้น มันหาใช่คําสั่งไม่ ถ้าเหล่าราชาหัวเมืองไม่เต็มใจพวกเขาสามารถปฏิเสธมันได้”

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงสงบนิ่งอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาเข้าใจทุกอย่างแล้วหลังจากพูดคุยกับซูฉินอยู่ครู่หนึ่งเมื่อคืนวาน จักรพรรดิหลี่เชิงเริ่มตระหนักมากขึ้นถึงสิ่งที่เขากระทําได้

 

พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้เป็นเพียงการกําหนดกฎเกณฑ์ เหล่าองค์ชายอาจจะเพิกเฉยต่อมัน แต่เหล่าพรรคพวกคนอื่นในตระกูลของพวกเขาเล่า?

 

ปกติแล้วหลังจากที่ผู้ปกครองคนเก่าสิ้นชีวิตไป บุตรชายคนโตก็จะสืบทอดอํานาจราชาหัวเมืองต่อไป ส่วนพี่น้องคนอื่นๆ ก็ทําได้เพียงดูแลตัวเอง

 

และด้วยสถานการณ์นี้ เมื่อจักรพรรดิถังหลี่เชิงอนุญาตให้ลูกหลานคนอื่นๆ ขององค์ชายสามารถสืบทอดอํานาจศักดินาต่อไปได้ ย่อมเกิดความแตกแยกภายในอย่างมิอาจเลี่ยง

 

นอกจากบุตรชายคนโตแล้ว บุตรชายคนอื่นๆ ย่อมสนับสนุนคําสั่งจากจักรพรรดิหลี่เชิงเป็นธรรมดา

 

“ความประสงค์นี้ของข้าตัดสินใจมาดีแล้ว”

 

“ไม่จําเป็นต้องพูดอะไรให้มากความอีกต่อไป”

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงเห็นว่ามีขุนนางบางคนพยายามที่จะห้ามปรามตน ดังนั้นพระองค์จึงโบกมือและเดินออกจากตําหนักได้ไป

 

ในเวลาเดียวกัน

 

ด้านนอกตําหนักชุนฝั่งขวา

 

ดวงตาของซูฉินสงบนิ่ง มองตรงไปในทิศทางของตําหนักไทจี๋

 

“ท้ายที่สุดก็ออกคําสั่งนี้”

 

ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อยและถอนหายใจออกมา

 

ซูฉินรู้ว่าสิ่งนี้มันอยู่ภายในใจขององค์จักรพรรดิหลี่เชิงมาตั้งแต่เมื่อคืน ดังนั้นเขาจึงให้ความสนใจกับอีกฝ่ายเล็กน้อย ในวันนี้เป็นไปตามคาด จักรพรรดิถังหลี่เชิงได้ลงมือไปแล้วในวันนี้

 

เพียงแต่ว่า แม้วิธีการนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาของราชาหัวเมืองได้ในระดับที่ดี แต่จักรพรรดิถังหลี่เชิงกระทําสิ่งหนึ่งผิดพลาด

 

“การออกคําสั่งนี้เรียงลําดับผิดพลาด…”

 

ซูฉินคิดอยู่ในใจอย่างเงียบๆ

 

หากจักรพรรดิหลี่เชิงแห่งราชวงศ์ถังได้กระทําการปราบเหล่าขุนนางหัวเมืองทั้งหมดก่อนที่จะออกคําสั่งนี้ ทําให้พวกเขาหวาดกลัวก่อนจะใช้แผนแยกย่อยอํานาจ เขาก็จะ ขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคตและแก้ไขปัญหาจากเหล่าองค์ชายไปได้อย่างสมบูรณ์

 

แต่ตอนนี้

 

สิ่งสําคัญที่สุดยังไม่ได้รับการแก้ไขจนบรรลุผล และการออกคําสั่งกระจายอํานาจเช่นนี้เท่ากับไปแตะต้องจุดเดือดของเหล่าองค์ชาย

 

แม้ว่าซูฉินจะรู้ว่าจักรพรรดิหลี่เชิงไม่ได้ทําสิ่งเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง แต่เขาก็ไม่ได้หยุดยั้งมัน

 

หากจักรพรรดิหลี่เชิงถูกลอบสังหาร ซูฉินอาจจะลงมือช่วยเหลือได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นเรื่องราวการตัดสินใจของจักรพรรดิหลี่เชิงในกิจการบ้านเมือง แห่งอาณาจักรถัง

 

“ไม่เป็นไร ปล่อยให้เขาทนทุกข์ ให้ได้เรียนรู้เสียบ้าง” 

 

ซูฉินหันหลังและเดินกลับไปที่ตําหนักชุนฝั่งขวา

 

เป็นเวลานานแล้วที่จักรพรรดิถังหลี่เชิงประสบความสําเร็จมาตั้งแต่ขึ้นครองบัลลังก์ เขามีพร้อมทุกสิ่งที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเตรียมไว้ให้ ผนวกรวมกับที่ซูฉินช่วยเขากําจัดอุปสรรคถึงสองครั้งสองครา สร้างความตื่นตระหนกให้กับอาณาจักรต่างๆ ทําให้การดําเนินการสิ่งต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น

 

แม้ว่าจักรพรรดิถังหลี่เชิงจะได้ดําเนินการไปหลายอย่างจนอาณาจักรถังเจริญรุ่งเรืองภายใต้การปกครองของเขา แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกนี้ที่มันไม่ราบรื่นเสมอไป

 

….

 

….

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

ด้วยคําสั่งของจักรพรรดิหลี่เชิงแห่งราชวงศ์ถังที่ส่งไปถึงราชาหัวเมืองทั้งสิบ มันก็ทําให้เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นในใจของหมู่พี่น้องทายาทของเหล่าองค์ชาย

 

อย่างไรก็ตาม

 

ความรู้สึกเหล่านี้ก็เกิดขึ้นได้ไม่นานก่อนจะถูกระงับไป โดยเหล่าองค์ชาย

 

ไม่นานหลังจากนั้น

 

เหล่าราชาหัวเมืองทั้งสิบก็มารวมตัวกันอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง

 

เมืองเล็กๆ แห่งนี้ไม่ได้อยู่ในอาณาเขตขององค์ชายคนใด แต่เป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับอาณาเขตของราชาหัวเมืองส่วนใหญ่ ดังนั้นเมื่อพวกเขามีเรื่องที่จะต้องหารือกัน พวกเขาจะเลือกใช้สถานที่แห่งนี้

 

“ฮ่าฮ่า”

 

“ตอนนี้จักรพรรดิถังที่อยู่ในเมืองฉางอันช่างกล้าหาญนัก เขาถึงกับกล้าเข้ามาแทรกแซงกิจการของราชาหัวเมืองที่ข้าปกครองอยู่”

 

ดวงตาของราชาฟ่านหยางเย็นเยียบ เหลือบมองไปที่ราชาหัวเมืองอีกเก้าพระองค์ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ย

 

เมื่อตอนที่คําสั่งกระจายอํานาจส่งมาถึงอาณาเขตของพวกเขา เหล่าราชาหัวเมืองต่างตระหนักว่ามีบางสิ่งผิดปกติ และหลังจากเขาเห็นสายตาอันแสนกระตือรือร้นจากลูกหลานคนอื่นๆ ของพวกตน พวกเขาก็ยืนยันได้แล้วว่า นี่คือแผนการของจักรพรรดิ

 

“หึ!”

 

“เพียงคําพูดไม่กี่คําก็สามารถแบ่งแยกเขตแดนของพวกเรา สร้างความแตกแยกให้เหล่าพี่น้องจักรพรรดิถังไม่เพียงกล้าหาญเท่านั้น แต่วิธีการต่างๆ ยังเลวร้ายมากอีกด้วย”

 

ราชาชวอฟางก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา

 

ในฐานะราชาผู้ครองดินแดน พวกเขาต้องการให้อํานาจที่สืบต่อไปนั้นรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปรุ่นต่อรุ่น พวกเขาย่อมไม่ต้องการเห็นลูกหลานของพวกเขาถูกแบ่งแยกออก และท้ายที่สุดมันก็จะกลายไปเป็นของเล่นในมือขององค์จักรพรรดิถัง

 

“แล้วตอนนี้เราควรทําเช่นไร”

 

“จักรพรรดิถังเริ่มแบ่งแยกรากฐานของพวกเราแล้ว พวกเจ้ายังจะทําเป็นเฉยเมยอยู่ไหม?”

 

ราชาเป่ยถิงกล่าวออกมา อยากจะรู้ว่าราชาพระองค์อื่นคิดเห็นอย่างไร

 

“เป็นเรื่องปกติที่เราจะเฉยเมยไม่ได้”

 

ราชาฟ่านหยางส่ายหัวแล้วกล่าวคํา

 

“ทําไมเจ้าไม่สังหารจักรพรรดิถังองค์นี้เสียที ในเมื่อเขาดื้อดึงขนาดนี้ เราควรจะเปลี่ยนจักรพรรดิถังเป็นคนอื่นขึ้นมาแทน”

 

ราชาเจี้ยนหนานจู่ๆ ก็โพล่งขึ้นมา

 

คําพูดที่กล่าวออกมา

 

ราชาหัวเมืองที่เหลือก็รู้สึกว่าหัวใจตนกําลังเต้นอย่างเร่าร้อน

 

อย่างไรก็ตาม ราชาชวอฟางส่ายหัวแล้วกล่าวขึ้นว่า “ฆ่า แล้วได้อะไร? ข้าก็ไม่เห็นว่าจะมีใครไม่อิจฉาจักรพรรดิถังต่อให้สังหารทิ้งไปแล้วคนที่ขึ้นมาแทนจะเชื่อฟังหรือไม่

เล่า?”

 

“นอกจากนั้น คงจะมีบรรพบุรุษเก่าแก่ที่หลบซ่อนตัวอยู่ ในพระราชวังถัง การที่จะลอบฆ่าจักรพรรดิถังภายในวังหลวงย่อมไม่สมควร”

 

ราชาชวอฟางกล่าวออกมาเบาๆ

 

ไม่ว่าจะเป็นสองยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดอย่างหวู่หยาง แห่งหนานหมิงและอินจิ่วฝูที่ตกตายอยู่นอกวังหลวง และการหายตัวไปอย่างลึกลับของซีเหมินชุยเฉว่กับเย่กู้เฉิงภายในพระราชวังถังล้วนแสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของวังหลวงได้อย่างแท้จริง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 137 การร่วมมือกันของเหล่าองค์ชาย

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 137 การร่วมมือกันของเหล่าองค์ชาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

Sign in Buddha’s palm 137 การร่วมมือกันของเหล่าองค์ชาย

 

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปโดยไม่ทันรู้ตัว

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงลุกขึ้นและเตรียมกลับไปยังโถงชีวิตนิรันดร์เพื่อจัดการเรื่องการบ้านการเมือง

 

“ได้มาคุยกับพี่สามในวันนี้ ข้ารู้สึกทุกข์ใจน้อยลงจริงๆ” จักรพรรดิหลี่เชิงกล่าวด้วยรอยยิ้มและมองไปยังซูฉิน

 

ซูฉินส่ายหัวแต่ไม่ตอบอะไร

 

วันต่อมา

 

ที่ตําหนักไท่จี๋ บริเวณท้องพระโรง

 

จักรพรรดิหลี่เชิงแห่งราชวงศ์ถังนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร มองลงมาที่เหล่าขุนนางฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร

 

“ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนักสําหรับการปกครองดินแดนของ เหล่าราชาหัวเมืองแห่งอาณาจักรถังทั้งหลาย…” จักรพรรดิถังกล่าวออกโดยมิอ้อมค้อม

 

ในช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมา แม้ว่าจักรพรรดิหลี่เชิงจะไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการตัดทอนอํานาจศักดินา แต่ไม่รู้ว่าภายในใจของเขาคิดวนไปเวียนมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

 

จนท้ายที่สุดจักรพรรดิถังหลี่เชิงก็ตระหนักว่าไม่สมควรที่จะตัดทอนอํานาจศักดินาตรงๆ มันอาจจะเกิดความวุ่นวายในอาณาจักรถังและการก่อกบฏจากกลุ่มขุนนางได้ง่าย

 

การตัดทอนอํานาจศักดินาโดยตรงอาจกระทํามิได้ แต่เรื่องวิธีการตัดทอนอํานาจศักดินาโดยอ้อมผุดขึ้นในหัวของจักรพรรดิหลี่เชิงอย่างต่อเนื่อง

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงใช้เวลามาสามปีแล้วในการคิดหาวิธีตัดทอนอํานาจของเหล่าองค์ชายโดยอ้อม

 

ตําหนักไท้จี๋

 

เมื่อเหล่าขุนนางภายในท้องพระโรงได้ฟังคํากล่าวของจักรพรรดิหลี่เชิง พวกเขาก็มองหน้ากันเองโดยไม่รู้จะทําหน้าอย่างไร

 

ไม่กี่ปีมานี้พวกเขาก็เห็นๆ อยู่ว่าจักรพรรดิหลี่เชิงโกรธแค่ไหน และถึงขั้นคิดจะตัดทอนอํานาจศักดินา

 

แต่ตอนนี้จักรพรรดิหลี่เชิงกลับ ”ประทับใจมาก” กับพฤติกรรมของเหล่าองค์ชาย?

 

ในยามที่เหล่าข้าราชบริพารยังคงสับสน คําพูดของจักรพรรดิหลี่เชิงก็ดังก้อง

 

“เหล่าราชาหัวเมืองต่างทํางานกันอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทํางานให้สําเร็จลุล่วงด้วยดีได้หากปราศจากความร่วมมือของเหล่าบุตรหลานทุกคนในตระกูล ข้าจึงตัดสินใจจะส่งผ่านคําสั่งออกไป ต่อแต่นี้อนุญาตให้ราชาหัวเมืองสามารถแจกจ่ายอํานาจศักดินาให้แก่ลูกหลานทุกคนได้”

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงกล่าวคําออกมาช้าๆ

 

ด้วยคําที่กล่าวออกมา

 

เหล่าขุนนางในท้องพระโรงต่างเงียบ

 

ความคิดของข้าราชบริพารบางคนวิ่งแล่นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาก็พลันเข้าใจจุดประสงค์ขององค์จักรพรรดิถังในการออกคําสั่งเช่นนั้น มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการแบ่งอํานาจของเหล่าขุนนางหัวเมือง ด้วยวิธีนี้อาจจะไม่เห็นผลในช่วงสั้นๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิบปีหรือร้อยปี ปัญหาเรื่องของราชาหัวเมืองจะต้องคลี่คลายอย่างแน่นอน

 

“ฝ่าบาท สิ่งนี้ไม่สมควร…”

 

ขุนนางบางคนลุกยืนขึ้นมาในทันที โค้งคํานับต่อหน้าองค์จักรพรรดิหลี่เชิงก่อนจะกล่าวว่า “บุตรชายคนโตขององค์ชายกับพระชายาคนแรกเท่านั้นที่จะได้รับอํานาจศักดินา หากฝ่าบาททรงยกเลิกกฎหมายนี้ไป อาจสร้างความไม่พอใจให้เหล่าองค์ชายได้…”

 

ขุนนางผู้นี้เข้าใจความเป็นไปของอาณาจักรถัง และควา หมายอันลึกซึ้งภายในคําสั่งขององค์จักรพรรดิหลี่เชิง แต่เหล่าองค์ชายเองมีหรือจะไม่เข้าใจ

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงไป ข้าเพียงแต่อนุญาตเท่านั้น มันหาใช่คําสั่งไม่ ถ้าเหล่าราชาหัวเมืองไม่เต็มใจพวกเขาสามารถปฏิเสธมันได้”

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงสงบนิ่งอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาเข้าใจทุกอย่างแล้วหลังจากพูดคุยกับซูฉินอยู่ครู่หนึ่งเมื่อคืนวาน จักรพรรดิหลี่เชิงเริ่มตระหนักมากขึ้นถึงสิ่งที่เขากระทําได้

 

พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้เป็นเพียงการกําหนดกฎเกณฑ์ เหล่าองค์ชายอาจจะเพิกเฉยต่อมัน แต่เหล่าพรรคพวกคนอื่นในตระกูลของพวกเขาเล่า?

 

ปกติแล้วหลังจากที่ผู้ปกครองคนเก่าสิ้นชีวิตไป บุตรชายคนโตก็จะสืบทอดอํานาจราชาหัวเมืองต่อไป ส่วนพี่น้องคนอื่นๆ ก็ทําได้เพียงดูแลตัวเอง

 

และด้วยสถานการณ์นี้ เมื่อจักรพรรดิถังหลี่เชิงอนุญาตให้ลูกหลานคนอื่นๆ ขององค์ชายสามารถสืบทอดอํานาจศักดินาต่อไปได้ ย่อมเกิดความแตกแยกภายในอย่างมิอาจเลี่ยง

 

นอกจากบุตรชายคนโตแล้ว บุตรชายคนอื่นๆ ย่อมสนับสนุนคําสั่งจากจักรพรรดิหลี่เชิงเป็นธรรมดา

 

“ความประสงค์นี้ของข้าตัดสินใจมาดีแล้ว”

 

“ไม่จําเป็นต้องพูดอะไรให้มากความอีกต่อไป”

 

จักรพรรดิถังหลี่เชิงเห็นว่ามีขุนนางบางคนพยายามที่จะห้ามปรามตน ดังนั้นพระองค์จึงโบกมือและเดินออกจากตําหนักได้ไป

 

ในเวลาเดียวกัน

 

ด้านนอกตําหนักชุนฝั่งขวา

 

ดวงตาของซูฉินสงบนิ่ง มองตรงไปในทิศทางของตําหนักไทจี๋

 

“ท้ายที่สุดก็ออกคําสั่งนี้”

 

ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อยและถอนหายใจออกมา

 

ซูฉินรู้ว่าสิ่งนี้มันอยู่ภายในใจขององค์จักรพรรดิหลี่เชิงมาตั้งแต่เมื่อคืน ดังนั้นเขาจึงให้ความสนใจกับอีกฝ่ายเล็กน้อย ในวันนี้เป็นไปตามคาด จักรพรรดิถังหลี่เชิงได้ลงมือไปแล้วในวันนี้

 

เพียงแต่ว่า แม้วิธีการนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาของราชาหัวเมืองได้ในระดับที่ดี แต่จักรพรรดิถังหลี่เชิงกระทําสิ่งหนึ่งผิดพลาด

 

“การออกคําสั่งนี้เรียงลําดับผิดพลาด…”

 

ซูฉินคิดอยู่ในใจอย่างเงียบๆ

 

หากจักรพรรดิหลี่เชิงแห่งราชวงศ์ถังได้กระทําการปราบเหล่าขุนนางหัวเมืองทั้งหมดก่อนที่จะออกคําสั่งนี้ ทําให้พวกเขาหวาดกลัวก่อนจะใช้แผนแยกย่อยอํานาจ เขาก็จะ ขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคตและแก้ไขปัญหาจากเหล่าองค์ชายไปได้อย่างสมบูรณ์

 

แต่ตอนนี้

 

สิ่งสําคัญที่สุดยังไม่ได้รับการแก้ไขจนบรรลุผล และการออกคําสั่งกระจายอํานาจเช่นนี้เท่ากับไปแตะต้องจุดเดือดของเหล่าองค์ชาย

 

แม้ว่าซูฉินจะรู้ว่าจักรพรรดิหลี่เชิงไม่ได้ทําสิ่งเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง แต่เขาก็ไม่ได้หยุดยั้งมัน

 

หากจักรพรรดิหลี่เชิงถูกลอบสังหาร ซูฉินอาจจะลงมือช่วยเหลือได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นเรื่องราวการตัดสินใจของจักรพรรดิหลี่เชิงในกิจการบ้านเมือง แห่งอาณาจักรถัง

 

“ไม่เป็นไร ปล่อยให้เขาทนทุกข์ ให้ได้เรียนรู้เสียบ้าง” 

 

ซูฉินหันหลังและเดินกลับไปที่ตําหนักชุนฝั่งขวา

 

เป็นเวลานานแล้วที่จักรพรรดิถังหลี่เชิงประสบความสําเร็จมาตั้งแต่ขึ้นครองบัลลังก์ เขามีพร้อมทุกสิ่งที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเตรียมไว้ให้ ผนวกรวมกับที่ซูฉินช่วยเขากําจัดอุปสรรคถึงสองครั้งสองครา สร้างความตื่นตระหนกให้กับอาณาจักรต่างๆ ทําให้การดําเนินการสิ่งต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น

 

แม้ว่าจักรพรรดิถังหลี่เชิงจะได้ดําเนินการไปหลายอย่างจนอาณาจักรถังเจริญรุ่งเรืองภายใต้การปกครองของเขา แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกนี้ที่มันไม่ราบรื่นเสมอไป

 

….

 

….

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

ด้วยคําสั่งของจักรพรรดิหลี่เชิงแห่งราชวงศ์ถังที่ส่งไปถึงราชาหัวเมืองทั้งสิบ มันก็ทําให้เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นในใจของหมู่พี่น้องทายาทของเหล่าองค์ชาย

 

อย่างไรก็ตาม

 

ความรู้สึกเหล่านี้ก็เกิดขึ้นได้ไม่นานก่อนจะถูกระงับไป โดยเหล่าองค์ชาย

 

ไม่นานหลังจากนั้น

 

เหล่าราชาหัวเมืองทั้งสิบก็มารวมตัวกันอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง

 

เมืองเล็กๆ แห่งนี้ไม่ได้อยู่ในอาณาเขตขององค์ชายคนใด แต่เป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับอาณาเขตของราชาหัวเมืองส่วนใหญ่ ดังนั้นเมื่อพวกเขามีเรื่องที่จะต้องหารือกัน พวกเขาจะเลือกใช้สถานที่แห่งนี้

 

“ฮ่าฮ่า”

 

“ตอนนี้จักรพรรดิถังที่อยู่ในเมืองฉางอันช่างกล้าหาญนัก เขาถึงกับกล้าเข้ามาแทรกแซงกิจการของราชาหัวเมืองที่ข้าปกครองอยู่”

 

ดวงตาของราชาฟ่านหยางเย็นเยียบ เหลือบมองไปที่ราชาหัวเมืองอีกเก้าพระองค์ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ย

 

เมื่อตอนที่คําสั่งกระจายอํานาจส่งมาถึงอาณาเขตของพวกเขา เหล่าราชาหัวเมืองต่างตระหนักว่ามีบางสิ่งผิดปกติ และหลังจากเขาเห็นสายตาอันแสนกระตือรือร้นจากลูกหลานคนอื่นๆ ของพวกตน พวกเขาก็ยืนยันได้แล้วว่า นี่คือแผนการของจักรพรรดิ

 

“หึ!”

 

“เพียงคําพูดไม่กี่คําก็สามารถแบ่งแยกเขตแดนของพวกเรา สร้างความแตกแยกให้เหล่าพี่น้องจักรพรรดิถังไม่เพียงกล้าหาญเท่านั้น แต่วิธีการต่างๆ ยังเลวร้ายมากอีกด้วย”

 

ราชาชวอฟางก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา

 

ในฐานะราชาผู้ครองดินแดน พวกเขาต้องการให้อํานาจที่สืบต่อไปนั้นรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปรุ่นต่อรุ่น พวกเขาย่อมไม่ต้องการเห็นลูกหลานของพวกเขาถูกแบ่งแยกออก และท้ายที่สุดมันก็จะกลายไปเป็นของเล่นในมือขององค์จักรพรรดิถัง

 

“แล้วตอนนี้เราควรทําเช่นไร”

 

“จักรพรรดิถังเริ่มแบ่งแยกรากฐานของพวกเราแล้ว พวกเจ้ายังจะทําเป็นเฉยเมยอยู่ไหม?”

 

ราชาเป่ยถิงกล่าวออกมา อยากจะรู้ว่าราชาพระองค์อื่นคิดเห็นอย่างไร

 

“เป็นเรื่องปกติที่เราจะเฉยเมยไม่ได้”

 

ราชาฟ่านหยางส่ายหัวแล้วกล่าวคํา

 

“ทําไมเจ้าไม่สังหารจักรพรรดิถังองค์นี้เสียที ในเมื่อเขาดื้อดึงขนาดนี้ เราควรจะเปลี่ยนจักรพรรดิถังเป็นคนอื่นขึ้นมาแทน”

 

ราชาเจี้ยนหนานจู่ๆ ก็โพล่งขึ้นมา

 

คําพูดที่กล่าวออกมา

 

ราชาหัวเมืองที่เหลือก็รู้สึกว่าหัวใจตนกําลังเต้นอย่างเร่าร้อน

 

อย่างไรก็ตาม ราชาชวอฟางส่ายหัวแล้วกล่าวขึ้นว่า “ฆ่า แล้วได้อะไร? ข้าก็ไม่เห็นว่าจะมีใครไม่อิจฉาจักรพรรดิถังต่อให้สังหารทิ้งไปแล้วคนที่ขึ้นมาแทนจะเชื่อฟังหรือไม่

เล่า?”

 

“นอกจากนั้น คงจะมีบรรพบุรุษเก่าแก่ที่หลบซ่อนตัวอยู่ ในพระราชวังถัง การที่จะลอบฆ่าจักรพรรดิถังภายในวังหลวงย่อมไม่สมควร”

 

ราชาชวอฟางกล่าวออกมาเบาๆ

 

ไม่ว่าจะเป็นสองยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดอย่างหวู่หยาง แห่งหนานหมิงและอินจิ่วฝูที่ตกตายอยู่นอกวังหลวง และการหายตัวไปอย่างลึกลับของซีเหมินชุยเฉว่กับเย่กู้เฉิงภายในพระราชวังถังล้วนแสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของวังหลวงได้อย่างแท้จริง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+