เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 166 แผ่นดินที่กว้างกว่า นภาที่สูงขึ้น

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 166 แผ่นดินที่กว้างกว่า นภาที่สูงขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

Sign in Buddha’s palm 166 แผ่นดินที่กว้างกว่า นภาที่สูงขึ้น

 

[ขอแสดงความยินดี โฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สําเร็จ ได้รับ “ผลไม้แก่นปีศาจ” ]

 

เสียงจักรกลเย็นชาดังขึ้นที่หูของซูฉิน

 

“ผลไม้แก่นปีศาจ”

 

ใบหน้าของซูฉินดูมีความสุข

 

สิ่งที่เขายินดีไม่ได้เกี่ยวกับ “ผลไม้แก่นปีศาจ” แต่เป็นการคาดเดาของเขาที่ได้รับการยืนยันแล้ว

 

“แต่ก็เท่านั้น”

 

“แม้ว่าข้าจะลงชื่อเข้าใช้ในโลกถ้ำปีศาจได้ แต่จํานวนครั้งที่ลงชื่อเข้าใช้ได้ในแต่ละวันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป”

 

ความเสียใจเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน

 

พูดง่ายๆ ก็คือ ถึงแม้จิตวิญญาณแท้จริงจะถูกแบ่งออกเป็นสอง และสามารถลงชื่อได้ทั้งพระราชวังถังและในโลกของถ้ำปีศาจ

 

แต่จํานวนในการลงชื่อเข้าใช้ต่อหนึ่งวันยังคงได้แค่ครั้งเดียว

 

ตัวอย่างเช่น ถ้าลงชื่อเข้าใช้ที่โลกถ้ำปีศาจไปแล้วในวันนี้ หากต้องการจะลงชื่อเข้าใช้อีกที่พระราชวังถังก็จําจะต้องรอในวันพรุ่งนี้

 

และถ้าเลือกลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังถึงวันพรุ่งนี้ วันพรุ่งนี้ทั้งวันก็จะลงชื่อเข้าใช้ที่โลกถ้ำปีศาจไม่ได้อีก

 

ขณะที่ซูฉินกําลังคิดคะนึงอยู่นั้น เสียงฝีเท้าที่เดินอย่างระมัดระวังก็ดังขึ้น และปีศาจสาวทรงเสน่ห์ตนหนึ่งก็เข้ามาหา

 

“นายท่าน”

 

ปีศาจหญิงตนนั้นโค้งคํานับซูฉินด้วยความเคารพ

 

ปีศาจหญิงตนนี้มีชื่อว่าโม๋จี ก่อนหน้านี้นางเพิ่งถูกไล่ล่ามาและได้ซูฉินช่วยเหลือเอาไว้

 

แน่นอนว่าเหตุผลที่ซูฉินช่วยเหลือเอาไว้ไม่ใช่เพราะเห็นอกเห็นใจ แต่พลังปราณของโม๋จีนั้นไม่ธรรมดาเลย มีเอกลักษณ์ชัดเจน ในเมื่อซูฉินเข้ามาสู่โลกปีศาจเป็นครั้งแรก เขาก็แค่ต้องการปีศาจสักตนหนึ่งที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกถ้ำปีศาจที่กว้างขวางมากขึ้น

 

“เอาล่ะ ตอนนี้เมื่อข้าถาม ให้เจ้าตอบมา”

 

ซูฉินไม่ได้ลืมตาขึ้นมา เพียงนั่งขัดสมาธิใต้ต้นไม้ตายซากแล้วกล่าวออกมาเบาๆ

 

“นายท่าน เชิญถามได้”

 

โม๋จีกล่าวอย่างเชื่อฟัง

 

รูปลักษณ์ของโม๋จีไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษ แต่นางมีใบหน้าที่เหมือนกับจิ้งจอกและรูปร่างของนางก็เย้ายวนมาก โดยเฉพาะกลิ่นหอมอ่อนๆ บนร่างกายนางนั้นทรงเสน่ห์ยิ่ง ชายใดที่ได้เห็นก็คงแทบอดรนทนไม่ไหวที่จะกดนางแนบลงกับพื้น

 

“เจ้ารู้จักโลกมนุษย์หรือไม่?” ซูฉินถามขึ้นราวกับถามเรื่องทั่วๆ ไป

 

“โลกมนุษย์?” โม๋จีผงะไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวตอบทันทีว่า “ตอนนี้กระแสพลังปราณฉีภายในโลกมนุษย์อยู่ในจุดที่ค่อนข้างต่ำ หากนายท่านต้องการจะบุกไปยังโลกมนุษย์ ไม่ควรเป็นช่วงนี้”

 

เมื่อโม๋จีพูดถึงเรื่องนี้ นางก็หยุดไปครู่หนึ่งราวกับกําลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ “ทว่า เทพเจ้าปีศาจบางคนที่ปลีกตัวออกจากโลกนี้ก็ได้ทํานายเอาไว้ว่า ช่วงเวลาของกระแสปราณฉีที่ตกต่ำในโลกมนุษย์กําลังจะผ่านพ้นไป”

 

“ช่วงเวลาของกระแสปราณฉี?”

 

ซูฉินมองไปที่โม๋จี

 

“ถูกต้อง” โม๋จีพยักหน้าแล้วกล่าวต่อ “โลกมนุษย์ช่างกว้างใหญ่ไพศาล กระแสปราณฉีก็ขึ้นๆ ลงๆ ราวกับกระแสน้ำ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่กระแสปราณฉีภายในโลกมนุษย์นั้นเงียบนิ่ง และช่วงเวลานี้ปราณีในโลกมนุษย์ก็ลดต่ำลงมาก แม้แต่การดํารงอยู่ของตัวตนระดับราชาปีศาจก็น้อยมากด้วย”

 

“ถ้าผ่านช่วงเวลานี้ไปล่ะก็ ปราณีในโลกมนุษย์จะปะทุขึ้น นําความรุ่งโรจน์สดใสให้มาถึง ในตอนนั้นไม่ต้องพูดราชาปีศาจ แม้แต่เทพเจ้าปีศาจหรือตัวตนที่อยู่สูงกว่านั้น ก็จะทยอยผุดขึ้นทีละคนสองคน”

 

“และเทพเจ้าปีศาจที่อยู่ในส่วนลึกของดินแดนก็เตรียมที่จะบุกโลกมนุษย์ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง เพื่อยึดเอาต้นกําเนิดของโลกมนุษย์มา…”

 

โม๋จีรีบบอกทุกสิ่งที่ตนรู้

 

ความจริงแล้วข้อมูลนี้เป็นความลับแม้แต่ในโลกถ้ำปีศาจมีเพียงเผ่าปีศาจระดับราชาปีศาจเท่านั้นที่มีโอกาสได้รับรู้ แต่ตัวตนของโม๋จีนั้นค่อนข้างพิเศษ นางจึงรู้เรื่องนี้มาก่อนล่วงหน้า

 

“ช่วงตกต่ำ?” 

 

“โลกอันกว้างใหญ่?”

 

การแสดงออกของซูฉินยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป แต่ความคิดภายในที่เคยสงบนิ่ง เริ่มผันผวนขึ้นมาบ้าง 

 

แม้ว่าซูฉินจะพอคาดเดาบางอย่างได้อยู่ แต่เขาก็ไม่คิดว่าความจริงมันจะกลายเป็นเช่นนี้

 

โม๋จีโค้งคารวะเล็กน้อยแล้วยืนอยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้คิดอะไรมาก

 

สําหรับโม๋จี อย่างน้อยๆ ซูฉินก็เป็นถึงราชาปีศาจระดับสูง ข้อมูลที่นางพูดนั้นอาจจะเป็นความลับสําหรับปีศาจธรรมดา แต่ในสายตาราชาปีศาจตัวจริงเสียงจริง นี่ก็เป็นเพียงเรื่องทั่วไปที่ใครๆ ก็รู้

 

เหตุผลที่ซูฉินถามนางเกี่ยวกับเรื่องที่ใครๆ ก็รู้พวกนี้ คงเพื่อที่จะทดสอบคุณค่าในตัวนาง

 

“เจ้ารู้อะไรอย่างอื่นอีกไหม?”

 

หลังจากซูฉินเงียบไปชั่วครู่ เขาก็ถามต่อโดยไม่รีรอ

 

“ข้ารู้อะไรอีก…” โม๋จีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ถ้ามีกระแสพลังย้อนจากโลกอันกว้างใหญ่มาสู่โลกมนุษย์จริงๆ ดินแดนที่แต่ก่อนอยู่ในจุดตกต่ำอาจจะกลายเป็นศูนย์กลางของโลกอันกว้างใหญ่ก็ได้ ในเวลานั้นมหาอํานาจทั้งหลายในโลกจะแห่กันไปยังทวีปนั้น”

 

“ข้าเข้าใจแล้ว”

 

ความคิดภายในของซูฉินผันผวน แต่น้ำเสียงของเขายังคงราบเรียบนิ่งเฉย “เจ้าออกไปได้แล้วล่ะ”

 

“เจ้าคะ”

 

โม๋จีรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในใจ

 

เดิมที่นางคิดว่าซูฉินจะเก็บนางเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าซูฉินจะไม่ได้สนใจนางเลย นางบอกกล่าวไปตั้งมากมาย แต่เขาก็ไม่ได้ชายตามองเลยแม้แต่น้อย

 

ด้านใต้ของเมืองฉางอัน

 

โถงพระราชวังสูงตระหง่าน

 

ซูฉินกําลังนั่งขัดสมาธิ

 

“ผลไม้แก่นปีศาจ?”

 

ซูฉินเพียงแค่คิด ผลไม้ที่มีสีดําสนิท รูปลักษณ์คล้ายหัวใจก็มาปรากฏอยู่ในมือของเขา

 

คลังของระบบมีเพียงหนึ่งเดียว

 

ไม่เกี่ยวว่าซูฉินจะแบ่งจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกเป็นสองส่วนหรือไม่

 

ดังนั้นเมื่อซูฉินในโลกถ้ำปีศาจใส่ผลไม้แก่นปีศาจลงในคลังของระบบ ซูฉินที่อยู่ในพระราชวังถังก็สามารถน้ำผลไม้แก่นปีศาจออกมาจากพื้นที่ของระบบได้

 

อย่างไรก็ตามความสนใจของซูฉินไม่ได้อยู่ที่ผลไม้แก่นปีศาจเลยในยามนี้

 

“กระแสปราณฉี ?”

 

“มีทั้งยามที่กระแสสูงขึ้นและยามที่ลดต่ำลง?”

 

“โลกอันกว้างใหญ่กําลังจะเยื้องกรายเข้ามา?”

 

ความคิดของซูฉินเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

“หลายพันปีก่อน โลกถ้ำปีศาจเข้ามาบุกโลกมนุษย์แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว อาจเป็นเพราะตระหนักได้ว่าปราณฉีของโลกมนุษย์นั่นกําลังตกต่ำลง ไม่คุ้มค่ากับการบุกรุก…”

 

ซูฉินเหลือบมองแผ่นหินที่อยู่ไม่ไกล นึกคิดเกี่ยวกับพวกมัน

 

ในตอนนี้ ความสงสัยทั้งหมดที่มีในใจของซูฉินได้รับคําตอบแล้ว

 

เช่น ด้วยสภาพแวดล้อมสําหรับการบ่มเพาะภายในโลกถ้ำปีศาจนั้นอยู่เหนือกว่าโลกมนุษย์เสียอีก ทําไมยังต้องการจะบุกโลกมนุษย์?

 

บัดนี้ได้ค้นพบสาเหตุแล้ว ที่โลกถ้ำปีศาจต้องการจะบุกรุกนั้นไม่ใช่โลกมนุษย์ในขณะนี้ แต่เป็นโลกมนุษย์ในอนาคต ยามที่โลกอันกว้างใหญ่เยื้องกรายมาถึงแล้วนั่นเอง

 

ในเวลาต่อมา

 

ซูฉินก็หายตัวไปปรากฏอยู่บนท้องฟ้าเหนือเมืองฉางอัน

 

“เป็นเช่นนั้นจริงๆ”

 

ซูฉินหลับตาลงรับความรู้สึกอยู่ชั่วขณะหนึ่ง

 

“พลังฟ้าดินค่อยๆ เริ่มแข็งแกร่งขึ้น”

 

“ปริมาณของพลังฉีฟ้าดินก็มากขึ้น”

 

ซูฉินลืมตาและพึมพําอยู่กับตนเอง

 

พูดง่ายๆ ก็คือ โลกในทุกวันนี้กําลังค่อยๆ เหมาะสมกับการฝึกวิทยายุทธมากยิ่งขึ้น

 

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ระดับนภาชั้นที่ห้าทะลวงผ่านไปยังระดับนภาชนที่หกได้อย่างง่ายดาย ตอนนั้นข้าคิดว่าเป็นผลไม้สีแดงที่ส่งผลอย่างยอดเยี่ยม…”

 

ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อย

 

สภาพแวดล้อมพลังฟ้าดินเหมาะสมกับการฝึกยุทธ ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ส่วนนี้ไปก็ล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธและซูฉินก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น

 

และเพราะว่าซูฉินเป็นอรหันต์เพียงคนเดียวในยุคนี้ ผลประโยชน์ที่ได้จึงมากกว่าผู้ฝึกยุทธคนอื่นๆ

 

“ไม่ใช่แค่ปริมาณปราณฉีที่มีมากขึ้นเท่านั้น”

 

ซูฉินนึกอะไรบางอย่างออกร่างก็พุ่งทะยานสูงขึ้นไปอีก 

 

พุ่งขึ้นไป เกือบทะลวงนภาเก้าชั้นฟ้า ทะลวงผ่านทุกสิ่งอย่าง

 

จริงๆ ด้วยร่างกายปัจจุบันของซูฉินมันสามารถทนต่อการกัดเซาะของสายลมเก้าชั้นฟ้าได้แล้ว

 

แต่แค่หมื่นจ้างจากพื้นดินก็เพียงพอสําหรับซูฉินแล้วในการตรวจสอบบางอย่างแล้ว

 

ในขณะนี้ซูฉินกําลังเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองไปยังผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ จากนั้นจึงก้มมองผืนดินใต้ฝ่าเท้าของตน 

 

“ท้องฟ้าสูงขึ้น พื้นแผ่นดินก็กว้างใหญ่มากขึ้น”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 166 แผ่นดินที่กว้างกว่า นภาที่สูงขึ้น

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 166 แผ่นดินที่กว้างกว่า นภาที่สูงขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

Sign in Buddha’s palm 166 แผ่นดินที่กว้างกว่า นภาที่สูงขึ้น

 

[ขอแสดงความยินดี โฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สําเร็จ ได้รับ “ผลไม้แก่นปีศาจ” ]

 

เสียงจักรกลเย็นชาดังขึ้นที่หูของซูฉิน

 

“ผลไม้แก่นปีศาจ”

 

ใบหน้าของซูฉินดูมีความสุข

 

สิ่งที่เขายินดีไม่ได้เกี่ยวกับ “ผลไม้แก่นปีศาจ” แต่เป็นการคาดเดาของเขาที่ได้รับการยืนยันแล้ว

 

“แต่ก็เท่านั้น”

 

“แม้ว่าข้าจะลงชื่อเข้าใช้ในโลกถ้ำปีศาจได้ แต่จํานวนครั้งที่ลงชื่อเข้าใช้ได้ในแต่ละวันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป”

 

ความเสียใจเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน

 

พูดง่ายๆ ก็คือ ถึงแม้จิตวิญญาณแท้จริงจะถูกแบ่งออกเป็นสอง และสามารถลงชื่อได้ทั้งพระราชวังถังและในโลกของถ้ำปีศาจ

 

แต่จํานวนในการลงชื่อเข้าใช้ต่อหนึ่งวันยังคงได้แค่ครั้งเดียว

 

ตัวอย่างเช่น ถ้าลงชื่อเข้าใช้ที่โลกถ้ำปีศาจไปแล้วในวันนี้ หากต้องการจะลงชื่อเข้าใช้อีกที่พระราชวังถังก็จําจะต้องรอในวันพรุ่งนี้

 

และถ้าเลือกลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังถึงวันพรุ่งนี้ วันพรุ่งนี้ทั้งวันก็จะลงชื่อเข้าใช้ที่โลกถ้ำปีศาจไม่ได้อีก

 

ขณะที่ซูฉินกําลังคิดคะนึงอยู่นั้น เสียงฝีเท้าที่เดินอย่างระมัดระวังก็ดังขึ้น และปีศาจสาวทรงเสน่ห์ตนหนึ่งก็เข้ามาหา

 

“นายท่าน”

 

ปีศาจหญิงตนนั้นโค้งคํานับซูฉินด้วยความเคารพ

 

ปีศาจหญิงตนนี้มีชื่อว่าโม๋จี ก่อนหน้านี้นางเพิ่งถูกไล่ล่ามาและได้ซูฉินช่วยเหลือเอาไว้

 

แน่นอนว่าเหตุผลที่ซูฉินช่วยเหลือเอาไว้ไม่ใช่เพราะเห็นอกเห็นใจ แต่พลังปราณของโม๋จีนั้นไม่ธรรมดาเลย มีเอกลักษณ์ชัดเจน ในเมื่อซูฉินเข้ามาสู่โลกปีศาจเป็นครั้งแรก เขาก็แค่ต้องการปีศาจสักตนหนึ่งที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกถ้ำปีศาจที่กว้างขวางมากขึ้น

 

“เอาล่ะ ตอนนี้เมื่อข้าถาม ให้เจ้าตอบมา”

 

ซูฉินไม่ได้ลืมตาขึ้นมา เพียงนั่งขัดสมาธิใต้ต้นไม้ตายซากแล้วกล่าวออกมาเบาๆ

 

“นายท่าน เชิญถามได้”

 

โม๋จีกล่าวอย่างเชื่อฟัง

 

รูปลักษณ์ของโม๋จีไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษ แต่นางมีใบหน้าที่เหมือนกับจิ้งจอกและรูปร่างของนางก็เย้ายวนมาก โดยเฉพาะกลิ่นหอมอ่อนๆ บนร่างกายนางนั้นทรงเสน่ห์ยิ่ง ชายใดที่ได้เห็นก็คงแทบอดรนทนไม่ไหวที่จะกดนางแนบลงกับพื้น

 

“เจ้ารู้จักโลกมนุษย์หรือไม่?” ซูฉินถามขึ้นราวกับถามเรื่องทั่วๆ ไป

 

“โลกมนุษย์?” โม๋จีผงะไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวตอบทันทีว่า “ตอนนี้กระแสพลังปราณฉีภายในโลกมนุษย์อยู่ในจุดที่ค่อนข้างต่ำ หากนายท่านต้องการจะบุกไปยังโลกมนุษย์ ไม่ควรเป็นช่วงนี้”

 

เมื่อโม๋จีพูดถึงเรื่องนี้ นางก็หยุดไปครู่หนึ่งราวกับกําลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ “ทว่า เทพเจ้าปีศาจบางคนที่ปลีกตัวออกจากโลกนี้ก็ได้ทํานายเอาไว้ว่า ช่วงเวลาของกระแสปราณฉีที่ตกต่ำในโลกมนุษย์กําลังจะผ่านพ้นไป”

 

“ช่วงเวลาของกระแสปราณฉี?”

 

ซูฉินมองไปที่โม๋จี

 

“ถูกต้อง” โม๋จีพยักหน้าแล้วกล่าวต่อ “โลกมนุษย์ช่างกว้างใหญ่ไพศาล กระแสปราณฉีก็ขึ้นๆ ลงๆ ราวกับกระแสน้ำ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่กระแสปราณฉีภายในโลกมนุษย์นั้นเงียบนิ่ง และช่วงเวลานี้ปราณีในโลกมนุษย์ก็ลดต่ำลงมาก แม้แต่การดํารงอยู่ของตัวตนระดับราชาปีศาจก็น้อยมากด้วย”

 

“ถ้าผ่านช่วงเวลานี้ไปล่ะก็ ปราณีในโลกมนุษย์จะปะทุขึ้น นําความรุ่งโรจน์สดใสให้มาถึง ในตอนนั้นไม่ต้องพูดราชาปีศาจ แม้แต่เทพเจ้าปีศาจหรือตัวตนที่อยู่สูงกว่านั้น ก็จะทยอยผุดขึ้นทีละคนสองคน”

 

“และเทพเจ้าปีศาจที่อยู่ในส่วนลึกของดินแดนก็เตรียมที่จะบุกโลกมนุษย์ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง เพื่อยึดเอาต้นกําเนิดของโลกมนุษย์มา…”

 

โม๋จีรีบบอกทุกสิ่งที่ตนรู้

 

ความจริงแล้วข้อมูลนี้เป็นความลับแม้แต่ในโลกถ้ำปีศาจมีเพียงเผ่าปีศาจระดับราชาปีศาจเท่านั้นที่มีโอกาสได้รับรู้ แต่ตัวตนของโม๋จีนั้นค่อนข้างพิเศษ นางจึงรู้เรื่องนี้มาก่อนล่วงหน้า

 

“ช่วงตกต่ำ?” 

 

“โลกอันกว้างใหญ่?”

 

การแสดงออกของซูฉินยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป แต่ความคิดภายในที่เคยสงบนิ่ง เริ่มผันผวนขึ้นมาบ้าง 

 

แม้ว่าซูฉินจะพอคาดเดาบางอย่างได้อยู่ แต่เขาก็ไม่คิดว่าความจริงมันจะกลายเป็นเช่นนี้

 

โม๋จีโค้งคารวะเล็กน้อยแล้วยืนอยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้คิดอะไรมาก

 

สําหรับโม๋จี อย่างน้อยๆ ซูฉินก็เป็นถึงราชาปีศาจระดับสูง ข้อมูลที่นางพูดนั้นอาจจะเป็นความลับสําหรับปีศาจธรรมดา แต่ในสายตาราชาปีศาจตัวจริงเสียงจริง นี่ก็เป็นเพียงเรื่องทั่วไปที่ใครๆ ก็รู้

 

เหตุผลที่ซูฉินถามนางเกี่ยวกับเรื่องที่ใครๆ ก็รู้พวกนี้ คงเพื่อที่จะทดสอบคุณค่าในตัวนาง

 

“เจ้ารู้อะไรอย่างอื่นอีกไหม?”

 

หลังจากซูฉินเงียบไปชั่วครู่ เขาก็ถามต่อโดยไม่รีรอ

 

“ข้ารู้อะไรอีก…” โม๋จีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ถ้ามีกระแสพลังย้อนจากโลกอันกว้างใหญ่มาสู่โลกมนุษย์จริงๆ ดินแดนที่แต่ก่อนอยู่ในจุดตกต่ำอาจจะกลายเป็นศูนย์กลางของโลกอันกว้างใหญ่ก็ได้ ในเวลานั้นมหาอํานาจทั้งหลายในโลกจะแห่กันไปยังทวีปนั้น”

 

“ข้าเข้าใจแล้ว”

 

ความคิดภายในของซูฉินผันผวน แต่น้ำเสียงของเขายังคงราบเรียบนิ่งเฉย “เจ้าออกไปได้แล้วล่ะ”

 

“เจ้าคะ”

 

โม๋จีรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในใจ

 

เดิมที่นางคิดว่าซูฉินจะเก็บนางเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าซูฉินจะไม่ได้สนใจนางเลย นางบอกกล่าวไปตั้งมากมาย แต่เขาก็ไม่ได้ชายตามองเลยแม้แต่น้อย

 

ด้านใต้ของเมืองฉางอัน

 

โถงพระราชวังสูงตระหง่าน

 

ซูฉินกําลังนั่งขัดสมาธิ

 

“ผลไม้แก่นปีศาจ?”

 

ซูฉินเพียงแค่คิด ผลไม้ที่มีสีดําสนิท รูปลักษณ์คล้ายหัวใจก็มาปรากฏอยู่ในมือของเขา

 

คลังของระบบมีเพียงหนึ่งเดียว

 

ไม่เกี่ยวว่าซูฉินจะแบ่งจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกเป็นสองส่วนหรือไม่

 

ดังนั้นเมื่อซูฉินในโลกถ้ำปีศาจใส่ผลไม้แก่นปีศาจลงในคลังของระบบ ซูฉินที่อยู่ในพระราชวังถังก็สามารถน้ำผลไม้แก่นปีศาจออกมาจากพื้นที่ของระบบได้

 

อย่างไรก็ตามความสนใจของซูฉินไม่ได้อยู่ที่ผลไม้แก่นปีศาจเลยในยามนี้

 

“กระแสปราณฉี ?”

 

“มีทั้งยามที่กระแสสูงขึ้นและยามที่ลดต่ำลง?”

 

“โลกอันกว้างใหญ่กําลังจะเยื้องกรายเข้ามา?”

 

ความคิดของซูฉินเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

“หลายพันปีก่อน โลกถ้ำปีศาจเข้ามาบุกโลกมนุษย์แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว อาจเป็นเพราะตระหนักได้ว่าปราณฉีของโลกมนุษย์นั่นกําลังตกต่ำลง ไม่คุ้มค่ากับการบุกรุก…”

 

ซูฉินเหลือบมองแผ่นหินที่อยู่ไม่ไกล นึกคิดเกี่ยวกับพวกมัน

 

ในตอนนี้ ความสงสัยทั้งหมดที่มีในใจของซูฉินได้รับคําตอบแล้ว

 

เช่น ด้วยสภาพแวดล้อมสําหรับการบ่มเพาะภายในโลกถ้ำปีศาจนั้นอยู่เหนือกว่าโลกมนุษย์เสียอีก ทําไมยังต้องการจะบุกโลกมนุษย์?

 

บัดนี้ได้ค้นพบสาเหตุแล้ว ที่โลกถ้ำปีศาจต้องการจะบุกรุกนั้นไม่ใช่โลกมนุษย์ในขณะนี้ แต่เป็นโลกมนุษย์ในอนาคต ยามที่โลกอันกว้างใหญ่เยื้องกรายมาถึงแล้วนั่นเอง

 

ในเวลาต่อมา

 

ซูฉินก็หายตัวไปปรากฏอยู่บนท้องฟ้าเหนือเมืองฉางอัน

 

“เป็นเช่นนั้นจริงๆ”

 

ซูฉินหลับตาลงรับความรู้สึกอยู่ชั่วขณะหนึ่ง

 

“พลังฟ้าดินค่อยๆ เริ่มแข็งแกร่งขึ้น”

 

“ปริมาณของพลังฉีฟ้าดินก็มากขึ้น”

 

ซูฉินลืมตาและพึมพําอยู่กับตนเอง

 

พูดง่ายๆ ก็คือ โลกในทุกวันนี้กําลังค่อยๆ เหมาะสมกับการฝึกวิทยายุทธมากยิ่งขึ้น

 

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ระดับนภาชั้นที่ห้าทะลวงผ่านไปยังระดับนภาชนที่หกได้อย่างง่ายดาย ตอนนั้นข้าคิดว่าเป็นผลไม้สีแดงที่ส่งผลอย่างยอดเยี่ยม…”

 

ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อย

 

สภาพแวดล้อมพลังฟ้าดินเหมาะสมกับการฝึกยุทธ ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ส่วนนี้ไปก็ล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธและซูฉินก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น

 

และเพราะว่าซูฉินเป็นอรหันต์เพียงคนเดียวในยุคนี้ ผลประโยชน์ที่ได้จึงมากกว่าผู้ฝึกยุทธคนอื่นๆ

 

“ไม่ใช่แค่ปริมาณปราณฉีที่มีมากขึ้นเท่านั้น”

 

ซูฉินนึกอะไรบางอย่างออกร่างก็พุ่งทะยานสูงขึ้นไปอีก 

 

พุ่งขึ้นไป เกือบทะลวงนภาเก้าชั้นฟ้า ทะลวงผ่านทุกสิ่งอย่าง

 

จริงๆ ด้วยร่างกายปัจจุบันของซูฉินมันสามารถทนต่อการกัดเซาะของสายลมเก้าชั้นฟ้าได้แล้ว

 

แต่แค่หมื่นจ้างจากพื้นดินก็เพียงพอสําหรับซูฉินแล้วในการตรวจสอบบางอย่างแล้ว

 

ในขณะนี้ซูฉินกําลังเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองไปยังผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ จากนั้นจึงก้มมองผืนดินใต้ฝ่าเท้าของตน 

 

“ท้องฟ้าสูงขึ้น พื้นแผ่นดินก็กว้างใหญ่มากขึ้น”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+