เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 176 สองทางเลือก

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 176 สองทางเลือก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 176 สองทางเลือก

 

ภายในพระราชวังคุนหนิง

 

ทุกคนในตระกูลซูจ้องมองซูฉินอย่างเคร่งเครียด

 

แม้แต่จักรพรรดิถังเองก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะเขาไม่รู้ว่า “ทางเลือก” ของซูฉินที่ว่านั้นเกี่ยวกับอะไร และจะมีผลกระทบต่ออาณาจักรถังทั้งหมดรวมถึงทั่วทั้งทวีปหรือไม่?

 

ถ้าซูฉินยังเป็นพี่สามดังเดิม จักรพรรดิถังย่อมไม่เกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นในหัว แต่เวลานี้ซูฉินเป็นถึงอรหันต์ ตัวตนระดับเดียวกับตํานานยุทธ การกระทําหรือเพียงความคิดของตัวตนเช่นนี้สามารถสั่นคลอนโลกได้ทั้งใบ

 

“หนึ่ง หล่อเลี้ยงเติมชีวิต ข้าสามารถทําให้พวกเจ้าอยู่อย่างปลอดภัยมีชีวิตที่มั่นคง และอายุขัยอย่างน้อยก็ร้อยห้าสิบปี”

 

ซูฉินกวาดตามองทุกคนแล้วกล่าวคําเบาๆ

 

“อายุขัยหนึ่งร้อยห้าสิบปี?”

 

ซูชื่อหมินเบิกตากว้างอย่างมิอยากจะเชื่อ สองพี่น้องตระกูลซูอย่างซูเฉิงย่าวและซูเฉิงยู่ก็มีอาการเช่นเดียวกัน

 

รู้หรือไม่ผู้ฝึกยุทธบนโลกใบนี้สามารถยืดอายุขัยของตนเองออกไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นหากเข้าสู่ขอบเขตสามระดับบน

 

แม้แต่ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งก็สามารถมีอายุขัยมากกว่าร้อยห้าสิบปีไปนิดหน่อยเท่านั้น

 

แม้ว่าอายุขัยสูงสุดของยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งจะอยู่ที่สองร้อยปี แต่อายุขัยสูงสุดก็เป็นแค่อายุขัยสูงสุด อันที่จริง มียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งจํานวนไม่มากนัก ที่จะสามารถมีชีวิตอยู่ถึงอายุขัยสูงสุดดังที่กล่าวมาได้

 

อายุขัยของยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งส่วนใหญ่จะเกินร้อยห้าสิบปีไปนิดหน่อยเท่านั้น

 

ซูฉินสามารถทําให้พวกเขามีชีวิตอยู่ได้เกินหนึ่งร้อยห้าสิบปี ซึ่งเทียบเท่ากับการต่ออายุขัยของทุกคนให้อยู่ในระดับเดียวกันกับยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่ง วิธีที่ว่านั้นไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อนแม้แต่ตัวตนอย่างจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ถังเอง

 

ปฐมจักรพรรดิผู้ก่อตั้งอาณาจักรถังเมื่อห้าร้อยปีก่อนก็ยังไม่สามารถกระทําได้

 

“ พี่สาม นี่เป็นเรื่องจริงนั้นหรือ?”

 

จักรพรรดิถังถามด้วยน้ําเสียงที่สั่นเครือ

 

ชีวิตในฐานะจักรพรรดิถังนั้นก็คงจะอยู่ได้ไม่นานนัก หลี่เชิงเองก็เตรียมใจสําหรับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว แต่บัดนี้เขากลับได้ยินว่ามีวิธีที่ช่วยยืดอายุขัยออกไปได้ถึงหนึ่งร้อยห้าสิบปี เขาจะสงบจิตสงบใจต่อไปได้อย่างไร?

 

“ย่อมเป็นความจริง” ซูฉินพยักหน้า

 

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาที่ถึงระดับนภาชั้นที่เจ็ด เขาไม่อาจรับประกันได้ว่าทุกคนจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงสองร้อยปี แต่สําหรับร้อยห้าสิบปีนั้นง่ายมาก

 

ซูชื่อหมิน ซูเฉิงฮ่าวและซูเฉิงยู่ ทั้งสามคนปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้า ใครบ้างไม่อยากมีชีวิตที่ยืนยาวและเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่างๆในโลกให้มากกว่านี้? แม้ว่าจอมยุทธทั้งหลายจะอุทิศชีวิตให้กับการฝึกยุทธ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะต้องการมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น

 

มีเพียงซูเยวหยุนเท่านั้นที่มองไปยังซูฉินแล้วกระซิบถาม

 

“พี่สาม แล้วตัวเลือกที่สองคือสิ่งใดกัน?”

 

ขณะที่เสียงของซูเยว่หยุนเงียบลงไป

 

จักรพรรดิถังและคนอื่นๆ ก็ตื่นตัวขึ้นในทันใด

 

ใช่สิ

 

ซูฉินบอกว่ามันคือทางเลือก และเพราะว่ามันเป็นทางเลือก มันก็ต้องมีมากกว่าหนึ่งอย่าง

 

เมื่อคิดได้ดังนี้ทุกคนก็มองกลับไปที่ซูฉินอีกครั้ง

 

“มิผิด”

 

“เหลืออีกหนึ่งอย่าง”

 

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวคําช้าๆ “ข้าสามารถทําให้พวกเจ้าก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการฝึกยุทธ และอย่างน้อยก็สามารถเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสมบูรณ์ ส่วนเรื่องการเป็นตํานานยุทธนั้นก็อาจจะพอมีหวังอยู่บ้าง แม้แสงแห่งความหวังนั้นมันจะริบหรี่มากก็ตาม”

 

คําที่กล่าวออกมา

 

ทั่วทั้งพระราชวังคุนหนิงเงียบสนิท ทุกคนมองซูฉินด้วยความตกใจ

 

อย่างน้อยก็เป็นระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสมบูรณ์?

 

เป็นไปได้เยี่ยงไร?

 

ต้องรู้ก่อนว่านับตั้งแต่ที่อาณาจักรถังก่อตั้งขึ้นมากว่าห้าร้อยปี ยกเว้นก็แต่ปฐมจักรพรรดิ นับประสาอะไรกับตํานานยุทธ แม้แต่ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสมบูรณ์ก็ไม่เคยกําเนิดขึ้นมาก่อน

 

แต่ในขณะนี้ซูฉินรับประกันว่าพวกเขาสามารถกลายเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสมบูรณ์ได้ แม้แต่ขอบเขตตํานานยุทธก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

 

นี่มันเป็นเรื่องที่เกินจะเชื่อ

 

“ข้าอายุก็เกือบเจ็ดสิบปีแล้ว ปราณชีวิตและเลือดเนื้อเสื่อมถอยลงมาก เช่นนี้ยังจะสามารถไปถึงระดับชั้นที่หนึ่งงั้นหรือ?” ซูชื่อหมินพูดขึ้นมาหลังจากผ่านไประยะหนึ่งด้วยร่างที่สั่นเทา

 

ไม่ใช่ว่าชูชื่อหมินไม่เชื่อในตัวซูฉิน แต่สิ่งที่ซูฉินบอกมามันน่าเหลือเชื่อเกินไป

 

“ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่ได้”

 

“ทว่าตอนนี้”

 

เมื่อซูฉินกล่าวคําต่อไปนี้ ร่องรอยแห่งความหมายอันลึกซึ้งก็ฉายออกมาผ่านดวงตา “ฟ้าดินกําลังเปลี่ยนแปลงไปแล้ว”

 

ในการฝึกยุทธ หากต้องการจะกลายเป็นจอมยุทธผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริงก็ต้องตั้งใจฝึกฝนอย่างหนักตั้งแต่วัยเด็ก ขัดเกลาตัวเองทั้งกลางวันกลางคืน ฝึกฝนผ่านร้อนผ่านหนาว และได้รับคําแนะนําจากอาจารย์ หาวิธีฝึกฝนที่เหมาะสมกับตนเอง ในท้ายที่สุดหลังจากฝึกฝนนานหลายสิบปีก็อาจจะแตะขอบธรณีประตูของขอบเขตสามระดับบนได้

 

แต่นี่ก็เป็นขีดจํากัดของจอมยุทธส่วนใหญ่

 

การที่จะเป็นยอดยุทธในขอบเขตสามระดับบนได้นั้น โอกาส ความเข้าใจ สิ่งที่ถนัด และพรสวรรค์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

 

นี่คือเหตุผลที่ซูฉินไม่ได้ต้องการจะชี้แนะการฝึกฝนให้กับตระกูลชูตั้งแต่ที่แรก

 

เพราะมันไม่คุ้มค่า

 

แม้ว่าตระกูลซูจะทุ่มเทอย่างหนักหน่วง ละทิ้งความเพลินเพลินใจทั้งหมดและทุ่มเทกายใจทั้งหมดเพื่อการฝึกฝนอย่างมากที่สุดพวกเขาก็คงอยู่เพียงขอบเขตสามระดับบน และอาจจะก้าวเข้าสู่ระดับชั้นที่หนึ่งได้ด้วยความช่วยเหลือจากซูฉิน

 

แต่แล้วอย่างไรเล่า?

 

สุดท้ายก็มีชีวิตอยู่ได้เพียงร้อยกว่าปีเท่านั้น

 

ในกรณีนี้ทําไมไม่เลือกทางแรก เลิกฝึกวิทยายุทธ ไปสนใจสิ่งที่ตนชื่นชอบ จากนั้นซูฉินจะเป็นคนที่ช่วยยืดอายุขัยให้พวกเขาเอง และจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

นี่เป็นความคิดแรกของซูฉิน

 

แทนที่จะฝึกฝนอย่างหนักตลอดชีวิตแล้วสามารถอยู่ได้นานกว่าหนึ่งร้อยปี จะดีกว่าไหมที่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปด้วยและมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าหนึ่งร้อยปีไปด้วย

 

แต่ความคิดของซูฉินก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อกระแสปราณฉีกําลังจะกลับมา

 

ปราณี พลังฟ้าดิน ก็เปรียบเสมือนกระแสน้ําขึ้นน้ําลง

 

ซึ่งในยุคนี้ปราณฉีกําลังค่อยๆฟื้นตัวกลับมา

 

การฟื้นกลับมาของปราณฉีไม่ได้ทําให้พลังฟ้าดินค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่สภาพแวดล้อมทั้งหมดใต้ผืนฟ้าเหนือผืนดินนี้จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ ทําให้ง่ายต่อการฝึกฝนบ่มเพาะ

 

แน่นอนว่าบ่มเพาะง่ายดายกว่าเมื่อก่อนมาก และปฏิเสธไม่ได้ว่าในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทั้งความเร็วของการฝึกฝน รวมถึงปัญหาเรื่องคอขวดก็จะฟันฝ่าไปได้ง่ายดายมากขึ้น

 

ตัวอย่างเช่น ซูฉินในยุคก่อนที่ปราณญี่จะฟื้นคืน ต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็สี่สิบถึงห้าสิบปีถึงจะสําเร็จขั้นนภาชั้นที่เจ็ด แต่ตอนนี้ใช้เวลาเพียงแค่สองปีเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามที่ซูฉินทะลวงขั้นได้อย่างรวดเร็วไม่ใช่เพียงเพราะปราณีที่ฟื้นกลับคืนมา แต่เพราะเขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปในขณะนี้ ด้วยร่างกายที่มีพลังในระดับสูงที่สุด ภายใต้การฟื้นคืนของปราณฉีจึงเกิดประโยชน์สูงสุดต่อตัวเขา

 

แม้ว่าคนอื่นจะยังตามซูฉินไม่ทัน แต่ก็ยังได้รับผลประโยชน์เช่นเดียวกัน

 

หากการที่ตระกูลซูกลับมาสู่เส้นทางผู้ฝึกยุทธ ในช่วงที่ปราณฉีฟื้นกลับมา ควบคู่ไปกับการชี้แนะจากตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ดอย่างซูฉิน ด้วยพลังฉีฟ้าดินที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ก็พอจะมีแสงริบหรี่แห่งความหวัง ที่จะก้าวเข้าสู่ตํานานยุทธได้

 

แน่นอนว่าเป็นเพียงความหวังอันริบหรี่จริงๆ

 

“พี่สาม ท่านหมายความว่าอย่างไรหรือ เรื่องที่ฟ้าดินได้เปลี่ยนแปลงไป?” ซูเยวหยุนสงบใจลง แล้วมองไปที่ซูฉินด้วยความประหม่า

 

คนอื่นๆก็เฝ้าดูอย่างตั้งใจจนถึงกับกลั้นหายใจ

 

พวกเขาทั้งหมดเป็นคนฉลาดและตระหนักดีถึงความหมายที่น่าสะพรึงกลัวเบื้องหลังคําพูดของซูฉิน

 

ในอดีตเส้นทางในการฝึกยุทธของพวกเขามาถึงทางตันแล้ว

 

แต่ตอนนี้กลับเป็นไปได้

 

เหตุผลก็คือ “ฟ้าดินกําลังเปลี่ยนแปลงไป” ที่มาจากปากของซูฉิน

 

และการเปลี่ยนแปลงระดับใดกันที่สามารถทําให้เกิดผลกระทบดังที่กล่าวมาได้?

 

“อย่าเพิ่งไปพูดถึงเรื่องนั้นในตอนนี้เลย”

 

ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อย

 

คําอธิบายเรื่องการฟื้นคืนของกระแสปราณฉีนั้นซับซ้อนจนเกินไป และถึงแม้ซูฉินจะอธิบายตระกูลซูจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ไม่อาจแน่ใจได้

่ ่

“เอาล่ะ บอกสิ่งที่พวกเจ้าเลือกมาสิ”

 

ซูฉินกวาดตามองดูทุกคนแล้วกล่าวคําอย่างช้าๆ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 176 สองทางเลือก

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 176 สองทางเลือก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 176 สองทางเลือก

 

ภายในพระราชวังคุนหนิง

 

ทุกคนในตระกูลซูจ้องมองซูฉินอย่างเคร่งเครียด

 

แม้แต่จักรพรรดิถังเองก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะเขาไม่รู้ว่า “ทางเลือก” ของซูฉินที่ว่านั้นเกี่ยวกับอะไร และจะมีผลกระทบต่ออาณาจักรถังทั้งหมดรวมถึงทั่วทั้งทวีปหรือไม่?

 

ถ้าซูฉินยังเป็นพี่สามดังเดิม จักรพรรดิถังย่อมไม่เกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นในหัว แต่เวลานี้ซูฉินเป็นถึงอรหันต์ ตัวตนระดับเดียวกับตํานานยุทธ การกระทําหรือเพียงความคิดของตัวตนเช่นนี้สามารถสั่นคลอนโลกได้ทั้งใบ

 

“หนึ่ง หล่อเลี้ยงเติมชีวิต ข้าสามารถทําให้พวกเจ้าอยู่อย่างปลอดภัยมีชีวิตที่มั่นคง และอายุขัยอย่างน้อยก็ร้อยห้าสิบปี”

 

ซูฉินกวาดตามองทุกคนแล้วกล่าวคําเบาๆ

 

“อายุขัยหนึ่งร้อยห้าสิบปี?”

 

ซูชื่อหมินเบิกตากว้างอย่างมิอยากจะเชื่อ สองพี่น้องตระกูลซูอย่างซูเฉิงย่าวและซูเฉิงยู่ก็มีอาการเช่นเดียวกัน

 

รู้หรือไม่ผู้ฝึกยุทธบนโลกใบนี้สามารถยืดอายุขัยของตนเองออกไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นหากเข้าสู่ขอบเขตสามระดับบน

 

แม้แต่ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งก็สามารถมีอายุขัยมากกว่าร้อยห้าสิบปีไปนิดหน่อยเท่านั้น

 

แม้ว่าอายุขัยสูงสุดของยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งจะอยู่ที่สองร้อยปี แต่อายุขัยสูงสุดก็เป็นแค่อายุขัยสูงสุด อันที่จริง มียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งจํานวนไม่มากนัก ที่จะสามารถมีชีวิตอยู่ถึงอายุขัยสูงสุดดังที่กล่าวมาได้

 

อายุขัยของยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งส่วนใหญ่จะเกินร้อยห้าสิบปีไปนิดหน่อยเท่านั้น

 

ซูฉินสามารถทําให้พวกเขามีชีวิตอยู่ได้เกินหนึ่งร้อยห้าสิบปี ซึ่งเทียบเท่ากับการต่ออายุขัยของทุกคนให้อยู่ในระดับเดียวกันกับยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่ง วิธีที่ว่านั้นไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อนแม้แต่ตัวตนอย่างจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ถังเอง

 

ปฐมจักรพรรดิผู้ก่อตั้งอาณาจักรถังเมื่อห้าร้อยปีก่อนก็ยังไม่สามารถกระทําได้

 

“ พี่สาม นี่เป็นเรื่องจริงนั้นหรือ?”

 

จักรพรรดิถังถามด้วยน้ําเสียงที่สั่นเครือ

 

ชีวิตในฐานะจักรพรรดิถังนั้นก็คงจะอยู่ได้ไม่นานนัก หลี่เชิงเองก็เตรียมใจสําหรับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว แต่บัดนี้เขากลับได้ยินว่ามีวิธีที่ช่วยยืดอายุขัยออกไปได้ถึงหนึ่งร้อยห้าสิบปี เขาจะสงบจิตสงบใจต่อไปได้อย่างไร?

 

“ย่อมเป็นความจริง” ซูฉินพยักหน้า

 

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาที่ถึงระดับนภาชั้นที่เจ็ด เขาไม่อาจรับประกันได้ว่าทุกคนจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงสองร้อยปี แต่สําหรับร้อยห้าสิบปีนั้นง่ายมาก

 

ซูชื่อหมิน ซูเฉิงฮ่าวและซูเฉิงยู่ ทั้งสามคนปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้า ใครบ้างไม่อยากมีชีวิตที่ยืนยาวและเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่างๆในโลกให้มากกว่านี้? แม้ว่าจอมยุทธทั้งหลายจะอุทิศชีวิตให้กับการฝึกยุทธ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะต้องการมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น

 

มีเพียงซูเยวหยุนเท่านั้นที่มองไปยังซูฉินแล้วกระซิบถาม

 

“พี่สาม แล้วตัวเลือกที่สองคือสิ่งใดกัน?”

 

ขณะที่เสียงของซูเยว่หยุนเงียบลงไป

 

จักรพรรดิถังและคนอื่นๆ ก็ตื่นตัวขึ้นในทันใด

 

ใช่สิ

 

ซูฉินบอกว่ามันคือทางเลือก และเพราะว่ามันเป็นทางเลือก มันก็ต้องมีมากกว่าหนึ่งอย่าง

 

เมื่อคิดได้ดังนี้ทุกคนก็มองกลับไปที่ซูฉินอีกครั้ง

 

“มิผิด”

 

“เหลืออีกหนึ่งอย่าง”

 

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวคําช้าๆ “ข้าสามารถทําให้พวกเจ้าก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการฝึกยุทธ และอย่างน้อยก็สามารถเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสมบูรณ์ ส่วนเรื่องการเป็นตํานานยุทธนั้นก็อาจจะพอมีหวังอยู่บ้าง แม้แสงแห่งความหวังนั้นมันจะริบหรี่มากก็ตาม”

 

คําที่กล่าวออกมา

 

ทั่วทั้งพระราชวังคุนหนิงเงียบสนิท ทุกคนมองซูฉินด้วยความตกใจ

 

อย่างน้อยก็เป็นระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสมบูรณ์?

 

เป็นไปได้เยี่ยงไร?

 

ต้องรู้ก่อนว่านับตั้งแต่ที่อาณาจักรถังก่อตั้งขึ้นมากว่าห้าร้อยปี ยกเว้นก็แต่ปฐมจักรพรรดิ นับประสาอะไรกับตํานานยุทธ แม้แต่ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสมบูรณ์ก็ไม่เคยกําเนิดขึ้นมาก่อน

 

แต่ในขณะนี้ซูฉินรับประกันว่าพวกเขาสามารถกลายเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสมบูรณ์ได้ แม้แต่ขอบเขตตํานานยุทธก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

 

นี่มันเป็นเรื่องที่เกินจะเชื่อ

 

“ข้าอายุก็เกือบเจ็ดสิบปีแล้ว ปราณชีวิตและเลือดเนื้อเสื่อมถอยลงมาก เช่นนี้ยังจะสามารถไปถึงระดับชั้นที่หนึ่งงั้นหรือ?” ซูชื่อหมินพูดขึ้นมาหลังจากผ่านไประยะหนึ่งด้วยร่างที่สั่นเทา

 

ไม่ใช่ว่าชูชื่อหมินไม่เชื่อในตัวซูฉิน แต่สิ่งที่ซูฉินบอกมามันน่าเหลือเชื่อเกินไป

 

“ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่ได้”

 

“ทว่าตอนนี้”

 

เมื่อซูฉินกล่าวคําต่อไปนี้ ร่องรอยแห่งความหมายอันลึกซึ้งก็ฉายออกมาผ่านดวงตา “ฟ้าดินกําลังเปลี่ยนแปลงไปแล้ว”

 

ในการฝึกยุทธ หากต้องการจะกลายเป็นจอมยุทธผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริงก็ต้องตั้งใจฝึกฝนอย่างหนักตั้งแต่วัยเด็ก ขัดเกลาตัวเองทั้งกลางวันกลางคืน ฝึกฝนผ่านร้อนผ่านหนาว และได้รับคําแนะนําจากอาจารย์ หาวิธีฝึกฝนที่เหมาะสมกับตนเอง ในท้ายที่สุดหลังจากฝึกฝนนานหลายสิบปีก็อาจจะแตะขอบธรณีประตูของขอบเขตสามระดับบนได้

 

แต่นี่ก็เป็นขีดจํากัดของจอมยุทธส่วนใหญ่

 

การที่จะเป็นยอดยุทธในขอบเขตสามระดับบนได้นั้น โอกาส ความเข้าใจ สิ่งที่ถนัด และพรสวรรค์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

 

นี่คือเหตุผลที่ซูฉินไม่ได้ต้องการจะชี้แนะการฝึกฝนให้กับตระกูลชูตั้งแต่ที่แรก

 

เพราะมันไม่คุ้มค่า

 

แม้ว่าตระกูลซูจะทุ่มเทอย่างหนักหน่วง ละทิ้งความเพลินเพลินใจทั้งหมดและทุ่มเทกายใจทั้งหมดเพื่อการฝึกฝนอย่างมากที่สุดพวกเขาก็คงอยู่เพียงขอบเขตสามระดับบน และอาจจะก้าวเข้าสู่ระดับชั้นที่หนึ่งได้ด้วยความช่วยเหลือจากซูฉิน

 

แต่แล้วอย่างไรเล่า?

 

สุดท้ายก็มีชีวิตอยู่ได้เพียงร้อยกว่าปีเท่านั้น

 

ในกรณีนี้ทําไมไม่เลือกทางแรก เลิกฝึกวิทยายุทธ ไปสนใจสิ่งที่ตนชื่นชอบ จากนั้นซูฉินจะเป็นคนที่ช่วยยืดอายุขัยให้พวกเขาเอง และจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

นี่เป็นความคิดแรกของซูฉิน

 

แทนที่จะฝึกฝนอย่างหนักตลอดชีวิตแล้วสามารถอยู่ได้นานกว่าหนึ่งร้อยปี จะดีกว่าไหมที่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปด้วยและมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าหนึ่งร้อยปีไปด้วย

 

แต่ความคิดของซูฉินก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อกระแสปราณฉีกําลังจะกลับมา

 

ปราณี พลังฟ้าดิน ก็เปรียบเสมือนกระแสน้ําขึ้นน้ําลง

 

ซึ่งในยุคนี้ปราณฉีกําลังค่อยๆฟื้นตัวกลับมา

 

การฟื้นกลับมาของปราณฉีไม่ได้ทําให้พลังฟ้าดินค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่สภาพแวดล้อมทั้งหมดใต้ผืนฟ้าเหนือผืนดินนี้จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ ทําให้ง่ายต่อการฝึกฝนบ่มเพาะ

 

แน่นอนว่าบ่มเพาะง่ายดายกว่าเมื่อก่อนมาก และปฏิเสธไม่ได้ว่าในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทั้งความเร็วของการฝึกฝน รวมถึงปัญหาเรื่องคอขวดก็จะฟันฝ่าไปได้ง่ายดายมากขึ้น

 

ตัวอย่างเช่น ซูฉินในยุคก่อนที่ปราณญี่จะฟื้นคืน ต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็สี่สิบถึงห้าสิบปีถึงจะสําเร็จขั้นนภาชั้นที่เจ็ด แต่ตอนนี้ใช้เวลาเพียงแค่สองปีเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามที่ซูฉินทะลวงขั้นได้อย่างรวดเร็วไม่ใช่เพียงเพราะปราณีที่ฟื้นกลับคืนมา แต่เพราะเขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปในขณะนี้ ด้วยร่างกายที่มีพลังในระดับสูงที่สุด ภายใต้การฟื้นคืนของปราณฉีจึงเกิดประโยชน์สูงสุดต่อตัวเขา

 

แม้ว่าคนอื่นจะยังตามซูฉินไม่ทัน แต่ก็ยังได้รับผลประโยชน์เช่นเดียวกัน

 

หากการที่ตระกูลซูกลับมาสู่เส้นทางผู้ฝึกยุทธ ในช่วงที่ปราณฉีฟื้นกลับมา ควบคู่ไปกับการชี้แนะจากตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ดอย่างซูฉิน ด้วยพลังฉีฟ้าดินที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ก็พอจะมีแสงริบหรี่แห่งความหวัง ที่จะก้าวเข้าสู่ตํานานยุทธได้

 

แน่นอนว่าเป็นเพียงความหวังอันริบหรี่จริงๆ

 

“พี่สาม ท่านหมายความว่าอย่างไรหรือ เรื่องที่ฟ้าดินได้เปลี่ยนแปลงไป?” ซูเยวหยุนสงบใจลง แล้วมองไปที่ซูฉินด้วยความประหม่า

 

คนอื่นๆก็เฝ้าดูอย่างตั้งใจจนถึงกับกลั้นหายใจ

 

พวกเขาทั้งหมดเป็นคนฉลาดและตระหนักดีถึงความหมายที่น่าสะพรึงกลัวเบื้องหลังคําพูดของซูฉิน

 

ในอดีตเส้นทางในการฝึกยุทธของพวกเขามาถึงทางตันแล้ว

 

แต่ตอนนี้กลับเป็นไปได้

 

เหตุผลก็คือ “ฟ้าดินกําลังเปลี่ยนแปลงไป” ที่มาจากปากของซูฉิน

 

และการเปลี่ยนแปลงระดับใดกันที่สามารถทําให้เกิดผลกระทบดังที่กล่าวมาได้?

 

“อย่าเพิ่งไปพูดถึงเรื่องนั้นในตอนนี้เลย”

 

ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อย

 

คําอธิบายเรื่องการฟื้นคืนของกระแสปราณฉีนั้นซับซ้อนจนเกินไป และถึงแม้ซูฉินจะอธิบายตระกูลซูจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ไม่อาจแน่ใจได้

่ ่

“เอาล่ะ บอกสิ่งที่พวกเจ้าเลือกมาสิ”

 

ซูฉินกวาดตามองดูทุกคนแล้วกล่าวคําอย่างช้าๆ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+