เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 183 หนึ่งความคิด พิชิตหกอาณาจักร

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 183 หนึ่งความคิด พิชิตหกอาณาจักร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 183 หนึ่งความคิด พิชิตหกอาณาจักร

 

ภายในโถงชีวิตนิรันดร์

 

จักรพรรดิถังมองดูเหรียญตราทั้งหกที่อยู่เบื้องหน้าของตน

 

เหรียญตราทั้งหกนั้นดูธรรมดามาก พื้นผิวเองก็หยาบกระด้าง ไม่พบความผิดแปลกใดๆ

 

“พี่สามบอกว่าถ้าทั้งหกอาณาจักรไม่ยอมจํานน ก็ให้นําเหรียญตราพวกนี้ออกมา”

 

“แต่ข้าไม่เห็นความพิเศษใดๆ บนเหรียญตราทั้งหกนี้เลย”

 

จักรพรรดิถังมองดูพวกมันอยู่นาน แต่ก็ยังไม่เข้าใจอะไรนัก ดังนั้นจึงได้เลิกพินิจไป

 

จักรพรรดิถังเชื่อมั่นในซูฉินอย่างเต็มเปี่ยม ในเมื่อซูฉินกล่าวเช่นนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องไถ่ถามอีกต่อไป

 

“มานี่หน่อย”

 

จักรพรรดิถังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น

 

“ฝ่าบาท”

 

หลิวกงกงโค้งคํานับแล้วเดินเข้ามาหา

 

“เจ้าและอีกห้าคนที่เหลือจงพกเหรียญตราทั้งหกนี้ไปยังหกอาณาจักร และมอบทางเลือกสองทางให้แก่พวกเขา” จักรพรรดิถังเอ่ยด้วยท่าที่เคร่งขรึม

 

“ทางเลือกสองทาง?”

 

หลิวกงกงเงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิถังด้วยความสงสัย

 

“ถูกต้อง”

 

“จะยอมจํานนหรือตกตาย”

 

“หากอาณาจักรใดในทั้งหกอาณาจักรไม่ตกลง ให้พวกเจ้านําเหรียญตราออกมาใช้

 

จักรพรรดิถังกล่าวตามคําพูดของซูฉินโดยไม่มีตกหล่น

 

“รับพระบัญชา”

 

หลิวกงกงคิดหนัก

 

แม้เขาจะไม่รู้ทําไมท่าทีของจักรพรรดิถังถึงได้แข็งกร้าวนัก ไม่สนใจไยดีเงื่อนไขที่ทางนั้นเสนอ และมอบทางเลือกแค่สองทางออกมาเช่นนี้..

 

อันที่จริง ในความเห็นของหลิวกงกง สองทางเลือกนี้ไม่ค่อยจูงใจเท่าใดนัก ไม่ใช่ว่ามันจะไปทําให้ทั้งหกอาณาจักรโกรธเคืองหรอกหรือ

 

แต่ในฐานะขุนนางข้าราชบริพารคนหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะขัดพระบรมราชโองการไม่นานนัก

 

หลิวกงกงก็เรียกขันที่มาอีกห้าคน

 

“พวกเจ้าทุกคนเข้าใจความหมายของพระกระแสรับสั่งแล้วใช่ไหม” หลิวกงกงเหลือบมองขันที่ทั้งห้าพร้อมทั้งกล่าวถาม

 

“ในการไปเยือนหกอาณาจักรในครั้งนี้ ความตายเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ความยิ่งใหญ่ของต้าถังนับเป็นเรื่องสําคัญ ไม่ว่าจะถูกหกอาณาจักรข่มเหงอย่างไร พวกเราก็ไม่สามารถถอยกลับได้”

 

หลิวกงกงกล่าวออกไปทุกถ้อยคํา

 

ในการเดินทางไปยังหกอาณาจักรคราครั้งนี้ หลิวกงกงได้ยอมรับความตายเสมือนเป็นบ้านอีกหลังไปแล้ว

 

แม้ว่าเขาจะเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่ง แต่ถ้าเข้าไปภายในใจกลางของหกอาณาจักรและมีจุดมุ่งหมายที่แข็งกร้าว ให้ทางเลือกที่ไร้ซึ่งความเมตตา ย่อมทําให้ทั้งหกอาณาจักรโกรธเคืองเป็นเรื่องธรรมดา

 

แม้ว่าทั้งหกอาณาจักรจะไม่กล้าเผชิญหน้ากับอาณาจักรถังเพื่อระบายความโกรธเกรี้ยว แต่ก็คงจะไม่มีปัญหาใดที่จะลงมือกับยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งอย่างพวกเขา

 

ขันที่อีกห้าคนที่เหลือต่างมองหน้ากันด้วยความคิดที่หนักอึ้งเช่นเดียวกัน

 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้พวกเขาไม่ได้มีความคิดที่จะปฏิเสธ ในฐานะขันทีภายในรั้วในวัง ชีวิตและความตายของพวกเขาขึ้นอยู่กับองค์จักรพรรดิ เมื่อพระองค์ต้องการให้อยู่ ย่อมอยู่ได้ แต่หากฝ่าบาทต้องการให้ตายก็ไม่มีใครกล้าที่จะมีชีวิตต่อไป

 

“รับทราบ

 

“แต่ละคนจะมีเหรียญตราคนละอัน หากทั้งหกอาณาจักรปฏิเสธที่จะยอมจํานน ให้นําเหรียญตราเหล่านี้ออกมาตามพระราชดํารัส หลิวกงกงได้มอบเหรียญตราให้ขันที่ทั้งห้าตามลําดับ และสุดท้ายหลังจากรับเหรียญตรากันคนละอันแล้ว ต่างก็ออกจากพระราชวัง ทยอยเดินทางไปยังหกอาณาจักรหนานหมิง

 

ณ พระราชวัง

 

จักรพรรดิหมิงนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร สีหน้าปรากฏความไม่แน่ใจ

 

“เจ้าว่า คนจากเมืองฉางอันจะยอมรับเงื่อนไขของข้าหรือไม่?” จักรพรรดิหมิงขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยถาม

 

“ทูลฝ่าบาท”

 

“ก็แค่สัญญาเพียงฉบับเดียว หนานหมิงของเราอยู่ไกลออกมาทางตะวันออกเฉียงใต้ หากฝ่าบาทไม่ประสงค์จะจํานน ก็ต้องใช้เวลากว่ายี่สิบปีในการปราบดินแดนหนานหมิงได้”

 

“สัญญานี้แลกกับการเสียเวลาไปกว่ายี่สิบปี อาณาจักรถังจะไม่ยินยอมได้เช่นไร?”

 

ผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อแพรกล่าวด้วยความเคารพ

 

“ข้าก็ว่าแบบนั้น”

 

จักรพรรดิหมิงพยักหน้าเล็กน้อย

 

สิ่งที่เขาต้องการก็แค่คําสัญญาจากเมืองฉางอัน มันไม่ได้มีอะไรมากจนเกินไป ไม่มีเหตุผลที่อาณาจักรถังจะไม่ตกลง

 

ในเวลานั้น มีขุนนางอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า “แล้วถ้าอีกฝ่ายไม่ตกลงล่ะพ่ะย่ะค่ะ?”

 

คําที่กล่าวออกมา

 

ภายในท้องพระโรงก็เงียบลงในทันใด

 

แม้แต่ใบหน้าของจักรพรรดิหมิงก็ดําคล้ํามืดมน

 

“ไม่ตกลง?”

 

“ข้ายอมมามากเกินพอแล้ว”

 

จักรพรรดิหมิงชําเลืองมองผู้คนที่เฝ้ามองมา “ถ้าอาณาจักรถังไม่เห็นด้วยจริงๆ ข้าก็คงต้องยอมหักดีกว่ายอมงอ คิดการใหญ่ภายหลัง หลบหนีไปอยู่ต่างดินแดน ไม่อยู่มันแล้วบนแผ่นดินใหญ่แห่งนี้”

 

“มีเกาะน้อยใหญ่นับไม่ถ้วน และด้วยทักษะการเดินเรือของอาณาจักรหนานหมิง การพิชิตเกาะเหล่านั้นและยืนหยัดขึ้นใหม่ด้วยตัวพวกเราเองมันจะยากแค่ไหนกันเชียว?”

 

คําพูดของจักรพรรดิหมิงท่วมท้นไปด้วยพลังอํานาจที่แข็งแกร่ง

 

หนานหมิงอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลและมักจะส่งเรือออกไปสํารวจทะเลอยู่เสมอ พวกเขาเข้าใจสถานการณ์ในต่างดินแดนอยู่บ้าง

 

แม้อาณาจักรถังจะให้กําเนิดตํานานยุทธขึ้นมา แต่หนานหมิงก็ไม่เคยยอมแพ้

 

ผลลัพธ์เลวร้ายที่สุดก็แค่ต้องละทิ้งดินแดนอาณาจักรหนานหมิงและหนีไปอยู่ต่างดินแดน

 

แน่นอนว่าหากจักรพรรดิหมิงเลือกได้ เขาจะไม่เลือกเส้นทางนี้ อย่างไรเสียชีวิตในต่างแดนก็ไม่ได้มีความสุขเท่าแผ่นดินใหญ่

 

ในตอนนั้นเอง

 

ทหารองครักษ์ก็รีบเดินเข้ามาภายในท้องพระโรง กระซิบคําที่ข้างหูขององค์จักรพรรดิหมิง

 

“หม?”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจักรพรรดิหมิง และเขาก็มองไปยังขุนนางคนอื่นๆ ที่อยู่ในท้องพระโรง “ทูตจากราชวงศ์ถังได้มาอยู่ที่นี่แล้ว”

 

เมื่อข้าราชบริพารทั้งหลายได้ยินถ้อยคําเหล่านี้ ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง

 

อาณาจักรถังส่งทูตมายังหนานหมิงในเวลานี้ เห็นทีจะมีเพียงเรื่องนั้นเรื่องเดียว

 

“ให้เขาเข้ามา”

 

จักรพรรดิหมิงกล่าวคําด้วยเสียงเบา

 

หลังจากนั้นไม่นาน

 

หลิวกงกงก็เดินเข้ามาภายในท้องพระโรง

 

“จักรพรรดิหมิง”

 

หลิวกงกงยื่นมือมาด้านหน้าคารวะจักรพรรดิหมิงเล็กน้อย ไม่ได้เคารพหรือนอบน้อมจนเกินไป

 

“จักรพรรดิถังให้คําตอบมาว่าอย่างไรบ้าง?”

 

จักรพรรดิหมิงขี้เกียจที่จะพูดคุยเรื่องไร้สาระ จึงถามเข้าประเด็นตรงๆ

 

“ฝ่าบาททรงมีกระแสรับสั่งบอกข้ารับใช้เฒ่าผู้นี้มาว่า…” หลิวกงกงยืดตัวตั้งตรง มองไปที่จักรพรรดิหมิง

 

“โอ้ว”

 

จักรพรรดิหมิงมองหลิวกงกงด้วยความสนใจ

 

ขุนนางคนอื่นๆ ก็เงี่ยหูสอดรู้สอดเห็น

 

“เลือกว่าจะยอมจํานน…”

 

หลิวกงกงมองไปรอบข้าง “หรือตาย”

 

เมื่อเสียงของหลิวกงกงเงียบไป

 

ทั้งท้องพระโรงเงียบสนิท

 

แรงกดดันอันแสนน่ากลัวปกคลุมไปทั่วทั้งโถง

 

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่

 

จักรพรรดิหมิงค่อยๆลุกขึ้น มองลงไปยังหลิวกงกง และกระแทกเสียงทีละคํา “ดี! ดีมาก! ไม่นึกเลยว่าจักรพรรดิถังจะกล้าดูถูกข้าเช่นนี้”

 

จักรพรรดิหมิงอยู่ในอารมณ์โกรธ

 

ถ้าจักรพรรดิถังปฏิเสธโดยใช้เล่ห์กลอย่างแนบเนียน เขาก็คงจะไม่โกรธมากนัก

 

“ในเมื่อจักรพรรดิถังไม่เข้าใจว่าอะไรดีไม่ดี ข้าก็จะไม่ไว้หน้าอีกแล้ว” จักรพรรดิหมิงเค้นเสียงออกมาตามไรฟัน “กวาดทองคําและเงินคงคลังทั้งหมดออกมา เอาสมบัติทุกชิ้นไปด้วย ติดตามข้าไปต่างดินแดน”

 

เมื่อจักรพรรดิถังนําทองคําและเงินทั้งหมดภายในเมืองหนานหมิงไป มันย่อมสร้างความโกลาหลอย่างมิอาจเลี่ยง แต่ในขณะนี้จักรพรรดิหมิงไม่สามารถดูแลสิ่งของเหล่านี้ได้อีกต่อไปแล้ว

 

“ส่วนเจ้า?”

 

จักรพรรดิหมิงมองหลิวกงกงอย่างเย็นชา “จงเข้ามา สังหารมันทิ้งซะ”

 

เสียงของจักรพรรดิหมิงเพิ่งจะดับไป

 

ร่างเงาหลายคนก็พุ่งเข้าหาหลิวกงกงอย่างเงียบเชียบ

 

กลิ่นอายซ่อนเร้นที่อยู่ในร่างของคนเหล่านี้ เหนือกว่าระดับชั้นที่หนึ่งไปมาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุด

 

นับตั้งแต่ปราณฉีฟื้นคืน ไม่เพียงแต่พระราชวังถังเท่านั้นที่มียอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดมากขึ้น แต่ยอดยุทธจํานวนมากก็ถือกําเนิดขึ้นบนโลกนี้ด้วยเช่นกัน

 

“พวกเจ้า?!”

 

ใบหน้าของหลิวกงกงซีดเซียว

 

เขาเป็นเพียงยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งเท่านั้น จะหยุดระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดได้อย่างไร

 

ขณะที่หลิวกงกงกําลังจะเริ่มต่อสู้เป็นตาย เขาก็นึกถึงเหรียญตราที่พกติดตัวมาด้วย

 

จักรพรรดิถังได้บอกให้เขานําเหรียญออกมาหลังจากที่หนานหมิงปฏิเสธ และตอนนี้ก็ชัดเจนว่าคงถึงเวลานั้นแล้ว

 

แม้ว่าหลิวกงกงจะไม่เข้าใจว่าเหรียญตราธรรมดาๆนี้จะสามารถป้องกันยอดยุทธผู้ทรงพลังอํานาจภายในอาณาจักรหนานหมิงได้เช่นไร แต่หลิวกงกงก็ยังทําตามคําสั่งของจักรพรรดิถัง

 

ในเวลาต่อมา

 

หลิวกงกงหยิบเหรียญออกมา ถือเอาไว้ราวกับมันเป็นสมบัติแสนล้ําค่า ชูขึ้นเหนือหัว

 

“อยู่ต่อหน้าความตายเช่นนี้ คิดว่าเหรียญตราชิ้นเดียวนั่น สามารถช่วยชีวิตเจ้าได้อย่างนั้นหรือ?”

 

ดวงหน้าของจักรพรรดิหมิงมีแววเยาะเย้ยอยู่ กําลังวาดหวังว่าจะได้เห็นหลิวกงกงกลายเป็นก้อนเนื้อด้วยน้ํามือของยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดของอาณาจักรหนานหมิง

 

หวึ่ง!!

 

เหรียญตราในมือของหลิวกงกงพลันสว่างไสวราวกับดวงตะวันอันศักดิ์สิทธิ์บนฟากฟ้า แสงไฟส่องไปทั่วพระราชวังหนานหมิง

 

ขณะนั้น โลกทั้งใบเหมือนจะหยุดนิ่ง ดวงตาของทุกคนพร่ามัวมองเห็นร่างที่ดูเข้มแข็ง ค่อยๆเงยศีรษะขึ้นอย่างช้าๆ อยู่ภายในแสงอันไร้ขอบเขต เหมือนกับตัวตนนี้อยู่ห่างไกลจากพวกเขาจนไม่อาจทราบระยะทาง

 

“นี่คือ?!”

 

ฝ่ามือและฝ่าเท้าของจักรพรรดิหมิงเย็นวาบ มีความรู้สึกวูบเหมือนกําลังตกลงไปในเหว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 183 หนึ่งความคิด พิชิตหกอาณาจักร

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 183 หนึ่งความคิด พิชิตหกอาณาจักร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 183 หนึ่งความคิด พิชิตหกอาณาจักร

 

ภายในโถงชีวิตนิรันดร์

 

จักรพรรดิถังมองดูเหรียญตราทั้งหกที่อยู่เบื้องหน้าของตน

 

เหรียญตราทั้งหกนั้นดูธรรมดามาก พื้นผิวเองก็หยาบกระด้าง ไม่พบความผิดแปลกใดๆ

 

“พี่สามบอกว่าถ้าทั้งหกอาณาจักรไม่ยอมจํานน ก็ให้นําเหรียญตราพวกนี้ออกมา”

 

“แต่ข้าไม่เห็นความพิเศษใดๆ บนเหรียญตราทั้งหกนี้เลย”

 

จักรพรรดิถังมองดูพวกมันอยู่นาน แต่ก็ยังไม่เข้าใจอะไรนัก ดังนั้นจึงได้เลิกพินิจไป

 

จักรพรรดิถังเชื่อมั่นในซูฉินอย่างเต็มเปี่ยม ในเมื่อซูฉินกล่าวเช่นนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องไถ่ถามอีกต่อไป

 

“มานี่หน่อย”

 

จักรพรรดิถังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น

 

“ฝ่าบาท”

 

หลิวกงกงโค้งคํานับแล้วเดินเข้ามาหา

 

“เจ้าและอีกห้าคนที่เหลือจงพกเหรียญตราทั้งหกนี้ไปยังหกอาณาจักร และมอบทางเลือกสองทางให้แก่พวกเขา” จักรพรรดิถังเอ่ยด้วยท่าที่เคร่งขรึม

 

“ทางเลือกสองทาง?”

 

หลิวกงกงเงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิถังด้วยความสงสัย

 

“ถูกต้อง”

 

“จะยอมจํานนหรือตกตาย”

 

“หากอาณาจักรใดในทั้งหกอาณาจักรไม่ตกลง ให้พวกเจ้านําเหรียญตราออกมาใช้

 

จักรพรรดิถังกล่าวตามคําพูดของซูฉินโดยไม่มีตกหล่น

 

“รับพระบัญชา”

 

หลิวกงกงคิดหนัก

 

แม้เขาจะไม่รู้ทําไมท่าทีของจักรพรรดิถังถึงได้แข็งกร้าวนัก ไม่สนใจไยดีเงื่อนไขที่ทางนั้นเสนอ และมอบทางเลือกแค่สองทางออกมาเช่นนี้..

 

อันที่จริง ในความเห็นของหลิวกงกง สองทางเลือกนี้ไม่ค่อยจูงใจเท่าใดนัก ไม่ใช่ว่ามันจะไปทําให้ทั้งหกอาณาจักรโกรธเคืองหรอกหรือ

 

แต่ในฐานะขุนนางข้าราชบริพารคนหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะขัดพระบรมราชโองการไม่นานนัก

 

หลิวกงกงก็เรียกขันที่มาอีกห้าคน

 

“พวกเจ้าทุกคนเข้าใจความหมายของพระกระแสรับสั่งแล้วใช่ไหม” หลิวกงกงเหลือบมองขันที่ทั้งห้าพร้อมทั้งกล่าวถาม

 

“ในการไปเยือนหกอาณาจักรในครั้งนี้ ความตายเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ความยิ่งใหญ่ของต้าถังนับเป็นเรื่องสําคัญ ไม่ว่าจะถูกหกอาณาจักรข่มเหงอย่างไร พวกเราก็ไม่สามารถถอยกลับได้”

 

หลิวกงกงกล่าวออกไปทุกถ้อยคํา

 

ในการเดินทางไปยังหกอาณาจักรคราครั้งนี้ หลิวกงกงได้ยอมรับความตายเสมือนเป็นบ้านอีกหลังไปแล้ว

 

แม้ว่าเขาจะเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่ง แต่ถ้าเข้าไปภายในใจกลางของหกอาณาจักรและมีจุดมุ่งหมายที่แข็งกร้าว ให้ทางเลือกที่ไร้ซึ่งความเมตตา ย่อมทําให้ทั้งหกอาณาจักรโกรธเคืองเป็นเรื่องธรรมดา

 

แม้ว่าทั้งหกอาณาจักรจะไม่กล้าเผชิญหน้ากับอาณาจักรถังเพื่อระบายความโกรธเกรี้ยว แต่ก็คงจะไม่มีปัญหาใดที่จะลงมือกับยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งอย่างพวกเขา

 

ขันที่อีกห้าคนที่เหลือต่างมองหน้ากันด้วยความคิดที่หนักอึ้งเช่นเดียวกัน

 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้พวกเขาไม่ได้มีความคิดที่จะปฏิเสธ ในฐานะขันทีภายในรั้วในวัง ชีวิตและความตายของพวกเขาขึ้นอยู่กับองค์จักรพรรดิ เมื่อพระองค์ต้องการให้อยู่ ย่อมอยู่ได้ แต่หากฝ่าบาทต้องการให้ตายก็ไม่มีใครกล้าที่จะมีชีวิตต่อไป

 

“รับทราบ

 

“แต่ละคนจะมีเหรียญตราคนละอัน หากทั้งหกอาณาจักรปฏิเสธที่จะยอมจํานน ให้นําเหรียญตราเหล่านี้ออกมาตามพระราชดํารัส หลิวกงกงได้มอบเหรียญตราให้ขันที่ทั้งห้าตามลําดับ และสุดท้ายหลังจากรับเหรียญตรากันคนละอันแล้ว ต่างก็ออกจากพระราชวัง ทยอยเดินทางไปยังหกอาณาจักรหนานหมิง

 

ณ พระราชวัง

 

จักรพรรดิหมิงนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร สีหน้าปรากฏความไม่แน่ใจ

 

“เจ้าว่า คนจากเมืองฉางอันจะยอมรับเงื่อนไขของข้าหรือไม่?” จักรพรรดิหมิงขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยถาม

 

“ทูลฝ่าบาท”

 

“ก็แค่สัญญาเพียงฉบับเดียว หนานหมิงของเราอยู่ไกลออกมาทางตะวันออกเฉียงใต้ หากฝ่าบาทไม่ประสงค์จะจํานน ก็ต้องใช้เวลากว่ายี่สิบปีในการปราบดินแดนหนานหมิงได้”

 

“สัญญานี้แลกกับการเสียเวลาไปกว่ายี่สิบปี อาณาจักรถังจะไม่ยินยอมได้เช่นไร?”

 

ผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อแพรกล่าวด้วยความเคารพ

 

“ข้าก็ว่าแบบนั้น”

 

จักรพรรดิหมิงพยักหน้าเล็กน้อย

 

สิ่งที่เขาต้องการก็แค่คําสัญญาจากเมืองฉางอัน มันไม่ได้มีอะไรมากจนเกินไป ไม่มีเหตุผลที่อาณาจักรถังจะไม่ตกลง

 

ในเวลานั้น มีขุนนางอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า “แล้วถ้าอีกฝ่ายไม่ตกลงล่ะพ่ะย่ะค่ะ?”

 

คําที่กล่าวออกมา

 

ภายในท้องพระโรงก็เงียบลงในทันใด

 

แม้แต่ใบหน้าของจักรพรรดิหมิงก็ดําคล้ํามืดมน

 

“ไม่ตกลง?”

 

“ข้ายอมมามากเกินพอแล้ว”

 

จักรพรรดิหมิงชําเลืองมองผู้คนที่เฝ้ามองมา “ถ้าอาณาจักรถังไม่เห็นด้วยจริงๆ ข้าก็คงต้องยอมหักดีกว่ายอมงอ คิดการใหญ่ภายหลัง หลบหนีไปอยู่ต่างดินแดน ไม่อยู่มันแล้วบนแผ่นดินใหญ่แห่งนี้”

 

“มีเกาะน้อยใหญ่นับไม่ถ้วน และด้วยทักษะการเดินเรือของอาณาจักรหนานหมิง การพิชิตเกาะเหล่านั้นและยืนหยัดขึ้นใหม่ด้วยตัวพวกเราเองมันจะยากแค่ไหนกันเชียว?”

 

คําพูดของจักรพรรดิหมิงท่วมท้นไปด้วยพลังอํานาจที่แข็งแกร่ง

 

หนานหมิงอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลและมักจะส่งเรือออกไปสํารวจทะเลอยู่เสมอ พวกเขาเข้าใจสถานการณ์ในต่างดินแดนอยู่บ้าง

 

แม้อาณาจักรถังจะให้กําเนิดตํานานยุทธขึ้นมา แต่หนานหมิงก็ไม่เคยยอมแพ้

 

ผลลัพธ์เลวร้ายที่สุดก็แค่ต้องละทิ้งดินแดนอาณาจักรหนานหมิงและหนีไปอยู่ต่างดินแดน

 

แน่นอนว่าหากจักรพรรดิหมิงเลือกได้ เขาจะไม่เลือกเส้นทางนี้ อย่างไรเสียชีวิตในต่างแดนก็ไม่ได้มีความสุขเท่าแผ่นดินใหญ่

 

ในตอนนั้นเอง

 

ทหารองครักษ์ก็รีบเดินเข้ามาภายในท้องพระโรง กระซิบคําที่ข้างหูขององค์จักรพรรดิหมิง

 

“หม?”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจักรพรรดิหมิง และเขาก็มองไปยังขุนนางคนอื่นๆ ที่อยู่ในท้องพระโรง “ทูตจากราชวงศ์ถังได้มาอยู่ที่นี่แล้ว”

 

เมื่อข้าราชบริพารทั้งหลายได้ยินถ้อยคําเหล่านี้ ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง

 

อาณาจักรถังส่งทูตมายังหนานหมิงในเวลานี้ เห็นทีจะมีเพียงเรื่องนั้นเรื่องเดียว

 

“ให้เขาเข้ามา”

 

จักรพรรดิหมิงกล่าวคําด้วยเสียงเบา

 

หลังจากนั้นไม่นาน

 

หลิวกงกงก็เดินเข้ามาภายในท้องพระโรง

 

“จักรพรรดิหมิง”

 

หลิวกงกงยื่นมือมาด้านหน้าคารวะจักรพรรดิหมิงเล็กน้อย ไม่ได้เคารพหรือนอบน้อมจนเกินไป

 

“จักรพรรดิถังให้คําตอบมาว่าอย่างไรบ้าง?”

 

จักรพรรดิหมิงขี้เกียจที่จะพูดคุยเรื่องไร้สาระ จึงถามเข้าประเด็นตรงๆ

 

“ฝ่าบาททรงมีกระแสรับสั่งบอกข้ารับใช้เฒ่าผู้นี้มาว่า…” หลิวกงกงยืดตัวตั้งตรง มองไปที่จักรพรรดิหมิง

 

“โอ้ว”

 

จักรพรรดิหมิงมองหลิวกงกงด้วยความสนใจ

 

ขุนนางคนอื่นๆ ก็เงี่ยหูสอดรู้สอดเห็น

 

“เลือกว่าจะยอมจํานน…”

 

หลิวกงกงมองไปรอบข้าง “หรือตาย”

 

เมื่อเสียงของหลิวกงกงเงียบไป

 

ทั้งท้องพระโรงเงียบสนิท

 

แรงกดดันอันแสนน่ากลัวปกคลุมไปทั่วทั้งโถง

 

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่

 

จักรพรรดิหมิงค่อยๆลุกขึ้น มองลงไปยังหลิวกงกง และกระแทกเสียงทีละคํา “ดี! ดีมาก! ไม่นึกเลยว่าจักรพรรดิถังจะกล้าดูถูกข้าเช่นนี้”

 

จักรพรรดิหมิงอยู่ในอารมณ์โกรธ

 

ถ้าจักรพรรดิถังปฏิเสธโดยใช้เล่ห์กลอย่างแนบเนียน เขาก็คงจะไม่โกรธมากนัก

 

“ในเมื่อจักรพรรดิถังไม่เข้าใจว่าอะไรดีไม่ดี ข้าก็จะไม่ไว้หน้าอีกแล้ว” จักรพรรดิหมิงเค้นเสียงออกมาตามไรฟัน “กวาดทองคําและเงินคงคลังทั้งหมดออกมา เอาสมบัติทุกชิ้นไปด้วย ติดตามข้าไปต่างดินแดน”

 

เมื่อจักรพรรดิถังนําทองคําและเงินทั้งหมดภายในเมืองหนานหมิงไป มันย่อมสร้างความโกลาหลอย่างมิอาจเลี่ยง แต่ในขณะนี้จักรพรรดิหมิงไม่สามารถดูแลสิ่งของเหล่านี้ได้อีกต่อไปแล้ว

 

“ส่วนเจ้า?”

 

จักรพรรดิหมิงมองหลิวกงกงอย่างเย็นชา “จงเข้ามา สังหารมันทิ้งซะ”

 

เสียงของจักรพรรดิหมิงเพิ่งจะดับไป

 

ร่างเงาหลายคนก็พุ่งเข้าหาหลิวกงกงอย่างเงียบเชียบ

 

กลิ่นอายซ่อนเร้นที่อยู่ในร่างของคนเหล่านี้ เหนือกว่าระดับชั้นที่หนึ่งไปมาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุด

 

นับตั้งแต่ปราณฉีฟื้นคืน ไม่เพียงแต่พระราชวังถังเท่านั้นที่มียอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดมากขึ้น แต่ยอดยุทธจํานวนมากก็ถือกําเนิดขึ้นบนโลกนี้ด้วยเช่นกัน

 

“พวกเจ้า?!”

 

ใบหน้าของหลิวกงกงซีดเซียว

 

เขาเป็นเพียงยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งเท่านั้น จะหยุดระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดได้อย่างไร

 

ขณะที่หลิวกงกงกําลังจะเริ่มต่อสู้เป็นตาย เขาก็นึกถึงเหรียญตราที่พกติดตัวมาด้วย

 

จักรพรรดิถังได้บอกให้เขานําเหรียญออกมาหลังจากที่หนานหมิงปฏิเสธ และตอนนี้ก็ชัดเจนว่าคงถึงเวลานั้นแล้ว

 

แม้ว่าหลิวกงกงจะไม่เข้าใจว่าเหรียญตราธรรมดาๆนี้จะสามารถป้องกันยอดยุทธผู้ทรงพลังอํานาจภายในอาณาจักรหนานหมิงได้เช่นไร แต่หลิวกงกงก็ยังทําตามคําสั่งของจักรพรรดิถัง

 

ในเวลาต่อมา

 

หลิวกงกงหยิบเหรียญออกมา ถือเอาไว้ราวกับมันเป็นสมบัติแสนล้ําค่า ชูขึ้นเหนือหัว

 

“อยู่ต่อหน้าความตายเช่นนี้ คิดว่าเหรียญตราชิ้นเดียวนั่น สามารถช่วยชีวิตเจ้าได้อย่างนั้นหรือ?”

 

ดวงหน้าของจักรพรรดิหมิงมีแววเยาะเย้ยอยู่ กําลังวาดหวังว่าจะได้เห็นหลิวกงกงกลายเป็นก้อนเนื้อด้วยน้ํามือของยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดของอาณาจักรหนานหมิง

 

หวึ่ง!!

 

เหรียญตราในมือของหลิวกงกงพลันสว่างไสวราวกับดวงตะวันอันศักดิ์สิทธิ์บนฟากฟ้า แสงไฟส่องไปทั่วพระราชวังหนานหมิง

 

ขณะนั้น โลกทั้งใบเหมือนจะหยุดนิ่ง ดวงตาของทุกคนพร่ามัวมองเห็นร่างที่ดูเข้มแข็ง ค่อยๆเงยศีรษะขึ้นอย่างช้าๆ อยู่ภายในแสงอันไร้ขอบเขต เหมือนกับตัวตนนี้อยู่ห่างไกลจากพวกเขาจนไม่อาจทราบระยะทาง

 

“นี่คือ?!”

 

ฝ่ามือและฝ่าเท้าของจักรพรรดิหมิงเย็นวาบ มีความรู้สึกวูบเหมือนกําลังตกลงไปในเหว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+