เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 211 (1) เข้าสู่ระบบ! ภาพ สิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 211 (1) เข้าสู่ระบบ! ภาพ สิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 211 (1) เข้าสู่ระบบ! ภาพ สิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์

ชิงชิวชิงหลิงนั้นแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่นางเปิดเผยร่างภูตอสูรจิ้งจอกที่แท้จริง ไอพลังของนางถึงกับสามารถต่อต้านอาณาเขตของซูฉินได้ ไม่เช่นนั้น ด้วยความสามารถในการควบคุมอาณาเขตขนาดเล็กของซูฉิน เขาย่อมสามารถบดขยี้คู่ต่อสู้โดยแทบจะไม่ต้องทําสิ่งใด

นอกจากนี้ความว่องไวของชิงชิวชิงหลิงก็น่าพึ่งเช่นกัน สามารถหลบคมมีดเทพเจ้าปีศาจได้

น่าเสียดายที่นางได้มาพบกับซูฉินที่มีไพ่ลับมากมาย เช่น หมัดสายฟ้าเทพเจ้า และเทพวิชาหลอมจิตวิญญาณจันทรา รวมถึงการแปรสภาพร่างกายถึงห้าครั้ง ไม่ต้องพูดถึงด้านอื่นๆเลย เพียงแค่กายเนื้ออย่างเดียวซูฉินก็เทียบเคียงหรือ บางทีอาจจะเหนือกว่าภูตอสูรในระดับเดียวกันแล้ว

เดิมที่ชิงชิวชิงหลิงคิดว่าซูฉินโง่มากที่ไม่ใช้มีดเทพเจ้าปีศาจ แต่ที่จริงแล้วสําหรับซูฉิน การใช้เพียงมีดเทพเจ้าปีศาจเป็นการจํากัดความสามารถของตนเองไว้ถึงเก้าส่วน

“เป็นไปไม่ได้?!

ชิงชิวเฉียนเฉียนหน้าซีดเทา ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็น

นางรู้ถึงความแข็งแกร่งของชิงชิวชิงหลิงดี เดิมที่กลุ่มภูตอสูรนั้นต่างก็เคารพผู้แข็งแกร่งอยู่แล้ว และชิงชิวชิงหลิงในฐานะที่เป็นหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกตระกูลชิงชิว จึงเป็นจิ้งจอกภูตที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามชิงชิวเฉียนเฉียนไม่ได้คาดหวังว่าชิงชิวชิงหลิงจะไม่สามารถรับหมัดของซูฉินได้ และถูกกําจัดสลายหายไปอย่างสมบูรณ์

ชิงชิวเฉียนเฉียนคิดถึงสิ่งต่างๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ นางไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดจะกลายมาเป็นแบบนี้

“มีวิธีการเช่นนี้ด้วย”

หลังจากซูฉินชกหมัดขวาออกไป ท้องฟ้าที่มืดครึ้มก็ค่อยๆหายไป ดวงอาทิตย์ค่อยๆสาดแสงลงมา สว่างจ้าราวกับฟ้าหลังฝน

“น่าเสียดายที่ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าเป็นการระดมพลังสายฟ้าทั้งหมดบดบังดวงอาทิตย์ วิธีการของภูตอสูรอย่างเจ้านั้นก็กลายเป็นไร้ความหมาย”

ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อย พึมพํากับตนเอง

ในขณะที่เขากําลังจัดการชิงชิวชิงหลิงนั้น เขารู้สึกได้อยู่เล็กน้อยว่ามีคลื่นจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กระเพื่อมอยู่ในร่างของคู่ต่อสู้ มันต้องการจะละทิ้งกายหยาบออกมาและหนีไปให้ไกล

แต่ก่อนที่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์จะหนีออกจากร่าง พลังสายฟ้าก็ตามติดราวกับเงาตามตัวเข้าไปทําลายล้างจนสลายหายไป

เมื่อคิดเรื่องเมื่อครู่เสร็จสิ้น ซูฉินก็เบนสายตาเล็กน้อย มองไปที่ชิงชิวเฉียนเฉียนซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก

เผ่าพันธุ์จิ้งจอกบนเกาะหยิงโจวได้ล่มสลายลงอย่างสมบูรณ์แล้วตั้งแต่ที่ซูฉินผ่าทําลายค่ายกลสังหาร

และชิงชิวชิงหลิงที่เหลือรอดชีวิตมาได้ก็ถูกหมัดของซูฉินสังหารตามไปเช่นกัน

พูดง่ายๆ คือ ในบรรดาจิ้งจอกตระกูลชิงชิวนั้น ผู้ที่รอดชีวิตหนึ่งเดียวในวันนี้ก็คือ ชิงชิวเฉียนเฉียน

“มันจบแล้ว”

เมื่อชิงชิวเฉียนเฉียนเห็นซูฉินจ้องมองมา ใจนางก็ตกลงไปอยู่ตาตุ่ม

ขาทั้งสองข้างของชิงชิวเฉียนเฉียนอ่อนแรงแทบจะล้มคะมำลงด้วยความตกใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงสงบนิ่งลอยผ่านหูมา

“อยากจะตายหรือมีชีวิตอยู่?”

เสียงนั้นดังก้องอยู่ข้างหูของชิงชิวเฉียนเฉียน ทําให้นางตกใจขวัญกระเจิง ในตอนนั้นเองชิงชิวเฉียนเฉียนจะไม่รู้ ได้อย่างไรว่าโอกาสรอดชีวิตของนางกําลังจะมาถึงแล้ว จึงรีบแสดงอาการนอบน้อมในทันที

“นายท่าน ข้าอยากจะมีชีวิตอยู่”

ชิงชิวเฉียนเฉียนกล่าวคําไม่มีลังเล

เผ่าจิ้งจอกชอบที่จะติดตามผู้แข็งแกร่ง ในช่วงรุ่งเรืองของกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด เผ่าจิ้งจอกตระกูลชิงชิว สามารถครองใต้หล้าได้มาจนถึงปัจจุบันเพียงเพราะอาศัยร่มชายคาของผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มนุษย์

ตอนนี้ แม้ว่าซูฉินจะสังหารเผ่าจิ้งจอกตระกูลชิงชิวจนหมดเกาะ แต่ชิงชิวเฉียนเฉียนก็ไม่กล้าคิดเคืองแค้นแต่อย่างใดในขณะนี้

สําหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์อาจมีมุมมองความคิดหวงแหนชาติพันธุ์ของตน แต่เผ่าพันธุ์จิ้งจอกนั้นเป็นสัตว์อสูร ตราบใดที่พวกมันสามารถรักษาชีวิตรอดได้ มันก็ยินดีที่จะทําทุกวิถีทาง

“ถ้าอยากจะมีชีวิตอยู่ก็จงติดตามข้ามา”

ซูฉินเหลือบมองชิงชิวเฉียนเฉียนชั่วครู่ จากนั้นจึงหันหลังกลับเข้าสู่เกาะหยิงโจว

ก่อนหน้านี้ที่เขาผ่าทําลายค่ายกลสังหารบนเกาะหยิงโจว เขาก็จงใจไม่ให้มันส่งผลกระทบต่อเกาะหยิงโจว

ดังนั้นแม้ว่าค่ายกลฟ้าดินภายนอกเกาะหยิงโจวจะพังทลายลง อันที่จริงตัวเกาะหยิงโจวเองก็ไม่ได้รับผลกระทบแต่ประการใด

“เจ้าค่ะ”

ชิงชิวเฉียนเฉียนปฏิบัติตามคําสั่งของซูฉินด้วยความเคารพ

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ชิงชิวเฉียนเฉียนไม่เคยคิดที่จะวิ่งหนีไปไหน เพราะนางรู้ว่าต่อหน้าชายที่แข็งแกร่งถึงขนาดสังหารชิงชิวชิงหลิงได้ด้วยหมัดเดียว การวิ่งหนีนับว่าเป็นเรื่องไร้สาระ

ไม่นาน

ทั้งคู่ก็เข้ามาที่เกาะหยิงโจว

“นี่คือ?”

ชิงชิวเฉียนเฉียนตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าภายในเกาะยังคงเต็มไปด้วยพลังงานปราณฉีอยู่ทุกที

เมื่อตอนที่นางเห็นค่ายกลฟ้าดินถูกตัดทําลาย นางคิดว่าเกาะหยิงโจวก็คงจะถูกทําลายไปด้วยเช่นกัน แต่เมื่อนางเข้ามา นางพบว่าเกาะหยิงโจวแทบไม่ได้รับผลกระทบใด

ความสามารถในการควบคุมพลังในระดับนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ

ชิงชิวเฉียนเฉียนรวบรวมความกล้าเพื่อมองไปที่แผ่นหลังของซูฉินแล้วจึงก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว ให้ความเคารพคนตรงหน้ามากยิ่งขึ้น

“แผ่นศิลาสีดํานี้เป็นแกนกลางค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ของเกาะหยิงโจวใช่หรือไม่?”

ซูฉินหยุดอยู่หน้าแผ่นหินสีดําแล้วพูดขึ้นเบาๆ

“ใช่เจ้าค่ะนายท่าน” ชิงชิวเฉียนเฉียนกล่าวอย่างเคารพ “ศิลานี้เป็นศูนย์กลางของค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ หลังจากปรับแต่งแผ่นศิลานี้แล้ว ท่านจะสามารถควบคุมทั้งเกาะได้อย่างง่ายดาย”

“ไม่ใช่แค่นั้น…”

เมื่อพูดถึงจุดนี้ ชิงชิวเฉียนเฉียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวต่อ “ในส่วนลึกของเกาะหยิงโจวมีถ้ําเซียนอยู่และมีห้องลับภายในถ้ําเซียน เพียงแต่มันถูกล้อมรอบไว้ด้วยค่ายกลเก้าชั้น”

“ในบรรดาค่ายกลทั้งเก้าชั้น แต่ละชั้นเป็นค่ายกลรูปแบบสังหารที่ทรงพลัง ท่านหัวหน้าใช้เวลาไปหลายร้อยปี แต่ทําลายไม่ได้แม้แต่ชั้นแรกของค่ายกลสังหาร”

ชิงชิวเฉียนเฉียนบอกทุกอย่างที่นางรู้โดยไม่ลังเล

“ถ้ําเซียน?”

“ค่ายกลสังหารเก้าชั้น?”

ซูฉินแตะปลายคาง แววตาของเขาครุ่นคิด

ในความเป็นจริง ตั้งแต่ที่ซูฉินก้าวเข้าสู่เกาะหยิงโจวในตอนแรกและใช้ดวงตาแห่งสัจจะผสานกับวิชาปราณฉี

ฟ้ากําหนด เขาก็ได้ค้นพบว่าตําแหน่งส่วนลึกของเกาะนั้นมีไอพลังของค่ายกลที่แข็งแกร่ง

เพียงแต่ว่าซูฉินไม่ได้สนใจสนใจมากนักในตอนนั้น แต่ในยามนี้ ดูเหมือนว่าถ้ําเซียนในส่วนลึกของเกาะหยิงโจวจะไม่ธรรมดาอย่างที่คิด

“เกาะหยิงโจวแห่งนี้ไม่ได้เป็นของเผ่าจิ้งจอกของเจ้าหรือ?”

ซูฉินเอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจ ขณะที่ค่อยๆ ใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปปรับแต่งแผ่นศิลาสีดําตรงหน้า

หากจิ้งจอกตระกูลชิงชิวเป็นเจ้าของเกาะหยิงโจวที่แท้จริง แน่นอนว่าจะไม่มีค่ายกลสังหารใดภายในเกาะที่พวกเขาจัดการไม่ได้

ชิงชิวเฉียนเฉียนยิ้มอย่างขมขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “นายท่านล้อเล่นแล้ว นี่คือเกาะเซียนของราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งทะเลบูรพา จะเป็นสิ่งของของเผ่าจิ้งจอกได้อย่างไร?”

“เผ่าจิ้งจอกตระกูลชิงชิวเราเป็นเพียงภูตอสูรทรงเลี้ยงของจ้าวทะเลบูรพาที่อยู่บนเกาะเซียนนี้ต่างหาก หากไม่เพราะจ้าวทะเลบูรพาที่แท้จริงได้หายตัวไป พวกเราก็หาได้กล้าครอบครองมันไม่”

ชิงชิวเฉียนเฉียนกล่าวคํากระซิบ

“จ้าวทะเลบูรพาที่แท้จริง?”

“เขาแข็งแกร่งมากหรือไม่?”

ซูฉินหันหน้าไปมองชิงชิวเฉียนเฉียน และถามอย่างสบายๆ

“ในช่วงรุ่งเรืองของกระแสพลังครั้งล่าสุด จ้าวทะเลบูรพาไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ก็มีชื่อเสียงมากไม่น้อย”

“ว่ากันว่าจ้าวทะเลบูรพานั้นเป็นจุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพีแล้ว หากไม่ใช่เพราะการบุกรุกของโลกถ้ํา ปีศาจ จ้าวทะเลบูรพาอาจจะสามารถก้าวข้ามขอบเขตเซียนเทพปฐพีและเข้าสู่ขอบเขตที่สูงกว่าเดิม”

ชิงชิวเฉียนเฉียนพูดตามจริง ไม่กล้าปิดบังอะไร

“จุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพี..”

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย

แม้ว่าซูฉินจะไม่ได้เป็นเซียนเทพปฐพี แต่เขาก็จินตนาการได้ว่ามันยากเพียงใดที่จะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพี

แม้กระทั่งในยุครุ่งเรืองของกระแสปราณฉี เซียนเทพปฐพีก็ยังเป็นตัวตนทรงพลังไร้ผู้ต้าน ในพันล้านคนจะมีกําเนิดขึ้นมาสักคน

“เจ้าแน่ใจหรือว่าจ้าวทะเลบูรพานั้นตายไปแล้ว?”

ซูฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงถามต่อ

“ไม่แน่ใจ”

ชิงชิวเฉียนเฉียนกล่าวตามความจริงว่า “จ้าวทะเลบูรพา มีความสามารถสูงเสียดฟ้า แม้ว่าเขาจะตายไป แต่ก็มีหนทางที่จะฟื้นคืนชีพกลับมาได้ หากเขากลับมาเห็นห้องลับในถ้ําเซียนถูกครอบครองโดยเผ่าจิ้งจอกของข้าล่ะก็ คงจะไม่ปล่อยพวกข้าไปแน่”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ชิงชิวเฉียนเฉียนเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ ซูฉินอย่างระมัดระวัง “ดังนั้นบรรพบุรุษเผ่าจิ้งจอกของข้าจึง รอคอยเกือบสองพันปีกว่าจะกล้าเข้าครอบครองเกาะหยิงโจวแห่งนี้ทีละนิด”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 211 (1) เข้าสู่ระบบ! ภาพ สิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 211 (1) เข้าสู่ระบบ! ภาพ สิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 211 (1) เข้าสู่ระบบ! ภาพ สิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์

ชิงชิวชิงหลิงนั้นแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่นางเปิดเผยร่างภูตอสูรจิ้งจอกที่แท้จริง ไอพลังของนางถึงกับสามารถต่อต้านอาณาเขตของซูฉินได้ ไม่เช่นนั้น ด้วยความสามารถในการควบคุมอาณาเขตขนาดเล็กของซูฉิน เขาย่อมสามารถบดขยี้คู่ต่อสู้โดยแทบจะไม่ต้องทําสิ่งใด

นอกจากนี้ความว่องไวของชิงชิวชิงหลิงก็น่าพึ่งเช่นกัน สามารถหลบคมมีดเทพเจ้าปีศาจได้

น่าเสียดายที่นางได้มาพบกับซูฉินที่มีไพ่ลับมากมาย เช่น หมัดสายฟ้าเทพเจ้า และเทพวิชาหลอมจิตวิญญาณจันทรา รวมถึงการแปรสภาพร่างกายถึงห้าครั้ง ไม่ต้องพูดถึงด้านอื่นๆเลย เพียงแค่กายเนื้ออย่างเดียวซูฉินก็เทียบเคียงหรือ บางทีอาจจะเหนือกว่าภูตอสูรในระดับเดียวกันแล้ว

เดิมที่ชิงชิวชิงหลิงคิดว่าซูฉินโง่มากที่ไม่ใช้มีดเทพเจ้าปีศาจ แต่ที่จริงแล้วสําหรับซูฉิน การใช้เพียงมีดเทพเจ้าปีศาจเป็นการจํากัดความสามารถของตนเองไว้ถึงเก้าส่วน

“เป็นไปไม่ได้?!

ชิงชิวเฉียนเฉียนหน้าซีดเทา ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็น

นางรู้ถึงความแข็งแกร่งของชิงชิวชิงหลิงดี เดิมที่กลุ่มภูตอสูรนั้นต่างก็เคารพผู้แข็งแกร่งอยู่แล้ว และชิงชิวชิงหลิงในฐานะที่เป็นหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกตระกูลชิงชิว จึงเป็นจิ้งจอกภูตที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามชิงชิวเฉียนเฉียนไม่ได้คาดหวังว่าชิงชิวชิงหลิงจะไม่สามารถรับหมัดของซูฉินได้ และถูกกําจัดสลายหายไปอย่างสมบูรณ์

ชิงชิวเฉียนเฉียนคิดถึงสิ่งต่างๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ นางไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดจะกลายมาเป็นแบบนี้

“มีวิธีการเช่นนี้ด้วย”

หลังจากซูฉินชกหมัดขวาออกไป ท้องฟ้าที่มืดครึ้มก็ค่อยๆหายไป ดวงอาทิตย์ค่อยๆสาดแสงลงมา สว่างจ้าราวกับฟ้าหลังฝน

“น่าเสียดายที่ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าเป็นการระดมพลังสายฟ้าทั้งหมดบดบังดวงอาทิตย์ วิธีการของภูตอสูรอย่างเจ้านั้นก็กลายเป็นไร้ความหมาย”

ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อย พึมพํากับตนเอง

ในขณะที่เขากําลังจัดการชิงชิวชิงหลิงนั้น เขารู้สึกได้อยู่เล็กน้อยว่ามีคลื่นจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กระเพื่อมอยู่ในร่างของคู่ต่อสู้ มันต้องการจะละทิ้งกายหยาบออกมาและหนีไปให้ไกล

แต่ก่อนที่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์จะหนีออกจากร่าง พลังสายฟ้าก็ตามติดราวกับเงาตามตัวเข้าไปทําลายล้างจนสลายหายไป

เมื่อคิดเรื่องเมื่อครู่เสร็จสิ้น ซูฉินก็เบนสายตาเล็กน้อย มองไปที่ชิงชิวเฉียนเฉียนซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก

เผ่าพันธุ์จิ้งจอกบนเกาะหยิงโจวได้ล่มสลายลงอย่างสมบูรณ์แล้วตั้งแต่ที่ซูฉินผ่าทําลายค่ายกลสังหาร

และชิงชิวชิงหลิงที่เหลือรอดชีวิตมาได้ก็ถูกหมัดของซูฉินสังหารตามไปเช่นกัน

พูดง่ายๆ คือ ในบรรดาจิ้งจอกตระกูลชิงชิวนั้น ผู้ที่รอดชีวิตหนึ่งเดียวในวันนี้ก็คือ ชิงชิวเฉียนเฉียน

“มันจบแล้ว”

เมื่อชิงชิวเฉียนเฉียนเห็นซูฉินจ้องมองมา ใจนางก็ตกลงไปอยู่ตาตุ่ม

ขาทั้งสองข้างของชิงชิวเฉียนเฉียนอ่อนแรงแทบจะล้มคะมำลงด้วยความตกใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงสงบนิ่งลอยผ่านหูมา

“อยากจะตายหรือมีชีวิตอยู่?”

เสียงนั้นดังก้องอยู่ข้างหูของชิงชิวเฉียนเฉียน ทําให้นางตกใจขวัญกระเจิง ในตอนนั้นเองชิงชิวเฉียนเฉียนจะไม่รู้ ได้อย่างไรว่าโอกาสรอดชีวิตของนางกําลังจะมาถึงแล้ว จึงรีบแสดงอาการนอบน้อมในทันที

“นายท่าน ข้าอยากจะมีชีวิตอยู่”

ชิงชิวเฉียนเฉียนกล่าวคําไม่มีลังเล

เผ่าจิ้งจอกชอบที่จะติดตามผู้แข็งแกร่ง ในช่วงรุ่งเรืองของกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด เผ่าจิ้งจอกตระกูลชิงชิว สามารถครองใต้หล้าได้มาจนถึงปัจจุบันเพียงเพราะอาศัยร่มชายคาของผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มนุษย์

ตอนนี้ แม้ว่าซูฉินจะสังหารเผ่าจิ้งจอกตระกูลชิงชิวจนหมดเกาะ แต่ชิงชิวเฉียนเฉียนก็ไม่กล้าคิดเคืองแค้นแต่อย่างใดในขณะนี้

สําหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์อาจมีมุมมองความคิดหวงแหนชาติพันธุ์ของตน แต่เผ่าพันธุ์จิ้งจอกนั้นเป็นสัตว์อสูร ตราบใดที่พวกมันสามารถรักษาชีวิตรอดได้ มันก็ยินดีที่จะทําทุกวิถีทาง

“ถ้าอยากจะมีชีวิตอยู่ก็จงติดตามข้ามา”

ซูฉินเหลือบมองชิงชิวเฉียนเฉียนชั่วครู่ จากนั้นจึงหันหลังกลับเข้าสู่เกาะหยิงโจว

ก่อนหน้านี้ที่เขาผ่าทําลายค่ายกลสังหารบนเกาะหยิงโจว เขาก็จงใจไม่ให้มันส่งผลกระทบต่อเกาะหยิงโจว

ดังนั้นแม้ว่าค่ายกลฟ้าดินภายนอกเกาะหยิงโจวจะพังทลายลง อันที่จริงตัวเกาะหยิงโจวเองก็ไม่ได้รับผลกระทบแต่ประการใด

“เจ้าค่ะ”

ชิงชิวเฉียนเฉียนปฏิบัติตามคําสั่งของซูฉินด้วยความเคารพ

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ชิงชิวเฉียนเฉียนไม่เคยคิดที่จะวิ่งหนีไปไหน เพราะนางรู้ว่าต่อหน้าชายที่แข็งแกร่งถึงขนาดสังหารชิงชิวชิงหลิงได้ด้วยหมัดเดียว การวิ่งหนีนับว่าเป็นเรื่องไร้สาระ

ไม่นาน

ทั้งคู่ก็เข้ามาที่เกาะหยิงโจว

“นี่คือ?”

ชิงชิวเฉียนเฉียนตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าภายในเกาะยังคงเต็มไปด้วยพลังงานปราณฉีอยู่ทุกที

เมื่อตอนที่นางเห็นค่ายกลฟ้าดินถูกตัดทําลาย นางคิดว่าเกาะหยิงโจวก็คงจะถูกทําลายไปด้วยเช่นกัน แต่เมื่อนางเข้ามา นางพบว่าเกาะหยิงโจวแทบไม่ได้รับผลกระทบใด

ความสามารถในการควบคุมพลังในระดับนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ

ชิงชิวเฉียนเฉียนรวบรวมความกล้าเพื่อมองไปที่แผ่นหลังของซูฉินแล้วจึงก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว ให้ความเคารพคนตรงหน้ามากยิ่งขึ้น

“แผ่นศิลาสีดํานี้เป็นแกนกลางค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ของเกาะหยิงโจวใช่หรือไม่?”

ซูฉินหยุดอยู่หน้าแผ่นหินสีดําแล้วพูดขึ้นเบาๆ

“ใช่เจ้าค่ะนายท่าน” ชิงชิวเฉียนเฉียนกล่าวอย่างเคารพ “ศิลานี้เป็นศูนย์กลางของค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ หลังจากปรับแต่งแผ่นศิลานี้แล้ว ท่านจะสามารถควบคุมทั้งเกาะได้อย่างง่ายดาย”

“ไม่ใช่แค่นั้น…”

เมื่อพูดถึงจุดนี้ ชิงชิวเฉียนเฉียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวต่อ “ในส่วนลึกของเกาะหยิงโจวมีถ้ําเซียนอยู่และมีห้องลับภายในถ้ําเซียน เพียงแต่มันถูกล้อมรอบไว้ด้วยค่ายกลเก้าชั้น”

“ในบรรดาค่ายกลทั้งเก้าชั้น แต่ละชั้นเป็นค่ายกลรูปแบบสังหารที่ทรงพลัง ท่านหัวหน้าใช้เวลาไปหลายร้อยปี แต่ทําลายไม่ได้แม้แต่ชั้นแรกของค่ายกลสังหาร”

ชิงชิวเฉียนเฉียนบอกทุกอย่างที่นางรู้โดยไม่ลังเล

“ถ้ําเซียน?”

“ค่ายกลสังหารเก้าชั้น?”

ซูฉินแตะปลายคาง แววตาของเขาครุ่นคิด

ในความเป็นจริง ตั้งแต่ที่ซูฉินก้าวเข้าสู่เกาะหยิงโจวในตอนแรกและใช้ดวงตาแห่งสัจจะผสานกับวิชาปราณฉี

ฟ้ากําหนด เขาก็ได้ค้นพบว่าตําแหน่งส่วนลึกของเกาะนั้นมีไอพลังของค่ายกลที่แข็งแกร่ง

เพียงแต่ว่าซูฉินไม่ได้สนใจสนใจมากนักในตอนนั้น แต่ในยามนี้ ดูเหมือนว่าถ้ําเซียนในส่วนลึกของเกาะหยิงโจวจะไม่ธรรมดาอย่างที่คิด

“เกาะหยิงโจวแห่งนี้ไม่ได้เป็นของเผ่าจิ้งจอกของเจ้าหรือ?”

ซูฉินเอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจ ขณะที่ค่อยๆ ใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปปรับแต่งแผ่นศิลาสีดําตรงหน้า

หากจิ้งจอกตระกูลชิงชิวเป็นเจ้าของเกาะหยิงโจวที่แท้จริง แน่นอนว่าจะไม่มีค่ายกลสังหารใดภายในเกาะที่พวกเขาจัดการไม่ได้

ชิงชิวเฉียนเฉียนยิ้มอย่างขมขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “นายท่านล้อเล่นแล้ว นี่คือเกาะเซียนของราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งทะเลบูรพา จะเป็นสิ่งของของเผ่าจิ้งจอกได้อย่างไร?”

“เผ่าจิ้งจอกตระกูลชิงชิวเราเป็นเพียงภูตอสูรทรงเลี้ยงของจ้าวทะเลบูรพาที่อยู่บนเกาะเซียนนี้ต่างหาก หากไม่เพราะจ้าวทะเลบูรพาที่แท้จริงได้หายตัวไป พวกเราก็หาได้กล้าครอบครองมันไม่”

ชิงชิวเฉียนเฉียนกล่าวคํากระซิบ

“จ้าวทะเลบูรพาที่แท้จริง?”

“เขาแข็งแกร่งมากหรือไม่?”

ซูฉินหันหน้าไปมองชิงชิวเฉียนเฉียน และถามอย่างสบายๆ

“ในช่วงรุ่งเรืองของกระแสพลังครั้งล่าสุด จ้าวทะเลบูรพาไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ก็มีชื่อเสียงมากไม่น้อย”

“ว่ากันว่าจ้าวทะเลบูรพานั้นเป็นจุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพีแล้ว หากไม่ใช่เพราะการบุกรุกของโลกถ้ํา ปีศาจ จ้าวทะเลบูรพาอาจจะสามารถก้าวข้ามขอบเขตเซียนเทพปฐพีและเข้าสู่ขอบเขตที่สูงกว่าเดิม”

ชิงชิวเฉียนเฉียนพูดตามจริง ไม่กล้าปิดบังอะไร

“จุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพี..”

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย

แม้ว่าซูฉินจะไม่ได้เป็นเซียนเทพปฐพี แต่เขาก็จินตนาการได้ว่ามันยากเพียงใดที่จะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพี

แม้กระทั่งในยุครุ่งเรืองของกระแสปราณฉี เซียนเทพปฐพีก็ยังเป็นตัวตนทรงพลังไร้ผู้ต้าน ในพันล้านคนจะมีกําเนิดขึ้นมาสักคน

“เจ้าแน่ใจหรือว่าจ้าวทะเลบูรพานั้นตายไปแล้ว?”

ซูฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงถามต่อ

“ไม่แน่ใจ”

ชิงชิวเฉียนเฉียนกล่าวตามความจริงว่า “จ้าวทะเลบูรพา มีความสามารถสูงเสียดฟ้า แม้ว่าเขาจะตายไป แต่ก็มีหนทางที่จะฟื้นคืนชีพกลับมาได้ หากเขากลับมาเห็นห้องลับในถ้ําเซียนถูกครอบครองโดยเผ่าจิ้งจอกของข้าล่ะก็ คงจะไม่ปล่อยพวกข้าไปแน่”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ชิงชิวเฉียนเฉียนเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ ซูฉินอย่างระมัดระวัง “ดังนั้นบรรพบุรุษเผ่าจิ้งจอกของข้าจึง รอคอยเกือบสองพันปีกว่าจะกล้าเข้าครอบครองเกาะหยิงโจวแห่งนี้ทีละนิด”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+