เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 217 เมืองอินจีที่สร้างทับภูเขาไฟ

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 217 เมืองอินจีที่สร้างทับภูเขาไฟ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

Sign in Buddha’s palm 217 เมืองอินจีที่สร้างทับภูเขาไฟ

 

“จ้าวทะเลบูรพา?”

 

ผู้อาวุโสทั้งหลายของเหล่านิกายใหญ่ต่างมองหน้ากันและมีร่องรอยความตกใจวาบออกมาผ่านดวงตา

 

พวกเขาทั้งหมดต่างมาจากนิกายใหญ่ มรดกตกทอดของนิกายได้รับการสืบทอดมาอย่างสมบูรณ์ แน่นอนพวกเขารู้เรื่องเกี่ยวกับช่วงกระแสปราณฉีฟื้นคืนครั้งล่าสุด นอกจากนี้ยังรู้จักจ้าวทะเลบูรพา

 

แม้แต่ในยุครุ่งเรืองของกระแสปราณฉี เซียนเทพปฐพีนั้นก็ยังหายากอย่างยิ่ง นับประสาอะไรกับจ้าวทะเลบูรพาที่ เป็นถึงมหาอํานาจผู้ไร้เทียมทานอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพี

 

“นิกายเฮยหยวนของเจ้ารู้ที่ตั้งถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพาได้อย่างไร?” เฉว่ยว ผู้อาวุโสแห่งตําหนักเทพเจ้าหิมะองมองไปที่หมิงโยวแล้วถามออกมา

 

จ้าวทะเลบูรพานั้นเป็นตัวตนระดับใดกัน ถ้ําเซียนของเขาย่อมเป็นความลับสุดยอด แม้จะมีคนรู้ความลับนี้จริงๆ ก็ต้องเป็นเซียนเทพปฐพี่ในระดับเดียวกัน

 

ถ้าจะกล่าวว่านิกายใหญ่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีเซียนเทพปฐพีกําเนิดขึ้นมาแล้วทั้งนั้นภายในนิกาย แต่วิชาบ่มเพาะของนิกายเฮยหยวนนั้นจํากัดพลัง ทําให้ไม่เคยมีผู้ที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่มาก่อน

 

ถ้าไม่ใช่เพราะวิชาอันแปลกประหลาดของนิกายเฮยหยวนและมีบรรพชนมากมายที่หลับใหลอยู่ในนิกายเกรงว่าบัดนี้พวกเขาคงถูกถอดออกจากการเป็นนิกายใหญ่ไปแล้ว

 

“เฮเฮ”

 

หมิงโยวในชุดคลุมสีดํายิ้มเยาะ “เมื่อหลายพันปีก่อน ผู้นําเฮยหยวนบังเอิญได้พบกับลูกหลานคนหนึ่งของศิษย์จ้าวทะเลบูรพาดังนั้นจึงชักชวนคนผู้นั้นเข้าสู่นิกายเฮยหยวนของข้านิกายของข้าจึงได้รับฟังเรื่องราวและความเป็นจริ งบางอย่างมาโดยง่าย….”

 

หมิงโยวไม่ได้ใส่ใจแม้จะต้องบอกความลับนี้ออกไป

 

เนื่องจากถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพานั้นลึกลับมากแม้นกายเฮยหยวนจะรู้วิธีการไปถึง แต่มันก็จําเป็นต้องอาศัยประโยชน์จากสภาพแวดล้อมบางอย่างที่ค่อนข้างจําเพาะ

 

ถึงคนอื่นจะค้นพบถ้ําเซียน ก็เข้าไปไม่ได้

 

ผู้อาวุโสทั้งหลายจากนิกายใหญ่ เมื่อได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นอยู่ดีๆ ก็รู้สึกหนาวเหน็บ

 

แม้หมิงโยวจะบอกว่าเป็นเรื่องง่ายมากที่จะเชิญ” ลูกหลานของศิษย์จ้าวทะเลบูรพาเข้าสู่นิกายเฮยหยวน แต่ในความ เป็นจริงด้วยวิธีการของนิกายเฮยหยวน อีกฝ่ายคงถูกทร มานอย่างน่าอดสูอย่างไรเสียการมีชีวิตอยู่คงดีกว่าความ ตาย เพียงแต่ต้องบอกเล่าความลับเรื่องถ้ําเซียนของจ้าว ทะเลบูรพาออกไป

 

“นิกายเฮยหยวนของเจ้าใช้วิธีการเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวจ้าวทะเลบูรพามาชําระแค้นหรือ?” เฉวยวี่ ผู้อาวุโสแห่งตําหนักเทพเจ้าหิมะขมวดคิวเล็กน้อย

 

“ชําระแค้น?”

 

หมิงโยวที่สวมชุดคลุมสีดําหัวเราะออกมาแปลกๆ “หลายพันปีผ่านพ้น จ้าวทะเลบูรพาหายสาบสูญไปนานแล้ว หรือ อาจจะตายไปแล้วก็ได้จะเอาอะไรมาแก้แค้นนิกายเฮยห ยวนเล่า?”

 

ด้วยคําที่กล่าวออกมา

 

คนอื่นๆ ก็เงียบลง

 

เป็นจริงดังว่า

 

แม้เซียนเทพปฐพี่จะคงอยู่ได้เป็นพันปี แต่บัดนี้เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบหมื่นปีแล้วนับจากจุดรุ่งเรืองของกระแสปราณฉีครั้งล่าสุดเป็นธรรมดาที่จ้าวทะเลบูรพาคงจะตกตายไปนานแล้ว

 

“ถ้ําเชียนของเซียนเทพปฐพี่ขั้นสูงสุด…”

 

สายตาของหมิงโยวในชุดคลุมสีดําไม่สามารถเก็บซ่อนความโลภจากภายในเอาไว้ได้

 

เนื่องจากนิกายเฮยหยวนถูกพันธนาการไว้ด้วยวิชาบ่มเพาะไร้ความหวังที่จะเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี แต่ในฐานะที่จ้าวทะเลบูรพาเป็นเซียนเทพปฐพี ภายในถ้ําเซียนของเขาอาจจะซ่อนวิธีการปลดเปลื้องพันธนาการของวิชาบ่ม เพาะภายในนิกายเฮยหยวนได้

 

แม้จะไม่มีสิ่งเหล่านั้น ถ้ําเซียนของตัวตนขอบเขตเซียนเทพปฐพีก็เพียงพอที่จะทําให้เหล่าตํานานยุทธต่อสู้กันด้วยชีวิตของพวกเขา

 

ทุกวันนี้ผู้เยี่ยมยุทธในต่างแดนจําเป็นต้องประจําตําแหน่งอยู่ในนิกายของตน ม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้โดยง่ายโดยเฉพาะนิกายใหญ่ที่มีชื่อเสียงอย่างนิกายเฮยหยวน

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้นํานิกายเฮยหยวนจึงยอมให้หมิงโยววิญญาณยมโลกไปตรวจสอบและรวบรวมสิ่งของภายในถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา

 

หมิงโยวเป็นหนึ่งในตํานานยุทธที่ใกล้เคียงกับการเป็นผู้เยี่ยมยุทธในยุทธภพต่างแดนมากที่สุด

 

มันสมบูรณ์แบบทีเดียว ที่ให้เขาเป็นผู้ดําเนินการเรื่องนี้

 

“หลังจากเข้าไปในถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพาหากพวกเจ้าเชื่อฟังคําสั่งข้า มันอาจจะเป็นไปได้นะที่ข้าจะแจกจ่ายสมบัติของจ้าวทะเลบูรพาให้พวกเจ้าทุกคน”

 

หมิงโยว วิญญาณยมโลกเหลือบมองทุกคนอย่างเย็นชาและพูดออกมาช้าๆ

 

นี่คือเป้าหมายสูงสุดที่ทําให้เขาพูดออกมามากมายเพียงนี้ไม่ว่าจะอย่างไรจ้าวทะเลบูรพาก็คือเซียนเทพปฐพีขั้นสูงสุดแม้จะผ่านไปหนึ่งหมื่นปีวิชาที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลังก็ยังทําให้ผู้คนกระวนกระวายใจ

 

ในเวลานี้ หากมีผู้อาวุโสจากนิกายใหญ่คนอื่นๆไปด้วยโอกาสที่จะได้รับสมบัติของจ้าวทะเลบูรพาก็ยิ่งมีมากขึ้น

 

“แจกจ่ายสมบัติของจ้าวทะเลบูรพา…”

 

ผู้อาวุโสหลายคนจากนิกายใหญ่ต่างมองหน้ากันหัวใจเต้นแรงอยู่ในทรวง

 

ในฐานะผู้อาวุโสจากนิกายใหญ่ พวกเขาย่อมดูแคลนสมบัติธรรมดาๆ แต่จ้าวทะเลบูรพานั้นเป็นขั้นสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพี

 

สมบัติที่เขาทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง มันจะหน้าตาเป็นเช่นไรกันนะ?

 

“เมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าต้องขอรบกวนสหายเต้าหมิงโยวแล้วในครั้งนี้” ชายที่สะพายดาบยาวจากพรรคหมื่นดาบก็กระซิบบอกออกมาเบาๆ

 

คนอื่นๆ อีกหลายคนก็พยักหน้ากันทีละคน เห็นได้ชัดว่ายอมรับข้อเสนอจากหมิงโยว แม้จะเป็นผู้อาวุโสเฉว่ยวผู้หยิ่งผยองจากตําหนักเทพเจ้าหิมะก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่ประการใด

 

ในระดับของพวกเขา นอกจากการฝึกตนให้ก้าวหน้าแล้วก็ไม่มีสิ่งใดให้ไล่ตามไขว่คว้าอีกต่อไปแล้ว แต่สมบัติล้ําค่าชั่วชีวิตของจ้าวทะเลบูรพานั้น แม้พวกมันจะไม่สามาร ถช่วยให้พวกเขาเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีได้แต่ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตผู้เยี่ยมยุทธ

 

“งั้นพวกเราไปกันเลยเถอะ”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายในชุดดําหมิงโยว

 

เกาะหยิงโจว

 

ภายในถ้ําเซียน

 

แน่นอนว่าซุฉินไม่ทราบว่ามีคนกําลังจับจ้องมายังเกาะหยิงโจวแห่งนี้อยู่

 

ในตอนนี้ซูฉินกําลังนั่งขัดสมาธิอยู่หน้าน้ําพุจิตวิญญาณโดยเอาโอสถศักดิ์สิทธิ์แปดเก้าเม็ดออกมาวางเพิ่มไว้ที่ด้านหน้า พวกมันลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง

 

แน่นอนมันคือโอสถเพลิงเทพปฏิปักษ์

 

ตามที่ซูฉินคาดเอาไว้ ถ้ําเซียนแห่งนี้สามารถลงชื่อเข้าใช้ซ้ําได้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาซูฉินลงชื่อเข้าใช้และได้รับโอสถเพลิงเทพปฏิปักษ์มาจํานวนห้าสิบสองเม็ด

 

น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าโอสถเพลิงเทพปฏิปักษ์ทั้งห้าสิบสองเม็ดที่ลงชื่อเอามาได้จะทําให้”เต๋สะสม”ของถ้ําเซียนแห่งนี้หมดลงและซูฉินไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ต่อไปได้อีก

 

แกรัก

 

แกรัก

 

ในเวลานี้ เม็ดโอสถเพลิงเทพปฐพีทั้งห้าสิบสองเม็ดที่วางอยู่ด้านหน้าของซูฉินก็ระเบิดออกกลายเป็นมังกรไฟห้าสิบสองตัวพุ่งเข้าสู่ร่างของซูฉิน

 

ในเวลาเดียวกัน

 

แผ่นหินขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของซูฉิน

 

ในแผ่นหินมีดวงไฟนับพันจุด ในตอนนี้ส่วนขอบของ แผ่นหินมีจุดแสงเล็กๆค่อยๆ สว่างขึ้นเป็นส่วนใหญ่และจากนั้นก็ค่อยๆจางลงอย่างช้าๆ

 

“ค่ายกลสังหารเก้าชั้น บวกกับเม็ดโอสถเพลิงเทพปฏิปักษ์กว่าห้าสิบเม็ดไม่สามารถเติมจุดแสงได้จนเต็ม?”

 

ซูฉินลืมตาขึ้น แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

 

ในตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงความยากลําบากในการฝึกฝนวิชาดวงตะวันขนาดมหึมาอีกครั้ง ด้วยทรัพยากรบ่มเพาะจํา นวนมหาศาลที่ใช้ไปมันเพียงพอสําหรับเหล่าตํานานยุทธ เพื่อใช้ในการฝึกฝนไปได้หลายร้อยปีแต่ผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังคือมันไม่สามารถเติมเต็มจุดแสงได้?

 

แต่ซูฉินก็เปลี่ยนความคิดและยอมรับมัน

 

สุดท้ายหลังจากฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาดมหึมาซูฉินสามารถแปลงกายเป็นอีกาทองคําสามขาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสัตว์ธาตุไฟในตํานานทั้งหลายสา มารถควบคุมความสามารถอันน่าสะพรึงกลัว มีพลัง เหนือธรรมชาติสยบทุกสิ่งเช่น พลังเพลิงศักดิ์สิทธิ์จากดวงตะวันหากทุกคนสามารถฝึกฝนมันได้อย่างง่ายดายซูฉินต้ องสงสัยได้แล้วว่ามันมีอะไรผิดปกติหรือไม่

 

“อย่างไรก็ตาม ข้ารู้สึกได้ว่าจุดแสงกําลังจะได้รับการเติมเต็มตราบใดที่มีเม็ดโอสถเพลิงเทพปฏิปักษ์อีกสักหลายร้อยเม็ดก็น่าจะเพียงพอ”

 

ความคิดของซูฉินผันผวนไปมา ประมาณการคร่าวๆในใจ

 

“ดูเหมือนว่าในอนาคต ข้าจะต้องไปยังสถานที่ที่มีพลังงานธาตุไฟที่เพียงพอให้ลงชื่อเข้าใช้ มีเพียงวิธีนี้ที่พอจะหาโอสถศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟให้มากขึ้นได้”

 

ซูฉันคิดในใจเงียบๆ

 

หลังจากลงชื่อเข้าใช้มานานหลายสิบปี ซูฉินพอจะเข้าใจกฎของการลงชื่อเข้าใช้โดยทั่วไปแล้ว เมื่อซูฉินลงชื่อเข้าใช้ที่ใดเขาจะได้รับสมบัติที่เกี่ยวข้องสอดคล้องกันมา

 

ตัวอย่างเช่น ซูฉินลงชื่อเข้าใช้ที่วัดเส้าหลินมานานกว่าสิบปีและสิ่งของส่วนใหญ่ที่ได้รับมานั้นเป็นสมบัติทางสายพุทธ

 

แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรตายตัว

 

ซูฉินยังเคยลงชื่อเข้าใช้ในวิหารพระสหัสพุทธและลงชื่อได้รับดวงตาแห่งสัจจะ” ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายพุทธไปเสียทีเดียว

 

อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น หากซูฉินต้องการโอสถธาตุไฟจํานวนมาก เขาต้องหาสถานที่ที่มีพลังงานธาตุไฟเพียงพอและมี”เต๋สะสม” เพื่อให้ลงชื่อเข้าใช้ได้

 

“ไม่เป็นไร”

 

“ภาพดวงตะวันขนาดมหึมาคงไม่สามารถฝึกฝนสําเร็จได้ในเวลาอันสั้นขนาดนั้นหรอก”

 

“ทะลวงระดับนภาชั้นที่แปดเสียก่อน หากยังลากถ่วงต่อไปเกรงว่าน้ําพุจิตวิญญาณบางส่วนจะสูญหายไปอีก”

 

ซูฉินเหลือบมองน้ําพุจิตวิญญาณที่อยู่ตรงหน้าและตัดสินใจเลือก

 

น้ําพุจิตวิญญาณนั้นปล่อยพลังงานออกมาตลอดเวลาและซูฉันคงจะต้องลําบากใจแน่หากเขายังคงล่าช้าเช่นนี้

 

“มาเริ่มกันเลย”

 

ซูฉินค่อยๆ หลับตาลง

 

ในชั่วพริบตา น้ําพุจิตวิญญาณที่พวยพุ่งออกมาอย่างเขื่อยๆ ก็เริ่มสั่นสะเทือน และ น้ําพุ’ปริมาณมหาศาลก็ลอยขึ้นไปในอากาศเทรดร่างของซูฉินในทันใด

 

ด้านนอกถ้ํา

 

ชิงชิวเฉียนเฉียนตรวจดูท้องฟ้าถ้วนทั่วด้วยความรอบคอบ จากนั้นจึงหันศีรษะไปมองเกาะเล็กๆ ที่กลางทะเลสาบ

 

“ผู้อาวุโสไม่ได้มาจากตระกูลอีกาทองคําจริงๆหรือ?”

 

ชิงชิวเฉียนเฉียนกะพริบตา ใจเต็มไปด้วยความสงสัย

 

ในช่วงเวลานี้ ชิงชิวเฉียนเฉียนรู้สึกได้ถึงความร้อนแรงจากบนเกาะกลางทะเลสาบ

 

ราวกับว่าดวงตะวันที่น่าสะพรึงกลัวกําลังก่อตัวขึ้นบนเกาะเล็กๆนั่น

 

“ผู้อาวุโสน่ากลัวเกินไปแล้ว…”

 

ชิงชิวเฉียนเนี่ยนมองดูอยู่ครู่หนึ่ง แล้วรีบก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว ยืนด้วยอาการสํารวม จับตาดูความ ผันผวนของพลังฟ้าดิน

 

ซูฉินไว้ชีวิตนาง จุดประสงค์ก็เพื่อให้นางควบคุมดูแลค่ายกลฟ้าดินจํานวนมากบนเกาะหยิงโจว

 

ถ้าชิงชิวเฉียนเฉียนไม่สามารถทําสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ได้เมื่อซูฉินออกจากด่านฝึกตน จุดจบของนางคงสามารถจะคาดการณ์ได้ไม่ยาก

 

ดังนั้นเพื่อให้ซุฉินพึงพอใจ ชิงชิวเฉียนเฉียนจึงดูแลค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ทั้งหมดอย่างใส่ใจเพื่อไม่ให้มีเหตุผิดพลาดใดเกิดขึ้น

 

โลกถ้ําปิศาจใต้พิภพ

 

ท้องฟ้ามืดครึ้ม บรรยากาศกดดัน

 

“นายท่าน นั่นคือเมืองอินจี้”

 

โม่จีเดินไปขนาบข้างซูฉินอย่างนอบน้อม และชี้ไปทิศด้านหน้า

 

เห็นภูเขาไฟขนาดมหึมา มีเมืองอันสวยงามตั้งตระหง่านอยู่บนนั้น

 

เมืองแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าเมืองเมฆาปีศาจหลายเท่ากําแพงเมืองสีดําสนิท และมีกลิ่นอายอันลึกล้ําแผ่ออกมา

 

“เมืองอินจี้สร้างขึ้นบนภูเขาไฟอย่างนั้นหรือ?”

 

หัวใจของซูฉินกระตุกวูบ มองไปที่เมืองอินจี้ พร้อมกับพิ่มพําอยู่กับตนเอง

 

แม้ว่าจุดที่ซูฉินอยู่จะห่างจากเมืองอินจีหลายสิบลี้ แต่เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงอากาศที่ร้อนแผดเผาโชยมาถึงใบหน้าของเขาได้

 

“นายท่าน” โม่จีที่อยู่ด้านข้างรีบอธิบายในทันที “เจ้าเมืองอินจี้ทุกคนที่ผ่านมาล้วนฝึกฝนวิชาปีศาจธาตุหยิน หากต้องการให้การบ่มเพาะประสบผลสําเร็จ นอกจากการรวบรวมพลังหยินบริสุทธิ์แล้ว จะต้องมีสภาพแวดล้อมธาตุห ยางอันยอดเยี่ยม เมื่อหยินและหยางเติบโตไปด้วยกันย่อมเสริมความหวังให้แก่การฝึกฝน..”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย

 

เขาตระหนักได้ถึงความสําคัญของหยินและหยางตั้งแต่อยู่ในขอบเขตวิทยายุทธทั้งเก้าระดับชั้น

 

อย่างไรก็ตาม สําหรับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็ยังมีบางชนิดที่มีหยินหยางไม่สมดุล เช่น อีกาทองคําสามขามันถือกําเนิดมาจากดวงตะวันขนาดยักษ์เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่กําเนิด

 

อย่างไรก็ตาม สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างดีกาทองคําสามขานั้นเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตส่วนน้อย สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากครรภ์มารดา ไม่ได้เชี่ยวชาญในพลังธาตุเพียงหนึ่งเดียวเสมอไป

 

แม้จะเป็นขอบเขตเซียนเทพปฐพีธาตุไฟอย่างจ้าวทะเลบูรพาวิชาที่เขาใช้ก็ไม่ได้มีเพียงแค่เปลวเพลิง ไม่เช่นนั้นคําว่า “ทะเล” คงไม่ปรากฏในชื่อเรียกขานของจ้าวทะเล บูรพา

 

“ด้วยภูเขาไฟแห่งนี้ พลังงานธาตุไฟมีอยู่อย่างมากล้นและเมืองอินจี้ก็เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกถ้ําปิศาจแน่นอนว่าจะต้องมีกิ่งก้านของต้นไม้ปีศาจโบราณ และ เต่าสะสม” ที่มีอยู่คงเพียงพอ”

 

“ถ้าได้ลงชื่อเขาใช้ เกรงว่าข้าคงจะได้รับโอสถวิเศษธาตุไฟมาเป็นจํานวนมาก

 

“ด้วยวิธีนี้มันจะช่วยเร่งการบ่มเพาะของภาพดวงตะวันขนาดมหึมาได้อย่างแน่นอน”

 

ดวงตาของซูฉินเป็นประกาย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 217 เมืองอินจีที่สร้างทับภูเขาไฟ

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 217 เมืองอินจีที่สร้างทับภูเขาไฟ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

Sign in Buddha’s palm 217 เมืองอินจีที่สร้างทับภูเขาไฟ

 

“จ้าวทะเลบูรพา?”

 

ผู้อาวุโสทั้งหลายของเหล่านิกายใหญ่ต่างมองหน้ากันและมีร่องรอยความตกใจวาบออกมาผ่านดวงตา

 

พวกเขาทั้งหมดต่างมาจากนิกายใหญ่ มรดกตกทอดของนิกายได้รับการสืบทอดมาอย่างสมบูรณ์ แน่นอนพวกเขารู้เรื่องเกี่ยวกับช่วงกระแสปราณฉีฟื้นคืนครั้งล่าสุด นอกจากนี้ยังรู้จักจ้าวทะเลบูรพา

 

แม้แต่ในยุครุ่งเรืองของกระแสปราณฉี เซียนเทพปฐพีนั้นก็ยังหายากอย่างยิ่ง นับประสาอะไรกับจ้าวทะเลบูรพาที่ เป็นถึงมหาอํานาจผู้ไร้เทียมทานอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพี

 

“นิกายเฮยหยวนของเจ้ารู้ที่ตั้งถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพาได้อย่างไร?” เฉว่ยว ผู้อาวุโสแห่งตําหนักเทพเจ้าหิมะองมองไปที่หมิงโยวแล้วถามออกมา

 

จ้าวทะเลบูรพานั้นเป็นตัวตนระดับใดกัน ถ้ําเซียนของเขาย่อมเป็นความลับสุดยอด แม้จะมีคนรู้ความลับนี้จริงๆ ก็ต้องเป็นเซียนเทพปฐพี่ในระดับเดียวกัน

 

ถ้าจะกล่าวว่านิกายใหญ่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีเซียนเทพปฐพีกําเนิดขึ้นมาแล้วทั้งนั้นภายในนิกาย แต่วิชาบ่มเพาะของนิกายเฮยหยวนนั้นจํากัดพลัง ทําให้ไม่เคยมีผู้ที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่มาก่อน

 

ถ้าไม่ใช่เพราะวิชาอันแปลกประหลาดของนิกายเฮยหยวนและมีบรรพชนมากมายที่หลับใหลอยู่ในนิกายเกรงว่าบัดนี้พวกเขาคงถูกถอดออกจากการเป็นนิกายใหญ่ไปแล้ว

 

“เฮเฮ”

 

หมิงโยวในชุดคลุมสีดํายิ้มเยาะ “เมื่อหลายพันปีก่อน ผู้นําเฮยหยวนบังเอิญได้พบกับลูกหลานคนหนึ่งของศิษย์จ้าวทะเลบูรพาดังนั้นจึงชักชวนคนผู้นั้นเข้าสู่นิกายเฮยหยวนของข้านิกายของข้าจึงได้รับฟังเรื่องราวและความเป็นจริ งบางอย่างมาโดยง่าย….”

 

หมิงโยวไม่ได้ใส่ใจแม้จะต้องบอกความลับนี้ออกไป

 

เนื่องจากถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพานั้นลึกลับมากแม้นกายเฮยหยวนจะรู้วิธีการไปถึง แต่มันก็จําเป็นต้องอาศัยประโยชน์จากสภาพแวดล้อมบางอย่างที่ค่อนข้างจําเพาะ

 

ถึงคนอื่นจะค้นพบถ้ําเซียน ก็เข้าไปไม่ได้

 

ผู้อาวุโสทั้งหลายจากนิกายใหญ่ เมื่อได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นอยู่ดีๆ ก็รู้สึกหนาวเหน็บ

 

แม้หมิงโยวจะบอกว่าเป็นเรื่องง่ายมากที่จะเชิญ” ลูกหลานของศิษย์จ้าวทะเลบูรพาเข้าสู่นิกายเฮยหยวน แต่ในความ เป็นจริงด้วยวิธีการของนิกายเฮยหยวน อีกฝ่ายคงถูกทร มานอย่างน่าอดสูอย่างไรเสียการมีชีวิตอยู่คงดีกว่าความ ตาย เพียงแต่ต้องบอกเล่าความลับเรื่องถ้ําเซียนของจ้าว ทะเลบูรพาออกไป

 

“นิกายเฮยหยวนของเจ้าใช้วิธีการเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวจ้าวทะเลบูรพามาชําระแค้นหรือ?” เฉวยวี่ ผู้อาวุโสแห่งตําหนักเทพเจ้าหิมะขมวดคิวเล็กน้อย

 

“ชําระแค้น?”

 

หมิงโยวที่สวมชุดคลุมสีดําหัวเราะออกมาแปลกๆ “หลายพันปีผ่านพ้น จ้าวทะเลบูรพาหายสาบสูญไปนานแล้ว หรือ อาจจะตายไปแล้วก็ได้จะเอาอะไรมาแก้แค้นนิกายเฮยห ยวนเล่า?”

 

ด้วยคําที่กล่าวออกมา

 

คนอื่นๆ ก็เงียบลง

 

เป็นจริงดังว่า

 

แม้เซียนเทพปฐพี่จะคงอยู่ได้เป็นพันปี แต่บัดนี้เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบหมื่นปีแล้วนับจากจุดรุ่งเรืองของกระแสปราณฉีครั้งล่าสุดเป็นธรรมดาที่จ้าวทะเลบูรพาคงจะตกตายไปนานแล้ว

 

“ถ้ําเชียนของเซียนเทพปฐพี่ขั้นสูงสุด…”

 

สายตาของหมิงโยวในชุดคลุมสีดําไม่สามารถเก็บซ่อนความโลภจากภายในเอาไว้ได้

 

เนื่องจากนิกายเฮยหยวนถูกพันธนาการไว้ด้วยวิชาบ่มเพาะไร้ความหวังที่จะเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี แต่ในฐานะที่จ้าวทะเลบูรพาเป็นเซียนเทพปฐพี ภายในถ้ําเซียนของเขาอาจจะซ่อนวิธีการปลดเปลื้องพันธนาการของวิชาบ่ม เพาะภายในนิกายเฮยหยวนได้

 

แม้จะไม่มีสิ่งเหล่านั้น ถ้ําเซียนของตัวตนขอบเขตเซียนเทพปฐพีก็เพียงพอที่จะทําให้เหล่าตํานานยุทธต่อสู้กันด้วยชีวิตของพวกเขา

 

ทุกวันนี้ผู้เยี่ยมยุทธในต่างแดนจําเป็นต้องประจําตําแหน่งอยู่ในนิกายของตน ม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้โดยง่ายโดยเฉพาะนิกายใหญ่ที่มีชื่อเสียงอย่างนิกายเฮยหยวน

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้นํานิกายเฮยหยวนจึงยอมให้หมิงโยววิญญาณยมโลกไปตรวจสอบและรวบรวมสิ่งของภายในถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา

 

หมิงโยวเป็นหนึ่งในตํานานยุทธที่ใกล้เคียงกับการเป็นผู้เยี่ยมยุทธในยุทธภพต่างแดนมากที่สุด

 

มันสมบูรณ์แบบทีเดียว ที่ให้เขาเป็นผู้ดําเนินการเรื่องนี้

 

“หลังจากเข้าไปในถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพาหากพวกเจ้าเชื่อฟังคําสั่งข้า มันอาจจะเป็นไปได้นะที่ข้าจะแจกจ่ายสมบัติของจ้าวทะเลบูรพาให้พวกเจ้าทุกคน”

 

หมิงโยว วิญญาณยมโลกเหลือบมองทุกคนอย่างเย็นชาและพูดออกมาช้าๆ

 

นี่คือเป้าหมายสูงสุดที่ทําให้เขาพูดออกมามากมายเพียงนี้ไม่ว่าจะอย่างไรจ้าวทะเลบูรพาก็คือเซียนเทพปฐพีขั้นสูงสุดแม้จะผ่านไปหนึ่งหมื่นปีวิชาที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลังก็ยังทําให้ผู้คนกระวนกระวายใจ

 

ในเวลานี้ หากมีผู้อาวุโสจากนิกายใหญ่คนอื่นๆไปด้วยโอกาสที่จะได้รับสมบัติของจ้าวทะเลบูรพาก็ยิ่งมีมากขึ้น

 

“แจกจ่ายสมบัติของจ้าวทะเลบูรพา…”

 

ผู้อาวุโสหลายคนจากนิกายใหญ่ต่างมองหน้ากันหัวใจเต้นแรงอยู่ในทรวง

 

ในฐานะผู้อาวุโสจากนิกายใหญ่ พวกเขาย่อมดูแคลนสมบัติธรรมดาๆ แต่จ้าวทะเลบูรพานั้นเป็นขั้นสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพี

 

สมบัติที่เขาทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง มันจะหน้าตาเป็นเช่นไรกันนะ?

 

“เมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าต้องขอรบกวนสหายเต้าหมิงโยวแล้วในครั้งนี้” ชายที่สะพายดาบยาวจากพรรคหมื่นดาบก็กระซิบบอกออกมาเบาๆ

 

คนอื่นๆ อีกหลายคนก็พยักหน้ากันทีละคน เห็นได้ชัดว่ายอมรับข้อเสนอจากหมิงโยว แม้จะเป็นผู้อาวุโสเฉว่ยวผู้หยิ่งผยองจากตําหนักเทพเจ้าหิมะก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่ประการใด

 

ในระดับของพวกเขา นอกจากการฝึกตนให้ก้าวหน้าแล้วก็ไม่มีสิ่งใดให้ไล่ตามไขว่คว้าอีกต่อไปแล้ว แต่สมบัติล้ําค่าชั่วชีวิตของจ้าวทะเลบูรพานั้น แม้พวกมันจะไม่สามาร ถช่วยให้พวกเขาเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีได้แต่ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตผู้เยี่ยมยุทธ

 

“งั้นพวกเราไปกันเลยเถอะ”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายในชุดดําหมิงโยว

 

เกาะหยิงโจว

 

ภายในถ้ําเซียน

 

แน่นอนว่าซุฉินไม่ทราบว่ามีคนกําลังจับจ้องมายังเกาะหยิงโจวแห่งนี้อยู่

 

ในตอนนี้ซูฉินกําลังนั่งขัดสมาธิอยู่หน้าน้ําพุจิตวิญญาณโดยเอาโอสถศักดิ์สิทธิ์แปดเก้าเม็ดออกมาวางเพิ่มไว้ที่ด้านหน้า พวกมันลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง

 

แน่นอนมันคือโอสถเพลิงเทพปฏิปักษ์

 

ตามที่ซูฉินคาดเอาไว้ ถ้ําเซียนแห่งนี้สามารถลงชื่อเข้าใช้ซ้ําได้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาซูฉินลงชื่อเข้าใช้และได้รับโอสถเพลิงเทพปฏิปักษ์มาจํานวนห้าสิบสองเม็ด

 

น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าโอสถเพลิงเทพปฏิปักษ์ทั้งห้าสิบสองเม็ดที่ลงชื่อเอามาได้จะทําให้”เต๋สะสม”ของถ้ําเซียนแห่งนี้หมดลงและซูฉินไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ต่อไปได้อีก

 

แกรัก

 

แกรัก

 

ในเวลานี้ เม็ดโอสถเพลิงเทพปฐพีทั้งห้าสิบสองเม็ดที่วางอยู่ด้านหน้าของซูฉินก็ระเบิดออกกลายเป็นมังกรไฟห้าสิบสองตัวพุ่งเข้าสู่ร่างของซูฉิน

 

ในเวลาเดียวกัน

 

แผ่นหินขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของซูฉิน

 

ในแผ่นหินมีดวงไฟนับพันจุด ในตอนนี้ส่วนขอบของ แผ่นหินมีจุดแสงเล็กๆค่อยๆ สว่างขึ้นเป็นส่วนใหญ่และจากนั้นก็ค่อยๆจางลงอย่างช้าๆ

 

“ค่ายกลสังหารเก้าชั้น บวกกับเม็ดโอสถเพลิงเทพปฏิปักษ์กว่าห้าสิบเม็ดไม่สามารถเติมจุดแสงได้จนเต็ม?”

 

ซูฉินลืมตาขึ้น แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

 

ในตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงความยากลําบากในการฝึกฝนวิชาดวงตะวันขนาดมหึมาอีกครั้ง ด้วยทรัพยากรบ่มเพาะจํา นวนมหาศาลที่ใช้ไปมันเพียงพอสําหรับเหล่าตํานานยุทธ เพื่อใช้ในการฝึกฝนไปได้หลายร้อยปีแต่ผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังคือมันไม่สามารถเติมเต็มจุดแสงได้?

 

แต่ซูฉินก็เปลี่ยนความคิดและยอมรับมัน

 

สุดท้ายหลังจากฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาดมหึมาซูฉินสามารถแปลงกายเป็นอีกาทองคําสามขาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสัตว์ธาตุไฟในตํานานทั้งหลายสา มารถควบคุมความสามารถอันน่าสะพรึงกลัว มีพลัง เหนือธรรมชาติสยบทุกสิ่งเช่น พลังเพลิงศักดิ์สิทธิ์จากดวงตะวันหากทุกคนสามารถฝึกฝนมันได้อย่างง่ายดายซูฉินต้ องสงสัยได้แล้วว่ามันมีอะไรผิดปกติหรือไม่

 

“อย่างไรก็ตาม ข้ารู้สึกได้ว่าจุดแสงกําลังจะได้รับการเติมเต็มตราบใดที่มีเม็ดโอสถเพลิงเทพปฏิปักษ์อีกสักหลายร้อยเม็ดก็น่าจะเพียงพอ”

 

ความคิดของซูฉินผันผวนไปมา ประมาณการคร่าวๆในใจ

 

“ดูเหมือนว่าในอนาคต ข้าจะต้องไปยังสถานที่ที่มีพลังงานธาตุไฟที่เพียงพอให้ลงชื่อเข้าใช้ มีเพียงวิธีนี้ที่พอจะหาโอสถศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟให้มากขึ้นได้”

 

ซูฉันคิดในใจเงียบๆ

 

หลังจากลงชื่อเข้าใช้มานานหลายสิบปี ซูฉินพอจะเข้าใจกฎของการลงชื่อเข้าใช้โดยทั่วไปแล้ว เมื่อซูฉินลงชื่อเข้าใช้ที่ใดเขาจะได้รับสมบัติที่เกี่ยวข้องสอดคล้องกันมา

 

ตัวอย่างเช่น ซูฉินลงชื่อเข้าใช้ที่วัดเส้าหลินมานานกว่าสิบปีและสิ่งของส่วนใหญ่ที่ได้รับมานั้นเป็นสมบัติทางสายพุทธ

 

แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรตายตัว

 

ซูฉินยังเคยลงชื่อเข้าใช้ในวิหารพระสหัสพุทธและลงชื่อได้รับดวงตาแห่งสัจจะ” ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายพุทธไปเสียทีเดียว

 

อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น หากซูฉินต้องการโอสถธาตุไฟจํานวนมาก เขาต้องหาสถานที่ที่มีพลังงานธาตุไฟเพียงพอและมี”เต๋สะสม” เพื่อให้ลงชื่อเข้าใช้ได้

 

“ไม่เป็นไร”

 

“ภาพดวงตะวันขนาดมหึมาคงไม่สามารถฝึกฝนสําเร็จได้ในเวลาอันสั้นขนาดนั้นหรอก”

 

“ทะลวงระดับนภาชั้นที่แปดเสียก่อน หากยังลากถ่วงต่อไปเกรงว่าน้ําพุจิตวิญญาณบางส่วนจะสูญหายไปอีก”

 

ซูฉินเหลือบมองน้ําพุจิตวิญญาณที่อยู่ตรงหน้าและตัดสินใจเลือก

 

น้ําพุจิตวิญญาณนั้นปล่อยพลังงานออกมาตลอดเวลาและซูฉันคงจะต้องลําบากใจแน่หากเขายังคงล่าช้าเช่นนี้

 

“มาเริ่มกันเลย”

 

ซูฉินค่อยๆ หลับตาลง

 

ในชั่วพริบตา น้ําพุจิตวิญญาณที่พวยพุ่งออกมาอย่างเขื่อยๆ ก็เริ่มสั่นสะเทือน และ น้ําพุ’ปริมาณมหาศาลก็ลอยขึ้นไปในอากาศเทรดร่างของซูฉินในทันใด

 

ด้านนอกถ้ํา

 

ชิงชิวเฉียนเฉียนตรวจดูท้องฟ้าถ้วนทั่วด้วยความรอบคอบ จากนั้นจึงหันศีรษะไปมองเกาะเล็กๆ ที่กลางทะเลสาบ

 

“ผู้อาวุโสไม่ได้มาจากตระกูลอีกาทองคําจริงๆหรือ?”

 

ชิงชิวเฉียนเฉียนกะพริบตา ใจเต็มไปด้วยความสงสัย

 

ในช่วงเวลานี้ ชิงชิวเฉียนเฉียนรู้สึกได้ถึงความร้อนแรงจากบนเกาะกลางทะเลสาบ

 

ราวกับว่าดวงตะวันที่น่าสะพรึงกลัวกําลังก่อตัวขึ้นบนเกาะเล็กๆนั่น

 

“ผู้อาวุโสน่ากลัวเกินไปแล้ว…”

 

ชิงชิวเฉียนเนี่ยนมองดูอยู่ครู่หนึ่ง แล้วรีบก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว ยืนด้วยอาการสํารวม จับตาดูความ ผันผวนของพลังฟ้าดิน

 

ซูฉินไว้ชีวิตนาง จุดประสงค์ก็เพื่อให้นางควบคุมดูแลค่ายกลฟ้าดินจํานวนมากบนเกาะหยิงโจว

 

ถ้าชิงชิวเฉียนเฉียนไม่สามารถทําสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ได้เมื่อซูฉินออกจากด่านฝึกตน จุดจบของนางคงสามารถจะคาดการณ์ได้ไม่ยาก

 

ดังนั้นเพื่อให้ซุฉินพึงพอใจ ชิงชิวเฉียนเฉียนจึงดูแลค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ทั้งหมดอย่างใส่ใจเพื่อไม่ให้มีเหตุผิดพลาดใดเกิดขึ้น

 

โลกถ้ําปิศาจใต้พิภพ

 

ท้องฟ้ามืดครึ้ม บรรยากาศกดดัน

 

“นายท่าน นั่นคือเมืองอินจี้”

 

โม่จีเดินไปขนาบข้างซูฉินอย่างนอบน้อม และชี้ไปทิศด้านหน้า

 

เห็นภูเขาไฟขนาดมหึมา มีเมืองอันสวยงามตั้งตระหง่านอยู่บนนั้น

 

เมืองแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าเมืองเมฆาปีศาจหลายเท่ากําแพงเมืองสีดําสนิท และมีกลิ่นอายอันลึกล้ําแผ่ออกมา

 

“เมืองอินจี้สร้างขึ้นบนภูเขาไฟอย่างนั้นหรือ?”

 

หัวใจของซูฉินกระตุกวูบ มองไปที่เมืองอินจี้ พร้อมกับพิ่มพําอยู่กับตนเอง

 

แม้ว่าจุดที่ซูฉินอยู่จะห่างจากเมืองอินจีหลายสิบลี้ แต่เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงอากาศที่ร้อนแผดเผาโชยมาถึงใบหน้าของเขาได้

 

“นายท่าน” โม่จีที่อยู่ด้านข้างรีบอธิบายในทันที “เจ้าเมืองอินจี้ทุกคนที่ผ่านมาล้วนฝึกฝนวิชาปีศาจธาตุหยิน หากต้องการให้การบ่มเพาะประสบผลสําเร็จ นอกจากการรวบรวมพลังหยินบริสุทธิ์แล้ว จะต้องมีสภาพแวดล้อมธาตุห ยางอันยอดเยี่ยม เมื่อหยินและหยางเติบโตไปด้วยกันย่อมเสริมความหวังให้แก่การฝึกฝน..”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย

 

เขาตระหนักได้ถึงความสําคัญของหยินและหยางตั้งแต่อยู่ในขอบเขตวิทยายุทธทั้งเก้าระดับชั้น

 

อย่างไรก็ตาม สําหรับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็ยังมีบางชนิดที่มีหยินหยางไม่สมดุล เช่น อีกาทองคําสามขามันถือกําเนิดมาจากดวงตะวันขนาดยักษ์เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่กําเนิด

 

อย่างไรก็ตาม สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างดีกาทองคําสามขานั้นเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตส่วนน้อย สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากครรภ์มารดา ไม่ได้เชี่ยวชาญในพลังธาตุเพียงหนึ่งเดียวเสมอไป

 

แม้จะเป็นขอบเขตเซียนเทพปฐพีธาตุไฟอย่างจ้าวทะเลบูรพาวิชาที่เขาใช้ก็ไม่ได้มีเพียงแค่เปลวเพลิง ไม่เช่นนั้นคําว่า “ทะเล” คงไม่ปรากฏในชื่อเรียกขานของจ้าวทะเล บูรพา

 

“ด้วยภูเขาไฟแห่งนี้ พลังงานธาตุไฟมีอยู่อย่างมากล้นและเมืองอินจี้ก็เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกถ้ําปิศาจแน่นอนว่าจะต้องมีกิ่งก้านของต้นไม้ปีศาจโบราณ และ เต่าสะสม” ที่มีอยู่คงเพียงพอ”

 

“ถ้าได้ลงชื่อเขาใช้ เกรงว่าข้าคงจะได้รับโอสถวิเศษธาตุไฟมาเป็นจํานวนมาก

 

“ด้วยวิธีนี้มันจะช่วยเร่งการบ่มเพาะของภาพดวงตะวันขนาดมหึมาได้อย่างแน่นอน”

 

ดวงตาของซูฉินเป็นประกาย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+