เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 225 (II) กลับคืนสู่ความตื่นตระหนกอีกครั้ง

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 225 (II) กลับคืนสู่ความตื่นตระหนกอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 225 (I) กลับคืนสู่ความตื่นตระหนกอีกครั้ง

 

“พวกเจ้าเข้ามาเถอะ”

 

“เจ้าค่ะ” ชิงชิวเฉียนเฉียนและนักพรตเฒ่าเหลือบมองซี่งกันและกัน จากนั้นจึงเดินอย่างสํารวมเข้าไปภายในถ้ํา

 

ในเวลานี้ เมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นภายในถ้ํา ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ หลุมลึกที่เป็นที่ตั้งของตาน้ําพุจิตวิญญาณได้หายไป

 

“นายท่าน ตาน้ําพุจิตวิญญาณไปอยู่ที่ใดแล้ว?”

 

ชิงชิวเฉียนเฉียนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ที่แรกที่เข้ามา และถามออกอย่างระมัดระวัง

 

“ใส่เข้าไปแล้ว” ซูฉินเหลือบตามองไปที่กล่องหยกข้างๆ แล้วกล่าวตอบออกมาเบาๆ

 

หากไม่ใช่เพราะซูฉินได้ก้าวเข้าสู่นภาชั้นที่แปดเรียบร้อยแล้ว เกรงว่าการพยายามย้ายน้ําพุจิตวิญญาณในครั้งนี้จะต้องใช้ความพยายามอย่างมาก

 

จ้าวทะเลบูรพาที่ฝั่งตาน้ําพุจิตวิญญาณไว้บนเกาะหยิงโจวเมื่อหมื่นปีก่อน ได้รวมตาน้ําพุจิตวิญญาณเข้ากับเกาะหยิงโจวทั้งเกาะ

 

ซูฉินต้องการโอนย้ายตาน้ําพุจิตวิญญาณก็เท่ากับเป็นการเขย่าทั่วทั้งเกาะหยิงโจว

 

แม้ว่าเกาะหยิงโจวจะมีขนาดใหญ่ไม่เท่ากับแผ่นดินใหญ่ แต่ก็มีขนาดหลายร้อยลี้ ด้วยเกาะขนาดเท่านี้ตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ดหรือชั้นที่แปดทั่วๆไปไม่สามารถกระทําการเช่นนี้ได้

 

“ใส่เข้าไปแล้ว?” ชิงชิวเฉียนเฉียนมองไปที่กล่องหยก

 

“หยิบกล่องหยกขึ้นมา”

 

ซูฉินมองไปที่กล่องหยกแล้วออกคําสั่ง

 

แม้ว่าคลังของระบบจะสามารถเก็บของได้ทุกอย่าง แต่มันก็มีประโยชน์เฉพาะสมบัติที่ได้รับมาจากการลงชื่อเข้าใช้เท่านั้น ส่วนอย่างอื่นไม่สามารถใส่เข้าไปได้

 

“เจ้าค่ะ”

 

ชิงชิวเฉียนเฉียนก้าวเท้าไปข้างหน้าในทันที และมองไปที่กล่องหยกด้วยความสงสัย จากนั้นจึงก้มลงไปจะยกกล่องหยกขึ้นมาถือเอาไว้

 

“โอ้โห”

 

“นายท่าน ทําไมกล่องหยกถึงหนักเยี่ยงนี้?”

 

ใบหน้าของชิงชิวเฉียนเฉียนแดงก่ําเล็กน้อย หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง นางก็ขยับกล่องหยกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าจะยกขึ้นมาได้อย่างไรเลย

 

“แม้ว่าน้ําพุจิตวิญญาณจะเป็นการรวมตัวกันของจิตใจแห่งฟ้าดินอันมากมายไร้ที่สิ้นสุด แต่มันก็เกี่ยวข้องกับชีพจรธรณีด้วย ถึงแม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวส่วนเล็กๆ มันก็หนักนับพันชั่งแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้มันมากกว่าแค่เศษเสี้ยวแน่นอน”

 

นักพรตเฒ่าอธิบาย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ลอง ถามซูฉินดูว่า “ผู้อาวุโส ท่านอยากให้ข้าลองดูหรือไม่?”

 

แม้ว่าชิงชิวเฉียนเฉียนจะเป็นภูตอสูร แต่ฐานการบ่มเพาะก็เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธเท่านั้น อย่างไรเสียนักพรตเฒ่าก็เป็นถึงตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่สี่ขั้นสูงสุด แม้ว่าร่างกายจะไม่ได้แข็งแกร่งเป็นพิเศษ แต่ความแข็งแกร่งนั้นไม่ได้ถูกกําหนดด้วยร่างกายเพียงอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่

 

“ลองดู”

 

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย

 

เมื่อได้ยินคําอนุมัติ นักพรตเฒ่าก็ก้าวเท้าไปด้านหน้าในทันที แก่นแท้แห่งพลังโคจรไปถึงมือ คว้าหมับเข้าที่ด้านข้างของกล่องหยก

 

“ขึ้นมา!”

 

นักพรตเฒ่าตะโกนเสียงดัง ค่อยๆยกกล่องหยกขึ้นมา แล้วถือมันเอาไว้ในมือ

 

“ผู้อาวุโส”

 

“แบบนี้ได้หรือไม่?”

 

นักพรตเฒ่าถอนหายใจอย่างโล่งอก กล่าวต่อซูฉินด้วยความเคารพ

 

“ไม่เลว” ซูฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า แล้วจึงปรบมือให้ “ข้าจะมอบหน้าที่นี้ให้เจ้าในการเดินทางครั้งนี้”

 

“นี่ย่อมเป็นสิ่งที่ผู้น้อยพึงกระทํา”

 

นักพรตเฒ่าดีใจ รีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว

 

สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือการที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือซูฉินได้เลย ด้วยวิธีนี้ เขาจะไปที่ไหนทําอะไรก็ได้ เพียงแต่อยู่ภายใต้อํานาจคนไม่กี่คนเท่านั้น

 

“ตลอดทางไหวนะ?”

 

นักพรตเฒ่าชะงักไปชั่วครู่ แล้วถามออกมาโดยไม่รู้ตัว “ผู้อาวุโส เราจะไปที่ไหนกัน?”

 

“กลับฉางอัน”

 

ซูฉินเงยหน้ามองไปยังทิศทางเมืองฉางอัน แล้วกล่าวตอบเบาๆ

 

ต่างดินแดน

 

นิกายเฮยหยวน

 

ผู้นํานิกายเฮยหยวนนั่งอยู่บนแท่นบัลลังก์หลัก ดวงตาของเขาดูลึกล้ํา ไม่รู้ว่ากําลังคิดอะไรอยู่

 

ในเวลานี้ ชายคนหนึ่งลงไปนั่งคํานับแล้วกล่าวว่า “ท่านผู้นํา ศิษย์พี่หมิงโยวสําเร็จวิชาร่างปีศาจจนถึงระดับลึกซึ้งแล้ว การให้เขาไปยังพื้นที่จุดตัดจะต้องสามารถค้นหาความจริงที่เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน”

 

“แน่นอนว่าข้าไม่ได้กังวลเรื่องของพื้นที่จุดตัด” ผู้นํานิกายเฮยหยวนส่ายหัวพร้อมกับกระซิบคําออกมา

 

สําหรับผู้นํานิกายเฮยหยวน แม้ว่าพื้นที่จุดตัดจะสําคัญ แต่ก็ไม่ได้มีความสําคัญสูงสุด

 

“ไม่ใช่เรื่องของพื้นที่จุดตัดหรอกหรือ?”

 

ผู้อาวุโสในชุดคลุมสีดําด้านล่างต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย

 

ปัจจุบัน นิกายเฮยหยวนนั้นยืนอยู่แนวหน้าในต่างดินแดน เทียบเคียงได้กับนิกายใหญ่ๆจํานวนมาก เช่น นิกายเทพเจ้าสายฟ้า สํานักเอกะวิถี ทั้งยังควบคุมทรัพยากรส่วนใหญ่ในยุทธภพต่างดินแดนเอาไว้อีกด้วย นอกเหนือจากพื้นที่จุดตัดแล้ว ยังจะมีอะไรควรค่าให้ท่านผู้นําครุ่นคิดเช่นนี้?

 

“คราวนี้ที่ข้าปล่อยให้หมิงโยวได้ลงมือ นอกจากเรื่องพื้นที่จุดตัดแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพาด้วย” ผู้นํานิกายเฮยหยวนเหลือบมองฝูงชนเบื้องล่างแล้วกล่าวคําช้าๆ

 

แม้ว่าถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพาจะเป็นความลับสุดยอด แต่อย่างน้อยผู้อาวุโสภายในนิกายเฮยหยวนก็ทราบเรื่องนี้

 

“ถ้ำเซียนของจ้าวทะเลบูรพา?”

 

รูม่านตาของผู้คนที่อยู่ด้านล่างก็หดตัวลงเล็กน้อย ใบหน้าของพวกเขาตื่นตะลึง

 

จ้าวทะเลบูรพาเป็นเซียนเทพปฐพีตั้งแต่เมื่อหมื่นปีที่แล้ว และยังเป็นเซียนเทพปฐพีขั้นสูงสุด ถ้ําเซียนของเขาย่อมมีโอกาสดีๆที่หาได้ยากยิ่งอย่างแน่นอน และยังอาจจะมีวิธีที่ช่วยชดเชยข้อบกพร่องของวิชาภายในนิกายเฮยหยวน

 

ในตอนแรก นิกายเฮยหยวนตั้งใจจะใช้ความแข็งแกร่งของทั้งนิกายเพื่อร่วมมือกันยึดครองถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา แต่ตามที่ผู้นํานิกายได้บอกออกมาเช่นนี้ หมายความว่าเขาได้ปล่อยให้หมิงโยวเดินทางไปก่อนเวลากําหนด

 

“ถูกต้อง”

 

ผู้นํานิกายเฮยหยวนพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ตอนนี้กระแสปราณีฟื้นคืนแล้ว ถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพาอาจจะมีการรั่วไหลของไอพลังออกมาให้โลกได้รับรู้ ถ้าข้ายังรอต่อไป มีความเป็นไปได้มากว่าจะมีผู้คนชิงตัดหน้าไปก่อน”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

เหล่าผู้อาวุโสเข้าใจได้ในทันที

 

ผู้นํานิกายเฮยหยวน ในฐานะที่เป็นผู้เยี่ยมยุทธผู้มีอํานาจสั่งการ จึงจําเป็นจะต้องประจําการอยู่ภายในนิกายเฮยหยวน และนอกเหนือจากผู้นํานิกายแล้ว ก็เห็นจะมีแต่หมิงโยวเท่านั้นที่เหมาะสมที่สุดสําหรับงานนี้

 

ในฐานะที่หมิงโยวเป็นตํานานยุทธที่ใกล้เคียงกับการเป็นผู้เยี่ยมยุทธมากที่สุดในต่างแดน มีความสามารถในการเอาตัวรอดได้ดี แม้ว่าจะเจอการโจมตีจากผู้เยี่ยมยุทธ มันก็ไม่สามารถทําอะไรเขาได้

 

“ในเมื่อศิษย์พี่หมิงโยวเป็นผู้ออกไปทําภารกิจ เหตุใดท่านผู้นําจึงเป็นกังวลเล่า?”

 

มีผู้อาวุโสชุดดําคนหนึ่งที่งุนงงและกล่าวถามออกไป

 

“ข้ากังวลเกี่ยวกับถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา” ผู้นํานิกายเฮยหยวนถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วกล่าวตอบ

 

นิกายโบราณหลายแห่งเช่น นิกายเทพเจ้าสายฟ้า สํานักเอกะวิถี และตําหนักเทพเจ้าหิมะต่างเคยมีเซียนเทพปฐพีกําเนิดขึ้นมาแล้วกันทั้งนั้น แต่นิกายเฮยหยวนไม่เคยมีเซียนเทพปฐพีกําเนิดขึ้นมาเลย เป็นเพราะข้อบกพร่องในวิชาบ่มเพาะของพวกเขา

 

เมื่อเทียบกับนิกายใหญ่อื่นๆ นิกายเฮยหยวนต้องการมรดกของจ้าวทะเลบูรพามากที่สุด

 

“ท่านผู้นํา ท่านจะกังวลเกินไปแล้ว”

 

ผู้อาวุโสนิกายเฮยหยวนยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวว่า “ข้ารู้ดีถึงความแข็งแกร่งของศิษย์พี่หมิงโยว แม้ว่าจะมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นที่ถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา หรือมีใครครอบครองถ้ําเซียนได้ก่อนพวกเรา ถ้าศิษย์พี่หมิงโยวเคลื่อนไหวจริงๆล่ะก็ ไม่มีทางที่ใครจะจับตัวเขาไว้ได้”

 

“ถูกต้อง”

 

“หากมีผู้มิรู้จักกลัวความตายกล้าครอบครองถ้ําเซียนจริง ก็ต้องรีบมอบสมบัติของจ้าวทะเลบูรพาออกมาโดยสัตย์ซื่อ ไม่เช่นนั้นนิกายเฮยหยวนของเราจะไม่มีวันปล่อยให้มันได้พ้นโทษตายอย่างแน่นอน”

 

“นิกายเฮยหยวนเราก็เป็นนิกายใหญ่ในดินแดนโพ้นทะเลแห่งนี้ แม้ว่าจะเป็นสํานักเอกะวิถีก็ตาม ก็ต้องยอมถอยให้เราสักสามก้าว ข้าอยากจะรู้เหลือเกินว่ามันจะมีใครกล้าครอบครองถ้ําเซียนจ้าวทะเลบูรพาของพวกเราหรือไม่?

 

ผู้อาวุโสนิกายเฮยหยวนทั้งดูถูกดูหมิ่นผู้คน และมั่นใจในตนเองเหลือประมาณ

 

“นั่นสินะ ดูเหมือนข้าจะกังวลมากเกินไป”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้นํานิกายเฮยหยวน ความแข็งแกร่งในระดับของหมิงโยว แม้จะเป็นตัวเขาเอง การเอาชนะนั้นไม่ได้ยาก หากแต่การจะสังหารให้ได้นั้น ยากราวกับปืนปายสวรรค์

 

ไม่ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันใดขึ้นที่ถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา หมิงโยวก็ย่อมรับมือได้

 

นอกจากนี้ แม้ว่าหมิงโยวจะจัดการไม่ได้ แต่ด้วยความสามารถในการเอาตัวรอดของเขา เขาก็สามารถหนีกลับมาที่นิกายเฮยหยวนได้ เมื่อเวลานั้นมาถึง จะมีใครในโลกนี้ที่สามารถต้านทานอํานาจของนิกายเฮยหยวนได้?

 

ยิ่งคิดก็ยิ่งสุขใจ

 

ขณะที่ผู้อาวุโสกําลังเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับสมบัติภายในถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา

 

ศิษย์ของนิกายเฮยหยวนก็รีบวิ่งเข้ามา

 

“ท่านผู้นํา

 

ศิษย์ผู้นี้คุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยเสียงอันสั่นเทา

 

“ไม่ต้องตื่นกลัวไป เพียงแค่กล่าวออกมา” ผู้นํานิกายเฮยหยวนกล่าวคํา

 

ตอนนี้นิกายเฮยหยวนกําลังจะได้รับสมบัติจากถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา เขาย่อมอารมณ์ดีเป็นธรรมดา ไม่เช่นนั้น ถ้าศิษย์คนใดกล้าบุกเข้ามาเช่นนี้ เขาจะตบมันเสียให้แดดิ้น

 

“ผู้นํา”

 

“ผู้อาวุโสหมิงโยว ผู้อาวุโสหมิงโยวเขา…เขา…”

 

ศิษย์นิกายเฮยหยวนลังเลใจ พูดออกมาตะกุกตะกัก

 

“ศิษย์พี่หมิงโยวได้รวบรวมสมบัติจากถ้ําเซียนของทะเลบูรพามาแล้วรึ?” ผู้อาวุโสนิกายเฮยหยวนรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง และจ้องมองศิษย์นิกายเฮยหยวนด้วยดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ

 

ดวงตาของผู้นํานิกายเฮยหยวนก็เป็นประกายสดใสเช่นกันเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เริ่มแผ่ปกคลุมไปทั่วทุกทิศทาง

 

“ท่านผู้นํา ผู้อาวุโสหมิงโยว…”

 

ท่ามกลางสายตาคาดหวังของทุกคน ศิษย์นิกายเฮยหยวนเกือบจะร้องไห้ออกมา “ผู้อาวุโสหมิงโยวได้สิ้นชีพลงแล้ว”

 

คําที่กล่าวออกมา

 

ผู้อาวุโสหลายต่อหลายคนในห้องโถง รวมถึงผู้นํานิกายเฮยหยวนก็ตัวแข็งที่อ ทั้งหมดต่างตื่นตะลึง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 225 (II) กลับคืนสู่ความตื่นตระหนกอีกครั้ง

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 225 (II) กลับคืนสู่ความตื่นตระหนกอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 225 (I) กลับคืนสู่ความตื่นตระหนกอีกครั้ง

 

“พวกเจ้าเข้ามาเถอะ”

 

“เจ้าค่ะ” ชิงชิวเฉียนเฉียนและนักพรตเฒ่าเหลือบมองซี่งกันและกัน จากนั้นจึงเดินอย่างสํารวมเข้าไปภายในถ้ํา

 

ในเวลานี้ เมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นภายในถ้ํา ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ หลุมลึกที่เป็นที่ตั้งของตาน้ําพุจิตวิญญาณได้หายไป

 

“นายท่าน ตาน้ําพุจิตวิญญาณไปอยู่ที่ใดแล้ว?”

 

ชิงชิวเฉียนเฉียนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ที่แรกที่เข้ามา และถามออกอย่างระมัดระวัง

 

“ใส่เข้าไปแล้ว” ซูฉินเหลือบตามองไปที่กล่องหยกข้างๆ แล้วกล่าวตอบออกมาเบาๆ

 

หากไม่ใช่เพราะซูฉินได้ก้าวเข้าสู่นภาชั้นที่แปดเรียบร้อยแล้ว เกรงว่าการพยายามย้ายน้ําพุจิตวิญญาณในครั้งนี้จะต้องใช้ความพยายามอย่างมาก

 

จ้าวทะเลบูรพาที่ฝั่งตาน้ําพุจิตวิญญาณไว้บนเกาะหยิงโจวเมื่อหมื่นปีก่อน ได้รวมตาน้ําพุจิตวิญญาณเข้ากับเกาะหยิงโจวทั้งเกาะ

 

ซูฉินต้องการโอนย้ายตาน้ําพุจิตวิญญาณก็เท่ากับเป็นการเขย่าทั่วทั้งเกาะหยิงโจว

 

แม้ว่าเกาะหยิงโจวจะมีขนาดใหญ่ไม่เท่ากับแผ่นดินใหญ่ แต่ก็มีขนาดหลายร้อยลี้ ด้วยเกาะขนาดเท่านี้ตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ดหรือชั้นที่แปดทั่วๆไปไม่สามารถกระทําการเช่นนี้ได้

 

“ใส่เข้าไปแล้ว?” ชิงชิวเฉียนเฉียนมองไปที่กล่องหยก

 

“หยิบกล่องหยกขึ้นมา”

 

ซูฉินมองไปที่กล่องหยกแล้วออกคําสั่ง

 

แม้ว่าคลังของระบบจะสามารถเก็บของได้ทุกอย่าง แต่มันก็มีประโยชน์เฉพาะสมบัติที่ได้รับมาจากการลงชื่อเข้าใช้เท่านั้น ส่วนอย่างอื่นไม่สามารถใส่เข้าไปได้

 

“เจ้าค่ะ”

 

ชิงชิวเฉียนเฉียนก้าวเท้าไปข้างหน้าในทันที และมองไปที่กล่องหยกด้วยความสงสัย จากนั้นจึงก้มลงไปจะยกกล่องหยกขึ้นมาถือเอาไว้

 

“โอ้โห”

 

“นายท่าน ทําไมกล่องหยกถึงหนักเยี่ยงนี้?”

 

ใบหน้าของชิงชิวเฉียนเฉียนแดงก่ําเล็กน้อย หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง นางก็ขยับกล่องหยกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าจะยกขึ้นมาได้อย่างไรเลย

 

“แม้ว่าน้ําพุจิตวิญญาณจะเป็นการรวมตัวกันของจิตใจแห่งฟ้าดินอันมากมายไร้ที่สิ้นสุด แต่มันก็เกี่ยวข้องกับชีพจรธรณีด้วย ถึงแม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวส่วนเล็กๆ มันก็หนักนับพันชั่งแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้มันมากกว่าแค่เศษเสี้ยวแน่นอน”

 

นักพรตเฒ่าอธิบาย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ลอง ถามซูฉินดูว่า “ผู้อาวุโส ท่านอยากให้ข้าลองดูหรือไม่?”

 

แม้ว่าชิงชิวเฉียนเฉียนจะเป็นภูตอสูร แต่ฐานการบ่มเพาะก็เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธเท่านั้น อย่างไรเสียนักพรตเฒ่าก็เป็นถึงตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่สี่ขั้นสูงสุด แม้ว่าร่างกายจะไม่ได้แข็งแกร่งเป็นพิเศษ แต่ความแข็งแกร่งนั้นไม่ได้ถูกกําหนดด้วยร่างกายเพียงอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่

 

“ลองดู”

 

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย

 

เมื่อได้ยินคําอนุมัติ นักพรตเฒ่าก็ก้าวเท้าไปด้านหน้าในทันที แก่นแท้แห่งพลังโคจรไปถึงมือ คว้าหมับเข้าที่ด้านข้างของกล่องหยก

 

“ขึ้นมา!”

 

นักพรตเฒ่าตะโกนเสียงดัง ค่อยๆยกกล่องหยกขึ้นมา แล้วถือมันเอาไว้ในมือ

 

“ผู้อาวุโส”

 

“แบบนี้ได้หรือไม่?”

 

นักพรตเฒ่าถอนหายใจอย่างโล่งอก กล่าวต่อซูฉินด้วยความเคารพ

 

“ไม่เลว” ซูฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า แล้วจึงปรบมือให้ “ข้าจะมอบหน้าที่นี้ให้เจ้าในการเดินทางครั้งนี้”

 

“นี่ย่อมเป็นสิ่งที่ผู้น้อยพึงกระทํา”

 

นักพรตเฒ่าดีใจ รีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว

 

สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือการที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือซูฉินได้เลย ด้วยวิธีนี้ เขาจะไปที่ไหนทําอะไรก็ได้ เพียงแต่อยู่ภายใต้อํานาจคนไม่กี่คนเท่านั้น

 

“ตลอดทางไหวนะ?”

 

นักพรตเฒ่าชะงักไปชั่วครู่ แล้วถามออกมาโดยไม่รู้ตัว “ผู้อาวุโส เราจะไปที่ไหนกัน?”

 

“กลับฉางอัน”

 

ซูฉินเงยหน้ามองไปยังทิศทางเมืองฉางอัน แล้วกล่าวตอบเบาๆ

 

ต่างดินแดน

 

นิกายเฮยหยวน

 

ผู้นํานิกายเฮยหยวนนั่งอยู่บนแท่นบัลลังก์หลัก ดวงตาของเขาดูลึกล้ํา ไม่รู้ว่ากําลังคิดอะไรอยู่

 

ในเวลานี้ ชายคนหนึ่งลงไปนั่งคํานับแล้วกล่าวว่า “ท่านผู้นํา ศิษย์พี่หมิงโยวสําเร็จวิชาร่างปีศาจจนถึงระดับลึกซึ้งแล้ว การให้เขาไปยังพื้นที่จุดตัดจะต้องสามารถค้นหาความจริงที่เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน”

 

“แน่นอนว่าข้าไม่ได้กังวลเรื่องของพื้นที่จุดตัด” ผู้นํานิกายเฮยหยวนส่ายหัวพร้อมกับกระซิบคําออกมา

 

สําหรับผู้นํานิกายเฮยหยวน แม้ว่าพื้นที่จุดตัดจะสําคัญ แต่ก็ไม่ได้มีความสําคัญสูงสุด

 

“ไม่ใช่เรื่องของพื้นที่จุดตัดหรอกหรือ?”

 

ผู้อาวุโสในชุดคลุมสีดําด้านล่างต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย

 

ปัจจุบัน นิกายเฮยหยวนนั้นยืนอยู่แนวหน้าในต่างดินแดน เทียบเคียงได้กับนิกายใหญ่ๆจํานวนมาก เช่น นิกายเทพเจ้าสายฟ้า สํานักเอกะวิถี ทั้งยังควบคุมทรัพยากรส่วนใหญ่ในยุทธภพต่างดินแดนเอาไว้อีกด้วย นอกเหนือจากพื้นที่จุดตัดแล้ว ยังจะมีอะไรควรค่าให้ท่านผู้นําครุ่นคิดเช่นนี้?

 

“คราวนี้ที่ข้าปล่อยให้หมิงโยวได้ลงมือ นอกจากเรื่องพื้นที่จุดตัดแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพาด้วย” ผู้นํานิกายเฮยหยวนเหลือบมองฝูงชนเบื้องล่างแล้วกล่าวคําช้าๆ

 

แม้ว่าถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพาจะเป็นความลับสุดยอด แต่อย่างน้อยผู้อาวุโสภายในนิกายเฮยหยวนก็ทราบเรื่องนี้

 

“ถ้ำเซียนของจ้าวทะเลบูรพา?”

 

รูม่านตาของผู้คนที่อยู่ด้านล่างก็หดตัวลงเล็กน้อย ใบหน้าของพวกเขาตื่นตะลึง

 

จ้าวทะเลบูรพาเป็นเซียนเทพปฐพีตั้งแต่เมื่อหมื่นปีที่แล้ว และยังเป็นเซียนเทพปฐพีขั้นสูงสุด ถ้ําเซียนของเขาย่อมมีโอกาสดีๆที่หาได้ยากยิ่งอย่างแน่นอน และยังอาจจะมีวิธีที่ช่วยชดเชยข้อบกพร่องของวิชาภายในนิกายเฮยหยวน

 

ในตอนแรก นิกายเฮยหยวนตั้งใจจะใช้ความแข็งแกร่งของทั้งนิกายเพื่อร่วมมือกันยึดครองถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา แต่ตามที่ผู้นํานิกายได้บอกออกมาเช่นนี้ หมายความว่าเขาได้ปล่อยให้หมิงโยวเดินทางไปก่อนเวลากําหนด

 

“ถูกต้อง”

 

ผู้นํานิกายเฮยหยวนพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ตอนนี้กระแสปราณีฟื้นคืนแล้ว ถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพาอาจจะมีการรั่วไหลของไอพลังออกมาให้โลกได้รับรู้ ถ้าข้ายังรอต่อไป มีความเป็นไปได้มากว่าจะมีผู้คนชิงตัดหน้าไปก่อน”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

เหล่าผู้อาวุโสเข้าใจได้ในทันที

 

ผู้นํานิกายเฮยหยวน ในฐานะที่เป็นผู้เยี่ยมยุทธผู้มีอํานาจสั่งการ จึงจําเป็นจะต้องประจําการอยู่ภายในนิกายเฮยหยวน และนอกเหนือจากผู้นํานิกายแล้ว ก็เห็นจะมีแต่หมิงโยวเท่านั้นที่เหมาะสมที่สุดสําหรับงานนี้

 

ในฐานะที่หมิงโยวเป็นตํานานยุทธที่ใกล้เคียงกับการเป็นผู้เยี่ยมยุทธมากที่สุดในต่างแดน มีความสามารถในการเอาตัวรอดได้ดี แม้ว่าจะเจอการโจมตีจากผู้เยี่ยมยุทธ มันก็ไม่สามารถทําอะไรเขาได้

 

“ในเมื่อศิษย์พี่หมิงโยวเป็นผู้ออกไปทําภารกิจ เหตุใดท่านผู้นําจึงเป็นกังวลเล่า?”

 

มีผู้อาวุโสชุดดําคนหนึ่งที่งุนงงและกล่าวถามออกไป

 

“ข้ากังวลเกี่ยวกับถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา” ผู้นํานิกายเฮยหยวนถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วกล่าวตอบ

 

นิกายโบราณหลายแห่งเช่น นิกายเทพเจ้าสายฟ้า สํานักเอกะวิถี และตําหนักเทพเจ้าหิมะต่างเคยมีเซียนเทพปฐพีกําเนิดขึ้นมาแล้วกันทั้งนั้น แต่นิกายเฮยหยวนไม่เคยมีเซียนเทพปฐพีกําเนิดขึ้นมาเลย เป็นเพราะข้อบกพร่องในวิชาบ่มเพาะของพวกเขา

 

เมื่อเทียบกับนิกายใหญ่อื่นๆ นิกายเฮยหยวนต้องการมรดกของจ้าวทะเลบูรพามากที่สุด

 

“ท่านผู้นํา ท่านจะกังวลเกินไปแล้ว”

 

ผู้อาวุโสนิกายเฮยหยวนยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวว่า “ข้ารู้ดีถึงความแข็งแกร่งของศิษย์พี่หมิงโยว แม้ว่าจะมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นที่ถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา หรือมีใครครอบครองถ้ําเซียนได้ก่อนพวกเรา ถ้าศิษย์พี่หมิงโยวเคลื่อนไหวจริงๆล่ะก็ ไม่มีทางที่ใครจะจับตัวเขาไว้ได้”

 

“ถูกต้อง”

 

“หากมีผู้มิรู้จักกลัวความตายกล้าครอบครองถ้ําเซียนจริง ก็ต้องรีบมอบสมบัติของจ้าวทะเลบูรพาออกมาโดยสัตย์ซื่อ ไม่เช่นนั้นนิกายเฮยหยวนของเราจะไม่มีวันปล่อยให้มันได้พ้นโทษตายอย่างแน่นอน”

 

“นิกายเฮยหยวนเราก็เป็นนิกายใหญ่ในดินแดนโพ้นทะเลแห่งนี้ แม้ว่าจะเป็นสํานักเอกะวิถีก็ตาม ก็ต้องยอมถอยให้เราสักสามก้าว ข้าอยากจะรู้เหลือเกินว่ามันจะมีใครกล้าครอบครองถ้ําเซียนจ้าวทะเลบูรพาของพวกเราหรือไม่?

 

ผู้อาวุโสนิกายเฮยหยวนทั้งดูถูกดูหมิ่นผู้คน และมั่นใจในตนเองเหลือประมาณ

 

“นั่นสินะ ดูเหมือนข้าจะกังวลมากเกินไป”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้นํานิกายเฮยหยวน ความแข็งแกร่งในระดับของหมิงโยว แม้จะเป็นตัวเขาเอง การเอาชนะนั้นไม่ได้ยาก หากแต่การจะสังหารให้ได้นั้น ยากราวกับปืนปายสวรรค์

 

ไม่ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันใดขึ้นที่ถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา หมิงโยวก็ย่อมรับมือได้

 

นอกจากนี้ แม้ว่าหมิงโยวจะจัดการไม่ได้ แต่ด้วยความสามารถในการเอาตัวรอดของเขา เขาก็สามารถหนีกลับมาที่นิกายเฮยหยวนได้ เมื่อเวลานั้นมาถึง จะมีใครในโลกนี้ที่สามารถต้านทานอํานาจของนิกายเฮยหยวนได้?

 

ยิ่งคิดก็ยิ่งสุขใจ

 

ขณะที่ผู้อาวุโสกําลังเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับสมบัติภายในถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา

 

ศิษย์ของนิกายเฮยหยวนก็รีบวิ่งเข้ามา

 

“ท่านผู้นํา

 

ศิษย์ผู้นี้คุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยเสียงอันสั่นเทา

 

“ไม่ต้องตื่นกลัวไป เพียงแค่กล่าวออกมา” ผู้นํานิกายเฮยหยวนกล่าวคํา

 

ตอนนี้นิกายเฮยหยวนกําลังจะได้รับสมบัติจากถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา เขาย่อมอารมณ์ดีเป็นธรรมดา ไม่เช่นนั้น ถ้าศิษย์คนใดกล้าบุกเข้ามาเช่นนี้ เขาจะตบมันเสียให้แดดิ้น

 

“ผู้นํา”

 

“ผู้อาวุโสหมิงโยว ผู้อาวุโสหมิงโยวเขา…เขา…”

 

ศิษย์นิกายเฮยหยวนลังเลใจ พูดออกมาตะกุกตะกัก

 

“ศิษย์พี่หมิงโยวได้รวบรวมสมบัติจากถ้ําเซียนของทะเลบูรพามาแล้วรึ?” ผู้อาวุโสนิกายเฮยหยวนรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง และจ้องมองศิษย์นิกายเฮยหยวนด้วยดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ

 

ดวงตาของผู้นํานิกายเฮยหยวนก็เป็นประกายสดใสเช่นกันเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เริ่มแผ่ปกคลุมไปทั่วทุกทิศทาง

 

“ท่านผู้นํา ผู้อาวุโสหมิงโยว…”

 

ท่ามกลางสายตาคาดหวังของทุกคน ศิษย์นิกายเฮยหยวนเกือบจะร้องไห้ออกมา “ผู้อาวุโสหมิงโยวได้สิ้นชีพลงแล้ว”

 

คําที่กล่าวออกมา

 

ผู้อาวุโสหลายต่อหลายคนในห้องโถง รวมถึงผู้นํานิกายเฮยหยวนก็ตัวแข็งที่อ ทั้งหมดต่างตื่นตะลึง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+