เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 262 หนึ่งมีด หนึ่งหมัด!

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 262 หนึ่งมีด หนึ่งหมัด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 262 หนึ่งมีด หนึ่งหมัด!

 

มาสักการะวิหาร!

 

เมื่อมองไปยังซูฉินที่ยืนอยู่ห่างวิหารหมื่นพุทธไปไม่กี่ลี้ เขาก็รู้สึกได้ว่าทรายสีเหลืองในทะเลทรายตะวันตกนั้นสั่นสะเทือน เสียงดังก้องยังดังอยู่ในหูของเขาเรื่อยๆ

 

บรรพชนหก บรรพชนเจ็ด และบรรพชนเก้าเงียบเสียงไปในทันที

 

โดยเฉพาะบรรพชนเก้า เขาเพิ่งเห็นพลังของซูฉินในวัดเส้าหลินด้วยหมัดเพียงหมัดเดียวก็สามารถทําลายการโจมตีจากสมบัติพุทธคุณที่สืบทอดมาหลายพันปีในวิหารหมื่นพุทธ ซึ่งน่าสะพรึงกลัวสุดขีด

 

ถ้าไม่ใช่เพราะบรรพชนเก่าวิ่งได้อย่างรวดเร็วและหนีจากวัดเส้าหลินได้ทันเวลาด้วยเคล็ดท่าเท้าหลบหนีศักดิ์สิทธิ์ผลที่ตามมาจะต้องเป็นหายนะอย่างแน่นอน

 

ร่างกายของซูฉินนั้นแข็งแกร่งเกินไป

 

แม้บรรพชนเก้าจะมีสมบัติพุทธคุณอยู่หลายชิ้น แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่สามารถทําลายร่างกายที่คงทนของซูฉินได้? ให้อีกฝ่ายลากถ่วงเวลาต่อไปจนพลังชีวิตและเลือดเนื้อของเขาสลายไปก็มีแต่แย่กับแย่

 

“ ปรากฏว่าที่เจ้าไม่ได้ไล่ตามตั้งแต่แรก เพราะเจ้าต้องการให้ข้านําทาง…” ความคิดของบร รพชนเก้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จ้องมองซูฉินอย่างใกล้ชิดในที่สุดก็แสดงอาการขมขื่นออก มาทางสีหน้า

 

ในขณะนี้ บรรพชนเก้าจะไม่สามารถเดาได้อย่างไรว่าเหตุใดซูฉินจึงจับตําแหน่งของวิหารหมื่นพุทธได้อย่างง่ายดายนัก?

 

แม้ว่าทะเลทรายตะวันออกจะเจริญน้อยกว่าที่ราบตอนกลางมาก แต่อาณาบริเวณของมันก็กว้างใหญ่ไพศาล มีพื้นที่กว่าล้านลี้ แม้จะเป็นเซียนเทพปฐพีหากต้องการค้นหาบางสิ่งในพื้นที่ที่กว้างใหญ่เช่นนี้ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวัน

 

ยิ่งกว่านั้น ในวิหารหมื่นพุทธก็วางค่ายกลขนาดใหญ่ไว้มากมาย กลิ่นอายถูกเก็บซ่อนไว้อย่างดีแม้แต่เซียนเทพปฐพีก็อาจจะมองข้ามผ่านไปได้หากไม่ดูให้ละเอียด

 

แต่ซูฉินเล่า?

 

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากบรรพชนเก้ากลับมายังวิหารหมื่นพุทธ ซูฉินก็มาสักการะที่วิหารทันทีถ้าบอกว่าไม่ใช่บรรพชนเก้าเป็นผู้นําทางมา ก็คงไม่มีใครเชื่อ

 

“เพียงแต่ว่า ก่อนที่จะกลับถึงวิหาร ข้าได้ตรวจสอบตนเองหลายครั้งแล้ว ไม่ปล่อยให้มีร่องรอยของเคล็ดวิชาหรือเครื่องหมายติดตามใดๆ แม้แต่ลูกประคําก็ยืนยันถี่ถ้วนแล้วว่าไม่มีอะไรผิดปกติก่อนที่จะกลับมาวิหารหมื่นพุทธนี่เขายืนยันที่อยู่ของข้าด้วยวิธีใดกัน?”

 

ความสงสัยผุดขึ้นในใจของบรรพชนเก้า

 

แม้จะหลับใหลมาหลายร้อยปี แต่เขาก็ไม่ได้โง่เขลา ในฐานะอรหันต์ขั้นสูงสุดในต่างดินแดนมีกลวิธีใดบ้างที่บรรพชนเก้าไม่เคยเห็น? เคล็ดวิชาลับในการติดตามจะสามารถรอดพ้นสายตาของเขาไปได้อย่างไร?

 

วิชาลับในต่างแดนจํานวนมากก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทิ้งตราประทับไว้ที่เป้าหมายจากนั้นจึงใช้ตราประทับนั้นเพื่อค้นหาเป้าหมาย

 

แต่ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ บรรพชนเก้ากลับไม่พบร่องรอยใดๆ เลย มิใช่หรือ?

 

หากซูฉันรู้ว่าบรรพชนเก้ามีความคิดเช่นไร เขาจะต้องอมยิ้มอยู่เล็กๆ เป็นแน่การที่เขาจับตําแหน่งของบรรพชนเก้าได้ ไม่ใช่การใช้วิชาลับในการติดตาม แต่ด้วยดวงตาแห่งสัจจะ

 

ดวงตาแห่งสัจจะเป็นทิพยอํานาจ ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับเคล็ดวิชาลับในการติดตามคือมันสามารถจับพลังฉีของสิ่งมีชีวิตได้

 

ทุกสิ่งบนโลก ตราบใดที่ยังคงมีชีวิตอยู่ย่อมมีพลัง และสิ่งมีชีวิตทุกตัวก็มีพลังที่แตกต่างกันตราบใดที่ซูฉินเห็นบรรพชนเก้าและจดจํารัศมีได้ครั้งหนึ่งแล้วเขาก็จะสามารถตามหาบรรพชนเก้าได้แม้จะเป็นสุดขอบโลกก็ตาม

 

นี่คือสิ่งที่น่ากลัวสําหรับดวงตาแห่งสัจจะ

 

“เรื่องแค่นี้เอง อย่าได้โทษตนเองเลย”

 

ในเวลานี้ เสียงของบรรพชนหกก็ค่อยๆ ลอยไปถึงหูของบรรพชนเก้า เขามองไปที่ซูฉิน ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยแล้วพูดอย่างใจเย็น “ผู้ทรงสมณศักดิ์ถึงกับมานมัสการพระวิหารวิหารหมื่นพุทธของพวกเราก็ควรให้การต้อนรับ แต่วันนี้มีเรื่องไม่สะดวกบางอย่าง ได้โปรดท่านกลับไปก่อนเถิด”

 

แม้ว่าซูฉินจะเดินทางลึกเข้ามาถึงทะเลทรายตะวันตกและมาจนถึงหน้าวิหารหมื่นพุทธมีรัศมีที่ไร้รูปลักษณ์น่าสะพรึงกลัวปกคลุมทุกสิ่งโอบล้อมทุกอย่าง

 

แต่วิหารหมื่นพุทธคือสิ่งใด?

 

นิกายใหญ่ต่างดินแดนซึ่งได้รับการสืบทอดต่อมาตั้งแต่ช่วงสุดท้ายของยุคกระแสปราณีเพื่องฟูมีผู้ทรงพลังอํานาจกําเนิดขึ้นมาในช่วงเวลาหลายพันปีนี้ และแม้แต่เซียนเทพปฐพีก็มีมากกว่าหนึ่งคนกําเนิดขึ้นจากวิหารหมื่นพุทธด้วยเหตุนี้วิหารหมื่นพุทธจึงยังคงสภาพอํานาจตามเดิมไว้ได้

 

ด้วยรากฐานของวิหารหมื่นพุทธเช่นนี้ เมื่อมีคนบอกว่าต้องการจะมานมัสการพระวิหารคิดอยากจะมาก็มาได้อย่างนั้นหรือ?

 

แม้ว่าวิหารหมื่นพุทธจะตั้งอยู่ในทะเลทรายตะวันตก แต่ที่แห่งนี้ก็เพิ่งสร้างขึ้นมาไม่นานยังด้อยกว่าวิหารหมื่นพุทธในดินแดนโพ้นทะเลอยู่มาก

 

แต่ซูฉินนั้นไม่ใช่เซียนเทพปฐพี และไม่ได้มีอํานาจที่จะเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้

 

นอกจากนี้ยังมีบรรพชนหก บรรพชนเจ็ด บรรพชนเก้า อรหันต์สามรูปรวมกับสมบัติพุทธคุณจํานวนมากบรรพชนหกไม่เชื่อว่าซูฉินจะกล้าทําอะไรกับวิหารหมื่นพุทธจริงๆ

 

“ไม่สะดวก?”

 

ซูฉินยิ้มเล็กน้อย “ถ้าเป็นกรณีนี้ข้าก็จะเข้าไปในวิหารเอง”

 

เมื่อกล่าวเช่นนี้ ซูฉินก็ก้าวเท้าไปข้างหน้า ตรงเข้าไปหลายลี้ ไปถึงหน้าวิหารหมื่นพุทธ

 

“ไม่ดีแล้ว!”

 

รูม่านตาของบรรพชนหกหดตัวลง

 

จากที่บรรพชนเก้าเคยเล่าเอาไว้ เขาได้รู้ว่าซูฉินมีร่างกายที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานสามารถสั่นสะเทือนสมบัติพุทธคุณเป็นธรรมดาที่ไม่ควรให้ซูฉินเข้าไปภายในวิหารหมื่นพุทธ

 

ไม่เช่นนั้น เมื่อซูฉินเข้ามาในระยะประชิด ด้วยพลังงานพลุ่งพล่านเต็มไปด้วยพลังชีวิตและเลือดเนื้ออรหันต์ทั้งสามรูปอาจจะไม่ได้กลัวแต่ศิษย์สาวกคนอื่นๆ ในวิหารหมื่นพุทธรวมถึงตัววิ หารหมื่นพุทธด้วยอาจจะถูกซูฉินทําลายลงได้

 

“ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ”

 

บรรพชนเจ็ดยกมือขวาขึ้นมา เห็นตะเกียงลอยขึ้นมาเงียบๆ อยู่หน้าวิหารหมื่นพุทธ

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณเริ่มสั่นสะท้าน

 

มันเปล่งแสงพุทธคุณนวลตา เข้าล้อมรอบวิหารหมื่นพุทธทั้งหมด

 

ภายนอกวิหารหมื่นพุทธ รัศมีพลังของซูฉินยังคงสร้างความข่มขู่ แต่ภายในวิหารหมื่นพุทธซึ่งปกคลุมด้วยแสงนวลกลับมีบรรยากาศสงบผ่อนคลาย

 

ทันใดนั้นศิษย์สาวกของวิหารหมื่นพุทธก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ศิษย์ส่วนใหญ่ที่มาจากวิหารใหญ่ในต่างดินแดน ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในขอบเขตอรหันต์ระดับนภาชั้นที่สาม ดังนั้นพวกเขาจะทนต่อไอพลังของซูฉินได้อย่างไร?

 

หากไม่ได้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณช่วยไว้ทันเวลา ศิษย์เหล่านี้คงจะต้องคุกเข่าลงกับพื้นภายใต้ไอพลังนี้โดยที่ซูฉินยังไม่ได้ลงมือทําอะไร

 

“น่ากลัวเกินไปแล้ว”

 

“คนที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาเกิดอยู่ในทวีปที่ห่างไกลอย่างนี้ได้อย่างไร?”

 

“ใช่ แม้ว่าทวีปนี้จะเป็นแผ่นดินแห่งพลังยุทธอันยิ่งใหญ่ แต่กระแสปราณฉีก็เพิ่งจะฟื้นคืนในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ไม่ควรมีคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ”

 

ศิษย์หลายคนของวิหารหมื่นพุทธพูดกันด้วยเสียงเบาๆ มองผ่านแสงพุทธคุณที่ปกคลุมวิหารหมื่นพุทธสายตาที่พวกเขามองซูฉินเต็มไปด้วยความกลัวและวิตกกังวลอย่างลึกซึ้ง

 

.“อย่ากังวลไปเลย ไม่ว่าวิหารหมื่นพุทธจะอยู่ที่ใดผู้คนก็ยําเกรง แม้แต่เซียนเทพปฐพียังต้องหันหลังจากไปแล้วคนอื่นจะทําอะไรได้?”

 

ศิษย์วิหารหมื่นพุทธพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างแรงกล้า

 

“ถูกต้อง

 

“มีบรรพชนหก บรรพชนเจ็ด และบรรพชนเก้า ข้ายังจะต้องกังวลสิ่งใดอีก?”

ศิษย์หลายคนในวิหารหมื่นพุทธพยักหน้าให้กันเพื่อปลอบโยนศิษย์คนอื่นๆ

 

และในตอนนั้นเอง

 

ซูฉินก็หยุดและมองดูด้วยความสนใจ เขามองแสงนวลที่ปกคลุมทั่วทั้งวิหารหมื่นพุทธ มันเปล่งพลังแห่งพุทธคุณออกมา

 

“น่าสนใจ”

 

ซูฉินยิ้มเล็กน้อย

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้มีกลิ่นอายคล้ายกับลูกประคําของบรรพชนเก้า แต่ในแง่ของพลังที่ผันผวนมันแข็งแกร่งกว่าลูกประคํานับร้อยเท่า

 

ช่ว!

 

ซูฉินสะบัดนิ้วของตน แก่นแท้แห่งพลังถูกดึงออกไปใช้ในชั่วพริบตา พุ่งเข้าใส่แสงพุทธคุณที่ปกคลุมวิหารหมื่นพุทธ

 

แต่ผลที่ได้คือพลังจากแก่นแท้เหมือนจมลงสู่กันมหาสมุทร แสงพุทธคุณกลืนกินพลังงานไปอย่างรวดเร็วราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“เมื่อผู้จาริกบุญต้องการจะบุกเข้ามาในวิหารหมื่นพุทธของพวกเรา มันย่อมเป็นไปไม่ได้”

 

“ ตราบใดที่ไม่สามารถทําลายตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ จะเข้ามาได้อย่างไร?”

 

บรรพชนหกมองไปที่ซูฉินแล้วกล่าวเบาๆ

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณเคยป้องกันการระเบิดพลังของเซียนเทพปฐพี่มาก่อน

 

แม้หลังจากที่ถูกระเบิดพลังครั้งนั้น ตะเกียงจะหมดพลังลง และยังไม่ฟื้นพลังกลับมาเต็มที่

 

แต่ในแง่ของการป้องกันเพียงอย่างเดียว ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้มีเอกลักษณ์โดดเด่นแม้จะเป็นในต่างดินแดน

 

ถ้าไม่ใช่เพราะตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้ทําได้เพียงป้องกัน แต่สามารถโจมตีได้ เกรงว่าสมบัติชิ้นนี้จะเป็นสมบัติล้ําค่าอันดับหนึ่งของวิหารหมื่นพุทธไปแล้ว

 

“ได้ตามที่ขอ”

 

ซูฉินหัวเราะเบาๆ

 

การโจมตีของเขาเมื่อครู่นี้เป็นเพียงการกะประมาณคร่าวๆ ว่าตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้มีความสามารถในการป้องกันระดับใด

 

ช่วงเวลาต่อมา

 

ซูฉินเหยียดแขนขวาออกไป และคว้าจับไปที่ช่องว่างมิติ

 

เขาค่อยๆ ดึงมีดยาวออกมา มันมีรูปร่างแปลกประหลาดคล้ายกับเคียว โค้งเป็นวงดวงจันทร์เต็มดวง

 

“ตัด!!”

 

ซูฉินถือคมมีดเทพเจ้าปีศาจไว้ในมือแล้วฟันเข้าใส่วิหารหมื่นพุทธ

ครีด!

 

ท้องฟ้าและผืนดินดูเหมือนจะกลายเป็นมหาสมุทรแห่งความมืดมิด และประกายคมมีดจากมีดเทพเจ้าปีศาจก็เฉือนตัดช่องว่างมิติพุ่งไปยังวิหารหมื่นพุทธ

 

“นั่นคือ?”

 

บรรพชนหกเห็นมีดของซูฉินที่มืดมิดราวกับขุมนรก ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“กลิ่นอายเช่นนี้ มันมาจากโลกปีศาจงั้นหรือ?”

 

บรรพชนหกวางท่าทางเคร่งขรึม ช่วงสิ้นสุดยุคกระแสปราณีครั้งล่าสุด โลกถ้ําปีศาจได้บุกโจมตีและทําสงครามกับโลกมนุษย์ แม้ว่าโลกถ้ําปีศาจจะล่าถอยไปในที่สุดแต่โลกมนุษย์ก็เสียหายอย่างหนักและแม้แต่ผู้ที่ทรงพลังอย่างถึงขีดสุดก็ตกตายไปหลายคน

 

สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับโลกถ้ําปีศาจถูกจัดเก็บเป็นความลับสุดยอด เก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกของนิกายใหญ่ดินแดนโพ้นทะเลและผู้อาวุโสทั่วๆไปก็ไม่สามารถรู้สิ่งนี้ได้

 

แต่ในเวลานี้คมมีดในมือของซูฉินทําให้บรรพชนหกได้นึกถึงโลกถ้ําปีศาจ

 

ถ้าไม่ใช่เพราะซูฉันไม่ได้มีกลิ่นอายของโลกถ้ําปีศาจ บรรพชนหกอาจจะสงสัยว่าซูฉินเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจในโลกถ้ําปีศาจ

 

ขณะที่ความคิดของบรรพชนหกกําลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

ประกายคมมีดอันรุนแรงของซูฉินฟันออกมากระทบเข้ากับแสงพุทธคุณที่ปล่อยออกมาจากตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ

แกร็ก

 

แสงสว่างของแสงพุทธคุณวูบวาบ

 

ที่จุดกระทบของคมมีดกับแสงพุทธคุณ มีเสียงฉีกขาดดังขึ้นมา แสงพุทธคุณและประกายคมมีดได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน

 

ในท้ายที่สุดประกายคมมีดที่ซูฉินตวัดออกไปก็โดนแสงที่ครอบคลุมวิหารหมื่นพุทธอันสว่างไหวกลืนกินในทันที

 

“น่ากลัวยิ่งนัก

 

บรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้าชําเลืองมองหน้ากัน เหงื่อเย็นเยียบค่อยๆ ไหลออกมา

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ความมืดมิดของคมมีดถูกตวัดฟันออก พวกเขาก็เห็นภาพลวงตามา กมายในนั้น

 

อย่างไรก็ตาม

 

ไม่ทันที่ทุกคนจะตอบสนอง

 

ซูฉินก็เก็บคมมีดเทพเจ้าปีศาจกลับคืน เปลี่ยนจากฝ่ามือเป็นกําปั้นแล้วค่อยๆ ส่งมั่นเข้าหาวิหารหมื่นพุทธ

 

หมัดนี้เรียบง่ายและหนักแน่น ราวกับผืนดินอันกว้างใหญ่ได้หลอมรวมเข้ากับหมัดนี้ประหนึ่งเทพเจ้าโบราณตีกลองศึกกําหมัดไว้แน่นแล้วกระแทกเข้ากับแสงพุทธคุณที่เปล่งออกมาจากตะเกี่ยงพุทธหมื่นวิญญาณ

 

ตูม!

 

เสียงดังก้องราวกับระฆังยักษ์สั่นสะเทือน จิตใจของศิษย์สาวกหลายคนในวิหารหมื่นพุทธพลัน ว่างเปล่า

 

ท่ามกลางสายตาที่หวาดกลัวของทุกคน หมัดของซูฉินกระทบเข้ากับแสงพุทธคุณแสงพุทธคุณถูกเจาะทะลวงเป็นช่อง หมัดขวาของซูฉินค้างอยู่ที่ตรงช่อง หมัดอันน่าสะพรึงกลัวแทบจะทะลุแสงพุทธคุณที่คอยปกป้องวิหารหมื่นพุทธ

 

แม้ว่าหลังจากที่ซูฉินถอนหมัดนี้ออกไป แสงพุทธคุณจะเคลื่อนกลับที่เดิมอย่างรวดเร็วแต่หมัดของซูฉินที่โจมตีออกมาได้ฝังลึกอยู่ในใจของทุกคนไปแล้ว

 

“หมัดนี้น่ากลัวเกินไป มันเกือบจะทะลวงพลังจากตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ” หัวใจของบรรพชนเจ็ดเกิดคลื่นลมพายุโหมกระหน่ํา

 

เพียงแต่ว่าซูฉินก็ได้ถูฝ่ามือของเขาและพูดอะไรบางอย่างที่ทําให้บรรพชนหกบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้าตกใจ

 

“ไม่เป็นไร”

 

“ข้าจะลงมือครั้งต่อไปให้จริงจังขึ้น”

 

ซูฉินขยับร่างจิตวิญญาณการต่อสู้ค่อยๆพุ่งสูงขึ้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 262 หนึ่งมีด หนึ่งหมัด!

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 262 หนึ่งมีด หนึ่งหมัด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 262 หนึ่งมีด หนึ่งหมัด!

 

มาสักการะวิหาร!

 

เมื่อมองไปยังซูฉินที่ยืนอยู่ห่างวิหารหมื่นพุทธไปไม่กี่ลี้ เขาก็รู้สึกได้ว่าทรายสีเหลืองในทะเลทรายตะวันตกนั้นสั่นสะเทือน เสียงดังก้องยังดังอยู่ในหูของเขาเรื่อยๆ

 

บรรพชนหก บรรพชนเจ็ด และบรรพชนเก้าเงียบเสียงไปในทันที

 

โดยเฉพาะบรรพชนเก้า เขาเพิ่งเห็นพลังของซูฉินในวัดเส้าหลินด้วยหมัดเพียงหมัดเดียวก็สามารถทําลายการโจมตีจากสมบัติพุทธคุณที่สืบทอดมาหลายพันปีในวิหารหมื่นพุทธ ซึ่งน่าสะพรึงกลัวสุดขีด

 

ถ้าไม่ใช่เพราะบรรพชนเก่าวิ่งได้อย่างรวดเร็วและหนีจากวัดเส้าหลินได้ทันเวลาด้วยเคล็ดท่าเท้าหลบหนีศักดิ์สิทธิ์ผลที่ตามมาจะต้องเป็นหายนะอย่างแน่นอน

 

ร่างกายของซูฉินนั้นแข็งแกร่งเกินไป

 

แม้บรรพชนเก้าจะมีสมบัติพุทธคุณอยู่หลายชิ้น แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่สามารถทําลายร่างกายที่คงทนของซูฉินได้? ให้อีกฝ่ายลากถ่วงเวลาต่อไปจนพลังชีวิตและเลือดเนื้อของเขาสลายไปก็มีแต่แย่กับแย่

 

“ ปรากฏว่าที่เจ้าไม่ได้ไล่ตามตั้งแต่แรก เพราะเจ้าต้องการให้ข้านําทาง…” ความคิดของบร รพชนเก้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จ้องมองซูฉินอย่างใกล้ชิดในที่สุดก็แสดงอาการขมขื่นออก มาทางสีหน้า

 

ในขณะนี้ บรรพชนเก้าจะไม่สามารถเดาได้อย่างไรว่าเหตุใดซูฉินจึงจับตําแหน่งของวิหารหมื่นพุทธได้อย่างง่ายดายนัก?

 

แม้ว่าทะเลทรายตะวันออกจะเจริญน้อยกว่าที่ราบตอนกลางมาก แต่อาณาบริเวณของมันก็กว้างใหญ่ไพศาล มีพื้นที่กว่าล้านลี้ แม้จะเป็นเซียนเทพปฐพีหากต้องการค้นหาบางสิ่งในพื้นที่ที่กว้างใหญ่เช่นนี้ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวัน

 

ยิ่งกว่านั้น ในวิหารหมื่นพุทธก็วางค่ายกลขนาดใหญ่ไว้มากมาย กลิ่นอายถูกเก็บซ่อนไว้อย่างดีแม้แต่เซียนเทพปฐพีก็อาจจะมองข้ามผ่านไปได้หากไม่ดูให้ละเอียด

 

แต่ซูฉินเล่า?

 

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากบรรพชนเก้ากลับมายังวิหารหมื่นพุทธ ซูฉินก็มาสักการะที่วิหารทันทีถ้าบอกว่าไม่ใช่บรรพชนเก้าเป็นผู้นําทางมา ก็คงไม่มีใครเชื่อ

 

“เพียงแต่ว่า ก่อนที่จะกลับถึงวิหาร ข้าได้ตรวจสอบตนเองหลายครั้งแล้ว ไม่ปล่อยให้มีร่องรอยของเคล็ดวิชาหรือเครื่องหมายติดตามใดๆ แม้แต่ลูกประคําก็ยืนยันถี่ถ้วนแล้วว่าไม่มีอะไรผิดปกติก่อนที่จะกลับมาวิหารหมื่นพุทธนี่เขายืนยันที่อยู่ของข้าด้วยวิธีใดกัน?”

 

ความสงสัยผุดขึ้นในใจของบรรพชนเก้า

 

แม้จะหลับใหลมาหลายร้อยปี แต่เขาก็ไม่ได้โง่เขลา ในฐานะอรหันต์ขั้นสูงสุดในต่างดินแดนมีกลวิธีใดบ้างที่บรรพชนเก้าไม่เคยเห็น? เคล็ดวิชาลับในการติดตามจะสามารถรอดพ้นสายตาของเขาไปได้อย่างไร?

 

วิชาลับในต่างแดนจํานวนมากก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทิ้งตราประทับไว้ที่เป้าหมายจากนั้นจึงใช้ตราประทับนั้นเพื่อค้นหาเป้าหมาย

 

แต่ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ บรรพชนเก้ากลับไม่พบร่องรอยใดๆ เลย มิใช่หรือ?

 

หากซูฉันรู้ว่าบรรพชนเก้ามีความคิดเช่นไร เขาจะต้องอมยิ้มอยู่เล็กๆ เป็นแน่การที่เขาจับตําแหน่งของบรรพชนเก้าได้ ไม่ใช่การใช้วิชาลับในการติดตาม แต่ด้วยดวงตาแห่งสัจจะ

 

ดวงตาแห่งสัจจะเป็นทิพยอํานาจ ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับเคล็ดวิชาลับในการติดตามคือมันสามารถจับพลังฉีของสิ่งมีชีวิตได้

 

ทุกสิ่งบนโลก ตราบใดที่ยังคงมีชีวิตอยู่ย่อมมีพลัง และสิ่งมีชีวิตทุกตัวก็มีพลังที่แตกต่างกันตราบใดที่ซูฉินเห็นบรรพชนเก้าและจดจํารัศมีได้ครั้งหนึ่งแล้วเขาก็จะสามารถตามหาบรรพชนเก้าได้แม้จะเป็นสุดขอบโลกก็ตาม

 

นี่คือสิ่งที่น่ากลัวสําหรับดวงตาแห่งสัจจะ

 

“เรื่องแค่นี้เอง อย่าได้โทษตนเองเลย”

 

ในเวลานี้ เสียงของบรรพชนหกก็ค่อยๆ ลอยไปถึงหูของบรรพชนเก้า เขามองไปที่ซูฉิน ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยแล้วพูดอย่างใจเย็น “ผู้ทรงสมณศักดิ์ถึงกับมานมัสการพระวิหารวิหารหมื่นพุทธของพวกเราก็ควรให้การต้อนรับ แต่วันนี้มีเรื่องไม่สะดวกบางอย่าง ได้โปรดท่านกลับไปก่อนเถิด”

 

แม้ว่าซูฉินจะเดินทางลึกเข้ามาถึงทะเลทรายตะวันตกและมาจนถึงหน้าวิหารหมื่นพุทธมีรัศมีที่ไร้รูปลักษณ์น่าสะพรึงกลัวปกคลุมทุกสิ่งโอบล้อมทุกอย่าง

 

แต่วิหารหมื่นพุทธคือสิ่งใด?

 

นิกายใหญ่ต่างดินแดนซึ่งได้รับการสืบทอดต่อมาตั้งแต่ช่วงสุดท้ายของยุคกระแสปราณีเพื่องฟูมีผู้ทรงพลังอํานาจกําเนิดขึ้นมาในช่วงเวลาหลายพันปีนี้ และแม้แต่เซียนเทพปฐพีก็มีมากกว่าหนึ่งคนกําเนิดขึ้นจากวิหารหมื่นพุทธด้วยเหตุนี้วิหารหมื่นพุทธจึงยังคงสภาพอํานาจตามเดิมไว้ได้

 

ด้วยรากฐานของวิหารหมื่นพุทธเช่นนี้ เมื่อมีคนบอกว่าต้องการจะมานมัสการพระวิหารคิดอยากจะมาก็มาได้อย่างนั้นหรือ?

 

แม้ว่าวิหารหมื่นพุทธจะตั้งอยู่ในทะเลทรายตะวันตก แต่ที่แห่งนี้ก็เพิ่งสร้างขึ้นมาไม่นานยังด้อยกว่าวิหารหมื่นพุทธในดินแดนโพ้นทะเลอยู่มาก

 

แต่ซูฉินนั้นไม่ใช่เซียนเทพปฐพี และไม่ได้มีอํานาจที่จะเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้

 

นอกจากนี้ยังมีบรรพชนหก บรรพชนเจ็ด บรรพชนเก้า อรหันต์สามรูปรวมกับสมบัติพุทธคุณจํานวนมากบรรพชนหกไม่เชื่อว่าซูฉินจะกล้าทําอะไรกับวิหารหมื่นพุทธจริงๆ

 

“ไม่สะดวก?”

 

ซูฉินยิ้มเล็กน้อย “ถ้าเป็นกรณีนี้ข้าก็จะเข้าไปในวิหารเอง”

 

เมื่อกล่าวเช่นนี้ ซูฉินก็ก้าวเท้าไปข้างหน้า ตรงเข้าไปหลายลี้ ไปถึงหน้าวิหารหมื่นพุทธ

 

“ไม่ดีแล้ว!”

 

รูม่านตาของบรรพชนหกหดตัวลง

 

จากที่บรรพชนเก้าเคยเล่าเอาไว้ เขาได้รู้ว่าซูฉินมีร่างกายที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานสามารถสั่นสะเทือนสมบัติพุทธคุณเป็นธรรมดาที่ไม่ควรให้ซูฉินเข้าไปภายในวิหารหมื่นพุทธ

 

ไม่เช่นนั้น เมื่อซูฉินเข้ามาในระยะประชิด ด้วยพลังงานพลุ่งพล่านเต็มไปด้วยพลังชีวิตและเลือดเนื้ออรหันต์ทั้งสามรูปอาจจะไม่ได้กลัวแต่ศิษย์สาวกคนอื่นๆ ในวิหารหมื่นพุทธรวมถึงตัววิ หารหมื่นพุทธด้วยอาจจะถูกซูฉินทําลายลงได้

 

“ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ”

 

บรรพชนเจ็ดยกมือขวาขึ้นมา เห็นตะเกียงลอยขึ้นมาเงียบๆ อยู่หน้าวิหารหมื่นพุทธ

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณเริ่มสั่นสะท้าน

 

มันเปล่งแสงพุทธคุณนวลตา เข้าล้อมรอบวิหารหมื่นพุทธทั้งหมด

 

ภายนอกวิหารหมื่นพุทธ รัศมีพลังของซูฉินยังคงสร้างความข่มขู่ แต่ภายในวิหารหมื่นพุทธซึ่งปกคลุมด้วยแสงนวลกลับมีบรรยากาศสงบผ่อนคลาย

 

ทันใดนั้นศิษย์สาวกของวิหารหมื่นพุทธก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ศิษย์ส่วนใหญ่ที่มาจากวิหารใหญ่ในต่างดินแดน ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในขอบเขตอรหันต์ระดับนภาชั้นที่สาม ดังนั้นพวกเขาจะทนต่อไอพลังของซูฉินได้อย่างไร?

 

หากไม่ได้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณช่วยไว้ทันเวลา ศิษย์เหล่านี้คงจะต้องคุกเข่าลงกับพื้นภายใต้ไอพลังนี้โดยที่ซูฉินยังไม่ได้ลงมือทําอะไร

 

“น่ากลัวเกินไปแล้ว”

 

“คนที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาเกิดอยู่ในทวีปที่ห่างไกลอย่างนี้ได้อย่างไร?”

 

“ใช่ แม้ว่าทวีปนี้จะเป็นแผ่นดินแห่งพลังยุทธอันยิ่งใหญ่ แต่กระแสปราณฉีก็เพิ่งจะฟื้นคืนในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ไม่ควรมีคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ”

 

ศิษย์หลายคนของวิหารหมื่นพุทธพูดกันด้วยเสียงเบาๆ มองผ่านแสงพุทธคุณที่ปกคลุมวิหารหมื่นพุทธสายตาที่พวกเขามองซูฉินเต็มไปด้วยความกลัวและวิตกกังวลอย่างลึกซึ้ง

 

.“อย่ากังวลไปเลย ไม่ว่าวิหารหมื่นพุทธจะอยู่ที่ใดผู้คนก็ยําเกรง แม้แต่เซียนเทพปฐพียังต้องหันหลังจากไปแล้วคนอื่นจะทําอะไรได้?”

 

ศิษย์วิหารหมื่นพุทธพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างแรงกล้า

 

“ถูกต้อง

 

“มีบรรพชนหก บรรพชนเจ็ด และบรรพชนเก้า ข้ายังจะต้องกังวลสิ่งใดอีก?”

ศิษย์หลายคนในวิหารหมื่นพุทธพยักหน้าให้กันเพื่อปลอบโยนศิษย์คนอื่นๆ

 

และในตอนนั้นเอง

 

ซูฉินก็หยุดและมองดูด้วยความสนใจ เขามองแสงนวลที่ปกคลุมทั่วทั้งวิหารหมื่นพุทธ มันเปล่งพลังแห่งพุทธคุณออกมา

 

“น่าสนใจ”

 

ซูฉินยิ้มเล็กน้อย

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้มีกลิ่นอายคล้ายกับลูกประคําของบรรพชนเก้า แต่ในแง่ของพลังที่ผันผวนมันแข็งแกร่งกว่าลูกประคํานับร้อยเท่า

 

ช่ว!

 

ซูฉินสะบัดนิ้วของตน แก่นแท้แห่งพลังถูกดึงออกไปใช้ในชั่วพริบตา พุ่งเข้าใส่แสงพุทธคุณที่ปกคลุมวิหารหมื่นพุทธ

 

แต่ผลที่ได้คือพลังจากแก่นแท้เหมือนจมลงสู่กันมหาสมุทร แสงพุทธคุณกลืนกินพลังงานไปอย่างรวดเร็วราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“เมื่อผู้จาริกบุญต้องการจะบุกเข้ามาในวิหารหมื่นพุทธของพวกเรา มันย่อมเป็นไปไม่ได้”

 

“ ตราบใดที่ไม่สามารถทําลายตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ จะเข้ามาได้อย่างไร?”

 

บรรพชนหกมองไปที่ซูฉินแล้วกล่าวเบาๆ

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณเคยป้องกันการระเบิดพลังของเซียนเทพปฐพี่มาก่อน

 

แม้หลังจากที่ถูกระเบิดพลังครั้งนั้น ตะเกียงจะหมดพลังลง และยังไม่ฟื้นพลังกลับมาเต็มที่

 

แต่ในแง่ของการป้องกันเพียงอย่างเดียว ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้มีเอกลักษณ์โดดเด่นแม้จะเป็นในต่างดินแดน

 

ถ้าไม่ใช่เพราะตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้ทําได้เพียงป้องกัน แต่สามารถโจมตีได้ เกรงว่าสมบัติชิ้นนี้จะเป็นสมบัติล้ําค่าอันดับหนึ่งของวิหารหมื่นพุทธไปแล้ว

 

“ได้ตามที่ขอ”

 

ซูฉินหัวเราะเบาๆ

 

การโจมตีของเขาเมื่อครู่นี้เป็นเพียงการกะประมาณคร่าวๆ ว่าตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้มีความสามารถในการป้องกันระดับใด

 

ช่วงเวลาต่อมา

 

ซูฉินเหยียดแขนขวาออกไป และคว้าจับไปที่ช่องว่างมิติ

 

เขาค่อยๆ ดึงมีดยาวออกมา มันมีรูปร่างแปลกประหลาดคล้ายกับเคียว โค้งเป็นวงดวงจันทร์เต็มดวง

 

“ตัด!!”

 

ซูฉินถือคมมีดเทพเจ้าปีศาจไว้ในมือแล้วฟันเข้าใส่วิหารหมื่นพุทธ

ครีด!

 

ท้องฟ้าและผืนดินดูเหมือนจะกลายเป็นมหาสมุทรแห่งความมืดมิด และประกายคมมีดจากมีดเทพเจ้าปีศาจก็เฉือนตัดช่องว่างมิติพุ่งไปยังวิหารหมื่นพุทธ

 

“นั่นคือ?”

 

บรรพชนหกเห็นมีดของซูฉินที่มืดมิดราวกับขุมนรก ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“กลิ่นอายเช่นนี้ มันมาจากโลกปีศาจงั้นหรือ?”

 

บรรพชนหกวางท่าทางเคร่งขรึม ช่วงสิ้นสุดยุคกระแสปราณีครั้งล่าสุด โลกถ้ําปีศาจได้บุกโจมตีและทําสงครามกับโลกมนุษย์ แม้ว่าโลกถ้ําปีศาจจะล่าถอยไปในที่สุดแต่โลกมนุษย์ก็เสียหายอย่างหนักและแม้แต่ผู้ที่ทรงพลังอย่างถึงขีดสุดก็ตกตายไปหลายคน

 

สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับโลกถ้ําปีศาจถูกจัดเก็บเป็นความลับสุดยอด เก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกของนิกายใหญ่ดินแดนโพ้นทะเลและผู้อาวุโสทั่วๆไปก็ไม่สามารถรู้สิ่งนี้ได้

 

แต่ในเวลานี้คมมีดในมือของซูฉินทําให้บรรพชนหกได้นึกถึงโลกถ้ําปีศาจ

 

ถ้าไม่ใช่เพราะซูฉันไม่ได้มีกลิ่นอายของโลกถ้ําปีศาจ บรรพชนหกอาจจะสงสัยว่าซูฉินเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจในโลกถ้ําปีศาจ

 

ขณะที่ความคิดของบรรพชนหกกําลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

ประกายคมมีดอันรุนแรงของซูฉินฟันออกมากระทบเข้ากับแสงพุทธคุณที่ปล่อยออกมาจากตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ

แกร็ก

 

แสงสว่างของแสงพุทธคุณวูบวาบ

 

ที่จุดกระทบของคมมีดกับแสงพุทธคุณ มีเสียงฉีกขาดดังขึ้นมา แสงพุทธคุณและประกายคมมีดได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน

 

ในท้ายที่สุดประกายคมมีดที่ซูฉินตวัดออกไปก็โดนแสงที่ครอบคลุมวิหารหมื่นพุทธอันสว่างไหวกลืนกินในทันที

 

“น่ากลัวยิ่งนัก

 

บรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้าชําเลืองมองหน้ากัน เหงื่อเย็นเยียบค่อยๆ ไหลออกมา

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ความมืดมิดของคมมีดถูกตวัดฟันออก พวกเขาก็เห็นภาพลวงตามา กมายในนั้น

 

อย่างไรก็ตาม

 

ไม่ทันที่ทุกคนจะตอบสนอง

 

ซูฉินก็เก็บคมมีดเทพเจ้าปีศาจกลับคืน เปลี่ยนจากฝ่ามือเป็นกําปั้นแล้วค่อยๆ ส่งมั่นเข้าหาวิหารหมื่นพุทธ

 

หมัดนี้เรียบง่ายและหนักแน่น ราวกับผืนดินอันกว้างใหญ่ได้หลอมรวมเข้ากับหมัดนี้ประหนึ่งเทพเจ้าโบราณตีกลองศึกกําหมัดไว้แน่นแล้วกระแทกเข้ากับแสงพุทธคุณที่เปล่งออกมาจากตะเกี่ยงพุทธหมื่นวิญญาณ

 

ตูม!

 

เสียงดังก้องราวกับระฆังยักษ์สั่นสะเทือน จิตใจของศิษย์สาวกหลายคนในวิหารหมื่นพุทธพลัน ว่างเปล่า

 

ท่ามกลางสายตาที่หวาดกลัวของทุกคน หมัดของซูฉินกระทบเข้ากับแสงพุทธคุณแสงพุทธคุณถูกเจาะทะลวงเป็นช่อง หมัดขวาของซูฉินค้างอยู่ที่ตรงช่อง หมัดอันน่าสะพรึงกลัวแทบจะทะลุแสงพุทธคุณที่คอยปกป้องวิหารหมื่นพุทธ

 

แม้ว่าหลังจากที่ซูฉินถอนหมัดนี้ออกไป แสงพุทธคุณจะเคลื่อนกลับที่เดิมอย่างรวดเร็วแต่หมัดของซูฉินที่โจมตีออกมาได้ฝังลึกอยู่ในใจของทุกคนไปแล้ว

 

“หมัดนี้น่ากลัวเกินไป มันเกือบจะทะลวงพลังจากตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ” หัวใจของบรรพชนเจ็ดเกิดคลื่นลมพายุโหมกระหน่ํา

 

เพียงแต่ว่าซูฉินก็ได้ถูฝ่ามือของเขาและพูดอะไรบางอย่างที่ทําให้บรรพชนหกบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้าตกใจ

 

“ไม่เป็นไร”

 

“ข้าจะลงมือครั้งต่อไปให้จริงจังขึ้น”

 

ซูฉินขยับร่างจิตวิญญาณการต่อสู้ค่อยๆพุ่งสูงขึ้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 262 หนึ่งมีด หนึ่งหมัด!

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 262 หนึ่งมีด หนึ่งหมัด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 262 หนึ่งมีด หนึ่งหมัด!

 

มาสักการะวิหาร!

 

เมื่อมองไปยังซูฉินที่ยืนอยู่ห่างวิหารหมื่นพุทธไปไม่กี่ลี้ เขาก็รู้สึกได้ว่าทรายสีเหลืองในทะเลทรายตะวันตกนั้นสั่นสะเทือน เสียงดังก้องยังดังอยู่ในหูของเขาเรื่อยๆ

 

บรรพชนหก บรรพชนเจ็ด และบรรพชนเก้าเงียบเสียงไปในทันที

 

โดยเฉพาะบรรพชนเก้า เขาเพิ่งเห็นพลังของซูฉินในวัดเส้าหลินด้วยหมัดเพียงหมัดเดียวก็สามารถทําลายการโจมตีจากสมบัติพุทธคุณที่สืบทอดมาหลายพันปีในวิหารหมื่นพุทธ ซึ่งน่าสะพรึงกลัวสุดขีด

 

ถ้าไม่ใช่เพราะบรรพชนเก่าวิ่งได้อย่างรวดเร็วและหนีจากวัดเส้าหลินได้ทันเวลาด้วยเคล็ดท่าเท้าหลบหนีศักดิ์สิทธิ์ผลที่ตามมาจะต้องเป็นหายนะอย่างแน่นอน

 

ร่างกายของซูฉินนั้นแข็งแกร่งเกินไป

 

แม้บรรพชนเก้าจะมีสมบัติพุทธคุณอยู่หลายชิ้น แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่สามารถทําลายร่างกายที่คงทนของซูฉินได้? ให้อีกฝ่ายลากถ่วงเวลาต่อไปจนพลังชีวิตและเลือดเนื้อของเขาสลายไปก็มีแต่แย่กับแย่

 

“ ปรากฏว่าที่เจ้าไม่ได้ไล่ตามตั้งแต่แรก เพราะเจ้าต้องการให้ข้านําทาง…” ความคิดของบร รพชนเก้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จ้องมองซูฉินอย่างใกล้ชิดในที่สุดก็แสดงอาการขมขื่นออก มาทางสีหน้า

 

ในขณะนี้ บรรพชนเก้าจะไม่สามารถเดาได้อย่างไรว่าเหตุใดซูฉินจึงจับตําแหน่งของวิหารหมื่นพุทธได้อย่างง่ายดายนัก?

 

แม้ว่าทะเลทรายตะวันออกจะเจริญน้อยกว่าที่ราบตอนกลางมาก แต่อาณาบริเวณของมันก็กว้างใหญ่ไพศาล มีพื้นที่กว่าล้านลี้ แม้จะเป็นเซียนเทพปฐพีหากต้องการค้นหาบางสิ่งในพื้นที่ที่กว้างใหญ่เช่นนี้ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวัน

 

ยิ่งกว่านั้น ในวิหารหมื่นพุทธก็วางค่ายกลขนาดใหญ่ไว้มากมาย กลิ่นอายถูกเก็บซ่อนไว้อย่างดีแม้แต่เซียนเทพปฐพีก็อาจจะมองข้ามผ่านไปได้หากไม่ดูให้ละเอียด

 

แต่ซูฉินเล่า?

 

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากบรรพชนเก้ากลับมายังวิหารหมื่นพุทธ ซูฉินก็มาสักการะที่วิหารทันทีถ้าบอกว่าไม่ใช่บรรพชนเก้าเป็นผู้นําทางมา ก็คงไม่มีใครเชื่อ

 

“เพียงแต่ว่า ก่อนที่จะกลับถึงวิหาร ข้าได้ตรวจสอบตนเองหลายครั้งแล้ว ไม่ปล่อยให้มีร่องรอยของเคล็ดวิชาหรือเครื่องหมายติดตามใดๆ แม้แต่ลูกประคําก็ยืนยันถี่ถ้วนแล้วว่าไม่มีอะไรผิดปกติก่อนที่จะกลับมาวิหารหมื่นพุทธนี่เขายืนยันที่อยู่ของข้าด้วยวิธีใดกัน?”

 

ความสงสัยผุดขึ้นในใจของบรรพชนเก้า

 

แม้จะหลับใหลมาหลายร้อยปี แต่เขาก็ไม่ได้โง่เขลา ในฐานะอรหันต์ขั้นสูงสุดในต่างดินแดนมีกลวิธีใดบ้างที่บรรพชนเก้าไม่เคยเห็น? เคล็ดวิชาลับในการติดตามจะสามารถรอดพ้นสายตาของเขาไปได้อย่างไร?

 

วิชาลับในต่างแดนจํานวนมากก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทิ้งตราประทับไว้ที่เป้าหมายจากนั้นจึงใช้ตราประทับนั้นเพื่อค้นหาเป้าหมาย

 

แต่ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ บรรพชนเก้ากลับไม่พบร่องรอยใดๆ เลย มิใช่หรือ?

 

หากซูฉันรู้ว่าบรรพชนเก้ามีความคิดเช่นไร เขาจะต้องอมยิ้มอยู่เล็กๆ เป็นแน่การที่เขาจับตําแหน่งของบรรพชนเก้าได้ ไม่ใช่การใช้วิชาลับในการติดตาม แต่ด้วยดวงตาแห่งสัจจะ

 

ดวงตาแห่งสัจจะเป็นทิพยอํานาจ ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับเคล็ดวิชาลับในการติดตามคือมันสามารถจับพลังฉีของสิ่งมีชีวิตได้

 

ทุกสิ่งบนโลก ตราบใดที่ยังคงมีชีวิตอยู่ย่อมมีพลัง และสิ่งมีชีวิตทุกตัวก็มีพลังที่แตกต่างกันตราบใดที่ซูฉินเห็นบรรพชนเก้าและจดจํารัศมีได้ครั้งหนึ่งแล้วเขาก็จะสามารถตามหาบรรพชนเก้าได้แม้จะเป็นสุดขอบโลกก็ตาม

 

นี่คือสิ่งที่น่ากลัวสําหรับดวงตาแห่งสัจจะ

 

“เรื่องแค่นี้เอง อย่าได้โทษตนเองเลย”

 

ในเวลานี้ เสียงของบรรพชนหกก็ค่อยๆ ลอยไปถึงหูของบรรพชนเก้า เขามองไปที่ซูฉิน ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยแล้วพูดอย่างใจเย็น “ผู้ทรงสมณศักดิ์ถึงกับมานมัสการพระวิหารวิหารหมื่นพุทธของพวกเราก็ควรให้การต้อนรับ แต่วันนี้มีเรื่องไม่สะดวกบางอย่าง ได้โปรดท่านกลับไปก่อนเถิด”

 

แม้ว่าซูฉินจะเดินทางลึกเข้ามาถึงทะเลทรายตะวันตกและมาจนถึงหน้าวิหารหมื่นพุทธมีรัศมีที่ไร้รูปลักษณ์น่าสะพรึงกลัวปกคลุมทุกสิ่งโอบล้อมทุกอย่าง

 

แต่วิหารหมื่นพุทธคือสิ่งใด?

 

นิกายใหญ่ต่างดินแดนซึ่งได้รับการสืบทอดต่อมาตั้งแต่ช่วงสุดท้ายของยุคกระแสปราณีเพื่องฟูมีผู้ทรงพลังอํานาจกําเนิดขึ้นมาในช่วงเวลาหลายพันปีนี้ และแม้แต่เซียนเทพปฐพีก็มีมากกว่าหนึ่งคนกําเนิดขึ้นจากวิหารหมื่นพุทธด้วยเหตุนี้วิหารหมื่นพุทธจึงยังคงสภาพอํานาจตามเดิมไว้ได้

 

ด้วยรากฐานของวิหารหมื่นพุทธเช่นนี้ เมื่อมีคนบอกว่าต้องการจะมานมัสการพระวิหารคิดอยากจะมาก็มาได้อย่างนั้นหรือ?

 

แม้ว่าวิหารหมื่นพุทธจะตั้งอยู่ในทะเลทรายตะวันตก แต่ที่แห่งนี้ก็เพิ่งสร้างขึ้นมาไม่นานยังด้อยกว่าวิหารหมื่นพุทธในดินแดนโพ้นทะเลอยู่มาก

 

แต่ซูฉินนั้นไม่ใช่เซียนเทพปฐพี และไม่ได้มีอํานาจที่จะเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้

 

นอกจากนี้ยังมีบรรพชนหก บรรพชนเจ็ด บรรพชนเก้า อรหันต์สามรูปรวมกับสมบัติพุทธคุณจํานวนมากบรรพชนหกไม่เชื่อว่าซูฉินจะกล้าทําอะไรกับวิหารหมื่นพุทธจริงๆ

 

“ไม่สะดวก?”

 

ซูฉินยิ้มเล็กน้อย “ถ้าเป็นกรณีนี้ข้าก็จะเข้าไปในวิหารเอง”

 

เมื่อกล่าวเช่นนี้ ซูฉินก็ก้าวเท้าไปข้างหน้า ตรงเข้าไปหลายลี้ ไปถึงหน้าวิหารหมื่นพุทธ

 

“ไม่ดีแล้ว!”

 

รูม่านตาของบรรพชนหกหดตัวลง

 

จากที่บรรพชนเก้าเคยเล่าเอาไว้ เขาได้รู้ว่าซูฉินมีร่างกายที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานสามารถสั่นสะเทือนสมบัติพุทธคุณเป็นธรรมดาที่ไม่ควรให้ซูฉินเข้าไปภายในวิหารหมื่นพุทธ

 

ไม่เช่นนั้น เมื่อซูฉินเข้ามาในระยะประชิด ด้วยพลังงานพลุ่งพล่านเต็มไปด้วยพลังชีวิตและเลือดเนื้ออรหันต์ทั้งสามรูปอาจจะไม่ได้กลัวแต่ศิษย์สาวกคนอื่นๆ ในวิหารหมื่นพุทธรวมถึงตัววิ หารหมื่นพุทธด้วยอาจจะถูกซูฉินทําลายลงได้

 

“ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ”

 

บรรพชนเจ็ดยกมือขวาขึ้นมา เห็นตะเกียงลอยขึ้นมาเงียบๆ อยู่หน้าวิหารหมื่นพุทธ

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณเริ่มสั่นสะท้าน

 

มันเปล่งแสงพุทธคุณนวลตา เข้าล้อมรอบวิหารหมื่นพุทธทั้งหมด

 

ภายนอกวิหารหมื่นพุทธ รัศมีพลังของซูฉินยังคงสร้างความข่มขู่ แต่ภายในวิหารหมื่นพุทธซึ่งปกคลุมด้วยแสงนวลกลับมีบรรยากาศสงบผ่อนคลาย

 

ทันใดนั้นศิษย์สาวกของวิหารหมื่นพุทธก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ศิษย์ส่วนใหญ่ที่มาจากวิหารใหญ่ในต่างดินแดน ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในขอบเขตอรหันต์ระดับนภาชั้นที่สาม ดังนั้นพวกเขาจะทนต่อไอพลังของซูฉินได้อย่างไร?

 

หากไม่ได้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณช่วยไว้ทันเวลา ศิษย์เหล่านี้คงจะต้องคุกเข่าลงกับพื้นภายใต้ไอพลังนี้โดยที่ซูฉินยังไม่ได้ลงมือทําอะไร

 

“น่ากลัวเกินไปแล้ว”

 

“คนที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาเกิดอยู่ในทวีปที่ห่างไกลอย่างนี้ได้อย่างไร?”

 

“ใช่ แม้ว่าทวีปนี้จะเป็นแผ่นดินแห่งพลังยุทธอันยิ่งใหญ่ แต่กระแสปราณฉีก็เพิ่งจะฟื้นคืนในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ไม่ควรมีคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ”

 

ศิษย์หลายคนของวิหารหมื่นพุทธพูดกันด้วยเสียงเบาๆ มองผ่านแสงพุทธคุณที่ปกคลุมวิหารหมื่นพุทธสายตาที่พวกเขามองซูฉินเต็มไปด้วยความกลัวและวิตกกังวลอย่างลึกซึ้ง

 

.“อย่ากังวลไปเลย ไม่ว่าวิหารหมื่นพุทธจะอยู่ที่ใดผู้คนก็ยําเกรง แม้แต่เซียนเทพปฐพียังต้องหันหลังจากไปแล้วคนอื่นจะทําอะไรได้?”

 

ศิษย์วิหารหมื่นพุทธพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างแรงกล้า

 

“ถูกต้อง

 

“มีบรรพชนหก บรรพชนเจ็ด และบรรพชนเก้า ข้ายังจะต้องกังวลสิ่งใดอีก?”

ศิษย์หลายคนในวิหารหมื่นพุทธพยักหน้าให้กันเพื่อปลอบโยนศิษย์คนอื่นๆ

 

และในตอนนั้นเอง

 

ซูฉินก็หยุดและมองดูด้วยความสนใจ เขามองแสงนวลที่ปกคลุมทั่วทั้งวิหารหมื่นพุทธ มันเปล่งพลังแห่งพุทธคุณออกมา

 

“น่าสนใจ”

 

ซูฉินยิ้มเล็กน้อย

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้มีกลิ่นอายคล้ายกับลูกประคําของบรรพชนเก้า แต่ในแง่ของพลังที่ผันผวนมันแข็งแกร่งกว่าลูกประคํานับร้อยเท่า

 

ช่ว!

 

ซูฉินสะบัดนิ้วของตน แก่นแท้แห่งพลังถูกดึงออกไปใช้ในชั่วพริบตา พุ่งเข้าใส่แสงพุทธคุณที่ปกคลุมวิหารหมื่นพุทธ

 

แต่ผลที่ได้คือพลังจากแก่นแท้เหมือนจมลงสู่กันมหาสมุทร แสงพุทธคุณกลืนกินพลังงานไปอย่างรวดเร็วราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“เมื่อผู้จาริกบุญต้องการจะบุกเข้ามาในวิหารหมื่นพุทธของพวกเรา มันย่อมเป็นไปไม่ได้”

 

“ ตราบใดที่ไม่สามารถทําลายตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ จะเข้ามาได้อย่างไร?”

 

บรรพชนหกมองไปที่ซูฉินแล้วกล่าวเบาๆ

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณเคยป้องกันการระเบิดพลังของเซียนเทพปฐพี่มาก่อน

 

แม้หลังจากที่ถูกระเบิดพลังครั้งนั้น ตะเกียงจะหมดพลังลง และยังไม่ฟื้นพลังกลับมาเต็มที่

 

แต่ในแง่ของการป้องกันเพียงอย่างเดียว ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้มีเอกลักษณ์โดดเด่นแม้จะเป็นในต่างดินแดน

 

ถ้าไม่ใช่เพราะตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้ทําได้เพียงป้องกัน แต่สามารถโจมตีได้ เกรงว่าสมบัติชิ้นนี้จะเป็นสมบัติล้ําค่าอันดับหนึ่งของวิหารหมื่นพุทธไปแล้ว

 

“ได้ตามที่ขอ”

 

ซูฉินหัวเราะเบาๆ

 

การโจมตีของเขาเมื่อครู่นี้เป็นเพียงการกะประมาณคร่าวๆ ว่าตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้มีความสามารถในการป้องกันระดับใด

 

ช่วงเวลาต่อมา

 

ซูฉินเหยียดแขนขวาออกไป และคว้าจับไปที่ช่องว่างมิติ

 

เขาค่อยๆ ดึงมีดยาวออกมา มันมีรูปร่างแปลกประหลาดคล้ายกับเคียว โค้งเป็นวงดวงจันทร์เต็มดวง

 

“ตัด!!”

 

ซูฉินถือคมมีดเทพเจ้าปีศาจไว้ในมือแล้วฟันเข้าใส่วิหารหมื่นพุทธ

ครีด!

 

ท้องฟ้าและผืนดินดูเหมือนจะกลายเป็นมหาสมุทรแห่งความมืดมิด และประกายคมมีดจากมีดเทพเจ้าปีศาจก็เฉือนตัดช่องว่างมิติพุ่งไปยังวิหารหมื่นพุทธ

 

“นั่นคือ?”

 

บรรพชนหกเห็นมีดของซูฉินที่มืดมิดราวกับขุมนรก ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“กลิ่นอายเช่นนี้ มันมาจากโลกปีศาจงั้นหรือ?”

 

บรรพชนหกวางท่าทางเคร่งขรึม ช่วงสิ้นสุดยุคกระแสปราณีครั้งล่าสุด โลกถ้ําปีศาจได้บุกโจมตีและทําสงครามกับโลกมนุษย์ แม้ว่าโลกถ้ําปีศาจจะล่าถอยไปในที่สุดแต่โลกมนุษย์ก็เสียหายอย่างหนักและแม้แต่ผู้ที่ทรงพลังอย่างถึงขีดสุดก็ตกตายไปหลายคน

 

สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับโลกถ้ําปีศาจถูกจัดเก็บเป็นความลับสุดยอด เก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกของนิกายใหญ่ดินแดนโพ้นทะเลและผู้อาวุโสทั่วๆไปก็ไม่สามารถรู้สิ่งนี้ได้

 

แต่ในเวลานี้คมมีดในมือของซูฉินทําให้บรรพชนหกได้นึกถึงโลกถ้ําปีศาจ

 

ถ้าไม่ใช่เพราะซูฉันไม่ได้มีกลิ่นอายของโลกถ้ําปีศาจ บรรพชนหกอาจจะสงสัยว่าซูฉินเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจในโลกถ้ําปีศาจ

 

ขณะที่ความคิดของบรรพชนหกกําลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

ประกายคมมีดอันรุนแรงของซูฉินฟันออกมากระทบเข้ากับแสงพุทธคุณที่ปล่อยออกมาจากตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ

แกร็ก

 

แสงสว่างของแสงพุทธคุณวูบวาบ

 

ที่จุดกระทบของคมมีดกับแสงพุทธคุณ มีเสียงฉีกขาดดังขึ้นมา แสงพุทธคุณและประกายคมมีดได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน

 

ในท้ายที่สุดประกายคมมีดที่ซูฉินตวัดออกไปก็โดนแสงที่ครอบคลุมวิหารหมื่นพุทธอันสว่างไหวกลืนกินในทันที

 

“น่ากลัวยิ่งนัก

 

บรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้าชําเลืองมองหน้ากัน เหงื่อเย็นเยียบค่อยๆ ไหลออกมา

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ความมืดมิดของคมมีดถูกตวัดฟันออก พวกเขาก็เห็นภาพลวงตามา กมายในนั้น

 

อย่างไรก็ตาม

 

ไม่ทันที่ทุกคนจะตอบสนอง

 

ซูฉินก็เก็บคมมีดเทพเจ้าปีศาจกลับคืน เปลี่ยนจากฝ่ามือเป็นกําปั้นแล้วค่อยๆ ส่งมั่นเข้าหาวิหารหมื่นพุทธ

 

หมัดนี้เรียบง่ายและหนักแน่น ราวกับผืนดินอันกว้างใหญ่ได้หลอมรวมเข้ากับหมัดนี้ประหนึ่งเทพเจ้าโบราณตีกลองศึกกําหมัดไว้แน่นแล้วกระแทกเข้ากับแสงพุทธคุณที่เปล่งออกมาจากตะเกี่ยงพุทธหมื่นวิญญาณ

 

ตูม!

 

เสียงดังก้องราวกับระฆังยักษ์สั่นสะเทือน จิตใจของศิษย์สาวกหลายคนในวิหารหมื่นพุทธพลัน ว่างเปล่า

 

ท่ามกลางสายตาที่หวาดกลัวของทุกคน หมัดของซูฉินกระทบเข้ากับแสงพุทธคุณแสงพุทธคุณถูกเจาะทะลวงเป็นช่อง หมัดขวาของซูฉินค้างอยู่ที่ตรงช่อง หมัดอันน่าสะพรึงกลัวแทบจะทะลุแสงพุทธคุณที่คอยปกป้องวิหารหมื่นพุทธ

 

แม้ว่าหลังจากที่ซูฉินถอนหมัดนี้ออกไป แสงพุทธคุณจะเคลื่อนกลับที่เดิมอย่างรวดเร็วแต่หมัดของซูฉินที่โจมตีออกมาได้ฝังลึกอยู่ในใจของทุกคนไปแล้ว

 

“หมัดนี้น่ากลัวเกินไป มันเกือบจะทะลวงพลังจากตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ” หัวใจของบรรพชนเจ็ดเกิดคลื่นลมพายุโหมกระหน่ํา

 

เพียงแต่ว่าซูฉินก็ได้ถูฝ่ามือของเขาและพูดอะไรบางอย่างที่ทําให้บรรพชนหกบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้าตกใจ

 

“ไม่เป็นไร”

 

“ข้าจะลงมือครั้งต่อไปให้จริงจังขึ้น”

 

ซูฉินขยับร่างจิตวิญญาณการต่อสู้ค่อยๆพุ่งสูงขึ้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+