เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 263 (I) เพียงตัวตถาคตประเสริฐสุด!

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 263 (I) เพียงตัวตถาคตประเสริฐสุด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 263 (I)เพียงตัวตถาคตประเสริฐสุด!

 

ในวิหารหมื่นพุทธ

 

ภายใต้แสงพุทธคุณ

 

ทั้งบรรพชนหกและคนอื่นๆ ประสาทสัมผัสทั้งห้าของพวกเขาต่างตื่นตัวอย่างมากเมื่อได้ยินสิ่งที่ซูฉินกระซิบอยู่กับตนเอง

 

“อะไร?”

 

“หมัดกับมีดเมื่อครู่ยังไม่ได้ใส่มาเต็มที่หรอกหรือ?”

 

บรรพชนเจ็ดดูตกใจ

 

มีดที่ซูฉันฟันและหมัดที่ซูฉินต่อยยังเขย่าตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณจนยังไม่หายสั่นสะเทือนเลย โดยเฉพาะหมัดสุดท้ายที่น่าสะพรึงกลัว มันแทบจะพุ่งทะลุแสงพุทธคุณมาถึงวิหารหมื่นพุทธอยู่แล้ว สร้างพลังถล่มทลายขนาดนี้ได้ด้วยหมัดเพียงแค่หมัดเดียวเท่านั้น แต่จากที่ซูฉินพูดเมื่อครู่

 

นี่เขายังไม่ได้เอาจริง?

 

บรรพชนเก้าและบรรพชนเจ็ดมองหน้ากัน แทบไม่อยากเชื่อ

 

พวกเขาประเมินซูฉินสูงมากแล้ว และใช้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณโดยตรง แต่พลังต่อสู้ที่ซูฉินแสดงออกมาตอนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

และในขณะที่บรรพชนเก่าและบรรพชนเจ็ดมองหน้ากัน

 

ซูฉินก็ลงมืออีกครั้ง

 

ครั้งนี้ซูฉันไม่ได้พึ่งพาอาวุธจิตวิญญาณใดใช้มือเปล่า ทิ้งหมัด ฝ่ามือ เข่า และดัชนีระดมโจมตี

ระเบิดพลังเข้าใส่แสงพุทธคุณที่มาจากตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ

 

ปัง ปัง ปัง!

 

ในชั่วพริบตาซูฉินก็ออกหมัดมวยไปแล้วหลายสิบหลายร้อยกระบวนท่า

 

ทันใดนั้นแสงพุทธคุณที่ปกคลุมวิหารหมื่นพุทธเอาไว้ก็สั่นสะเทือนเลือนลั่น บิดเบี้ยวไปตามการโจมตีของซูฉิน

 

ถ้าไม่ใช่บรรพชนหก บรรพชนเจ็ด และบรรพชนเก่าที่คอยหยุดยั้งพลังที่แพร่กระจายเข้ามา

เกรงว่าพลังระดับนี้เพียงอย่างเดียวก็สามารถทุบศิษย์วิหารหมื่นพุทธที่อยู่ต่ํากว่าระดับนภาชนที่เจ็ดจนแบน

 

แต่ถึงแม้จะได้รับการปกป้องจากบรรพชนทั้งสาม ศิษย์หลายคนที่ซ่อนตัวอยู่ในวิหารหมื่นพุทธ

ก็สั่นเทา มองดูแสงพุทธคุณที่ค่อยๆ บิดเบี้ยวราวกับกําลังประสบกับหายนะ

 

ซูฉินแข็งแกร่งเกินไป

 

ทุกกระบวนท่า พลังที่ระเบิดออกมาทําให้แผ่นดินแยก และในตอนนี้ไส้ตะเกียงพุทธหมื่น

วิญญาณก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว พยายามจะฟื้นฟูพลังกลับมา

 

แม้ว่าตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณจะทรงพลัง ในจุดรุ่งเรืองของมัน มันสามารถป้องกันการโจมตีธรรมดาๆ จากเซียนเทพปฐพี่ได้เลย เพียงแต่ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในจุดรุ่งเรือง

 

นอกจากนี้ซูฉันยังออกกระบวนท่ามาหลายร้อยกระบวนท่าในอดใจเดียว แม้ทุกกระบวนท่าจะ

ไม่ได้ทรงพลังเท่ากับการระเบิดพลังของขอบเขตเซียนเทพปฐพี แต่กระบวนท่าที่มากมายมหาศาลนี้ก็เป็นการทดแทนในเชิงจํานวนจนทําให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น เพียงพอที่จะทําลายทุกสิ่ง

 

“เป็นไปได้อย่างไร!?”

 

บรรพชนหกมองดูแสงพุทธคุณที่สันสะท้าน ในใจเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

 

ถ้าบอกว่าหมัดแรกของซูฉินเพียงหมัดเดียวก็สามารถเขย่าตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณได้แล้ว

แต่แท้ที่จริงแล้วมันยังห่างไกลจากการทําให้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณสันสะเทือนได้จริงๆ

 

ทว่าในขณะนี้ ทุกๆการโจมตีของซูฉินทําให้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณสันสะเทือนอย่างแท้จริง ในช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณดูดซับพลังมาหลายพันปีจนพลังงานส่วนใหญ่กลับคืนมา แต่พลังที่กลับคืนมานั้นกลับถูกใช้ไปกว่าหกส่วนแล้วในตอนนี้

 

“จะให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว”

 

“ไม่เช่นนั้นตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณจะถูกทําลายลงจริงๆ”

 

บรรพชนหกใบหน้าบิดเบี้ยว มองไปทางบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก่ากล่าวด้วยน้ําเสียงอันหนักแน่น

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณไม่อาจน่าไปเทียบกับสมบัติพุทธคุณอย่างลูกประคํา มันเป็นมรดก

ที่แท้จริงของวิหารหมื่นพุทธ การมีตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณคอยคุ้มกัน แม้ว่าวิหารหมื่นพุทธจะถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มตํานานยุทธขั้นสูงสุดก็สามารถต้านทานไว้ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง และมันไม่ควรจะถูกทําลายลงในวันนี้

 

“พวกเจ้าและข้าจะต้องลงมือ”

 

บรรพชนหกดูเคร่งขรึม กล่าวออกมาอย่างเคร่งเครียด

 

“บรรพชนหก แม้ว่าเราจะร่วมมือกัน เราจะหยุดเขาได้อย่างนั้นหรือ?” บรรพชนเก้าไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อย

 

ด้วยพลังในปัจจุบันของซูฉิน นอกเหนือจากอรหันต์ขั้นสูงสุดที่สามารถแปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกก่าเนิดได้แล้ว ใครจะยังหยุดเขาได้อีก?

 

“ถ้าสู่ในระยะประชิด ก็คงจะไม่เป็นผล

 

บรรพชนหกหรี่ตาลง ส่ายหัวพร้อมทั้งกล่าวออกมา

 

ร่างกายของซูฉินนั้นน่ากลัวเกินไป เลือดเนื้อพลังชีวิตมากมายดุจมหาสมุทร แม้ว่าทั้งสามจะ

ร่วมมือกันจริงๆ ซึ่งไม่ว่าจะชนะหรือไม่ก็ตาม ก็ต้องใช้ทักษะลับต้องห้ามอย่างไม่มีทางเลือกเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่ง

 

เมื่อพวกเขาไม่สามารถชนะซูฉันได้จนเกินเวลาของทักษะต้องห้าม เกรงว่าบรรพชนทั้งสามคงจะโดนกลบฝังอยู่ที่นี่แล้วจริงๆ

 

“คนผู้นี้ตั้งแต่ต้นจนจบเขาใช้เพียงแต่พลังกายเท่านั้น ส่วนเคล็ดวิชาอื่นๆ ไม่ได้มีมากนัก พวกเราสามารถแยกจากกัน ปราบอีกฝ่ายด้วยอาณาเขต ค่อยๆ กลืนเข้าหาฝ่ายตรงข้าม”

 

แสงสว่างฉายวาบออกมาจากใบหน้าของบรรพชนหก

 

เมื่อมาถึงระดับเดียวกันกับพวกเขา การต่อสู้เริ่มมีสิ่งอื่นมากขึ้น มันไม่ได้จํากัดอยู่แค่การต่อสู้แบบธรรมดาอีกแล้ว และส่วนใหญ่ก็มักจะปะทะกันด้วยอาณาเขตมากกว่า

 

ร่างกายของซูฉินนั้นทรงพลังจริงๆ เหนือจินตนาการของบรรพชนหกและคนอื่นๆ แต่บรรพชนหกเลือกที่จะไม่ปะทะกับซูฉินในด้านร่างกาย

 

เมื่อสูญเสียความได้เปรียบเรื่องพลังทางกาย ซูฉินย่อมมีพลังต่อสู้ลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ส่วนเรื่องอาณาเขต……

 

แม้ว่าอายุขัยของบรรพชนหกนั้นใกล้จะสิ้นสุดแล้ว พลังชีวิตและเลือดเนื้อก็ลดลง แต่มันไม่มีผลกับอาณาเขต ตรงกันข้าม เนื่องจากประสบการณ์ชีวิตอันยาวนาน ความสามารถในการใช้อาณาเขตของเขานั้นเหนือกว่าตํานานยุทธขั้นสูงสุดทั้งหลายไปมาก

 

หากมีเพียงบรรพชนหก มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสู้ด้วยอาณาเขต ท้ายที่สุดซูฉันก็ไม่ได้โง่งม

 

เขาจะละทิ้งความได้เปรียบและมาเผชิญหน้าด้วยข้อด้อยได้อย่างไร

 

แต่พรรคพวกของบรรพชนหกมีสามคน

 

เป็นอรหันต์ขั้นสูงสุดสามรูปที่ควบแน่นอาณาเขตได้แล้ว และการที่มีต้นกําเนิดเดียวกัน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะรวมอาณาเขตทั้งสามเป็นหนึ่งเดียว เข้าปราบปรามซูฉินได้ในทันที

 

ในเวลานั้นอาณาเขตของซูฉันก็จะถูกกักขังอยู่เดียวดาย แม้ว่าร่างกายจะแข็งแกร่ง แต่แล้วมันจะเป็นเช่นไรได้เล่า?

 

เว้นแต่กายเนื้อของเซียนเทพปฐพี่ที่แท้จริงจึงจะสามารถฉีกกระชากอาณาเขตขนาดเล็กได้

เพียงอาศัยพลังชีวิตและเลือดเนื้อ ไม่เช่นนั้นก็มีแต่จะถูกดักจับอยู่ภายใน

 

ส่วนร่างกายที่เทียบเคียงขอบเขตเซียนเทพปฐพี.

 

ถ้าร่างกายซูฉินไปถึงระดับนั้นจริงๆ เกรงว่าคงจะทุบตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณได้เพียงใช้แค่หมดไปแล้ว……

 

“ไม่เลว”

 

ดวงตาของบรรพชนเจ็ดเป็นประกาย และเห็นได้ชัดว่าเขาเห็นด้วยกับแผนการที่บรรพชนหกเสนอ

 

ไม่ว่าจะเป็นตํานานยุทธหรืออรหันต์ อาณาเขตที่ควบแน่นได้นั้นก็เป็นเพียงอาณาเขตขนาดเล็ก

แม้ว่าจะมีความแตกต่างระหว่างระดับสูงและระดับต่ํา แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก และด้วยความพยายามของทั้งสามคนจะต้องสามารถปราบปรามซุฉินได้อย่างแน่นอน

 

ทั้งบรรพชนหก บรรพชนเจ็ด และบรรพชนเก่าก็ตัดสินใจได้ในทันที

 

และในตอนนี้

 

เป้ง เป้ง เป้ง!

 

ซูฉินขยับร่างอย่างต่อเนื่อง กระแทกเข้าใส่แสงพุทธคุณที่ปล่อยออกมาจากตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ อุปสรรคที่สร้างจากแสงพุทธคุณไม่สามารถทําลายได้ แต่ในสายตาของซูฉิน พวกมันไม่นับเป็นอะไรนอกจากเป้าหมายให้ปัดทําลาย

 

“ให้ข้าได้ท่าลายมัน!!”

 

จิตวิญญาณการต่อสู้ของซูฉินเดือดพล่าน พลังชีวิตและเลือดเนื้อไหลทะลักออกมาราวกับคลื่น

สมุทร พลังทางกายอันทรงพลัง แก่นแท้แห่งพลัง และจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์รวมเป็นหนึ่งเดียวกันเข้าก่าจัดทุกสิ่ง ส่งพลังเข้ากระทบแสงพุทธคุณทันที

 

แกร็ก

 

หมัดที่ตกลงกระทบก็สร้างเสียงเอี๊ยดอ๊าดขึ้นมา

 

เห็นตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณที่ลอยอยู่เหนือวิหารหมื่นพุทธพลันแตกร้าว

 

หมัดของซูฉินได้ท่าลายไส้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณไปจนหมดสิ้น และเพื่อซ่อมแซมรอยร้าวนี้ ลูกศิษย์ของวิหารหมื่นพุทธจํานวนนับไม่ถ้วนจะต้องบ่มเพาะต่อไปอีกหลายร้อยปี

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยมจริงๆ!!!”

 

ซูฉินหัวเราะ เนื่องจากร่างกายของเขาได้แปรสภาพไปถึงห้าครั้ง เขาจึงไม่ได้ใช้พลังของกาย

เนื้อตามอําเภอใจ แม้แต่ตอนที่จัดการมังกรปีศาจในวิหารการสงครามก็ไม่ได้ทําให้เลือดสูบฉีดขนาดนี้

 

“ไม่ดีแล้ว”

 

“เราจะลากถ่วงต่อไปไม่ได้แล้ว”

 

บรรพชนหกที่เห็นฉากนี้ หนังหัวของเขาก็แทบจะระเบิดลุกเป็นไฟ

 

เดิมที่พวกเขาต้องการรอคอยเพื่อให้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณกินพลังงานบางส่วนไปจากซู

เฉิน เพื่อให้ง่ายแก่การจัดการซุฉินด้วยอาณาเขตในภายหลัง

 

แต่บรรพชนหกรวมถึงคนอื่นๆ ไม่คาดคิดว่าหมัดสุดท้ายของซูฉันเหมือนจะควบแน่นพลังบางอย่าง กระแทกเข้าใส่ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณโดยตรง และแม้แต่ตัวตะเกียงยังเกิดรอยร้าว

 

หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณทั้งหมดคงจะถูกทําลายด้วยหมัดของซูฉิน

 

“ลุย!”

 

บรรพชนหก บรรพชนเจ็ด และบรรพชนเก่าทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า พลังชีวิตและเลือดเนื้อไหล

เวียนอยู่ในสภาวะสูงสุด ในเวลาเดียวกันอาณาเขตทั้งสามร้อยจ้างก็ปรากฏขึ้นในทันที ปกคลุม

สภาพแวดล้อมทั้งหมด ผนึกซูฉินไว้ทุกทิศทางทั้งซ้ายขวาหน้าหลัง

 

“หืม?”

 

ซูฉันเลิกคิ้วแล้วปล่อยอาณาเขตออกมา

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าซูฉินจะแข็งแกร่งเพียงใด พลังของคนเพียงคนเดียว อาณาเขตก็เป็นเพียงอาณาเขตขนาดเล็ก ภายใต้การปราบปรามของบรรพชนทั้งสาม แม้ว่าจะบอกได้ยากว่าเสียเปรียบ

แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีประโยชน์มากนัก

 

“ผู้แสวงบุญ เหตุไฉนไม่ถอยคนละก้าว ถอยกลับไปเสียมิดีกว่าหรือ?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 263 (I) เพียงตัวตถาคตประเสริฐสุด!

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 263 (I) เพียงตัวตถาคตประเสริฐสุด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 263 (I)เพียงตัวตถาคตประเสริฐสุด!

 

ในวิหารหมื่นพุทธ

 

ภายใต้แสงพุทธคุณ

 

ทั้งบรรพชนหกและคนอื่นๆ ประสาทสัมผัสทั้งห้าของพวกเขาต่างตื่นตัวอย่างมากเมื่อได้ยินสิ่งที่ซูฉินกระซิบอยู่กับตนเอง

 

“อะไร?”

 

“หมัดกับมีดเมื่อครู่ยังไม่ได้ใส่มาเต็มที่หรอกหรือ?”

 

บรรพชนเจ็ดดูตกใจ

 

มีดที่ซูฉันฟันและหมัดที่ซูฉินต่อยยังเขย่าตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณจนยังไม่หายสั่นสะเทือนเลย โดยเฉพาะหมัดสุดท้ายที่น่าสะพรึงกลัว มันแทบจะพุ่งทะลุแสงพุทธคุณมาถึงวิหารหมื่นพุทธอยู่แล้ว สร้างพลังถล่มทลายขนาดนี้ได้ด้วยหมัดเพียงแค่หมัดเดียวเท่านั้น แต่จากที่ซูฉินพูดเมื่อครู่

 

นี่เขายังไม่ได้เอาจริง?

 

บรรพชนเก้าและบรรพชนเจ็ดมองหน้ากัน แทบไม่อยากเชื่อ

 

พวกเขาประเมินซูฉินสูงมากแล้ว และใช้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณโดยตรง แต่พลังต่อสู้ที่ซูฉินแสดงออกมาตอนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

และในขณะที่บรรพชนเก่าและบรรพชนเจ็ดมองหน้ากัน

 

ซูฉินก็ลงมืออีกครั้ง

 

ครั้งนี้ซูฉันไม่ได้พึ่งพาอาวุธจิตวิญญาณใดใช้มือเปล่า ทิ้งหมัด ฝ่ามือ เข่า และดัชนีระดมโจมตี

ระเบิดพลังเข้าใส่แสงพุทธคุณที่มาจากตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ

 

ปัง ปัง ปัง!

 

ในชั่วพริบตาซูฉินก็ออกหมัดมวยไปแล้วหลายสิบหลายร้อยกระบวนท่า

 

ทันใดนั้นแสงพุทธคุณที่ปกคลุมวิหารหมื่นพุทธเอาไว้ก็สั่นสะเทือนเลือนลั่น บิดเบี้ยวไปตามการโจมตีของซูฉิน

 

ถ้าไม่ใช่บรรพชนหก บรรพชนเจ็ด และบรรพชนเก่าที่คอยหยุดยั้งพลังที่แพร่กระจายเข้ามา

เกรงว่าพลังระดับนี้เพียงอย่างเดียวก็สามารถทุบศิษย์วิหารหมื่นพุทธที่อยู่ต่ํากว่าระดับนภาชนที่เจ็ดจนแบน

 

แต่ถึงแม้จะได้รับการปกป้องจากบรรพชนทั้งสาม ศิษย์หลายคนที่ซ่อนตัวอยู่ในวิหารหมื่นพุทธ

ก็สั่นเทา มองดูแสงพุทธคุณที่ค่อยๆ บิดเบี้ยวราวกับกําลังประสบกับหายนะ

 

ซูฉินแข็งแกร่งเกินไป

 

ทุกกระบวนท่า พลังที่ระเบิดออกมาทําให้แผ่นดินแยก และในตอนนี้ไส้ตะเกียงพุทธหมื่น

วิญญาณก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว พยายามจะฟื้นฟูพลังกลับมา

 

แม้ว่าตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณจะทรงพลัง ในจุดรุ่งเรืองของมัน มันสามารถป้องกันการโจมตีธรรมดาๆ จากเซียนเทพปฐพี่ได้เลย เพียงแต่ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในจุดรุ่งเรือง

 

นอกจากนี้ซูฉันยังออกกระบวนท่ามาหลายร้อยกระบวนท่าในอดใจเดียว แม้ทุกกระบวนท่าจะ

ไม่ได้ทรงพลังเท่ากับการระเบิดพลังของขอบเขตเซียนเทพปฐพี แต่กระบวนท่าที่มากมายมหาศาลนี้ก็เป็นการทดแทนในเชิงจํานวนจนทําให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น เพียงพอที่จะทําลายทุกสิ่ง

 

“เป็นไปได้อย่างไร!?”

 

บรรพชนหกมองดูแสงพุทธคุณที่สันสะท้าน ในใจเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

 

ถ้าบอกว่าหมัดแรกของซูฉินเพียงหมัดเดียวก็สามารถเขย่าตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณได้แล้ว

แต่แท้ที่จริงแล้วมันยังห่างไกลจากการทําให้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณสันสะเทือนได้จริงๆ

 

ทว่าในขณะนี้ ทุกๆการโจมตีของซูฉินทําให้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณสันสะเทือนอย่างแท้จริง ในช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณดูดซับพลังมาหลายพันปีจนพลังงานส่วนใหญ่กลับคืนมา แต่พลังที่กลับคืนมานั้นกลับถูกใช้ไปกว่าหกส่วนแล้วในตอนนี้

 

“จะให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว”

 

“ไม่เช่นนั้นตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณจะถูกทําลายลงจริงๆ”

 

บรรพชนหกใบหน้าบิดเบี้ยว มองไปทางบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก่ากล่าวด้วยน้ําเสียงอันหนักแน่น

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณไม่อาจน่าไปเทียบกับสมบัติพุทธคุณอย่างลูกประคํา มันเป็นมรดก

ที่แท้จริงของวิหารหมื่นพุทธ การมีตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณคอยคุ้มกัน แม้ว่าวิหารหมื่นพุทธจะถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มตํานานยุทธขั้นสูงสุดก็สามารถต้านทานไว้ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง และมันไม่ควรจะถูกทําลายลงในวันนี้

 

“พวกเจ้าและข้าจะต้องลงมือ”

 

บรรพชนหกดูเคร่งขรึม กล่าวออกมาอย่างเคร่งเครียด

 

“บรรพชนหก แม้ว่าเราจะร่วมมือกัน เราจะหยุดเขาได้อย่างนั้นหรือ?” บรรพชนเก้าไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อย

 

ด้วยพลังในปัจจุบันของซูฉิน นอกเหนือจากอรหันต์ขั้นสูงสุดที่สามารถแปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกก่าเนิดได้แล้ว ใครจะยังหยุดเขาได้อีก?

 

“ถ้าสู่ในระยะประชิด ก็คงจะไม่เป็นผล

 

บรรพชนหกหรี่ตาลง ส่ายหัวพร้อมทั้งกล่าวออกมา

 

ร่างกายของซูฉินนั้นน่ากลัวเกินไป เลือดเนื้อพลังชีวิตมากมายดุจมหาสมุทร แม้ว่าทั้งสามจะ

ร่วมมือกันจริงๆ ซึ่งไม่ว่าจะชนะหรือไม่ก็ตาม ก็ต้องใช้ทักษะลับต้องห้ามอย่างไม่มีทางเลือกเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่ง

 

เมื่อพวกเขาไม่สามารถชนะซูฉันได้จนเกินเวลาของทักษะต้องห้าม เกรงว่าบรรพชนทั้งสามคงจะโดนกลบฝังอยู่ที่นี่แล้วจริงๆ

 

“คนผู้นี้ตั้งแต่ต้นจนจบเขาใช้เพียงแต่พลังกายเท่านั้น ส่วนเคล็ดวิชาอื่นๆ ไม่ได้มีมากนัก พวกเราสามารถแยกจากกัน ปราบอีกฝ่ายด้วยอาณาเขต ค่อยๆ กลืนเข้าหาฝ่ายตรงข้าม”

 

แสงสว่างฉายวาบออกมาจากใบหน้าของบรรพชนหก

 

เมื่อมาถึงระดับเดียวกันกับพวกเขา การต่อสู้เริ่มมีสิ่งอื่นมากขึ้น มันไม่ได้จํากัดอยู่แค่การต่อสู้แบบธรรมดาอีกแล้ว และส่วนใหญ่ก็มักจะปะทะกันด้วยอาณาเขตมากกว่า

 

ร่างกายของซูฉินนั้นทรงพลังจริงๆ เหนือจินตนาการของบรรพชนหกและคนอื่นๆ แต่บรรพชนหกเลือกที่จะไม่ปะทะกับซูฉินในด้านร่างกาย

 

เมื่อสูญเสียความได้เปรียบเรื่องพลังทางกาย ซูฉินย่อมมีพลังต่อสู้ลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ส่วนเรื่องอาณาเขต……

 

แม้ว่าอายุขัยของบรรพชนหกนั้นใกล้จะสิ้นสุดแล้ว พลังชีวิตและเลือดเนื้อก็ลดลง แต่มันไม่มีผลกับอาณาเขต ตรงกันข้าม เนื่องจากประสบการณ์ชีวิตอันยาวนาน ความสามารถในการใช้อาณาเขตของเขานั้นเหนือกว่าตํานานยุทธขั้นสูงสุดทั้งหลายไปมาก

 

หากมีเพียงบรรพชนหก มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสู้ด้วยอาณาเขต ท้ายที่สุดซูฉันก็ไม่ได้โง่งม

 

เขาจะละทิ้งความได้เปรียบและมาเผชิญหน้าด้วยข้อด้อยได้อย่างไร

 

แต่พรรคพวกของบรรพชนหกมีสามคน

 

เป็นอรหันต์ขั้นสูงสุดสามรูปที่ควบแน่นอาณาเขตได้แล้ว และการที่มีต้นกําเนิดเดียวกัน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะรวมอาณาเขตทั้งสามเป็นหนึ่งเดียว เข้าปราบปรามซูฉินได้ในทันที

 

ในเวลานั้นอาณาเขตของซูฉันก็จะถูกกักขังอยู่เดียวดาย แม้ว่าร่างกายจะแข็งแกร่ง แต่แล้วมันจะเป็นเช่นไรได้เล่า?

 

เว้นแต่กายเนื้อของเซียนเทพปฐพี่ที่แท้จริงจึงจะสามารถฉีกกระชากอาณาเขตขนาดเล็กได้

เพียงอาศัยพลังชีวิตและเลือดเนื้อ ไม่เช่นนั้นก็มีแต่จะถูกดักจับอยู่ภายใน

 

ส่วนร่างกายที่เทียบเคียงขอบเขตเซียนเทพปฐพี.

 

ถ้าร่างกายซูฉินไปถึงระดับนั้นจริงๆ เกรงว่าคงจะทุบตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณได้เพียงใช้แค่หมดไปแล้ว……

 

“ไม่เลว”

 

ดวงตาของบรรพชนเจ็ดเป็นประกาย และเห็นได้ชัดว่าเขาเห็นด้วยกับแผนการที่บรรพชนหกเสนอ

 

ไม่ว่าจะเป็นตํานานยุทธหรืออรหันต์ อาณาเขตที่ควบแน่นได้นั้นก็เป็นเพียงอาณาเขตขนาดเล็ก

แม้ว่าจะมีความแตกต่างระหว่างระดับสูงและระดับต่ํา แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก และด้วยความพยายามของทั้งสามคนจะต้องสามารถปราบปรามซุฉินได้อย่างแน่นอน

 

ทั้งบรรพชนหก บรรพชนเจ็ด และบรรพชนเก่าก็ตัดสินใจได้ในทันที

 

และในตอนนี้

 

เป้ง เป้ง เป้ง!

 

ซูฉินขยับร่างอย่างต่อเนื่อง กระแทกเข้าใส่แสงพุทธคุณที่ปล่อยออกมาจากตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ อุปสรรคที่สร้างจากแสงพุทธคุณไม่สามารถทําลายได้ แต่ในสายตาของซูฉิน พวกมันไม่นับเป็นอะไรนอกจากเป้าหมายให้ปัดทําลาย

 

“ให้ข้าได้ท่าลายมัน!!”

 

จิตวิญญาณการต่อสู้ของซูฉินเดือดพล่าน พลังชีวิตและเลือดเนื้อไหลทะลักออกมาราวกับคลื่น

สมุทร พลังทางกายอันทรงพลัง แก่นแท้แห่งพลัง และจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์รวมเป็นหนึ่งเดียวกันเข้าก่าจัดทุกสิ่ง ส่งพลังเข้ากระทบแสงพุทธคุณทันที

 

แกร็ก

 

หมัดที่ตกลงกระทบก็สร้างเสียงเอี๊ยดอ๊าดขึ้นมา

 

เห็นตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณที่ลอยอยู่เหนือวิหารหมื่นพุทธพลันแตกร้าว

 

หมัดของซูฉินได้ท่าลายไส้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณไปจนหมดสิ้น และเพื่อซ่อมแซมรอยร้าวนี้ ลูกศิษย์ของวิหารหมื่นพุทธจํานวนนับไม่ถ้วนจะต้องบ่มเพาะต่อไปอีกหลายร้อยปี

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยมจริงๆ!!!”

 

ซูฉินหัวเราะ เนื่องจากร่างกายของเขาได้แปรสภาพไปถึงห้าครั้ง เขาจึงไม่ได้ใช้พลังของกาย

เนื้อตามอําเภอใจ แม้แต่ตอนที่จัดการมังกรปีศาจในวิหารการสงครามก็ไม่ได้ทําให้เลือดสูบฉีดขนาดนี้

 

“ไม่ดีแล้ว”

 

“เราจะลากถ่วงต่อไปไม่ได้แล้ว”

 

บรรพชนหกที่เห็นฉากนี้ หนังหัวของเขาก็แทบจะระเบิดลุกเป็นไฟ

 

เดิมที่พวกเขาต้องการรอคอยเพื่อให้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณกินพลังงานบางส่วนไปจากซู

เฉิน เพื่อให้ง่ายแก่การจัดการซุฉินด้วยอาณาเขตในภายหลัง

 

แต่บรรพชนหกรวมถึงคนอื่นๆ ไม่คาดคิดว่าหมัดสุดท้ายของซูฉันเหมือนจะควบแน่นพลังบางอย่าง กระแทกเข้าใส่ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณโดยตรง และแม้แต่ตัวตะเกียงยังเกิดรอยร้าว

 

หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณทั้งหมดคงจะถูกทําลายด้วยหมัดของซูฉิน

 

“ลุย!”

 

บรรพชนหก บรรพชนเจ็ด และบรรพชนเก่าทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า พลังชีวิตและเลือดเนื้อไหล

เวียนอยู่ในสภาวะสูงสุด ในเวลาเดียวกันอาณาเขตทั้งสามร้อยจ้างก็ปรากฏขึ้นในทันที ปกคลุม

สภาพแวดล้อมทั้งหมด ผนึกซูฉินไว้ทุกทิศทางทั้งซ้ายขวาหน้าหลัง

 

“หืม?”

 

ซูฉันเลิกคิ้วแล้วปล่อยอาณาเขตออกมา

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าซูฉินจะแข็งแกร่งเพียงใด พลังของคนเพียงคนเดียว อาณาเขตก็เป็นเพียงอาณาเขตขนาดเล็ก ภายใต้การปราบปรามของบรรพชนทั้งสาม แม้ว่าจะบอกได้ยากว่าเสียเปรียบ

แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีประโยชน์มากนัก

 

“ผู้แสวงบุญ เหตุไฉนไม่ถอยคนละก้าว ถอยกลับไปเสียมิดีกว่าหรือ?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+