เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 274 มาถึง

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 274 มาถึง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 274 มาถึง

พรรคหมื่นดาบเป็นนิกายใหญ่ในดินแดนโพ้นทะเล

เมื่อเทียบกับบรรดานิกายใหญ่จํานวนมากในต่างแดน พวกเขายังคงตื้นเขินและอยู่ในอันดับที่ค่อนข้างต่ํา แต่อย่างไรก็เป็นนิกายใหญ่ระดับสูงอยู่ดี นักพรตหมื่นดาบผู้ก่อตั้งเป็นถึงนักดาบ ขอบเขตเซียนเทพปฐพีมีอํานาจปกครองยุทธภพต่างแดนนานถึงห้าร้อยปี เป็นหนึ่งไม่มีสอง

ถ้าไม่ใช่เพราะพรรคหมื่นดาบไม่เคยให้กําเนิด เซียนเทพปฐพีออกมาเลย เกรงว่าพรรคหมื่นดาบคงจะไม่ได้อยู่ในตําแหน่งที่ต่ําขนาดนี้ในหมู่นิกายใหญ่ต่างแดน

การมีเซียนเทพปฐพี่สักคน มีอิทธิพลอย่างมากต่อนิกายใหญ่

เซียนเทพปฐพไม่ใช่แค่ดํารงอยู่ได้เป็นพันปีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเคล็ดวิชาที่ได้ทิ้งเอาไว้ด้วย มันจะคงอยู่ตลอดไป อย่างเช่น บรรพชนดาบเมื่อพันกว่าปีก่อนที่บังเอิญได้รับมรดกจากนักพรตหมื่นดาบจึงพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด ในที่สุดก็สามารถแปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดจนไร้เทียนทานในต่างดินแดนยุคนั้น

และในเวลานี้

ขณะที่ประมุขพรรคหมื่นดาบออกคําสั่งให้เตรียมการสําหรับการเข้ายึดร่างของบรรพชนดาบ บรรยากาศภายในพรรคหมื่นดาบค่อยๆตึงเครียดขึ้น ศิษย์พรรคหมื่นดาบจํานวนมากขวัญเสีย ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น

“เจ้าได้ยินไหมว่าบรรพชนทั้งหมดของพรรคหมื่นดาบที่เดินทางไปแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯต่างตกตายไปหมดแล้ว”

ศิษย์พรรคหมื่นดาบคนหนึ่งลดเสียงลงก่อนจะพูดออกมา

เมื่อดวงไฟแห่งชีวิตของบรรพชนพรรคหมี่นดาบได้ดับลง ศิษย์หลายคนก็บังเอิญผ่านมาเห็น รวมกับความจริงที่ว่าประมุขพรรคหมื่นดาบ ว่าบรรพชนดาบตื่นขึ้นจากหลับใหลแล้ว ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ระงับข่าวนี้แต่อย่างใด

เพราะในสายตาของประมุขพรรคหมื่นดาบ การตายของบรรพชนพรรคหมื่นดาบทั้งหลายนั้นเกิดจากนิกายใหญ่แห่งอื่นๆ แม้เขาจะระงับข่าวไม่ให้รั่วไหล นิกายใหญ่แห่งอื่นๆ ที่ร่วมมือกันทําเรื่องนี้ก็คงจะกระจายข่าวออกไปอย่างอยู่ดี

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นทําไมไม่ยอมรับเรื่องนี้อย่าง เปิดเผยไปเลยเล่า

ในทางตรงกันข้าม สําหรับประมุขพรรคหมื่นดาบแล้วนั้น บรรพชนดาบกําลังจะตื่นขึ้นอีกครั้ง นับประสาอะไรกับบรรพชนทั้งหลายที่ล่วงลับไป แม้จํานวนคนที่ตายจะเพิ่มไปอีกสองเท่า แต่บรรพชนดาบก็ยังคงอยู่ และพรรคหมื่นดาบจะยังสามารถยืนหยัดได้ในยุทธภพต่างแดน

และเมื่อข่าวการตายของบรรพชนขอบเขตตํานานยุทธขั้นสูงสุดแพร่กระจายในพรรคหมื่นดาบ ศิษย์พรรคหมื่นดาบต่างก็รู้สึกเหมือนระเบิดลง

“เกิดอะไรขึ้นภายในแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯกัน ก่อนหน้านี้ก็เป็นศิษย์พรรค แล้วก็ผู้อาวุโส จากนั้นก็บรรพชน เป็นไปได้ไหมว่าแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯนั้นเป็นถ้ําเสือสระมังกร?”

ศิษย์พรรคหมื่นดาบต่างหวาดกลัวและไม่สบายใจ รู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่พวกตนไม่ได้ไปยังแผ่นดินแห่งพลังยุทธอันยิ่งใหญ่ด้วย

แม้ว่ายุทธภพในดินแดนโพ้นทะเลแห่งนี้จะมี การแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่ในฐานะศิษย์นิกายใหญ่ ตราบใดที่พวกเขาระมัดระวังตนให้ดี ก็จะไม่มีใครกล้าคุกคามพวกเขา

แต่แผ่นดินแห่งพลังยุทธอันยิ่งใหญ่นั้นไม่ เหมือนกัน

เวลาผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ แต่บรรพชนต่างก็ล้มหายตายจากกันไปอีกแล้ว ช่างน่าเหลือเชื่อนัก

“ฮ่ม!”

“บรรพชนดาบของพวกเรากําลังจะตื่นแล้ว ถึงเวลาที่พรรคหมื่นดาบของพวกเราจะครอบครองพิภพนี้ด้วยคมดาบแล้ว”

ศิษย์อีกคนส่งเสียงเย้ยหยันและกล่าวว่า บรรพชนดาบกําลังจะตื่นขึ้น

อันที่จริงนี่เป็นสิ่งที่ประมุขพรรคหมื่น ดาบจงใจจัดวางไว้ การตายของบรรพชนจํานว นมากนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในพรรคหมื่นดาบ และเมื่อเป็นเช่นนี้พรรคหมื่นดาบยิ่งต้องฟื้นคืนขวัญกําลังใจให้กับเหล่าศิษย์สาวก

ในสายตาของประมุขพรรคหมื่นดาบ ไม่มีอะไรจะเพิ่มขวัญกําลังใจให้แก่ศิษย์ได้มากกว่าเรื่องของการปลุกบรรพชนดาบขึ้นมาอีกแล้ว

แม้เวลาจะล่วงเลยมาเป็นพันปี แต่ศักดิ์ศรีของบรรพชนดาบก็เป็นที่รู้ทั่วกันในหมู่ศิษย์พรรคหมื่นดาบ และไม่ใช่เพียงแต่ภายในพรรคหมื่นดาบเท่านั้น นี่ยังรวมไปถึงนิกายใหญ่จํานวนมากในต่างแดน ไม่มีใครสามารถละเลยการมีอยู่ของบรรพชนดาบได้

ตํานานยุทธขั้นสูงสุดผู้แปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้ เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดรองลงมาจากขอบเขตเซียนเทพปฐพี

“บรรพชนดาบตื่นขึ้นแล้วอย่างนั้นหรือ?”

“บรรพชนดาบยังคงมีชีวิตอยู่จริงๆ ใช่ไหม?”

“นั่นเป็นเรื่องปกติมาก บรรพชนดาบแปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้แล้ว ปราศจากพันธนาการทางกาย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอายุขัย แต่การจะอยู่รอดต่อมาได้เป็นพันปีสองพันปีนั้นย่อมเป็นเรื่องง่าย”

ศิษย์พรรคหมื่นดาบจํานวนมากต่างรู้สึกตื่นเต้น ความกลัวและความวิตกกังวลในช่วงแรกตอนที่ได้ข่าวเรื่องการตายของเหล่าบรรพชนพลันหายไปในทันที

“บรรพชนพรรคหมื่นดาบของพวกเราได้ตกตายอยู่ในแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯ ความแค้นครั้งนี้ต้องได้รับการชําระ เมื่อบรรพชนดาบตื่นขึ้นมา ข้าจะร้องขอให้ท่านบรรพชนดาบแก้แค้นให้พรรคของเรา”

“ถูกต้อง บรรพชนดาบจะต้องจัดการแทนพวกเราได้อย่างแน่นอน”

ศิษย์พรรคหมื่นดาบทุกคนล้วนมั่นอกมั่นใจ

การตายของกลุ่มบรรพชนที่ล้วนเป็นตํานานยุทธขั้นสูงสุดนั้นช่างน่าตกใจโดยแท้จริง แต่ศิษย์ทุกคนในพรรคหมื่นดาบต่างศรัทธาในตัวของบรรพชนดาบอย่างแรงกล้า คิดว่าต่อให้ผู้ที่สร้างเรื่องจะแข็งแกร่ง แต่ตราบใดที่บรรพชนดาบลงมือ ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องกลายเป็นเพียงฝุ่นผง

และเมื่อเวลาผ่านเลยไป ข่าวเรื่องที่บรรพชนดาบกําลังจะตื่นขึ้นก็แพร่กระจายจากพรรคหมื่นดาบมาสู่หูของนิกายใหญ่รวมถึงจอมยุทธทั่วๆไป

ในขณะที่ชาวยุทธต่างดินแดนหลายต่อหลายคนกําลังพูดคุยถึงเรื่องนี้

ซูฉินก็มาถึงยุทธภพต่างดินแดนอย่างเงียบๆ

เหนือน่านน้ํามหาสมุทร เห็นซูฉินเหยียบยืนอยู่บนใบกกกําลังมุ่งหน้าสู่ต่างดินแดนด้วยความรวดเร็ว

ซูฉันไม่รู้ว่าพรรคหมื่นดาบอยู่ที่ไหน หรือจะไปที่นั่นได้อย่างไร

ซูฉินเพียงต้องจับตําแหน่งของหลีหว่านด้วยดวงตาแห่งสัจจะเท่านั้น จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้น

“วิชากระจุกกระจิกที่สร้างขึ้นโดยพระโพธิธรรม ตกม้อนี่ก็มีประโยชน์ไม่น้อย ไม่ต้องใช้แก่นแท้แห่งพลังหรือจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับช่วยเพิ่มความเร็วได้อย่างมาก….”

ซูฉันคิดในใจขณะที่ยืนอยู่บนใบต้นกก

เคล็ดวิชาที่เขาก็ใช้งานอยู่นี้เป็นวิชาเล็กๆน้อยๆ ที่สร้างขึ้นโดยผู้ก่อตั้งวัดเส้าหลินอย่างพระโพธิธรรมเพื่อข้ามแม่น้ําด้วยใบกก

ในตอนแรกซูฉินไม่ชอบเคล็ดวิชาเล็กๆน้อยๆนี่เท่าไหร่ ท้ายที่สุดตราบใดที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธได้ ย่อมสามารถเหาะเหินเดินอากาศ การใช้ใบกกเพื่อข้ามแม่น้ําจะเอาอะไรไปเทียบได้?

แต่ยามที่ซูฉินต้องรีบร้อนเดินทางไปต่างดินแดน เขาก็บังเอิญไปเห็นต้นกกเข้า และใช้มันในการเดินทางมุ่งหน้าสู่โพ้นทะเลอันกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด

เป็นผลให้ซูฉินพึงพอใจมาก

วิชาเล็กๆน้อยๆ อย่างการใช้ใบกกข้ามแม่น้ํา เชื่อมโยงกับฐานการบ่มเพาะของซูฉินโดยตรง และไม่ได้กินพลังงานเลย

ซูฉินมีแก่นแท้แห่งพลังอันยิ่งใหญ่อยู่ในร่าง เมื่อใช้เหาะเหินเดินอากาศ มันสามารถกลับมาเติมเต็มได้ในไม่ช้า แต่การที่กินพลังงานหรือไม่กินพลังงานเลยนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“ด้วยความช่วยเหลือจากน้ําทะเลอันมหาศาล ใช้กระแสน้ําให้เป็นประโยชน์ มันกลับกลายเป็นพลังงานให้กับการเคลื่อนที่ได้ ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินวิชานี้ต่ําไป”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน

ไม่นานนักหลังจากเข้านมัสการวัดเส้าหลิน เขาก็ได้ลงชื่อเข้าใช้ในศาลาพระคัมภีร์และได้รับวิ ชากระจุกกระจิกนี้มา แต่ซูฉันไม่ได้มีโอกาสใช้มันมากเท่าไหร่

วัดเส้าหลินอยู่ในส่วนลึกของแผ่นดินใหญ่ นับประสาอะไรกับทะเล แม้แต่แม่น้ําก็ไม่ได้มีให้เห็นมากนัก นอกจากนี้ซูฉินยังออกจากวัดเส้าหลินไปไม่กี่ครั้งเท่านั้น ก่อนจะเข้าสู่ขอบเขตอรหันต์ และก็ไม่เคยได้ใช้วิชากระจุกกระจิกเช่นนี้ในสภาวะวิกฤติด้วย

“ใกล้จะถึงต่างดินแดนแล้ว”

“ข้าสัมผัสได้ว่าพลังฟ้าดินค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น” ซูฉันเอามือไพล่หลัง ข้ามผ่านทะเลนับร้อยลี้ เกาะแก่งมากมายต่างโผล่ขึ้นที่ละเกาะสองเกาะ

“ไม่น่าแปลกใจที่มีตํานานยุทธมากมายในต่างแดน และมีแม้กระทั่งเซียนเทพปฐพี่ถือกําเนิดขึ้น”

“ด้วยสภาพแวดล้อมที่มีพลังเหลือเฟือเช่นนี้ ตราบใดที่ร่างกายไม่ได้บกพร่องจนถึงแก่น เพียงเวลาไม่นานก็คงจะเข้าสู่ระดับชั้นเก้าของขอบเขตวิทยายุทธเก้าระดับชั้นแล้ว”

ท่าทีของซูฉินเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก

แม้แต่ในอาณาจักรถังที่กระแสปราณฉีเริ่มฟื้นตัว มีเพียงสามหรือสี่คนจากสิบคนเท่านั้นที่มีโอกาสจะเป็นจอมยุทธได้ ส่วนอีกหกถึงเจ็ดคนที่เหลือก็คงจะไม่สามารถก้าวหน้าในด้านวิชายุทธได้ตลอดชั่วชีวิต จะไปมีสภาพแวดล้อมดีเท่าต่างดินแดนที่ทุกคนสามารถกลายเป็นจอมยุทธได้เช่นไร?

“ว่ากันว่าเมื่อเทียบกับยุคเฟื่องฟูของกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด สภาพแวดล้อมในต่างดินแดน เทียบไม่ได้แม้แต่มุมเล็กๆ ในพื้นที่ห่างไกลเสียด้วยซ้ํา…”

ความคิดของซูฉินผันผวนไปมา นึกเรื่องต่างๆอยู่ในใจเงียบๆ

“น่าจะถึงพรรคหมื่นดาบในไม่ช้า”

ด้วยดวงตาแห่งสัจจะคอยจับพลังฉีของหลีหว่านอยู่เสมอ หัวใจในซูฉินสันไหวเล็กน้อย
“ตั้งแต่พรรคหมื่นดาบก่อตั้งขึ้นมา มีเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถคุกคามข้าได้”

“หนึ่งคือนักพรตหมั่นดาบที่มีชีวิตอยู่เมื่อสี่พันกว่าปีก่อน ผู้เป็นเซียนเทพปฐพีที่เก่งกาจในเชิง

ดาบ”

ใบหน้าของซูฉินดูเคร่งขรึมขึ้นมาไม่น้อย

เซียนเทพปฐพี่นั้นก็น่ากลัวอยู่แล้ว และเซียนเทพปฐพีที่เชี่ยวชาญในเชิงดาบ เก่งกาจในการฆ่าฟัน พวกเขายิ่งมีพลังเหนือจินตนาการ

แต่ก็เท่านั้น

ในสายตาของซูฉิน นักพรตหมื่นดาบเป็นภัยคุกคามที่ต่ําที่สุด

กว่าสี่พันปีล่วงเลยมาแล้ว แม้ว่านักพรตหมี่ นดาบจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่เกรงว่า เขาคงจะตายด้วยวัยชราไปนานแล้ว ไม่จําเป็นต้องมานั่งคิดกังวล

“คนที่สองคือบรรพชนดาบเมื่อพันเก้าร้อยปีก่อน ซึ่งแปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดเรียบร้อยแล้ว ในยุคหลังจากนักพรตหมั่นดาบ เขาคนนี้ก็คือคนที่มีพรสวรรค์และความแข็งแกร่งมากที่สุดในพรรคหมื่นดาบ”

ซูฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย

สําหรับบรรพชนดาบ เขาเป็นอัจฉริยะจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เขาก็ยังล้มเหลวในการทําลายคอขวดเพื่อเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี

ตามหลักเหตุผลแล้วนั้น ตํานานยุทธขั้นสูงสุดธรรมดา แม้จะหลับใหลด้วยวิธีลับปิดผนึกตนเอง อย่างมากก็หลับไปได้นานสุดแค่มากกว่าพันปีไปนิดหน่อย แต่บรรพชนดาบได้แปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดแล้ว เขาสามารถอยู่รอดบนโลกนี้ได้นานขึ้นเกือบจะถึงสองพันปี

นอกจากนี้ เมื่อตอนที่ซูฉินไล่สังหารบรรพชนพรรคหมื่นดาบ เขาได้ยินมาว่าจุดประสงค์ของพรรคหมื่นดาบในการพาตัวหลีหว่านไปก็เพื่อปลุกบรรพชนดาบให้ตื่นและค้นหาร่างกายที่สามารถบรรจุวิญญาณของเขาได้

ดังนั้นซูฉินจึงมั่นใจได้ว่าบรรพชนดาบยังคงอยู่ในส่วนลึกของพรรคหมื่นดาบ

“ยามนี้ดูเหมือนว่ามารพุทธะจะมีพรสวรรค์จริงๆ ตอนที่เขาเพิ่งเข้าสู่ขอบเขตอรหันต์ เขาสามารถสร้างจิตมารแยกวิถีขึ้นมาได้ ด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันแสนอ่อนแอของขอบเขตอรหันต์ เขากลับอยู่มาได้ถึงเก้าร้อยปี……”

ซูฉินดูประหลาดใจ

เขารู้สึกว่าหากไม่ใช่เพราะอรหันต์ถัวได้เล็งเห็นความเลวร้ายที่กําลังจะเกิดขึ้นและลงมือปิดผนึกมารพุทธะเอาไว้ เกรงว่าวัดเส้าหลินคงถูกทําลายไปนานแล้ว
ไม่ใช่เพียงเท่านั้น แต่ทั่วทั้งทวีปยังอาจตกอยู่ในการปกครองของมารพุทธะ

เมื่อซูฉันคิดถึงเรื่องนี้

กลิ่นอายของจอมยุทธมากมายจากทั่วทุกสารทิศก็ผ่านไปที่ละคนสองคน

กลิ่นอายของจอมยุทธเหล่านี้ผสมปนเปกันไป พวกที่อ่อนแอก็มีความแข็งแกร่งอยู่ที่ขอบเขตสามระดับกลางไม่ก็สามระดับบน ส่วนผู้ที่แข็งแกร่งก็ได้เข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธแล้ว

“เกิดอะไรขึ้น?”

ซูฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยและแผ่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปทั่วทุกทิศทาง ผ่านไปชั่วครู่สีหน้าของเขาก็ดูเหมือนครุ่นคิดบางอย่างอยู่

“ช่วงนี้เป็นเวลาที่พรรคหมื่นดาบรับสมัครศิษย์สาวกลั้นหรือ?”

ซูฉินแตะปลายคางของตนเอง

ด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่ซูฉินแผ่ออกไป ซูฉินจึงรู้ได้อย่างง่ายดายว่าคนกลุ่มนี้มีจุดประสงค์จะมุ่งหน้าไปรวมตัวกันที่พรรคหมื่นดาบ

ในความเป็นจริง ไม่เพียงแต่พรรคหมื่นดาบเท่านั้น แต่นิกายใหญ่แห่งอื่นๆก็เป็นเช่นนี้ เพื่อรักษาคนรุ่นใหม่ไว้ในนิกาย นานๆครั้งจึงมีการรับสมัครศิษย์ใหม่ๆ จากทั่วทุกมุมโลกอยู่เสมอ และนี่คือความมั่งคั่งของยุทธภพต่างแดน

ท้ายที่สุดเมื่อเข้าร่วมนิกายใดนิกายหนึ่ง ไม่เพียงจะได้รับคําแนะนําในการฝึกวิทยายุทธเท่านั้น แต่ยังได้รับการคุ้มครองจากนิกายอีกด้วย และยังไม่รู้ว่ามีผลประโยชน์อีกมากมายแค่ไหน

ฉับพลัน

ในตอนนั้นเอง

ซูฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองไปยังเกาะที่มีขนาด หลายร้อยลี้ข้างหน้า และยังเห็นอาคารเก้าแห่งที่ด้านบนมีรูปร่างคล้ายดาบปรากฏขึ้นที่ใจกลางเกาะ

พรรคหมื่นดาบตั้งอยู่ที่นี่นี่เอง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 274 มาถึง

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 274 มาถึง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 274 มาถึง

พรรคหมื่นดาบเป็นนิกายใหญ่ในดินแดนโพ้นทะเล

เมื่อเทียบกับบรรดานิกายใหญ่จํานวนมากในต่างแดน พวกเขายังคงตื้นเขินและอยู่ในอันดับที่ค่อนข้างต่ํา แต่อย่างไรก็เป็นนิกายใหญ่ระดับสูงอยู่ดี นักพรตหมื่นดาบผู้ก่อตั้งเป็นถึงนักดาบ ขอบเขตเซียนเทพปฐพีมีอํานาจปกครองยุทธภพต่างแดนนานถึงห้าร้อยปี เป็นหนึ่งไม่มีสอง

ถ้าไม่ใช่เพราะพรรคหมื่นดาบไม่เคยให้กําเนิด เซียนเทพปฐพีออกมาเลย เกรงว่าพรรคหมื่นดาบคงจะไม่ได้อยู่ในตําแหน่งที่ต่ําขนาดนี้ในหมู่นิกายใหญ่ต่างแดน

การมีเซียนเทพปฐพี่สักคน มีอิทธิพลอย่างมากต่อนิกายใหญ่

เซียนเทพปฐพไม่ใช่แค่ดํารงอยู่ได้เป็นพันปีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเคล็ดวิชาที่ได้ทิ้งเอาไว้ด้วย มันจะคงอยู่ตลอดไป อย่างเช่น บรรพชนดาบเมื่อพันกว่าปีก่อนที่บังเอิญได้รับมรดกจากนักพรตหมื่นดาบจึงพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด ในที่สุดก็สามารถแปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดจนไร้เทียนทานในต่างดินแดนยุคนั้น

และในเวลานี้

ขณะที่ประมุขพรรคหมื่นดาบออกคําสั่งให้เตรียมการสําหรับการเข้ายึดร่างของบรรพชนดาบ บรรยากาศภายในพรรคหมื่นดาบค่อยๆตึงเครียดขึ้น ศิษย์พรรคหมื่นดาบจํานวนมากขวัญเสีย ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น

“เจ้าได้ยินไหมว่าบรรพชนทั้งหมดของพรรคหมื่นดาบที่เดินทางไปแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯต่างตกตายไปหมดแล้ว”

ศิษย์พรรคหมื่นดาบคนหนึ่งลดเสียงลงก่อนจะพูดออกมา

เมื่อดวงไฟแห่งชีวิตของบรรพชนพรรคหมี่นดาบได้ดับลง ศิษย์หลายคนก็บังเอิญผ่านมาเห็น รวมกับความจริงที่ว่าประมุขพรรคหมื่นดาบ ว่าบรรพชนดาบตื่นขึ้นจากหลับใหลแล้ว ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ระงับข่าวนี้แต่อย่างใด

เพราะในสายตาของประมุขพรรคหมื่นดาบ การตายของบรรพชนพรรคหมื่นดาบทั้งหลายนั้นเกิดจากนิกายใหญ่แห่งอื่นๆ แม้เขาจะระงับข่าวไม่ให้รั่วไหล นิกายใหญ่แห่งอื่นๆ ที่ร่วมมือกันทําเรื่องนี้ก็คงจะกระจายข่าวออกไปอย่างอยู่ดี

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นทําไมไม่ยอมรับเรื่องนี้อย่าง เปิดเผยไปเลยเล่า

ในทางตรงกันข้าม สําหรับประมุขพรรคหมื่นดาบแล้วนั้น บรรพชนดาบกําลังจะตื่นขึ้นอีกครั้ง นับประสาอะไรกับบรรพชนทั้งหลายที่ล่วงลับไป แม้จํานวนคนที่ตายจะเพิ่มไปอีกสองเท่า แต่บรรพชนดาบก็ยังคงอยู่ และพรรคหมื่นดาบจะยังสามารถยืนหยัดได้ในยุทธภพต่างแดน

และเมื่อข่าวการตายของบรรพชนขอบเขตตํานานยุทธขั้นสูงสุดแพร่กระจายในพรรคหมื่นดาบ ศิษย์พรรคหมื่นดาบต่างก็รู้สึกเหมือนระเบิดลง

“เกิดอะไรขึ้นภายในแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯกัน ก่อนหน้านี้ก็เป็นศิษย์พรรค แล้วก็ผู้อาวุโส จากนั้นก็บรรพชน เป็นไปได้ไหมว่าแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯนั้นเป็นถ้ําเสือสระมังกร?”

ศิษย์พรรคหมื่นดาบต่างหวาดกลัวและไม่สบายใจ รู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่พวกตนไม่ได้ไปยังแผ่นดินแห่งพลังยุทธอันยิ่งใหญ่ด้วย

แม้ว่ายุทธภพในดินแดนโพ้นทะเลแห่งนี้จะมี การแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่ในฐานะศิษย์นิกายใหญ่ ตราบใดที่พวกเขาระมัดระวังตนให้ดี ก็จะไม่มีใครกล้าคุกคามพวกเขา

แต่แผ่นดินแห่งพลังยุทธอันยิ่งใหญ่นั้นไม่ เหมือนกัน

เวลาผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ แต่บรรพชนต่างก็ล้มหายตายจากกันไปอีกแล้ว ช่างน่าเหลือเชื่อนัก

“ฮ่ม!”

“บรรพชนดาบของพวกเรากําลังจะตื่นแล้ว ถึงเวลาที่พรรคหมื่นดาบของพวกเราจะครอบครองพิภพนี้ด้วยคมดาบแล้ว”

ศิษย์อีกคนส่งเสียงเย้ยหยันและกล่าวว่า บรรพชนดาบกําลังจะตื่นขึ้น

อันที่จริงนี่เป็นสิ่งที่ประมุขพรรคหมื่น ดาบจงใจจัดวางไว้ การตายของบรรพชนจํานว นมากนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในพรรคหมื่นดาบ และเมื่อเป็นเช่นนี้พรรคหมื่นดาบยิ่งต้องฟื้นคืนขวัญกําลังใจให้กับเหล่าศิษย์สาวก

ในสายตาของประมุขพรรคหมื่นดาบ ไม่มีอะไรจะเพิ่มขวัญกําลังใจให้แก่ศิษย์ได้มากกว่าเรื่องของการปลุกบรรพชนดาบขึ้นมาอีกแล้ว

แม้เวลาจะล่วงเลยมาเป็นพันปี แต่ศักดิ์ศรีของบรรพชนดาบก็เป็นที่รู้ทั่วกันในหมู่ศิษย์พรรคหมื่นดาบ และไม่ใช่เพียงแต่ภายในพรรคหมื่นดาบเท่านั้น นี่ยังรวมไปถึงนิกายใหญ่จํานวนมากในต่างแดน ไม่มีใครสามารถละเลยการมีอยู่ของบรรพชนดาบได้

ตํานานยุทธขั้นสูงสุดผู้แปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้ เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดรองลงมาจากขอบเขตเซียนเทพปฐพี

“บรรพชนดาบตื่นขึ้นแล้วอย่างนั้นหรือ?”

“บรรพชนดาบยังคงมีชีวิตอยู่จริงๆ ใช่ไหม?”

“นั่นเป็นเรื่องปกติมาก บรรพชนดาบแปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้แล้ว ปราศจากพันธนาการทางกาย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอายุขัย แต่การจะอยู่รอดต่อมาได้เป็นพันปีสองพันปีนั้นย่อมเป็นเรื่องง่าย”

ศิษย์พรรคหมื่นดาบจํานวนมากต่างรู้สึกตื่นเต้น ความกลัวและความวิตกกังวลในช่วงแรกตอนที่ได้ข่าวเรื่องการตายของเหล่าบรรพชนพลันหายไปในทันที

“บรรพชนพรรคหมื่นดาบของพวกเราได้ตกตายอยู่ในแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯ ความแค้นครั้งนี้ต้องได้รับการชําระ เมื่อบรรพชนดาบตื่นขึ้นมา ข้าจะร้องขอให้ท่านบรรพชนดาบแก้แค้นให้พรรคของเรา”

“ถูกต้อง บรรพชนดาบจะต้องจัดการแทนพวกเราได้อย่างแน่นอน”

ศิษย์พรรคหมื่นดาบทุกคนล้วนมั่นอกมั่นใจ

การตายของกลุ่มบรรพชนที่ล้วนเป็นตํานานยุทธขั้นสูงสุดนั้นช่างน่าตกใจโดยแท้จริง แต่ศิษย์ทุกคนในพรรคหมื่นดาบต่างศรัทธาในตัวของบรรพชนดาบอย่างแรงกล้า คิดว่าต่อให้ผู้ที่สร้างเรื่องจะแข็งแกร่ง แต่ตราบใดที่บรรพชนดาบลงมือ ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องกลายเป็นเพียงฝุ่นผง

และเมื่อเวลาผ่านเลยไป ข่าวเรื่องที่บรรพชนดาบกําลังจะตื่นขึ้นก็แพร่กระจายจากพรรคหมื่นดาบมาสู่หูของนิกายใหญ่รวมถึงจอมยุทธทั่วๆไป

ในขณะที่ชาวยุทธต่างดินแดนหลายต่อหลายคนกําลังพูดคุยถึงเรื่องนี้

ซูฉินก็มาถึงยุทธภพต่างดินแดนอย่างเงียบๆ

เหนือน่านน้ํามหาสมุทร เห็นซูฉินเหยียบยืนอยู่บนใบกกกําลังมุ่งหน้าสู่ต่างดินแดนด้วยความรวดเร็ว

ซูฉันไม่รู้ว่าพรรคหมื่นดาบอยู่ที่ไหน หรือจะไปที่นั่นได้อย่างไร

ซูฉินเพียงต้องจับตําแหน่งของหลีหว่านด้วยดวงตาแห่งสัจจะเท่านั้น จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้น

“วิชากระจุกกระจิกที่สร้างขึ้นโดยพระโพธิธรรม ตกม้อนี่ก็มีประโยชน์ไม่น้อย ไม่ต้องใช้แก่นแท้แห่งพลังหรือจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับช่วยเพิ่มความเร็วได้อย่างมาก….”

ซูฉันคิดในใจขณะที่ยืนอยู่บนใบต้นกก

เคล็ดวิชาที่เขาก็ใช้งานอยู่นี้เป็นวิชาเล็กๆน้อยๆ ที่สร้างขึ้นโดยผู้ก่อตั้งวัดเส้าหลินอย่างพระโพธิธรรมเพื่อข้ามแม่น้ําด้วยใบกก

ในตอนแรกซูฉินไม่ชอบเคล็ดวิชาเล็กๆน้อยๆนี่เท่าไหร่ ท้ายที่สุดตราบใดที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธได้ ย่อมสามารถเหาะเหินเดินอากาศ การใช้ใบกกเพื่อข้ามแม่น้ําจะเอาอะไรไปเทียบได้?

แต่ยามที่ซูฉินต้องรีบร้อนเดินทางไปต่างดินแดน เขาก็บังเอิญไปเห็นต้นกกเข้า และใช้มันในการเดินทางมุ่งหน้าสู่โพ้นทะเลอันกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด

เป็นผลให้ซูฉินพึงพอใจมาก

วิชาเล็กๆน้อยๆ อย่างการใช้ใบกกข้ามแม่น้ํา เชื่อมโยงกับฐานการบ่มเพาะของซูฉินโดยตรง และไม่ได้กินพลังงานเลย

ซูฉินมีแก่นแท้แห่งพลังอันยิ่งใหญ่อยู่ในร่าง เมื่อใช้เหาะเหินเดินอากาศ มันสามารถกลับมาเติมเต็มได้ในไม่ช้า แต่การที่กินพลังงานหรือไม่กินพลังงานเลยนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“ด้วยความช่วยเหลือจากน้ําทะเลอันมหาศาล ใช้กระแสน้ําให้เป็นประโยชน์ มันกลับกลายเป็นพลังงานให้กับการเคลื่อนที่ได้ ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินวิชานี้ต่ําไป”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน

ไม่นานนักหลังจากเข้านมัสการวัดเส้าหลิน เขาก็ได้ลงชื่อเข้าใช้ในศาลาพระคัมภีร์และได้รับวิ ชากระจุกกระจิกนี้มา แต่ซูฉันไม่ได้มีโอกาสใช้มันมากเท่าไหร่

วัดเส้าหลินอยู่ในส่วนลึกของแผ่นดินใหญ่ นับประสาอะไรกับทะเล แม้แต่แม่น้ําก็ไม่ได้มีให้เห็นมากนัก นอกจากนี้ซูฉินยังออกจากวัดเส้าหลินไปไม่กี่ครั้งเท่านั้น ก่อนจะเข้าสู่ขอบเขตอรหันต์ และก็ไม่เคยได้ใช้วิชากระจุกกระจิกเช่นนี้ในสภาวะวิกฤติด้วย

“ใกล้จะถึงต่างดินแดนแล้ว”

“ข้าสัมผัสได้ว่าพลังฟ้าดินค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น” ซูฉันเอามือไพล่หลัง ข้ามผ่านทะเลนับร้อยลี้ เกาะแก่งมากมายต่างโผล่ขึ้นที่ละเกาะสองเกาะ

“ไม่น่าแปลกใจที่มีตํานานยุทธมากมายในต่างแดน และมีแม้กระทั่งเซียนเทพปฐพี่ถือกําเนิดขึ้น”

“ด้วยสภาพแวดล้อมที่มีพลังเหลือเฟือเช่นนี้ ตราบใดที่ร่างกายไม่ได้บกพร่องจนถึงแก่น เพียงเวลาไม่นานก็คงจะเข้าสู่ระดับชั้นเก้าของขอบเขตวิทยายุทธเก้าระดับชั้นแล้ว”

ท่าทีของซูฉินเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก

แม้แต่ในอาณาจักรถังที่กระแสปราณฉีเริ่มฟื้นตัว มีเพียงสามหรือสี่คนจากสิบคนเท่านั้นที่มีโอกาสจะเป็นจอมยุทธได้ ส่วนอีกหกถึงเจ็ดคนที่เหลือก็คงจะไม่สามารถก้าวหน้าในด้านวิชายุทธได้ตลอดชั่วชีวิต จะไปมีสภาพแวดล้อมดีเท่าต่างดินแดนที่ทุกคนสามารถกลายเป็นจอมยุทธได้เช่นไร?

“ว่ากันว่าเมื่อเทียบกับยุคเฟื่องฟูของกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด สภาพแวดล้อมในต่างดินแดน เทียบไม่ได้แม้แต่มุมเล็กๆ ในพื้นที่ห่างไกลเสียด้วยซ้ํา…”

ความคิดของซูฉินผันผวนไปมา นึกเรื่องต่างๆอยู่ในใจเงียบๆ

“น่าจะถึงพรรคหมื่นดาบในไม่ช้า”

ด้วยดวงตาแห่งสัจจะคอยจับพลังฉีของหลีหว่านอยู่เสมอ หัวใจในซูฉินสันไหวเล็กน้อย
“ตั้งแต่พรรคหมื่นดาบก่อตั้งขึ้นมา มีเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถคุกคามข้าได้”

“หนึ่งคือนักพรตหมั่นดาบที่มีชีวิตอยู่เมื่อสี่พันกว่าปีก่อน ผู้เป็นเซียนเทพปฐพีที่เก่งกาจในเชิง

ดาบ”

ใบหน้าของซูฉินดูเคร่งขรึมขึ้นมาไม่น้อย

เซียนเทพปฐพี่นั้นก็น่ากลัวอยู่แล้ว และเซียนเทพปฐพีที่เชี่ยวชาญในเชิงดาบ เก่งกาจในการฆ่าฟัน พวกเขายิ่งมีพลังเหนือจินตนาการ

แต่ก็เท่านั้น

ในสายตาของซูฉิน นักพรตหมื่นดาบเป็นภัยคุกคามที่ต่ําที่สุด

กว่าสี่พันปีล่วงเลยมาแล้ว แม้ว่านักพรตหมี่ นดาบจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่เกรงว่า เขาคงจะตายด้วยวัยชราไปนานแล้ว ไม่จําเป็นต้องมานั่งคิดกังวล

“คนที่สองคือบรรพชนดาบเมื่อพันเก้าร้อยปีก่อน ซึ่งแปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดเรียบร้อยแล้ว ในยุคหลังจากนักพรตหมั่นดาบ เขาคนนี้ก็คือคนที่มีพรสวรรค์และความแข็งแกร่งมากที่สุดในพรรคหมื่นดาบ”

ซูฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย

สําหรับบรรพชนดาบ เขาเป็นอัจฉริยะจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เขาก็ยังล้มเหลวในการทําลายคอขวดเพื่อเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี

ตามหลักเหตุผลแล้วนั้น ตํานานยุทธขั้นสูงสุดธรรมดา แม้จะหลับใหลด้วยวิธีลับปิดผนึกตนเอง อย่างมากก็หลับไปได้นานสุดแค่มากกว่าพันปีไปนิดหน่อย แต่บรรพชนดาบได้แปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดแล้ว เขาสามารถอยู่รอดบนโลกนี้ได้นานขึ้นเกือบจะถึงสองพันปี

นอกจากนี้ เมื่อตอนที่ซูฉินไล่สังหารบรรพชนพรรคหมื่นดาบ เขาได้ยินมาว่าจุดประสงค์ของพรรคหมื่นดาบในการพาตัวหลีหว่านไปก็เพื่อปลุกบรรพชนดาบให้ตื่นและค้นหาร่างกายที่สามารถบรรจุวิญญาณของเขาได้

ดังนั้นซูฉินจึงมั่นใจได้ว่าบรรพชนดาบยังคงอยู่ในส่วนลึกของพรรคหมื่นดาบ

“ยามนี้ดูเหมือนว่ามารพุทธะจะมีพรสวรรค์จริงๆ ตอนที่เขาเพิ่งเข้าสู่ขอบเขตอรหันต์ เขาสามารถสร้างจิตมารแยกวิถีขึ้นมาได้ ด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันแสนอ่อนแอของขอบเขตอรหันต์ เขากลับอยู่มาได้ถึงเก้าร้อยปี……”

ซูฉินดูประหลาดใจ

เขารู้สึกว่าหากไม่ใช่เพราะอรหันต์ถัวได้เล็งเห็นความเลวร้ายที่กําลังจะเกิดขึ้นและลงมือปิดผนึกมารพุทธะเอาไว้ เกรงว่าวัดเส้าหลินคงถูกทําลายไปนานแล้ว
ไม่ใช่เพียงเท่านั้น แต่ทั่วทั้งทวีปยังอาจตกอยู่ในการปกครองของมารพุทธะ

เมื่อซูฉันคิดถึงเรื่องนี้

กลิ่นอายของจอมยุทธมากมายจากทั่วทุกสารทิศก็ผ่านไปที่ละคนสองคน

กลิ่นอายของจอมยุทธเหล่านี้ผสมปนเปกันไป พวกที่อ่อนแอก็มีความแข็งแกร่งอยู่ที่ขอบเขตสามระดับกลางไม่ก็สามระดับบน ส่วนผู้ที่แข็งแกร่งก็ได้เข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธแล้ว

“เกิดอะไรขึ้น?”

ซูฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยและแผ่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปทั่วทุกทิศทาง ผ่านไปชั่วครู่สีหน้าของเขาก็ดูเหมือนครุ่นคิดบางอย่างอยู่

“ช่วงนี้เป็นเวลาที่พรรคหมื่นดาบรับสมัครศิษย์สาวกลั้นหรือ?”

ซูฉินแตะปลายคางของตนเอง

ด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่ซูฉินแผ่ออกไป ซูฉินจึงรู้ได้อย่างง่ายดายว่าคนกลุ่มนี้มีจุดประสงค์จะมุ่งหน้าไปรวมตัวกันที่พรรคหมื่นดาบ

ในความเป็นจริง ไม่เพียงแต่พรรคหมื่นดาบเท่านั้น แต่นิกายใหญ่แห่งอื่นๆก็เป็นเช่นนี้ เพื่อรักษาคนรุ่นใหม่ไว้ในนิกาย นานๆครั้งจึงมีการรับสมัครศิษย์ใหม่ๆ จากทั่วทุกมุมโลกอยู่เสมอ และนี่คือความมั่งคั่งของยุทธภพต่างแดน

ท้ายที่สุดเมื่อเข้าร่วมนิกายใดนิกายหนึ่ง ไม่เพียงจะได้รับคําแนะนําในการฝึกวิทยายุทธเท่านั้น แต่ยังได้รับการคุ้มครองจากนิกายอีกด้วย และยังไม่รู้ว่ามีผลประโยชน์อีกมากมายแค่ไหน

ฉับพลัน

ในตอนนั้นเอง

ซูฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองไปยังเกาะที่มีขนาด หลายร้อยลี้ข้างหน้า และยังเห็นอาคารเก้าแห่งที่ด้านบนมีรูปร่างคล้ายดาบปรากฏขึ้นที่ใจกลางเกาะ

พรรคหมื่นดาบตั้งอยู่ที่นี่นี่เอง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+