เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 275 (I) บรรพชนดาบเจ้าจงคลานออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้!

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 275 (I) บรรพชนดาบเจ้าจงคลานออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign Buddha’s palm 275 (I) บรรพชนดาบเจ้าจงคลานออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้!

เกาะที่ใช้เป็นที่ตั้งของพรรคหมื่นดาบมีชื่อเรียกว่าเกาะหมื่นดาบมีพื้นที่รัศมีไกลกว่าหลายร้อยลี้สามารถรองรับผู้คนนับล้านได้อย่างง่ายดาย

มีข่าวลือว่าเกาะหมื่นดาบเป็นเพียงเกาะเล็กๆขนาดไม่กี่ลื้มาก่อนแต่นักพรตหมื่นดาบได้ไล่พื้นที่ทะเลออกไปและสร้างแผ่นดินด้วยพลังงานทั้งหมดทันใดนั้นเกาะที่แต่เดิมกว้างเพียงแค่ไม่กี่ลี้ก็กลายเป็นเกาะใหญ่มีรัศมีหลายร้อยลี้และเกาะหมื่นดาบแห่งนี้ก็ประดุจเป็นทวีปเล็กๆสักแห่งหนึ่ง

นอกจากนี้เกาะหมื่นดาบนั้นเต็มไปด้วยเจตจำนงดาบนี่คือสิ่งที่นักพรตหมื่นดาบทิ้งเอาไว้ผู้ที่ฝึกฝนวิถีแห่งดาบทุกคนที่อยู่บนเกาะนี้จะมีผลลัพธ์ดีขึ้นเป็นสองโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว

“นักพรตหมื่นดาบช่างน่าอัศจรรย์…”

ซูฉินจ้องไปทั่วทั้งเกาะหมื่นดาบด้วยดวงตาแห่งสัจจะเกาะหมื่นดาบดูเหมือนจะกลายเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ตัดผ่านท้องฟ้า

“น่าเสียดาย…”

ซูฉินสายศีรษะเล็กน้อยและก้าวเท้าไปยังเกาะหมื่นดาบอย่างสบายๆ

แม้นักพรตหมื่นดาบจะมีความสามารถเทียมฟ้าขีดจำกัดของช่วงชีวิตก็ได้หยุดเขาเอาไว้เมื่อเทียบกับตำนานยุทธเซียนเทพปฐพี่มีพลังชีวิตและเลือดเนื้อที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเป็นเพราะว่างกายของพวกเขาแม้แต่วิธีลับในการปิดผนึกตนเองก็ไม่สามารถผนึกการไหลเวียนของเลือดเนื้อและพลังปราณได้เว้นแต่จะได้รับสมบัติยืดอายุขัยเช่นผลไม้เซียนอย่างลูกท้อป้านไม่เช่นนั้นคงเป็นเรื่องยากที่จะอยู่รอดไปได้เป็นพันปี

หลังจากที่ซูฉินก้าวเท้าขึ้นไปเหยียบเกาะหมื่นดาบเขาก็เห็นว่าเกาะนี้ค่อนข้างมีชีวิตชีวาทีเดียวจอมยุทธต่างแดนจำนวนมากมารวมตัวกันที่ด้านหน้าจัตุรัสหยกขาวที่อยู่ส่วนหน้าของเกาะ

“ท่านผู้นี้ก็มากราบเข้าพรรคหมื่นดาบอย่างนั้นหรือ?”ไม่นานนักหลังจากที่ซูฉินก้าวเท้าลงไปเหยียบเกาะหมื่นดาบชายในชุดคลุมสีขาวก็เดินแย้มยิ้มเข้ามาไถ่ถาม

นอกจากชายชุดขาวแล้วยังมีเด็กสาววัยยี่สิบต้นๆที่กำลังมองซูฉินด้วยความสงสัยอยู่ด้วย

ซูฉินเพิกเฉยชายชุดขาวไปและแผ่ขยายจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ให้ปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะหมื่นดาบ

แม้ว่าซูฉินจะยืนยันได้ว่าหลีหว่านอยู่บนเกาะหมื่นดาบผ่านดวงตาแห่งสัจจะแต่ดวงตาแห่งสัจจะสามารถตรวจจับได้เพียงพลังฉีเท่านั้น…

ส่วนเรื่องการยืนยันสภาพร่างกายของหลีหว่านในยามนี้ว่าหมดสติหรือได้รับบาดเจ็บหรือไม่จำเป็นต้องใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบ

และเกาะหมื่นดาบก็เป็นสถานที่ตั้งของพรรคหมื่นดาบไม่รู้ว่ามีค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่คอยปกป้องอยู่กี่แห่งแม้ว่าซูฉินจะแผ่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปแล้วแต่ก็ต้องใช้เวลาในการขยายจิตสัมผัสฯเสาะหาไปยังสถานที่ที่หลีหว่านอยู่

เป็นเพราะเหตุนี้เองซูฉินจึงไม่ได้ลงมือในทันที่ที่มาถึง

เมื่อชายชุดขาวเห็นว่าซูฉินเงียบเขาก็กล่าวขอโทษทันที“ข้าทำตัวมทะลุเกินไปแล้ว”

จากนั้นชายชุดขาวจึงได้บอกเหตุผลและจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่

ตามที่ชายชุดขาวได้บอกกล่าวชื่อของเขาคือ”เหอหมิงเหยียน”และหญิงสาวที่อยู่ถัดจากเขาคือน้องสาวของเขาเองเหอชิงหลิง’สองพี่น้องมาจากกลุ่มนิกายที่ชื่อว่าสำนักฮว่าหยวน

แตกต่างจากพรรคหมื่นดาบที่อยู่บนจุดสูงสุดของโลกสำนักฮว่าหยวนเป็นเพียงนิกายเล็กๆเท่านั้นสืบทอดมรดกมาเพียงไม่กี่ร้อยปีและผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นเพียงตำนานยุทธระดับนภาชั้นที่สาม

ที่เหอหมิงเหยียนมาพรรคหมื่นดาบในครานี้ก็เพราะเหอหมิงเหยียนค้นพบว่าน้องสาวของเขามีทักษะเชิงดาบที่ดีแต่สำนักฮว่าหยวนนั้นไม่เชี่ยวชาญวิถีแห่งดาบเขาจึงมาส่งเหอชิงหลิงเข้าพรรคหมื่นดาบ

พรรคหมื่นดาบในฐานะที่เป็นนิกายใหญ่ในต่างแดนที่เชี่ยวชาญเชิงดาบหากเหอชิงหลิงได้กราบเข้าพรรคแห่งนี้จริงๆพรสวรรค์เชิงดาบจะไม่เสียเปล่าอย่างแน่นอน

“น่าเสียดายที่ข้าได้เลือกเส้นทางการบ่มเพาะไปแล้วแม้จะกราบเข้าพรรคหมื่นดาบได้จริงๆอย่างมากสุดพวกเขาก็ให้ข้าได้เป็นเพียงศิษย์สายนอกเท่านั้นและไม่แม้แต่จะให้สัมผัสมรดกที่แท้จริงของพรรคหมื่นดาบตราบจนชั่วชีวิต……”เหอหมิงเหยียนถอนหายใจเบาๆ
แม้ว่ายุทธภพต่างดินแดนจะรุ่งเรืองแต่ก็มีมรดกตกทอดไม่มากนักที่ทำให้สามารถเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ได้และสิ่งเหล่านี้ก็ล้วนอยู่ในกำมือของนิกายใหญ่

“งั้นหรือ?”

ซูฉินไม่ได้ใส่ใจนัก

แม้ว่าเคล็ดวิชาของพรรคหมื่นดาบจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแต่ในความเห็นของซูฉินก็คิดว่ามันไม่เท่าไหร่เคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์สองสามชิ้นที่เขาทิ้งไว้ในพระราชวังตะวันออกเพื่อให้ตระกูลซูศึกษาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเคล็ดวิชาต่างๆในพรรคหมื่นดาบ
เห็นได้ชัดว่าซูฉันคิดว่าหมิงเหยียนผู้นี้เป็นคนพูดจาไร้สาระเมื่อเห็นซูฉินไม่เชื่อเขาก็รีบอธิบายต่อทันที“เมื่อเจ้ากลายเป็นศิษย์สายในของพรรคหมื่นดาบเจ้าสามารถฝึกฝนเคล็ดวิชาดาบศักดิ์สิทธิ์ได้และเมื่อฝึกฝนจนสำเร็จวิชาจะสามารถเข้าสู่ขอบเขตตำนานยุทธระดับนภาชนที่หกได้อย่างราบรื่น……”

มีร่องรอยความอิจฉาอยู่ในน้ำเสียงของเหอหมิงเหยียน

แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักฮว่าหยวนก็เป็นเพียงตำนานยุทธระดับนภาชั้นที่สามไม่รู้ว่าห่างไกลจากตำนานยุทธระดับนภาชั้นที่หกแค่ไหน

“ถ้าเจ้าได้เป็นศิษย์หลักของพรรคหมื่นดาบเจ้าจะมีโอกาสได้สัมผัสกับเคล็ดหัวใจหมื่นดาบ”

“เคล็ดหัวใจหมื่นดาบเป็นวิชาหลักของพรรคหมื่นดาบศิษย์ที่ไม่ใช่ศิษย์หลักภายในพรรคจะไม่ได้รับการสืบทอดวิชาว่ากันว่ามันเป็นเคล็ดวิชาที่หลงเหลือมาจากนักพรตหมื่นดาบ”

ขณะที่เหอหมิงเหยียนกล่าวเช่นนี้เขาก็ค่อยๆลดเสียงลงและพูดด้วยเสียงต่ำ“เท่าที่ข้ารู้มาคราวนี้พรรคหมื่นดาบจะมีการคัดเลือกศิษย์ที่แตกต่างจากปีก่อนๆ”

“พี่ชายมันต่างกันยังไง….”ก่อนที่ซูฉินจะได้กล่าวอะไรเหอชิงหลิงน้องสาวของเหอหมิงเหยียนที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ข้าเพิ่งได้ยินเรื่องนี้แต่มันน่าจะเป็นความจริง”เหอหมิงเหยียนกล่าวด้วยเสียงต่ำ“ข้าเกรงว่าบรรพชนดาบจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น”

“นั่นคือบรรพชนดาบเมื่อพันกว่าปีที่แล้ว…”

เหอหมิงเหยียนไม่สามารถปกปิดความเกรงกลัวบนใบหน้าของเขาได้“ในยามนี้หากเจ้ากราบเข้าพรรคหมื่นดาบและได้รับการยอมรับจากบรรพชนดาบหรือผู้อาวุโสมิใช่ว่าอนาคตจะทะยานขึ้นสู่ฟ้าหรอกหรือ?”

บรรพชนดาบเป็นตัวตนระดับใดแค่สิ่งเล็กๆที่ได้จากเขาย่อมมอบผลประโยชน์บางอย่างที่เพียงพอให้ตำนานยุทธใช้ไปได้ตลอดชีวิตนี่ยังไม่กล่าวรวมถึงเรื่องตำแหน่งของบรรพชนดาบที่เป็นอันดับสองรองจากนักพรตหมั่นดาบเท่านั้นเมื่อบรรพชนดาบเห็นว่าใครควรค่าย่อมได้รับทุกสิ่งอย่างไปเป็นแน่แท้

“บรรพชนดาบยอดเยี่ยมมากเลยหรือ…”เหอชิงหลิงดูเหมือนจะไม่เข้าใจ

นางอายุยังน้อยและเป็นครั้งแรกที่นางออกจากรั้วสำนักฮว่าเหยียนเป็นธรรมดาที่นางจะไม่รู้ความเกรียงไกรของบรรพชนดาบ

“อะไรคือยอดเยี่ยมหรือไม่?”เหอหมิงเหยียนเบิกตากว้าง“เมื่อพันกว่าปีก่อนบรรพชนดาบเคยอาละวาดไปทั่วดินแดนแม้แต่นิกายใหญ่ระดับสูงอย่างสำนักเอกะวิถีก็ไม่คิดที่จะยั่วยุตัวตนเช่นนี้เจ้าคิดว่าเขายอดเยี่ยมไหมเล่า?”

“กลายเป็นว่าช่างน่าทิ้งอย่างมาก…..”เด็กสาวนามว่าเหอชิงหลิงหยักหน้า

เมื่อกล่าวถึง’บรรพชนดาบ’นางอาจจะไม่เคยได้ยินไม่รู้จักความเป็นมาของบรรพชนดาบผู้นี้แต่เมื่อพูดถึงสำนักเอกะวิถีเด็กสาวก็เข้าใจถึงระดับของบรรพชนดาบได้ในทันที

สำนักเอกะวิถีนั้นสืบทอดมานานตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุดแม้แต่เซียนเทพปฐพีที่มีพลังครอบงำทุกสิ่งก็ไม่สามารถทำลายสำนักเอกะวิถีได้ช่างน่ากลัวอะไรเช่นนี้?

แม้ว่าเด็กสาวเหอชิงหลิงจะไม่ได้เชี่ยวชาญความเป็นไปในโลกแต่นางก็ยังเคยได้ยินเกี่ยวกับสำนักเอกะวิถี

แม้ว่าสำนักเอกะวิถีจะไม่เต็มใจยั่วยุบรรพชนดาบแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถจัดการบรรพชนดาบได้แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าการที่สำนักเอกะวิถีต้องการจะสังหารบรรพชนดาบจำเป็นจะต้องจ่ายราคาที่แพงอย่างยิ่ง

“พี่ชายทำไมบรรพชนดาบถึงตื่นขึ้นเวลานี้……”เด็กสาวเหอชิงหลิงอดไม่ได้ที่จะถามต่อ

สีหน้าของเหอหมิงเหยียนคล้ำลงเมื่อได้ยินเรื่องนี้แล้วลดเสียงลงอีกครั้งจากนั้นจึงกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว“ข้าได้ยินมาว่าบรรพชนของพรรคหมื่นดาบที่ไปยังแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯต่างก็ล้มตายกันหมด”

หลังจากที่เหอหมิงเหยียนพูดจบใบหน้าของเขาก็ยังคงมีร่องรอยความสะพรึงกลัวให้ได้เห็นอยู่

พรรคหมื่นดาบเป็นนิกายใหญ่ในต่างแดนและบรรพชนของพรรคอย่างน้อยก็ต้องเป็นตำนานยุทธขั้นสูงสุดตัวตนเช่นนี้กลับตกตายไปหลายคนถ้าบรรพชนดาบยังคงหลับใหลต่อไปเกรงว่าพรรคหมื่นดาบทั้งหมดคงจะวุ่นวายกันใหญ่โต

“ไม่รู้เหมือนกันว่าใครคือบุคคลผู้แข็งแกร่งเทียมฟ้าผู้นั้นสามารถสังหารบรรพชนพรรคหมื่นดาบไปได้หลายคน….”

เหอหมิงเหยียนอุทานออกมาพร้อมสายศีรษะ

รู้หรือไม่ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ทำเพียงสังหารบรรพชนพรรคหมื่นดาบเท่านั้นแต่ยังเหยียบพรรคหมื่นดาบไว้ใต้ฝ่าเท้าด้วย

นี่เทียบเท่ากับประกาศสงครามกับนิกายใหญ่อย่างพรรคหมื่นดาบที่สืบทอดมาสี่พันห้าพันปี

ความหาญกล้าเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในยุทธภพต่างแดนมาหลายพันปีแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 275 (I) บรรพชนดาบเจ้าจงคลานออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้!

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 275 (I) บรรพชนดาบเจ้าจงคลานออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign Buddha’s palm 275 (I) บรรพชนดาบเจ้าจงคลานออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้!

เกาะที่ใช้เป็นที่ตั้งของพรรคหมื่นดาบมีชื่อเรียกว่าเกาะหมื่นดาบมีพื้นที่รัศมีไกลกว่าหลายร้อยลี้สามารถรองรับผู้คนนับล้านได้อย่างง่ายดาย

มีข่าวลือว่าเกาะหมื่นดาบเป็นเพียงเกาะเล็กๆขนาดไม่กี่ลื้มาก่อนแต่นักพรตหมื่นดาบได้ไล่พื้นที่ทะเลออกไปและสร้างแผ่นดินด้วยพลังงานทั้งหมดทันใดนั้นเกาะที่แต่เดิมกว้างเพียงแค่ไม่กี่ลี้ก็กลายเป็นเกาะใหญ่มีรัศมีหลายร้อยลี้และเกาะหมื่นดาบแห่งนี้ก็ประดุจเป็นทวีปเล็กๆสักแห่งหนึ่ง

นอกจากนี้เกาะหมื่นดาบนั้นเต็มไปด้วยเจตจำนงดาบนี่คือสิ่งที่นักพรตหมื่นดาบทิ้งเอาไว้ผู้ที่ฝึกฝนวิถีแห่งดาบทุกคนที่อยู่บนเกาะนี้จะมีผลลัพธ์ดีขึ้นเป็นสองโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว

“นักพรตหมื่นดาบช่างน่าอัศจรรย์…”

ซูฉินจ้องไปทั่วทั้งเกาะหมื่นดาบด้วยดวงตาแห่งสัจจะเกาะหมื่นดาบดูเหมือนจะกลายเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ตัดผ่านท้องฟ้า

“น่าเสียดาย…”

ซูฉินสายศีรษะเล็กน้อยและก้าวเท้าไปยังเกาะหมื่นดาบอย่างสบายๆ

แม้นักพรตหมื่นดาบจะมีความสามารถเทียมฟ้าขีดจำกัดของช่วงชีวิตก็ได้หยุดเขาเอาไว้เมื่อเทียบกับตำนานยุทธเซียนเทพปฐพี่มีพลังชีวิตและเลือดเนื้อที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเป็นเพราะว่างกายของพวกเขาแม้แต่วิธีลับในการปิดผนึกตนเองก็ไม่สามารถผนึกการไหลเวียนของเลือดเนื้อและพลังปราณได้เว้นแต่จะได้รับสมบัติยืดอายุขัยเช่นผลไม้เซียนอย่างลูกท้อป้านไม่เช่นนั้นคงเป็นเรื่องยากที่จะอยู่รอดไปได้เป็นพันปี

หลังจากที่ซูฉินก้าวเท้าขึ้นไปเหยียบเกาะหมื่นดาบเขาก็เห็นว่าเกาะนี้ค่อนข้างมีชีวิตชีวาทีเดียวจอมยุทธต่างแดนจำนวนมากมารวมตัวกันที่ด้านหน้าจัตุรัสหยกขาวที่อยู่ส่วนหน้าของเกาะ

“ท่านผู้นี้ก็มากราบเข้าพรรคหมื่นดาบอย่างนั้นหรือ?”ไม่นานนักหลังจากที่ซูฉินก้าวเท้าลงไปเหยียบเกาะหมื่นดาบชายในชุดคลุมสีขาวก็เดินแย้มยิ้มเข้ามาไถ่ถาม

นอกจากชายชุดขาวแล้วยังมีเด็กสาววัยยี่สิบต้นๆที่กำลังมองซูฉินด้วยความสงสัยอยู่ด้วย

ซูฉินเพิกเฉยชายชุดขาวไปและแผ่ขยายจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ให้ปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะหมื่นดาบ

แม้ว่าซูฉินจะยืนยันได้ว่าหลีหว่านอยู่บนเกาะหมื่นดาบผ่านดวงตาแห่งสัจจะแต่ดวงตาแห่งสัจจะสามารถตรวจจับได้เพียงพลังฉีเท่านั้น…

ส่วนเรื่องการยืนยันสภาพร่างกายของหลีหว่านในยามนี้ว่าหมดสติหรือได้รับบาดเจ็บหรือไม่จำเป็นต้องใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบ

และเกาะหมื่นดาบก็เป็นสถานที่ตั้งของพรรคหมื่นดาบไม่รู้ว่ามีค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่คอยปกป้องอยู่กี่แห่งแม้ว่าซูฉินจะแผ่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปแล้วแต่ก็ต้องใช้เวลาในการขยายจิตสัมผัสฯเสาะหาไปยังสถานที่ที่หลีหว่านอยู่

เป็นเพราะเหตุนี้เองซูฉินจึงไม่ได้ลงมือในทันที่ที่มาถึง

เมื่อชายชุดขาวเห็นว่าซูฉินเงียบเขาก็กล่าวขอโทษทันที“ข้าทำตัวมทะลุเกินไปแล้ว”

จากนั้นชายชุดขาวจึงได้บอกเหตุผลและจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่

ตามที่ชายชุดขาวได้บอกกล่าวชื่อของเขาคือ”เหอหมิงเหยียน”และหญิงสาวที่อยู่ถัดจากเขาคือน้องสาวของเขาเองเหอชิงหลิง’สองพี่น้องมาจากกลุ่มนิกายที่ชื่อว่าสำนักฮว่าหยวน

แตกต่างจากพรรคหมื่นดาบที่อยู่บนจุดสูงสุดของโลกสำนักฮว่าหยวนเป็นเพียงนิกายเล็กๆเท่านั้นสืบทอดมรดกมาเพียงไม่กี่ร้อยปีและผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นเพียงตำนานยุทธระดับนภาชั้นที่สาม

ที่เหอหมิงเหยียนมาพรรคหมื่นดาบในครานี้ก็เพราะเหอหมิงเหยียนค้นพบว่าน้องสาวของเขามีทักษะเชิงดาบที่ดีแต่สำนักฮว่าหยวนนั้นไม่เชี่ยวชาญวิถีแห่งดาบเขาจึงมาส่งเหอชิงหลิงเข้าพรรคหมื่นดาบ

พรรคหมื่นดาบในฐานะที่เป็นนิกายใหญ่ในต่างแดนที่เชี่ยวชาญเชิงดาบหากเหอชิงหลิงได้กราบเข้าพรรคแห่งนี้จริงๆพรสวรรค์เชิงดาบจะไม่เสียเปล่าอย่างแน่นอน

“น่าเสียดายที่ข้าได้เลือกเส้นทางการบ่มเพาะไปแล้วแม้จะกราบเข้าพรรคหมื่นดาบได้จริงๆอย่างมากสุดพวกเขาก็ให้ข้าได้เป็นเพียงศิษย์สายนอกเท่านั้นและไม่แม้แต่จะให้สัมผัสมรดกที่แท้จริงของพรรคหมื่นดาบตราบจนชั่วชีวิต……”เหอหมิงเหยียนถอนหายใจเบาๆ
แม้ว่ายุทธภพต่างดินแดนจะรุ่งเรืองแต่ก็มีมรดกตกทอดไม่มากนักที่ทำให้สามารถเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ได้และสิ่งเหล่านี้ก็ล้วนอยู่ในกำมือของนิกายใหญ่

“งั้นหรือ?”

ซูฉินไม่ได้ใส่ใจนัก

แม้ว่าเคล็ดวิชาของพรรคหมื่นดาบจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแต่ในความเห็นของซูฉินก็คิดว่ามันไม่เท่าไหร่เคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์สองสามชิ้นที่เขาทิ้งไว้ในพระราชวังตะวันออกเพื่อให้ตระกูลซูศึกษาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเคล็ดวิชาต่างๆในพรรคหมื่นดาบ
เห็นได้ชัดว่าซูฉันคิดว่าหมิงเหยียนผู้นี้เป็นคนพูดจาไร้สาระเมื่อเห็นซูฉินไม่เชื่อเขาก็รีบอธิบายต่อทันที“เมื่อเจ้ากลายเป็นศิษย์สายในของพรรคหมื่นดาบเจ้าสามารถฝึกฝนเคล็ดวิชาดาบศักดิ์สิทธิ์ได้และเมื่อฝึกฝนจนสำเร็จวิชาจะสามารถเข้าสู่ขอบเขตตำนานยุทธระดับนภาชนที่หกได้อย่างราบรื่น……”

มีร่องรอยความอิจฉาอยู่ในน้ำเสียงของเหอหมิงเหยียน

แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักฮว่าหยวนก็เป็นเพียงตำนานยุทธระดับนภาชั้นที่สามไม่รู้ว่าห่างไกลจากตำนานยุทธระดับนภาชั้นที่หกแค่ไหน

“ถ้าเจ้าได้เป็นศิษย์หลักของพรรคหมื่นดาบเจ้าจะมีโอกาสได้สัมผัสกับเคล็ดหัวใจหมื่นดาบ”

“เคล็ดหัวใจหมื่นดาบเป็นวิชาหลักของพรรคหมื่นดาบศิษย์ที่ไม่ใช่ศิษย์หลักภายในพรรคจะไม่ได้รับการสืบทอดวิชาว่ากันว่ามันเป็นเคล็ดวิชาที่หลงเหลือมาจากนักพรตหมื่นดาบ”

ขณะที่เหอหมิงเหยียนกล่าวเช่นนี้เขาก็ค่อยๆลดเสียงลงและพูดด้วยเสียงต่ำ“เท่าที่ข้ารู้มาคราวนี้พรรคหมื่นดาบจะมีการคัดเลือกศิษย์ที่แตกต่างจากปีก่อนๆ”

“พี่ชายมันต่างกันยังไง….”ก่อนที่ซูฉินจะได้กล่าวอะไรเหอชิงหลิงน้องสาวของเหอหมิงเหยียนที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ข้าเพิ่งได้ยินเรื่องนี้แต่มันน่าจะเป็นความจริง”เหอหมิงเหยียนกล่าวด้วยเสียงต่ำ“ข้าเกรงว่าบรรพชนดาบจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น”

“นั่นคือบรรพชนดาบเมื่อพันกว่าปีที่แล้ว…”

เหอหมิงเหยียนไม่สามารถปกปิดความเกรงกลัวบนใบหน้าของเขาได้“ในยามนี้หากเจ้ากราบเข้าพรรคหมื่นดาบและได้รับการยอมรับจากบรรพชนดาบหรือผู้อาวุโสมิใช่ว่าอนาคตจะทะยานขึ้นสู่ฟ้าหรอกหรือ?”

บรรพชนดาบเป็นตัวตนระดับใดแค่สิ่งเล็กๆที่ได้จากเขาย่อมมอบผลประโยชน์บางอย่างที่เพียงพอให้ตำนานยุทธใช้ไปได้ตลอดชีวิตนี่ยังไม่กล่าวรวมถึงเรื่องตำแหน่งของบรรพชนดาบที่เป็นอันดับสองรองจากนักพรตหมั่นดาบเท่านั้นเมื่อบรรพชนดาบเห็นว่าใครควรค่าย่อมได้รับทุกสิ่งอย่างไปเป็นแน่แท้

“บรรพชนดาบยอดเยี่ยมมากเลยหรือ…”เหอชิงหลิงดูเหมือนจะไม่เข้าใจ

นางอายุยังน้อยและเป็นครั้งแรกที่นางออกจากรั้วสำนักฮว่าเหยียนเป็นธรรมดาที่นางจะไม่รู้ความเกรียงไกรของบรรพชนดาบ

“อะไรคือยอดเยี่ยมหรือไม่?”เหอหมิงเหยียนเบิกตากว้าง“เมื่อพันกว่าปีก่อนบรรพชนดาบเคยอาละวาดไปทั่วดินแดนแม้แต่นิกายใหญ่ระดับสูงอย่างสำนักเอกะวิถีก็ไม่คิดที่จะยั่วยุตัวตนเช่นนี้เจ้าคิดว่าเขายอดเยี่ยมไหมเล่า?”

“กลายเป็นว่าช่างน่าทิ้งอย่างมาก…..”เด็กสาวนามว่าเหอชิงหลิงหยักหน้า

เมื่อกล่าวถึง’บรรพชนดาบ’นางอาจจะไม่เคยได้ยินไม่รู้จักความเป็นมาของบรรพชนดาบผู้นี้แต่เมื่อพูดถึงสำนักเอกะวิถีเด็กสาวก็เข้าใจถึงระดับของบรรพชนดาบได้ในทันที

สำนักเอกะวิถีนั้นสืบทอดมานานตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุดแม้แต่เซียนเทพปฐพีที่มีพลังครอบงำทุกสิ่งก็ไม่สามารถทำลายสำนักเอกะวิถีได้ช่างน่ากลัวอะไรเช่นนี้?

แม้ว่าเด็กสาวเหอชิงหลิงจะไม่ได้เชี่ยวชาญความเป็นไปในโลกแต่นางก็ยังเคยได้ยินเกี่ยวกับสำนักเอกะวิถี

แม้ว่าสำนักเอกะวิถีจะไม่เต็มใจยั่วยุบรรพชนดาบแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถจัดการบรรพชนดาบได้แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าการที่สำนักเอกะวิถีต้องการจะสังหารบรรพชนดาบจำเป็นจะต้องจ่ายราคาที่แพงอย่างยิ่ง

“พี่ชายทำไมบรรพชนดาบถึงตื่นขึ้นเวลานี้……”เด็กสาวเหอชิงหลิงอดไม่ได้ที่จะถามต่อ

สีหน้าของเหอหมิงเหยียนคล้ำลงเมื่อได้ยินเรื่องนี้แล้วลดเสียงลงอีกครั้งจากนั้นจึงกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว“ข้าได้ยินมาว่าบรรพชนของพรรคหมื่นดาบที่ไปยังแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯต่างก็ล้มตายกันหมด”

หลังจากที่เหอหมิงเหยียนพูดจบใบหน้าของเขาก็ยังคงมีร่องรอยความสะพรึงกลัวให้ได้เห็นอยู่

พรรคหมื่นดาบเป็นนิกายใหญ่ในต่างแดนและบรรพชนของพรรคอย่างน้อยก็ต้องเป็นตำนานยุทธขั้นสูงสุดตัวตนเช่นนี้กลับตกตายไปหลายคนถ้าบรรพชนดาบยังคงหลับใหลต่อไปเกรงว่าพรรคหมื่นดาบทั้งหมดคงจะวุ่นวายกันใหญ่โต

“ไม่รู้เหมือนกันว่าใครคือบุคคลผู้แข็งแกร่งเทียมฟ้าผู้นั้นสามารถสังหารบรรพชนพรรคหมื่นดาบไปได้หลายคน….”

เหอหมิงเหยียนอุทานออกมาพร้อมสายศีรษะ

รู้หรือไม่ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ทำเพียงสังหารบรรพชนพรรคหมื่นดาบเท่านั้นแต่ยังเหยียบพรรคหมื่นดาบไว้ใต้ฝ่าเท้าด้วย

นี่เทียบเท่ากับประกาศสงครามกับนิกายใหญ่อย่างพรรคหมื่นดาบที่สืบทอดมาสี่พันห้าพันปี

ความหาญกล้าเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในยุทธภพต่างแดนมาหลายพันปีแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+