เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 276 หลุมทมิฬ

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 276 หลุมทมิฬ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign Buddha’s palm 276 หลุมทมิฬ ในส่วนลึกของเกาะหมื่นดาบ คมดาบสูงพันจ้างทั้งเก้าแห่งตั้งตระหง่านอยู่ที่นี่ อาคารดาบพันจ้างทั้งเก้ายอดนี้เล่าลือกันว่าถูกทิ้งไว้โดยนักพรตหมื่นดาบกว่าสี่พันปีที่แล้วและมันเชื่อมโยงเข้ากับเกาะหมื่นดาบทั้งหมดรัศมีวิถีดาบที่แผ่ไปทั่วเกาะก็มาจากอาคารดาบทั้งเก้ายอดแห่งนี้ ว่ากันว่าหลายปีก่อนออกจากพรรคหมื่นดาบนักพรตหมื่นดาบเคยซ่อนมรดกของตนส่วนหนึ่งไว้ในอาคารดาบเก้ายอดแห่งนี้ใครก็ตามที่สามารถทำความเข้าใจได้จะนับว่าเป็นศิษย์สายตรงของนักพรตหมื่นดาบคนต่อไป น่าเสียดายที่ในช่วงห้าพันปีที่ผ่านมามีเพียงบรรพชนดาบเท่านั้นที่เข้าใจมรดกในอาคารดาบเก้ายอดทำให้ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าจนถูกขนานนามว่าบรรพชนดาบ และในตอนนี้ จุดกึ่งกลางที่ล้อมรอบไปด้วยอาคารดาบเก้ายอดลึกลงไปใต้ดินหลายลี้เป็นคุกใต้ดินที่แสนจะเหน็บหนาว คุกใต้ดินแบ่งออกเป็นสิบสองชั้นมีลวดลายสีดำลึกลับปรากฏอยู่ทุกมุมผนังเห็นได้ชัดถึงพลังในการปราบปรามอันน่าสะพรึงกลัวแทรกซึมอยู่ทุกตารางนิ้วในที่แห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีดาบยาวสีดำสิบสองเล่มคอยแบ่งแยกคุกใต้ดินแต่ละชั้นออกจากกัน ในบรรดาคุกใต้ดินทั้งสิบสองชั้นนี้มีคนเก้าคนปะปนกันไปทั้งชายและหญิงทุกคนต่างกระสับกระส่ายและมีลมหายใจที่อ่อนแรง มีข้อยกเว้นเดียวคือชั้นล่างสุดของคุกใต้ดินมีหญิงสาวคนหนึ่งที่มีลักษณะสูงส่งกำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดพยายามมองไปรอบๆคุกใต้ดินดูเหมือนอยากจะหนีออกไป
หญิงผู้นี้คือหลีหว่าน ตั้งแต่ถูกพรรคหมื่นดาบจับตัวมานางก็ถูกทิ้งไว้ที่นี่บางทีอาจเป็นเพราะนางกำลังจะกลายเป็นร่างของบรรพชนดาบคนของพรรคหมื่นดาบจึงไม่กล้าทำอะไรกับหลีหว่าน พรรคหมื่นดาบพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการของหลีหว่านยกเว้นเพียงอยากเดียวคือการให้อิสระ ” สาวน้อยเจ้าอย่าได้ดิ้นรนไปเลยนี่คือหลุมทมิฬที่พรรคหมื่นดาบสร้างขึ้นไม่มีทางหนีจากที่นี่พ้น…” ขณะที่หลีหว่านมองไปรอบๆคุกใต้ดินแห่งนี้เสียงชราก็ลอยดังขึ้นใกล้ๆ หลีหว่านเงยหน้าขึ้นมองและเห็นชายชราที่มีผมและเคราสีขาวอยู่ในคุกใต้ดินชั้นบนกำลังพูดคุยกับนาง ” ผู้อาวุโส” ” ข้าจำเป็นต้องออกจากที่นี่” หลีหว่านพูดอย่างจริงจัง หลังจากที่หายตัวไปหลายวันแม้หลีหว่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ก็ตามแต่นางรู้ว่าจักรพรรดิถังและคนอื่นๆอาจจะตามหานางอยู่ทั่วทุกมุมโลก ” จำเป็นต้องออกไป? ” ชายชราผมขาวยิ้ม หากมองดูใกล้ๆจะพบว่าไหล่ของชายชราผมเคราขาวมีโซ่สีดำสองเส้นตรึงไว้ลวดลายที่ลึกลับซับซ้อนสลักอยู่ทั่วโซ่สีดำคอยระงับพลังชีวิตของชายชราผมขาว ” พวกเราทั้งหมดที่ถูกขังอยู่ในนี้จะไม่มีโอกาสได้ออกไปอีกจนกว่าชีวิตจะหาไม่เราจะออกไปได้อย่างไร? ” แม้ว่าชายชราผมขาวกำลังพูดด้วยรอยยิ้มแต่มีร่องรอยความสิ้นหวังแฝงอยู่ลึกในน้ำเสียง ” นี่เจ้าเฒ่าอย่าพูดมากน่ามีพวกเราคนใดบ้างที่ไม่มองหาทางออกเหมือนเด็กสาวคนนี้ตอนที่เพิ่งเข้ามา” ทันใดนั้นเสียงแหบแห้งก็ดังขึ้น หลีหว่านเงยหน้าขึ้นมองต่อไปจนเจอหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังพูดอยู่ในระดับชั้นที่สูงกว่า หากคุกใต้ดินที่หลีหว่านอยู่นั้นเป็นชั้นที่สิบสองชายชราผมเคราขาวก็อยู่ในชั้นสิบเอ็ดและหญิงชราคนนั้นก็อยู่บนชั้นที่สิบ ” นั่นก็ใช่” ชายชราผมขาวยิ้มแล้วจึงหยุดพูด ” ถึงข้าจะหนีออกไปไม่พ้นแต่ลุงสามจะต้องมาช่วยข้า” หลีหว่านเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงกระซิบคำออกมา ” ช่วยเจ้า? ” อาจเป็นเพราะชายชราผมขาวอยู่มานานเกินไปจึงอธิบายให้หลีหว่านฟังอย่างจริงจังว่า” ข้าไม่รู้ว่าลุงสามที่เจ้าพูดถึงคือใคร ” แต่คุกใต้ดินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พรรคหมนดาบตั้งใจสร้างเป็นพิเศษเพื่อกักขังศัตรูคนสำคัญ” ชายชราผมเคราขาวเย้ยหยันเวลาพูดถึงเรื่องนี้ถ้าเขาไม่มีความลับอันยิ่งใหญ่ที่พรรคหมื่นดาบอยากจะรู้เขาคงตายไปนานแล้วจะมีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้ได้อย่างไร? อันที่จริงคนทั้งแปดที่ถูกขังอยู่ในหลุมทมิฬล้วนเป็นเช่นนี้ หากไม่ใช่ว่ามีค่ามีความหมายพรรคหมื่นดาบจะปล่อยพวกเขาให้มีชีวิตต่อไปได้อย่างไร? ” คุกใต้ดินทั้งหมดหล่อขึ้นมาจากเหล็กดำทมิฬทะเลเหนือสามารถระงับแก่นแท้แห่งพลังและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้โดยธรรมชาติสำหรับตำนานยุทธธรรมดาๆที่มาอยู่ที่นี่แม้ว่าจะยังไม่ได้ทำอะไรความแข็งแกร่งก็จะถูกระงับเอาไว้อย่างดีที่สดก็รักษาพลังต่อสู้ไว้ได้แค่ครึ่งเดียว ชายชราผมขาวยังเล่าต่อไปอย่างช้าๆ ” เหล็กดำทมิฬทะเลเหนือ…” ใบหน้าของหลีหว่านดูครุ่นคิดนางไม่รู้ว่าเหล็กดำทมิฬคือสิ่งใดแต่นางก็รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของตนเองหลังจากถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินนี้ดี ” นอกจากเหล็กดำทมิฬทะเลเหนือแล้วค่ายกลฟ้าดินอย่างน้อยสิบชั้นถูกจัดตั้งเอาไว้ภายในคุกใต้ดินทั้งหมดนี้ค่ายกลฟ้าดินเหล่านี้มีพลังในการปราบปรามขั้นสูงสุดหากเจ้าต้องการจะก้าวออกจากที่แห่งนี้ค่ายกลฟ้าดินทั้งหมดจะเปิดใช้งานทันทีหลังจากนั้นผลที่ตามมา……” นักพรตชราที่มีผมเคราขาวส่ายศีรษะ ” ถึงแม้เจ้าจะโชคดีพอที่จะหลบหนีออกจากคุกใต้ดินแห่งนี้ได้สามารถหลีกหนีจากการปราบปรามของเหล็กดำทมิฬและค่ายกลฟ้าดิน….” ” แต่ด้านนอกคุกใต้ดิน….” เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ชายชราผมเคราขาวก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้านบน” นอกคุกใต้ดินยังมีอาคารดาบเก้ายอดสูงกว่าพันจ้างของพรรคหมื่นดา
บอีก” ” อาคารดาบทั้งเก้ายอดนี้ถูกทิ้งไว้โดยนักพรตหมื่นดาบก่อตั้งเป็นค่ายกลขนาดใหญ่เพื่อปราบปรามทุกสิ่ง” ชายชราผมเคราถอนหายใจเล็กน้อย ” ใครเล่าจะหนีจากค่ายกลฟ้าดินที่เซียนเทพปฐพี่ทิ้งเอาไว้ได้ใครเล่าจะหยุดมันได้? ” ชายชราผมขาวพูดต่อไปโดยไม่ชักช้าหันมองหลีหว่านอีกครั้ง” สาวน้อยบอกข้าที่ลุงสามที่เจ้าพูดถึงยังช่วยเจ้าออกไปได้หรือไม่? ” ชายชราผมเคราขาวรู้ดีว่าหลีหว่านกำลังคิดสิ่งใดพวกเขาต่างก็แทบไม่ต่างไปจากหลีหว่านตอนที่เข้ามาครั้งแรก หลีหว่านเงียบไป ตอนนี้นางไม่ใช่องค์หญิงอาณาจักรถังที่เพิ่งก้าวเข้าสู่เส้นทางสายยุทธผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราว แม้ว่าหลีหว่านจะไม่เข้าใจสิ่งที่ชายชรากล่าวออกมาเท่าไหร่แต่ก็ชัดเจนว่าชายชรานั้นแน่ใจมากว่าไม่มีใครสามารถช่วยนางได้ ” สาวน้อยให้ข้าได้บอกแก่เจ้าเว้นแต่จะเป็นเซียนเทพปฐพีมันเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะ…” ชายชราผมขาวกำลังจะพูดบางอย่าง ฉับพลัน ในตอนนั้นเอง เสียงคำรามกองราวกับพายุฝนก็แผ่ขยายผ่านระยะทางนับร้อยลี้ข้ามผ่านขุนเขาดังกังวานไปทั่วคุกใต้ดิน ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” … ในชั่วพริบตาทุกคนในคุกใต้ดินก็ได้ยินเสียงนี้อย่างชัดเจนอย่างไรก็ตามไม่ทันที่ทุกคนจะตอบสนองอะไรได้ ” คลานออกมาพบข้า! ” ” คลานออกมาพบข้า! ” ” คลานออกมาพบข้า! ” ” คลานออกมาพบข้า! ” เสียงนี้ดังก้องราวกับเสียงฟ้าร้องแม้จะข้ามผ่านระยะทางนับร้อยลี้แต่มันก็ไม่ได้แผ่วลงเลยกลับกลายเป็นยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ” นี่คือ? ” ชายชราผมเคราขาวตื่นตะลึงคนอื่นๆในคุกใต้ดินก็ลืมตาขึ้นด้วยความตกใจเช่นกัน ” คนผู้นี้คือใครกัน? ” หญิงชราที่อยู่บนชั้นสิบไม่อยากจะเชื่อและเกีอบจะคิดไปเองว่าตนหลอนอะไรรึเปล่า พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครสักคนตะโกนสังให้บรรพชนดาบออกมา? บรรพชนดาบเป็นใคร? พรรคหมื่นดาบตั้งแต่ยุคของนักพรตหมี่นดาบเป็นต้นมาผู้ที่มีความสามารถสูงสุดเข้าใจถึงวิชาจากอาคารดาบเก้ายอดจะได้เป็นศิษย์ของนักพรตหมื่นดาบ! ตัวตนเช่นนี้ทั่วยุทธภพต่างดินแดนยังจะมีใครกล้าเรียกให้เขาออกไปเช่นนี้? คนอื่นๆอีกหลายคนภายในคุกใต้ดินต่างตัวสั่นแต่ชายชราผมขาวบนชั้นสิบเอ็ดพลันสังเกตเห็นว่าท่าทีของหลีหว่านเปลี่ยนไป ” สาวน้อยเจ้ารู้จักเจ้าของเสียงหรือ? ” ชายชราผมขาวอดไม่ได้ที่ถามออกมา ” เสียงนี้…” หลีหว่านยืนยันซ้ำอีกหลายครั้งแล้วกล่าวออกอย่างระมัดระวัง” ดูเหมือนว่าจะเป็นลุงสามของข้า….” คำที่กล่าวออกมา ทุกคนในที่แห่งนั้นพลันนิ่งเงียบไม่ไหวติงไปเป็นเวลานาน ในขณะเดียวกัน ณจัตุรัสหยกขาวหน้าเกาะหมื่นดาบ เมื่อซูฉินตะโกนให้บรรพชนดาบออกมา ทั่วทั้งเกาะหมั่นดาบพลันเดือดพล่านการรับรู้ของตำนานยุทธนั้นเฉียบแหลมเพียงใดเกือบจะในทันทีร่างจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากอาคารดาบเก้ายอดพันจ้างในส่วนลึกของเกาะหมื่นดาบ เหอหมิงเหยียนที่ยังอยู่ในท่าโค้งคารวะมองขึ้นไปที่ซูฉินด้วยความตกใจ ซูฉินในตอนนี้แม้ว่าจะยังยืนอยู่ที่เดิมแต่ไม่มีการกักเก็บไอพลังอีกต่อไปและรัศมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ขยายออกมาเกือบจะเทียบเคียงได้กับรัศมีพลังจากอาคารดาบเก้ายอดพันจ้างเลยทีเดียว ” เจ้าเจ้าเจ้าเป็นใครกัน? ” ผู้อาวุโสพรรคหมื่นดาบที่มาทำการคัดเลือกศิษย์ต่างตกตะลึงมากยิ่งขึ้นไปอีก สีหน้าของพวกเขาดูตกใจมากขาสั่นอยู่ตลอดเวลาและเข่าทรุดลงไปอยู่กับพื้น
และในตอนนั้นเอง ประมุขพรรคหมื่นดาบผู้อาวุโสจำนวนมากและแม้แต่บรรพชนที่หลับใหลอีกหลายคนพวกเขาต่างตกใจและรีบตรงมาที่จัตุรัสหยกขาวกันที่ละคนสองคน
เพียงไม่นาน คนเหล่านี้ก็มาถึงจัตุรัสหยกขาวและจ้องมองซูฉันราวกับเป็นศัตรู แม้ว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ซูฉินจะไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งออกมาแต่เพียงแค่เสียงตะโกนเมื่อครู่ก็ไม่มีใครในที่แห่งนี้จะกล้าดูถูกซูฉินอีกต่อไป มีค่ายกลฟ้าดินมากมายในเกาะหมื่นดาบแต่ยังไม่สามารถหยุดเสียงของซูฉินได้มันผ่านไปได้แม้กระทั่งอาคารดาบเก้ายอดคนธรรมดาทำเรื่องเช่นนี้ได้หรือ? ” การกระทำของท่านน่าละอายนักคิดว่าในพรรคหมื่นดาบของข้าไม่มีผู้คนอยู่หรือไร? ” ประมุขพรรคหมื่นดาบจ้องมองซูฉินเขม็งและพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ ในความเป็นจริงซูฉินทำตัวน่าละอายหรือ? เอาจริงๆการที่จะเหยียบพรรคหมื่นดาบไว้ใต้เท้าแล้วบดขยี้มันก็ไม่ยากเท่าไหร่ แต่สำหรับพรรคหมื่นดาบต่อหน้าศิษย์สาวกนับไม่ถ้วนในพรรคหากยอมให้บรรพชนดาบเปิดเผยตัวออกมาก็มต่างจากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงตะโกนที่ทรงพลังของซูฉินเมื่อครูทำให้ประมุขพรรคหมั่นดาบลังเลใจเกรงว่าศิษย์พรรคหมื่นดาบจำนวนมหาศาลคงเข้าล้อมซูฉินไปแล้ว ” น่าละอาย? ” ซูฉินหัวเราะเบาๆ ประมุขพรรคหมื่นดาบเห็นท่าทีของซูฉินดังนี้ความคิดก็ผันผวนเรื่องราวของตำนานยุทธขั้นสูงสุดในช่วงสองพันปีที่ปรากฏในดินแดนโพ้นทะเลก็วาบผ่านเข้ามาในหัวทีละคนสองคน แต่สุดท้ายประมุขพรรคหมื่นดาบก็นึกอะไรไม่ออกเขาพบว่าซูฉินดูเหมือนจะไม่เคยปรากฏอยู่ในยุทธภพต่างแดนแห่งนี้เลย ” เจ้าต้องการสิ่งใด? ” ประมุขพรรคหมื่นดาบระงับความโกรธในใจเน้นคำทุกพยางค์ที่พูด ” พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไร” ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อยเขาจับตำแหน่งของหลีหว่านด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วตอนนี้เพียงต้องกวาดทำลายพรรคหมื่นดาบและนำตัวหลีหว่านออกมา ” ข้าทำมันด้วยตัวเองได้” ทันทีที่สิ้นเสียงซูฉินก็ก้าวขาหนึ่งก้าวยกมือขวาขึ้นเล็งไปยังกลุ่มคนที่มีประมุขพรรคหมื่นดาบรวมอยู่ในนั้น
ซูม พลังฟ้าดินสั่นสะเทือนต่อเนื่องบรรจบรวมกันเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่กดลงไปบนเกาะหมี่นดาบอย่างรวดเร็ว ” บังอาจ” ประมุขพรรคหมื่นดาบยังไม่ทันได้กล่าวคำบรรพชนที่ตื่นขึ้นมาและซ่อนตัวอยู่ในเงามืดก็โกรธจัดจิตใจของพวกเขารวมเข้ากับค่ายกลสังหารบนเกาะหมื่นดาบเข้าต้านรับฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า ตู้ม ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อของทุกคนค่ายกลสังหารได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสอดประสานกันวูบไหวต่อเนื่องเข้าปิดกั้นฝ่ามือขนาดยักษ์ อย่างไรก็ตามทันทีที่ทั้งสองปะทะกันค่ายกลสังหารก็สั่นสะเทือนและในที่สุดก็ยุบตัวลงไปไม่น้อยภายใต้แรงกดดันจากฝ่ามือขนาดยักษ์ ” นี่คือ!! ” ท่าทีของบรรพชนพรรคหมื่นดาบที่เข้าต้านทานพลันเปลี่ยนไปอย่างมาก

Sign Buddha’s palm 276 หลุมทมิฬ

ในส่วนลึกของเกาะหมื่นดาบ

คมดาบสูงพันจ้างทั้งเก้าแห่งตั้งตระหง่านอยู่ที่นี่

อาคารดาบพันจ้างทั้งเก้ายอดนี้เล่าลือกันว่าถูกทิ้งไว้โดยนักพรตหมื่นดาบกว่าสี่พันปีที่แล้วและมันเชื่อมโยงเข้ากับเกาะหมื่นดาบทั้งหมดรัศมีวิถีดาบที่แผ่ไปทั่วเกาะก็มาจากอาคารดาบทั้งเก้ายอดแห่งนี้

ว่ากันว่าหลายปีก่อนออกจากพรรคหมื่นดาบนักพรตหมื่นดาบเคยซ่อนมรดกของตนส่วนหนึ่งไว้ในอาคารดาบเก้ายอดแห่งนี้ใครก็ตามที่สามารถทำความเข้าใจได้จะนับว่าเป็นศิษย์สายตรงของนักพรตหมื่นดาบคนต่อไป

น่าเสียดายที่ในช่วงห้าพันปีที่ผ่านมามีเพียงบรรพชนดาบเท่านั้นที่เข้าใจมรดกในอาคารดาบเก้ายอดทำให้ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าจนถูกขนานนามว่าบรรพชนดาบ

และในตอนนี้

จุดกึ่งกลางที่ล้อมรอบไปด้วยอาคารดาบเก้ายอดลึกลงไปใต้ดินหลายลี้เป็นคุกใต้ดินที่แสนจะเหน็บหนาว

คุกใต้ดินแบ่งออกเป็นสิบสองชั้นมีลวดลายสีดำลึกลับปรากฏอยู่ทุกมุมผนังเห็นได้ชัดถึงพลังในการปราบปรามอันน่าสะพรึงกลัวแทรกซึมอยู่ทุกตารางนิ้วในที่แห่งนี้

นอกจากนี้ยังมีดาบยาวสีดำสิบสองเล่มคอยแบ่งแยกคุกใต้ดินแต่ละชั้นออกจากกัน

ในบรรดาคุกใต้ดินทั้งสิบสองชั้นนี้มีคนเก้าคนปะปนกันไปทั้งชายและหญิงทุกคนต่างกระสับกระส่ายและมีลมหายใจที่อ่อนแรง

มีข้อยกเว้นเดียวคือชั้นล่างสุดของคุกใต้ดินมีหญิงสาวคนหนึ่งที่มีลักษณะสูงส่งกำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดพยายามมองไปรอบๆคุกใต้ดินดูเหมือนอยากจะหนีออกไป
หญิงผู้นี้คือหลีหว่าน

ตั้งแต่ถูกพรรคหมื่นดาบจับตัวมานางก็ถูกทิ้งไว้ที่นี่บางทีอาจเป็นเพราะนางกำลังจะกลายเป็นร่างของบรรพชนดาบคนของพรรคหมื่นดาบจึงไม่กล้าทำอะไรกับหลีหว่าน

พรรคหมื่นดาบพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการของหลีหว่านยกเว้นเพียงอยากเดียวคือการให้อิสระ

” สาวน้อยเจ้าอย่าได้ดิ้นรนไปเลยนี่คือหลุมทมิฬที่พรรคหมื่นดาบสร้างขึ้นไม่มีทางหนีจากที่นี่พ้น…”

ขณะที่หลีหว่านมองไปรอบๆคุกใต้ดินแห่งนี้เสียงชราก็ลอยดังขึ้นใกล้ๆ

หลีหว่านเงยหน้าขึ้นมองและเห็นชายชราที่มีผมและเคราสีขาวอยู่ในคุกใต้ดินชั้นบนกำลังพูดคุยกับนาง

” ผู้อาวุโส”

” ข้าจำเป็นต้องออกจากที่นี่” หลีหว่านพูดอย่างจริงจัง

หลังจากที่หายตัวไปหลายวันแม้หลีหว่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ก็ตามแต่นางรู้ว่าจักรพรรดิถังและคนอื่นๆอาจจะตามหานางอยู่ทั่วทุกมุมโลก

” จำเป็นต้องออกไป? ”

ชายชราผมขาวยิ้ม

หากมองดูใกล้ๆจะพบว่าไหล่ของชายชราผมเคราขาวมีโซ่สีดำสองเส้นตรึงไว้ลวดลายที่ลึกลับซับซ้อนสลักอยู่ทั่วโซ่สีดำคอยระงับพลังชีวิตของชายชราผมขาว

” พวกเราทั้งหมดที่ถูกขังอยู่ในนี้จะไม่มีโอกาสได้ออกไปอีกจนกว่าชีวิตจะหาไม่เราจะออกไปได้อย่างไร? ”

แม้ว่าชายชราผมขาวกำลังพูดด้วยรอยยิ้มแต่มีร่องรอยความสิ้นหวังแฝงอยู่ลึกในน้ำเสียง

” นี่เจ้าเฒ่าอย่าพูดมากน่ามีพวกเราคนใดบ้างที่ไม่มองหาทางออกเหมือนเด็กสาวคนนี้ตอนที่เพิ่งเข้ามา” ทันใดนั้นเสียงแหบแห้งก็ดังขึ้น

หลีหว่านเงยหน้าขึ้นมองต่อไปจนเจอหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังพูดอยู่ในระดับชั้นที่สูงกว่า

หากคุกใต้ดินที่หลีหว่านอยู่นั้นเป็นชั้นที่สิบสองชายชราผมเคราขาวก็อยู่ในชั้นสิบเอ็ดและหญิงชราคนนั้นก็อยู่บนชั้นที่สิบ

” นั่นก็ใช่”

ชายชราผมขาวยิ้มแล้วจึงหยุดพูด

” ถึงข้าจะหนีออกไปไม่พ้นแต่ลุงสามจะต้องมาช่วยข้า” หลีหว่านเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงกระซิบคำออกมา

” ช่วยเจ้า? ”

อาจเป็นเพราะชายชราผมขาวอยู่มานานเกินไปจึงอธิบายให้หลีหว่านฟังอย่างจริงจังว่า” ข้าไม่รู้ว่าลุงสามที่เจ้าพูดถึงคือใคร

” แต่คุกใต้ดินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พรรคหมนดาบตั้งใจสร้างเป็นพิเศษเพื่อกักขังศัตรูคนสำคัญ”

ชายชราผมเคราขาวเย้ยหยันเวลาพูดถึงเรื่องนี้ถ้าเขาไม่มีความลับอันยิ่งใหญ่ที่พรรคหมื่นดาบอยากจะรู้เขาคงตายไปนานแล้วจะมีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้ได้อย่างไร?

อันที่จริงคนทั้งแปดที่ถูกขังอยู่ในหลุมทมิฬล้วนเป็นเช่นนี้

หากไม่ใช่ว่ามีค่ามีความหมายพรรคหมื่นดาบจะปล่อยพวกเขาให้มีชีวิตต่อไปได้อย่างไร?

” คุกใต้ดินทั้งหมดหล่อขึ้นมาจากเหล็กดำทมิฬทะเลเหนือสามารถระงับแก่นแท้แห่งพลังและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้โดยธรรมชาติสำหรับตำนานยุทธธรรมดาๆที่มาอยู่ที่นี่แม้ว่าจะยังไม่ได้ทำอะไรความแข็งแกร่งก็จะถูกระงับเอาไว้อย่างดีที่สดก็รักษาพลังต่อสู้ไว้ได้แค่ครึ่งเดียว

ชายชราผมขาวยังเล่าต่อไปอย่างช้าๆ

” เหล็กดำทมิฬทะเลเหนือ…” ใบหน้าของหลีหว่านดูครุ่นคิดนางไม่รู้ว่าเหล็กดำทมิฬคือสิ่งใดแต่นางก็รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของตนเองหลังจากถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินนี้ดี

” นอกจากเหล็กดำทมิฬทะเลเหนือแล้วค่ายกลฟ้าดินอย่างน้อยสิบชั้นถูกจัดตั้งเอาไว้ภายในคุกใต้ดินทั้งหมดนี้ค่ายกลฟ้าดินเหล่านี้มีพลังในการปราบปรามขั้นสูงสุดหากเจ้าต้องการจะก้าวออกจากที่แห่งนี้ค่ายกลฟ้าดินทั้งหมดจะเปิดใช้งานทันทีหลังจากนั้นผลที่ตามมา……”

นักพรตชราที่มีผมเคราขาวส่ายศีรษะ

” ถึงแม้เจ้าจะโชคดีพอที่จะหลบหนีออกจากคุกใต้ดินแห่งนี้ได้สามารถหลีกหนีจากการปราบปรามของเหล็กดำทมิฬและค่ายกลฟ้าดิน….”

” แต่ด้านนอกคุกใต้ดิน….”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ชายชราผมเคราขาวก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้านบน” นอกคุกใต้ดินยังมีอาคารดาบเก้ายอดสูงกว่าพันจ้างของพรรคหมื่นดา
บอีก”

” อาคารดาบทั้งเก้ายอดนี้ถูกทิ้งไว้โดยนักพรตหมื่นดาบก่อตั้งเป็นค่ายกลขนาดใหญ่เพื่อปราบปรามทุกสิ่ง”

ชายชราผมเคราถอนหายใจเล็กน้อย

” ใครเล่าจะหนีจากค่ายกลฟ้าดินที่เซียนเทพปฐพี่ทิ้งเอาไว้ได้ใครเล่าจะหยุดมันได้? ”

ชายชราผมขาวพูดต่อไปโดยไม่ชักช้าหันมองหลีหว่านอีกครั้ง” สาวน้อยบอกข้าที่ลุงสามที่เจ้าพูดถึงยังช่วยเจ้าออกไปได้หรือไม่? ”

ชายชราผมเคราขาวรู้ดีว่าหลีหว่านกำลังคิดสิ่งใดพวกเขาต่างก็แทบไม่ต่างไปจากหลีหว่านตอนที่เข้ามาครั้งแรก

หลีหว่านเงียบไป

ตอนนี้นางไม่ใช่องค์หญิงอาณาจักรถังที่เพิ่งก้าวเข้าสู่เส้นทางสายยุทธผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราว

แม้ว่าหลีหว่านจะไม่เข้าใจสิ่งที่ชายชรากล่าวออกมาเท่าไหร่แต่ก็ชัดเจนว่าชายชรานั้นแน่ใจมากว่าไม่มีใครสามารถช่วยนางได้

” สาวน้อยให้ข้าได้บอกแก่เจ้าเว้นแต่จะเป็นเซียนเทพปฐพีมันเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะ…”

ชายชราผมขาวกำลังจะพูดบางอย่าง

ฉับพลัน

ในตอนนั้นเอง

เสียงคำรามกองราวกับพายุฝนก็แผ่ขยายผ่านระยะทางนับร้อยลี้ข้ามผ่านขุนเขาดังกังวานไปทั่วคุกใต้ดิน

” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” …

ในชั่วพริบตาทุกคนในคุกใต้ดินก็ได้ยินเสียงนี้อย่างชัดเจนอย่างไรก็ตามไม่ทันที่ทุกคนจะตอบสนองอะไรได้

” คลานออกมาพบข้า! ” ” คลานออกมาพบข้า! ” ” คลานออกมาพบข้า! ” ” คลานออกมาพบข้า! ”

เสียงนี้ดังก้องราวกับเสียงฟ้าร้องแม้จะข้ามผ่านระยะทางนับร้อยลี้แต่มันก็ไม่ได้แผ่วลงเลยกลับกลายเป็นยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ

” นี่คือ? ”

ชายชราผมเคราขาวตื่นตะลึงคนอื่นๆในคุกใต้ดินก็ลืมตาขึ้นด้วยความตกใจเช่นกัน

” คนผู้นี้คือใครกัน? ”

หญิงชราที่อยู่บนชั้นสิบไม่อยากจะเชื่อและเกีอบจะคิดไปเองว่าตนหลอนอะไรรึเปล่า

พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครสักคนตะโกนสังให้บรรพชนดาบออกมา?

บรรพชนดาบเป็นใคร?

พรรคหมื่นดาบตั้งแต่ยุคของนักพรตหมี่นดาบเป็นต้นมาผู้ที่มีความสามารถสูงสุดเข้าใจถึงวิชาจากอาคารดาบเก้ายอดจะได้เป็นศิษย์ของนักพรตหมื่นดาบ!

ตัวตนเช่นนี้ทั่วยุทธภพต่างดินแดนยังจะมีใครกล้าเรียกให้เขาออกไปเช่นนี้?

คนอื่นๆอีกหลายคนภายในคุกใต้ดินต่างตัวสั่นแต่ชายชราผมขาวบนชั้นสิบเอ็ดพลันสังเกตเห็นว่าท่าทีของหลีหว่านเปลี่ยนไป

” สาวน้อยเจ้ารู้จักเจ้าของเสียงหรือ? ” ชายชราผมขาวอดไม่ได้ที่ถามออกมา

” เสียงนี้…” หลีหว่านยืนยันซ้ำอีกหลายครั้งแล้วกล่าวออกอย่างระมัดระวัง” ดูเหมือนว่าจะเป็นลุงสามของข้า….”

คำที่กล่าวออกมา

ทุกคนในที่แห่งนั้นพลันนิ่งเงียบไม่ไหวติงไปเป็นเวลานาน

ในขณะเดียวกัน

ณจัตุรัสหยกขาวหน้าเกาะหมื่นดาบ

เมื่อซูฉินตะโกนให้บรรพชนดาบออกมา

ทั่วทั้งเกาะหมั่นดาบพลันเดือดพล่านการรับรู้ของตำนานยุทธนั้นเฉียบแหลมเพียงใดเกือบจะในทันทีร่างจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากอาคารดาบเก้ายอดพันจ้างในส่วนลึกของเกาะหมื่นดาบ

เหอหมิงเหยียนที่ยังอยู่ในท่าโค้งคารวะมองขึ้นไปที่ซูฉินด้วยความตกใจ

ซูฉินในตอนนี้แม้ว่าจะยังยืนอยู่ที่เดิมแต่ไม่มีการกักเก็บไอพลังอีกต่อไปและรัศมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ขยายออกมาเกือบจะเทียบเคียงได้กับรัศมีพลังจากอาคารดาบเก้ายอดพันจ้างเลยทีเดียว

” เจ้าเจ้าเจ้าเป็นใครกัน? ”

ผู้อาวุโสพรรคหมื่นดาบที่มาทำการคัดเลือกศิษย์ต่างตกตะลึงมากยิ่งขึ้นไปอีก

สีหน้าของพวกเขาดูตกใจมากขาสั่นอยู่ตลอดเวลาและเข่าทรุดลงไปอยู่กับพื้น
และในตอนนั้นเอง

ประมุขพรรคหมื่นดาบผู้อาวุโสจำนวนมากและแม้แต่บรรพชนที่หลับใหลอีกหลายคนพวกเขาต่างตกใจและรีบตรงมาที่จัตุรัสหยกขาวกันที่ละคนสองคน
เพียงไม่นาน

คนเหล่านี้ก็มาถึงจัตุรัสหยกขาวและจ้องมองซูฉันราวกับเป็นศัตรู

แม้ว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ซูฉินจะไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งออกมาแต่เพียงแค่เสียงตะโกนเมื่อครู่ก็ไม่มีใครในที่แห่งนี้จะกล้าดูถูกซูฉินอีกต่อไป

มีค่ายกลฟ้าดินมากมายในเกาะหมื่นดาบแต่ยังไม่สามารถหยุดเสียงของซูฉินได้มันผ่านไปได้แม้กระทั่งอาคารดาบเก้ายอดคนธรรมดาทำเรื่องเช่นนี้ได้หรือ?

” การกระทำของท่านน่าละอายนักคิดว่าในพรรคหมื่นดาบของข้าไม่มีผู้คนอยู่หรือไร? ” ประมุขพรรคหมื่นดาบจ้องมองซูฉินเขม็งและพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ

ในความเป็นจริงซูฉินทำตัวน่าละอายหรือ? เอาจริงๆการที่จะเหยียบพรรคหมื่นดาบไว้ใต้เท้าแล้วบดขยี้มันก็ไม่ยากเท่าไหร่

แต่สำหรับพรรคหมื่นดาบต่อหน้าศิษย์สาวกนับไม่ถ้วนในพรรคหากยอมให้บรรพชนดาบเปิดเผยตัวออกมาก็มต่างจากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ

ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงตะโกนที่ทรงพลังของซูฉินเมื่อครูทำให้ประมุขพรรคหมั่นดาบลังเลใจเกรงว่าศิษย์พรรคหมื่นดาบจำนวนมหาศาลคงเข้าล้อมซูฉินไปแล้ว

” น่าละอาย? ”

ซูฉินหัวเราะเบาๆ

ประมุขพรรคหมื่นดาบเห็นท่าทีของซูฉินดังนี้ความคิดก็ผันผวนเรื่องราวของตำนานยุทธขั้นสูงสุดในช่วงสองพันปีที่ปรากฏในดินแดนโพ้นทะเลก็วาบผ่านเข้ามาในหัวทีละคนสองคน

แต่สุดท้ายประมุขพรรคหมื่นดาบก็นึกอะไรไม่ออกเขาพบว่าซูฉินดูเหมือนจะไม่เคยปรากฏอยู่ในยุทธภพต่างแดนแห่งนี้เลย

” เจ้าต้องการสิ่งใด? ” ประมุขพรรคหมื่นดาบระงับความโกรธในใจเน้นคำทุกพยางค์ที่พูด

” พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไร” ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อยเขาจับตำแหน่งของหลีหว่านด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วตอนนี้เพียงต้องกวาดทำลายพรรคหมื่นดาบและนำตัวหลีหว่านออกมา

” ข้าทำมันด้วยตัวเองได้”

ทันทีที่สิ้นเสียงซูฉินก็ก้าวขาหนึ่งก้าวยกมือขวาขึ้นเล็งไปยังกลุ่มคนที่มีประมุขพรรคหมื่นดาบรวมอยู่ในนั้น
ซูม

พลังฟ้าดินสั่นสะเทือนต่อเนื่องบรรจบรวมกันเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่กดลงไปบนเกาะหมี่นดาบอย่างรวดเร็ว

” บังอาจ”

ประมุขพรรคหมื่นดาบยังไม่ทันได้กล่าวคำบรรพชนที่ตื่นขึ้นมาและซ่อนตัวอยู่ในเงามืดก็โกรธจัดจิตใจของพวกเขารวมเข้ากับค่ายกลสังหารบนเกาะหมื่นดาบเข้าต้านรับฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า

ตู้ม

ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อของทุกคนค่ายกลสังหารได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสอดประสานกันวูบไหวต่อเนื่องเข้าปิดกั้นฝ่ามือขนาดยักษ์

อย่างไรก็ตามทันทีที่ทั้งสองปะทะกันค่ายกลสังหารก็สั่นสะเทือนและในที่สุดก็ยุบตัวลงไปไม่น้อยภายใต้แรงกดดันจากฝ่ามือขนาดยักษ์

” นี่คือ!! ”

ท่าทีของบรรพชนพรรคหมื่นดาบที่เข้าต้านทานพลันเปลี่ยนไปอย่างมาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 276 หลุมทมิฬ

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 276 หลุมทมิฬ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign Buddha’s palm 276 หลุมทมิฬ ในส่วนลึกของเกาะหมื่นดาบ คมดาบสูงพันจ้างทั้งเก้าแห่งตั้งตระหง่านอยู่ที่นี่ อาคารดาบพันจ้างทั้งเก้ายอดนี้เล่าลือกันว่าถูกทิ้งไว้โดยนักพรตหมื่นดาบกว่าสี่พันปีที่แล้วและมันเชื่อมโยงเข้ากับเกาะหมื่นดาบทั้งหมดรัศมีวิถีดาบที่แผ่ไปทั่วเกาะก็มาจากอาคารดาบทั้งเก้ายอดแห่งนี้ ว่ากันว่าหลายปีก่อนออกจากพรรคหมื่นดาบนักพรตหมื่นดาบเคยซ่อนมรดกของตนส่วนหนึ่งไว้ในอาคารดาบเก้ายอดแห่งนี้ใครก็ตามที่สามารถทำความเข้าใจได้จะนับว่าเป็นศิษย์สายตรงของนักพรตหมื่นดาบคนต่อไป น่าเสียดายที่ในช่วงห้าพันปีที่ผ่านมามีเพียงบรรพชนดาบเท่านั้นที่เข้าใจมรดกในอาคารดาบเก้ายอดทำให้ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าจนถูกขนานนามว่าบรรพชนดาบ และในตอนนี้ จุดกึ่งกลางที่ล้อมรอบไปด้วยอาคารดาบเก้ายอดลึกลงไปใต้ดินหลายลี้เป็นคุกใต้ดินที่แสนจะเหน็บหนาว คุกใต้ดินแบ่งออกเป็นสิบสองชั้นมีลวดลายสีดำลึกลับปรากฏอยู่ทุกมุมผนังเห็นได้ชัดถึงพลังในการปราบปรามอันน่าสะพรึงกลัวแทรกซึมอยู่ทุกตารางนิ้วในที่แห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีดาบยาวสีดำสิบสองเล่มคอยแบ่งแยกคุกใต้ดินแต่ละชั้นออกจากกัน ในบรรดาคุกใต้ดินทั้งสิบสองชั้นนี้มีคนเก้าคนปะปนกันไปทั้งชายและหญิงทุกคนต่างกระสับกระส่ายและมีลมหายใจที่อ่อนแรง มีข้อยกเว้นเดียวคือชั้นล่างสุดของคุกใต้ดินมีหญิงสาวคนหนึ่งที่มีลักษณะสูงส่งกำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดพยายามมองไปรอบๆคุกใต้ดินดูเหมือนอยากจะหนีออกไป
หญิงผู้นี้คือหลีหว่าน ตั้งแต่ถูกพรรคหมื่นดาบจับตัวมานางก็ถูกทิ้งไว้ที่นี่บางทีอาจเป็นเพราะนางกำลังจะกลายเป็นร่างของบรรพชนดาบคนของพรรคหมื่นดาบจึงไม่กล้าทำอะไรกับหลีหว่าน พรรคหมื่นดาบพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการของหลีหว่านยกเว้นเพียงอยากเดียวคือการให้อิสระ ” สาวน้อยเจ้าอย่าได้ดิ้นรนไปเลยนี่คือหลุมทมิฬที่พรรคหมื่นดาบสร้างขึ้นไม่มีทางหนีจากที่นี่พ้น…” ขณะที่หลีหว่านมองไปรอบๆคุกใต้ดินแห่งนี้เสียงชราก็ลอยดังขึ้นใกล้ๆ หลีหว่านเงยหน้าขึ้นมองและเห็นชายชราที่มีผมและเคราสีขาวอยู่ในคุกใต้ดินชั้นบนกำลังพูดคุยกับนาง ” ผู้อาวุโส” ” ข้าจำเป็นต้องออกจากที่นี่” หลีหว่านพูดอย่างจริงจัง หลังจากที่หายตัวไปหลายวันแม้หลีหว่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ก็ตามแต่นางรู้ว่าจักรพรรดิถังและคนอื่นๆอาจจะตามหานางอยู่ทั่วทุกมุมโลก ” จำเป็นต้องออกไป? ” ชายชราผมขาวยิ้ม หากมองดูใกล้ๆจะพบว่าไหล่ของชายชราผมเคราขาวมีโซ่สีดำสองเส้นตรึงไว้ลวดลายที่ลึกลับซับซ้อนสลักอยู่ทั่วโซ่สีดำคอยระงับพลังชีวิตของชายชราผมขาว ” พวกเราทั้งหมดที่ถูกขังอยู่ในนี้จะไม่มีโอกาสได้ออกไปอีกจนกว่าชีวิตจะหาไม่เราจะออกไปได้อย่างไร? ” แม้ว่าชายชราผมขาวกำลังพูดด้วยรอยยิ้มแต่มีร่องรอยความสิ้นหวังแฝงอยู่ลึกในน้ำเสียง ” นี่เจ้าเฒ่าอย่าพูดมากน่ามีพวกเราคนใดบ้างที่ไม่มองหาทางออกเหมือนเด็กสาวคนนี้ตอนที่เพิ่งเข้ามา” ทันใดนั้นเสียงแหบแห้งก็ดังขึ้น หลีหว่านเงยหน้าขึ้นมองต่อไปจนเจอหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังพูดอยู่ในระดับชั้นที่สูงกว่า หากคุกใต้ดินที่หลีหว่านอยู่นั้นเป็นชั้นที่สิบสองชายชราผมเคราขาวก็อยู่ในชั้นสิบเอ็ดและหญิงชราคนนั้นก็อยู่บนชั้นที่สิบ ” นั่นก็ใช่” ชายชราผมขาวยิ้มแล้วจึงหยุดพูด ” ถึงข้าจะหนีออกไปไม่พ้นแต่ลุงสามจะต้องมาช่วยข้า” หลีหว่านเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงกระซิบคำออกมา ” ช่วยเจ้า? ” อาจเป็นเพราะชายชราผมขาวอยู่มานานเกินไปจึงอธิบายให้หลีหว่านฟังอย่างจริงจังว่า” ข้าไม่รู้ว่าลุงสามที่เจ้าพูดถึงคือใคร ” แต่คุกใต้ดินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พรรคหมนดาบตั้งใจสร้างเป็นพิเศษเพื่อกักขังศัตรูคนสำคัญ” ชายชราผมเคราขาวเย้ยหยันเวลาพูดถึงเรื่องนี้ถ้าเขาไม่มีความลับอันยิ่งใหญ่ที่พรรคหมื่นดาบอยากจะรู้เขาคงตายไปนานแล้วจะมีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้ได้อย่างไร? อันที่จริงคนทั้งแปดที่ถูกขังอยู่ในหลุมทมิฬล้วนเป็นเช่นนี้ หากไม่ใช่ว่ามีค่ามีความหมายพรรคหมื่นดาบจะปล่อยพวกเขาให้มีชีวิตต่อไปได้อย่างไร? ” คุกใต้ดินทั้งหมดหล่อขึ้นมาจากเหล็กดำทมิฬทะเลเหนือสามารถระงับแก่นแท้แห่งพลังและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้โดยธรรมชาติสำหรับตำนานยุทธธรรมดาๆที่มาอยู่ที่นี่แม้ว่าจะยังไม่ได้ทำอะไรความแข็งแกร่งก็จะถูกระงับเอาไว้อย่างดีที่สดก็รักษาพลังต่อสู้ไว้ได้แค่ครึ่งเดียว ชายชราผมขาวยังเล่าต่อไปอย่างช้าๆ ” เหล็กดำทมิฬทะเลเหนือ…” ใบหน้าของหลีหว่านดูครุ่นคิดนางไม่รู้ว่าเหล็กดำทมิฬคือสิ่งใดแต่นางก็รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของตนเองหลังจากถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินนี้ดี ” นอกจากเหล็กดำทมิฬทะเลเหนือแล้วค่ายกลฟ้าดินอย่างน้อยสิบชั้นถูกจัดตั้งเอาไว้ภายในคุกใต้ดินทั้งหมดนี้ค่ายกลฟ้าดินเหล่านี้มีพลังในการปราบปรามขั้นสูงสุดหากเจ้าต้องการจะก้าวออกจากที่แห่งนี้ค่ายกลฟ้าดินทั้งหมดจะเปิดใช้งานทันทีหลังจากนั้นผลที่ตามมา……” นักพรตชราที่มีผมเคราขาวส่ายศีรษะ ” ถึงแม้เจ้าจะโชคดีพอที่จะหลบหนีออกจากคุกใต้ดินแห่งนี้ได้สามารถหลีกหนีจากการปราบปรามของเหล็กดำทมิฬและค่ายกลฟ้าดิน….” ” แต่ด้านนอกคุกใต้ดิน….” เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ชายชราผมเคราขาวก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้านบน” นอกคุกใต้ดินยังมีอาคารดาบเก้ายอดสูงกว่าพันจ้างของพรรคหมื่นดา
บอีก” ” อาคารดาบทั้งเก้ายอดนี้ถูกทิ้งไว้โดยนักพรตหมื่นดาบก่อตั้งเป็นค่ายกลขนาดใหญ่เพื่อปราบปรามทุกสิ่ง” ชายชราผมเคราถอนหายใจเล็กน้อย ” ใครเล่าจะหนีจากค่ายกลฟ้าดินที่เซียนเทพปฐพี่ทิ้งเอาไว้ได้ใครเล่าจะหยุดมันได้? ” ชายชราผมขาวพูดต่อไปโดยไม่ชักช้าหันมองหลีหว่านอีกครั้ง” สาวน้อยบอกข้าที่ลุงสามที่เจ้าพูดถึงยังช่วยเจ้าออกไปได้หรือไม่? ” ชายชราผมเคราขาวรู้ดีว่าหลีหว่านกำลังคิดสิ่งใดพวกเขาต่างก็แทบไม่ต่างไปจากหลีหว่านตอนที่เข้ามาครั้งแรก หลีหว่านเงียบไป ตอนนี้นางไม่ใช่องค์หญิงอาณาจักรถังที่เพิ่งก้าวเข้าสู่เส้นทางสายยุทธผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราว แม้ว่าหลีหว่านจะไม่เข้าใจสิ่งที่ชายชรากล่าวออกมาเท่าไหร่แต่ก็ชัดเจนว่าชายชรานั้นแน่ใจมากว่าไม่มีใครสามารถช่วยนางได้ ” สาวน้อยให้ข้าได้บอกแก่เจ้าเว้นแต่จะเป็นเซียนเทพปฐพีมันเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะ…” ชายชราผมขาวกำลังจะพูดบางอย่าง ฉับพลัน ในตอนนั้นเอง เสียงคำรามกองราวกับพายุฝนก็แผ่ขยายผ่านระยะทางนับร้อยลี้ข้ามผ่านขุนเขาดังกังวานไปทั่วคุกใต้ดิน ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” … ในชั่วพริบตาทุกคนในคุกใต้ดินก็ได้ยินเสียงนี้อย่างชัดเจนอย่างไรก็ตามไม่ทันที่ทุกคนจะตอบสนองอะไรได้ ” คลานออกมาพบข้า! ” ” คลานออกมาพบข้า! ” ” คลานออกมาพบข้า! ” ” คลานออกมาพบข้า! ” เสียงนี้ดังก้องราวกับเสียงฟ้าร้องแม้จะข้ามผ่านระยะทางนับร้อยลี้แต่มันก็ไม่ได้แผ่วลงเลยกลับกลายเป็นยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ” นี่คือ? ” ชายชราผมเคราขาวตื่นตะลึงคนอื่นๆในคุกใต้ดินก็ลืมตาขึ้นด้วยความตกใจเช่นกัน ” คนผู้นี้คือใครกัน? ” หญิงชราที่อยู่บนชั้นสิบไม่อยากจะเชื่อและเกีอบจะคิดไปเองว่าตนหลอนอะไรรึเปล่า พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครสักคนตะโกนสังให้บรรพชนดาบออกมา? บรรพชนดาบเป็นใคร? พรรคหมื่นดาบตั้งแต่ยุคของนักพรตหมี่นดาบเป็นต้นมาผู้ที่มีความสามารถสูงสุดเข้าใจถึงวิชาจากอาคารดาบเก้ายอดจะได้เป็นศิษย์ของนักพรตหมื่นดาบ! ตัวตนเช่นนี้ทั่วยุทธภพต่างดินแดนยังจะมีใครกล้าเรียกให้เขาออกไปเช่นนี้? คนอื่นๆอีกหลายคนภายในคุกใต้ดินต่างตัวสั่นแต่ชายชราผมขาวบนชั้นสิบเอ็ดพลันสังเกตเห็นว่าท่าทีของหลีหว่านเปลี่ยนไป ” สาวน้อยเจ้ารู้จักเจ้าของเสียงหรือ? ” ชายชราผมขาวอดไม่ได้ที่ถามออกมา ” เสียงนี้…” หลีหว่านยืนยันซ้ำอีกหลายครั้งแล้วกล่าวออกอย่างระมัดระวัง” ดูเหมือนว่าจะเป็นลุงสามของข้า….” คำที่กล่าวออกมา ทุกคนในที่แห่งนั้นพลันนิ่งเงียบไม่ไหวติงไปเป็นเวลานาน ในขณะเดียวกัน ณจัตุรัสหยกขาวหน้าเกาะหมื่นดาบ เมื่อซูฉินตะโกนให้บรรพชนดาบออกมา ทั่วทั้งเกาะหมั่นดาบพลันเดือดพล่านการรับรู้ของตำนานยุทธนั้นเฉียบแหลมเพียงใดเกือบจะในทันทีร่างจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากอาคารดาบเก้ายอดพันจ้างในส่วนลึกของเกาะหมื่นดาบ เหอหมิงเหยียนที่ยังอยู่ในท่าโค้งคารวะมองขึ้นไปที่ซูฉินด้วยความตกใจ ซูฉินในตอนนี้แม้ว่าจะยังยืนอยู่ที่เดิมแต่ไม่มีการกักเก็บไอพลังอีกต่อไปและรัศมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ขยายออกมาเกือบจะเทียบเคียงได้กับรัศมีพลังจากอาคารดาบเก้ายอดพันจ้างเลยทีเดียว ” เจ้าเจ้าเจ้าเป็นใครกัน? ” ผู้อาวุโสพรรคหมื่นดาบที่มาทำการคัดเลือกศิษย์ต่างตกตะลึงมากยิ่งขึ้นไปอีก สีหน้าของพวกเขาดูตกใจมากขาสั่นอยู่ตลอดเวลาและเข่าทรุดลงไปอยู่กับพื้น
และในตอนนั้นเอง ประมุขพรรคหมื่นดาบผู้อาวุโสจำนวนมากและแม้แต่บรรพชนที่หลับใหลอีกหลายคนพวกเขาต่างตกใจและรีบตรงมาที่จัตุรัสหยกขาวกันที่ละคนสองคน
เพียงไม่นาน คนเหล่านี้ก็มาถึงจัตุรัสหยกขาวและจ้องมองซูฉันราวกับเป็นศัตรู แม้ว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ซูฉินจะไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งออกมาแต่เพียงแค่เสียงตะโกนเมื่อครู่ก็ไม่มีใครในที่แห่งนี้จะกล้าดูถูกซูฉินอีกต่อไป มีค่ายกลฟ้าดินมากมายในเกาะหมื่นดาบแต่ยังไม่สามารถหยุดเสียงของซูฉินได้มันผ่านไปได้แม้กระทั่งอาคารดาบเก้ายอดคนธรรมดาทำเรื่องเช่นนี้ได้หรือ? ” การกระทำของท่านน่าละอายนักคิดว่าในพรรคหมื่นดาบของข้าไม่มีผู้คนอยู่หรือไร? ” ประมุขพรรคหมื่นดาบจ้องมองซูฉินเขม็งและพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ ในความเป็นจริงซูฉินทำตัวน่าละอายหรือ? เอาจริงๆการที่จะเหยียบพรรคหมื่นดาบไว้ใต้เท้าแล้วบดขยี้มันก็ไม่ยากเท่าไหร่ แต่สำหรับพรรคหมื่นดาบต่อหน้าศิษย์สาวกนับไม่ถ้วนในพรรคหากยอมให้บรรพชนดาบเปิดเผยตัวออกมาก็มต่างจากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงตะโกนที่ทรงพลังของซูฉินเมื่อครูทำให้ประมุขพรรคหมั่นดาบลังเลใจเกรงว่าศิษย์พรรคหมื่นดาบจำนวนมหาศาลคงเข้าล้อมซูฉินไปแล้ว ” น่าละอาย? ” ซูฉินหัวเราะเบาๆ ประมุขพรรคหมื่นดาบเห็นท่าทีของซูฉินดังนี้ความคิดก็ผันผวนเรื่องราวของตำนานยุทธขั้นสูงสุดในช่วงสองพันปีที่ปรากฏในดินแดนโพ้นทะเลก็วาบผ่านเข้ามาในหัวทีละคนสองคน แต่สุดท้ายประมุขพรรคหมื่นดาบก็นึกอะไรไม่ออกเขาพบว่าซูฉินดูเหมือนจะไม่เคยปรากฏอยู่ในยุทธภพต่างแดนแห่งนี้เลย ” เจ้าต้องการสิ่งใด? ” ประมุขพรรคหมื่นดาบระงับความโกรธในใจเน้นคำทุกพยางค์ที่พูด ” พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไร” ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อยเขาจับตำแหน่งของหลีหว่านด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วตอนนี้เพียงต้องกวาดทำลายพรรคหมื่นดาบและนำตัวหลีหว่านออกมา ” ข้าทำมันด้วยตัวเองได้” ทันทีที่สิ้นเสียงซูฉินก็ก้าวขาหนึ่งก้าวยกมือขวาขึ้นเล็งไปยังกลุ่มคนที่มีประมุขพรรคหมื่นดาบรวมอยู่ในนั้น
ซูม พลังฟ้าดินสั่นสะเทือนต่อเนื่องบรรจบรวมกันเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่กดลงไปบนเกาะหมี่นดาบอย่างรวดเร็ว ” บังอาจ” ประมุขพรรคหมื่นดาบยังไม่ทันได้กล่าวคำบรรพชนที่ตื่นขึ้นมาและซ่อนตัวอยู่ในเงามืดก็โกรธจัดจิตใจของพวกเขารวมเข้ากับค่ายกลสังหารบนเกาะหมื่นดาบเข้าต้านรับฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า ตู้ม ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อของทุกคนค่ายกลสังหารได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสอดประสานกันวูบไหวต่อเนื่องเข้าปิดกั้นฝ่ามือขนาดยักษ์ อย่างไรก็ตามทันทีที่ทั้งสองปะทะกันค่ายกลสังหารก็สั่นสะเทือนและในที่สุดก็ยุบตัวลงไปไม่น้อยภายใต้แรงกดดันจากฝ่ามือขนาดยักษ์ ” นี่คือ!! ” ท่าทีของบรรพชนพรรคหมื่นดาบที่เข้าต้านทานพลันเปลี่ยนไปอย่างมาก

Sign Buddha’s palm 276 หลุมทมิฬ

ในส่วนลึกของเกาะหมื่นดาบ

คมดาบสูงพันจ้างทั้งเก้าแห่งตั้งตระหง่านอยู่ที่นี่

อาคารดาบพันจ้างทั้งเก้ายอดนี้เล่าลือกันว่าถูกทิ้งไว้โดยนักพรตหมื่นดาบกว่าสี่พันปีที่แล้วและมันเชื่อมโยงเข้ากับเกาะหมื่นดาบทั้งหมดรัศมีวิถีดาบที่แผ่ไปทั่วเกาะก็มาจากอาคารดาบทั้งเก้ายอดแห่งนี้

ว่ากันว่าหลายปีก่อนออกจากพรรคหมื่นดาบนักพรตหมื่นดาบเคยซ่อนมรดกของตนส่วนหนึ่งไว้ในอาคารดาบเก้ายอดแห่งนี้ใครก็ตามที่สามารถทำความเข้าใจได้จะนับว่าเป็นศิษย์สายตรงของนักพรตหมื่นดาบคนต่อไป

น่าเสียดายที่ในช่วงห้าพันปีที่ผ่านมามีเพียงบรรพชนดาบเท่านั้นที่เข้าใจมรดกในอาคารดาบเก้ายอดทำให้ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าจนถูกขนานนามว่าบรรพชนดาบ

และในตอนนี้

จุดกึ่งกลางที่ล้อมรอบไปด้วยอาคารดาบเก้ายอดลึกลงไปใต้ดินหลายลี้เป็นคุกใต้ดินที่แสนจะเหน็บหนาว

คุกใต้ดินแบ่งออกเป็นสิบสองชั้นมีลวดลายสีดำลึกลับปรากฏอยู่ทุกมุมผนังเห็นได้ชัดถึงพลังในการปราบปรามอันน่าสะพรึงกลัวแทรกซึมอยู่ทุกตารางนิ้วในที่แห่งนี้

นอกจากนี้ยังมีดาบยาวสีดำสิบสองเล่มคอยแบ่งแยกคุกใต้ดินแต่ละชั้นออกจากกัน

ในบรรดาคุกใต้ดินทั้งสิบสองชั้นนี้มีคนเก้าคนปะปนกันไปทั้งชายและหญิงทุกคนต่างกระสับกระส่ายและมีลมหายใจที่อ่อนแรง

มีข้อยกเว้นเดียวคือชั้นล่างสุดของคุกใต้ดินมีหญิงสาวคนหนึ่งที่มีลักษณะสูงส่งกำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดพยายามมองไปรอบๆคุกใต้ดินดูเหมือนอยากจะหนีออกไป
หญิงผู้นี้คือหลีหว่าน

ตั้งแต่ถูกพรรคหมื่นดาบจับตัวมานางก็ถูกทิ้งไว้ที่นี่บางทีอาจเป็นเพราะนางกำลังจะกลายเป็นร่างของบรรพชนดาบคนของพรรคหมื่นดาบจึงไม่กล้าทำอะไรกับหลีหว่าน

พรรคหมื่นดาบพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการของหลีหว่านยกเว้นเพียงอยากเดียวคือการให้อิสระ

” สาวน้อยเจ้าอย่าได้ดิ้นรนไปเลยนี่คือหลุมทมิฬที่พรรคหมื่นดาบสร้างขึ้นไม่มีทางหนีจากที่นี่พ้น…”

ขณะที่หลีหว่านมองไปรอบๆคุกใต้ดินแห่งนี้เสียงชราก็ลอยดังขึ้นใกล้ๆ

หลีหว่านเงยหน้าขึ้นมองและเห็นชายชราที่มีผมและเคราสีขาวอยู่ในคุกใต้ดินชั้นบนกำลังพูดคุยกับนาง

” ผู้อาวุโส”

” ข้าจำเป็นต้องออกจากที่นี่” หลีหว่านพูดอย่างจริงจัง

หลังจากที่หายตัวไปหลายวันแม้หลีหว่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ก็ตามแต่นางรู้ว่าจักรพรรดิถังและคนอื่นๆอาจจะตามหานางอยู่ทั่วทุกมุมโลก

” จำเป็นต้องออกไป? ”

ชายชราผมขาวยิ้ม

หากมองดูใกล้ๆจะพบว่าไหล่ของชายชราผมเคราขาวมีโซ่สีดำสองเส้นตรึงไว้ลวดลายที่ลึกลับซับซ้อนสลักอยู่ทั่วโซ่สีดำคอยระงับพลังชีวิตของชายชราผมขาว

” พวกเราทั้งหมดที่ถูกขังอยู่ในนี้จะไม่มีโอกาสได้ออกไปอีกจนกว่าชีวิตจะหาไม่เราจะออกไปได้อย่างไร? ”

แม้ว่าชายชราผมขาวกำลังพูดด้วยรอยยิ้มแต่มีร่องรอยความสิ้นหวังแฝงอยู่ลึกในน้ำเสียง

” นี่เจ้าเฒ่าอย่าพูดมากน่ามีพวกเราคนใดบ้างที่ไม่มองหาทางออกเหมือนเด็กสาวคนนี้ตอนที่เพิ่งเข้ามา” ทันใดนั้นเสียงแหบแห้งก็ดังขึ้น

หลีหว่านเงยหน้าขึ้นมองต่อไปจนเจอหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังพูดอยู่ในระดับชั้นที่สูงกว่า

หากคุกใต้ดินที่หลีหว่านอยู่นั้นเป็นชั้นที่สิบสองชายชราผมเคราขาวก็อยู่ในชั้นสิบเอ็ดและหญิงชราคนนั้นก็อยู่บนชั้นที่สิบ

” นั่นก็ใช่”

ชายชราผมขาวยิ้มแล้วจึงหยุดพูด

” ถึงข้าจะหนีออกไปไม่พ้นแต่ลุงสามจะต้องมาช่วยข้า” หลีหว่านเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงกระซิบคำออกมา

” ช่วยเจ้า? ”

อาจเป็นเพราะชายชราผมขาวอยู่มานานเกินไปจึงอธิบายให้หลีหว่านฟังอย่างจริงจังว่า” ข้าไม่รู้ว่าลุงสามที่เจ้าพูดถึงคือใคร

” แต่คุกใต้ดินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พรรคหมนดาบตั้งใจสร้างเป็นพิเศษเพื่อกักขังศัตรูคนสำคัญ”

ชายชราผมเคราขาวเย้ยหยันเวลาพูดถึงเรื่องนี้ถ้าเขาไม่มีความลับอันยิ่งใหญ่ที่พรรคหมื่นดาบอยากจะรู้เขาคงตายไปนานแล้วจะมีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้ได้อย่างไร?

อันที่จริงคนทั้งแปดที่ถูกขังอยู่ในหลุมทมิฬล้วนเป็นเช่นนี้

หากไม่ใช่ว่ามีค่ามีความหมายพรรคหมื่นดาบจะปล่อยพวกเขาให้มีชีวิตต่อไปได้อย่างไร?

” คุกใต้ดินทั้งหมดหล่อขึ้นมาจากเหล็กดำทมิฬทะเลเหนือสามารถระงับแก่นแท้แห่งพลังและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้โดยธรรมชาติสำหรับตำนานยุทธธรรมดาๆที่มาอยู่ที่นี่แม้ว่าจะยังไม่ได้ทำอะไรความแข็งแกร่งก็จะถูกระงับเอาไว้อย่างดีที่สดก็รักษาพลังต่อสู้ไว้ได้แค่ครึ่งเดียว

ชายชราผมขาวยังเล่าต่อไปอย่างช้าๆ

” เหล็กดำทมิฬทะเลเหนือ…” ใบหน้าของหลีหว่านดูครุ่นคิดนางไม่รู้ว่าเหล็กดำทมิฬคือสิ่งใดแต่นางก็รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของตนเองหลังจากถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินนี้ดี

” นอกจากเหล็กดำทมิฬทะเลเหนือแล้วค่ายกลฟ้าดินอย่างน้อยสิบชั้นถูกจัดตั้งเอาไว้ภายในคุกใต้ดินทั้งหมดนี้ค่ายกลฟ้าดินเหล่านี้มีพลังในการปราบปรามขั้นสูงสุดหากเจ้าต้องการจะก้าวออกจากที่แห่งนี้ค่ายกลฟ้าดินทั้งหมดจะเปิดใช้งานทันทีหลังจากนั้นผลที่ตามมา……”

นักพรตชราที่มีผมเคราขาวส่ายศีรษะ

” ถึงแม้เจ้าจะโชคดีพอที่จะหลบหนีออกจากคุกใต้ดินแห่งนี้ได้สามารถหลีกหนีจากการปราบปรามของเหล็กดำทมิฬและค่ายกลฟ้าดิน….”

” แต่ด้านนอกคุกใต้ดิน….”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ชายชราผมเคราขาวก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้านบน” นอกคุกใต้ดินยังมีอาคารดาบเก้ายอดสูงกว่าพันจ้างของพรรคหมื่นดา
บอีก”

” อาคารดาบทั้งเก้ายอดนี้ถูกทิ้งไว้โดยนักพรตหมื่นดาบก่อตั้งเป็นค่ายกลขนาดใหญ่เพื่อปราบปรามทุกสิ่ง”

ชายชราผมเคราถอนหายใจเล็กน้อย

” ใครเล่าจะหนีจากค่ายกลฟ้าดินที่เซียนเทพปฐพี่ทิ้งเอาไว้ได้ใครเล่าจะหยุดมันได้? ”

ชายชราผมขาวพูดต่อไปโดยไม่ชักช้าหันมองหลีหว่านอีกครั้ง” สาวน้อยบอกข้าที่ลุงสามที่เจ้าพูดถึงยังช่วยเจ้าออกไปได้หรือไม่? ”

ชายชราผมเคราขาวรู้ดีว่าหลีหว่านกำลังคิดสิ่งใดพวกเขาต่างก็แทบไม่ต่างไปจากหลีหว่านตอนที่เข้ามาครั้งแรก

หลีหว่านเงียบไป

ตอนนี้นางไม่ใช่องค์หญิงอาณาจักรถังที่เพิ่งก้าวเข้าสู่เส้นทางสายยุทธผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราว

แม้ว่าหลีหว่านจะไม่เข้าใจสิ่งที่ชายชรากล่าวออกมาเท่าไหร่แต่ก็ชัดเจนว่าชายชรานั้นแน่ใจมากว่าไม่มีใครสามารถช่วยนางได้

” สาวน้อยให้ข้าได้บอกแก่เจ้าเว้นแต่จะเป็นเซียนเทพปฐพีมันเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะ…”

ชายชราผมขาวกำลังจะพูดบางอย่าง

ฉับพลัน

ในตอนนั้นเอง

เสียงคำรามกองราวกับพายุฝนก็แผ่ขยายผ่านระยะทางนับร้อยลี้ข้ามผ่านขุนเขาดังกังวานไปทั่วคุกใต้ดิน

” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” ” บรรพชนดาบ! ” …

ในชั่วพริบตาทุกคนในคุกใต้ดินก็ได้ยินเสียงนี้อย่างชัดเจนอย่างไรก็ตามไม่ทันที่ทุกคนจะตอบสนองอะไรได้

” คลานออกมาพบข้า! ” ” คลานออกมาพบข้า! ” ” คลานออกมาพบข้า! ” ” คลานออกมาพบข้า! ”

เสียงนี้ดังก้องราวกับเสียงฟ้าร้องแม้จะข้ามผ่านระยะทางนับร้อยลี้แต่มันก็ไม่ได้แผ่วลงเลยกลับกลายเป็นยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ

” นี่คือ? ”

ชายชราผมเคราขาวตื่นตะลึงคนอื่นๆในคุกใต้ดินก็ลืมตาขึ้นด้วยความตกใจเช่นกัน

” คนผู้นี้คือใครกัน? ”

หญิงชราที่อยู่บนชั้นสิบไม่อยากจะเชื่อและเกีอบจะคิดไปเองว่าตนหลอนอะไรรึเปล่า

พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครสักคนตะโกนสังให้บรรพชนดาบออกมา?

บรรพชนดาบเป็นใคร?

พรรคหมื่นดาบตั้งแต่ยุคของนักพรตหมี่นดาบเป็นต้นมาผู้ที่มีความสามารถสูงสุดเข้าใจถึงวิชาจากอาคารดาบเก้ายอดจะได้เป็นศิษย์ของนักพรตหมื่นดาบ!

ตัวตนเช่นนี้ทั่วยุทธภพต่างดินแดนยังจะมีใครกล้าเรียกให้เขาออกไปเช่นนี้?

คนอื่นๆอีกหลายคนภายในคุกใต้ดินต่างตัวสั่นแต่ชายชราผมขาวบนชั้นสิบเอ็ดพลันสังเกตเห็นว่าท่าทีของหลีหว่านเปลี่ยนไป

” สาวน้อยเจ้ารู้จักเจ้าของเสียงหรือ? ” ชายชราผมขาวอดไม่ได้ที่ถามออกมา

” เสียงนี้…” หลีหว่านยืนยันซ้ำอีกหลายครั้งแล้วกล่าวออกอย่างระมัดระวัง” ดูเหมือนว่าจะเป็นลุงสามของข้า….”

คำที่กล่าวออกมา

ทุกคนในที่แห่งนั้นพลันนิ่งเงียบไม่ไหวติงไปเป็นเวลานาน

ในขณะเดียวกัน

ณจัตุรัสหยกขาวหน้าเกาะหมื่นดาบ

เมื่อซูฉินตะโกนให้บรรพชนดาบออกมา

ทั่วทั้งเกาะหมั่นดาบพลันเดือดพล่านการรับรู้ของตำนานยุทธนั้นเฉียบแหลมเพียงใดเกือบจะในทันทีร่างจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากอาคารดาบเก้ายอดพันจ้างในส่วนลึกของเกาะหมื่นดาบ

เหอหมิงเหยียนที่ยังอยู่ในท่าโค้งคารวะมองขึ้นไปที่ซูฉินด้วยความตกใจ

ซูฉินในตอนนี้แม้ว่าจะยังยืนอยู่ที่เดิมแต่ไม่มีการกักเก็บไอพลังอีกต่อไปและรัศมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ขยายออกมาเกือบจะเทียบเคียงได้กับรัศมีพลังจากอาคารดาบเก้ายอดพันจ้างเลยทีเดียว

” เจ้าเจ้าเจ้าเป็นใครกัน? ”

ผู้อาวุโสพรรคหมื่นดาบที่มาทำการคัดเลือกศิษย์ต่างตกตะลึงมากยิ่งขึ้นไปอีก

สีหน้าของพวกเขาดูตกใจมากขาสั่นอยู่ตลอดเวลาและเข่าทรุดลงไปอยู่กับพื้น
และในตอนนั้นเอง

ประมุขพรรคหมื่นดาบผู้อาวุโสจำนวนมากและแม้แต่บรรพชนที่หลับใหลอีกหลายคนพวกเขาต่างตกใจและรีบตรงมาที่จัตุรัสหยกขาวกันที่ละคนสองคน
เพียงไม่นาน

คนเหล่านี้ก็มาถึงจัตุรัสหยกขาวและจ้องมองซูฉันราวกับเป็นศัตรู

แม้ว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ซูฉินจะไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งออกมาแต่เพียงแค่เสียงตะโกนเมื่อครู่ก็ไม่มีใครในที่แห่งนี้จะกล้าดูถูกซูฉินอีกต่อไป

มีค่ายกลฟ้าดินมากมายในเกาะหมื่นดาบแต่ยังไม่สามารถหยุดเสียงของซูฉินได้มันผ่านไปได้แม้กระทั่งอาคารดาบเก้ายอดคนธรรมดาทำเรื่องเช่นนี้ได้หรือ?

” การกระทำของท่านน่าละอายนักคิดว่าในพรรคหมื่นดาบของข้าไม่มีผู้คนอยู่หรือไร? ” ประมุขพรรคหมื่นดาบจ้องมองซูฉินเขม็งและพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ

ในความเป็นจริงซูฉินทำตัวน่าละอายหรือ? เอาจริงๆการที่จะเหยียบพรรคหมื่นดาบไว้ใต้เท้าแล้วบดขยี้มันก็ไม่ยากเท่าไหร่

แต่สำหรับพรรคหมื่นดาบต่อหน้าศิษย์สาวกนับไม่ถ้วนในพรรคหากยอมให้บรรพชนดาบเปิดเผยตัวออกมาก็มต่างจากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ

ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงตะโกนที่ทรงพลังของซูฉินเมื่อครูทำให้ประมุขพรรคหมั่นดาบลังเลใจเกรงว่าศิษย์พรรคหมื่นดาบจำนวนมหาศาลคงเข้าล้อมซูฉินไปแล้ว

” น่าละอาย? ”

ซูฉินหัวเราะเบาๆ

ประมุขพรรคหมื่นดาบเห็นท่าทีของซูฉินดังนี้ความคิดก็ผันผวนเรื่องราวของตำนานยุทธขั้นสูงสุดในช่วงสองพันปีที่ปรากฏในดินแดนโพ้นทะเลก็วาบผ่านเข้ามาในหัวทีละคนสองคน

แต่สุดท้ายประมุขพรรคหมื่นดาบก็นึกอะไรไม่ออกเขาพบว่าซูฉินดูเหมือนจะไม่เคยปรากฏอยู่ในยุทธภพต่างแดนแห่งนี้เลย

” เจ้าต้องการสิ่งใด? ” ประมุขพรรคหมื่นดาบระงับความโกรธในใจเน้นคำทุกพยางค์ที่พูด

” พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไร” ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อยเขาจับตำแหน่งของหลีหว่านด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วตอนนี้เพียงต้องกวาดทำลายพรรคหมื่นดาบและนำตัวหลีหว่านออกมา

” ข้าทำมันด้วยตัวเองได้”

ทันทีที่สิ้นเสียงซูฉินก็ก้าวขาหนึ่งก้าวยกมือขวาขึ้นเล็งไปยังกลุ่มคนที่มีประมุขพรรคหมื่นดาบรวมอยู่ในนั้น
ซูม

พลังฟ้าดินสั่นสะเทือนต่อเนื่องบรรจบรวมกันเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่กดลงไปบนเกาะหมี่นดาบอย่างรวดเร็ว

” บังอาจ”

ประมุขพรรคหมื่นดาบยังไม่ทันได้กล่าวคำบรรพชนที่ตื่นขึ้นมาและซ่อนตัวอยู่ในเงามืดก็โกรธจัดจิตใจของพวกเขารวมเข้ากับค่ายกลสังหารบนเกาะหมื่นดาบเข้าต้านรับฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า

ตู้ม

ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อของทุกคนค่ายกลสังหารได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสอดประสานกันวูบไหวต่อเนื่องเข้าปิดกั้นฝ่ามือขนาดยักษ์

อย่างไรก็ตามทันทีที่ทั้งสองปะทะกันค่ายกลสังหารก็สั่นสะเทือนและในที่สุดก็ยุบตัวลงไปไม่น้อยภายใต้แรงกดดันจากฝ่ามือขนาดยักษ์

” นี่คือ!! ”

ท่าทีของบรรพชนพรรคหมื่นดาบที่เข้าต้านทานพลันเปลี่ยนไปอย่างมาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+