เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 97 วังหลวงอันมั่งคั่ง

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 97 วังหลวงอันมั่งคั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 97 วังหลวงอันมั่งคั่ง

 

 

ในที่สุดซูฉินก็ตกลงตามข้อเสนอของซูเยว่หยุน

 

จุดประสงค์ในการมาเยือนเมืองฉางอันในครั้งนี้แต่เดิมก็เพื่อหาสถานที่ลงชื่อเข้าใช้แห่งใหม่ที่ไม่สามัญธรรมดาอยู่แล้ว และเมื่อมองไปทั่วทั้งฉางอันก็มีเพียงวังหลวงของอาณาจักรแห่งนี้เท่านั้นที่สามารถมี ‘เต๋าสะสม‘ จำนวนมากได้

 

ท้ายที่สุดเมืองหลวงอันเก่าแก่อย่างฉางอันที่อยู่ยั้งยืนยงมาตั้งสิบราชวงศ์ ก็ถูกบูรณะซ่อมแซม สร้างใหม่หลายต่อหลายครั้งหลังจากผ่านเวลามาหลายพันปี มีเพียงวังหลวงเท่านั้นที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบันนี้

 

ด้วยความแข็งแกร่งของซูฉินในขณะนี้ เว้นไว้แต่มีตำนานยุทธอยู่ภายในรั้วในวัง การแอบเข้าไปภายในก็ทำได้ง่ายเหมือนกับเพียงการกินดื่มอาหาร

 

แต่อย่างน้อยการมีตำแหน่งตัวตนก็ทำให้ซูฉินมีเหตุผลที่จะเข้าออกจากวังได้อย่างอิสระในอนาคต

 

“ได้เลย”

 

“ข้าจะคุยกับฝ่าบาทเมื่อข้ากลับไปคืนนี้”

 

ซูเยว่หยุนกังวลใจอย่างมากเกี่ยวกับการงานของพี่ชายสามของเธอ และหลังจากกลับไปที่พระราชวังตะวันออกเธอก็แจ้งให้องค์ชายหลี่เชิงทราบ

 

องค์ชายหลี่เชิงตอบตกลงโดยไม่มีแม้แต่ความลังเลใจ

 

เนื่องจากซูฉินเป็นพี่ชายคนที่สามของซูเยว่หยุน นั่นก็คือ ‘พี่เขยคนเล็ก‘ หลี่เชิงย่อมยึดถือเป็นคนในครอบครัว เป็นธุระส่วนตัวที่เขาจะไม่ปฏิเสธ

 

วันถัดมา ซูฉินย้ายเข้าไปในพระราชวังตะวันออกโดยไม่มีอุปสรรคใด

 

และเพื่อที่จะ ‘เอาอกเอาใจ‘ พี่เขยอย่างซูฉิน องค์ชายหลี่เชิงได้จัดแจงตำหนักชุนฝั่งขวาของพระราชวังตะวันออกให้แก่ซูฉิน

 

“สมแล้วที่เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ถึงสิบราชวงศ์ แทบจะสมบูรณ์แบบไปเสียหมดทั้งในแง่การวางผังและด้านอื่นๆ…”

 

ซูฉินยืนอยู่ในห้องใต้หลังคาของตำหนักชุนฝั่งขวา มองไปที่วังหลวงทั้งหมดและแอบพยักหน้าเล็กน้อยภายในใจ

 

เมื่อเทียบความแตกต่างกับวัดเส้าหลิน วังหลวงเป็นสถานที่คนละรูปแบบกัน ทั้งสง่างามและทรงอำนาจ ทุกซอกทุกมุมเผยให้เห็นความสูงส่งของอาณาจักร

 

“หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง…”

 

แววจางๆ ที่สื่อถึงความคาดหวังปรากฏขึ้นในดวงตาของซูฉิน

 

 

เวลาผ่านเลยไป

 

หนึ่งเดือนผ่านไปในพริบตา

 

หนึ่งเดือนมานี้ซูฉินก็ไปเยี่ยมชมในพื้นที่ส่วนเล็กๆ ภายในราชวัง

 

แน่นอนว่าซูฉินไม่ได้คาดหวังอะไรมาก

 

แต่วังหลวงก็ยังมีที่ให้เขาลงชื่อเข้าใช้ได้

 

และสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับซูฉิน สถานที่ลงชื่อเข้าใช้ในวังหลวงนั้นมีมากกว่าวัดเส้าหลินเสียอีก

 

ในวัดเส้าหลิน สถานที่ที่ซูฉินลงชื่อเข้าใช้ซ้ำได้หลายๆ ครั้ง คือ หอคอยสะกดมาร ศาลาพระคัมภีร์ และลานโพธิ์

 

แต่ในวังหลวง อย่างน้อยก็มีสถานที่ถึงห้าแห่งที่ซูฉินสามารถลงชื่อเข้าใช้ได้อย่างต่อเนื่อง

 

ที่กล่าวว่าอย่างน้อยก็เพราะพระราชวังนั้นมีขนาดใหญ่โตเกินไป

 

ยังมีอีกหลายสถานที่ที่ซูฉินไม่ได้ไปลงชื่อเข้าใช้ ดังนั้นจึงบอกได้เพียงว่า อย่างน้อยที่สุด

 

สถานที่ปัจจุบันที่ซูฉินได้ลงชื่อเข้าใช้ ได้แก่ ห้องโถงชีวิตนิรันดร์ หอชมดาว ตำหนักไท่จี๋[1] จัตุรัสหยกขาว แท่นบูชาเทพธรณีและการเก็บเกี่ยว[2] และสถานที่อื่นๆ

 

ตัวอย่างเช่น ในห้องโถงชีวิตนิรันดร์ ซูฉินลงชื่อเข้าใช้และได้รับคัมภีร์ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ]

 

[เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] เป็นความรู้เฉพาะทางของลัทธิเต๋า โดยอ้างว่าสามารถรวบรวมพลังฉีเพื่อเพิ่มอายุขัยหรือยืดอายุให้ยืนยาวออกไปได้

 

ในทุกรอบร้อยปี จะมีข่าวเกี่ยวกับคนที่โชคดี ได้รับเคล็ดวิชาลับยืดอายุ และสามารถยืดอายุของพวกเขาออกไปได้เป็นสิบปี หรือแม้กระทั่งร้อยปี

 

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ เกณฑ์ในการเข้าถึง [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] นั้นสูงเกินเป็น จำเป็นต้องมีร่างกายที่มีศักยภาพเข้าถึงธรรมชาติจึงจะสามารถเข้าใจความหมายอันลึกซึ้งของความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษย์และสวรรค์ภายในคัมภีร์ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] และมีอายุยืนยาวขึ้นได้

 

แต่ก็เท่านั้น ร่างกายที่มีศักยภาพเข้าถึงธรรมชาติหายากเพียงใดกัน? บางทีอาจจะมีหนึ่งในล้านคน หายากเทียบเท่าได้กับการจะหายอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งสักหนึ่งคน

 

กล่าวอีกนัย แม้ว่าจะมีคนได้รับ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] ไป แต่ก็มีโอกาสที่จะไม่สามารถเริ่มต้นฝึกได้อยู่สูงมาก

 

แต่ซูฉินแตกต่างออกไป

 

ด้วยการฝังข้อมูลของระบบ เกณฑ์ในการเข้าถึง[เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] สามารถถูกละเลยไปได้

 

ในคืนที่ได้รับ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] มา ซูฉินก็เริ่มฝึกมันไปเรียบร้อยแล้ว

 

ในเดือนถัดมา ซูฉินได้ฝึกฝน [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] ไปอย่างรวดเร็วและยืดอายุขัยของตนเองไปอีกสองร้อยปีด้วยอาศัยพลังของระดับอรหันต์

 

“อายุขัยอีกสองร้อยปี…”

 

ท่าทีของซูฉินเต็มไปด้วยความสุข

 

อายุขัยสองร้อยปีผนวกกับอายุขัยแปดร้อยปีเมื่อเข้าถึงระดับอรหันต์ ตราบใดที่ไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น ซูฉินสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นพันปี

 

ซึ่งสิ่งนี้เป็นเพียงกรณีที่ว่าซูฉินไม่ได้ก้าวหน้าอีกเลยในหนึ่งพันปีข้างหน้า

 

“หนึ่งพันปี…”

 

ซูฉินดูเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก

 

แม้แต่ราชวงศ์ถังก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าห้าร้อยปีแล้ว ด้วยอายุขัยของซูฉินเทียบเป็นสองเท่าของสองยุคราชวงศ์ถัง

 

“ไม่เลวไม่เลว”

 

ซูฉินพอใจมาก

 

สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือเกณฑ์ในการเข้าถึง [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] นี้สูงเกินกว่าคนหมู่มากจะฝึกได้ แม้ว่าซูฉินจะฝึกจนประสบความสำเร็จจนถึงขีดสุด แต่ก็เป็นไปไม่ได้สำหรับคนอื่นที่จะเรียนรู้จนเชี่ยวชาญวิชาทางเต๋านี้

 

นอกเหนือจากที่ได้รับ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] จากห้องโถงชีวิตนิรันดร์แล้ว

 

ซูฉินยังลงชื่อเข้าใช้ในหอชมดาวและได้รับ [ทักษะดึงดูดดารา]

 

 

[ทักษะดึงดูดดารา] สามารถดึงเอาพลังของดวงดารานับล้านดวงมาเปลี่ยนเป็นอาวุธสังหารหรือสิ่งปกป้องร่างกายจากภัยอันตราย

 

แน่นอนว่า [ทักษะดึงดูดดารา] มีข้อกำหนดสำหรับผู้ใช้วิชาอยู่สูงมาก อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเป็นยอดปรมาจารย์ที่สามารถกลั่นจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วจึงจะมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะฝึก

 

และแม้ว่าจะเป็นยอดปรมาจารย์ที่กลั่นจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ก็เพียงดึงพลังจากดวงดาวมาใช้ได้แค่ไม่กี่ดวง ผลของทักษะก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก

 

“มันมีผลเฉกเช่นเดียวกับวิชาขัดเกลากายาจันทรา”

 

ซูฉินแตะปลายคาง ดวงตาดูครุ่นคิด

 

วิชาขัดเกลากายาจันทราสามารถรวบรวมพลังของดวงจันทร์ ในขณะที่ทักษะดึงดูดดาราคือพลังในการดึงเอาพลังงานจากดวงดาวมาใช้

 

บางทีคนอื่นอาจจะคิดว่าดวงจันทร์ก็คือดวงจันทร์ ส่วนดวงดาวก็คือดวงดาว ทั้งสองหาใช่สิ่งเดียวกันไม่

 

แต่ซูฉินรู้ดี ไม่ว่าจะดวงจันทร์ หรือแม้แต่ดวงอาทิตย์ดวงโตที่อยู่บนฟากฟ้า ก็เป็นเพียงดวงดาวดวงหนึ่งจากดาวนับพันนับล้านดวง

 

ความแตกต่างของพวกมันไม่มีอะไรมากไปกว่าระยะทาง

 

นอกจากนี้

 

ซูฉินได้ลงชื่อเข้าใช้ที่จัตุรัสหยกขาว ได้รับ [กายาหยกขาว] และลงชื่อเข้าใช้ที่แท่นบูชาเทพธรณีฯ ได้รับ [หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ] และสิ่งอื่นๆ กลับมา

 

[กายาหยกขาว] เป็นวิชาขัดเกลาร่างกายที่คล้ายคลึงกับ [กายาวัชรคงกระพัน]

 

ดังนั้นซูฉินจึงไม่สนใจมันเท่าไหร่นัก ด้วยร่างกายของเขาในปัจจุบัน แม้จะฝึก[กายาหยกขาว]จนถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ มันก็จะไม่มีการพัฒนาใดเกิดขึ้น

 

แต่กลับเป็น [หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ] ที่ได้มาจากแท่นบูชาเทพธรณีฯ ที่สร้างความยินดีอันล้นปริ่มให้กับซูฉิน

 

[หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ] เป็นของเหลววิเศษที่เกิดขึ้นมาจากพลังฟ้าดิน มันหายากมาก โดยมากจะพบเจอโดยอรหันต์หรือตำนานยุทธที่ท่องไปทั่วยุทธภพและโชคดีเจอสักหนึ่งหรือสองหยด

 

แต่ผลของ [หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ] ก็ยิ่งใหญ่ไม่น้อย มันสามารถสร้างความก้าวหน้าให้การบ่มเพาะระดับอรหันต์ได้อย่างมาก

 

ซูฉินลองกลืนหยดน้ำไปหนึ่งหยดหลังจากลงชื่อเข้าใช้และได้รับ [หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ] มา และผลลัพธ์ก็คือความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในทันที หากซูฉินไม่ระงับเอาไว้ได้ทันเวลาและต้องการจะรอจนกว่าจะมั่นใจเต็มที่ก่อนการตัดผ่านขอบเขต เกรงว่าเขาคงทะลุไปถึงอรหันต์ในระดับนภาชั้นที่สี่แล้ว

 

“แต่ละหยดของ [หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ] อาจเปรียบได้กับโอสถอายุวัฒนะเคลือบทองคำถึงสิบเม็ด และมันยังเป็นรูปแบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการดูดซับ”

 

ซูฉินประหลาดใจ

 

รู้หรือไม่ว่าหลังจากบ่มเพาะพระสูตรอมิตาภาบรรพกาล ซูฉินยังต้องใช้เวลาหลายวันในการดูดซับตัวยาในโอสถอายุวัฒนะเคลือบทองคำจนเสร็จสมบูรณ์

 

แต่[หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ]นั้นต่างออกไป ไม่เพียงมีประสิทธิภาพที่มากกว่าโอสถอายุวัฒนะเคลือบทองคำถึงสิบเท่า แต่ยังช่วยซูฉินประหยัดเวลาในการย่อยตัวยาไปได้มาก

 

ถ้าเป็นเช่นนี้การเลื่อนระดับพลังของซูฉินจะรวดเร็วจนน่ากลัว

 

“ยังมีอะไรอีกมากมายที่รอให้ข้าได้ไปพบเห็น”

 

“ถ้ายังอยู่ในวัดเส้าหลินต่อไป คงจะไม่ได้เห็นสมบัติอันทรงคุณค่าเช่นนี้…”

 

ซูฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

 

 

——————————————-

[1] 太极殿 ไท่จี๋เตี้ยน หรือตำหนักอัครธุวมณฑล เป็นหมู่พระตำหนักที่อยู่ฝั่งตะวันออก (เรียกว่า ตงลิ่วกง มีทั้งสิ้นหกตำหนัก ซึ่งอ้างอิงจากประวัติศาสตร์ยุคหลัง ไม่ทราบเช่นกันว่าภายในยุคสมัยราชวงศ์ถังเป็นอย่างไร และในนิยายยังเป็นโลกคู่ขนานที่มีการวมหลายราชวงศ์อีกต่างหาก)

[2] 社稷坛เซ่อจี้ถาน แท่นบูชาเทพธรณีและการเก็บเกี่ยว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 97 วังหลวงอันมั่งคั่ง

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 97 วังหลวงอันมั่งคั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 97 วังหลวงอันมั่งคั่ง

 

 

ในที่สุดซูฉินก็ตกลงตามข้อเสนอของซูเยว่หยุน

 

จุดประสงค์ในการมาเยือนเมืองฉางอันในครั้งนี้แต่เดิมก็เพื่อหาสถานที่ลงชื่อเข้าใช้แห่งใหม่ที่ไม่สามัญธรรมดาอยู่แล้ว และเมื่อมองไปทั่วทั้งฉางอันก็มีเพียงวังหลวงของอาณาจักรแห่งนี้เท่านั้นที่สามารถมี ‘เต๋าสะสม‘ จำนวนมากได้

 

ท้ายที่สุดเมืองหลวงอันเก่าแก่อย่างฉางอันที่อยู่ยั้งยืนยงมาตั้งสิบราชวงศ์ ก็ถูกบูรณะซ่อมแซม สร้างใหม่หลายต่อหลายครั้งหลังจากผ่านเวลามาหลายพันปี มีเพียงวังหลวงเท่านั้นที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบันนี้

 

ด้วยความแข็งแกร่งของซูฉินในขณะนี้ เว้นไว้แต่มีตำนานยุทธอยู่ภายในรั้วในวัง การแอบเข้าไปภายในก็ทำได้ง่ายเหมือนกับเพียงการกินดื่มอาหาร

 

แต่อย่างน้อยการมีตำแหน่งตัวตนก็ทำให้ซูฉินมีเหตุผลที่จะเข้าออกจากวังได้อย่างอิสระในอนาคต

 

“ได้เลย”

 

“ข้าจะคุยกับฝ่าบาทเมื่อข้ากลับไปคืนนี้”

 

ซูเยว่หยุนกังวลใจอย่างมากเกี่ยวกับการงานของพี่ชายสามของเธอ และหลังจากกลับไปที่พระราชวังตะวันออกเธอก็แจ้งให้องค์ชายหลี่เชิงทราบ

 

องค์ชายหลี่เชิงตอบตกลงโดยไม่มีแม้แต่ความลังเลใจ

 

เนื่องจากซูฉินเป็นพี่ชายคนที่สามของซูเยว่หยุน นั่นก็คือ ‘พี่เขยคนเล็ก‘ หลี่เชิงย่อมยึดถือเป็นคนในครอบครัว เป็นธุระส่วนตัวที่เขาจะไม่ปฏิเสธ

 

วันถัดมา ซูฉินย้ายเข้าไปในพระราชวังตะวันออกโดยไม่มีอุปสรรคใด

 

และเพื่อที่จะ ‘เอาอกเอาใจ‘ พี่เขยอย่างซูฉิน องค์ชายหลี่เชิงได้จัดแจงตำหนักชุนฝั่งขวาของพระราชวังตะวันออกให้แก่ซูฉิน

 

“สมแล้วที่เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ถึงสิบราชวงศ์ แทบจะสมบูรณ์แบบไปเสียหมดทั้งในแง่การวางผังและด้านอื่นๆ…”

 

ซูฉินยืนอยู่ในห้องใต้หลังคาของตำหนักชุนฝั่งขวา มองไปที่วังหลวงทั้งหมดและแอบพยักหน้าเล็กน้อยภายในใจ

 

เมื่อเทียบความแตกต่างกับวัดเส้าหลิน วังหลวงเป็นสถานที่คนละรูปแบบกัน ทั้งสง่างามและทรงอำนาจ ทุกซอกทุกมุมเผยให้เห็นความสูงส่งของอาณาจักร

 

“หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง…”

 

แววจางๆ ที่สื่อถึงความคาดหวังปรากฏขึ้นในดวงตาของซูฉิน

 

 

เวลาผ่านเลยไป

 

หนึ่งเดือนผ่านไปในพริบตา

 

หนึ่งเดือนมานี้ซูฉินก็ไปเยี่ยมชมในพื้นที่ส่วนเล็กๆ ภายในราชวัง

 

แน่นอนว่าซูฉินไม่ได้คาดหวังอะไรมาก

 

แต่วังหลวงก็ยังมีที่ให้เขาลงชื่อเข้าใช้ได้

 

และสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับซูฉิน สถานที่ลงชื่อเข้าใช้ในวังหลวงนั้นมีมากกว่าวัดเส้าหลินเสียอีก

 

ในวัดเส้าหลิน สถานที่ที่ซูฉินลงชื่อเข้าใช้ซ้ำได้หลายๆ ครั้ง คือ หอคอยสะกดมาร ศาลาพระคัมภีร์ และลานโพธิ์

 

แต่ในวังหลวง อย่างน้อยก็มีสถานที่ถึงห้าแห่งที่ซูฉินสามารถลงชื่อเข้าใช้ได้อย่างต่อเนื่อง

 

ที่กล่าวว่าอย่างน้อยก็เพราะพระราชวังนั้นมีขนาดใหญ่โตเกินไป

 

ยังมีอีกหลายสถานที่ที่ซูฉินไม่ได้ไปลงชื่อเข้าใช้ ดังนั้นจึงบอกได้เพียงว่า อย่างน้อยที่สุด

 

สถานที่ปัจจุบันที่ซูฉินได้ลงชื่อเข้าใช้ ได้แก่ ห้องโถงชีวิตนิรันดร์ หอชมดาว ตำหนักไท่จี๋[1] จัตุรัสหยกขาว แท่นบูชาเทพธรณีและการเก็บเกี่ยว[2] และสถานที่อื่นๆ

 

ตัวอย่างเช่น ในห้องโถงชีวิตนิรันดร์ ซูฉินลงชื่อเข้าใช้และได้รับคัมภีร์ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ]

 

[เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] เป็นความรู้เฉพาะทางของลัทธิเต๋า โดยอ้างว่าสามารถรวบรวมพลังฉีเพื่อเพิ่มอายุขัยหรือยืดอายุให้ยืนยาวออกไปได้

 

ในทุกรอบร้อยปี จะมีข่าวเกี่ยวกับคนที่โชคดี ได้รับเคล็ดวิชาลับยืดอายุ และสามารถยืดอายุของพวกเขาออกไปได้เป็นสิบปี หรือแม้กระทั่งร้อยปี

 

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ เกณฑ์ในการเข้าถึง [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] นั้นสูงเกินเป็น จำเป็นต้องมีร่างกายที่มีศักยภาพเข้าถึงธรรมชาติจึงจะสามารถเข้าใจความหมายอันลึกซึ้งของความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษย์และสวรรค์ภายในคัมภีร์ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] และมีอายุยืนยาวขึ้นได้

 

แต่ก็เท่านั้น ร่างกายที่มีศักยภาพเข้าถึงธรรมชาติหายากเพียงใดกัน? บางทีอาจจะมีหนึ่งในล้านคน หายากเทียบเท่าได้กับการจะหายอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งสักหนึ่งคน

 

กล่าวอีกนัย แม้ว่าจะมีคนได้รับ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] ไป แต่ก็มีโอกาสที่จะไม่สามารถเริ่มต้นฝึกได้อยู่สูงมาก

 

แต่ซูฉินแตกต่างออกไป

 

ด้วยการฝังข้อมูลของระบบ เกณฑ์ในการเข้าถึง[เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] สามารถถูกละเลยไปได้

 

ในคืนที่ได้รับ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] มา ซูฉินก็เริ่มฝึกมันไปเรียบร้อยแล้ว

 

ในเดือนถัดมา ซูฉินได้ฝึกฝน [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] ไปอย่างรวดเร็วและยืดอายุขัยของตนเองไปอีกสองร้อยปีด้วยอาศัยพลังของระดับอรหันต์

 

“อายุขัยอีกสองร้อยปี…”

 

ท่าทีของซูฉินเต็มไปด้วยความสุข

 

อายุขัยสองร้อยปีผนวกกับอายุขัยแปดร้อยปีเมื่อเข้าถึงระดับอรหันต์ ตราบใดที่ไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น ซูฉินสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นพันปี

 

ซึ่งสิ่งนี้เป็นเพียงกรณีที่ว่าซูฉินไม่ได้ก้าวหน้าอีกเลยในหนึ่งพันปีข้างหน้า

 

“หนึ่งพันปี…”

 

ซูฉินดูเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก

 

แม้แต่ราชวงศ์ถังก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าห้าร้อยปีแล้ว ด้วยอายุขัยของซูฉินเทียบเป็นสองเท่าของสองยุคราชวงศ์ถัง

 

“ไม่เลวไม่เลว”

 

ซูฉินพอใจมาก

 

สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือเกณฑ์ในการเข้าถึง [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] นี้สูงเกินกว่าคนหมู่มากจะฝึกได้ แม้ว่าซูฉินจะฝึกจนประสบความสำเร็จจนถึงขีดสุด แต่ก็เป็นไปไม่ได้สำหรับคนอื่นที่จะเรียนรู้จนเชี่ยวชาญวิชาทางเต๋านี้

 

นอกเหนือจากที่ได้รับ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] จากห้องโถงชีวิตนิรันดร์แล้ว

 

ซูฉินยังลงชื่อเข้าใช้ในหอชมดาวและได้รับ [ทักษะดึงดูดดารา]

 

 

[ทักษะดึงดูดดารา] สามารถดึงเอาพลังของดวงดารานับล้านดวงมาเปลี่ยนเป็นอาวุธสังหารหรือสิ่งปกป้องร่างกายจากภัยอันตราย

 

แน่นอนว่า [ทักษะดึงดูดดารา] มีข้อกำหนดสำหรับผู้ใช้วิชาอยู่สูงมาก อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเป็นยอดปรมาจารย์ที่สามารถกลั่นจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วจึงจะมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะฝึก

 

และแม้ว่าจะเป็นยอดปรมาจารย์ที่กลั่นจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ก็เพียงดึงพลังจากดวงดาวมาใช้ได้แค่ไม่กี่ดวง ผลของทักษะก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก

 

“มันมีผลเฉกเช่นเดียวกับวิชาขัดเกลากายาจันทรา”

 

ซูฉินแตะปลายคาง ดวงตาดูครุ่นคิด

 

วิชาขัดเกลากายาจันทราสามารถรวบรวมพลังของดวงจันทร์ ในขณะที่ทักษะดึงดูดดาราคือพลังในการดึงเอาพลังงานจากดวงดาวมาใช้

 

บางทีคนอื่นอาจจะคิดว่าดวงจันทร์ก็คือดวงจันทร์ ส่วนดวงดาวก็คือดวงดาว ทั้งสองหาใช่สิ่งเดียวกันไม่

 

แต่ซูฉินรู้ดี ไม่ว่าจะดวงจันทร์ หรือแม้แต่ดวงอาทิตย์ดวงโตที่อยู่บนฟากฟ้า ก็เป็นเพียงดวงดาวดวงหนึ่งจากดาวนับพันนับล้านดวง

 

ความแตกต่างของพวกมันไม่มีอะไรมากไปกว่าระยะทาง

 

นอกจากนี้

 

ซูฉินได้ลงชื่อเข้าใช้ที่จัตุรัสหยกขาว ได้รับ [กายาหยกขาว] และลงชื่อเข้าใช้ที่แท่นบูชาเทพธรณีฯ ได้รับ [หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ] และสิ่งอื่นๆ กลับมา

 

[กายาหยกขาว] เป็นวิชาขัดเกลาร่างกายที่คล้ายคลึงกับ [กายาวัชรคงกระพัน]

 

ดังนั้นซูฉินจึงไม่สนใจมันเท่าไหร่นัก ด้วยร่างกายของเขาในปัจจุบัน แม้จะฝึก[กายาหยกขาว]จนถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ มันก็จะไม่มีการพัฒนาใดเกิดขึ้น

 

แต่กลับเป็น [หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ] ที่ได้มาจากแท่นบูชาเทพธรณีฯ ที่สร้างความยินดีอันล้นปริ่มให้กับซูฉิน

 

[หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ] เป็นของเหลววิเศษที่เกิดขึ้นมาจากพลังฟ้าดิน มันหายากมาก โดยมากจะพบเจอโดยอรหันต์หรือตำนานยุทธที่ท่องไปทั่วยุทธภพและโชคดีเจอสักหนึ่งหรือสองหยด

 

แต่ผลของ [หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ] ก็ยิ่งใหญ่ไม่น้อย มันสามารถสร้างความก้าวหน้าให้การบ่มเพาะระดับอรหันต์ได้อย่างมาก

 

ซูฉินลองกลืนหยดน้ำไปหนึ่งหยดหลังจากลงชื่อเข้าใช้และได้รับ [หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ] มา และผลลัพธ์ก็คือความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในทันที หากซูฉินไม่ระงับเอาไว้ได้ทันเวลาและต้องการจะรอจนกว่าจะมั่นใจเต็มที่ก่อนการตัดผ่านขอบเขต เกรงว่าเขาคงทะลุไปถึงอรหันต์ในระดับนภาชั้นที่สี่แล้ว

 

“แต่ละหยดของ [หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ] อาจเปรียบได้กับโอสถอายุวัฒนะเคลือบทองคำถึงสิบเม็ด และมันยังเป็นรูปแบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการดูดซับ”

 

ซูฉินประหลาดใจ

 

รู้หรือไม่ว่าหลังจากบ่มเพาะพระสูตรอมิตาภาบรรพกาล ซูฉินยังต้องใช้เวลาหลายวันในการดูดซับตัวยาในโอสถอายุวัฒนะเคลือบทองคำจนเสร็จสมบูรณ์

 

แต่[หยดน้ำจิตวิญญาณธรรมชาติ]นั้นต่างออกไป ไม่เพียงมีประสิทธิภาพที่มากกว่าโอสถอายุวัฒนะเคลือบทองคำถึงสิบเท่า แต่ยังช่วยซูฉินประหยัดเวลาในการย่อยตัวยาไปได้มาก

 

ถ้าเป็นเช่นนี้การเลื่อนระดับพลังของซูฉินจะรวดเร็วจนน่ากลัว

 

“ยังมีอะไรอีกมากมายที่รอให้ข้าได้ไปพบเห็น”

 

“ถ้ายังอยู่ในวัดเส้าหลินต่อไป คงจะไม่ได้เห็นสมบัติอันทรงคุณค่าเช่นนี้…”

 

ซูฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

 

 

——————————————-

[1] 太极殿 ไท่จี๋เตี้ยน หรือตำหนักอัครธุวมณฑล เป็นหมู่พระตำหนักที่อยู่ฝั่งตะวันออก (เรียกว่า ตงลิ่วกง มีทั้งสิ้นหกตำหนัก ซึ่งอ้างอิงจากประวัติศาสตร์ยุคหลัง ไม่ทราบเช่นกันว่าภายในยุคสมัยราชวงศ์ถังเป็นอย่างไร และในนิยายยังเป็นโลกคู่ขนานที่มีการวมหลายราชวงศ์อีกต่างหาก)

[2] 社稷坛เซ่อจี้ถาน แท่นบูชาเทพธรณีและการเก็บเกี่ยว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+