เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 101 พวกเขากำลังกินข้าวด้วยกัน

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 101 พวกเขากำลังกินข้าวด้วยกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในห้องรับประทานอาหาร 

 

 

หลินเช่อกินอาหารเสร็จแล้ว หญิงสาวรู้สึกประทับใจเป็นที่สุด 

 

 

“อร่อยจังเลยค่ะ” เธอเงยหน้าขึ้นบอกกับกู้จิ้งเจ๋อ 

 

 

ชายหนุ่มยิ้มแล้วพูดราวกับผู้ชนะ “ฉันบอกแล้วไงว่าอร่อย ไม่ได้โกหก เห็นมั้ยล่ะ” 

 

 

หลินเช่อว่า “ค่ะๆ อร่อยจริงๆ นั่นแหละ” 

 

 

ริมฝีปากของเธอเลอะคราบมัน แต่น่าแปลกตรงแทนที่มันจะดูสกปรก ปากเธอกลับดูอวบอิ่มน่าจูบยิ่งกว่าเดิมเสียอีก 

 

 

เขาไม่อาจทนมองได้อีกต่อไปจึงเปลี่ยนเรื่องไปพูดถึงเศษขนมปังที่ติดอยู่บนหน้าเธอแทน “ยัยบ๊อง ดูกินเข้าสิ อาหารติดเต็มปากไปหมดแล้ว” 

 

 

เธอเอียงหน้าเพื่อให้เขาปัดออกให้ 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อยิ้มแล้วเอื้อมมือออกไปหยิบเศษขนมปังออกก่อนจะส่งมันเข้าปากตัวเองหน้าตาเฉย 

 

 

หลินเช่อตาโตด้วยความตกใจแล้วพึมพำเบาๆ ว่า “ตาบ้า นี่เป็นบ้าไปแล้วหรือไงคะ” 

 

 

เขายิ้มแล้วตอบเธอเสียงอ่อน “อร่อยดีออก” 

 

 

“…” หลินเช่อหน้าแดงก่ำ ตวัดสายตามองคนทำตัวพิเรนทร์อย่างหมั่นไส้ 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อถาม “มีอะไรรึ ฉันก็แค่บอกว่าขนมปังก็อร่อยดีเท่านั้นเอง” 

 

 

“ฉะ…ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” หลินเช่ออึกอัก “ถ้าอร่อยนัก นี่ก็มีอีกตั้งเยอะ กินจากในจานสิคะ” 

 

 

ทำไมจะต้องมากินที่มันติดอยู่บนปากเธอด้วย! 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อยิ้มแล้วขยับเข้ามาใกล้ “ก็ของเธออร่อยกว่านี้นา” 

 

 

“…” 

 

 

“กู้จิ้งเจ๋อ คุณจะบ้าเหรอ” หลินเช่อร้องขึ้นอีกครั้ง 

 

 

ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง เสียงหัวเราะนั้นดูจะดังออกมาจากใจเพราะฟังแล้วช่างเต็มไปด้วยความเบิกบานในอารมณ์โดยแท้ 

 

 

หลินเช่อไม่กล้าต่อปากต่อคำอีก ได้แต่กัดขนมปังเต็มแรงแก้โมโหโดยคิดซะว่าเป็นหัวของผู้ชายที่นั่งข้างๆ นั่นแหละ 

 

 

ทว่าสองหนุ่มสาวไม่ได้ล่วงรู้เลยสักนิดว่าบริเวณข้างนอกห้องนั้น โม่ฮุ่ยหลิงที่กำลังจะเดินไปยังห้องรับประทานอาหารของเธอกับเพื่อนๆ กลับมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าห้องที่กู้จิ้งเจ๋อและหลินเช่อกำลังกินอาหารกันอยู่ได้อย่างไรก็ไม่ทราบ 

 

 

เงี่ยหูฟังจากภายนอก เธอก็ได้ยินเสียงกู้จิ้งเจ๋อหัวเราะ 

 

 

นี่เขาหัวเราะเสียงดังแบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ 

 

 

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถ้าเขาพอใจหรือมีความสุข อย่างเก่งกู้จิ้งเจ๋อก็จะทำแค่เพียงยกมุมปากขึ้นน้อยๆ เท่านั้น เขาเป็นคนที่ระมัดระวังกิริยามารยาทอยู่เสมอ แต่ตอนนี้กลับ… 

 

 

พวกเขาต้องไม่ได้พูดคุยเรื่องธุรกิจกันอยู่แน่! 

 

 

โม่ฮุ่ยหลิงมั่นใจ 

 

 

เธอเพ่งเข้าไปในห้องอย่างหัวเสีย ทำท่าจะเดินปึงปังเข้าไปทันที 

 

 

แต่พนักงานของร้านมาเห็นเข้าเสียก่อนจึงรีบปราดเข้ามาขวางไว้ 

 

 

ทว่าหล่อนจึงไม่กล้ายื้อยุดอีกฝ่ายมากนักด้วยก็รู้ดีว่าโม่ฮุ่ยหลิงเป็นใคร ทำได้แค่เพียงถามออกไปว่า “คุณโม่คะ คุณจะทำอะไรเหรอคะ” 

 

 

เมื่อถูกห้าม โม่ฮุ่ยหลิงก็ยิ่งหงุดหงิดเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว 

 

 

“แกคิดว่าแกเป็นใครกันถึงกล้ามาห้ามฉันแบบนี้น่ะ ปล่อยนะ ฉันจะเข้าไป! ฉันรู้ว่ากู้จิ้งเจ๋ออยู่ในนั้น ลองเข้าไปถามดูสิว่าเขาจะยอมให้คนอย่างพวกแกมาขวางฉันไว้แบบนี้หรือเปล่า! แกรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร” 

 

 

พนักงานทำหน้าจนใจไร้หนทางเมื่อหญิงสาวดึงดันจะเข้าไปให้ได้ อากัปกิริยาของโม่ฮุ่ยหลิงดูราวกับจะลืมวางตัวให้ดูสวยสง่างดงามตามปกติ เสื้อผ้าของเธอตอนนี้เองก็เริ่มหลุดลุ่ยยุ่งเหยิง 

 

 

โม่ฮุ่ยหลิงยังตะโกนต่อไปอีกว่า “เร็วเข้าสิยะ ให้ฉันเข้าไป ไม่อย่างนั้นฉันจะบอกกู้จิ้งเจ๋อให้เฉดหัวพวกแกออกให้หมดทุกคน!” 

 

 

หญิงสาวระเบิดโทสะหนักขึ้นชนิดที่เรียกว่าหน้ามืดตามัวไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้ว 

 

 

ภายในห้อง สองหนุ่มสาวกำลังเพลิดเพลินอยู่กับของหวาน จนกระทั่งอยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเอะอะมะเทิ่งดังขึ้นข้างนอก 

 

 

หลินเช่อตกใจเล็กน้อย “มีคนทะเลาะกันข้างนอกเหรอคะ เสียงดังเชียว” 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อไม่นึกอยากจะสนใจอะไรทั้งสิ้น วันนี้เขาต้องการอยู่กับหลินเช่อเพื่อฉลองชัยชนะให้กับเธอเท่านั้น เขาหันมองหญิงสาว ยังคงพึงใจกับการกินอย่างเอร็ดอร่อยของเธอเมื่อครู่นี้ แต่เมื่อเสียงดังจากภายนอกเริ่มรบกวนบรรยากาศอันรื่นรมย์ บวกกับเห็นหลินเช่อเริ่มลุกขึ้นยืน ชายหนุ่มจึงยืนขึ้นแล้วบอกว่า “ฉันจะไปดูเอง” 

 

 

หลินเช่ออดเดินตามหลังไปด้วยไม่ได้ 

 

 

เมื่อเขาเปิดประตูห้องออกมา เขาก็ได้ยินเสียงโม่ฮุ่ยหลิงที่กำลังตวาดลั่นว่า “พวกแกทั้งหมดทุกคนเลยนะ รอเดี๋ยวก่อนเถอะ! ไอ้พวกสารเลวทุกคนที่นี่เลย…คอยดูนะว่าฉันจะจัดการกับพวกแกยังไง!” 

 

 

แต่แล้วเธอก็สังเกตเห็นว่าประตูห้องเปิดออก รวมถึงเห็นว่ากู้จิ้งเจ๋อกำลังยืนมองมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยเย็นชา โม่ฮุ่ยหลิงตกใจแทบสิ้นสติ 

 

 

ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่อาจถอนคำพูดกลับคืนได้อีกแล้ว จึงได้แต่เพียงยืนขยับปากไปมา นึกหาถ้อยคำแก้ตัว 

 

 

รู้ทั้งรู้ว่ากู้จิ้งเจ๋ออยู่ในห้อง แต่เธอก็ยังพูดจาแย่ๆ แบบนี้ออกมา 

 

 

เพราะความโกรธทำให้เธอไม่ทันได้ยั้งคิด 

 

 

ท่าทีของเธอพลันอ่อนลงทันทีเมื่อเธอเห็นกู้จิ้งเจ๋อออกจากห้อง ทว่าเมื่อเธอเห็นหลินเช่อค่อยๆ โผล่ตามหลังมา ดวงตาของเธอก็เบิกโพลงแล้วจ้องมองอีกฝ่ายอย่างชิงชัง 

 

 

สรุปแล้วกู้จิ้งเจ๋อมากินข้าวกับนังหลินเช่องั้นเหรอ 

 

 

กลายเป็นว่ากู้จิ้งเจ๋อพานังหลินเช่อมาดินเนอร์กันสินะ 

 

 

เธอหันไปมองเขาอย่างโกรธจัด “จิ้งเจ๋อคะ คุณ…ทำไมคุณถึงมากินอาหารที่นี่กับหล่อนได้ล่ะ แล้วทำไมคุณถึงนั่งในห้องนั้น คุณ…คุณทำแบบนี้ได้ยังไงคะ” 

 

 

ชายหนุ่มมองมาด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ 

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเธอสติหลุดอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ 

 

 

ซ้ำยังบริภาษคนอื่นด้วยถ้อยคำหยาบคายแบบนั้นอีก 

 

 

ถ้าเป็นหลินเช่อที่ใช้คำพูดแบบนี้ เขายังพอจะเข้าใจได้เพราะหลินเช่อไม่เคยเสแสร้งหรือมีจริต เธอเป็นเพียงผู้หญิงบ้านๆ ที่คิดอะไรก็พูดออกไปแบบนั้น 

 

 

แต่สำหรับกู้จิ้งเจ๋อแล้ว โม่ฮุ่ยหลิงคือหญิงสาวผู้เรียบร้อยและแสนดี แม้บางครั้งเธอจะดื้อรั้นไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยทำท่าทีอย่างคนไร้กิริยา 

 

 

ทว่าในตอนนี้เธอกลับไม่มีอะไรเหมือนหญิงสาวแสนดีที่ว่านั่นเลยสักนิด โม่ฮุ่ยหลิงทำตัวเหมือนผู้หญิงปากร้าย เธอจิกตามองหลินเช่อด้วยสีหน้าแทบจะกินเลือดกินเนื้อ 

 

 

เขาขยับเท้าเข้าไปหาเธอสองสามก้าว เหล่าพนักงานรีบพากันถอยกรูดและเฝ้าดูคนทั้งสาม 

 

 

โม่ฮุ่ยหลิงฉวยโอกาสนี้โผเข้าไปหาเขา เธอกอดชายหนุ่มและอิงแอบชนิดแนบแน่นไม่ยอมปล่อย ก่อนจะพูดว่า “จิ้งเจ๋อคะ พวกเขาใจร้ายมากเลยค่ะ ฉันได้ยินเสียงคุณดังมาจากในห้องแต่พวกเขาไม่ยอมให้ฉันเข้าไปหา พวกเขาบอกว่าคุณพาผู้หญิงอื่นมาออกเดตด้วยและกลัวว่าฉันจะไปรบกวนคุณเข้า ฉันไม่มีสิทธิ์เข้าไปหาคุณข้างใน ฉะ…ฉันก็เลยโมโหมาก” 

 

 

พนักงานทั้งหลายมีท่าทีหัวเสีย ทำไมคุณโม่ถึงพูดจาโกหกหน้าตายแบบนี้ล่ะ 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อรู้สึกได้ว่าหลินเช่อยังคงยืนอยู่ไม่ไกลนัก เขาจึงขมวดคิ้วแล้วผลักโม่ฮุ่ยหลิงให้ออกห่างจากตัว จากนั้นก็ก้มหน้าลงมองเธอแล้วพูดว่า “เกิดอะไรขึ้นน่ะ พูดช้าๆ หน่อยสิ” 

 

 

โม่ฮุ่ยหลิงเงยหน้าน้ำตาคลอ “ยังไงก็ช่างเถอะ ทำไมคุณถึงพาหล่อนมาที่นี่ละคะ” 

 

 

ทว่าเขากลับตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบยิ่งว่า “ก็อาหารที่นี่อร่อยดี ฉันก็เลยพาเขามากินที่นี่ มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ” 

 

 

“อะไรนะคะ แต่ที่นี่เป็นที่ของเรานะคะ คุณพาฉันมากินที่นี่เสมอ แล้วนี่คุณจะมาพาผู้หญิงอื่นมาที่นี่ด้วยได้ยังไงกันคะ” 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อถอนใจยาว “ที่นี่เป็นที่ของเราตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” 

 

 

“คุณ…” โม่ฮุ่ยหลิงหน้าถอดสี 

 

 

หลินเช่อไม่อยากจะก้าวก่ายเรื่องของทั้งสอง เธอมองหน้ากู้จิ้งเจ๋อที โม่ฮุ่ยหลิงที แล้วพูดขึ้นว่า “ทำไมพวกคุณสองคนไม่คุยกันสักหน่อยละคะ แล้วเดี๋ยวฉันกลับก่อน” 

 

 

“รอเดี๋ยว” เขารั้งตัวเธอไว้ เมื่อได้เห็นว่าเธอยังไม่ได้สวมเสื้อโค้ต เขาก็เดินเข้าไปในห้องเพื่อหยิบมันมาสวมให้เธอ “ไปรอฉันในรถนะ” 

 

 

เขาบอกเธออย่างอ่อนโยน 

 

 

หลินเช่อมองหน้าอีกฝ่ายและนึกสงสัยว่าสถานการณ์ตรงหน้านี้จะคลี่คลายลงในเวลาอันสั้นได้อย่างไร 

 

 

แต่ในเมื่อมีหลายคนกำลังเฝ้ามองอยู่ เธอจึงทำได้แค่เพียงพยักหน้ารับ “โอเคค่ะ” 

 

 

ขณะมองหลินเช่อเดินจากไป สีหน้าของโม่ฮุ่ยหลิงก็ดุดันราวกับอยากฆ่าใครสักคนให้ตายคามือ 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด