เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 111 ก็ทำในสิ่งที่ฉันควรจะทำให้ภรรยาสุดที่รักน่ะสิ

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 111 ก็ทำในสิ่งที่ฉันควรจะทำให้ภรรยาสุดที่รักน่ะสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“นะ…นั่นมันไม่เหมือนกันนี่คะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อพูด “ไม่เหมือนกันตรงไหน ตั้งชื่อนี้นั่นแหละดีแล้ว แบบนี้เวลาที่เธอไปเจอเหตุการณ์อันตรายเหมือนเมื่อวาน คนอื่นจะได้รู้ว่าต้องติดต่อใครยังไงล่ะ”

 

 

“แต่…” หลินเช่อก็ยังอดคิดไม่ได้ว่ามันยังฟังแล้วจั๊กจี้อยู่ดีนั่นแหละ แค่เห็นก็ขนลุกแล้ว

 

 

โดยเฉพาะเมื่อคนที่ถูกเรียกว่าสามีสุดที่รักนั้นคือกู้จิ้งเจ๋อ

 

 

สีหน้าของชายหนุ่มเริ่มบึ้งตึงขณะหันมาสำทับเธอว่า “ถ้าเธอแอบเปลี่ยนมันละก็ฉันจะไปที่บริษัทเธอแล้วช่วยเปลี่ยนมันกลับไปเป็นชื่อเดิมด้วยตัวเองเลย”

 

 

“…” ถ้าแบบนั้นเห็นจะไม่ไหว

 

 

ถึงอย่างไรเธอก็ยังต้องฝากอนาคตไว้กับบริษัทแห่งนี้ เธอต้องการมีชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วไปและมุ่งมั่นทำงานหนักเพื่อพาตัวเองให้ไปสู่จุดสูงสุด ถ้าปล่อยให้กู้จิ้งเจ๋อเข้าไปวุ่นวายที่นั่นเห็นทีว่าเธอคงต้องบอกลาชีวิตนักแสดงละนะ

 

 

หลินเช่อคิดแล้วก็ได้แต่บุ้ยปากให้กับความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น “แต่เบอร์ของฉันในโทรศัพท์คุณยังเป็นชื่อฉันอยู่เลยนะคะ”

 

 

“แล้วทำไมล่ะ”

 

 

หญิงสาวกลอกตาแล้วเริ่มมองหาโทรศัพท์ของอีกฝ่าย “เอาโทรศัพท์คุณมาหน่อยค่ะ”

 

 

“เธอจะทำอะไร” กู้จิ้งเจ๋อถาม ตอนแรกเขาจะผลักเธอออกไป แต่เมื่อนึกถึงอาการบาดเจ็บที่ขาของหลินเช่อแล้ว เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ทำอะไรรุนแรง

 

 

หลินเช่อวิ่งไล่เขาไปรอบๆ เพื่อพยายามแย่งโทรศัพท์ จนสุดท้ายเธอก็สามารถล้วงหยิบจากกระเป๋าเขาได้สำเร็จ

 

 

“เฮ้ นี่เธอจะทำอะไรน่ะ อย่าวิ่งแบบนี้สิ” คนตัวใหญ่กว่าพยายามจะคว้าตัวอีกฝ่ายไว้

 

 

หลินเช่อกระโดดหลบ มือที่จับโทรศัพท์ไว้เหยียดออกไปจนสุดแขนพลางพยายามมองหาชื่อตัวเองจากรายชื่อผู้ติดต่อ แล้วเมื่อหาพบ เธอก็จัดแจงปลี่ยนเสียใหม่เป็น ‘ภรรยาสุดที่รัก’

 

 

กู้จิ้งเจ๋อคว้าตัวหญิงสาวไว้ได้ในที่สุด แต่ก็ดันเสียหลักเอนใส่ร่างหลินเช่อจนร่างทั้งสองล้มโครมลงบนเตียงพร้อมกัน

 

 

หญิงสาวยังมัวแต่สาละวนสนใจอยู่กับโทรศัพท์จนไม่ทันได้สังเกตว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังก้มหน้าก้มตามองดูหน้าอกอ่อนนุ่มของตัวเองอย่างเพลิดเพลิน หนำซ้ำยังยิ้มอย่างพอใจอีกต่างหาก

 

 

จนกระทั่งเปลี่ยนชื่อได้สำเร็จ เธอก็หันไปยิ้มให้เขาอย่างผู้มีชัย

 

 

กู้จิ้งเจ๋อรีบคว้าโทรศัพท์คืนไปทันที และเมื่อได้เห็นชื่อที่ถูกเปลี่ยน เขาก็หันขวับกลับมามองเธอทันที

 

 

มุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆ พอมองดูตัวอักษรเหล่านั้นอยู่อีกครู่หนึ่ง เขาก็คิดว่ามันก็เป็นถ้อยคำที่ฟังดูดีทีเดียว

 

 

เขาหันมามองหลินเช่อ มือใหญ่ยังจับมือเรียวเล็กของอีกฝ่ายเอาไว้ ดวงตาของเขาเป็นประกายสดใส ริมฝีปากคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม “มาเปลี่ยนชื่อเองตามอำเภอใจแบบนี้เป็นเรื่องยอมรับไม่ได้หรอกนะ”

 

 

หลินเช่อที่เพิ่งรู้สึกตัวว่ามีร่างของอีกฝ่ายนอนทับอยู่ด้านบนเริ่มดิ้นขลุกขลัก

 

 

“คะ…คุณจะเปลี่ยนกลับก็ได้นะคะ”

 

 

ตอนนี้หลินเช่อรู้แล้วว่าเธอไม่อาจเอาชนะเขาด้วยกำลังจึงเริ่มยอมแพ้เสียแต่เนิ่นๆ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อยิ้มแต่ยังคงไม่ขยับตัวออกจากเธอ “ในเมื่อเธอเปลี่ยนมันไปแล้ว ฉันก็จะไม่เปลี่ยนกลับหรอกนะ แต่ว่า…”

 

 

ระหว่างที่พูด เขาก็ก้มหน้าลงมาอีกครั้ง “สามีสุดที่รักอยากจะทำอะไรภรรยาสุดที่รักแบบที่สามีคนอื่นเขาอยากจะทำกันบ้างน่ะ”

 

 

“อะไรคะ” หลินเช่อเบิกตาโพลง

 

 

แล้วเขาก็ก้มลงมาแตะจูบเข้าที่ริมฝีปากเธอ

 

 

“อ๊ะ…” หลินเช่อรีบผลักเขาออกโดยแรง

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะเสียงดัง หญิงสาวรีบกระโดดผลุงลงจากเตียงแล้วพุ่งเข้าห้องน้ำไปทันที

 

 

ก็เธอยังไม่ได้แปรงฟันเลยนี่นา นี่เขาไม่นึกรังเกียจบ้างเลยหรือไงนะ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อหลบฉากหนีไปในชั่วพริบตาแล้วก็ได้แต่ยิ้มอยู่เงียบๆ หลินเช่ออาจจะไม่เคยอ่านหนังสือสามสิบหกกลยุทธ์สามก๊ก แต่เธอก็รู้จักใช้มันเป็นอย่างดีทีเดียว

 

 

 

 

ในช่วงกลางวัน หลินเช่อไปที่บริษัท

 

 

เมื่อเธอไปถึง ผู้คนที่นั่นต่างหันมามองหญิงสาวและลอบสังเกตอาการบาดเจ็บที่ขาของเธอกันอย่างไม่วางตา เพราะเมื่อคืนนี้ทุกคนต่างก็รอให้หลินเช่อแวะมา แต่เธอกลับไม่ได้ปรากฏตัว

 

 

เธอเคยเป็นเพียงดาราระดับหางแถวที่ต้องคอยถูกคนอื่นข่มมาโดยตลอดแบบนี้เหมือนกัน ใครจะคิดล่ะว่าอยู่ๆ เธอจะได้โด่งดังขึ้นมาขนาดนี้

 

 

ถึงจะมีคนอิจฉาริษยาแต่ก็เป็นธรรมดาของวงการนี้ เพราะใครจะดังก็ขึ้นอยู่กับว่าโอกาสของใครมาถึง แต่ก็ไม่ได้มีแค่เรื่องของดวงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีใครรู้หรอกว่าใครจะได้กลายเป็นดาวรุ่งขึ้นมาบ้าง

 

 

หลินเช่อเองก็เคยเป็นแบบนี้ เธอเข้ามาเป็นนักแสดงสังกัดของบริษัทแห่งนี้พร้อมกันกับคนอื่นๆ แต่ตอนนี้เธอกลายเป็นดาราดังเสียแล้ว ได้ปรากฏตัวเคียงข้างคนดังระดับซูเปอร์สตาร์มากมาย แต่เพื่อนบางคนยังต้องรับเล่นแต่บทเล็กๆ กระจอกงอกง่อยกันต่อไป

 

 

เมื่อหลินเช่อได้เจออวี๋หมินหมิ่นเธอก็รีบขอโทษ “เมื่อวานนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนั้นเลยจริงๆ ค่ะ”

 

 

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันบอกที่บริษัทเรื่องอาการบาดเจ็บของเธอแล้วละ อย่างน้อยก็ไม่มีใครว่าอะไรนะ คราวหน้าจะขับรถก็ระวังหน่อยแล้วกัน” อวี๋หมินหมิ่นพูดพลางชักชวนให้อีกฝ่ายนั่งลง

 

 

แต่หลินเช่อพูดหน้าเศร้าว่า “ฉันคงไม่ได้ขับรถอีกแล้วละค่ะ”

 

 

“ทำไมล่ะ รถเสียหายมากขนาดนั้นเลยเหรอ” ผู้จัดการสาวถาม

 

 

หญิงสาวตอบ “เปล่าหรอกค่ะ กู้จิ้งเจ๋อน่ะสิคะ เขาไม่ยอมให้ฉันขับรถอีกแล้วล่ะ”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นได้ฟังแล้วก็อึ้งไปพักใหญ่ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น “กู้จิ้งเจ๋อเขาก็ทำเพื่อตัวเธอเองนะ”

 

 

หลินเช่อได้แต่คิดอยู่เงียบๆ คนเดียว ที่ผ่านมาก็แทบจะไม่ได้แตะรถเลยด้วยซ้ำ แล้วนี่ตอนนี้ยังโดนห้ามขับอีก ให้ตายเถอะ…

 

 

อวี๋หมินหมิ่นพูดต่อไปว่า “ว่าแต่ตอนนี้รายการเรียลลิตี้โชว์จะเป็นงานใหญ่ชิ้นต่อไปของเธอนะ ทางรายการเขาอยากได้เธอไปเป็นแขกรับเชิญสักหนึ่งสัปดาห์น่ะ ว่าไง อยากไปหรือเปล่า”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นพูดพลางมองดูรอยแผลที่ขาของหลินเช่อด้วยท่าทีกังวลใจเล็กน้อย

 

 

แต่เจ้าตัวกลับรีบบอกว่า “ว้าว รายการเรียลลิตี้นี้ดังมากเลยนะคะ”

 

 

“ใช่แล้ว” อวี๋หมินหมิ่นเสริมอีกว่า “แต่พอถึงเวลาถ่ายทำจริงๆ มันก็จะมีการเล่นเกมบ้างนิดหน่อยนะ”

 

 

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แผลแค่นี้เดี๋ยวก็คงหายแล้วล่ะ”

 

 

“ตกลง แต่ถ้าถึงเวลาต้องถ่ายแล้วอะไรๆ ยังไม่ดีขึ้นละก็ ฉันจะบอกผู้กำกับเองว่าอย่าให้ทำอะไรโลดโผนจนเกินไป เธอเองก็ควรจะพักผ่อนให้เต็มที่ในช่วงสองสามวันนี้นะ การถ่ายทำจะเริ่มสัปดาห์หน้า ยังพอมีเวลาอยู่”

 

 

“อืม ค่ะ”

 

 

พอตกบ่าย หลินเช่อก็นั่งรถของทางบ้านตระกูลกู้เพื่อกลับบ้าน โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น เมื่อก้มลงมองก็ได้เห็นชื่อ ‘สามีสุดที่รัก’ ตัวใหญ่เบ้อเร่อผุดขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ หญิงสาวนึกกระอักกระอ่วนใจ เพราะถึงอย่างไรนี่ก็ยังทำให้เธออดรู้สึกแปลกพิลึกไม่ได้ เธอกดรับสายและได้ยินเสียงอีกฝ่ายดังขึ้นว่า [ฉันขอให้เฉินอวี่เฉิงช่วยตรวจร่างกายเธอ เธอจะกลับบ้านกี่โมง]

 

 

“ไม่เอาหรอกค่ะ เขาเป็นจิตแพทย์ไม่ใช่เหรอคะ”

 

 

[เขาชำนาญทางด้านจิตเวชน่ะ รีบๆ กลับมานะ]

 

 

หญิงสาวได้เพียงแต่รับคำ แต่แล้วเธอก็ได้รับการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันวีแชต

 

 

เป็นข้อความจากโยวหรานนั่นเอง [หลินเช่อจ๊ะ ยัยแก่ของเธอกับมาแล้วนะ ทำไมไม่มารับฉันที่สนามบินล่ะ โทรไปก็ไม่รับ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า]

 

 

เฉินโยวหรานกลับมาแล้ว

 

 

หลินเช่อดีใจสุดขีด ไม่คิดเลยว่าหล่อนจะกลับมาวันนี้

 

 

โยวหรานคือเพื่อนรักที่สุดของเธอ หล่อนเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศเมื่อหนึ่งปีก่อนและเพิ่งเดินทางกลับมาในวันนี้

 

 

หลินเช่อรีบพิมพ์ตอบลงไปในวีแชต “รอฉันอยู่ที่สนามบินนั่นแหละ ฉันจะไปรีบเดี๋ยวนี้”

 

 

[นี่เธอจะมาจริงๆ เหรอ งั้นฉันจะรอที่ร้านกาแฟในสนามบินนะ]

 

 

เสร็จแล้วหญิงสาวก็รีบบอกคนขับให้ตรงไปที่สนามบิน ระหว่างที่เธอยกหูโทรหากู้จิ้งเจ๋อ

 

 

“กู้จิ้งเจ๋อคะ ฉันยังกลับไปตอนนี้ไม่ได้นะ เพื่อนฉันเพิ่งเดินทางมาถึง ฉันก็เลยจะไปรับที่สนามบินน่ะค่ะ”

 

 

[อะไรนะ ใครกัน] เขารัวคำถามด้วยความสงสัย แต่หลินเช่อไม่ได้ให้โอกาสที่จะถามต่อเพราะเจ้าตัวกดวางสายไปแล้วอย่างรวดเร็ว

 

 

กู้จิ้งเจ๋อนั่งจ้องคำว่า ‘ภรรยาสุดที่รัก’ บนหน้าจอโทรศัพท์อย่างหัวเสีย

 

 

นี่มันภรรยาประสาอะไรกัน…

 

 

“ไปสืบมาหน่อยว่าคนรู้จักของคุณผู้หญิงคนไหนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศวันนี้” เขาสั่งฉินเฮ่า

 

 

ฉินเฮ่ากลับมาพร้อมคำตอบในเวลาอันรวดเร็ว เขามองหน้าผู้เป็นเจ้านายอย่างไม่สู้แน่ใจนัก ก่อนจะรายงานว่า “ท่านครับ ดูเหมือนว่าวันนี้…คุณชายรองตระกูลฉินจะเดินทางกลับมาจากฝรั่งเศสครับ”

 

 

อะไรนะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด