เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 175 เมื่อวานใครเป็นคนรับโทรศัพท์น่ะ

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 175 เมื่อวานใครเป็นคนรับโทรศัพท์น่ะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันต่อมา หลินเช่อปวดท้องหนักเสียจนสะดุ้งตื่น

 

 

แต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังคงต้องไปยังสถานที่ถ่ายทำอยู่ดีเพื่อเตรียมตัว ด้วยรายการจะเริ่มขึ้นในตอนกลางคืน เพราะฉะนั้นตอนกลางวันนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งวุ่นวายอย่างที่สุด ทุกคนมาจะซักซ้อมและลองดำเนินรายการเหมือนจริงกันเป็นรอบสุดท้าย

 

 

อวี๋หมินหมิ่นมาเคาะประตูห้องของหลินเช่อแต่เช้าตรู่ ห้องที่ทีมงานจัดเตรียมเอาไว้ให้อวี๋หมินหมิ่นนั้นเป็นห้องมาตรฐานขนาดเล็ก ส่วนห้องของหลินเช่อเป็นห้องสวีต ซึ่งนับว่าเป็นการดูแลที่ดีทีเดียวสำหรับแขกของรายการอย่างเธอ ทำเอาหลินเช่อปลาบปลื้มอยู่นาน เธออยากให้อวี๋หมินหมิ่นมาพักเสียที่ห้องเดียวกัน แต่ผู้จัดการสาวก็ยังยืนกรานให้หลินเช่อพักคนเดียวให้สบาย เพราะถึงอย่างไร เธอก็ต้องออกไปมีกิจกรรมถ่ายทำอยู่ข้างนอกเกือบตลอดทั้งวัน

 

 

ในตอนเช้า อวี๋หมินหมิ่นเดินขึ้นมาหาหลินเช่อ หลังจากเคาะประตู ประตูห้องก็เปิดออก แต่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับกลายเป็นกู้จิ้งเจ๋อที่แต่งกายเนี้ยบเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า

 

 

มุมปากของอวี๋หมินหมิ่นขยับยกขึ้น เธอมองชายหนุ่มแล้วทักทายว่า “ท่านประธานกู้…”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อบอกเบาๆ ว่า “หลินเช่อยังอาบน้ำอยู่น่ะ”

 

 

“อ้อ งั้นเดี๋ยวฉันจะรอก็แล้วกันค่ะ เรายังมีเวลา”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นไม่ได้เดินเข้ามารอในห้อง แต่ยืนรออยู่หน้าประตูอย่างอ่อนน้อม กู้จิ้งเจ๋อเองก็ไม่ได้ปิดประตูเช่นกัน ในไม่ช้าหลินเช่อก็วิ่งพรวดพราดออกมา

 

 

เมื่อเห็นอวี๋หมินหมิ่น หญิงสาวก็อดรู้สึกกระดากขึ้นมานิดๆ ไม่ได้

 

 

ใครจะคิดว่าอยู่ๆ กู้จิ้งเจ๋อจะมาถึงที่นี่ตอนกลางดึก แล้วตอนนี้เขาก็ยังอยู่ในห้องเดียวกับเธออีก เมื่ออวี๋หมินหมิ่นเห็นแบบนี้ ความคิดของผู้จัดการสาวจะต้องหลงทิศผิดไปไกลอย่างแน่นอน

 

 

ต่อให้ความจริงมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเขาและเธอก็ตามที

 

 

หลินเช่อบอกว่า “ฉันเสร็จแล้วค่ะ ไปกันเถอะ”

 

 

“นี่ ไม่ต้องรีบหรอก เตรียมตัวให้ดีเถอะ ดูให้แน่ใจด้วยว่าไม่ได้ลืมอะไรน่ะ”

 

 

“ก็ไม่ได้ต้องเอาอะไรไปมากมายนี่คะ”

 

 

“ก็จริง เอ้า ไปเถอะ! รีบลงข้างล่างกัน”

 

 

โชคดีที่เธอไม่ได้เรียกตัวผู้ช่วยอีกสองคนให้ขึ้นไปตามหลินเช่อข้างบนด้วยกัน ไม่อย่างนั้นแล้ว สองคนนั่นคงจะต้องเป็นลมล้มพับเพราะช็อคกับภาพที่เห็นเป็นแน่แท้

 

 

โชคดีที่อวี๋หมินหมิ่นรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่เนิ่นๆ อีกอย่างก็คือ เธออยู่ในวงการนี้มาหลายปี จนใช่ว่าเธอจะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน เธอเลยไม่ได้ตกใจจนถึงขั้นร้องกรี๊ดออกมาเมื่อได้เจอกู้จิ้งเจ๋อโดยบังเอิญเช่นนี้

 

 

หลินเช่อหันไปพูดกับชายหนุ่ม “งั้นฉันไปก่อนนะคะ”

 

 

“อือ นี่ รีบกลับมาล่ะ” เขาดึงเธอไว้แล้วยัดผ้าอนามัยใส่ลงกระเป๋าให้

 

 

นั่นแหละหลินเช่อถึงนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมอะไร

 

 

“เกือบลืมไปแน่ะค่ะ”

 

 

“เธอนี่ขี้ลืมสิ้นดี” ชายหนุ่มมองคนหน้ามึน

 

 

หลินเช่อแลบลิ้นแผล่บให้ “ก็ฉันชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้นี่!” ก่อนจะรีบปิดประตู

 

 

จนเมื่อเดินพ้นจากโรงแรมแล้วนั่นแหละ อวี๋หมินหมิ่นจึงหันไปถามหลินเช่อว่า “ทำไมเธอถึงไม่บอกละว่าจะมีคนมาหาน่ะ”

 

 

หลินเช่อว่า “อยู่ๆ เขาก็โผล่มาเมื่อคืนน่ะค่ะ ฉัน…”

 

 

“ดูเหมือนว่าท่านประธานกู้จะทนอยู่ห่างเธอไม่ได้สินะ ไม่เจอหน้าแค่ไม่กี่วันก็รีบมาตามขนาดนี้แล้ว” อวี๋หมินหมิ่นยิ้มพลางพูดเย้าๆ

 

 

หน้าของหลินเช่อแดงระเรื่อ “ไม่หรอกค่ะ ไม่ใช่หรอก”

 

 

“ถ้าไม่ใช่แล้วอยู่ๆ เขาจะถ่อจากเมือง B มาถึงเมือง S นี่ทำไมกัน ไม่ใช่เพราะจะมาเซอร์ไพรส์เธอหรอกเธอ ฉันไม่ยักรู้แฮะว่าประธานกู้นี่ก็โรแมนติกกับเขาเหมือนกัน ฉันคิดมาตลอดว่าเขาเป็นคนเข้มงวดจริงจัง คอยระวังทั้งคำพูดกิริยาซะอีกแน่ะ”

 

 

เขาก็เป็นคนเข้มงวดจริงๆ นั่นแหละค่ะ แล้วก็ไม่ใช่คนโรแมนติกอะไรเลยสักนิด” หลินเช่อบอก “ที่มาคราวนี้ก็เพราะว่ามีเหตุผลน่ะค่ะ”

 

 

หลินเช่อรู้ดีว่าที่เขามาคราวนี้ เพราะเขาคิดว่าเธอป่วยหนัก

 

 

อวี๋หมินหมิ่นพูดว่า “ไม่แปลกใจที่ว่าทำไมโรงแรมทั้งชั้นถึงได้ถูกปิดล้อมตอนที่ฉันเดินขึ้นมา เพราะกู้จิ้งเจ๋อเกิดมาถึงปุบปับนี่เอง ตอนแรกฉันคิดว่าเธอก็ยังไม่ใช่ดาราดังขนาดนั้น ไม่เห็นจะต้องมีคนคอยล้อมห้องขนาดนี้ หรือถึงขนาดสั่งห้ามให้ใครมาพักชั้นเดียวกัน ที่แท้ก็เพราะกู้จิ้งเจ๋อนี่เอง ที่ฉันได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปได้ก็เพราะว่าฉันกับกู้จิ้งเจ๋อเคยเจอกันมาก่อน เขาก็เลยยอมปล่อยให้ฉันเข้าไปเพราะเป็นผู้จัดการของเธอ”

 

 

หลินเช่อร้อง “จริงเหรอคะ”

 

 

หลินเช่อไม่รู้มาก่อนว่าจะมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดขนาดนี้เวลาที่เขาออกไปข้างนอก

 

 

อวี๋หมินหมิ่นพูดต่อไป “แต่กู้จิ้งเจ๋อนี่ก็นิสัยไม่เลวเลยนะ เขาตั้งใจเปิดประตูทิ้งเอาไว้เพราะเขารู้ว่าฉันเป็นผู้จัดการของเธอ”

 

 

“…” หลินเช่อสงสัย “แล้วทำไมนั่นถึงทำให้เขาเป็นคนที่ไม่เลวเลยได้ละคะ”

 

 

“ก็ต่อให้เขาปิดประตู ฉันก็คงไม่พูดอะไรหรอก แต่ก็จะยืนรออยู่ตรงนั้นนั่นแหละ แต่เขารู้วิธีที่จะรักษาความรู้สึกของคน เขาตั้งใจไม่ปิดประตูเพื่อแสดงว่าเขาให้เกียรติผู้อื่น”

 

 

ด้วยเหตุนี้อวี๋หมินหมิ่นจึงรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่ใช้ได้ทีเดียว ความประทับใจที่มีต่อกู้จิ้งเจ๋อเพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ

 

 

หลินเช่อได้แต่อุทานออกมาว่า “โอ้”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นยังอธิบายต่อไปอีกด้วยว่า “ที่เขาทำแบบนี้ก็เพราะเห็นแก่เธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอละก็ เขาคงไม่ให้เกียรติฉันขนาดนี้หรอก”

 

 

“ไม่ใช่หรอกค่ะ อันที่จริงเขาเป็นคนมารยาทดีกับทุกๆ คน พอรู้จักเขาไปสักพัก พี่ก็จะรู้เองนั่นแหละค่ะ”

 

 

“เธอไม่รู้วิธีที่กู้จิ้งเจ๋อปฏิบัติต่อคนอื่นข้างนอกนั่นน่ะสิ ด้วยสถานะของเขาแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องให้เกียรติใครเลยด้วยซ้ำ มารยาทดีเหรอ วิธีที่เขาพูดกับเธออย่างมารยาทดีน่ะเป็นเพราะว่าสถานะของเขามันชัดเจนยังไงล่ะ”

 

 

“อย่างนั้นหรอกเหรอคะ”

 

 

“เอาละ ทีนี้ฉันเข้าใจแล้วละ ว่าอธิบายให้เธอฟังไปก็เท่านั้น เพราะตอนนี้เธอคือแม่สาวน้อยที่กำลังถูกกู้จิ้งเจ๋อเพะเน้าพะนอเอาใจขนานหนัก แถมระดับสติปัญญาของเธอยังเป็นศูนย์อีกต่างหาก”

 

 

“เงียบไปเลยนะคะ!”

 

 

หลินเช่อครุ่นคิดกับตัวเอง กู้จิ้งเจ๋อเอาใจเธอตรงไหนกัน

 

 

แทบไม่มีเลยสักนิด

 

 

ที่เธอไม่รู้ก็เพราะส่วนใหญ่แล้วชายหนุ่มจะทำตัวเกกมะเหรกเกเรเหมือนอันธพาลใส่เธออยู่เกือบตลอดเวลา

 

 

จริงอยู่ว่ามีช่วงเวลาที่เขาปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดีอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็ทำเพียงเพราะว่าต้องการปฏิบัติต่อเธอในฐานะภรรยาเท่านั้นเอง

 

 

เมื่อไปถึง สถานที่ถ่ายทำก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างหนักอย่างที่คิดไว้

 

 

หลินเช่อเข้าไปห้องแต่งตัวเพื่อแต่งหน้า ไม่ช้า ฉินหวานหว่านก็เข้ามา

 

 

หล่อนซื้อกาแฟมาฝากทุกคน ชื่อเสียงของเธอจัดได้ว่าดีมากทีเดียว ใครต่อใครก็พากันเข้ามาทักทายกันเต็มไปหมด ฉินหวานหว่านวางแก้วกาแฟให้หลินเช่อ หลินเช่อขอบคุณ ขณะที่ฉินหวานหว่านนั่งลงข้างๆ เพื่อแต่งหน้าไปพร้อมกัน

 

 

“หลินเช่อ ฮิๆ บอกความจริงฉันมาเดี๋ยวนี้นะ เมื่อคืนเธอเล่นซนอะไร วันนี้ถึงได้ดูโทรมขนาดนี้น่ะ”

 

 

“…” เธอจะไปเล่นซนอะไรได้ล่ะเนี่ย

 

 

แต่จะว่าไป อันที่จริงเธอก็ทำเรื่องซุกซนจริงๆ เสียด้วย แล้วก็เกือบจะทำเรื่องไม่ดี ไม่ดีเอามากๆ เสียด้วยสิ

 

 

เมื่อนึกย้อนกลับไป หลินเช่อก็คิดได้ว่าประจำเดือนของเธอช่างมาได้จังหวะพอดิบพอดีเสียเหลือเกิน แรกทีเดียวหลินเช่อคิดว่ามันน่าจะมาในวันสองวันนี้ แต่เธอก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจมากนัก เธอจำวันที่ที่แน่นอนที่ประจำเดือนจะมาไม่ได้ แต่บางทีความตื่นเต้นจากเหตุการณ์เมื่อวาน อาจเป็นเหตุให้เลือดลมเกิดไหลเวียนผิดปกติก็ได้ละมัง

 

 

“ฉันมีประจำเดือนอยู่น่ะ วันนี้ก็เลยดูซีดเซียวหน่อย” หลินเช่อว่า

 

 

ฉินหวานหว่านมองอย่างเห็นใจ “แย่จังเลยนะ มาเป็นประจำเดือนตอนถ่ายรายการสดแบบนี้น่ะ”

 

 

“ใช่แล้วละ”

 

 

“ฉันพกยามาด้วยนะ เดี๋ยวฉันเอาให้กิน มันช่วยแก้ปวดดีมาก ถ้าไม่ปวดท้องมากก็มาเอาไปกินได้นะ”

 

 

“ขอบคุณมาก”

 

 

“ทำไมเธอถึงพูดจาเป็นงานเป็นการกับฉันจังเลยล่ะเนี่ย” ฉินหวานหว่านถาม โน้มตัวเข้ามาใกล้ ยิ้มให้และถามว่า “แล้วคนที่รับโทรศัพท์เมื่อคืนเป็นใครกันน่ะ”

 

 

“โทรศัพท์อะไรเหรอ” ใบหน้าของหลินเช่อเต็มไปด้วยความงุนงงสับสน

 

 

ฉินหวานหว่านท้วงว่า “อย่าตีหน้าซื่อไปหน่อยเลยน่า ก็เมื่อวานนี้ฉันโทรไปชวนเธอออกมาสนุกกัน แต่มีผู้ชายรับสาย นี่ บอกมานะ นี่เธอซ่อนผู้ชายคนไหนเอาไว้น่ะ ถึงขนาดพามางานอีเวนต์ด้วยแบบนี้เลยเชียว ว่าแต่เสียงเขาฟังแล้วเร้าใจดีจังเลยนะ นุ่มหูเป็นบ้า แถมเสียงยังฟังดูคุ้นๆ อีกต่างหาก อย่างกับเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนอย่างนั้นแหละ”

 

 

ทันใดนั้นหลินเช่อก็ถึงบุคคลหนึ่งขึ้นมาได้… กู้จิ้งเจ๋อ

 

 

จะเป็นใครไปได้อีกล่ะถ้าไม่ใช่เขา

 

 

นี่เขารับโทรศัพท์ของเธออย่างนั้นเหรอ

 

 

หลินเช่อมองฉินหวานหว่านด้วยความงุนงง ในช่วงเวลานั้นเธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ถ้าเธอบอกคนอื่นว่าเธอมีสามีแล้ว… เธอจะรับมือกับเรื่องนี้ยังไง

 

 

ในเมื่อเธอกับเขาแต่งงานกันแบบลับๆ นี่นา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด