เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 240 หลินเช่อนั้นดีมาก ส่วนโม่ฮุ่ยหลิงก็แย่มาก

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 240 หลินเช่อนั้นดีมาก ส่วนโม่ฮุ่ยหลิงก็แย่มาก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 240 หลินเช่อนั้นดีมาก ส่วนโม่ฮุ่ยหลิงก็แย่มาก

“ไม่ค่ะ ฉันไม่ต้องการแบบนั้น” โม่ฮุ่ยหลิงว่า “คุณเลิกกับฉันแล้วนะคะ แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมายุ่งเกี่ยวเรื่องของฉันอีก” โม่ฮุ่ยหลิงถามด้วยความไม่พอใจพลางเบือนหน้าหนี

“ใช่ ฉันเลิกกับเธอแล้ว…ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะไปบอกให้เธอทำอะไรอีก เธอจะไปมีแฟนก็ได้ถ้าเธอต้องการ ฉันรู้จักผู้ชายดีๆ หลายคนที่ฉันสามารถแนะนำให้เธอค่อยๆ ทำความรู้จัก…”

“อะไรนะ” ก่อนที่ชายหนุ่มจะทันพูดจบ โม่ฮุ่ยหลิงก็ขัดขึ้นเสียก่อน “ช่างมันเถอะค่ะ ฉันไม่ได้อยากให้คุณแนะนำใครให้ฉันหรอก แล้วถ้าคุณเกิดไม่ชอบหน้าผู้ชายคนไหนซักคนที่ฉันควงด้วยล่ะ”

โม่ฮุ่ยหลิงคิด เขาช่างสรรหาข้ออ้างได้ดีจริงๆ ถ้าเขาไม่อยากให้เธอคบคนอื่นก็บอกมาตรงๆ สิ ทำไมจะต้องทำมาเป็นบอกว่าจะแนะนำผู้ชายคนอื่นให้เธอด้วย

สุดท้ายแล้วเขาก็ยังแคร์เธออยู่ดีนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นจะออกมาหาเธอตอนกลางดึกแบบนี้ทำไมกัน

“ฮุ่ยหลิง ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อตัวเธอเองนะ! ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเราเคยรักกันมาหลายปี…ฉันเองก็เห็นเธอมาตั้งแต่เล็กจนโต ฉันไม่อยากให้เธอเลือกทางเดินผิดๆ แต่ถ้าเธอยืนกรานว่าจะไม่ยอมฟังที่ฉันบอก งั้นฉันก็คงทำอะไรไม่ได้แล้วละ”

กู้จิ้งเจ๋อพูด

โม่ฮุ่ยหลิงพ่นลมพรืดอย่างเสียอารมณ์ ถ้าเขาชอบเธอ ก็น่าจะพูดๆ ออกมาซะที ถ้าเขายังมีใจให้เธออยู่ ก็น่าจะยอมรับออกมาตรงๆ ซะ แต่นี่กลับมัวพูดวนเวียนถึงแต่เรื่องเก่าๆ อยู่ได้

โม่ฮุ่ยหลิงรู้ดีว่ากู้จิ้งเจ๋อยังรักเธอมาก

เธอมองหน้าชายหนุ่ม “ถ้าคุณไม่อยากเห็นฉันเลือกทางเดินชีวิตผิดๆ งั้นก็อย่าทิ้งฉันไปสิคะ ให้ฉันได้เป็นคนรักของคุณต่อไปสิ”

กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้วแน่นหนัก “เราพูดเรื่องนี้กันจนเข้าใจแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ฉันรู้ค่ะว่าคุณไม่อยากแยกทางกับหลินเช่อ นั่นไม่เป็นไรหรอก คุณเองก็มีความต้องการของคุณ ฉันเองก็แตะต้องตัวคุณไม่ได้ เพราะงั้นคุณยังจะอยู่กับหลินเช่อต่อไปก็ได้ค่ะ ทั้งหมดที่ฉันต้องการก็แค่ได้อยู่เคียงข้างคุณเท่านั้น”

“นี่เธอบ้าไปแล้วหรือไง!” กู้จิ้งเจ๋อมองเธออย่างไม่อยากเชื่อ เขาไม่คิดเลยว่าเธอจะพูดออกมาแบบนี้

“แล้วมันผิดตรงไหนล่ะคะ คุณรู้หรือเปล่าว่าเรื่องแบบนี้มันธรรมดาออกจะตายไปในยุคนี้ คนอื่นเขาก็ทำกันทั้งนั้น ฉันยังไม่แคร์เลย แล้วทำไมคุณจะต้องแคร์ด้วยล่ะคะ”

กู้จิ้งเจ๋อตวัดสายตามองหญิงสาว เขาไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าคำพูดแบบนี้จะออกมาจากปากของโม่ฮุ่ยหลิง

นี่เธอเริ่มหัดคิดเรื่องผิดทำนองคลองธรรมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

“เอาละ หยุดที” ชายหนุ่มพูดพลางทำท่าจะเดินกลับออกไป ตอนนี้เขาทนรับโม่ฮุ่ยหลิงที่เป็นแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว

แต่โม่ฮุ่ยหลิงกลับคว้าแขนเขาเอาไว้แน่น “กู้จิ้งเจ๋อ คุณกล้าพูดหรือคะว่าคุณไม่มีความรู้สึกหลงเหลือให้ฉันเลยแม้แต่นิดเดียวน่ะ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าคุณยังรักฉัน แต่คุณอยู่กับฉันไม่ได้เพราะว่าคุณแตะต้องฉันไม่ได้”

“พอที ฉันจะต้องพูดอีกกี่ครั้งเธอถึงจะเข้าใจนะ ฉันเช่อกับฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบที่เธอกำลังพูดถึง!” เขามีความรู้สึกให้หลินเช่อ และมันก็ไม่ได้มีแค่ความใคร่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่เขารู้สึกด้วย เขารู้ดีว่ามันต่างกัน

แต่โม่ฮุ่ยหลิงตัดสินใจและวิ่งออกไปที่ถนนทันที เธอตะโกนใส่เขาด้วยเสียงอันดังว่า

“ถ้าคุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันแล้ว ก็อย่ามายุ่งกับฉันสิ!”

เพียงแว่บเดียว ชายหนุ่มก็เห็นรถคันหนึ่งกำลังพุ่งตรงมาหาเธอด้วยความเร็ว

เมื่อเห็นแสงไฟหน้ารถกะพริบ เขาก็รีบถลันออกไปที่ถนนทันที

แต่โม่ฮุ่ยหลิงที่ไม่รู้ว่ากำลังมีรถวิ่งตรงมา กลับยังคงวิ่งไปไม่ยอมหยุด

และทันใดนั้นเอง กู้จิ้งเจ๋อก็โผเข้าผลักร่างหญิงสาวออกไปข้างทาง ส่งตัวเขาเองให้ลงไปนอนกองอยู่ข้างเธอบนพื้น

โม่ฮุ่ยหลิงดีใจสุดขีด เป็นไปตามที่เธอคาดไว้ไม่มีผิด เขายังรักเธออยู่ หญิงสาวเล็งเป้าที่ริมฝีปากของเขาแล้วบรรจงกดจูบลงไปโดยแรง

กู้จิ้งเจ๋อไม่คาดคิดมาก่อนในสิ่งที่จะเกิดขึ้น และก่อนที่จูบนั้นจะยิ่งหนักหน่วงขึ้น เขาก็รู้สึกถึงความสะอิดสะเอียนจากสัมผัสของหญิงสาวที่แล่นวูบขึ้นมาในชั่วขณะนั้น มันช่างน่าขยะแขยงเหลือเชื่อ

แล้วเขาก็อาเจียนออกมาในทันที…

เป็นอีกครั้งที่โม่ฮุ่ยหลิงตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ทำไมครั้งนี้ถึงได้ดูจะแย่ยิ่งกว่าครั้งที่แล้วอีกนะ มันเกิดอะไรขึ้นกับอาการป่วยของเขากันแน่

ที่บ้าน

หลินเช่อกำลังนอนอยู่บนเตียงเมื่อเธอได้รับสายจากนายแพทย์เฉินอวี่เฉิง

เฉินอวี่เฉิงบอกว่า อาการป่วยของกู้จิ้งเจ๋อกำเริบขึ้นมาอีกแล้ว และอยากให้หลินเช่อมาที่ออฟฟิศของเขาโดยด่วนที่สุด

หญิงสาวพูดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่ง แต่เธอก็คิดอะไรอย่างอื่นไม่ออกนอกจากรีบลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

ที่ออฟฟิศของเฉินอวี่เฉิง กู้จิ้งเจ๋อกำลังอาเจียนออกมาเป็นน้ำ เขาอาเจียนจนหมดท้องไปแล้วสองสามครั้ง แต่เมื่อคิดถึงสัมผัสของริมฝีปากโม่ฮุ่ยหลิงบนปากของตัวเองแล้ว เขาก็เริ่มคลื่นเ**ยนขึ้นมาอีกรอบ

โม่ฮุ่ยหลิงยืนดูอยู่ข้างๆ แต่เธอก็เริ่มที่จะรู้สึกรังเกียจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกแล้วเช่นกัน เธออยากจะเข้าไปช่วยเขา แต่เมื่อเธอเห็นชายหนุ่มขึ้นก้มตัวอยู่เหนืออ่างล้างหน้าและขย้อนเอาของที่ดูน่าขยะแขยงเหล่านั้นออกมา เธอก็ไม่อยากที่จะเอาตัวเข้าไปใกล้

แน่ละว่ากู้จิ้งเจ๋อรู้ดีว่ามันสกปรก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีเศษอาหารเพราะเขายังไม่ได้กินอะไรมาทั้งคืน ทำให้อาเจียนของเขามีเพียงของเหลวเท่านั้น แต่มันก็ยังเป็นของสกปรกอยู่ดี

ด้านหลังของเขา โม่ฮุ่ยหลิงไม่รู้ตัวว่าสีหน้าของเธอที่ปรากฏอยู่ในกระจกเหนืออ่างอาบน้ำนั้นดูเหยเกเพียงใด แต่ชายหนุ่มมองเห็นทั้งหมดได้ในชั่วแวบเดียวเท่านั้น

เขาจึงหันหน้ามาและบอกกับเธอว่า “ออกไปก่อนไป ไม่ต้องห่วงฉันหรอก”

แต่ในจังหวะที่หันมามองนั้นเอง เขาก็เห็นริมฝีปากของเธออีกครั้ง

แล้วอาการคลื่นไส้ก็แล่นปราดขึ้นมาอีกระลอก

โม่ฮุ่ยหลิงมีสีหน้าอิหลักอิเหลื่อโดยที่ไม่ได้ทำอะไรอยู่ตรงนั้น เธอทำได้แต่เพียงมองหน้าเขาและถามว่า “แบบนี้ไม่ไหวแน่ ให้ฉันตามแม่บ้านมาช่วยทำความสะอาดไหมคะ”

กู้จิ้งเจ๋อบอก “ช่างเถอะ ที่นี่ไม่มีแม่บ้านหรอก มีแต่เจ้าหน้าที่ทั้งนั้น”

โม่ฮุ่ยหลิงมองหน้าเขา ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเข้าไปหา ถึงแม้เธอจะพยายามบอกตัวเองว่านี่คือกู้จิ้งเจ๋อ เธอลืมไปหมดแล้วหรือไงว่าเขาทั้งรวย ทั้งหล่อ แล้วก็ทรงอำนาจขนาดไหน เพียงแต่ในตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่ของเขาเท่านั้นเอง

แต่ในที่สุด โม่ฮุ่ยหลิงก็ไม่อาจฝืนใจที่จะทำอะไรได้

จังหวะนั้นเอง ที่เธอได้ยินใครบางคนด้านนอกพูดขึ้นว่า คุณผู้หญิงกู้มาถึงแล้ว

หลินเช่อมาเหรอ

ดวงตาของเธอเป็นประกายวาบและรีบเดินออกไปข้างนอกทันที

ด้วยความร้อนใจ หลินเช่อรีบตรงเข้ามาเพียงเพื่อที่จะได้เห็นโม่ฮุ่ยหลิงที่กำลังจะออกไป

หญิงสาวชะงัก เธอรู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นเฉียบค่อยๆ รินรดลงมาบนหัวใจ

นี่เองเหรอเป็นสาเหตุที่ทำให้อาการเขากำเริบน่ะ

หลินเช่อยิ้มเศร้า เธอนี่โง่สิ้นดีที่อุตส่าห์รีบร้อนออกมาจากบ้านแทบแย่

โม่ฮุ่ยหลิงรีบพูดทันที “มาได้จังหวะพอดีเชียว จิ้งเจ๋ออยู่ข้างในแน่ะ อาการเขาหนักทีเดียว เข้าไปดูซะสิ”

ในขณะที่พูด หล่อนก็เหลือบสายตาและเลิกคิ้วสูงอย่างยโส “เวลาแบบนี้ เธอควรจะเป็นคนเข้าไปดูนะ ไม่อย่างนั้นจิ้งเจ๋อเขาจะแต่งงานกับเธอไปทำไม หรือว่าที่เขาเลือกเธอเพราะว่าเวลาเธอแตะตัวเขาแล้วอาการจะไม่กำเริบแค่นั้นน่ะ”

หลินเช่อส่งสายตาชิงชังให้อีกฝ่าย “ฉันเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันค่ะว่าทำไมเขาถึงได้สะอิดสะเอียนมากเสียจนอาเจียนออกมา ปรากฏว่าเป็นเพราะคุณหนูโม่นี่เอง”

“นี่แก…” โม่ฮุ่ยหลิงมองหลินเช่ออย่างเข่นเขี้ยว “ที่จิ้งเจ๋ออ้วกก็เพราะว่าอาการเขากำเริบขึ้นมาต่างหากล่ะ รู้รึเปล่า”

หลินเช่อเพียงแต่ปรายตามองโม่ฮุ่ยหลิง ก่อนที่จะเดินผ่านเธอเข้าไปด้านใน

ทันทีที่เธอเข้าไปข้างใน เธอก็เห็นชายหนุ่มกำลังใช้แขนข้างหนึ่งยันกำแพงเพื่อทรงตัวอยู่ในห้อง กระจกเงาสะท้อนให้เห็นใบหน้าที่ซีดเผือด แม้แต่สายตาก็ไม่มีแววใดๆ หลงเหลืออยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะอาเจียนหนักเสียจนริมฝีปากแดงก่ำของเขาเปลี่ยนเป็นขาวซีดไร้สีเลือดไปเสียแล้ว

ถึงหลินเช่ออยากจะต่อว่าเขาซักแค่ไหน แต่เธอก็รีบเดินเข้าไปหา

ช่างเถอะ เอาไว้เขาดีขึ้นก่อนแล้วค่อยพูดกันก็ได้ แต่ถ้ายังปล่อยเอาไว้แบบนี้ เธอกลัวว่าเขาจะต้องอาเจียนจนตาย

เธอเดินเข้าไปหาเขาและจับแขนชายหนุ่มเอาไว้

กู้จิ้งเจ๋อยกแขนขึ้น เขายังไม่รู้สึกดีขึ้นและหลับตาอยู่ แต่เมื่อเขาเห็นหลินเช่อ เขาก็รีบร้องห้าม “อย่าเข้ามา มันสกปรก”

หลินเช่อชะงัก เมื่อได้เห็นแววอับอายปรากฏขึ้นแว่บหนึ่งบนใบหน้าเขา เธอก็ยิ่งรู้สึกแย่

โดยที่ไม่ยอมปล่อยแขน เธอโอบประคองร่างเขาไว้แน่น และพูดว่า “สกปรกอะไร อะไรสกปรกกัน ที่อ้วกออกมานี่ก็มีแต่น้ำย่อยทั้งนั้น ถึงยังไงมันก็เป็นของที่ออกมาจากข้างในตัวคุณ มันจะสกปรกซักแค่ไหนกันเชียว ไปเถอะค่ะ ฉันจะช่วยพยุงไปทางโน้นเอง เวลาแบบนี้ยังจะมาห่วงอีกนะว่าอะไรสกปรกไม่สกปรก คุณนี่อาการหนักจริงๆ”

กู้จิ้งเจ๋อเงยหน้าขึ้นและหันมองหลินเช่อด้วยสายตาที่ดิ่งลึกลงในหัวใจ

เขามองเธอนิ่งนานไม่หันหนี จนหลินเช่อรู้สึกเหมือนใบหน้าจะเริ่มร้อนผะผ่าวขึ้นมาด้วยสายตาที่จ้องมองอย่างแน่วแน่นั้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด