เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 249 เขาบอกว่า เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับโม่ฮุ่ยหลิงอีกแล้ว

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 249 เขาบอกว่า เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับโม่ฮุ่ยหลิงอีกแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถ้าเขายังมีโม่ฮุ่ยหลิงอยู่ในใจอีกคนนอกจากเธอแล้ว เธอก็อยากจะขอให้เขาเลิกดีกับเธอเสียดีกว่า เธอทนรับมันไม่ได้

 

 

“เปล่าค่ะ…ฉันหมายถึง ช่างมันเถอะ คุณอยากจะไปเจอใครก็เรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน” หลินเช่อหันหนีอย่างขุ่นใจ รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังใช้อารมณ์มากขึ้นทุกที

 

 

กู้จิ้งเจ๋อดึงมือเธอและบังคับให้หญิงสาวหันกลับมาหา “ฉันจะไปเจอใคร ไหนบอกซิ เธอคิดว่าฉันไปพบใครงั้นหรือ”

 

 

หลินเช่อขยับปากอย่างไม่แน่ใจ คิดว่ามันคงออกจะมากเกินไปหมดถ้าเธอจะพยายามห้ามไม่ให้เขาไปพบโม่ฮุ่ยหลิง

 

 

“ฉัน…ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรอกค่ะ ก็แค่พูดอะไรไร้สาระไปเรื่อย ช่วงนี้ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดีน่ะ คุณอยากจะไปเจอใครมันก็เป็นเรื่องของคุณ ฉันไม่มีสิทธิ์อะไรจะไปก้าวก่าย” หลินเช่อพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะวางสีหน้าให้เป็นปกติและยิ้มให้เขา

 

 

เธอรู้สึกว่าตัวเองทั้งกำลังประนีประนอมและมีอารมณ์อ่อนไหวอย่างที่สุดไปพร้อมกัน

 

 

หลินเช่อรู้สึกได้ว่าเธอไม่ควรจะอยู่ที่นี่ให้นานไปกว่านี้

 

 

ไม่อย่างนั้นเธอคงจะเริ่มระดมทุบอกเขาและถามเขาว่า ทำไมเขาถึงไม่หยุดยุ่งเกี่ยวกับโม่ฮุ่ยหลิงผู้น่ารังเกียจเสียที

 

 

เขาจะไปชอบใครก็ได้ แต่ทำไมต้องไปชอบผู้หญิงตีสองหน้าหาความซื่อสัตย์ไม่ได้คนนั้นด้วย

 

 

หลินเช่อพูดต่อ “ช่างเถอะค่ะ ฉันไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ฉัน…ฉันควรจะไปขึ้นรถคันหน้าแทน”

 

 

ขณะที่พูด เธอก็เปิดประตูรถ

 

 

ด้านนอกรถ บรรดาคนของกู้จิ้งเจ๋อก็พอจะเดาได้แล้วว่าทั้งสองมีเรื่องผิดใจกัน

 

 

ด้วยตลอดวันนี้ทั้งวัน กู้จิ้งเจ๋อเอาแต่หงุดหงิดอารมณ์เสีย ใบหน้าถมึงทึงราวกับมัจจุราชและไม่มีรอยยิ้มเอาเสียเลย

 

 

ถึงแม้ว่าปกติแล้วชายหนุ่มก็เป็นคนแบบนี้ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะยิ่งแย่กว่าที่เคยเป็นมา

 

 

บริเวณด้านนอกรถ ไม่มีใครกล้าหันมามองพวกเขาจากระยะไกล

 

 

หลินเช่อเปิดประตูรถและวิ่งออกมา

 

 

กู้จิ้งเจ๋อสับสนและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขายังคงเชื่อว่าหลินเช่อไม่เคยทำตัวไร้เหตุผล เพราะฉะนั้นจะต้องมีสาเหตุอะไรซักอย่างที่ทำให้เธอแสดงออกเช่นนี้

 

 

เขานึกเป็นห่วงยัยผู้หญิงซื่อบื้อคนนั้นและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่

 

 

ด้วยความเป็นห่วง เขาจึงวิ่งตามเธอออกไป

 

 

หลินเช่อที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน ทำให้เธอบังเอิญสะดุดขอบทางเท้าและล้มลงกับพื้น

 

 

คนมันจะซวยนี่ ต่อให้เป็นเรื่องอะไรก็ซวยได้จริงๆ

 

 

หญิงสาวสะดุ้งเพราะความเจ็บขณะนั่งลงกับพื้นเพราะรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวเข่า

 

 

กู้จิ้งเจ๋อเห็นเธอล้มลงแต่ไกล หญิงสาวสวมกระโปรงและถุงน่องหนา แต่ตอนนี้เมื่อเขามองดูขาที่บาดเจ็บของหลินเช่อ เขาก็ได้เห็นว่าถุงน่องนั้นขาดและมีเลือดสดๆ ไหลซึมออกมา

 

 

ชายหนุ่มหัวใจกระตุก เขารีบวิ่งไปหาเธอ

 

 

เขาย่อตัวลงและสำรวจดูบาดแผล มองหน้าเธอและดุว่า “ทำไมถึงไม่ระวัง นี่ขาเธอทำจากไม้ไผ่หรือยังไงนะ ถึงได้ล้มลงทื่อๆ แบบนั้น ไหนขอฉันดูหน่อยซิ”

 

 

หลินเช่อทั้งอ่อนล้าและเจ็บแผล ในที่สุดทำนบอารมณ์ของเธอก็พังครืน แล้วน้ำตาก็ไหลรินออกมา

 

 

“คุณ…ฉันไม่ต้องการให้คุณมาแคร์ฉัน ไปให้พ้น ปล่อยฉันไว้แบบนี้แหละ ฉันไม่ต้องการให้คุณมาสงสารหรือเห็นใจ” หลินเช่อเอื้อมมือออกไปผลักไสเขา

 

 

แต่กู้จิ้งเจ๋อคว้ามือเธอไว้ จับเธอให้อยู่นิ่งๆ ก่อนจะคุกเข่าลงข้างตัว เขายกขาเธอขึ้นวางบนหน้าขาตัวเองแล้วก้มลงพิจารณาบาดแผล และก็ได้เห็นว่าเลือดยังไหลไม่หยุด เขาก้มลงแล้วเป่าแผลให้แผ่วเบา

 

 

“เธอคิดว่าใครอยากจะแคร์เธอนักเหรอ” เขาเงยขึ้น จ้องหน้าเธอเขม็ง

 

 

แม้ว่าหลินเช่อจะยังอาละวาด แต่ชายหนุ่มก็หันไปส่งสัญญาณให้คนของเขา

 

 

เหล่าชายฉกรรจ์รีบวิ่งตรงมาพร้อมชุดปฐมพยาบาลจากในรถ ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน กู้จิ้งเจ๋อเปิดกล่องยาและสั่งให้คนของเขาถอยออกไป ชายหนุ่มค่อยๆ บรรจงใส่ยาให้อย่างเบามือ ใช้กรรไกรตัดเล็มถุงน่องรอบๆ รอยแผลให้

 

 

“โอ๊ย…” หญิงสาวสะดุ้ง ยานั่นแสบทีเดียว หลินเช่อดึงขาหนีตามสัญชาตญาณ

 

 

แต่กู้จิ้งเจ๋อยึดขาเธอไว้แน่น พลางทำหน้าเยาะหยัน เขากดขาเธอไว้จนขยับไปไหนไม่ได้ “เอาละ ทนเจ็บซะ สมควรโดนแล้วนี่”

 

 

สายตาของหลินเช่อเจ็บแค้น “ใช่สิ ฉันสมควรโดนแล้วนี่”

 

 

เธอสมควรได้รับสิ่งนี้หลังจากที่ได้พบกับกู้จิ้งเจ๋อ เธอสมควรได้รับมันในเมื่อเธอได้พบกับผู้ชายที่มีหญิงอื่นในหัวใจ

 

 

เขาตวัดสายตามองเธออีกครั้ง แต่คราวนี้น้ำเสียงเขานุ่มนวลลงกว่าเดิมมาก “เจ็บจริงเหรอ”

 

 

“ไม่” หลินเช่อพึมพำตอบพลางมองหน้าเขา ใจเธอเองก็อ่อนยวบลงเมื่อได้ยินน้ำเสียงอ่อนโยน

 

 

กู้จิ้งเจ๋อถาม “แล้วเธอจะวิ่งทำไม ต่อให้โกรธแค่ไหนก็ไม่ควรจะเอาร่างกายไปเสี่ยงสิ”

 

 

“ใครโกรธกันคะ” คนตอบทำปากยื่นและมองหน้าเขาด้วยความประหม่า

 

 

“ไม่ได้โกรธเหรอ” เขาว่า “งั้นก็อย่าพูดประโยคประเภทที่ว่าเธอไม่ต้องการให้ฉันมาแคร์เธอให้ได้ยินอีก”

 

 

ความอบอุ่นแล่นเข้าจับหัวใจจนหลินเช่อน้ำตาแทบร่วง

 

 

เธอเองก็ไม่ได้อยากจะพูดหรอก ปกติเธอไม่เคยเสียน้ำตาให้อะไรง่ายๆ แต่พอมาตอนนี้เธอกลับรู้สึกเศร้าจับใจ

 

 

ทั้งหมดนี่เป็นเพราะเขานั่นแหละ!

 

 

กู้จิ้งเจ๋อพูดอีกว่า “ฉันจะไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวอีกแล้ว ต่อให้เธอจะทำตัวงี่เง่าไร้สมองขนาดไหน…ฉันก็จะไม่ทิ้งเธออยู่ดี”

 

 

หลินเช่อถลึงตาใส่ “ฉันยังไม่เคยว่าอะไรคุณเลยนะ แล้วนี่อะไรมาว่าฉันฉอดๆ แบบนี้น่ะ!”

 

 

“ตัวฉันมีอะไรให้ว่าด้วยงั้นรึ”

 

 

“คุณ…คุณมันป่วยไงล่ะ! คุณต้องกินยา แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าคุณกลายเป็นพวกยโสแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วก็…แล้วก็คุณอดใจอยู่ห่างแฟนเก่าไม่ได้ซักทีไงล่ะ!”

 

 

ชายหนุ่มนิ่วหน้า “ฉันเลิกกับโม่ฮุ่ยหลิงไปแล้ว และฉันจะไม่ไปพบเขาอีก แบบนี้ยังจะบอกว่าฉันไม่ยอมอยู่ห่างเขาอีกหรือ”

 

 

หลินเช่อมองหน้าอีกฝ่าย “อย่ามาโกหกหน่อยเลย ฉันรู้ค่ะว่าคุณไปเจอกันมา”

 

 

เธอเริ่มอ่อนข้อให้เขามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขาของเธอถูกประคองอยู่ในมือเขา และเขาก็คุกเข่าอยู่กับพื้นตรงหน้าเธอแบบนี้

 

 

กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว “พูดไร้สาระอะไรกัน!” มือที่จับขาเธอเริ่มบีบแน่นเข้า

 

 

“โอ๊ย” หลินเช่อร้องลั่นด้วยความเจ็บ

 

 

ชายหนุ่มรีบคลายแรงบีบและหันไปมองเธออย่างเป็นห่วง เมื่อได้เห็นว่าหลินเช่อไม่เป็นไร เขาก็ค่อยคลายใจ “ฉันไม่รู้จะทำยังไงกับเธอแล้วนะหลินเช่อ อย่างกับสวรรค์ส่งเธอมาเป็นเคราะห์ร้ายให้ฉันอย่างนั้นแหละ”

 

 

“ทำไมฉันถึงจะเป็นโชคร้ายของคุณ คุณต่างหากที่เป็นโชคร้ายของฉันอยู่เห็นๆ!”

 

 

เมื่อหลินเช่อพูด น้ำตาก็เริ่มพรั่งพรูลงอาบแก้ม

 

 

เธอนี่มันล้มเหลว ล้มเหลวสุดๆ ไปเลย

 

 

ชายหนุ่มมองเธอร้องไห้ด้วยหัวใจที่เจ็บร้าว เขาประคองใบหน้าเธอไว้ และไม่อาจอดใจที่จะไม่จูบซับน้ำตาให้เธออย่างแผ่วเบาได้

 

 

“อย่าร้อง อย่าร้องสิ หลินเช่อ ยัยเด็กโง่ ฉันจะไม่ได้พบโม่ฮุ่ยหลิงอีกแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ฉันพบเขานั่น ฉันบอกกับเขาไปแล้วว่าฉันไม่รู้สึกอะไรกับเขาอีกต่อไป การเจอหน้าเขามีแต่จะทำให้ฉันนึกรังเกียจ ความรู้สึกทั้งหมดที่ฉันเคยมีให้โม่ฮุ่ยหลิงมันหมดสิ้นไปแล้ว นับแต่นี้ต่อไป ฉันรู้แล้วว่าฉันรู้สึกผิดหวังในตัวเขามากแค่ไหน”

 

 

“แต่คุณก็ยังแตะต้องตัวเขาจนกระทั่งอาการกำเริบขึ้นมา”

 

 

“แตะต้องเขาเรอะ นี่เธอพูดเรื่องบ้าอะไรกัน ฉันไปคุยกับเขา แล้วก็เสนอตัวที่จะช่วยหาผู้ชายดีๆ ให้เขา ใครจะไปทันคิดล่ะว่าเขาจะโผเข้าใส่ฉันแบบนั้น เพราะแบบนี้ฉันถึงจะไม่มีวันไปเจอเขาอีก นั่นเป็นครั้งสุดท้าย จะไม่มีอีกแล้ว” ชายหนุ่มว่า

 

 

หลินเช่อตัวแข็ง

 

 

เรื่องมันเป็นอย่างนี้เองหรอกรึ

 

 

พวกเขาไม่ได้ค้างคืนด้วยกัน พวกเขาไม่ได้กลับไปคืนดีกัน

 

 

เขา…เขาบอกว่าเขาไม่มีความรู้สึกอะไรให้เธออีกแล้ว

 

 

เขาไม่ได้รักโม่ฮุ่ยหลิงอีกแล้วงั้นเหรอ

 

 

หลินเช่อรู้สึกขึ้นมาทันทีว่าเธอนี่ช่างโง่เง่าอย่างที่สุด ทำไมเธอถึงได้เชื่อคำพูดของโม่ฮุ่ยหลิงง่ายดายขนาดนี้ โดยที่ไม่คุยกับเขาหรือแม้แต่จะถามเขาซักคำนะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด