เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 254 อดใจไว้นะ เดี๋ยวฉันจะชดเชยให้

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 254 อดใจไว้นะ เดี๋ยวฉันจะชดเชยให้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กู้จิ้งเจ๋อพูดขึ้นว่า “ถ้าเธออยากจะชดเชยให้ฉันก็ทำได้นะ เธอก็แค่…”

 

 

เขาแทรกตัวเข้ามาระหว่างขาทั้งสองข้างของเธอ

 

 

หลินเช่อรีบเหลียวมองรอบตัว

 

 

ไม่มีใครอยู่ก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอดเสียวสันหลังวาบไม่ได้

 

 

“เดี๋ยวก่อนนะคะ คุณ…กำลังจะทำอะไรเนี่ย…”

 

 

เธอก็อยากจะหุบขาเข้าด้วยกันอยู่หรอกนะ แต่เขาดันเบียดเข้ามาแล้วแบบนี้ การหุบขาเข้าหากันก็เท่ากับเป็นการหนีบชายหนุ่มเอาไว้ให้แน่นกว่าเดิม

 

 

“ถึงกับหนีบฉันเอาไว้เลยงั้นเหรอ ทำไมถึงได้ทำหน้ากังวลขนาดนั้น ก็ไหนเธอบอกว่าไม่อยากให้ฉันสัมผัสเธอเลยไงล่ะ นี่ก็ยังไม่ได้นานเท่าไหร่ แต่เธอทนไม่ไหวแล้วใช่มั้ยล่ะ”

 

 

“อีตาบ้า ไม่มีทาง!”

 

 

“ใจเย็น…ฉันยังไม่ได้ล้วงเข้าไปในเสื้อผ้าเธอซักหน่อย ไม่ต้องรีบเกาะฉันแน่นขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันจะรีบเข้าไป…แล้วตอนนั้นเธออยากจะหนีบให้แน่นซักแค่ไหนก็ได้น่า”

 

 

“คะ คะ คุณ! กู้จิ้งเจ๋อ ฉันไม่ได้…อยากจะหนีบคุณซักหน่อย…”

 

 

แต่แล้วเธอก็รู้สึกได้ถึงมือใหม่ที่ยกขึ้นเคลื่อนขึ้นมาทางด้านหลัง พร้อมดันเสื้อผ้าของเธอขึ้นจนกระทั่งสูงถึงหน้าอก แล้วเขาก็หยุดอยู่แค่ตรงนั้น ดวงตาเป็นประกายเมื่อได้เห็นความงามตรงหน้า

 

 

หลินเช่อรีบดึงเสื้อลงปิดโดยเร็ว

 

 

ชายหนุ่มหัวเราะขณะที่มองดู ยัยบื้อนี่ไม่รู้เลยซักนิดว่ารูปร่างหน้าต่างของตัวเองนั้นเย้ายวนใจแค่ไหน

 

 

เขาควบคุมตัวเองไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาเริ่มระดมจูบลงบนร่างนั้น เริ่มตั้งแต่หน้าทองและขยับเรื่อยขึ้นไป

 

 

หลินเช่อมองดูผู้ชายที่กำลังดูดกลืนเรี่ยวแรงในกายเธอไปจนหมด

 

 

เธอเอียงศีรษะ ลมหายใจเริ่มหนักหน่วง แต่ร่างกายก็ยังรู้สึกราวกับขาดอ็อกซิเจน เนื้อตัวเริ่มเกร็งเขม็งขึ้นทีละน้อย

 

 

การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งของเขาเริ่มจะทานทนได้ยากขึ้นทุกทีสำหรับเธอ

 

 

ริมฝีปากของเขาสร้างความรู้สึกราวกับหุบเหวลึกล้ำ ในขณะที่มือใหญ่คู่นั้นก็ทิ้งความร้อนผ่าวราวกับไฟ

 

 

หญิงสาวกัดริมฝีปาก ร้องคราง

 

 

แต่แล้วเธอก็รีบสลัดหน้า “อย่าค่ะ ไม่เอา เราจะทำกันตรงนี้ไม่ได้…”

 

 

เขาเงยหน้าขึ้นมองสีหน้าหวาดหวั่นของหลินเช่อ แล้วก็หัวเราะก่อนจะห้ามปากของเธอด้วยปากของเขา

 

 

จูบนั้นชำแรกลึกลงไปถึงจิตวิญญาณของหญิงสาว ทำเอาเธอแทบพ่ายแพ้หมดรูป

 

 

แต่เพียงครู่เดียว เขาก็หยุด

 

 

เขายิ้ม ก้มลงมองเธอ และดึงเสื้อเธอลง ก่อนจะบอกว่า “เอาละ ฉันรู้ ว่าเราทำกันตรงนี้ไม่ได้”

 

 

ถึงจะไม่อยากละมือจากเธอแค่ไหน แต่เขาก็รู้ดีว่าที่นี่คือโรงพยาบาล

 

 

เขาพูดกับเธอว่า “อดใจไว้ก่อนนะตอนนี้ เดี๋ยวพอกลับถึงบ้าน ฉันจะทำให้เธอสมใจเอง”

 

 

อีตาบ้า ใครไม่สมใจมิทราบยะ…

 

 

ถึงตอนนี้หัวใจเธอจะปั่นป่วนไปหมดเพราะเขาแต่…

 

 

เขาก็ไม่น่าจะพูดออกมาแบบนั้นเลย

 

 

หลินเช่ออยากจะกัดเขาให้ตาย

 

 

เมื่อทั้งคู่เดินออกมาจากห้อง พวกเขาก็ได้เห็นว่าทั้งอวี๋หมินหมิ่นและหยางหลิงซินยังคงรออยู่ อวี๋หมินหมิ่นสังเกตเห็นใบหน้าแดงเรื่อของหลินเช่อได้ในทันที เธอจึงส่ายหน้าและยิ้ม

 

 

จากทางด้านหลัง สายตาเป็นประกายของหยางหลิงซินจับจ้องอยู่ที่กู้จิ้งเจ๋อไม่วาง

 

 

ชายหนุ่มพูดกับทุกคนว่า “พวกเธอกลับไปดูคุณยายก่อนเถอะ ฉันยังมีเรื่องต้องไปจัดการแล้วก็ดูด้วยว่าผลตรวจแล็ปจะออกมาเมื่อไหร่”

 

 

หลินเช่อบุ้ยปาก ตวัดสายตามองราวกับอยากจะไล่เขาไปให้พ้นเสียเร็วๆ

 

 

ท่าทางของกู้จิ้งเจ๋อกลับมาเป็นปกติแล้ว ไม่มีใครบอกได้ว่าเขาเพิ่งทำพฤติกรรมราวกับสัตว์ป่าใส่เธอเมื่อครู่นี้

 

 

ให้ตายสิ หลินเช่อคิด อีตานี่มันหมาป่าในหนังแกะชัดๆ!

 

 

เมื่อเขาปลีกตัวออกไป หยางหลิงซินที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นว่า “ว้าว พี่เช่อคะ กู้จิ้งเจ๋อดีกับพี่จังเลย เขาอุตส่าห์มาเยี่ยมคุณยายด้วย”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นกระทุ้งแขนหลินเช่อ “ใช่สิ ยัยคนหน้าชื่น”

 

 

หลินเช่อหันไปมอง “ใครหน้าชื่นกันคะ”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นว่า “นี่เธอคิดว่าฉันตาบอดหรือไง หน้าตาเธอตอนเดินออกมาน่ะบานแฉ่งเสียขนาดนั้น”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นรู้ดีว่าคนอย่างหลินเช่อนั้นไม่มีทางซ่อนความรู้สึกบนสีหน้าได้แม้แต่น้อย และตอนนี้หน้าของเธอก็แดงก่ำทีเดียว ผู้จัดการสาวจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “เอาละ มาพูดเรื่องซีเรียสกันดีกว่า หลินเช่อ นี่ฉันมาแสดงความยินดีกับเธอ ฉันได้รับข่าวมาว่าบทของเธอในละครโทรทัศน์ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมของแพนด้า ทีวี เฟสติวัล”

 

 

“หา เป็นไปไม่ได้!” หลินเช่อตกตะลึง

 

 

อวี๋หมินหมิ่นว่า “นี่ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการหรอกนะ แต่พอดีฉันรู้จักคนวงในน่ะ พวกเขาบอกฉันล่วงหน้าทันทีที่ได้ข่าว”

 

 

หยางหลิงซินถามขึ้นอย่างไม่เดียงสา “รางวัลนี้สำคัญมากมั้ยคะ”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นตอบ “แน่นอนสิ สำหรับวงการโทรทัศน์ในประเทศซีนี่แล้ว มันเท่ากับรางวัลเอ็มมี่อวอร์ดเลยเชียวละ”

 

 

“ว้าว นั่นเยี่ยมไปเลยค่ะ!” หยางหลิงซินหันไปมองหลินเช่อ “พี่หลินเช่อ ยินดีด้วยนะคะ! พี่เป็นนักแสดงนำยอดเยี่ยม”

 

 

หลินเช่อประหลาดใจอย่างที่สุด และรู้สึกเหลือเชื่ออย่างยิ่ง

 

 

เมื่อปีที่แล้ว เธอได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของแพนด้า ทีวี เฟสติวัล ซึ่งตอนนั้นเธอก็ดีใจสุดขีดแล้ว

 

 

เธอไม่คิดเลยว่าปีนี้เธอจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิง

 

 

นับว่าเป็นโชคดีจริงๆ เธอไม่คาดคิดเลยซักนิดเลยว่าจะได้รับการเสนอชื่อ

 

 

ถึงจะตื่นเต้นมากแค่ไหน แต่หลินเช่อก็ยังไม่ถึงกับขาดสติ เธอมองหน้ามองหน้าเด็กสาวและบอกว่า “แค่ได้รับการเสนอชื่อน่ะ ยังมีผู้ได้รับการเสนอชื่อคนอื่นที่ต้องแข่งกันอีก นี่เป็นรางวัลแพนด้า อวอร์ด จะต้องมีคนแย่งชิงกันอีกหลายคนแน่ๆ ฉันคงไม่มีโอกาสซักเท่าไหร่หรอกจ้ะ”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นรีบท้วง “อย่าพูดแบบนั้นสิ ได้รับการเสนอชื่อก็ดีแล้วน่า”

 

 

“ใช่ค่ะ แค่ได้รับการเสนอชื่อก็นับว่าเป็นเกียรติมากแล้วสำหรับฉัน ถ้าเกิดชนะขึ้นมาละก็ คงจะดีใจหลุดโลกไปเลยทีเดียว แต่ถ้าฉันไม่ชนะ ถึงยังไงก็น่าปลื้มใจอยู่ดีนั่นแหละ” หลินเช่อไม่ค่อยหวังอะไรกับตัวเองมากนัก

 

 

เธอเพิ่งเข้ามาในวงการได้ไม่นาน ยังมีรุ่นพี่และคู่แข่งอีกมากมาย รางวัลใหญ่ขนาดนี้จะตกเป็นของเธอง่ายๆ ได้ยังไงกัน

 

 

ถึงแม้ว่าโลกจะอุตส่าห์เหวี่ยงให้เธอคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่มาได้ แต่เธอก็ไม่อาจพูดได้ว่าเธอเป็นนักแสดงแถวหน้า

 

 

การจะเป็นดาราดังระดับแนวหน้าขึ้นอยู่กับความโด่งดัง และนั่นก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของเธอในอนาคต

 

 

แล้วกู้จิ้งเจ๋อก็เดินกลับมา เขาบอกว่าผลการตรวจชิ้นเนื้อจะออกในอีกสี่วันข้างหน้า และนั่นถือว่าเร็วแล้ว

 

 

แม้จะกังวล แต่หลินเช่อก็ต้องรอคอยอย่างอดทน

 

 

เธอมองหน้าชายหนุ่มและบอกเขาว่า “ฉันได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิง แพนด้า ทีวี เฟสติวัลค่ะ”

 

 

เมื่อได้เห็นเธอดีใจมากมาย เขาก็บอกว่า “จริงเหรอ ยินดีด้วย!”

 

 

“ถึงจะไม่ค่อยมีโอกาสชนะซักเท่าไหร่ แต่ฉันก็ดีใจมากเลยค่ะ พวกเขายังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ฉันคิดว่าคงจะต้องรออีกซักพัก เดือนหน้าจะมีพิธีประกาศรางวัล โอ๊ยตายแล้ว ฉันจะได้ไปงานแพนด้า ทีวี เฟสติวัลอีกครั้ง!”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อพูดว่า “ใช่ เพราะว่าเธอเก่งยังไงล่ะ นั่นถึงทำให้เธอมีโอกาสได้ไปงานนี้อีกครั้ง”

 

 

หลินเช่อหันไปมองคุณยาย และพูดว่า “ฉันคิดว่าคุณยายไม่ควรจะกลับไปบ้านของท่าน ฉันอยากจะกลับไปเตรียมบ้านเราให้พร้อม แล้วก็รอดูว่าท่านอยากจะอยู่ที่นี่กับเราหรือเปล่า แบบนั้นฉันจะได้ดูแลท่านง่ายขึ้น”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อบอก “ดีแล้ว แต่ถึงยังไงเราก็ยังต้องถามความสมัครใจของท่านก่อน ถ้าท่านอยากอยู่ ท่านก็สามารถอยู่ใกล้ๆ เราได้ เราจะหาคนมาคอยดูแลท่านเอง”

 

 

หลินเช่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มอยากทำตระเตรียมให้ แต่เธอก็คิดว่ามันออกจะวุ่นวายใหญ่โตเกินไป

 

 

“ฉันว่าจะหาคอนโด…”

 

 

“ประเด็นสำคัญก็คือ ถ้าท่านอยู่ห่างจากเรามาก นั่นก็จะเป็นการไม่สะดวก”

 

 

หลินเช่อไตร่ตรองดูแล้วก็เห็นด้วย

 

 

เขาจึงตัดบทว่า “ปล่อยให้ฉันจัดการเอง”

 

 

“แต่…”

 

 

“เธอเป็นภรรยาฉัน เท่ากับว่าคุณยายก็เป็นคุณยายของฉันด้วย แล้วฉันไม่ควรจะดูแลท่านหรือยังไง ไม่มีแต่ รอให้ท่านฟื้นก่อนแล้วเราค่อยมาว่ากัน ฉันจะส่งคนออกไปมองหาบ้านไว้ก่อน”

 

 

พอเป็นเรื่องแบบนี้ กู้จิ้งเจ๋อจะกลายเป็นจอมบงการขึ้นมาทันที

 

 

โดยไม่เปิดโอกาสให้เธอปฏิเสธ เขาก็หันไปสั่งการคนของตัวเองทันที

 

 

อย่างไรก็ตาม อวี๋หมินหมิ่นและหยางหลิงซินที่ยืนฟังอยู่ทางด้านหลังก็หัวเราะขึ้นและมองหน้าหลินเช่อโดยพร้อมเพรียงกัน

 

 

หยางหลิงซินหันไปพูดกับอวี๋หมินหมิ่นว่า “ดูเหมือนว่ากู้จิ้งเจ๋อจะดีกับพี่หลินเช่อเหลือเกินนะคะ ฉันละอิจฉาจัง เขาทั้งหล่อแล้วก็ยังใจดีกับคนอื่นด้วย…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด