เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 294 ผู้ชายทุกคนก็ไม่มีใครดีทั้งนั้นนั่นแหละ

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 294 ผู้ชายทุกคนก็ไม่มีใครดีทั้งนั้นนั่นแหละ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อหลินเช่อเดินเข้าไปข้างใน เฉินอวี่เฉิงก็ผงะเล็กน้อยเมื่อได้เห็นเธอ “คุณนายกู้ ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะครับ

 

 

หลินเช่อตอบ “คุณไม่ได้ให้สาวใช้โทรบอกฉันหรอกหรือคะ”

 

 

“โอ้ นั่นมัน…อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ แค่บังเอิญสัมผัสกันเท่านั้น เมื่อก่อนก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่บ่อยๆ ผมก็เลยไม่ได้ให้ใครบอกคุณ บางทีสาวใช้อาจจะถูกกำชับให้แจ้งคุณทุกครั้งที่เขาป่วยก็ได้ เพราะแบบนี้พวกเขาถึงได้โทรไปรบกวนคุณ”

 

 

เมื่อเห็นนายแพทย์หนุ่มพยายามอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความกระตือรือร้นผิดปกติ หลินเช่อจึงโบกมือ

 

 

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เป็นหน้าที่ของฉันเองแหละ”

 

 

ตอนนั้นเองที่กู้จิ้งเจ๋อคงจะได้ยินเสียงและเดินออกมา มีรอยแดงชัดเจนปรากฏอยู่บนใบหน้าเขาบริเวณใกล้กับริมฝีปาก

 

 

นี่คือการปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดหรือเปล่านะ

 

 

หลินเช่อตัวแข็ง ก่อนจะรีบฉีกยิ้ม เธอเดินเข้าไปหาและพูดว่า “ดูเหมือนจะไม่เป็นไรนะคะ สาวใช้บอกฉันว่าคุณป่วยน่ะค่ะ ฉันเป็นห่วงก็เลยรีบมาที่นี่”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้วแล้วหันไปทางคนของเขาที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง “ไปหามาซิว่าใครไปเสนอหน้าโทรหาคุณผู้หญิง”

 

 

บรรดาบอดี้การ์ดต่างชะงักกันถ้วนหน้า เมื่อได้เห็นสีหน้าบึ้งตึงของชายหนุ่ม พวกเขารู้ดีว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

 

 

หลินเช่อไม่รู้ว่าชายหนุ่มหมายความว่าอย่างไร เธอจึงยิ้มและเดินเข้าไปหาเขาพลางบอกว่า

 

 

“เอาเถอะค่ะ ไม่เป็นไรหรอก พวกเขาก็คงเป็นห่วงคุณเหมือนกัน แต่ท่าทางคุณไม่เป็นอะไรนี่คะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อสาวเท้าเข้าไปหาหลินเช่อ และจับไหล่เธอไว้ เขาหันไปมองเฉินอวี่เฉิงเหมือนจะบอกว่า เขาจะกลับแล้ว หลังจากนั้นก็พาหลินเช่ออกมา “มาเถอะ ฉันไม่เป็นไรหรอก แล้วนี่ทำไมเธอถึงอุตส่าห์ออกจากกองถ่ายมาถึงที่นี่ได้”

 

 

หลินเช่อยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ว่าแต่คุณทานอะไรหรือยังคะ”

 

 

“ยังเลย งั้นไปหาอะไรกินกันเถอะ”

 

 

“โอเคค่ะ”

 

 

เมื่อเขาเห็นหลินเช่อไม่ได้มีท่าทีผิดสังเกตใดๆ ชายหนุ่มก็เริ่มผ่อนคลาย เขามองเธออย่างซาบซึ้งใจก่อนที่จะเดินออกมาพร้อมกัน

 

 

เฉินโยวหรานและเฉินอวี่เฉิงมองทั้งสองกลับออกไป ก่อนที่เฉินโยวหรานจะเอ่ยขึ้นว่า “ท่านประธานกู้นี่น่าสงสารจังเลยนะคะ นี่ต่อให้อีกหน่อยอยากจะทำตัวนอกลู่นอกรอยกับเขาบ้างก็คงทำไม่ได้ เพราะทันทีที่ทำ อาการป่วยก็จะกำเริบทันที แล้วก็ต้องถูกจับได้ เฮ้อ…”

 

 

เฉินอวี่เฉิงมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจนัก เขาขมวดคิ้วและถามเธอว่า “นี่เธอพูดเรื่องสาระอะไรกัน เขาจะไปคิดนอกลู่นอกรอยได้ยังไง”

 

 

หญิงสาวเถียงกลับ “แล้วที่เห็นอยู่ตอนนี้นี่ไม่ได้เรียกว่านอกลู่นอกรอยหรือไงกันคะ คุณไม่เห็นเหรอ เขาถูกจูบมาแหงๆ น่ะ”

 

 

นายแพทย์หนุ่มว่า “ก็แค่จูบ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรเกินเลยซักหน่อยนี่”

 

 

“ผู้หญิงคนนั้นก็สวยแถมยังมาจากครอบครัวผู้ดีมีเงินเสียด้วย บอกฉันมาซิว่าผู้หญิงดีๆ ที่ไหนกันที่เที่ยวมาจูบสามีชาวบ้านโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้น่ะ ให้ตายสิ โลกของคนรวยนี่มันช่างเข้าใจยากเหลือเกิน”

 

 

“ฉัน…” เฉินอวี่เฉิงว่า “มันก็ดูไม่เหมือนว่าท่านประธานกู้จะต้องการแบบนั้นซักหน่อยนี่”

 

 

“ฮ่า ภายนอกน่ะเขาก็ตีหน้าว่าไม่อยากแต่ แต่ข้างในน่ะคงดี๊ด๊าดีใจสุดชีวิตแน่ มีผู้หญิงตามตื๊อซะขนาดนี้ ถ้ามีผู้หญิงมาแก้ผ้าให้ท่าอยู่ต่อหน้า ผู้ชายที่ไหนจะไม่เอาบ้างล่ะคะ ฮึ เอาเถอะ ยังไงซะผู้ชายทุกคนก็ไม่มีใครดีทั้งนั้นนั่นแหละ ฉันน่ะเคยคิดว่าท่านประธานกู้จะใช้ได้ซะอีก ไม่คิดเลยว่าแม้แต่เขาก็ยังไม่ทำรุ่มร่ามกับผู้หญิงคนอื่นได้น่ะ”

 

 

ระหว่างที่พูดหญิงสาวก็ตวัดสายตาเขียวๆ ใส่นายแพทย์ ก่อนจะเดินออกไป

 

 

“…” เฉินอวี่เฉิงยักไหล่และมองอีกฝ่าย “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันเล่า…แล้วนี่มันเรื่องอะไรมาลงกับฉันแบบนี้ เฮ้ กลับมาก่อน นี่เธอจะบอกให้คนข้างนอกรู้เกี่ยวกับอาการป่วยของท่านประธานกู้ไม่ได้เป็นอันขาดเลยนะ ถ้าเธอขืนหลุดปากเรื่องนี้ออกไปละก็ เธอจะต้องโดนสั่งเก็บแน่ แล้วอย่ามาโทษฉันล่ะ”

 

 

เมื่อหญิงสาวได้ยินก็รีบหันขวับกลับมาทันที “หา…ฉันจะต้องโดนสั่งเก็บเรอะ…นี่พูดจริงรึเปล่าเนี่ย”

 

 

นายแพทย์หนุ่มถึงกับอึ้ง ยัยนี่ซื่อบื้อจริงแฮะ ก็แน่ละสิ เธอจะโดนฆ่าได้ยังไงกันเล่า เขาก็แค่ขู่ไปอย่างงั้นแต่เธอกลับเชื่อเอาเป็นตุเป็นตะ

 

 

แต่จะว่าไป ให้เฉินโยวหรานคิดแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นถ้าขืนเธอหลุดปากข้อมูลนี้ออกไปก็อาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมาได้

 

 

“ก็จริงน่ะสิ เธอคิดว่าตระกูลกู้นี่เป็นพ่อพระของประเทศซีหรือไงกัน ถ้าเธอหลุดปากไปละก็ รับรองได้ว่าชีวิตของเธอต้องตกอยู่ในอันตรายแน่”

 

 

“อา…ฉันเป็นผู้บริสุทธิ์นะคะ คุณหมอเฉิน คุณต้องพูดแทนฉันนะ…”

 

 

“งั้นก็ทำตัวดีๆ แล้วก็คอยรับใช้ฉันให้ดีก็แล้วกัน เริ่มจากมานวดขาให้ฉันหน่อย แล้วเดี๋ยวฉันจะพิจารณาคำขอร้องของเธอ”

 

 

เฉินโยวหรานมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่อยากเชื่อ เธอกลอกตาและอดคิดไม่ได้ว่าอีตานี่ช่างหน้าหนาเสียนี่กระไร วันๆ ก็คิดแต่จะหาวิธีเอาเปรียบเธออยู่ตลอด

 

 

 

 

ในเดือนกุมภาพันธ์ เทศกาลอันน่าตื่นใจเทศกาลแรกที่จะมีการเฉลิมฉลองกันในปีนี้ ย่อมหนีไม่พ้นวันวาเลนไทน์

 

 

เทศกาลวาเลนไทน์ถูกประชาสัมพันธ์ไปทั่วตามท้องถนน ทุกอย่างดูมีสีสันและได้กระแสดีเป็นอย่างมาก

 

 

หลินเช่อนั่งอยู่บนรถรับส่งของเธอและไม่ช้าก็เดินทางมาถึงกองถ่าย อวี๋หมินหมิ่นถามขึ้นว่า “จะให้ฉันแจ้งหยุดงานให้เธอสำหรับวันวาเลนไทน์พรุ่งนี้หรือเปล่า”

 

 

หลินเช่อหันหน้ามองผู้จัดการสาว “หยุดทำไมกันคะ”

 

 

“อ้าว ก็เพื่อที่เธอจะได้ใช้เวลากับท่านประธานกู้น่ะสิ”

 

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ไม่มีอะไรให้ฉลองกันหรอก เราแค่แต่งงานกันน่ะค่ะ ไม่ใช่คู่รัก”

 

 

“ก็ได้ แล้วอย่าหาว่าฉันไม่ถามนะ ฉันน่ะอยู่มาจนป่านนี้ยังไม่เคยได้ฉลองวาเลนไทน์เลยซักครั้ง”

 

 

แล้วกู้จิ้งเจ๋อก็โทรมา

 

 

“เธอทำอะไรอยู่น่ะ” เขาถาม

 

 

หลินเช่อตอบ “ฉันอยู่ที่กองถ่ายค่ะ”

 

 

“โอเค งั้นก็ไปทำงานเถอะ ฉันแค่จะโทรมาบอกว่าฉันอาจจะต้องไปต่างประเทศคืนนี้นะ”

 

 

“อา ได้ค่ะ เข้าใจแล้ว เดินทางปลอดภัยนะคะ”

 

 

“โอเค แล้วจะรีบกลับ”

 

 

หลินเช่อวางสาย อวี๋หมินหมิ่นจึงถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

 

 

หลินเช่อว่า “ฉันไม่ต้องหยุดงานแล้วละค่ะ เขาจะไปต่างประเทศพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นฉันก็จะได้ฉลองวาเลนไทน์กับทุกคนนี่แหละ”

 

 

“…”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นบ่น “พวกเธอนี่น่าเบื่อชะมัด”

 

 

หลินเช่อว่า “ก็ฉันบอกแล้วไงคะ ว่าพวกเราน่ะไม่มีใครว่างพอจะฉลองวาเลนไทน์หรอก”

 

 

หญิงสาวยกมือขึ้นเท้าคางแล้วหันมองออกไปเห็นภาพถนนที่เคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็วที่นอกหน้าต่าง

 

 

ด้วยเหตุผลบางอย่าง หลินเช่อรู้สึกผิดหวังอยู่ลึกๆ ข้างใน

 

 

เธอรู้ว่าตัวเองอ่อนไหวไปเอง และกู้จิ้งเจ๋อก็ไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่จะฉลองวาเลนไทน์อย่างใครๆ หลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่กับเขามาได้พักใหญ่ เธอก็ควรจะรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ

 

 

แต่เพราะเหตุผลกลใดก็ไม่ทราบได้ ในหัวใจเธอกลับอดตั้งตารอไม่ได้อยู่นั่นเอง

 

 

กู้จิ้งเจ๋อจองเที่ยวบินสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศของตัวเอง เขากำลังจะเดินทางไปยังประเทศใกล้ๆ นี่เอง เที่ยวบินใช้เวลาเพียงสามชั่วโมง และจะไปถึงจุดหมายราวเที่ยงคืน

 

 

แต่เมื่อเขาก้าวลงจากเครื่องบิน เขาก็ได้เจอกับลู่ชูเซี่ยโดยไม่คาดคิด

 

 

“พี่จิ้งเจ๋อคะ ฉันรอพี่มาทั้งวันเลยนะเนี่ย” หญิงสาวยิ้มเมื่อเดินเข้ามาหาเขา

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหันไปมองแล้วถามเรียบๆ ว่า “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”

 

 

“พี่มาร่วมการประชุมไม่ใช่หรือคะ ฉันก็เหมือนกันค่ะ ทำไมหรือคะ นี่ตระกูลกู้คิดว่าตระกูลลู่ของฉันไม่มีปัญญามางานใหญ่แบบนี้หรือไงกัน ฉันรู้ค่ะว่าพี่มาในฐานะแขก ทุกคนก็เลยออกมาต้อนรับกันแบบนี้ ส่วนฉันน่ะแค่มาสนุกๆ เท่านั้นเอง แต่พี่จะมาดูถูกเราแบบนี้ไม่ได้นะคะ”

 

 

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก” เขาเหลือบมองเธอ ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปด้านในโดยไม่พูดอะไรอีก

 

 

“เฮ้ พี่จิ้งเจ๋อ รอฉันด้วยสิคะ” ลู่ชูเซี่ยรีบวิ่งตามไป

 

 

กู้จิ้งเจ๋อว่า “ฉันคิดทบทวนเรื่องที่เธอบอกดูแล้วนะ และฉันจะให้คำตอบเธออย่างจริงจังในตอนนี้เลย ว่าฉันก็ยังคงเลือกหลินเช่ออยู่ดี เพราะฉะนั้นได้โปรดอยู่ห่างๆ ฉันเอาไว้ เพื่อที่เราทั้งสองคนจะได้ไม่ต้องเสียเวลากัน”

 

 

“อา พี่จิ้งเจ๋อ พี่นี่ใจหินชะมัดเลยนะคะ นี่พี่ทำเรื่องโหดร้ายใส่หญิงสาวอย่างฉันได้ลงคอได้ยังไง แต่ละคำที่พูดออกมานี่ไม่มีความเห็นใจปนอยู่เลยซักนิด” เธอตัดพ้อ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อจึงบอกว่า “เธอบอกให้ฉันพิจารณาข้อเสนอของเธออย่างจริงจังและฉันก็ทำแล้ว แล้วยังจะให้ฉันแสดงความเห็นใจเธออีกงั้นรึ”

 

 

“ก็ได้ค่ะ งั้นการตามตื๊อรอบแรกถือว่าล้มเหลว…ฉันจะเริ่มเฟสสองละนะ” เธอหัวเราะและมองหน้าเขา

 

 

กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้วเมื่อมองดูลู่ชูเซี่ย

 

 

ชายหนุ่มส่ายหัว สายตามองตรงไปข้างหน้า สูดลมหายใจและก้าวเดินต่อไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด