เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 310 การปะทะกันของข่าวลือ

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 310 การปะทะกันของข่าวลือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฉินเสี่ยวหยวนตอบว่า “ก็…ก็ได้ ฉันจะยอมไว้หน้าจิ้งอวี่ก็ได้ เพื่อเห็นแก่งานนี้ ฉันจะยอมฟังเขาก็แล้วกัน”

 

 

กู้จิ้งอวี่ส่งเสียงหึออกมาก่อนจะหันไปบอกว่า “โอเค ผู้กำกับ เราจะใช้โปสเตอร์แบบที่ว่านี้ กรุณานำไปจัดการเผยแพร่ได้เลยนะ”

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้กำกับของเรื่องก็รีบพยักหน้าพลางตอบรับว่า “ครับ ครับ ครับ”

 

 

ผู้กำกับมองดูท่าทีหนักแน่นไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครของกู้จิ้งอวี่แล้วแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า กู้จิ้งอวี่เป็นคนที่ไม่เกรงใจหรือไว้หน้าใครทั้งสิ้น และด้วยนิสัยแบบนี้แหละที่จะทำให้พวกเขาลดปัญหาในการทำงานไปได้มากทีเดียว

 

 

ฉินเสี่ยวหยวนจ้องมองหลินเช่อด้วยความขุ่นเคืองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะสะบัดออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับบรรดาคนของเธอ

 

 

แม้ว่าจะดาราสาวจะยังคงเดินด้วยท่าทียโสแค่ไหน แต่หลังจากถูกกู้จิ้งอวี่พูดใส่หน้าแบบนั้นแล้ว กิริยาของฉินเสี่ยวหยวนก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังหนีหางจุกตูด

 

 

เมื่อคณะของฉินเสี่ยวหยวนออกไปแล้ว ทุกคนที่เหลือก็พากันหันมามองหน้ากู้จิ้งอวี่ พวกเขามองดูชายหนุ่มด้วยท่าทียกย่องยิ่งกว่าเดิม ก่อนที่จะค่อยๆ สลายตัวแยกย้ายกันไปทำงาน

 

 

หลินเช่อรู้แต่เพียงว่า ตอนนี้อารมณ์ของกู้จิ้งอวี่ไม่ค่อยดีนัก และเขาก็จะไม่เกรงใจนักแสดงหน้า

 

 

ไหนทั้งสิ้น

 

 

เพียงแต่เขาไม่เคยแสดงท่าทีแบบนี้กับเธอเลย

 

 

แต่หลินเช่อเองก็รู้สึกว่าเธอมักจะทำตัวนอบน้อมเชื่อฟังอยู่เสมอ เธอจะทำตามคำสั่งต่างๆ แต่โดยดีทุกครั้ง ด้วยความที่เธอยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ไม่เหมือนฉินเสี่ยวหยวนที่มักจะวางท่าต่างๆ นานา คงเป็นเพราะแบบนี้ละมัง เธอจึงยังไม่เคยเห็นด้านโหดของกู้จิ้งอวี่

 

 

เมื่อเห็นผู้คนค่อยๆ แยกย้ายกันออกไปแล้ว กู้จิ้งอวี่ก็พูดกับหลินเช่อว่า “ดูเธอเข้าสิ ยังอยากจะยกบทดารานำให้คนอื่นเขาอีกนะ”

 

 

หลินเช่อตอบ “ฉันไม่อยากสร้างปัญหาไปมากกว่านี้น่ะค่ะ อีกอย่าง ฉันก็ไม่ได้โง่นะคะ ถึงยังไงบทของฉันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ถึงคนดูจะได้เห็นชื่อของเธอก่อน พวกเขาก็คงไม่คิดหรอกค่ะว่าตัวละครของเธอจะคู่กับคุณน่ะ”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นเองก็พูดขึ้นจากทางด้านหลังว่า “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะคุณกู้ ฉันไม่ยอมให้เธอสละบทนี้ง่ายๆ แน่ ฉันเพียงแต่คิดว่าถ้าหากฉินเสี่ยวหยวนทำสำเร็จได้วันนี้ วันรุ่งขึ้นก็คงจะมีเสียงคัดค้านไปทั่ว ฉันไม่อยากให้ดาราในสังกัดต้องมาเจอกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นผล ต ดีแบบนั้นน่ะค่ะ”

 

 

กู้จิ้งอวี่ถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะหันไปหาหลินเช่อ “จำไว้นะ เธอเป็นคนของฉัน และในฐานะที่มีฉันคอยคุ้มครองอยู่ เธอไม่จำเป็นต้องไว้หน้าฉินเสี่ยวหยวนอะไรขนาดนั้น เข้าใจรึเปล่า”

 

 

“ค่ะๆๆ ฉันเข้าใจ” หลินเช่อมองหน้าชายหนุ่มรู้ดีว่าที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อตัวเธอเอง

 

 

ไม่ช้ากู้จิ้งอวี่ก็ปลีกตัวออกไป หยางหลิงซินไม่กล้าแม้แต่จะหายใจด้วยซ้ำขณะเฝ้ามองเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ เมื่อจบเรื่องแล้วนั่นแหละ เด็กสาวจึงเดินเข้ามาหา “พี่เช่อคะ ดีจังเลยนะคะที่ได้เห็นกู้จิ้งอวี่คอยดูแลพี่ดีขนาดนี้น่ะ ฉันพนันได้เลยว่าอีกหน่อยคงไม่มีใครกล้ารังแกพี่เช่อแน่ๆ”

 

 

หลินเช่อยิ้มและคิดถึงเรื่องที่กู้จิ้งอวี่อยากได้ของขวัญจากเธอ เขาไม่กลัวเลยว่าจะผิดใจกับใครเพื่อที่จะช่วยเธอ ซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้ หลินเช่อจึงเริ่มครุ่นคิดขณะที่เดินออกมาว่า เธอควรจะซื้อของขวัญอะไรให้เขาดีนะ

 

 

เมื่อกลับถึงบ้าน หลินเช่อยังคงคิดหนักแต่ก็ดูเหมือนจะคิดไม่ออกเสียทีว่าควรจะให้อะไรเขา ท้ายที่สุด เธอก็ตัดสินใจว่าจะให้นาฬิกาก็แล้วกัน คนที่ประสบความสำเร็จอย่างเขาต้องสวมนาฬิกาแน่ๆ

 

 

แต่บอกตามตรงว่าหลินเช่อไม่มีความรู้เรื่องนาฬิกาเอาเสียเลย ด้วยเหตุนี้หญิงสาวจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอวี๋หมินหมิ่น

 

 

อวี๋หมินหมิ่นก็เลือกซื้อมาเรือนหนึ่ง เธอคิดง่ายๆ ว่าคนอย่างกู้จิ้งอวี่ย่อมมีทุกอย่างอยู่แล้ว และคงไม่สนใจว่าใครจะให้อะไรเป็นของขวัญ แต่เป็นเรื่องของความคิดต่างหากล่ะที่สำคัญ เพราะฉะนั้นจะเป็นนาฬิกาแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น

 

 

หลินเช่อรับนาฬิกาที่ผู้จัดการสาวเป็นคนซื้อมากลับไปบ้าน และเปิดดูอยู่สองสามครั้งในห้องนอน

 

 

เจ้านาฬิกานั่นสวยดีทีเดียวแล้วก็ท่าทางจะมีราคาไม่น้อย หลังจากดูจนพอใจแล้ว เธอก็วางมันเอาไว้บนโต๊ะ

 

 

ช่วงสองสามวันต่อมา กู้จิ้งเจ๋อมีงานยุ่งขนาดหนัก เพราะด้านหนึ่งเขาก็ต้องรับภาระงานแต่งงานของกู้จิ้งเหยียนซึ่งจะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา และนั่นหมายความว่าทุกอย่างจะต้องถูกกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด และอีกด้านหนึ่ง เขาเองก็ต้องจัดการสะสางงานที่ล่าช้ามาในช่วงสองสามวันก่อนให้เสร็จด้วย

 

 

เมื่อชายหนุ่มกลับถึงบ้าน เขาถอดเสื้อโค้ทและถามสาวใช้ถึงภรรยา

 

 

สาวใช้ตอบว่า “คุณผู้หญิงคงจะเหนื่อยกับการถ่ายทำวันนี้มากน่ะค่ะ เธอเข้านอนทันทีที่กลับถึงบ้านเลย”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อพยักหน้าและไม่อยากจะเข้าไปรบกวนหลินเช่อ เขาจึงอาบน้ำที่ห้องน้ำด้านนอกก่อนจะเข้าไปในห้องนอน

 

 

หลินเช่อกำลังหลับสนิท ชายหนุ่มเดินเข้าไปนั่งลงข้างเธอและยิ้มออกมา ในจังหวะนั้นเองที่หางตาของเขาแลเห็นกล่องใบหรูที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง

 

 

เขาชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบมันมา

 

 

เมื่อเปิดดู เขาก็ได้เห็นนาฬิกาผู้ชาย และงุนงงไปชั่วขณะ

 

 

นี่หลินเช่อเพิ่งซื้อมาเหรอ

 

 

เธอตั้งใจว่าจะมอบให้ใครกัน

 

 

หรือว่าสำหรับเขา

 

 

หัวใจของเขาเต้นรัว มุมปากขยับขึ้นเป็นรอยยิ้มโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงหลับสนิท เขาจึงไม่ได้ปลุกเธอ และวางนาฬิกาใส่กลับลงในกล่องตามเดิม

 

 

เขาเอนกายลง หันมองหลินเช่อและสวมกอดเธอไว้ เขาก้มลงมองพวงแก้มของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ประทับจูบนุ่มนวลลงไป

 

 

วันต่อมา

 

 

หลังจากที่หลินเช่อตื่นตอน เธอสังเกตเห็นสีหน้าเบิกบานกว่าปกติบนใบหน้าของกู้จิ้งเจ๋อ ท่าทางเขาดูอารมณ์ดีทีเดียว

 

 

หญิงสาวขยี้ตาเบาๆ “คุณตื่นเช้าจังค่ะ”

 

 

“ใช่ ฉันต้องรีบไปออฟฟิศน่ะ เธอนอนต่ออีกนิดสิ”

 

 

“ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้ฉันต้องถ่ายหนังต่อนะ” หลินเช่อพยายามทรงกายลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก

 

 

แต่เมื่อคิดว่าวันนี้ยังมีฉากต้องถ่ายทำต่อ หญิงสาวก็พยายามบังคับตัวเองให้ตื่น

 

 

สายตาของกู้จิ้งเจ๋อตวัดไปยังกล่องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ริมฝีปากของเขาบิดโค้งเป็นรอยยิ้ม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรและเดินออกจากห้องไป

 

 

แต่หลินเช่อซึ่งไม่ทันได้สังเกตสีหน้าของชายหนุ่มก็เดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ และไม่แต่งหน้า ถึงยังไงก็ต้องไปแต่งหน้าที่สตูดิโออยู่ดี หญิงสาวจึงได้เพียงตะเกียกตะกายไปให้ถึงกองถ่ายให้ได้เท่านั้น

 

 

ก่อนจะออกจากบ้าน เธอก็นึกถึงนาฬิกาขึ้นได้ จึงคว้านาฬิกาขึ้นมาและรีบออกจากบ้านทันที

 

 

ที่สตูดิโอ

 

 

หลินเช่อกำลังแต่งหน้าอยู่ในห้องแต่งหน้าพร้อมกับกู้จิ้งอวี่

 

 

เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามา เธอก็โยนของขวัญให้เขา

 

 

กู้จิ้งอวี่รีบคว้าเอาไว้แล้วถามว่า “นี่อะไรน่ะ”

 

 

หลินเช่อตอบ “ก็ไหนคุณบอกว่าไม่อยากได้แค่คำขอบคุณไงล่ะ นี่ของขวัญคุณไงคะ”

 

 

ชายหนุ่มหัวเราะแล้วรีบเปิดกล่องออกดู เมื่อเห็นนาฬิกาข้างใน เขาก็ยิ่งหัวเราะเสียงหนักกว่าเดิมพลางหยิบนาฬิกาขึ้นสวม “ว้าว พอดีเป๊ะเลยนะ”

 

 

หลินเช่อไม่คิดว่านั่นจะเป็นเรื่องแปลกอะไร ด้วยความสามารถของอวี๋หมินหมิ่นแล้ว ผู้จัดการของเธอจะต้องทำการสืบหาขนาดข้อมือของเขาก่อนที่จะจัดการซื้อนาฬิกาอย่างแน่นอน

 

 

หลินเช่อยิ้ม “ทีนี้คุณจะมาบอกว่าฉันไม่เคยขอบคุณคุณให้เป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้แล้วนะคะ”

 

 

“ไม่เลว ไม่เลว เธอนี่สอนไปไม่เสียเปล่าจริงๆ” กู้จิ้งอวี่ลูบหัวหลินเช่อพลางหัวเราะอย่างมีความสุข

 

 

ดูเหมือนวันนี้เขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ และเดินออกจากห้องไปพร้อมนาฬิกาบนข้อมือ

 

 

หลินเช่อส่ายหน้า บอกตามตรงว่าเขาเหมือนเด็กเล็กๆ ไม่มีผิด

 

 

และวันนี้เอง โลกอินเทอร์เน็ตก็เริ่มโจมตีหลินเช่อ

 

 

ผู้คนพากันพูดว่า หลินเช่อฉกเอาบทนำที่ควรจะเป็นของฉินเสี่ยวหยวนไป และยิ่งตอนนี้ที่โปสเตอร์หนังมีชื่อของทั้งสองปรากฏคู่กัน พวกเขาก็ยิ่งมั่นใจว่าหลินเช่อจงใจขโมยบทที่ควรจะเป็นของฉินเสี่ยวหยวนไป และทำให้ชื่อของเธอปรากฏอยู่เหนือชื่อของฉินเสี่ยวหยวนในโปสเตอร์

 

 

หลินเช่อถูกระดมโจมตีจากบรรดาแฟนๆ ออนไลน์ของฉินเสี่ยวหยวนทันที

 

 

แต่แฟนๆ ของหลินเช่อเองก็ใช่ย่อย หลังจากนักแสดงขวัญใจถูกรุม พวกเขาก็โต้กลับด้วยการบอกว่าหลินเช่อและกู้จิ้งอวี่นั้นรับบทเป็นคู่ปรับกันในหนัง เพราะฉะนั้นหลินเช่อย่อมต้องเป็นนางเอกของเรื่องอย่างแน่นอน แล้วอย่างนั้นทำไมชื่อของฉินเสี่ยวหยวนถึงจะได้ขึ้นก่อนด้วย

 

 

แฟนคลับทั้งสองกลุ่มโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน จนทำให้โลกออนไลน์แทบลุกเป็นไฟด้วยการโต้เถียงกันระหว่างนักแสดงสาวทั้งสองคน

 

 

หลินเช่อไม่คิดเลยว่าแฟนคลับของฉินเสี่ยวหยวนจะพูดเรื่องบิดเบือนความจริงแบบนี้

 

 

สิ่งที่ฉินเสี่ยวหยวนเป็นคนเริ่มวัน ตอนนี้กำลังโถมกระหน่ำใส่เธอไม่ยั้ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด