เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 329 ยัยซื่อบื้อเอ๊ย

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 329 ยัยซื่อบื้อเอ๊ย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยัยหลินเช่อนั่นชอบทำตัวดื้อดึงไม่เชื่อฟังได้ทุกเรื่อง และในเมื่อเธอเป็นคุณผู้หญิงของบ้าน สาวใช้ทั้งหลายย่อมไม่กล้าบังคับอะไรแน่  

 

 

ถ้าหลินเช่อจะไม่ยอมดูแลตัวเอง ใครจะไปทำอะไรหล่อนได้  

 

 

ด้วยความคิดนี้ในหัว ทำให้กู้จิ้งเจ๋อขับรถกลับมาบ้านโดยไม่รู้ตัว  

 

 

และเมื่อมาถึง เขาก็ได้พบว่าหลินเช่อยังไม่กลับบ้าน  

 

 

เธอควรจะพักฟื้นอยู่ที่บ้าน แต่กลับยังออกไปถ่ายหนัง หนำซ้ำยังอยู่ทำงานจนดึกดื่นจนกระทั่งเขากลับมาถึงบ้านก่อนอีกต่างหาก  

 

 

แค่นั้นก็ทำให้เขาหัวเสียจะแย่อยู่แล้ว แต่เขาไม่คิดเลยว่าเมื่อเดินไปที่ประตู เขาจะได้พบกับภาพของกู้จิ้งอวี่ที่มาส่งหลินเช่อที่บ้านแบบนี้  

 

 

ชายหนุ่มรู้ดีว่าการที่กู้จิ้งอวี่มาส่งเพื่อนนั้นไม่ได้มีความหมายอะไร การมาส่งหลินเช่อเองก็เช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ…  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น มือจับเสาไม้ตรงหน้าแน่นจนทิ้งรอยเอาไว้โดยที่เขาไม่รู้ตัว  

 

 

เขาทำตัวเองให้ไร้ค่ามากทีเดียวกับการที่รีบลนลานกลับมาบ้านแบบนี้  

 

 

หลินเช่อมีคนมากมายคอยดูเธอ แล้วก็มีคนอีกมากที่เป็นห่วงเป็นใยเธอด้วย  

 

 

เขาคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปที่คิดว่า หลินเช่อจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หากปราศจากเขา  

 

 

ซึ่งก็เห็นได้ชัดแล้วว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น  

 

 

หลินเช่อมองดูกู้จิ้งอวี่แล้วถามเบาๆ ว่า “เฮ้ เฮ้ เฮ้ กู้จิ้งอวี่ คุณไหวรึเปล่าคะ”  

 

 

กู้จิ้งอวี่ตอบ “ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร ฉันแค่แก่แล้วน่ะ เลยดื่มมากไม่ค่อยไหวแล้ว แค่เบียร์นิดหน่อยก็เมาแย่ เอาละ เข้าบ้านไปเถอะ คราวหน้าตาฉันเลี้ยงเธอนะ เราจะได้ดื่มไวน์ดีๆ กัน เอาไว้ถึงคราวเธอเมาบ้าง จะได้ไม่มาหัวเราะเยาะฉันแบบนี้”  

 

 

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงการเลี้ยงตอบแทน หลินเช่อก็นึกอายมากขึ้นไปอีก หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอจึงพูดกับเขาออกไปตรงๆ ว่า “พี่จิ้งอวี่คะ เรื่องนาฬิกาข้อมือนั่นแล้วก็เรื่องอื่นๆ…ขอพูดตามตรงนะคะ ฉันคิดว่าคุณแค่พูดเล่นเท่านั้น ที่ฉันให้นาฬิกาคุณก็เพื่อแสดงความขอบคุณแต่…นาฬิกานั่นมันไม่ได้เป็นของสำคัญอะไรขนาดนั้นเลย”  

 

 

กู้จิ้งอวี่มองหน้าเธอ “จะไม่สำคัญได้ยังไง นี่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่เธอให้ฉันเลยนะ”  

 

 

“ฉันต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ พี่จิ้งอวี่ ของขวัญนั่นเป็นของที่ฉันของให้พี่อวี๋เป็นคนช่วยเลือกให้เท่านั้นเอง บอกตามตรงว่าฉันไม่ได้พิถีพิถันเลือกมันมาหรอกค่ะ…เพราะฉะนั้น มันก็แค่ของธรรมดาเท่านั้น อย่าได้ใส่ใจมากนักเลยค่ะ นะคะ ไม่อย่างงั้น ฉันคงรู้สึกแย่มากเลย…”  

 

 

กู้จิ้งอวี่ชะงัก เธอเหลือบมองเขาแล้วก็รีบก้มหน้าลง โค้งขอโทษด้วยความเสียใจ “ฉันขอโทษจริงๆ ค่ะ พี่จิ้งอวี่”  

 

 

กู้จิ้งอวี่มองหน้าหลินเช่อ เธอโค้งต่ำชนิดเก้าสิบองศาและไม่เงยหน้าขึ้นมาอยู่เป็นเวลานาน  

 

 

ชายหนุ่มกลอกตาขณะมองไปที่เธอ  

 

 

ยัยหลินเช่อนี่…ช่างซื่อบื้อสิ้นดี จนเขาไม่รู้จะพูดยังไงกับเธอแล้ว  

 

 

เขาอยากจะตำหนิเธอ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อาจทำเช่นนั้นได้เมื่อได้เห็นแล้วว่าเธอเสียใจแค่ไหน เขาจึงได้เพียงแต่มองหลินเช่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ “เอาละ เอาละ เงยหน้าขึ้นได้แล้ว ให้ตายสิ ฉันก็แค่ล้อเล่นแค่นั้นเธอยังจะเชื่ออีกเหรอ ทำไม ฉันไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย ฉันก็แค่ขอบคุณสำหรับของขวัญ ทำไมเธอจะต้องจริงจังด้วย”  

 

 

เมื่อหลินเช่อได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้าขึ้น “จริงหรือคะ”  

 

 

“ก็จริงน่ะสิ ยัยบื้อ”  

 

 

“ฉัน…ฉันรู้สึกผิดน่ะค่ะ ที่เห็นพี่กู้จิ้งอวี่ให้ความสำคัญกับมันมากขนาดนั้น คราวหน้า ฉันจะตั้งใจเลือกของขวัญด้วยตัวเอง!”  

 

 

“ช่างเถอะ! ไหนบอกมาซิ ฉันควรจะพูดยังไงดีที่เธอทำตัวซื่อบื้อขนาดนี้เนี่ย ในเมื่อเธอให้ของขวัญฉันมาแล้ว แล้วทำไมยังจะต้องมาสารภาพความจริงแบบนี้อีก”  

 

 

“ฉันรู้สึกไม่สบายใจถ้าไม่ได้บอกความจริงกับคุณน่ะค่ะ”  

 

 

“แล้วถ้าเธอพูดความจริงแล้ว สุดท้ายทำให้ฉันต้องกลายเป็นคนที่ไม่สบายใจล่ะ” กู้จิ้งอวี่ว่า  

 

 

“ถ้าเป็นแบบนั้น…งั้นฉันก็จะให้ของขวัญคุณใหม่อีกชิ้น แล้วคราวนี้ก็จะไปเลือกด้วยตัวเองค่ะ” หลินเช่อรีบตอบ  

 

 

“ช่างเถอะ ช่างเถอะ ฉันพูดเล่นน่ะ เธอไม่ต้องให้อะไรฉันหรอก เอาละ เข้าบ้านเถอะ รีบฉวยโอกาสตอนที่ฉันยังไม่ได้บันทึกคำพูดนี้ของเธอไว้ในหัวแล้วก็ยังไม่อยากตีเธอเอาไว้นะ”  

 

 

“โอ้ ตกลงค่ะ ถ้างั้น ขับรถดีๆ นะคะพี่จิ้งอวี่” หลินเช่อรีบบอก  

 

 

กู้จิ้งอวี่มองดูผู้หญิงซื่อแสนซื่อตรงหน้า  

 

 

ยัยหลินเช่อนี่ ทั้งซื่อบื้อทั้งกวนโมโหจริงๆ  

 

 

มีใครบ้างที่จะพูดจาแบบที่เธอพูดอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้นะ เธอไม่กลัวเลยซักนิดว่ามันจะทำให้เขาไม่พอใจ แล้วก็ต้องกระเด็นออกจากวงการตลอดชีวิตที่เหลือโดยไม่มีหวังที่จะได้ประสบความสำเร็จอีก  

 

 

แต่ถึงยังไง…เขาก็ไม่อาจทนไล่หลินเช่อออกนอกวงการได้หรอก เฮ้อ ชายหนุ่มถอนหายใจ ก่อนจะหันศีรษะที่กำลังปวดหนึบ เปิดประตูรถ และก้าวขึ้นไป  

 

 

เมื่อได้สารภาพกับกู้จิ้งอวี่แล้ว หลินเช่อก็รู้สึกสบายใจขึ้น เมื่อเดินเข้าบ้านมา เธอจึงฮัมเพลงมาตลอดทาง  

 

 

แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น สายตาของเธอก็พบกับผู้ชายที่ยืนนิ่งราวกับรูปสลักโลหะอยู่ที่ข้างประตู  

 

 

เขาดูเย็นชาและเคร่งขรึมหม่นมืดในเวลาเดียวกัน เขาจะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากรูปสลักโลหะล่ะ  

 

 

แม้แต่สีม่วงทึมทึบบนใบหน้านั้นก็ยังดูเหมาะเจาะเหลือเกินในเวลานี้ มันทำให้หลินเช่อนึกไปถึงคำว่ารูปสลักโลหะในทันที  

 

 

โดยเฉพาะเมื่อเขายืนนิ่งไม่ไหวติง และมองดูเธอโดยไม่กะพริบตาแบบนี้ หลินเช่อถึงกับสะดุ้งทันควัน  

 

 

กู้จิ้งเจ๋ออยู่ในชุดทำงานตามปกติของเขา ชุดสูทเข้ารูปเนี้ยบกริบนั้นทำให้เขาดูขึงขังแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่ใบหน้านั้นก็ยังคงเย็นชาปราศจากอารมณ์ใดๆ เช่นที่เคยเป็นตามปกติ  

 

 

สายตาที่จ้องมองตรงมาแน่วนิ่งทำให้หลินเช่อรู้สึกว่า ช้าเกินไปเสียแล้วที่จะหลบเลี่ยงเขา  

 

 

“คุณ…” หลินเช่อกำลังจะพูดพอดีกับจังหวะที่อาการเจ็บแปลบตรงส่วนนั้นของเธอก็กำเริบขึ้น เตือนให้หญิงสาวได้รู้ว่าเธอและเขายังทะเลาะกันอยู่  

 

 

เธอยังไม่ลืมว่าเขาทำให้เธอต้องเจ็บยังไง และยังทำร้ายเธอจนกระทั่งต้องไปจบลงที่โรงพยาบาล  

 

 

หากเหตุนั้นเกิดขึ้นเพราะความคลุ้มคลั่งเธอก็คงจะไม่ถือโทษอะไร แต่คราวนี้มันไม่เหมือนกัน เพราะเขายังคงทำรุนแรงกับเธอเต็มที่แม้ว่าจะรู้ทั้งรู้อยู่ว่าเธอจะต้องเจ็บ  

 

 

จากด้านข้าง พ่อบ้านหันมามองคนทั้งสองที่กำลังอยู่ในภาวะอึมครึมกันแล้วก็รู้สึกขัดใจ จึงรีบเอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านครับ เป็นยังไงบ้างครับ อยากเข้าไปพักผ่อนข้างในมั้ยครับ”  

 

 

“ฉันไม่ไป!” กู้จิ้งเจ๋อหมุนตัวแล้วเดินเอามือไพล่หลังออกจากบ้านไป ชายหนุ่มก้าวไปได้เพียงสองก้าวเท่านั้น เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติ  

 

 

นี่เป็นบ้านของเขา แล้วทำไมเขาต้องเป็นฝ่ายไปด้วย  

 

 

ภายในห้อง ความรู้สึกว่างเปล่าแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ  

 

 

หลินเช่อไม่ได้นอนคนเดียวมานานมากแล้ว ทุกครั้งที่เธอและเขาอยู่ที่นี่ด้วยกัน หญิงสาวไม่เคยรู้สึกเช่นนี้เลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อตอนนี้เธอต้องอยู่คนเดียว อยู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าบ้านหลังนี้ช่างใหญ่โตเหลือเกิน  

 

 

ถึงแม้ว่าห้องนอนใหญ่ๆ มันก็ดีอยู่หรอก ทั้งกว้างขวาง สว่างไสว หรูหราน่าสบาย หลินเช่อชอบบ้านหลังใหญ่ แต่ตอนนี้เธอกลับพบว่า การได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังโตราวกับวังเช่นนี้ กลับทำให้เธอรู้สึกอ้างว้างเหลือเกิน  

 

 

หลังจากที่สาวใช้นำชุดนอนของเธอซัก พวกเธอก็จะนำมันกลับมาแขวนไว้ให้อย่างเรียบร้อยในตู้เสื้อผ้าที่แสนสะอาดสะอ้าน เสื้อผ้าของเธอจะมีกลิ่นลาเวนเดอร์จางๆ จากน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ซึ่งจะทำให้เสื้อผ้าแต่ละชิ้นของเธอถูกอบร่ำจนหอมอ่อนๆ ด้วยกลิ่นเหล่านี้  

 

 

คฤหาสน์ตระกูลกู้นั้นน่าอยู่มากจริงๆ มีสาวใช้คอยช่วยเหลือดูแลทุกอย่าง แม้แต่รายละเอียดเรื่องเล็กน้อยเพียงไรก็ได้รับการเอาใจใส่เป็นอย่างดี หลินเช่อเพิ่งรู้ตัวว่า เป็นเพราะเธออยู่ที่นี่มานานจนเริ่มเคยคุ้ยกับสิ่งเหล่านี้เสียแล้ว  

 

 

เธอจึงอดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าหากวันหนึ่งเธอต้องไปจากที่นี่ เธอจะรู้สึกอึดอัดหรือผิดแผกแปลกประหลาดกับสภาพแวดล้อมใหม่ที่จะได้เจอหรือไม่  

 

 

หลินเช่อก้มหน้าแล้วยิ้มกับตัวเองเบาๆ แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงประตูถูกผลักเข้ามา  

 

 

หญิงสาวชะงัก เธอหันหน้าไปแล้วก็ได้เห็นกู้จิ้งเจ๋อกำลังเดินเข้ามาด้วยท่าทีสุขุมเยือกเย็น  

 

 

เธอไม่ได้สวมอะไรเลยนอกจากชุดชั้นใน  

 

 

หญิงสาวตกตะลึงอยู่พักใหญ่ทีเดียว กว่าจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าปกปิดกาย  

 

 

“โอ๊ะ” เธอร้อง แล้วรีบลนลานคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาคลุมตัว  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด