เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 370 ผู้ชายคนนั้นคือประมุขตระกูลลู่

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 370 ผู้ชายคนนั้นคือประมุขตระกูลลู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่ชูเซี่ยนั่งคิดวนเวียนไปมาอยู่ตรงนั้น หล่อนคิดถึงหลินเช่อ

 

 

“ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของหลินเช่อ นังนั่นจะต้องมีเจตนาแน่ๆ มันตั้งใจเหยียบเท้าฉัน แล้วก็ยังตั้งใจบังคับให้กู้จิ้งเจ๋อเต้นรำกับมันด้วย นังนี่ร้ายกาจนัก ฉันแค่เล่าให้มันฟังเรื่องแดนซิ่งควีนไม่ทันไร มันก็วางแผนลอบกัดขึ้นมาทันทีเลย”

 

 

ลู่ชูเซี่ยลุกขึ้นจากเก้าอี้ และหันไปบอกกับคนรับใช้ว่า “พวกแก ตามฉันมา”

 

 

นายแพทย์ยังอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ในเมื่อนี่คือลู่ชูเซี่ย เขาก็ไม่กล้าออกปากห้ามหล่อน

 

 

หลินเช่อยังคงยืนมองผลโวตแดนซิ่งควีนอยู่ตอนที่ลู่ชูเซี่ยเดินกระทืบเท้าปึงปังเข้ามา

 

 

“หลินเช่อ” หล่อนเรียกชื่อหลินเช่อ สายตาลุกเป็นไฟราวกับอยากจะฉีกกระชากหลินเช่อออกเป็นชิ้นๆ

 

 

ถ้าไม่มีหลินเช่อเข้ามาแทรกกลาง ป่านนี้กู้จิ้งเจ๋อก็คงเป็นของเธอไปแล้ว

 

 

แต่ตอนนี้ เธอต้องสูญเสียมากมายเพราะนังผู้หญิงคนนี้

 

 

หลินเช่อมองเห็นลู่ชูเซี่ยเดินตรงเข้ามา แม้ว่าหล่อนจะพยายามอย่างที่สุดที่จะเดินให้เป็นปกติ แต่ก็ยังเห็นได้ชัดว่าดูกะโผลกกะเผลก

 

 

หลินเช่อนึกถึงเท้าของตัวเอง แล้วก็ก้มลงเพื่อมองดูเท้าของลู่ชูเซี่ยที่บวมออกมาจนเห็นได้ชัด

 

 

เธอเงยหน้าขึ้นกลับไปมองลู่ชูเซี่ยที่ตรงดิ่งเข้ามาราวกับภัยคุกคาม

 

 

ลู่ชูเซี่ยตวัดเสียง “หลินเช่อ ดูสิว่าเธอทำอะไรลงไปน่ะ”

 

 

หลินเช่อถามอย่างไม่ใส่ใจ “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยคะ”

 

 

ลู่ชูเซี่ยกรีดร้อง “นี่เธอยังกล้าพูดอีกเหรอว่าไม่เกี่ยวอะไรกับเธอน่ะ แหกตาดูขาฉันสิ ที่มันกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ ตอนนี้ขาฉันได้รับบาดเจ็บ อย่าคิดที่จะปัดความรับผิดชอบหน่อยเลยนะ”

 

 

หลินเช่อมองตอบอย่างไม่ลดละและตอบกลับอย่างอารมณ์ดีว่า “คุณเป็นคนยื่นขาออกมาพยายามจะให้ฉันสะดุดเอง คุณก็ได้รับผลจากการกระทำของคุณไปแล้วนี่คะ แล้วมันเป็นความผิดของฉันตรงไหน”

 

 

ลู่ชูเซี่ยหัวเราะเสียงเย็น “ใช่ ฉันยื่นขาออกไปเอง แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจซักหน่อยนี่ ฉันก็แค่จะวอร์มร่างกายเท่านั้น เธอนั่นแหละที่จงใจเหยียบฉันเพราะอยากให้ฉันบาดเจ็บ แถมยังเจตนาล้มลงต่อหน้ากู้จิ้งเจ๋ออีกต่างหาก เห็นชัดๆ ว่าเธอกำลังจะปัดความรับผิดชอบน่ะ”

 

 

หลินเช่อนิ่งฟังอีกฝ่ายบิดเบือนเรื่องราวอย่างขบขัน

 

 

หล่อนช่างพลิกลิ้นเล่าเรื่องจนฟังดูสมจริงไปได้

 

 

หลินเช่อไม่อาจทำอะไรได้นอกจากต้องยอมให้หล่อน

 

 

“ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ กู้จิ้งเจ๋อก็พูดไปแล้วนี่คะว่าเราจะรู้เองถ้าเปิดกล้องวงจรปิดดู” หลินเช่อว่า

 

 

ลู่ชูเซี่ยทำหน้าชิงชังมากขึ้นไปอีก “เธอคิดว่าฉันจะกลัวที่จะต้องดูภาพจากกล้องวงจรปิดงั้นเหรอ หลินเช่อ เธอนี่ไร้เดียงสาซะจริงนะ เธอคิดว่าภาพจากกล้องวงจรปิดมีความหมายอะไรกับฉันด้วยเหรอ ฉันเป็นลูกสาวของตระกูลลู่ ส่วนเธอน่ะมันแค่ผู้หญิงกระจอก ตอนนี้เธอทำให้ร่างกายอันมีค่าของฉันต้องบาดเจ็บ เธอจะต้องชดใช้ให้ฉัน! ไม่มีใครกล้าที่จะเถียงเรื่องนี้หรอก!”

 

 

หลินเช่อมองดูลู่ชูเซี่ยเงยหน้าขึ้นประกาศก้องกับคนที่ยืนอยู่โดยรอบ “จับตัวผู้หญิงคนนี้ไว้ ฉันจะส่งเธอให้ตำรวจ เธอทำร้ายร่างกายฉันทำให้ฉันบาดเจ็บ ฉันจะต้องจัดการเรื่องนี้”

 

 

คนรับใช้สองสามคนที่ตามมาหันมองหล่อนก่อนจะหันไปมองหลินเช่อ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาจับหลินเช่อ

 

 

นี่คือภรรยาของกู้จิ้งเจ๋อ ถ้าขืนพวกเขาทำอะไรไม่ดีลงไป กู้จิ้งเจ๋อจะปล่อยพวกเขาไปหรือ

 

 

ลู่ชูเซี่ยยืนนิ่ง ถามขึ้นว่า “นี่พวกแกทำอะไรกันอยู่น่ะ ตอนนี้พวกแกเป็นคนของตระกูลลู่หรือตระกูลกู้กันแน่ ตระกูลลู่ไม่ต้องการคนขี้ขลาดอย่างพวกแก เวลาแบบนี้ยังจะกล้ามาลังเลอีกเรอะ หรือว่าพวกแกไม่อยากทำงานต่อแล้ว”

 

 

“เปล่าครับ คุณหนู”

 

 

คนรับใช้รีบตอบโดยเร็ว แต่ก็ยิ่งหนักใจขึ้นไปอีก พวกเขาขยับเข้าหาหลินเช่อ มองหน้าเธอ “คุณหลินครับ ได้โปรด…ไปพบตำรวจกับพวกเราด้วยนะครับ”

 

 

แน่นอนว่าหลินเช่อไม่เต็มใจ เธอตวัดสายตามองลู่ชูเซี่ย “คุณมีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าฉันเป็นคนทำคะ ถ้าไม่มีหลักฐาน ฉันไม่ไป!”

 

 

“เอาไว้เธอไปอธิบายกับตำรวจเองก็แล้วกัน แต่ตอนนี้อย่าได้คิดหนีเป็นอันขาด!” ลู่ชูเซี่ยโบกมือ ปล่อยให้คนรับใช้ของเธอนำตัวหลินเช่อไป

 

 

ทว่า ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง

 

 

“ชูเซี่ย นั่นแกทำอะไรน่ะ”

 

 

เสียงทุ้มลึกดังขึ้นทางด้านหลัง

 

 

ลู่ชูเซี่ยชะงัก หล่อนหันไป ก้มหน้าหลบตา และเอ่ยขึ้นว่า “คุณพ่อ…”

 

 

เขาคือพ่อของลู่ชูเซี่ย ลู่ฉินอวี่นั่นเอง

 

 

หลินเช่อเงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็รู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนี้ดูคุ้นหน้าเหลือเกิน

 

 

แล้วเธอก็นึกออก

 

 

เขาคือชายชราที่เธอเดินชนหน้าห้องน้ำนั่นเอง

 

 

แล้วนี่…แล้วนี่เขากลายมาเป็น…พ่อของลู่ชูเซี่ยได้ยังไงกัน

 

 

หัวใจหลินเช่อสับสนไปหมด พวกเขาไม่มีอะไรเหมือนกันเลย

 

 

ลู่ชูเซี่ยหันมองหน้าบิดาด้วยท่าทีเชื่อฟังอย่างยิ่ง “พ่อคะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ”

 

 

ลู่ฉินอวี่ได้ยินมาว่าลูกสาวพาคนรับใช้จำนวนหนึ่งลงมาตามหาภรรยาของกู้จิ้งเจ๋อ เขาจึงรีบตามมาดู

 

 

เขาตวัดสายตามองลู่ชูเซี่ย ยกมือผายออกไปด้านหน้า “คราวนี้แกก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ”

 

 

ลู่ชูเซี่ยรีบตอบ “คุณพ่อคะ ดูเท้าหนูนี่สิคะ นังสารเลวนี่เป็นคนเหยียบ แล้วก็แน่ละค่ะว่าหนูต้องการคำอธิบาย คุณพ่อช่วยจัดการให้หนูด้วยนะคะ คุณพ่อไม่เห็นหรือไงคะ นี่หนูต้องเป็นฝ่ายถูกคนอื่นรังแกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!”

 

 

ลู่ฉินอวี่ก้มลงดูข้อเท้าของลูกสาว แล้วหันกลับไปมองหลินเช่อ

 

 

ทันทีที่เขาเห็นหน้าเธอ ชายชราก็ชะงัก

 

 

เขามองหน้าหลินเช่อและพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “เธอ…นี่เธอเป็นภรรยาของกู้จิ้งเจ๋องั้นรึ”

 

 

หลินเช่อพยักหน้า “คะ…คุณเป็นประมุขของตระกูลลู่หรือคะ”

 

 

ลู่ชูเซี่ยมองดูคนทั้งสอง ก่อนจะเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง

 

 

และแล้ว พ่อของเธอก็ยิ้มออกมาเมื่อเดินเข้าไปหาหลินเช่อ เขายิ้มแย้มยินดีพลางพูดว่า “ฉันกำลังสงสัยอยู่เชียวว่าเธอมาจากไหน ในเมื่อฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อนเลย ฉันคิดว่าเธอเป็นลูกสาวบ้านไหนเสียอีก กลับกลายเป็นว่า เธอคือภรรยาหมาดๆ ของกู้จิ้งเจ๋อนี่เอง”

 

 

“เราไม่ได้เพิ่งแต่งงานกันหรอกค่ะ เราแต่งงานกันมาได้พักใหญ่แล้ว” หลินเช่อส่ายหน้า “โอ้ จริงสิคะ คุณเป็นยังไงบ้างคะตอนนี้”

 

 

“ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร ฉันบอกแล้วไงล่ะว่าฉันโอเค เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” ลู่ฉินอวี่พิจารณาดูหลินเช่อใกล้ๆ “ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นภรรยาที่กู้จิ้งเจ๋อแอบซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีแบบนี้”

 

 

“เราก็ไม่ได้ปิดบังอะไรหรอกค่ะ เขาแค่ไม่ชอบออกงานสังคมเท่าไหร่เท่านั้นเอง”

 

 

“จริงสินะ เขาไม่ชอบ นานๆ ถึงจะได้เห็นเขาซักที”

 

 

ลู่ชูเซี่ยที่ยืนหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ทางด้านหลัง กำลังอยากจะกระทืบเท้าเต็มทีแล้ว

 

 

นังหลินเช่อนี่…มันเคยเจอพ่อของเธอแล้วอย่างงั้นเรอะ

 

 

เมื่อไหร่กัน ทำไมพ่อของเธอถึงได้โอภาปราศรัยกับมันดีแบบนั้นล่ะ

 

 

ลู่ชูเซี่ยวีนแตกและพูดขึ้นว่า “คุณพ่อคะ คุณพ่อเห็นที่นังนี่ทำกับหนูหรือเปล่าคะ แล้วนี่คุณพ่อจะไม่…จะไม่จัดการให้หนูหรือคะ”

 

 

ลู่ฉินอวี่หันมองลูกสาวแล้วนิ่วหน้า “พอที เท้าแกเป็นอะไรไปล่ะ”

 

 

ลู่ชูเซี่ยชี้หมับไปที่หลินเช่อ “นังนี่เหยียบหนูค่ะ มันตั้งใจทำร้ายหนู”

 

 

ลู่ฉินอวี่ไม่ค่อยอยากเชื่อไหร่ เขาหันไปหาหลินเช่อและถามว่า “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่น่ะ”

 

 

หลินเช่อไม่อาจพูดอะไรต่อหน้าเขาได้ เธอจึงกล้ำกลืนความจริงลงคอและตอบไปว่า “ก่อนหน้านี้ฉันบังเอิญชนคุณหนูลู่เข้าโดยบังเอิญน่ะค่ะ เธอบอกว่าเธอยื่นขาออกมาเพื่อซ้อมเหยียดข้อเท้า แต่ฉันไม่ทันหัน ก็เลยบังเอิญสะดุดเขา ฉันเหยียบโดนข้อเท้าเธอ มันก็เลยบวมแบบนี้นี่แหละค่ะ”

 

 

เมื่อลู่ฉินอวี่ได้ยินเช่นนั้น เขาก็ยิ่งขมวดคิ้วนิ่วหน้าหนักขึ้นไปอีก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด