เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 461 เธอโต้กลับและคว้าตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่ง

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 461 เธอโต้กลับและคว้าตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นี่เธอจะแสดงบัลเล่ต์อะไร กระโปรงยาวกรอมเท้า เมื่อเต้นแล้วจะเป็นบัลเล่ต์ที่งดงามได้อย่างไร ในเมื่อบัลเล่ต์ก็คือการดูการแสดงของขาเรียวยาวทั้งสองข้าง  

 

 

หรือว่าเธอเรียนได้ไม่ดี กลัวว่าจะไม่สวย ถึงได้คลุมเอาไว้  

 

 

นั่นคงพยายามที่จะปิดมันจริงๆ สินะ  

 

 

เพียงแต่ ทุกคนรู้ดีว่า ถ้าจะดูแค่การเต้นบัลเล่ต์ ลู่ชูเซี่ยนั้นนับว่าเชี่ยวชาญแล้ว ยากที่จะมีใครมาเทียบเธอได้  

 

 

ลู่ชูเซี่ยมองหลินเช่อ แม้จะแปลกใจกับชุดของเธออยู่บ้าง แต่ว่า เธอส่งเสียงเย้ยหยันแล้วเดินเข้าไป จากพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงดูถูก “แต่ละครั้งนี่ต้องหาวิธีมาดึงดูดสายตาไปจนได้สินะ ก็จริง เมื่อไหร่ที่ไปจากพี่จิ้งเจ๋อแล้ว เธอก็ยังจำเป็นต้องหาคนอื่นเพื่อมายกระดับตัวเองให้ดีขึ้น เอาเถอะ รีบขึ้นไปดึงความสนใจจากคนพวกนั้น ดูเหล่าคุณชายพวกนั้น ถึงจะเทียบพี่จิ้งเจ๋อไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นผู้ลากมากดี ให้เธอมีกินมีใช้ได้ทั้งชีวิต”  

 

 

หลินเช่อไม่ได้มองเธอ เห็นว่าเธอเดินชนไหล่ตนเองออกไปแล้ว หลินเช่อจึงหันกลับมาเรียกคนอื่นเพื่อช่วยเหลือเธอในการแสดงบัลเล่ต์ในครั้งนี้  

 

 

จนมายืนอยู่บนเวที ทุกคนก็ยังไม่เข้าใจว่าเธอเตรียมการแสดงอะไรมา  

 

 

บนเวที หลินเช่อสูดหายใจเข้าลึก รู้ดีว่าเวลาแบบนี้ จะคิดมากไม่ได้ ทุกอย่างต้องพึ่งตัวเธอเอง  

 

 

ดังนั้น เธอจึงหลับตาลง โค้งคำนับให้แก่ผู้คนด้านล่างเวที จากนั้นเสียงดนตรีค่อยๆ ดังขึ้นช้าๆ  

 

 

ผู้คนที่อยู่บนอัฒจันทร์ ต่างจับจ้องมองลงมา  

 

 

ตามท่วงทำนองที่เริ่มต้นขึ้น หลินเช่อเริ่มตั้งท่า  

 

 

จากนั้น ดนตรีเริ่มบรรเลง หลินเช่อกระโดดแยกขา ทุกคนต่างพากันตกตะลึงเมื่อได้เห็น กระโปรงบัลเล่ต์ตัวนี้ แม้จะยาวมาก ทว่ากลับถูกแสกขึ้นสูง ยามที่ยืนอยู่นิ่งๆ นั้น ให้ความรู้สึกธรรมดา แต่เมื่อเริ่มขยับตัว ก็เผยให้เห็นขาเรียวยาวของเธอได้อย่างชัดเจน ด้านใน เรียวขาขาวถูกโอบล้อมไปด้วยริบบิ้นสีดำทั้งหมด ยิ่งทำให้ขาของเธอดูยาวขึ้น เมื่อขยับตัวเต้น ชายกระโปรงยาวทั้งสองข้างของเธอก็ปลิวไสวราวกับเทพธิดา ระเบิดความรู้สึกทำให้ดวงตาของทุกคนเปล่งประกาย  

 

 

หลังจากนั้น ทุกคนได้รู้ว่าการแสดงของหลินเช่อในครั้งนี้ ไม่ใช่การแสดงบัลเล่ต์ทั่วไป ทว่าเป็นการแสดงละครควบคู่ไปกับการเต้นรำ  

 

 

ละครสั้นเรื่องนี้มีชื่อว่า การเอาคืนของหงส์ดำ  

 

 

หงส์ดำเป็นตัวร้ายที่คลาสสิคที่สุดในบัลเล่ต์ ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหงส์ขาวมาตลอด ราวกับตัวร้ายในนิทาน  

 

 

การแสดงครั้งนี้ ถูกปรับปรุงใหม่ หลินเช่อแสดงเป็นหงส์ดำ ที่ยังคงร้ายกาจ แต่ว่า ยังมีมุมที่เธอเจ็บปวดและทุกข์ระทม เป็นตัวละครที่มีทั้งดีและไม่ดี ในความเป็นจริง ถูกคนดูถูกเหยียดหยาม ทว่ายังคงยืนหยัดในเส้นทางของตนเอง แม้เท้าจะเต็มไปด้วยหนาม กลั้นเสียงร้องไห้เอาไว้ แต่ยังคงเดินหน้าต่อไป ขึ้นไปจุดสูงสุด  

 

 

หลินเช่อกระโดดพลางเต้นรำไปมา  

 

 

ใบหน้าดูร้ายกาจ บางครั้งเย็นชา บางครั้งดำทะมึน ร้ายกาจเป็นที่สุด สีดำทะมึนนั้นชัดเจน  

 

 

การแสดงส่วนใหญ่เป็นการกระโดดและหมุนไปมา ใช้ประโยชน์จากกระโปรงยาวได้อย่างเต็มที่และงดงาม  

 

 

ทุกคนดูเพลินราวกับถูกดึงดูดเข้าไป มองไปยังเวทีอย่างตกตะลึง  

 

 

การแสดงของหลินเช่อนั้นโดดเด่น เพราะอย่างไรเธอก็เป็นนักแสดง เธอรู้ว่าเธอต้องแสดงอย่างไร แม้ว่าการเต้นรำของเธอจะไม่ได้เก่งกาจ แต่ว่า ด้วยเพราะการแสดงจากความฉลาดหลักแหลมของเธอ ก็สามารถคว้าใจทุกคนได้อยู่หมัด  

 

 

หลินเช่อรู้ดีว่า ถ้าจะเปรียบความเป็นมืออาชีพ เธอสู้ลู่ชูเซี่ยไม่ได้ ดังนั้น เธอจะใช้สิ่งที่เธอถนัดเพื่อดึงดูดสายตาของทุกคน ใช้การแสดงที่ยอดเยี่ยม คว้าใจทุกคนเอาไว้  

 

 

ดังนั้นวันนั้น เธอจึงรีบเข้าไปหาครูสอนบัลเล่ต์ ทั้งคู่ใช้เวลาไม่กี่นาทีสุดท้าย ออกแบบการแสดงออกมา  

 

 

ครูสอนบัลเล่ต์เองก็ตกใจ เธอคาดไม่ถึงว่าหลินเช่อจะมีความสามารถแบบนี้ หลินเช่อสามารถทำให้ทุกคนชื่นชมได้อย่างต่อเนื่อง  

 

 

โดยทั่วไปแล้วทุกคนเคยเห็นเพียงการแสดงที่งดงามอ่อนหวาน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่หลินเช่อมาในบทตัวร้าย  

 

 

การแสดงจบลง เธอยืนอยู่ตรงนั้น ชายกระโปรงยาวลากไปด้านหลัง เผยให้เห็นสองขาเรียวยาว ยืนโดดเด่นอยู่ตรงนั้น  

 

 

ทั่วทั้งสนามเงียบลง ไม่มีเสียงแม้เพียงเล็กน้อย มีเพียงเสียงหอบหายใจจากความเหนื่อยของเธอ  

 

 

จนในที่สุด เสียงปรบมือพลันดังขึ้นมาอย่างล้นหลาม  

 

 

หลินเช่อชนะขาดแล้ว  

 

 

——  

 

 

ลู่ชูเซี่ยดูอยู่ด้านหลัง ยังไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้า พลันมองเห็นด้านนอกกำลังคึกคัก  

 

 

ลู่ชูเซี่ยยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าราวกับสีขี้ผึ้ง  

 

 

เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร  

 

 

หลินเช่อเหรอ  

 

 

หลินเช่อเอาชนะเธอได้งั้นเหรอ  

 

 

ถึงอย่างไรเธอก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่า จะไม่เชื่อก็คงไม่ได้  

 

 

หลินเช่อชนะเธอแล้วจริงๆ …  

 

 

ลู่ชูเซี่ยนั่งลงช้าๆ  

 

 

เธอไม่อยากเชื่อจริงๆ แต่ว่า หลินเช่อไม่ได้ทำในแบบที่เธอคิด เธอใช้วิธีที่แปลกออกไป เพื่อมาเอาชนะเธอ  

 

 

——  

 

 

งานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูยังไม่จบ  

 

 

ทุกคนต่างพูดคุยถึงงานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูในครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแล้ว  

 

 

หญิงสาวเหล่านี้ตอนที่มาพวกเธอยังมีความหวังว่าจะชนะอยู่บ้าง อยากลองทำให้ดีสักครั้ง ใครๆ ต่างก็อยากได้ตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่งกันทั้งนั้น ทุกคนต่างก็อยากชนะ แต่ว่า เมื่อมาถึงและได้เห็นการแสดงของลู่ชูเซี่ยและการแสดงที่ยอดเยี่ยมของหลินเช่อแล้ว จึงยอมแพ้ไปเอง  

 

 

ทุกคนต่างรู้ดีว่า หลินเช่อเป็นตัวแทนของตระกูลกู้ ลู่ชูเซี่ยนั้นเป็นตัวแทนของตระกูลลู่ ทั้งสองฝ่ายกำลังแย่งชิงชัยชนะกัน แน่นอนว่าคนอื่นคงไม่มีความสามารถจะไปสู้กับพวกเธอได้  

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น หลินเช่อและลู่ชูเซี่ยต่างก็ทั้งเก่ง ทั้งสวย สามารถดึงความสนใจจากผู้คนได้เป็นอย่างดี  

 

 

ดังนั้นเมื่อการแข่งขันจบลง พวกเขาต่างพากันพูดถึงหลินเช่อและลู่ชูเซี่ย  

 

 

เริ่มแรก ทุกคนต่างคิดว่าหลินเช่อนั้นประหลาด มองเธอในแง่ลบ คิดว่าเธอไม่มีทางเอาชนะลู่ชูเซี่ยได้ ไม่คิดว่า ในรอบสุดท้ายหลินเช่อจะแสดงบัลเล่ต์ผสมผสานกับการแสดงละครได้ดีขนาดนั้นจนเอาคืนได้สำเร็จ ล้มตำแหน่งลู่ชูเซี่ยที่ทุกคนต่างชื่นชมได้อย่างเป็นเอกฉันท์  

 

 

สมแล้วกับที่เธอคว้าตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่งไปได้  

 

 

——  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อสั่งคนเก็บของทันที  

 

 

หลังจากงานเลี้ยงในคืนสุดท้ายนี้ พวกเขาก็ต้องกลับออกไปจากเกาะเล็กๆ นี่แล้ว  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อยังคงนั่งทำงานต่อในห้องพัก หลินเช่อเริ่มเบื่อจึงเดินออกด้านนอก เพื่อโทรหาอวี๋หมินหมิ่น  

 

 

อวี๋หมินหมิ่นบอก “ยินดีกับเธอด้วยนะ ฉันได้ข่าวแล้ว ว่าเธอคว้าชัยชนะในครั้งนี้ได้สำเร็จ”  

 

 

“ก็ดี นี่ถือว่าเป็นผลจากความพยายามของทุกคน” หลินเช่อบอก “แต่ทำไมเธอรู้ทุกอย่างเลยล่ะ”  

 

 

“ได้ยินสาวใช้พูดน่ะสิ พวกเขาบอกว่าเธอเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี สามารถเอาชนะลู่ชูเซี่ยได้ เธอไม่ได้ยินที่พวกเขาชื่นชมเธอ… ชมจนไม่เหมือนเธอแล้ว บอกว่าเธอสวยมาก ถึงขั้นทำให้ผู้ชายต่างพากันหลงใหล ไม่รู้ตอนนี้มีผู้ชายมากแค่ไหนที่อยากทำความรู้จักกับเธอ”  

 

 

“คงไม่ใช่หรอก…”  

 

 

“จริงๆ นะ สตรีหมายเลขหนึ่งในสังคมแบบนี้ก็เปรียบเสมือนดารา ดอกไม้ทางสังคมมีที่มายังไง เพราะในวงการธุรกิจเดิมก็เคร่งเครียดกันอยู่แล้ว แต่ได้ผู้หญิงเข้าเป็นน้ำมันช่วยให้การทำธุรกิจมันง่ายยิ่งขึ้น เอาล่ะ เธอรีบกลับมาเถอะ หนังของเธอใกล้จะเข้าฉายแล้ว รีบกลับมาจะได้เริ่มโปรโมทหนัง”  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 461 เธอโต้กลับและคว้าตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่ง

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 461 เธอโต้กลับและคว้าตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นี่เธอจะแสดงบัลเล่ต์อะไร กระโปรงยาวกรอมเท้า เมื่อเต้นแล้วจะเป็นบัลเล่ต์ที่งดงามได้อย่างไร ในเมื่อบัลเล่ต์ก็คือการดูการแสดงของขาเรียวยาวทั้งสองข้าง  

 

 

หรือว่าเธอเรียนได้ไม่ดี กลัวว่าจะไม่สวย ถึงได้คลุมเอาไว้  

 

 

นั่นคงพยายามที่จะปิดมันจริงๆ สินะ  

 

 

เพียงแต่ ทุกคนรู้ดีว่า ถ้าจะดูแค่การเต้นบัลเล่ต์ ลู่ชูเซี่ยนั้นนับว่าเชี่ยวชาญแล้ว ยากที่จะมีใครมาเทียบเธอได้  

 

 

ลู่ชูเซี่ยมองหลินเช่อ แม้จะแปลกใจกับชุดของเธออยู่บ้าง แต่ว่า เธอส่งเสียงเย้ยหยันแล้วเดินเข้าไป จากพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงดูถูก “แต่ละครั้งนี่ต้องหาวิธีมาดึงดูดสายตาไปจนได้สินะ ก็จริง เมื่อไหร่ที่ไปจากพี่จิ้งเจ๋อแล้ว เธอก็ยังจำเป็นต้องหาคนอื่นเพื่อมายกระดับตัวเองให้ดีขึ้น เอาเถอะ รีบขึ้นไปดึงความสนใจจากคนพวกนั้น ดูเหล่าคุณชายพวกนั้น ถึงจะเทียบพี่จิ้งเจ๋อไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นผู้ลากมากดี ให้เธอมีกินมีใช้ได้ทั้งชีวิต”  

 

 

หลินเช่อไม่ได้มองเธอ เห็นว่าเธอเดินชนไหล่ตนเองออกไปแล้ว หลินเช่อจึงหันกลับมาเรียกคนอื่นเพื่อช่วยเหลือเธอในการแสดงบัลเล่ต์ในครั้งนี้  

 

 

จนมายืนอยู่บนเวที ทุกคนก็ยังไม่เข้าใจว่าเธอเตรียมการแสดงอะไรมา  

 

 

บนเวที หลินเช่อสูดหายใจเข้าลึก รู้ดีว่าเวลาแบบนี้ จะคิดมากไม่ได้ ทุกอย่างต้องพึ่งตัวเธอเอง  

 

 

ดังนั้น เธอจึงหลับตาลง โค้งคำนับให้แก่ผู้คนด้านล่างเวที จากนั้นเสียงดนตรีค่อยๆ ดังขึ้นช้าๆ  

 

 

ผู้คนที่อยู่บนอัฒจันทร์ ต่างจับจ้องมองลงมา  

 

 

ตามท่วงทำนองที่เริ่มต้นขึ้น หลินเช่อเริ่มตั้งท่า  

 

 

จากนั้น ดนตรีเริ่มบรรเลง หลินเช่อกระโดดแยกขา ทุกคนต่างพากันตกตะลึงเมื่อได้เห็น กระโปรงบัลเล่ต์ตัวนี้ แม้จะยาวมาก ทว่ากลับถูกแสกขึ้นสูง ยามที่ยืนอยู่นิ่งๆ นั้น ให้ความรู้สึกธรรมดา แต่เมื่อเริ่มขยับตัว ก็เผยให้เห็นขาเรียวยาวของเธอได้อย่างชัดเจน ด้านใน เรียวขาขาวถูกโอบล้อมไปด้วยริบบิ้นสีดำทั้งหมด ยิ่งทำให้ขาของเธอดูยาวขึ้น เมื่อขยับตัวเต้น ชายกระโปรงยาวทั้งสองข้างของเธอก็ปลิวไสวราวกับเทพธิดา ระเบิดความรู้สึกทำให้ดวงตาของทุกคนเปล่งประกาย  

 

 

หลังจากนั้น ทุกคนได้รู้ว่าการแสดงของหลินเช่อในครั้งนี้ ไม่ใช่การแสดงบัลเล่ต์ทั่วไป ทว่าเป็นการแสดงละครควบคู่ไปกับการเต้นรำ  

 

 

ละครสั้นเรื่องนี้มีชื่อว่า การเอาคืนของหงส์ดำ  

 

 

หงส์ดำเป็นตัวร้ายที่คลาสสิคที่สุดในบัลเล่ต์ ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหงส์ขาวมาตลอด ราวกับตัวร้ายในนิทาน  

 

 

การแสดงครั้งนี้ ถูกปรับปรุงใหม่ หลินเช่อแสดงเป็นหงส์ดำ ที่ยังคงร้ายกาจ แต่ว่า ยังมีมุมที่เธอเจ็บปวดและทุกข์ระทม เป็นตัวละครที่มีทั้งดีและไม่ดี ในความเป็นจริง ถูกคนดูถูกเหยียดหยาม ทว่ายังคงยืนหยัดในเส้นทางของตนเอง แม้เท้าจะเต็มไปด้วยหนาม กลั้นเสียงร้องไห้เอาไว้ แต่ยังคงเดินหน้าต่อไป ขึ้นไปจุดสูงสุด  

 

 

หลินเช่อกระโดดพลางเต้นรำไปมา  

 

 

ใบหน้าดูร้ายกาจ บางครั้งเย็นชา บางครั้งดำทะมึน ร้ายกาจเป็นที่สุด สีดำทะมึนนั้นชัดเจน  

 

 

การแสดงส่วนใหญ่เป็นการกระโดดและหมุนไปมา ใช้ประโยชน์จากกระโปรงยาวได้อย่างเต็มที่และงดงาม  

 

 

ทุกคนดูเพลินราวกับถูกดึงดูดเข้าไป มองไปยังเวทีอย่างตกตะลึง  

 

 

การแสดงของหลินเช่อนั้นโดดเด่น เพราะอย่างไรเธอก็เป็นนักแสดง เธอรู้ว่าเธอต้องแสดงอย่างไร แม้ว่าการเต้นรำของเธอจะไม่ได้เก่งกาจ แต่ว่า ด้วยเพราะการแสดงจากความฉลาดหลักแหลมของเธอ ก็สามารถคว้าใจทุกคนได้อยู่หมัด  

 

 

หลินเช่อรู้ดีว่า ถ้าจะเปรียบความเป็นมืออาชีพ เธอสู้ลู่ชูเซี่ยไม่ได้ ดังนั้น เธอจะใช้สิ่งที่เธอถนัดเพื่อดึงดูดสายตาของทุกคน ใช้การแสดงที่ยอดเยี่ยม คว้าใจทุกคนเอาไว้  

 

 

ดังนั้นวันนั้น เธอจึงรีบเข้าไปหาครูสอนบัลเล่ต์ ทั้งคู่ใช้เวลาไม่กี่นาทีสุดท้าย ออกแบบการแสดงออกมา  

 

 

ครูสอนบัลเล่ต์เองก็ตกใจ เธอคาดไม่ถึงว่าหลินเช่อจะมีความสามารถแบบนี้ หลินเช่อสามารถทำให้ทุกคนชื่นชมได้อย่างต่อเนื่อง  

 

 

โดยทั่วไปแล้วทุกคนเคยเห็นเพียงการแสดงที่งดงามอ่อนหวาน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่หลินเช่อมาในบทตัวร้าย  

 

 

การแสดงจบลง เธอยืนอยู่ตรงนั้น ชายกระโปรงยาวลากไปด้านหลัง เผยให้เห็นสองขาเรียวยาว ยืนโดดเด่นอยู่ตรงนั้น  

 

 

ทั่วทั้งสนามเงียบลง ไม่มีเสียงแม้เพียงเล็กน้อย มีเพียงเสียงหอบหายใจจากความเหนื่อยของเธอ  

 

 

จนในที่สุด เสียงปรบมือพลันดังขึ้นมาอย่างล้นหลาม  

 

 

หลินเช่อชนะขาดแล้ว  

 

 

——  

 

 

ลู่ชูเซี่ยดูอยู่ด้านหลัง ยังไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้า พลันมองเห็นด้านนอกกำลังคึกคัก  

 

 

ลู่ชูเซี่ยยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าราวกับสีขี้ผึ้ง  

 

 

เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร  

 

 

หลินเช่อเหรอ  

 

 

หลินเช่อเอาชนะเธอได้งั้นเหรอ  

 

 

ถึงอย่างไรเธอก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่า จะไม่เชื่อก็คงไม่ได้  

 

 

หลินเช่อชนะเธอแล้วจริงๆ …  

 

 

ลู่ชูเซี่ยนั่งลงช้าๆ  

 

 

เธอไม่อยากเชื่อจริงๆ แต่ว่า หลินเช่อไม่ได้ทำในแบบที่เธอคิด เธอใช้วิธีที่แปลกออกไป เพื่อมาเอาชนะเธอ  

 

 

——  

 

 

งานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูยังไม่จบ  

 

 

ทุกคนต่างพูดคุยถึงงานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูในครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแล้ว  

 

 

หญิงสาวเหล่านี้ตอนที่มาพวกเธอยังมีความหวังว่าจะชนะอยู่บ้าง อยากลองทำให้ดีสักครั้ง ใครๆ ต่างก็อยากได้ตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่งกันทั้งนั้น ทุกคนต่างก็อยากชนะ แต่ว่า เมื่อมาถึงและได้เห็นการแสดงของลู่ชูเซี่ยและการแสดงที่ยอดเยี่ยมของหลินเช่อแล้ว จึงยอมแพ้ไปเอง  

 

 

ทุกคนต่างรู้ดีว่า หลินเช่อเป็นตัวแทนของตระกูลกู้ ลู่ชูเซี่ยนั้นเป็นตัวแทนของตระกูลลู่ ทั้งสองฝ่ายกำลังแย่งชิงชัยชนะกัน แน่นอนว่าคนอื่นคงไม่มีความสามารถจะไปสู้กับพวกเธอได้  

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น หลินเช่อและลู่ชูเซี่ยต่างก็ทั้งเก่ง ทั้งสวย สามารถดึงความสนใจจากผู้คนได้เป็นอย่างดี  

 

 

ดังนั้นเมื่อการแข่งขันจบลง พวกเขาต่างพากันพูดถึงหลินเช่อและลู่ชูเซี่ย  

 

 

เริ่มแรก ทุกคนต่างคิดว่าหลินเช่อนั้นประหลาด มองเธอในแง่ลบ คิดว่าเธอไม่มีทางเอาชนะลู่ชูเซี่ยได้ ไม่คิดว่า ในรอบสุดท้ายหลินเช่อจะแสดงบัลเล่ต์ผสมผสานกับการแสดงละครได้ดีขนาดนั้นจนเอาคืนได้สำเร็จ ล้มตำแหน่งลู่ชูเซี่ยที่ทุกคนต่างชื่นชมได้อย่างเป็นเอกฉันท์  

 

 

สมแล้วกับที่เธอคว้าตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่งไปได้  

 

 

——  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อสั่งคนเก็บของทันที  

 

 

หลังจากงานเลี้ยงในคืนสุดท้ายนี้ พวกเขาก็ต้องกลับออกไปจากเกาะเล็กๆ นี่แล้ว  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อยังคงนั่งทำงานต่อในห้องพัก หลินเช่อเริ่มเบื่อจึงเดินออกด้านนอก เพื่อโทรหาอวี๋หมินหมิ่น  

 

 

อวี๋หมินหมิ่นบอก “ยินดีกับเธอด้วยนะ ฉันได้ข่าวแล้ว ว่าเธอคว้าชัยชนะในครั้งนี้ได้สำเร็จ”  

 

 

“ก็ดี นี่ถือว่าเป็นผลจากความพยายามของทุกคน” หลินเช่อบอก “แต่ทำไมเธอรู้ทุกอย่างเลยล่ะ”  

 

 

“ได้ยินสาวใช้พูดน่ะสิ พวกเขาบอกว่าเธอเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี สามารถเอาชนะลู่ชูเซี่ยได้ เธอไม่ได้ยินที่พวกเขาชื่นชมเธอ… ชมจนไม่เหมือนเธอแล้ว บอกว่าเธอสวยมาก ถึงขั้นทำให้ผู้ชายต่างพากันหลงใหล ไม่รู้ตอนนี้มีผู้ชายมากแค่ไหนที่อยากทำความรู้จักกับเธอ”  

 

 

“คงไม่ใช่หรอก…”  

 

 

“จริงๆ นะ สตรีหมายเลขหนึ่งในสังคมแบบนี้ก็เปรียบเสมือนดารา ดอกไม้ทางสังคมมีที่มายังไง เพราะในวงการธุรกิจเดิมก็เคร่งเครียดกันอยู่แล้ว แต่ได้ผู้หญิงเข้าเป็นน้ำมันช่วยให้การทำธุรกิจมันง่ายยิ่งขึ้น เอาล่ะ เธอรีบกลับมาเถอะ หนังของเธอใกล้จะเข้าฉายแล้ว รีบกลับมาจะได้เริ่มโปรโมทหนัง”  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+