เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก 84 ฉันหวังว่านี่จะเป็นความทรงจำที่ดีนะ

Now you are reading เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก Chapter 84 ฉันหวังว่านี่จะเป็นความทรงจำที่ดีนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลินเช่ออยากจะเตะเขาออกไป “กู้จิ้งเจ๋อ อย่าให้ฉันต้องใช้กำลังบังคับนะ ออกไปเดี๋ยวนี้!”

 

 

“ทำไมล่ะ หลินเช่อ เธอโกรธเหรอ” เขาจับมือเธอไว้ขณะที่มองหน้าเธอ “เธอโกรธนี่นา”

 

 

หลินเช่อหันหนี “ฉันไม่ได้โกรธ”

 

 

“ถ้าอย่างงั้นทำไมไม่ยอมมองหน้าฉัน”

 

 

“แล้วทำไมฉันจะต้องมองหน้าคุณด้วยล่ะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะ “งั้นก็แสดงว่าเธอหึงล่ะสิ”

 

 

หลินเช่อหูร้อนทันที เธอปัดมือเขาออก “ฉันต้องบ้าแน่ถ้าจะหึงคุณน่ะ! คุณนี่เป็นโรคจิตหรือไงนะ การแต่งงานของเราเป็นแค่เรื่องจอมปลอมนะคะ ไม่ใช่ว่าเราเป็นสามีภรรยากันจริงๆ เสียหน่อย!”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อทิ้งตัวลงบนเตียงก่อนจะหันมามองหลินเช่อและถามว่า “นี่เธอไม่หึงจริงๆ เหรอ”

 

 

หลินเช่อพ่นลมพรืด “ก็ไม่น่ะสิคะ!”

 

 

เธอลุกขึ้นแล้วมองอีกฝ่าย “ฉันก็แค่ทำเป็นว่าหึงเท่านั้นแหละ ฉันรู้ค่ะว่าฉันแสดงเก่ง แต่อย่าคิดไปว่ามันเป็นเรื่องจริงสิคะ! ฉันเป็นนักแสดงมืออาชีพนะ แน่นอนว่าฉันจะต้องรับบทเป็นภรรยาแสนดีให้ออกมาดีที่สุดสิคะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่เขาอดที่จะรู้สึกผิดหวังขึ้นมานิดๆ ไม่ได้

 

 

“เข้าใจล่ะ” เขาผุดลุกขึ้นมาและพูดว่า “ฉันคิดว่าเธอหึงและตั้งใจที่จะหลบหน้าฉันเสียอีก”

 

 

“ฮ่า คุณจะหลงตัวเองมากไปแล้วนะคะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อถาม “แล้วการเป็นคนหลงตัวเองมันไม่ดีหรอกเหรอ”

 

 

“ก็ต้องไม่ดีสิคะ” หลินเช่อลุกขึ้นมานั่งบ้าง ทั้งสองคนนั่งเคียงกันอยู่บนเตียงนอน

 

 

เตียงนั้นกว้างใหญ่เสียจนยังมีที่ว่างอีกมากมายแม้พวกเขาจะนั่งอยู่ด้วยกัน

 

 

กู้จิ้งเจ๋อมองดูเธอ “การเป็นคนหลงตัวเองแปลว่าเรารักตัวเอง ถ้าเธอไม่รักแม้แต่ตัวเอง แล้วเธอจะคาดหวังให้คนอื่นมารักเธอได้ยังไงกันล่ะ”

 

 

“เหอะ เหลวไหลน่า” หลินเช่อร้อง “นายใหญ่ตระกูลกู้น่ะมีคนมาคอยรักตั้งมากมายก่ายกองไป เขาไม่จำเป็นต้องมารักตัวเองหรอกค่ะ”

 

 

“ฉันมีคนมาคอยรักมากมายก่ายกองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” กู้จิ้งเจ๋อถาม

 

 

หลินเช่อตอบ “ก็คุณหนูโม่หรืออะไรนั่นไงล่ะ ฉันเชื่อว่าต้องมีมากกว่าเธอแน่”

 

 

การพูดถึงโม่ฮุ่ยหลิงทำให้กู้จิ้งเจ๋อนึกถึงเหตุการณ์อันซับซ้อนวุ่นวายที่เพิ่งเกิดขึ้น เขาเริ่มรู้สึกยุ่งยากใจขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

แผนการเดิมนั้นเรียบง่ายมาก เขาและหลินเช่อตกลงที่จะแต่งงานกันโดยไม่เข้าไปข้องแวะกับชีวิตของอีกฝ่าย และรักษาความสัมพันธ์อันดีไว้จนกระทั่งหย่าขาดจากกัน

 

 

แต่ถึงอย่างนั้นสถานการณ์ก็ดูเหมือนจะเลยเถิดไปกว่าเดิมมาก

 

 

กู้จิ้งเจ๋อพูดขึ้นว่า “ความสัมพันธ์ของฉันกับฮุ่ยหลิงไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดหรอก”

 

 

“ฉันคิดว่าอะไรละคะ” หลินเช่อเอียงคอถาม

 

 

ชายหนุ่มพูดต่อไปว่า “ฮุ่ยหลิงกับฉัน เรารู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก เรารู้จักกันมาเกือบสามสิบปีแล้ว แต่เราก็ไม่เคยเกินเลยเป็นอย่างอื่น ฉันขอสัญญากับเธอว่าตราบใดที่ฉันยังแต่งงานกับเธออยู่ ฉันจะไม่ล้ำเส้นนั้นกับฮุ่ยหลิง ฉันจะปฏิบัติต่อเขาเหมือนเพื่อนและเหมือนน้องสาวเท่านั้น”

 

 

หลินเช่อรีบบอก “ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกค่ะ คุณไม่จำเป็นต้องสัญญาอะไรกับฉันทั้งนั้น จริงๆ นะ ฉันไม่โกรธเลย ถึงยังไงคุณกับเธอก็รักกันมาตั้งแต่ต้น”

 

 

แต่ถึงอย่างนั้นหลินเช่อก็อดซาบซึ้งใจไม่ได้ที่เขาอุตส่าห์อยากจะให้สัญญา

 

 

แม้ว่ามันจะเป็นคำสัญญาที่ไม่ได้มีความหมายอะไรก็ตาม แต่นั่นหมายความว่าเขายังคงให้เกียรติเธอและใส่ใจกับความรู้สึกของเธออยู่

 

 

หลินเช่อหันไปมองเขา “คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเพื่อฉันหรอกค่ะ เราตกลงกันไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของกันและกันนี่คะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหันไปหาเธอ “เราตกลงกันไว้แบบนั้นในตอนแรกก็จริง แต่ถึงยังไงตอนนี้เราก็แต่งงานกันแล้ว ฉันไม่คิดว่ามันจะยุติธรรมกับเธอ เธออายุแค่ยี่สิบสามเท่านั้น แล้วนี่ยังเป็นการแต่งงานครั้งแรกของเธอด้วย เธอไม่ควรต้องมาอยู่กับเรื่องปวดหัวแบบนี้ ฉันอาจจะไม่สามารถให้ชีวิตแต่งงานที่สมบูรณ์กับเธอได้ แต่อย่างน้อยฉันก็จะไม่หักหลังเธอในเรื่องอื่น อย่างน้อยก็เพื่อให้ความทรงจำเหล่านี้ไม่ได้เลวร้ายมากนัก”

 

 

หลินเช่อเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา หญิงสาวหัวเราะอย่างไม่สบายใจนัก “ไม่หรอกค่ะ เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะฉันเอง แต่ถึงยังไงฉันก็ต้องขอบคุณคุณมากนะคะ แล้วอย่างนี้คุณหนูโม่จะไม่โกรธแย่เหรอคะ”

 

 

“ตั้งแต่ที่ฉันเลือกจะแต่งงานกับเธอ เขาก็โกรธมาก ฉันรู้ว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาเหมือนกันแต่เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการแต่งงานเท่านั้นนี่นา”

 

 

หลินเช่อพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณไม่บอกเธอไปละคะ ว่าครอบครัวของคุณข่มขู่คุณว่าจะเล่นงานเธอ แล้วคุณก็ถูกบังคับให้แต่งงานกับฉันเพื่อปกป้องเธอน่ะ”

 

 

“ช่างมันเถอะ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะบอกกับเขาแบบนั้น ฉันบอกเขามาตั้งแต่ต้นแล้วว่าเขาสามารถทิ้งฉันไปและเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ ฉันยอมรับเรื่องนี้ได้เพราะมันก็เป็นความผิดของฉันเองทั้งหมดด้วย ถ้าฉันบอกเขาเรื่องนี้ มันก็จะยิ่งทำให้ฮุ่ยหลิงทำใจลำบากที่จะเลิกกับฉันเข้าไปอีก ฉันอยากให้เขาเป็นฝ่ายไปและได้มีชีวิตเป็นของตัวเองมากกว่า”

 

 

หลินเช่อยิ่งนึกตำหนิตัวเองหนักกว่าเดิม “ฉันขอโทษค่ะ เป็นความผิดของฉันเองทั้งหมดเลย”

 

 

“ในตอนแรกฉันก็อยากจะโทษเธอและเกลียดเธอ แต่เมื่อลองมาคิดดูดีๆ แล้ว ฉันก็ได้รู้ว่าเราสองคนต่างก็ตกกระไดพลอยโจนกับการแต่งงานครั้งนี้เหมือนๆ กัน เราต่างก็ถูกบังคับด้วยกันทั้งคู่ ไม่มีอะไรที่จะต้องตำหนิเธอ” กู้จิ้งเจ๋อพูดต่อไปว่า “เธออายุยังน้อย เธอควรจะได้มีความรักกับผู้ชายคนอื่น แต่เพราะการแต่งงานของเรา เธอเลยต้องหมดโอกาสกับเรื่องทั้งหมดที่ว่านั่น เพราะฉะนั้นเธอไม่ต้องขอโทษฉันหรอก นี่ไม่ได้เป็นความผิดของเธอ ฉันคิดว่าคงเป็นเพราะความพลิกผันของโชคชะตานั่นแหละ ที่พาเรามาอยู่ตรงนี้ได้”

 

 

หลินเช่อก้มหน้า หาวหวอด เธอนั่งกอดเข่าและเริ่มรู้สึกง่วงงุน

 

 

กู้จิ้งเจ๋อพูด “เพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรที่เธอต้องการ ขอให้บอกฉัน ฉันยินดีที่จะเติมเต็มทุกอย่างที่เธอร้องขอมา”

 

 

“โอย จริงๆ นะคะ คุณไม่จำเป็นต้องมาชดเชยอะไรให้ฉันหรอกค่ะ ตอนนี้ฉันก็ได้มามากแล้ว ฉันคงไม่อาจขอชีวิตสมบูรณ์แบบที่ฉันมีทุกอย่างที่ต้องการหรอกค่ะ ฉันมีที่ให้นอน มีคนมากมายคอยดูแล มีเวลาที่จะมุ่งมั่นกับงานของตัวเอง แค่นี้ฉันก็พอใจมากแล้ว” หญิงสาวทอดตัวลงบนเตียงและยกผ้าห่มคลุมกายพลางพูดเสียงแผ่วเบาว่า “คุณต้องอธิบายกับโม่ฮุ่ยหลิงให้เข้าใจนะคะ ถึงยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง ผู้หญิงเราก็แค่อยากมีคนพะเน้าพะนอเอาใจ ทั้งหมดที่คุณพูดกับฉันน่ะขอให้ทิ้งเอาไว้อย่างนั้น ถ้าขืนคุณพูดกับเธอโดยมีคำว่า ‘แต่งงาน’ หลุดออกมาจากปากบ่อยๆ แบบนี้ละก็ คุณต้องตายแน่”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อว่า “เวลาที่คนสองคนคบกัน พวกเขาก็ควรจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมาไม่ใช่เหรอ”

 

 

“อ้อ ไม่ต้องแปลกใจเลยค่ะ ถึงคุณจะทั้งหล่อทั้งรวย แต่คุณก็มีเพียงแค่คุณหนูโม่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ทิ้งคุณไปไหน คนอย่างคุณไม่มีปัญญาหาภรรยาได้แน่ คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเอาใจผู้หญิงยังไง เวลาที่ผู้หญิงบอกว่าไม่ คุณอย่าได้เชื่อเป็นอันขาด เวลาที่ผู้หญิงบอกว่าเธอไม่ได้โกรธคุณ เธอกำลังโกหกค่ะ เวลาที่ผู้หญิงบอกว่าอย่าซื้อเลยเพราะมันราคาแพงเกินไป ก็แปลว่าเธอจะต้องฆ่าคุณแน่ถ้าคุณไม่ยอมซื้อให้น่ะ!”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อพึมพำ “ในชั้นเรียนจิตวิทยาของฉันก็เคยพูดถึงเรื่องนี้บ้างเหมือนกัน”

 

 

“ฮ่าๆๆ จะใช้จิตวิทยากับผู้หญิงน่ะเหรอคะ ถ้าการวิจัยเชิงจิตวิทยาสามารถเข้าใจผู้หญิงได้โดยสมบูรณ์ละก็ แสดงว่ามันไม่ใช่งานวิจัยเกี่ยวกับผู้หญิงแล้วละค่ะ ถ้าคุณใช้ทฤษฎีจิตวิทยาเพื่อเอาใจผู้หญิงแล้วละก็ คุณต้องอยู่คนเดียวห่อเ**่ยวตลอดไปแน่นอน”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้วเมื่อถามว่า “มันซับซ้อนขนาดนั้นเลยรึ ว่าแต่แล้วทำไมผู้หญิงถึงชอบให้เอาใจนักล่ะ”

 

 

เมื่อเขาหันไปหาหลินเช่อ เธอก็นอนหลับตาไปเสียแล้ว ลมหายใจของเธอเข้าออกอย่างช้าๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมอ

 

 

ช่างไร้หัวใจซะจริงเชียว

 

 

เมื่อได้เฝ้ามองใบหน้ายามหลับ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปปัดเส้นผมบนหน้าผากของเธอให้อย่างอ่อนโยน เขายกผ้าห่มขึ้น พลิกตัวด้านข้าง แล้วนอนลงข้างเธอ นอนตะแคงดูใบหน้าใสกระจ่างที่หลับอยู่ใกล้ๆ เขารู้สึกได้ถึงความสงบสงัดโดยรอบ หัวใจเขาของเขาเป็นสุขเมื่อได้นอนอยู่ตรงนี้ ชายหนุ่มหลับตา ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนไหลเข้าสู่ห้วงนิทรา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด