เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 155 เจ้าเป็นใคร? + 156 เปิดโปงตัวตน!

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 155 เจ้าเป็นใคร? + 156 เปิดโปงตัวตน! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 155 เจ้าเป็นใคร?

“ท่านผู้เฒ่ากลับมาแล้วรึ? อยู่ที่ไหนล่ะ?”

ได้ยินน้ำเสียง ท่านเจ้าแคว้นจึงมองไปตามทิศทางเสียง เมื่อเห็น ใบหน้าก็เผยความแปลกใจ แค่ไม่กี่วัน นึกไม่ถึงว่าเฟิ่งเซียวจะอ่อนแอลงเช่นนี้เลยรึ? แม้แต่เดินยังไม่ไหว ซ้ำต้องให้คนประคองอีก?

“ท่านผู้นำตระกูล นั่งลงตรงนี้ก่อนเถิด ท่านผู้เฒ่ามาถึงประตูแล้ว เดี๋ยวก็เข้ามา” บุรุษสวมชุดขาวในมือถือพัดพับเอ่ยอย่างอ่อนโยน หลังจากประคองเขานั่งลง สายตาก็มองไปที่ลานด้านนอก

เจ้าแคว้นมู่หรงป๋อมองเหล่าชายหนุ่มผู้โดดเด่นข้างกายเฟิ่งเซียว ในดวงตาอันแหลมคมฉายแววครุ่นคิด หลังจากพินิจมองพวกเขาแวบหนึ่งอย่างไร้ร่องรอย ก็เบนสายตาออกไป

เมื่อซูรั่วอวิ๋นเห็นองครักษ์พวกนั้นที่เฝ้าอยู่ข้างกายเฟิ่งเซียว ก็กัดฟันกรอด เจ้าพวกนี้ไม่เพียงไม่เห็นนางในสายตา ยังถือวิสาสะพาเฟิ่งเซียวเข้ามาอีก สมควรตายจริงๆ! เดิมนางเพียงคิดจะให้เฟิ่งเซียวออกมาเดี๋ยวเดียวก็กลับไป เพื่อเลี่ยงให้คนมองออกถึงความระแคะระคาย ทว่าตอนนี้…

ในเวลานี้เอง เฟิ่งจิ่วประคองท่านผู้เฒ่าเดินเข้ามา ด้านหลังมีคนกลุ่มหนึ่งตามมา

เมื่อเห็นเฟิ่งจิ่วข้างกายท่านผู้เฒ่า ซูรั่วอวิ๋นก็สูดหายใจเข้า “ทำไมถึงเป็นเจ้า! เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้เช่นไร?”

ผู้หญิงคนนี้! นางไม่เคยลืมพิษสงที่ทำให้นางต้องอับอาย! ผู้หญิงคนนี้ ที่มาลึกลับแปกลประหลาด ตอนนี้ ยังกล้ามาปรากฏตัวในจวนตระกูลเฟิ่ง มาโผล่อยู่เบื้องหน้า คิดว่าซูรั่วอวิ๋นจะไม่ทำอะไรนางเลยจริงๆ รึ?

“เรียกคนเข้ามา! จับตัวนางให้ข้าเสีย!” นางแผดเสียงลั่น ต้องการให้องครักษ์มาจับตัวเฟิ่งจิ่วที่ด้านในนี้

ทว่าทุกคนไม่มีใครทำ เพราะไม่กล้าพอ ต่อให้เป็นคนโง่ก็ยังเห็นว่าแม่นางที่ผูกผ้าคลุมหน้านั้นกำลังประคองท่านผู้เฒ่าของพวกเขาอยู่! ให้เข้าไปจับตัวรึ? พวกเขาไม่คิดสั้นถึงเพียงนั้นหรอก

เฟิ่งจิ่วไม่พูดไม่จา แค่มองนางด้วยสายตาแฝงรอยยิ้มจางๆ

ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งเห็น จึงส่งเสียงหึหนักๆ พูดตะคอกว่า “องครักษ์อยู่ไหน!”

ชายหนุ่มแปดนายที่ยืนอยู่ข้างกายเฟิ่งเซียวราวกับคุณชายผู้สูงศักดิ์ก้าวออกหน้ามาพร้อมกันโดยไม่นัดหมาย ฝีเท้ามั่นคงท่าทางขึงขัง พวกเขาเข้าแถวเรียงหนึ่ง ประสานมือทำความเคารพด้วยท่าทางเหมือนๆ กัน น้ำเสียงกังวานทรงพลังที่มีกลิ่นอายพลังเร้นลับคละคลุ้งแฝงอยู่ดังออกมาอย่างเคารพยำเกรง

“ข้าน้อยขอคารวะท่านผู้เท่าขอรับ!”

ประโยคสั้นๆ ไม่กี่คำกลับทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างตกอกตกใจ หลังจากทั้งแปดคนทำความเคารพ ก็ยืนท่าตรงเรียบร้อย ท่าทีเอ้อระเหยไร้วินัยที่เดิมทีเคยปรากฏอยู่บนร่างพวกเขาล้วนไม่เห็นแม้แต่น้อยในช่วงเวลานี้

ใบหน้าเคร่งขรึมมีไอสังหารที่รุนแรงน่าสะพรึง ท่วงท่าบนร่างแข็งแกร่งดุร้าย ราวกับนักรบกล้าตายที่เดินออกมาจากสนามรบ ย่างก้าวเป็นแบบแผนเดียวกัน รวมถึงท่าทีแข็งแรงมีพลัง ล้วนทำให้เบื้องหน้าสว่างวาบ และน่าตกตะลึงใจ

นี่คือองครักษ์ตระกูลเฟิ่ง! เป็นกองอาจารย์ผู้เก่งกาจที่ทำให้กองทัพแคว้นข้างเคียงต่างขวัญหนีดีฝ่อ! กองทัพนั้น ที่ทุกคนล้วนเป็นชายแกร่งใจกล้า และยังเป็นเด็กหนุ่มที่โดดเด่นเช่นนี้!

“จับตัวนางให้ข้า!”

นิ้วมือท่านผู้เฒ่าชี้ไปยังซูรั่วอวิ๋นที่สีหน้าขาวซีด หากแววตาที่เฉียบคมและคับแค้นใจสามารถฆ่าคนได้ นางคงตายไปไม่ต่ำกว่าร้อยรอบแล้ว

“ท่านพ่อ!”

ซูรั่วอวิ๋นดึงสติกลับมาในขณะที่ตกใจ ปฏิกิริยาแรกคือมองหาที่พักพิงอย่างเฟิ่งเซียว เพราะกับท่านผู้เฒ่า มีเพียงเฟิ่งเซียวที่ปกป้องนางได้

แต่นางถูกลิขิตให้ต้องผิดหวัง

เพราะเวลานี้เฟิ่งเซียวกำลังมองสาวน้อยผู้สง่างามที่สวมชุดกระโปรงสีขาว ผูกผ้าคลุมหน้า และประคองท่านผู้เฒ่าอยู่ด้วยความตะลึง ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัว ก่อนจะปริปากอย่างสั่นเครือ

“เจ้า เจ้าเป็นใครกัน?”

………………………………

ตอนที่ 156 เปิดโปงตัวตน!

หลังทั้งแปดคนตอบรับเสียงเข้ม สองคนในนั้นก็สาวก้าวออกหน้า จับพลิกแขนซูรั่วอวิ๋นไว้ด้านหลัง แล้วคุมตัวนางมาตรงหน้าท่านผู้เฒ่า

คราแรกทุกคนต่างตะลึงกับท่านผู้เฒ่าที่สั่งองครักษ์จับตัวหลานสาว จากนั้นค่อยมาฉงนกับการโต้ตอบของเฟิ่งเซียวเวลานี้ ดังนั้น พวกเขาจึงใช้สายตาสำรวจจับจ้องบนร่างสาวน้อยชุดขาวผู้นั้น และคาดเดาถึงตัวตนนาง

มู่หรงอี้เซวียนเห็นเฟิ่งชิงเกอที่ถูกจับพลิกแขนคุมตัวมาเบื้องหน้าท่านผู้เฒ่า ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ คิดจะปริปาก กลับได้ยินคำพูดนั้นที่เฟิ่งเซียวถามออกมา เช่นนั้น จึงทิ้งสายตาไว้บนร่างสาวน้อยชุดขาว

เขาก็อยากรู้ ว่านางเป็นใครกันแน่?

เฟิ่งจิ่วมองเฟิ่งเซียวที่ท่าทางตื่นเต้นใจและรอบตาแดงน้อยๆ เธอถอนใจเบาๆ ในใจ เอ่ยว่า “ท่านเดาออกแล้ว ไม่ใช่รึเจ้าคะ?”

เขาไม่ใช่คนโง่เง่า ช่วงนี้จวนตระกูลเฟิ่งเกิดเรื่องมากมายเพียงนี้ อีกทั้งตอนนี้ท่านผู้เฒ่าก็กลับมา ซ้ำยังมีนางโผล่มาด้วย หากตอนนี้ยังไม่ตอบโต้อะไร  เขาก็ไม่ใช่ท่านแม่ทัพใหญ่เฟิ่งผู้มีชื่อเสียงเกรียงไกรแล้ว

“เจ้าคือชิงเกอลูกสาวข้า!”

น้ำเสียงเขาสะอึกสะอื้น ยื่นมือไปกุมมือเฟิ่งจิ่วไว้ “ขอโทษ ขอโทษ พ่อไม่รู้เลยว่าคนข้างกายเป็นตัวปลอม…” นึกถึงคำพูดที่ท่านผู้เฒ่าบอกในวันนั้น ความโมโหโกรธาในตอนนั้น และยังใบหน้านางที่ผูกผ้าคลุมหน้าไว้ตอนนี้ หัวใจก็บีบรัดเจ็บปวดชั่วขณะ จึงร้องไห้โฮลั่นขึ้นมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่

“ขอโทษ… พ่อไม่ดี พ่อไม่ดีเอง…”

ท่านแม่ทัพใหญ่ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วสารทิศ นึกไม่ถึงว่าจะร้องไห้ราวกับเด็กน้อย ท่าทีหลั่งน้ำตาราวฝนพรำทำให้คนมองทั้งตะลึงและสะเทือนใจ

เมื่อครู่เขาว่าอะไรนะ? สาวน้อยที่ผูกผ้าคลุมหน้าเป็นชิงเกอลูกสาวเขารึ? งั้นคนที่ถูกจับกุมตัวไว้เป็นผู้ใดเล่า?

“ท่านลุงเซียว ท่านบอกว่านางเป็นใครนะขอรับ?”

น้ำเสียงมู่หรงอี้เซวียนมีความสั่นเครือที่ไม่อาจกลั้นไว้ เขามองสาวน้อยชุดขาวที่ผูกผ้าคลุมหน้าด้วยความตื่นตกใจ ยากจะเชื่ออยู่บ้าง ซ้ำยังมีความตื่นเต้นและปลื้มปิติ หัวใจพลันเต้นตึกตัก ความรู้สึกเช่นนั้น ไม่อาจเอ่ยออกมาได้

“ฮือๆ… ลูกสาวข้า… ลูกข้า…”

เฟิ่งเซียวร้องไห้คร่ำครวญด้วยความรู้สึกผิดที่บีบรัดหัวใจ แต่เพราะร่างกายอ่อนแอ รับเรื่องเช่นนี้ไม่ไหว จึงร้องห่มร้องไห้เสียจนเป็นลมไป

“พวกเจ้าสองคน พาท่านพ่อข้าส่งกลับห้องไป” เฟิ่งจิ่วมองไปยังองครักษ์สองสามนายที่มองด้วยดวงตาเบิกโพลงอยู่ข้างๆ ก่อนจะสั่งการเสียงเข้ม

“ขอรับ”

หลังจากขานเสียงรับตามสัญชาตญาณ จู่ๆ พวกเขาก็ผงะ มองหน้ากันแวบหนึ่ง รู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย แต่ยังคงเดินออกไปสองคน เพื่อส่งตัวเฟิ่งเซียวกลับไป

เวลานี้ เสียงแหบแห้งของท่านผู้เฒ่าเฟิ่งกลับดังขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์และมีกลิ่นอายพลังเร้นลับเคลือบแฝง “ต่อหน้าทุกท่านทั้งหลาย ณ ที่แห่งนี้ ข้าจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเสียหน่อย”

น้ำเสียงเขาชะงัก ชี้ที่ซูรั่วอวิ๋นพลางพูดว่า “นาง ไม่ใช่เฟิ่งชิงเกอหลานสาวข้ามาแต่ไหนแต่ไร! นางเป็นแค่เด็กสาวกำพร้าซูรั่วอวิ๋นที่หลานสาวข้าเก็บกลับมาจากข้างถนนตอนเด็กๆ! หลานสาวข้าปฏิบัติกับนางสนิทสนมราวพี่น้อง นางกลับวางแผนปลิดชีวิตหลานข้า สวมรอยตัวตน แย่งชิงทุกสิ่งอย่าง! และนี่ หลังถูกข้าจับได้ยังใช้ยาพิษทำร้ายข้า ผู้หญิงคนนี้ ชั่วร้ายเลวทราม แล้งน้ำใจไร้คุณธรรม!”

หลังฟังคำพูดนี้ ผู้คนต่างเอะอะอึกทึก พากันสูดลมหายใจ คิดว่าเรื่องนี้ช่างน่าเหลือเชื่อและน่าสะพรึงเหลือเกิน แม้แต่ตัวตนยังสวมรอย หากไม่มีใครรู้เห็น จวนตระกูลเฟิ่งที่ใหญ่โตนี้ สุดท้ายจะไม่ตกอยู่ในเงื้อมมือนางได้เช่นไร?

“ฮะๆๆๆๆ… ฮะๆๆๆๆ!”

การหัวเราะร่าอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนล้วนตกใจ ก่อนจะมองไปยังหญิงสาวท่าทางฟั่นเฟือนผู้นั้น

……………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด