เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] 25 ถูกต้อง! ถูกต้อง! ถูกต้องทั้งหมดเลย! (ตอนต้น)

Now you are reading เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] Chapter 25 ถูกต้อง! ถูกต้อง! ถูกต้องทั้งหมดเลย! (ตอนต้น) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 25 ถูกต้อง! ถูกต้อง! ถูกต้องทั้งหมดเลย! (ตอนต้น)

“ข้อที่ห้า!”

ลั่วกังจ้องมองซูเย่อย่างไม่วางตา “สำหรับผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการไข้หวัด ให้กันลมอย่างราชา เสริมด้วยชะเอมเทศและโกฐเขมา…”

“หัวใจนับได้ว่าเป็นหยาง ผงเครื่องเทศรสเผ็ดร้อน ปิดกั้นการรับรสและมีกลิ่นฉุน เป็นสมุนไพรสามัญสำหรับการรักษาลมในร่างกาย ดังนั้นการรักษาสมดุลลมในร่างกายจึงเป็นเอก การใช้ชะเอมเทศและโกฐเขมาเป็นเสริมให้สมบูรณ์”

ซูเย่ตอบ

“นั่นเป็นคำตอบที่ถูกต้อง “

อาจารย์หลี่เคอหมิงกล่าว “คำถามนี้มาจากหนังสือ “ต้นกำเนิดแพทยศาสตร์ฉบับจีนโบราณ”

ตอบถูกอีกแล้วเหรอเนี่ย?!

หลังจากที่ซูเย่ตอบคำถามได้ห้าข้อรวด ไม่มีผิดเพี้ยนหรือหวั่นไหวใด ๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นทางลั่วกังเสียเองมากกว่าที่ความมั่นใจในตอนแรกนั้นเริ่มถูกสั่นคลอนเสียแล้ว…

ลั่วกังจ้องมองซูเย่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยความกังขา

“หรือว่าเขาจะมีญาติผู้ใหญ่ที่คอยสอนเรื่องแพทย์แผนจีนให้ตั้งแต่เด็กเหมือนกัน?

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เขาอาจจะโดนโค่นเสียเองก็ได้..

เป็นไปไม่ได้

หากเป็นเช่นนั้นจริง ทำไมซูเย่ถึงไม่เรียนเป็นแพทย์แผนจีนไปเลยล่ะ ? ทำไมถึงเลือกที่จะไปเรียนคณะวิจัยสมุนไพรจีนที่ ไม่ได้ใช้ทักษะทางการแพทย์ได้อย่างเหมาะสมสักเท่าไหร่?

นั่นหมายความว่าซูเย่มีความรู้เพียงผิวเผินไงล่ะ!

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ลั่วกังเริ่มฟื้นคืนความมั่นใจได้อีกครั้ง หายใจเข้าลึก ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะเริ่มคำถามต่อไป

“คำถามข้อที่หก หากต้องการทราบถึงระดับความรุนแรงของโรค การคาดเดาความเรื้อรังของโรค จะต้องใช้วิถี….”

คำถามเริ่มยาวขึ้น เร็วขึ้น และยากขึ้น….

คำถามที่เจ็ด..คำถามที่แปด….คำถามที่เก้า…เขาถามคำถามติด ๆ กันโดยไม่ให้ซูเย่ได้พักหายใจ …แต่ถึงอย่างนั้น

ไม่มีสิ่งใดนอกจาก..

ถูกต้อง!

ถูกต้อง!

ถูกต้องทั้งหมด!

คำถามที่ยากขึ้น แต่ซูเย่ก็ยังคงตอบได้เรื่อย ๆ ไม่พลาดเลยสักครั้ง สีหน้าของลั่วกังเริ่มไม่สู้ดีนักพร้อมกับความมั่นใจที่ค่อย ๆ ถูกกัดกร่อนลงไป

เขาเตรียมคำถามพวกนี้มาอย่างดี ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กับใครด้วยซ้ำ หนังสือแต่ละเล่มที่เขาเลือกมานั้นก็ไม่ได้เป็นหนังสือที่เข้าใจได้ง่าย ๆ เขาเลยไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะตอบคำถามได้อย่างครบถ้วนเช่นนี้

กลุ่มเด็กใหม่ในห้องเรียนต่างเริ่มมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า

ไม่ใช่ว่าซูเย่ไม่มีทักษะเรื่องการแพทย์และเพิ่งเริ่มเรียนเรื่องแพทย์แผนจีนไปไม่นานมานี้เองไม่ใช่เหรอ

ทำไมเขาถึงได้เก่งขนาดนี้?

ในทางกลับกัน เหล่านักศึกษาคณะวิจัยสมุนไพรจีนในตอนนี้ ล้วนแล้วแต่ดวงตาเป็นประกายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นเหมือนกันรึเปล่าเนี่ย พวกเรา? นี่คือพลังแห่งความเพียรพยายามของพรรคพวกคณะวิจัยสมุนไพรของเราไงล่ะ!

ทุกคนต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าซูเย่นั้นยืนหนึ่งในด้านต่าง ๆ แต่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าซูเย่จะสามารถนำเกียรติและศักดิ์ศรีมาให้แก่คณะได้อย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้

จงรับไปซะพวกคณะแพทย์แผนจีน นี่แหละคือพลังของนักศึกษาอันดับหนึ่งของพวกเราไงล่ะ!

ซูชือและจินฟานอยากจะชูมือขึ้นฟ้าและประกาศกร้าวให้โลกรู้ถึงความมหัศจรรย์นี้อย่างสุดหัวใจ

“คำถามที่สิบ”

ลั่วกังหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะปาดเหงื่อที่ผุดออกมาตามหน้าผากของตน ก่อนจะเริ่มกล่าวถึงคำถาม

“ผู้คนขึ้นสู่ฟากฟ้า ลงสู่พื้นโลก หยางคอยเป็นส่วนเสริมบริบูรณ์ให้แก่อาทิตย์ หยินคอยเป็นส่วนเสริมบริบูรณ์ให้แก่จันทร์ สรวงสวรรค์และโลกมนุษย์นั้นราบเรียบและกว้างขวาง ดังนั้น ร่างกายของคนเราจึงได้มีสี่เวลา ห้าองค์ประกอบที่สวรรค์และโลกล้วนขยับเขยื้อนอย่างพร้อมเพรียง……ประโยคต่อไปก็คือ!!?”

หลังจากที่เขากล่าวจบ ก็จดจ้องไปยังซูเย่อย่างจริงจัง

นี่คือไพ่ไม้ตายของเขา เป็นคำถามที่มาจากส่วนที่ลึกที่สุดในด้านท้ายของหนังสือ นอกจากนี้มันยังมาจากหนังสือที่ยังไม่สามารถรวบรวมมาได้ครบ และหาได้ยากยิ่งอีกด้วย

หากซูเย่ยังสามารถตอบคำถามนี้ได้อีก ลั่วกังก็หมดหนทางแล้ว

ในฐานะแพทย์ ลั่วกังจงใจที่จะไม่เลือกหนังสือโบราณที่ไกลตัวเกินไปกว่าที่ตนเองรู้จัก

ทันทีที่คำถามนี้ปรากฏออกมา

อาจารย์หลี่เคอหมิงถึงกับหันไปมองลั่วกังด้วยความประหลาดใจ

คำถามข้อนี้นั้นเป็นคำถามที่น้อยคนนักจะรู้…

หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือที่ใคร ๆ สามารถเข้าถึงหรือหาอ่านได้ง่าย ๆ และมันยังเป็นหนังสือที่ผู้ที่ได้อ่านมักจะทำความเข้าใจกับมัน มากกว่าจดจำเนื้อหายภายในหนังสือทั้งหมด

เขาหันไปมองซูเย่ เฝ้ารอคำตอบจากอีกฝ่าย

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ต่างหันไปมองซูเย่กันหมด

นี่คือคำถามสุดท้ายจากลั่วกัง หลังจากที่จบคำถามนี้ ตำแหน่งการรุกรับก็จะถูกผันเปลี่ยน

ซูเย่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“จางเว่ยหงเคยกล่าวเอาไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงก็เหมือนกับสายฝน ความพิโรธโกธาก็เป็นดังสายลมที่ผันแปรเป็นเหมันต์ แต่ใด ๆ แล้ว โลกนี้ล้วนเป็นดั่งเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงด้วยกันทั้งสิ้น”

“มนุษย์เรานั้นมีแขนขาและอวัยวะภายในทั้งห้า การกำหนดลมหายใจและการหลับใหลให้มั่นคง ให้ปัจจัยเกิดการไหลเวียน ประพฤติอย่างมีอริยะ ปล่อยให้ลมปราณเกิดการเคลื่อนไหวไปตามร่าง ทำให้ร่างกายเกิดความสมบูรณ์”

เขาพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ

ทุกคนรีบหันไปมองที่อาจารย์หลี่เคอหมิงทันที

“เป็นคำตอบที่ถูกต้อง”

อาจารย์หลี่เคอหมิงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ขณะที่มองไปยังซูเย่ด้วยดวงตาที่ฉายแววชื่นชมอย่างเต็มอก “จากหนังสือ ’คัมภีร์รักษาโรคแห่งรัฐจงจาง’ “

คัมภีร์รักษาโรคแห่งรัฐจงจางนั้นเป็นงานเขียนทางการแพทย์ ซึ่งได้มีการกล่าวกันไว้ว่างานชิ้นนี้ได้รับการเขียนโดยบัณฑิตโบราณที่มีนามว่าฮัวตั๋ว

ถึงแม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงแพทย์แผนจีน แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากที่นักศึกษาผู้เพิ่งเริ่มเรียนจะเข้าใจหรือได้เข้าถึงหนังสือเล่มนี้

ถึงแม้ว่าในตอนแรกนั้นอาจารย์หลี่เคอหมิงจะประหลาดใจที่ลั่วกังเป็นผู้ถามคำถามนี้ออกมา

แต่เขากลับประหลาดใจยิ่งกว่าที่ซูเย่สามารถตอบได้ทุกตัวอักษรครบถ้วน

ดูเหมือนว่านักศึกษาทั้งสองคณะในปีนี้ ต่างมีทักษะและพื้นฐานที่ดีเยี่ยมทั้งคู่!

“สุดยอด!”

ซูชือและจินฟานถึงกับลุกขึ้นปรบมืออย่างยินดีพลางหันไปมองเหล่าเด็กใหม่จากต่างคณะด้วยสายตาเยาะเย้ย

เพื่อนร่วมคณะต่างปรบมือกันอย่างบ้าคลั่งด้วยความยินดี พวกเขาพร้อมใจกันเชียร์ซูเย่อย่างสุดหัวใจ

ในตอนนี้ ซูเย่ได้ตอบคำถามไปแล้วสิบคำถาม เขากลายเป็นแบบอย่างให้ผู้อื่นได้เห็นแล้วว่า แม้พวกเขาจะมาจากคณะวิจัยสมุนไพรจีน แต่ก็มีความสามารถทัดเทียมพวกแพทย์แผนจีนเช่นกัน

เหล่าเด็กใหม่ในห้องต่างทำหน้าเหยเกกันจนดูตลก โดยเฉพาะลั่วกังที่ใบหน้าของเขาตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจผสมปนเปเข้ากับอารมณ์ที่ขุ่นมัวยุ่งเหยิง

สิบคำถาม สิบเล่มหนังสือ แต่อีกฝ่ายกลับตอบคำถามได้ทั้งหมด

“แต่..นี่มันยังไม่จบหรอกนะ!! “

แต่ถึงอย่างนั้น แววตาของลั่วกังก็ยังคงหลงเหลือความมุ่งมั่นเอาไว้อยู่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะสู้และเดินหน้าต่อไป!

“อยากถามอะไร ก็ถามมาเลย”

ลั่วกังจ้องมองซูเย่ก่อนจะประกาศกร้าว

อาจารย์หลี่เคอหมิงผายมือเป็นเชิงสัญลักษณ์เพื่อส่งสัญญาณให้ซูเย่เป็นฝ่ายถาม

ซูชือ จินฟาน และคนอื่น ๆ รีบหยุดการปรบมือและตั้งใจรับฟัง ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่ซูเย่ เฝ้ารอฟังถึงคำถามจากชายหนุ่ม

ซูเย่ค้นหาหนังสือเล่มที่เขาคิดว่าเหมาะสมสำหรับผู้ที่กำลังสอน หรือผู้ที่กำลังเรียนแพทย์จากราชวังแห่งความทรงจำ ขณะที่กำลังจะเอ่ยถึงคำถามออกมา ฉับพลันก็หยุดความคิดนั้นเอาไว้ เขาหันไปทางอาจารย์หลี่เคอหมิง

“หนังสือ ’มนุษย์ตงเก๋า’ยังไม่สูญหายไปใช่ไหมครับ? “

“ยังอยู่ดี”

อาจารย์หลี่เคอหมิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนตอบกลับซูเย่พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

หนังสือเล่มนี้ไม่ได้สูญหายไปไหน แต่มันก็เป็นหนังสือที่ขาดตลาดและไม่มีการหมุนเวียนผลิตอีกแล้ว ซ้ำยังมีคนที่รู้จักหรือตามอ่านน้อยมาก ตัวเขาเองนั้นจดจำเนื้อหาของมันได้เพราะได้รับการสั่งสอนจากอาจารย์ระดับประเทศ…แต่เด็กคนนี้จะรู้ถึงเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้จริง ๆ น่ะหรือ?

“รับทราบครับ”

ซูเย่พยักหน้าเข้าใจก่อนจะหันกลับไปมองลั่วกังที่อยู่เบื้องหน้า

บอกเล่าความรู้: โกฐเขมา เหง้าแห้งค่อนข้างกลมหรือยาว หรือรูปทรงกระบอก หรืออาจมีแง่งยาวแยกออกไป ยาว 3-10 เซนติเมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-2 เซนติเมตร ผิวเป็นปุ่มปม ขรุขระ สีน้ำตาลอมเทา มีรอยย่นและรอยบิดตามขวาง เนื้อแน่น เมื่อฝานหัวออกใหม่ๆจะมีสีขาวมอที่ด้านใน ผิวสีเหลือง เนื้อในมีแต้มสีแสดของชันน้ำมันอยู่ประปรายทั่วไป มีกลิ่นหอมเฉพาะ รสหวานอมขมเล็กน้อย และเผ็ดร้อน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด